ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 30 มิถุนายน 2010.

  1. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096

    ขอบคุณครับ :cool:

    แต่แค่ Part 1 นะเนี๊ย "ยาวจรุงเบย"

    เอ.. จะแปลมาลงดีไหมหน่อ .. เอาเป็นว่าถ้าผู้แปลท่านใดกำลังแปลอยู่เพื่อมาลงที่นี่ ได้โปรดบอกผมหน่อยนะครับ ผมจะได้อ่านเฉยๆไม่ต้องแปล
    แต่ผมก็จะเริ่มแปลไปเลยละกัน ถ้าท่านใดแปลอยู่รบกวนช่วยบอกและผมจะหยุดแปลนะครับ จะได้ไม่ซ้ำกัน :cool:
     
  2. โปเย

    โปเย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,231
    ค่าพลัง:
    +964
    อาหารดิบ => สอุปาทิเสสนิพพาน
    อาหารสุก => อนุปาทิเสสนิพพาน


    กว่าจะสุกก็ปรุงสัก ๕,๐๐๐ ปี ระหว่าง
    นี้ก็อยู่แบบพระเจ้า (เหนือสังขาร)
    ไปพรางๆ ก่อน


    คิดว่าคงประมาณนั้น ...
     
  3. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842


    แถมบ้าง...เดี๋ยวหน้าจะน้อย... 555

    แต่ยุคนี้ต้องประหยัด เลยต้องใช้แผน "ทูอินวัน" เพื่อประหยัดพลังงาน

    ...ทั้งห้องมึนตึ้บ ทำหน้าไม่เข้าใจ ทำให้ข้าเข้าใจ ว่าทั้งห้องมึนตึ้บ 555...



    เป็นเอกสารจากยุคสงครามส่วนบุคคล ของนักรบแสง แห่งหมู่บ้านในนิทาน
    ลงไว้ที่หน้าแรกของกระทู้ แต่น่าเสียดาย ที่หลายท่านตาเหล่ มิอาจมองเห็นได้
    วันนี้ได้ฤกษ์ดีแล้วล่ะมั้ง นะ เผื่อให้ท่านอโศกด้วยนะ ขอบอก ตั้งใจหน่อย ไอ้น้อง 555


    [​IMG]



    [​IMG]


    นี่เป็นเรื่องเมื่อ ปี 39 ก็เป็นเวลา 17 มาแล้วสินะเนี่ย นานเหมือนกันเนอะ ว่าไม๊
    ยอดฝีมือน่ะ เค้าไม่เอาทฤษฎีมาโม้กันหรอกจ๊ะ

    เรื่องนิพพานนั้น เราเคยไล่กวดจนตามทันหรือเปล่าไม่รู้นะ แต่คงใกล้จนสุดขอบฟ้าเชียวล่ะ ขอบอก 555

    โชคดีที่เราไม่เคยสงสัยว่านิพพานคืออะไร เป็นอะไร ยังไง ไม่เคยคิดจะสนใจ เอาไว้เถียงกะใคร
    แต่เคยสงสัย ว่ามันดีจริงหรือ มันไม่มี ไม่เหลืออะไรเลย เป็นคนตายด้าน มันจะดียังไง ไม่เข้าใจ

    เคยเดินริมทะเลที่แหลมโพธิ์ ไชยา กับเจ้าหน้าที่ของธรรมทาน ที่ไปช่วยเค้าขายหนังสือ
    ไปกินเบียร์กันที่แหลมโพธิ์ จนร้านปิดไปสองร้าน หิ้วเบียร์เดินกินริมเล และคุยกัน ดึกมากแล้ว แต่เมามากกว่า หึหึ
    จำได้ว่า บนชายหาด เดินไปก็มีประกายแสงตามเท้า สวยจัง ขอบอก
    วิเคราะห์กันว่า คงเป็นฟอสฟอรัสหรือแคลเซี่ยม จากซากสัตว์น้ำ แต่ไม่เคยเห็นที่หาดไหนเลยนะ แปลกดี

    ไปฝึกหนักที่สวนโมกข์ รวมๆ สองปีกว่า แต่ออกมากินเหล้า สิบกว่าครั้งได้ 555 ไม่อายโว้ย


    นักรบแสง แห่งหมู่บ้านในนิทาน / กระต่ายป่าข้างวัด

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    เนื่องจากข้อความต่างมิติชุดนี้มีความยาวของเนื้อหา และเข้มข้นในรายละเอียดมาก ผมขอเก็บไว้ก่อนนะ แต่จะค่อยๆแปลไปเรื่อยๆ อีกซักสามสี่วันจะมาโพสที่แปลไปบางส่วนของข้อความนะครับ เพราะคำศัพท์ค่อนข้างยากเลยทีเดียว แถมเนื้อหาประวัติศาสตร์แบบต่างมิติเล่าให้ฟัง มึนเลยเรา
     
  5. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +680
    ความแปลกแยกโดดเดี่ยวคือมายาการที่เข้ามาสู่คุณ
    เพื่อให้คุณได้พบกับมิตรภาพและความรักที่คุณแสวงหา

    จงจำไว้ว่า บางสิ่งที่คุณเชื่อว่ามันจริง
    มันอาจจะไม่ได้เป็นดังนั้นจริงๆก็ได้

    ขอให้เธอทุกคนให้อภัยสรรพสิ่งอย่างเต็มที่และอย่างเป็นอิสระ
    ต่อทุกๆคนโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่พวกเขาได้พุดหรือได้ทำ
    _heart+love__heart+love__heart+love_
     
  6. siammovie

    siammovie สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    ได้อ่านข้อความในนี้แล้วทำให้ผมนึกอะไรได้หลายอย่างเลย ขอบคุณครับ
     
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772

    แปลไปเลยครับ ไม่น่าซ้ำกับใครหรอก
    เพราะว่าคนอื่นๆหนะก็คงกำลังแปลข้อความอื่นๆอยู่เหมือนกันหนะครับ
    เพราะว่าในยุคนี้ มันมีเรื่องราว หรือ ข้อความจากต่างมิติ
    ที่พูดถึงเรื่อง หรือ เกี่ยวเนื่องกับเรื่อง
    "กระบวนการเลื่อนระดับขึ้นของโลกทั้งโลก"
    (Planetary Ascension) อยู่มากมายก่ายกองไปหมดหนะครับ

    แค่ลำพังจะตามอ่านให้ทันยังไม่ไหวเลย
    แล้วจะมาพูดอะไรกับการมาแปลให้อ่านให้ทันหละครับ

    ...................
     
  8. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

    The History of Your Galaxy จาก Demystifying The New Age - Part 1

    ข้อความต่างมิติจาก Kryon โดย Lee CarrolL , 18 February, 2014


    (ผู้แปล : ขอหยิบมาแปลเฉพาะเรื่อง "ประวัติศาสตร์ของกาแล๊กซี่ของคุณ" ละกันนะครับ โดยจะแบ่งเป็นสองตอนนะครับ)

    The History of Your Galaxy "By Kryon" "ประวัติศาสตร์ของกาแล๊กซี่ของคุณ"
    ตอนที่ 1

    Once upon a time, a galaxy was created that was filled with the love of God. The creative source that created it had a benevolent system billions of years old and more than enough time to develop millions of planets of all kinds. The physics of this galaxy was biased for completion, balance and life. It was not a random physics as you have presumed, but rather one that had benevolent purpose.

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว, มีกาแล๊กซี่หนึ่งถูกสร้างขึ้น ซึ่งถูกเติมเข้าไปด้วยความรักของพระเจ้า. แหล่งกำเนิดของการสร้างสรรค์ที่สร้างมันขึ้นด้วยหลักแห่งความเมตตากรุณาซึ่งผ่านมานับหลายพันล้านปี, และพัฒนาการอีกหลายล้านปีของดาวเคราะห์ต่างๆ. รูปแบบทางกายภาพต่างๆของกาแล๊กซี่นี้, อยู่บนพื้นฐานของความสมบูรณ์, ความสมดุล และชีวิต. มันไม่ใช่กายภาพต่างๆที่สุ่มออกมาเหมือนที่คุณทึกทักไปเอง, แต่มันคือเป้าหมายที่เกิดจากความเมตตากรุณา.

    When the planets cooled and developed life, one planet at a time would have the choice to be seeded with spirituality. The Humans on each planet would have their DNA changed slightly, and a test lasting thousands of years would begin. The test would be to see if, in the process of living, they could discover the God inside - the benevolent creation system. If they did, they had permission to go intoascension status, where the physical actually melds into a multidimensional reality.

    เมื่อดาวเคราะห์ต่างๆเย็นลงและมีชีวิตขึ้นมา, ดาวเคราะห์แต่ละดวงจะถูกเลือกไปทีละดาวเคราะห์ในการถูกหว่านเมล๊ดพันธุ์ที่มีวิญญาณ. มนุษย์ต่างๆบนแต่ละดาวเคราะห์จะมี DNA ที่ต่างไปเพียงเล็กน้อย, และการทดสอบนั้นใช้เวลาหลายพันปีจึงจะเริ่มต้นขึ้น. ในแนวทางการใช้ชีวิต, พวกเขาจะพบว่าพระเจ้าอยู่ข้างในตัวพวกเขา - ซึ่งเกิดจากหลักการสร้างสรรค์ของความเมตตากรุณา. ถ้าพวกเขารู้สึกถึงพระเจ้าได้, ก็จะได้รับอนุญาตให้ได้มีสถานะในการเลื่อนระดับ, ที่ซึ่งกายภาพที่มีอยู่จะหลอมรวมเข้าสู่ความจริงที่เป็นมิติอันหลากหลาย.

    It takes many thousands of years to become an ascended planet. In the process, each civilization becomes very close to the creative source of all things. In the process, each are eventually asked to choose one other planet in the galaxy, far from theirs, and seed them with their sacred DNA. Are you following me? This is the system. With free choice, the Humans on the chosen planet are now intuitively seeded with the ability to carry a soul and become aware of dark and light - starting their puzzle of discovery, or not.

    มันใช้เวลาหลายพันปีในการเลื่อนระดับของดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง. ในขั้นตอนนั้น, อารยธรรมนั้น(พลเมืองของดาวเคราะห์นั้น)จะเคลื่อนที่เข้าไปใกล้มากกับแหล่งกำเนิดแห่งการสร้างสรรค์ของทุกๆสิ่ง. ในที่สุดแล้วอารยธรรมนั้นจะถูกขอร้องให้เลือกดาวเคราะห์ดวงหนึ่งในกาแล๊กซี่ที่อยู่ไกลห่างออกไปจากอารยะธรรมนั้น, และหว่านเมล๊ดพันธุ์ของพวกเขาด้วย DNA อันศักดิ์สิทธิ์. คุณตามทันใช่ไหม? นี่แล่ะคือระบบ. ด้วยทางเลือกเสรี, มนุุษย์ทั้งหลายบนดาวเคราะห์ที่ถูกเลือกนั้น ตอนนี้ถูกเพาะพันธุ์ขึ้นอย่างมีสัญชาตญาณและความสามารถในการแบกรับจิตวิญญาณ, และตื่นรู้ว่ามีความมืดและความสว่าง - และเริ่มต้นเกมส์แห่งความซับซ้อนเพื่อที่จะค้นหา, หรืออาจไม่ค้นหาก็ตาม.

    There are those who will say, "Well, Kryon, where did the first seeds come from?" They came from the center, the Great Central Sun, the core, that which you call God, the creative source that is everywhere. The minutia of this is not important. It's far more important to find and breathe clean air than to spend your time instead asking where air came from [a metaphor].

    มีคำถามที่ว่า ที่ไหนคือที่แรกที่ให้เมล๊ดพันธุ์มา? คำตอบคือ มันมาจากศูนย์กลาง, ใจกลางที่สง่างามของดวงอาทิตย์, แกนดวงอาทิตย์, ที่ซึ่งคุณเรียกว่า พระเจ้า, แหล่งกำเนินของการสร้างสรรค์ของทุกๆที่. เรื่องเล็กๆน้อยๆของเรื่องนี้ไม่สำคัญหรอก, มันไกลเกินที่จะไปค้นหาความสำคัญของมัน, หายใจอากาศที่บริสุทธ์เข้าไปดีกว่าใช้เวลาไปกับการถามหาว่าอากาศมาจากไหน(อุปมาเปรียบเทียบ).

    What's important for you to know is this: You have relatives in the galaxy! Number one, they look a lot like you. Number two, they have DNA much like yours. Let's clarify this. I'm going to give you information that we've given before, but that you should hear again just so you won't forget it. When you start discovering simple life forms in your solar system and beyond, you're going to find that the structure of DNA-like molecules is common.

    สิ่งที่สำคัญสำหรับคุณเพื่อจะรู้สิ่งนี้คือ: มีญาติพี่น้องต่างๆในกาแล๊กซี่นี้! ที่.. ข้อหนึ่ง, พวกเขาดูคล้ายๆคุณ. ข้อสอง, พวกเขามี DNA คล้ายกันมากกับของคุณ. มาไขความกระจ่างกัน. ฉันกำลังจะให้ข้อมูลที่เราเคยบอกคุณไปแล้ว, แต่คุณควรได้ยินอีกครั้งเพื่อที่คุณจะได้ไม่ลืม. นั่นคือเมื่อคุณเริ่มการค้นหารูปแบบชีวิตที่เรียบง่ายต่างๆ ในระบบสุริยะของคุณและไกลออกไป, คุณกำลังจะพบว่าโครงสร้างของ DNA นั้นเหมือนกันกับโมเลกุล.

    You're going to find that your planet is not isolated from the galaxy in its processes of life development and creation. Indeed, planetary evolution treats things in a unique way because of the environment on different planets, but in basic terms, DNA is a natural-occurring evolution of complex life, and the biophysics of it is part of the way life evolves everywhere in the galaxy. It is not unique to Earth.

    คุณกำลังจะค้นพบว่าโลกของคุณไม่ได้แยกอยู่ต่างหากจากกาแล๊กซี่ ในกระบวนการต่างๆของการพัฒนาชีวิตและการสร้างสรรค์. จริงๆ, การวิวัฒนาการของความความเป็นดาวเคราะห์มีวิธีการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆในแบบพิเศษเฉพาะทาง, เพราะว่าสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันของดาวเคราะห์ต่างๆ, แต่ในความเกี่ยวพันต่างๆขั้นพื้นฐานแล้ว, DNA คือสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยวิวัฒนาการทางธรรมชาติของชีวิติซับซ้อน, และกายภาพทางชีววิทยาของมันก็คือส่วนหนึ่งของรูปแบบชีวิตที่วิวัฒนาการไปทุกหนทุกแห่งในกาแล๊กซี่.

    Your relatives on these other worlds are humanoid, and they look like you. Some are larger because of nutrition or gravitational attributes and some are smaller. But they're not scary creatures with 14 eyes and three arms with shrieking voices. It's going to be one of the biggest things you find out some day - that there is life like yours, everywhere. I'll tell you, dear one, that when you find this out and realize what it means, you'll understand all aboutintelligent design and you'll know about a benevolence in the galaxy and your planet that has worked to make things the same, everywhere.

    ความสัมพันธ์ของโลกอื่นๆทั้งหลายเหล่านี้คือความเป็นมนุษย์, และพวกเขาดูคล้ายคุณ. บ้างก็ตัวใหญ่กว่า เพราะโภชาการหรือจากแรงดึงดูดของดาวเคราะห์นั้นที่แตกต่างจากของโลก, บ้างก็ตัวเล็กกว่า แต่พวกเขาไม่ได้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ขี้ตกใจ เพราะมีดวงตา 14 ตา, และมีแขน 3 แขน, และมีเสียงแหลมดังหลายโทนเสียง. มันกำลังจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่อัศจรรย์ที่สุดที่คุณจะค้นพบในวันใดวันหนึ่ง - ว่ามีสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคุณ, อยู่ทุกหนแห่ง. ฉันจะบอกคุณ, ที่รักทั้งหลาย, ว่าเมื่อคุณค้นพบสิ่งนี้และตระหนักว่ามันหมายถึงอะไร, คุณจะเข้าใจเกี่ยวกับรูปแบบที่มีเหตุผลของมันทั้งหมด, และคุณจะรู้เกี่ยวกับความเมตตากรุณาในกาแล๊กซี่นี้ และดาวเคราะห์ของคุณว่ามันได้ทำงานในการสร้างสิ่งต่างๆที่เหมือนกัน, ทุกหนทุกแห่ง.

    Can you imagine a beginning civilization billions of years ago? One planet, the first one, seeded with the knowledge of God? Can you imagine that a planet could do this? For now, it has no name, and the names of the citizens, race or whatever you want to call it also has no name. It was very long ago. It took millions of years, but they made itagainst all odds. It's a story, by the way, that we all know and love.

    คุณสามารถลองจินตนาการถึงจุดเริ่มต้นของอารยธรรมเมื่อหลายพันล้านปีมาแล้วสิ, ดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ซึ่งเป็นดวงแรก ถูกหว่านเมล๊ดพันธุ์ที่มีปัญญาความรู้ของพระเจ้า, คุณลองจินตการว่ามีดาวเคราะห์ดวงหนึ่งในตอนนี้ ที่ก็สามารถทำอย่างนี้ได้เหมือนกัน. มันไม่มีชื่อให้เรียก, ไม่มีชื่อของอารยธรรม, หรือเชื่อชาติ หรืออะไรก็ตามที่คุณต้องการเรียกมัน แต่มันไม่มีชื่อหรอก. มันผ่านมานานมากแล้ว. มันใช้เวลาหลายล้านปี, แต่พวกเขาก็สร้างมันในสิ่งที่ดูเหมือนเป็นไปไม่ได้, มันคือเรื่องราวที่พวกเราทั้งหมดรู้และรักมัน.

    That was the beginning, and what a story it is! It's about what they went through and how they seeded another planet - only one in an infinite, starry sky, a beach of sand that goes as far as you can see and only one grain of sand gets selected [metaphor]. They found it, and they did it, and you don't know about that world either, for it's too long ago. That one didn't make it, by the way, and so they seeded another. That one didn't make it either, and they seeded another. That third one made it, and you don't know their names either. It was too long ago.

    นั่นคือการเริ่มต้น, และมันเป็นเรื่องราวอะไรกันนี่ใช่ไหมล่ะ! มันเกี่ยวกับอะไรที่พวกเขากำลังเข้าสู่ (การเลื่อนระดับ) และพวกเขาหว่านเมล็ดพันธุ์ให้ดาวเคราะห์ดวงอื่นอย่างไร - มีเพียงท้องฟ้าดวงดวงที่อยู่อย่างไม่สิ้นสุด, ทรายของชายทะเลที่ทอดยาวไกลออกไป เท่าที่คุณสามารถเห็นได้, และมีเพียงทรายจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่ถูกเลือก (อุปมาเปรียบเทียบ). พวกเขาพบมัน (ความรู้สึกถึงพระเจ้า), พวกเขาทำมัน (เลื่อนระดับ), และคุณไม่รู้เกี่ยวกับโลกนั้นด้วย, เพราะมันผ่านมานานมากแล้ว, และคุณไม่รู้ชื่อพวกเขาด้วย.

    On average, every single planet has to have approximately a million years from seeding to graduation. How does that make you feel? Let me ask you: In the scheme of spiritual development, what year do you think you are in? If I saidyear one, would that make sense? Well, you've got a long way to go!

    โดยส่วนใหญ่แล้ว, ทุกๆดาวเคราะห์ต้องใช้เวลานับล้านปีตั้งแต่เริ่มหว่านเมล็ดจนถึงขั้นสำเร็จ. คุณรู้สึกกับสิ่งนี้อย่างไร? ให้เราถามคุณซิว่า: ในแบบแผนของพัฒนาการทางวิญญาณ, คุณคิดว่าคุณกำลังอยู่ในปีอะไร? ถ้าฉันบอกปีที่ 1, มันจะสามารถเป็นที่เข้าใจได้ไหม? และนั่น, คุณมีทางอีกยาวไกลให้ไปต่อ!

    But let me tell you something - you've crossed the marker of decision. That is a description of the point at which the Humans on a planet slowly begin to understand what they're doing and what the goal is. It starts the clock. Don't let this make you sad. "Well, Kryon, I thought it was going to happen in a few generations." Really? You thought in a few generations you'll all be walking around as light? A couple of generations? There are those who actually believe that. Start using common sense. The good news, dear ones, is that everything you've been through for over 30,000 years on the planet - slogging through old energy - is over. Now is the opportunity you came for. This is why you arrived here and some more good news is this: It doesn't matter how long it takes, you personally are going to participate in all of it! Yes! None of you are going to "miss the ending" of this wonderful play [metaphor]!

    แต่ให้เราบอกคุณบางอย่าง - คุณได้ข้ามผ่านเส้นแห่งการตัดสินใจ. นั่นคือคำบรรยายของจุดที่ซึ่งมนุษยชาติกำลังเริ่มที่จะเข้าใจว่าพวกเขากำลังทำอะไร และเป้าหมายคืออะไร. มันเริ่มนับเวลาขึ้น, อย่าเพิ่งให้สิ่งนี้ทำให้คุณเศร้าใจ. (มีคำถามกับ Kryon ว่า มันจะเกิดขึ้นในช่วงสองหรือสามชั่วอายุคนนี้หรือเปล่า) จริงหรือ? คุณคิดว่าในสองสามชั่วอายุคนข้างหน้านี้ คุณทั้งหมดกำลังจะเดินไปรอบๆเฉกเช่นแสงสว่างหรือ? ในอีกสองสามรุ่นข้างหน้าหรือ? ข่าวดีก็คือ, ที่รักทั้งหลาย, ทุกๆสิ่งที่คุณได้ผ่านมามากกว่า 30,000 ปีบนดาวเคราะห์นี้ , ก้าวไปอย่างไม่ลดละผ่านยุคพลังงานเก่าที่ผ่านมา, มันได้จบลงแล้ว. ตอนนี้ถึงเวลาของสิ่งที่คุณมาที่นี่เพื่อสิ่งนี้แล้ว, มันคือเหตุผลที่ทำไมคุณมาที่นี่, ข่าวดีก็คือ มันไม่สำคัญหรอกว่ามันจะใช้เวลาอีกนานเท่าไหร่, ทุกๆคนจะต้องเดินทางไปสู่ทั้งหมดของมันนั่นแล่ะ, ใช่! ไม่มีใครเลยที่จะพลาดช่วงสุดท้ายที่สวยงามของเรื่องนี้.

    Every single lifetime from now on will be in this new energy. When you arrive as a new Human Being four lifetimes from now, let's say in 300 years, you're going to awaken [be born] differently. When you open your eyes, you're not just going to recognize your mother, you're going to recognize the earth! Within a few days, your mind will be saying welcome back!

    ทุกๆชีวิตจากนี้เป็นต้นไปจะอยู่ในพลังงานใหม่นี้. เมื่อคุณกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ในภพชาติต่อไปในอีก 4 ภพชาติข้างหน้าของคุณ, อีก 300 ปีข้างหน้า, คุณจะเกิดอย่างแตกต่างไปจากเดิม. เมื่อคุณลืมตาขึ้น, คุณจะไม่เพียงจำแม่ของคุณได้เท่านั้น, แต่คุณจะสามารถจำโลกได้! เพียงไม่กี่วัน, จิตใจของคุณจะบอกกับคุณว่า ต้อนรับกลับมา!

    The child that you are, as soon as your eyes are focusing, will remember, "That's a cup. That's food. Hey, that's the creature who is married to mom." You'll have it figured out. Perhaps in a month or two, you'll be walking - maybe sooner. You won't have to learn to read (unless it's a language you never learned). We've told you this before. Look for this. Doesn't this make sense to you that you shouldn't have to learn basic Human action over and over? Instead, it's time to remember it!

    เด็กที่คุณกำลังเป็นอยู่นั้น, เร็วเท่าที่ดวงตาสามารถเพ่งมองได้, ก็จะจดจำได้เช่นกัน, ว่านั่นคือแก้ว, นั่นคืออาหาร. นั่นคือคนที่แต่งงานกับแม่. คุณจะคิดออกอย่างไม่รู้สาเหตุ, บางทีในหนึ่งหรือสองเดือน คุณจะกำลังเดินแล้ว, หรืออาจจะเร็วกว่านี้. คุณจะไม่ต้องเรียนรู้การอ่าน, เว้นเสียแต่ว่าคุณไปเกิดในที่ที่คุณไม่เคยเรียนภาษานั้นมาก่อน, เราได้บอกคุณไปแล้วว่า, คุณไม่ต้องเรียนรู้พื้นฐานของชีวิตครั้งแล้วครั้งเล่าอีกต่อไป? มันคือเวลาที่คุณจะจำมันได้.


    ผู้แปล: ส่วนที่เหลือของ "ประวัติศาสตร์ของกาแล๊กซี่ของคุณ" กำลังแปลอยู่นะครับ เดี๋ยวพรุ่งมาต่อตอนจบครับ

    ข้อมูลจาก Demystifying The New Age - Part 1 > Kryon
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2014
  9. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ผู้แปล : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านข้อความแปลข้างล่าง

    The History of Your Galaxy จาก "Kryon" โดย Lee CarrolL "
    ประวัติศาสตร์ของกาแล๊กซี่ของคุณ"
    ตอนจบ

    Ask a physicist. Don't take my word for this. Ask a physicist, "Would it be possible if you had the tools and understanding to replicate atomic structure?" Yes. I'm telling you what could be, and the reason that you'll be able to do it is because you won't be interrupted by war and horror and plague. Do you see how this works, dear one? It's a new kind of survival. The more you cooperate with each other and try to see the others' "God within", the more you are given as a planet and the more you get along.

    มันจะเป็นไปได้ไหมถ้าคุณมีเครื่องมือต่างๆและความเข้าใจในโครงสร้างที่ทำซ้ำของอะตอม? ใช่. ฉันกำลังบอกคุณว่ามันเป็นไปได้, และเหตุผลที่คุณจะสามารถทำในสิ่งนี้ก็เพราะว่า คุณจะไม่ถูกขัดจังหวะด้วยสงครามและโรคระบาดที่ร้ายแรง. คุณเห็นหรือยังว่ามันจะเป็นไปได้ ที่รักทั้งหลาย? มันคือรูปแบบใหม่ของการอยู่รอด. ยิ่งมากเท่าไหร่ที่คุณมีส่วนร่วมซึ่งกันและกัน และพยายามที่จะเห็นถึงสิ่งต่างๆ ซึ่งก็มีพลังงานของพระเจ้าอยู่ในนั้นเช่นกัน, คุณก็กำลังได้รับเหมือนกันกับโลก และเข้าใจไปได้มากขึ้น.

    The Pleiadians are your parents. When their planet went into ascension and they had the full God within their DNA, they realized what they had gone through. They finally knew what they were there for, and they received a full pineal connection - 100 percent efficient DNA - but still remained in the physical [They remained in physical bodies.]. Do you know what that's like? Don't look for their 3D ships. These beautiful beings are entangled with you and they come and go as they wish. However, they do it by just "thinking" about it. You [on Earth] were the next ones, and the only planet after them to be seeded. But did you know they had spiritual parents of their own, just like they are your spiritual parents? The names of their parents and the parents of their parents are Arcturian, those from Orion and from Sirius. All of these also had spiritual parents of their own, and they then had parents of their own. Listen: Every single one of these groups are part of your "creative source family group". Some are your spiritual grandparents, and some are your great-grandparents. Some are even more than that. There are also ancients on your planet from other parts of the galaxy who are just "here to help".

    พ่อแม่ทางวิญญาณของคุณ (ผู้ให้เมล็ดพันธุ์) คือ The Pleiadians. เมื่อดาวเคราะห์ของพวกเขาเข้าสู่การเลื่อนระดับ, และพวกเขามีพลังงานพระเจ้าอยู่ใน DNA ของพวกเขา, พวกเขาตระหนักว่ากำลังเข้าสู่การเลื่อนระดับ. พวกเขารู้ในที่สุดว่าพวกเขาอยู่ที่นั่นทำไม, และพวกเขาได้รับการติดต่อที่ต่อมไพเนี่ยลอย่างเต็มรูปแบบ - DNA ที่มีประสิทธิภาพ 100% - แต่ยังคงอยู่ซึ่งรูปแบบทางฟิสิกส์ของร่างกาย, อย่ามองในลักษณะของสามมิติของพวกเขานะ. รูปธรรมชีวิตที่สวยงามเหล่านี้เกี่ยวพันกับคุณ และพวกเขาไปๆมาๆด้วยการอธิษฐาน. อย่างไรก็ตาม, พวกเขาทำมันได้โดยเพียงแค่ "คิดเกี่ยวกับมัน" ก็สามารถทำได้เลย. คุณทั้งหลายบนโลกนี้คือรุ่นต่อไป, และมีเพียงดาวเคราะห์โลกเท่านั้นที่ถูกหว่านเมล็ดพันธุ์ต่อจากรุ่นของพวกเขา, แต่คุณรู้ไหมว่าพวกเขามีพ่อแม่ทางวิญญาณของพวกเขาเอง, เหมือนที่พวกเขาเป็นพ่อแม่ทางวิญญาณของคุณ, ชื่อของพ่อแม่ทางวิญญาณของพวกเขา และพ่อแม่ของพ่อแม่ทางวิญญาณของพวกเขานั้นก็คือ "Arcturian" ซึ่งมาจาก "Orion" และจาก "Sirius". พวกเขาเหล่านี้ก็มีพ่อแม่ทางวิญญาณของพวกเขาเหมือนกัน. ทุกๆรูปธรรมชีวิตทั้งหมดที่พูดมาล้วนเป็นส่วนหนึ่งใน "ครอบครัวแหล่งกำเนิดของการสร้างสรรค์ของคุณ" บ้างก็เป็นปู่ย่าทางวิญญาณของคุณ, บ้างก็เป็นทวด บ้างก็เป็นมากกว่านั้นขึ้นไปอีก, ล้วนแล้วแต่เป็นวิญญาณที่เก่าแก่ที่อยู่บนโลกนี้ ซึ่งมาจากหลายที่ในกาแล๊กซี่ พวกเขามาที่นี่เพียง "เพื่อช่วยเหลือ".

    Do you understand where this is going? The Arcturians and those from Orion and Sirius are in your DNA, because you have "galactic Akashic inheritance". You know them, and they know you. They're probably the most helpful groups on the planet. Don't separate them out from the others, and don't worship them. See the system, dear ones, for what it is. Absorb all of them and know that right now they are with us in this room, in this communication.

    คุณเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร? The Areturians ซึ่งมาจาก Orion และ Sirius อยู่ใน DNA ของคุณ, เพราะว่าคุณมีมรดกที่ตกทอดมาจาก Akashic Galactic ของกาแล๊กซี่นี้. คุณรู้จักพวกเขา และพวกเขาก็รู้จักคุณ, บางทีพวกเขาอาจเป็นกลุ่มทางวิญญาณที่คอยช่วยเหลือดาวเคราะห์มากที่สุด. โปรดอย่าแยกพวกเขาออกจากสิ่งอื่นๆ, และโปรดอย่าบูชาพวกเขาเช่นกัน. เข้าใจระบบแล้วใช่ไหมล่ะ, ที่รักทั้งหลาย, สำหรับสิ่งที่มันเป็นไปเช่นนั้น. ซึมซับทั้งหมดของพวกเขา และรู้ว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องนี้ด้วย, ในการสนทนานี้.

    They love the fact that we are now helping to demystify who they are. Those who channel them may say they're from here or there, but I want you to look for the metaphors within their information, for these metaphors will point to the truth. The reason these groups are here helping is that they are your spiritual grandparents and great-grandparents. That is why they feel so good to you, and that is why some of the channelling coming from them is so pure and so excellent. If the channeller is pure, you will see who they are. They love you and they know who you are.

    พวกเขารักที่เราตอนนี้กำลังช่วยเหลือในการทำให้เข้าใจง่ายขึ้นว่าพวกเขาเป็นใคร. เหตุผลที่พวกเขาอยู่ที่นี่คอยช่วยเหลือก็เพราะพวกเขาคือปู่ยาตายายทางวิญญาณของคุณ, และเป็นทวดทางวิญญาณของคุณ. นั่นคือเหตุผลว่าทำไมพวกเขารู้สึกดีกับคุณมาก, และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมบางการติดต่อกับพวกเขานั้นช่างบริสุทธิ์มาก และเป็นเลิศมาก. ถ้าช่องทางติดต่อของต่อมไพเนี่ยลนั้นบริสุทธิ์มากเท่าไหร่, คุณก็จะเห็นว่าพวกเขาเป็นใคร. พวกเขารักคุณและรู้ว่าคุณเป็นใคร.

    It's important that the old souls who sit in front of me are understanding what I'm saying and know that I'm not talking in code or in metaphors. Right now, I am talking about reality and spiritual common sense that is beautiful. This information is right from the creative source that you call God. God is bigger than anything that you've been told, dear one, and as you start to perceive this, I want you to remember one thing before we say goodbye. As you start to perceive the wonder of the creator, I want you to remember where it came from, for your Akashic lineage is God. Ponder it. It's about time you picked yourself up, stood tall, and claimed this lineage. Say "hello" to your grandparents.

    มันสำคัญว่าวิญญาณเก่าแก่ทั้งหลายที่นั่งอยู่ข้างหน้าเราตอนนี้, พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เรากำลังบอก, ตอนนี้, ฉันกำลังพูดถึงความจริงและความสวยงามทางวิญญาณที่สามารถเข้าใจได้. ข้อมูลนี้มาจากต้นกำเนินแห่งการสร้างสรรค์ที่คุณเรียกว่า "God". พระเจ้านั้นมีพลังอำนาจเกินกว่าที่อะไรก็ตามที่คุณเคยได้ยินมา, ที่รักทั้งหลาย, เราอยากให้คุณโปรดจำไว้สิ่งหนึ่งก่อนที่เราจะลากันวันนี้. นั่นคือขณะที่คุณกำลังเริ่มต้นรับรู้ถึงความอัศจรรย์ของการสร้างสรรค์, ฉันอยากให้คุณจำได้ว่ามันมาจากไหน, เพื่อเชื้อสายชาว Akashic ของคุณซึ่งคือ "God". คำนึงถึงพวกเขา. มันคือเวลาที่คุณควรดึงตัวเองขึ้นมา, ยืนขึ้น, และใช้สิทธิของความเป็นเชื้อสาย Akashic นี้. บอก "สวัสดี" กับปู่ยาตายายทางวิญญาณของคุณ.

    Perhaps they've been waiting a long time for this? Is this too spooky? For some, it is. For others, the truth rings like a bell of purity and answers the questions that they've been asking a long time. Dear ones, you've got help. Acknowledge it, work with it. Use it!

    บางทีพวกเขากำลังรอมานานแสนนานสำหรับสิ่งนี้, มันรู้สึกน่ากลัวใช่ไหม? สำหรับบางคนมันใช่, แต่สำหรับบางคน, ความจริงกำลังสั่นเหมือนกระดิ่งของความบริสุทธิ์, และได้ตอบคำถามที่พวกเขารอมาเนิ่นนาน. ที่รักทั้งหลาย, คุณได้รับความช่วยเหลือ. รับมันไว้, อยู่ร่วมกับมัน. และใช้มัน!

    And so it is.
    Kryon

    ที่มา Demystifying The New Age - Part 1 > Kryon
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2014
  10. atitarn2009

    atitarn2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +262
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=MfZmR2w_uf0]ANGELS at work Enhanced Caught on CCTV Camera - YouTube[/ame]
     
  11. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    [​IMG]


    THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2014

    February 23-March 2, 2014
    วันที่โพสท์ _Tue,25/2/2014

    ผู้แปล: อจิตตะ

    กระแสของการเปลี่ยนแปลงมากมายที่เกิดขึ้นภายในตัวคุณ
    กับชีวิตที่ยังคงต้องดำเนินต่อไปอยู่นี้ล้วนขึ้นอยู่กับคุณเองทั้งนั้น
    เพราะการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ต่างก็ได้มีการจัดวาง
    ให้อยู่ในจิตวิญญาณของแต่ละดวงที่อาศัยอยู่บนดาวเคราะห์ดวงนี้
    ซึ่งต่างก็ยินดีกับการที่จะได้รับประสบการณ์จากการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้
    และการเปลี่ยนแปลงที่เห็นไดชัก็เป็นเรื่องของขีดความสามารถ
    ที่มีเพิ่มมากขึ้นในการแสดงออกในด้านของอารมณ์

    ผู้คนส่วนใหญ่บนโลกได้รู้วิธีที่จะระงับอารมณ์
    เพื่อที่จะบัญชาให้หัวใจของตนเองนั้นแข็งแกร่ง
    และทำให้พวกเขาสามารถจัดการกับกำแพงที่หนาทึบมากขึ้นๆนั้นได้ในที่สุด
    ทั้งแสงสว่างที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา
    ก็ได้สลายเจ้าตัวที่ขัดขวางออกไปมากแล้วด้วย...
    ซึ่งทำให้บางคนสามารถสัมผัสได้กับความรู้สึกที่แท้จริง
    และพูดออกมาจากใจจริงๆในสิ่งที่พวกเขาต้องการจะสื่อออกมา
    ที่เริ่มต้นจากภายในของพวกเขา ณ ขณะนั้น

    เช่น ในบางเป้าหมายของขั้นตอนนี้
    ก็คือความรู้สึกที่สื่อออกมาในเรื่องของ “ความรัก”
    และก็ตามมาด้วยความรู้สึกของ”ความสุข”
    อีกทั้งเลยไปถึงความรู้สึกดีดี อื่นๆ อีกมากมาย
    ที่จะสามารถพัดพาผู้คนไปยังที่ที่บัดนี้ก็ยังไม่มีใครรู้จักมาก่อนบนโลกใบนี้

    การรวมตัวของมนุษย์โลกที่เป็นครั้งยิ่งใหญ่กว่าที่ทุกครั้งที่ผ่านมาได้เกิดขึ้น ณ ขณะนี้
    และมีจุดประสงค์ก็เพื่อให้พวกเขาสามารถบอกกล่าวให้กับผู้คนในแต่ละพื้นที่ของโลก
    ที่มีความพร้อมจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดียิ่งขึ้นได้รู้
    ซึ่ง”ปัจเจก”เหล่านี้ก็พร้อมและยินดีที่จะเสียสละความสุขส่วนตัวของเขา
    เพื่อความเปลี่ยนแปลงที่มวลมนุษย์เรียกร้อง
    มันอาจเป็นช่วงเวลาที่สับสนอลม่านในเรื่องของวิสัยทัศน์และจารีตดั้งเดิม
    ซึ่งปัจจุบันไม่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้คนได้อีกต่อไปแล้ว
    ส่วนผู้คนที่ตาเริ่มสว่างไสวขึ้นแล้ว
    ภาพลวงตาที่เคยปรากฏทั้งหลายก็จะหายวับไปในบัดดล
    ดังนั้น...ใครก็ตามที่ยังกดขี่ข่มเหงประชาชนด้วยการปราบปราม
    มันจะถูกเปิดโปงและไม่มีที่หลบซ่อนอีกต่อไป
    ซึ่งก็สืบเนื่องจากผลของการประชุมที่มีผู้อำนาจที่มาพร้อมกับแสงสว่าง
    ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังของการประชุมนี้ได้ถูกประกาศขึ้น
    ดังนั้น...สิ่งที่ต้องทำ ณ.ขณะนี้ คือ
    การประจันหน้ากับทางเลือกและกระทำในสิ่งที่ตนได้เลือกไว้
    ด้วยการทำให้เกิดความสงบสุขขึ้นด้วยจิตวิญญาณของพวกเขาเอง
    ซึ่งถึงแม้ว่ามันออกจะวุ่นวายไปสักหน่อย
    แต่ท้ายสุดก็จะดีไปหมด...ทั้งหมดทั้งมวล


    มีผู้คนบนโลกจำนวนมากที่มีความพร้อมที่จะเลื่อนระดับขึ้น
    และใช้วิธีการเปลี่ยนแปลงด้วยการจัดการกับทุกแง่มุมของปัญหา
    ด้วยระบบจัดการที่แตกต่างและหลากหลายวิธีการ
    รวมถึงการรวบรวมพลังงานของผู้คนที่ไร้ความจริงใจที่อยู่บนโลกนี้ไว้
    และนำระบบของความเที่ยงธรรมเข้าไปแทนที่

    ระบบการเงินก็จะสิ้นสุดลงในรูปแบบที่เป็นอยู่ในปัจจุบันในที่สุด
    และนั่นก็คืออำนาจแห่งอธิปไตยที่รออยู่ข้างหน้าสำหรับทุกคน
    ซึ่งแต่ละคนต่างก็ตระหนักถึงความรับผิดชอบของพวกเขาโดยธรรมชาติ
    และมีส่วนทำให้ได้รับการสนับสนุนและ ได้รับการยกย่องในด้านคุณธรรม
    จากการมีส่วนร่วมที่ไปในทิศทางเดียวกันในสิ่งที่ดีเยี่ยมของทุกสิ่งบนโลกนี้
    มันไม่ใช่แค่มีมาให้เลือก หรือ ให้มันดูคลุมเคลือแค่นั้น...
    แต่การรวมตัวของมวลมนุษย์ชาติอย่างลับ ๆ ในครั้งนี้
    จะทำให้ทุกอย่างจะจบสิ้นลงตลอดกาลนาน
    เหล่ามวลมนุษย์จะพากันถือคบไฟ เพื่อปรับแนวทาง และขอบเขต
    เพื่อก้าวสู่การเป็น “ผู้สร้าง” ในสรรพสิ่ง
    ซึ่งนั่นก็จะทำให้พวกเขาได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
    ด้วยกฏในทางปฏิบัติแห่งสากลจักรวาล...

    การเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เริ่มต้น
    ซึ่งมากับแสง ก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ
    เพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ส่งผลกระทบ
    และเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ไปในทุกพื้นที่ของโลก
    ทั้งยังสามารถเริ่มต้นด้วยความสะดวกสะบาย
    กับวิธีการที่เหมาะกับความเป็นอยู่ของเหล่ามวลมนุษย์ด้วย
    และได้ทำให้ผู้ที่อยู่ในระดับแนวหน้า ณ.ขณะนี้
    ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งกับตำแหน่งนี้
    ทั้งผู้คนก็จะเริ่มมีประสบการณ์กับความสำเร็จมากมาย
    ที่ได้เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของพวกเขา
    พร้อมทั้งยังส่งผลให้มนุษย์ได้รู้ว่าความเจริญรุ่งเรือง
    และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขนั้นมันเป็นอย่างไร...

    เมื่อใดที่มวลสมาชิกในครอบครัวของมนุษย์มีพร้อมซึ่งปัจจัยสี่เพื่อการดำรงค์ชีวิต
    ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความปลอดภัยและการป้องกันาแล้วละก็...
    พวกเขาก็จะสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้า
    สู่ดินแดนที่ที่พวกเขาไม่เคยได้รับอนุญาตมาก่อน
    นั่นคือ “ดินแดนของจิตวิญญาณ”
    และก็จะเริ่มสำรวจจิตวิญญาณ , พรสวรรค์ และทักษะความสามารถ
    ที่เหมือนกับการเล่นซ่อนหาของเหล่าอัญมณีที่อยู่ภายในของพวกเขา
    ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดขึ้นเพื่ออำนวยพรให้แก่ผู้ที่อยู่รอบๆตัวพวกเขา
    ที่มากับเส้นทางแห่ง “ความรัก” นั่นเอง

    เรามุ่งเน้นและให้ความสำคัญที่จะเป็นศูนย์กลาง
    ในการจัดแนวทางให้แก่ผู้ที่มีคุณสมบัติที่มีระดับสูงขึ้นไป
    และมีความปรารถนาที่จะทำให้เป็นปึกแผ่นด้วยแก่นแท้ของความศักดิ์สิทธิ์
    ทั้งยังเป็นการจุดประกายให้เจิดจ้าสู่ภายในของผู้ที่มีความเพียรในการปฏิบัติ
    ที่สนับสนุนแสงแห่ง“ความเป็นผู้สร้าง” ที่อยู่ภายในของพวกเขา....
    และผู้คนเหล่านี้ก็คือแนวหน้าของมวลมนุษย์รุ่นใหม่
    ที่เต็มเปี่ยมไปความศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในร่างของมนุษย์

    “...การทำการใดๆที่มีความเป็นเอกภาพของจิตสำนึก
    ที่อยู่ภายในมวลสรรพสิ่งบนโลกมนุษย์นี้
    ก็คือการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งของ”พระจิต” นั่นเอง...”


    Until next week…
    I AM Hilarion


    ©2014 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
    Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety
    and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and websites are included.
    WELCOME! - The Rainbow Scribe
    MOVING INTO LUMINOSITY
    Thank you for including the above website link when posting this message.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2014
  12. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    เดี๋ยวขออนุญาตโพสต์เรื่องเกี่ยวกับศัพท์บางคำ
    ที่ปรากฎอยู่ในข้อความจากต่างมิติทั้งหลายต่อหน่อยนะครับ

    Project: การฉายภาพหรือพลังงานอะไรซักอย่างออกมา ในแง่ของต่างมิติจะใช้ในบริบทของ
    การฉายหรือสะท้อนพลังงานแห่งความคิด อารมณ์ความรู้สึก และแก่นแท้แห่งตัวตนที่แท้จริงของเราออกมา
    แล้วแต่ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่

    เช่น ถ้ากำลังพูดถึงโลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่สามนี้ หากใช้คำนี้ เขาก็จะหมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่าง
    ที่เราเห็นว่ามันเป็นของแข็ง ที่มีความหนาแน่นทึบตันนี้ มันล้วนถูกฉายออกมา จากความคิด และอารมณ์ความรู้สึก
    ของเราเอง และร่วมกัน ของคนทั้งโลก ทั้งสิ้น อะไรแบบนั้นครับ

    experience : ถ้าใช้ในลักษณะคำกิริยา ก็จะหมายถึง การประสบพบเจอกับสิ่งนั้นๆ กับประสบการณ์นั้นๆ
    ไม่ว่าจะด้วยทางใด หรือด้วยอายตนะใดก็ตามแต่ ดังนั้น เวลาแปล ถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ
    ก็เลือกเอาคำใดคำหนึ่งที่มีความหมายง่ายๆก็ได้ เช่น ประสบกับ หรือ พบกับ หรือ เจอกับ อะไรแบบนั้นครับ

    Duality : ความเป็นทวิภาวะ หมายถึง ในมิติที่สามนี้ เป็นมิติที่ถูกออกแบบมา ให้มีความเป็นคู่ของสิ่งตรงข้ามเสมอ
    เช่น สีขาว - สีดำ, ความดี - ความชั่ว, มืด - สว่าง, ผิด - ถูก เป็นต้น แต่แท้ที่จริงแล้ว
    คุณสมบัติเหล่านี้ มันอยู่บนแถบสเปกตรั้มของคลื่นความถี่ต่างหาก เพียงแต่ว่า มนุษย์้เรามีความโน้มเอียง
    ที่จะไปใส่ค่าให้มัน เป็น หรือ อยู่ ด้านใดด้านหนึ่ง ทั้งๆที่จริงแล้ว เราจะเลือกให้มันอยู่ตรงกลางก็ได้

    Being : ในหลายบริบท จะหมายถึง "รูปธรรมชีวิต" เช่น star being, multidimensional being เป็นต้น
    หรือ บางบริบท ถ้าจะแปลว่า "ความเป็นตัวตน" ก็จะอ่านเข้าใจง่ายกว่า
    เช่น inside your being เป็นต้น

    Individual: ผมว่า ถ้าแปลว่า "แต่ละคน" หรือ "แต่ละบุคคล" อะไรแบบนั้นจะเข้าใจง่ายกว่า
    แม้ว่าตามดิกซ์จะแปลว่า "ปัจเจก" อะไรแบบนั้นก็ตาม แต่ก็..ขึ้นอยู่กับบริบทที่ใช้หนะนะครับ

    ego: อัตตา แต่ไม่ใช่การยึดมั่นถือมั่นตามศัทพ์ทางพุทธศาสนานะครับ เพราะมันเป็นแค่
    ระบบปฏิบัติการของร่างกายเนื้อที่อยู่ในมิติที่สามแห่งนี้เท่านั้นเอง

    มันจะประมาณว่า ร่างกายเนื้อ ก็คือยานพาหนะของเรา แต่ร่างนี้ก็มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติอยู่ด้วย
    และก็มีคนขับตัวจริงอยู่ด้วย อะไรแบบนั้น ดังนั้น ถ้าคนขับไม่ทำงาน ด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่
    ระบบอัตโนมัตินี้ มันก็จะจัดการไปตามประสาความคิด ความเห็น และความรู้ของมัน เท่าที่มันถูกโปรแกรมมา

    ในข้อความจากต่างมิติชุดหนึ่ง ที่ผมกำลังจะเอามาแปลเป็นโปรเจกท์ใหม่ของผมอยู่นี้ เขาเปรียบเทียบเอาไว้ว่า
    เจ้า ego ที่ว่านี้ ก็คือ ผู้จัดการร้าน ส่วนจิตวิญญาณของเราเอง ก็คือเจ้าของร้าน ดังนั้น พอเจ้าอีโก้
    มันทำหน้าที่จัดการทุกอย่างในร้านแทนเจ้าของร้านไปนานๆ มันจึงหลงตัวเองว่าเป็นเจ้าของร้านไปซะ อะไรแบบนั้นครับ

    แต่ก็อย่าไปตัดสินชี้ถูกผิดให้กับมันนะครับ เราต้องขอบคุณมันซะอีก ที่มันทำหน้าที่จัดการ และรับใช้เรามาตลอด
    ตามที่มันถูกโปรแกรมมา ส่วนหน้าที่ของเราก็คือ ต้องกำกับดูแลมัน ต้องใส่ใจมัน จับตาดูมัน อะไรแบบนั้น

    แล้ว เรา ที่ว่านี้เป็นใครกันหละ ก็คือ จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ที่สูงกว่า คือตัวตนที่สูงกว่า คือจิตวิญญาณของเราเอง

    anchor : การตรึง การทอดสมอ อะไรแบบนั้น แล้วแต่บริบท ซึ่งในหลายบริบท จะพูดถึงการทำหน้าที่ของมนุษย์
    ว่ามาทำหน้าที่ตรึงพลังงานจากเบื้องบนเอาไว้กับเบื้องล่าง อะไรแบบนั้น

    แต่ถ้าเป็นการตรึงพลังงานของตัวเราเอง เอาไว้กับพื้นโลก เขาก็อาจจะใช้คำว่า grounding

    mind: คำนี้ผมยังไม่เข้าใจแจ่มแจ้งเลยหละครับ เดี๋ยวรอให้ผู้รู้ท่านอื่นมาช่วยขยายความให้นะครับ
    แต่มันไม่ได้แปลว่าจิตใจเฉยๆหรอกนะครับ เพราะดูเหมือนว่ามันจะมีอะไรมากกว่านั้น

    แล้วต่อให้แปลว่าจิตใจ แล้วไอ้เจ้าจิตใจนี่คืออะไรอีกหละ?

    ในข้อความหลายตอนของท่านมิคาเอล มีการพูดถึงคำว่า High Mind ด้วย ซึ่งท่านอธิบายไว้ว่า
    คือ ความคิด บวก อารมณ์ความรู้สึก จึงออกมาเป็น "จิตใจ" อะไรแบบนั้นหนะครับ

    Angel : เทพ หรือ ทวยเทพ แล้วแต่ว่าจะเป็นเอกพจน์ หรือ พหูพจน์ ซึ่งคำนี้ ชาวพุทธทั้งหลาย
    มักจะเข้าใจผิด คิดว่ามีความหมายเดียวกับคำว่า เทวดา หรือ เทพ ในความหมายทางศาสนาของตัวเอง

    แต่อันที่จริงไม่ใช่เลยครับ ความหมายห่างไกลกันลิบลับเลย เพราะว่า ถ้าพูดถึงมิติ
    ที่เกี่ยวข้องกับมิติทางกายภาพอยู่นี้ ก็จะมีด้วยกัน 12 มิติหลักๆ ซึ่งแต่ละมิติ ก็อาจจะมีมิติย่อยๆอยู่มากมาย
    พวกเทวดา หรือ เทพ ที่ปรากฎอยู่ในศาสนาพุทธนั้น ก็น่าจะเป็นพวกที่ต่างมิติเรียกว่า "เทพนิยาย"
    หรือ "เทพในนิยาย" หรือ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Fairy มากกว่าหนะครับ ซึ่งเทวดา และพรหมทุกๆชั้น
    อยู่ในระนาบย่อยของมิติที่ 4 ทั้งหมด

    แต่พวกเทพในความหมายของต่างมิตินั้น จะเป็นพวกที่อยู่แบบปราศจากรูปกายใดๆทั้งสิ้น
    และมีแต่พลังงานล้วนๆ และกำเนิดมาจากพระผู้สร้างโดยตรงเลยทีเดียว

    โดยที่พระผู้สร้างสูงสุด (the Supreme Creator) จะแบ่งภาคตัวเองออกมาชุดแรก เป็น พวกที่อยู่ใน
    อาณาจักรมหาเทพ (Archangel) แล้วจากนั้น พวกมหาเทพ ก็จะแบ่งภาคตัวเองออกมาเป็น พวกเทพ (Angel)
    แล้วจากนั้นพวก เทพ ก็ถึงจะแบ่งภาคตัวเองออกมาเป็นรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างระดับถัดๆไป
    ซึ่งหนึ่งในระดับถัดๆไปที่ว่านี้ก็รวมถึง "พระเจ้า" หรือ God ด้วย แล้วพระเจ้าทั้งหลายนี้ ก็ถึงจะแบ่งภาคออกมา
    เป็นรูปธรรมชีวิตระดับถัดไปอีก ในจักรวาลของตัวเอง ของใครของมัน ดังนั้น แต่ละจักรวาล จึงมีพระเจ้าเป็นของตนเอง

    ดูรายละเอียดได้จากกระทู้นี้นะครับ

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...และลำดับชั้นทางจิตวิญญาณในเอกภพของเรา.326865/

    และก็ในกระทู้นี้

    http://palungjit.org/threads/ข้อความจากต่างมิติ-ธรรมชาติของเทพ-จาก-มหาเทพ-metatron.282385/

    เอาแค่นี้ก่อนนะครับ
    ......................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 กุมภาพันธ์ 2014
  13. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ไม่รู้คำพูดนี้มีที่มาจากไหนนะครับ
    ผมไปเจอในอินเตอร์เน็ต เห็นว่าน่าสนใจดี
    ก็เลยแปลและโพสต์ให้อ่านหนะครับ

    .......................................
    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    Can you see the Veil...
    Covering up this Beauty?
    It shall soon be revealed to you.
    Prepare yourself properly...

    By Relaxing and Meditating Regularly...
    And Focus on your Heart Center.
    Re-member your True Magnificence...
    Let go of your mental agitations
    And just Breathe...

    The Invisible Realm
    Is not as invisible as you think...
    Only your blockages make it so.

    When you Let go...
    Of All your False Beliefs
    And Attachment towards the Outcome...
    The Veil shall be lifted

    Since with an Open-Mind... a Loving Heart...
    And your Ability to stay Present...
    You are on the Path to Ascension...
    And Reality can't be long hidden
    To Ascending Ones.

    เธอมองเห็นม่านพรางนั่นไหม?
    มันปกปิดความสวยงามอันนั้นอยู่
    แต่ในไม่ช้านี้ มันก็จะถูกเปิดออกมาให้เธอเห็นแล้วหละ
    แต่เธอจะต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมซะก่อน

    ด้วยการผ่อนคลาย และทำสมาธิตามปกติ
    แล้วจดจ่ออยู่ที่ศูนย์กลางหัวใจของตัวเธอเอง

    จงจดจำความสง่างามที่แท้จริงของตัวเธอเองให้ได้ อีกครั้งหนึ่ง
    แล้วปล่อยวางความคิดที่ว้าวุ่นของเธอทิ้งไป
    และจงจดจ่ออยู่กับลมหายใจเข้าออกเพียงเท่านั้น

    อาณาจักรที่มองไม่เห็น
    มันก็ไม่ใช่ว่า จะมองเห็นไม่ได้ อย่างที่เธอคิดหรอกนะ
    เพราะว่าที่มันเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่า สิ่งกีดขวางที่มีอยู่ในตัวเธอเองนั่นแหละ

    แต่เมื่อใด ที่เธอสามารถปลดปล่อยความเชื่อที่ผิดๆทั้งหมด ของเธอเองทิ้งไป
    และเลิกยึดติดกับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้แล้ว
    เมื่อนั้น..ม่านพรางตาอันนั้น ก็จะถูกยกขึ้น

    เพราะว่าด้วยการเปิดใจ..และด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก
    และรวมถึง ด้วยความสามารถในการจดจ่ออยู่กับปัจจุบันขณะของเธอ
    ก็จะทำให้เธอ ได้ไปอยู่บนเส้นทางแห่งการเลื่อนระดับขึ้นแล้วหละ

    แล้วเมื่อนั้น..ความเป็นจริง ก็จะไม่ถูกปิดบังเอาไว้อีกต่อไป
    สำหรับผู้ที่กำลังเลื่อนระดับขึ้นทั้งหลาย

    .............................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • magnificent.jpg
      magnificent.jpg
      ขนาดไฟล์:
      65.2 KB
      เปิดดู:
      1,120
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2014
  14. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    [​IMG]
    (ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

    "Old habits don't open new doors"

    "นิสัยเก่าๆ ไม่สามารถที่จะเปิดประตูใหม่ๆได้"

    .................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    คำศัพท์เฉพาะทางที่ส่วนใหญ่แล้วจะเจอในข้อความจากต่างมิติ
    หรือในนิวเอชเท่านั้น ยังมีอีกหลายคำนะครับ แต่เดี๋ยวถ้านึกออกคำไหน
    ผมก็จะค่อยๆโพสต์ความหมายของมัน ตามความเข้าใจของผมให้นะครับ

    Elementals : คำนี้มักจะเติม s หรือว่าต้องมี s เสมอผมก็ไม่แน่ใจนะครับ
    เพราะว่ามันจะหมายถึง จิตวิญญาณของธาตุทั้ง 4 อะไรประมาณนั้น
    คือธาตุทั้ง 4 มันก็มีจิตวิญญาณ หรือ รูปธรรมชีวิต ที่เป็นตัวตนที่สูงกว่าของมัน
    ดูแลอยู่ด้วย ซึ่งก็เหมือนกับพวกเรานี่แหละ ที่มีตัวตนที่สูงกว่า (Higher Self)
    ซึ่งตามข้อความจากชาวอาร์คทูเรี่ยนแล้ว Higher Self ของเรา ก็คือจิตวิญญาณของเราเอง

    ส่วน Higher Self ของธาตุทั้งสี่ ก็คือ Elementals ซึ่งในดิกชินารี่ ไม่มีคำแปลที่ตรงความหมาย
    ของข้อความจากต่างมิติเลย มีแต่ความหมายธรรมดาๆแบบเกี่ยวกับธาตุ หรืออะไรแบบนั้น
    ดังนั้น บางทีผมก็เลยใช้ทับศัพท์ไป หรือ แปลแบบตั้งชื่อเอาเองว่า "วิญญาณของธาตุทั้งสี่" บ้างก็มี

    และเจ้าธาตุทั้งสี่ที่ว่านี้ มันก็ได้แก่ ธาตุ ดิน น้ำ ลม และ ไฟ อย่างที่เรารู้กันแล้วนั่นแหละครับ
    แต่จะมีแตกต่างจากความหมายของทางพุทธ และ ทางทั่วๆไปก็ตรงที่ "ธาตุไฟ" เท่านั้นครับ
    ที่มันจะหมายถึง "กระแสไฟฟ้า" ที่ไหลเวียนอยู่ในร่างกายของเรา เช่น ในระบบประสาท เป็นต้น
    ไม่ได้หมายถึง ความร้อน หรือ ความเย็น ที่อยู่ในร่างกายใดๆเลยทั้งสิ้น

    ซึ่งตามความเข้าใจ และ ตามความเห็นของผม ผมก็ว่ามันก้มีเหตุมีผลดีอยู่นะครับ
    เพราะว่า เมื่อสมัยสองพันปีที่แล้ว ถ้าคุณเป็นคนที่ต้องสอนคนอื่น แล้วคุณจะบอกว่า ธาตุไฟคืออะไร?
    คุณจะบอกไหมว่ามันคือ "กระแสไฟฟ้า" แล้ว ถ้าพวกเขาถามว่า กระแสไฟฟ้าคืออะไร คุณจะตอบว่าอย่างไร?

    the Grid : โครงข่ายพลังงานของโลก ซึ่งถ้าจะแปลให้ถูกและเต็มยศของมันก็คือ
    "โครงข่ายพลังงานคริสตัลไลน์ของโลก" (the Crystalline Grid)
    ซึ่งคำนี้จะพบได้เสมอๆ ในข้อความจากต่างมิติ จากหลายๆรูปธรรมชีวิต เช่น ครายออน,
    ท่าน Hilarion, Arcturian, Metatron, Michael และ Salusa เป็นต้น

    มันเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ที่ถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่สุด ที่ทุกๆรูปธรรมจากต่างมิติ จะพูดถึงเหมือนกันหมด
    เช่น เดียวกับเรื่องกาลเวลา ว่าในมิติที่สูงกว่า คือตั้งแต่มิติที่ 5 ขึ้นไป มันจะไม่มีช่องว่างและกาลเวลาอยู่

    เจ้าโครงข่ายคริสตัลไลน์ของโลกที่ว่านี้ มันก็คือ โครงข่ายที่เดิมทีเป็นโครงข่ายของสนามพลังงานแม่เหล็กโลกธรรมดาๆ
    ที่ถูกครายออน (Kryon) และคณะ ซึ่งเป็นทีมผู้เชี่ยวชาญด้านแม่เหล็ก มาช่วยปรับปรุง หรือ upgrade ให้มัน
    กลายไปเป็นสนามพลังงานคริสตัลไลน์ เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งเรื่องราวตรงนี้ ครายออนได้พูดถึง และได้แจ้งเอาไว้แล้ว
    เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งถ้าใครเคยได้อ่านหนังสือชุด "ครายออน" เมื่อสมัยนั้น ก็คงจะพอจำได้และคุ้นเคยมาแล้ว
    และเรื่องราวเดียวกันนี้ ก็มีกล่าวถึงในหนังสือของ อาจารย์ ปริญญา ตันสกุล ที่เขียนหนังสือชุด "จิตจักรวาล" อีกด้วยนะครับ
    แม้ว่ารายละเอียดของมันจะไม่ตรงกันเป๊ะทั้ง 100% ก็ตาม

    และนอกจากนี้ ท่านมหาเทพเมตาตรอน ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด และก็ได้ update สถานะ
    ของการปรับปรุงโครงข่ายสนามพลังงานคริสตัลไลน์นี้ ให้เราทราบมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงที่มันยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี
    คือในช่วงก่อนวันที่ 12/12/12 นั่นเอง และตอนนี้มันก็ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ยังทำงานได้ไม่เต็มที่ทั้ง 100%
    เพราะว่ามันยังต้องใช้เวลาค่อยๆอุ่นเครื่องขึ้นมาจนเต็มศักยภาพอยู่ ซึ่งผมก็จำไม่ได้แล้ว
    ว่าเมื่อไหร่มันถึงจะเต็มศักยภาพของมัน หรือว่าเต็มที่แล้วก็ไม่รู้นะครับ

    ลองเข้าไปอ่านดูในกระทู้พวกนี้นะครับ มีหลายกระทู้มาก

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ลน์-144-ของโลก-และกระบวนการ-ascension.364187/

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ัล-10-10-10-และการล่มสลายของแอตแลนติส.261271/

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...้ายเพื่อการเลื่อนระดับขึ้นในปี-2012-a.332081/

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...1-11-11-นี้-ยุคแห่งพลังงานคริสตัลไลน์.312853/

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...บฟ้าแห่งนกพิราบขาว-และการจุดชนวนเอกภพ.333184/

    ......................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2014
  16. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096
    คือผมงงตรงที่บอกว่า "ผมผมยังต้องใช้เวลาค่อยๆอุ่นเครื่องขึ้นมาจนเต็มศักยภาพอยู่" ช่วยขยายความประโยคนี้หน่อยได้ไหมอะครับ ว่า "ผม" ในที่นี้คือคุณชยุตหรือเปล่าครับ ถ้าใช่.. แล้วคุณชยุตบอกหน่อยได้ไหมครับว่ามันหมายถึงทำอะไรเหรอครับ
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    แค่พิมพ์ผิดหนะครับ

    "มัน" ครับ ไม่ใช่ "ผม" อิิอิ


    ............................
     
  18. nununo

    nununo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +1,096

    แหม่.. ผมเลยจินตนาการไปไกลเลย เอ่อ.. ช่วงนี้เวลาผมหายใจเข้าผมจะรู้สึกถึงหรือภาวนาคำว่า "สว่าง" ผมรู้สึกว่ามันช่วยไล่ความรู้สึกด้านลบต่างๆออกไปได้ทุกครั้งที่ผมรู้สึกลบๆกับอะไรก็ตาม ตั้งแต่อ่านกระทู้ที่คุณชยุตแปลเรื่องการภาวนาเพิ่มพลังแสงสว่างน่ะครับ ขอบคุณนะครับที่แปลกระทู้นั้นพอดี ผมได้ใช้กับตัวเองพอดีเลย หวังว่าท่านอื่นๆที่เหนื่อยล้าในช่วงเวลาแบบนี้ ก็ให้ลองดูนะครับ ตอนหายใจเข้า คำว่าอะไรก็ได้ครับ ที่ท่านถนัดจะภาวนา แล้วได้ความรู้สึกของความสว่างในตัว บริเวณหน้าอกนะครับ โดยส่งไปถึงฝ่ามือทั้งสองฝ่ามือเลยนะครับ.. พอดีตอนที่ผมลองฝึกวันแรกนั้น ผมภาวนาคำว่า "ประจุไฟฟ้า" แล้วก็จินตนาการถึงไฟฟ้าในตัวเราให้มันรู้สึกว่าสป๊าคขึ้นมาตอนหายใจเข้า แล้วพอหายใจออกก็รู้สึกว่าไฟฟ้ามันติดๆดับๆน่ะครับ เพราะมันทำให้ผมรู้สึกสั่นสะเทือนกับคำนี้ดีครับ แล้วซักพักหนึ่ง บริเวณฝ่ามือทั้งสองข้าง มันก็รู้สึกมีพลังงานแทงทะลุฝ่ามือไปเลยอะครับ ก็เลยไปค้นหาเรื่องจักระ ก็เลยพบว่า บริเวณกลางฝ่ามือนั้น เป็นจักระที่เจ็ดของมือ (ที่มือทั้งสองข้างก็มีจักระเจ็ดจุดเหมือนกันนะครับ เหมือนที่ช่วงกลางของลำตัวก็มีแต่ผมไม่ได้ศึกษามาก่อนอะนะครับ) ลองเอาฝ่ามือทั้งสองข้างมาจ่อกันครับ อธิบายยังไงดีล่ะ นึกถึงการพนมมือก่อนนะ แล้วเคลื่อนมือออกให้มีระยะห่างจากกันครับ เวลาหายใจเข้าด้วยคำภาวนาที่ท่านเลือกใช้ เช่นคำว่า "สว่าง" แล้วให้รู้สึกว่าลำตัวสว่างขึ้น และส่งพลังงานสว่างนั้นต่อไปที่ฝ่ามือทั้งสองข้าง แล้วปล่อยพลังงานนั้นออกมาปะทะกันพอดี ก็จะช่วยให้ฝึกหายใจแล้วได้มีความสั่นสะเทือนของพลังงานระหว่างสองฝ่ามือที่มาปะทะกันด้วย จะได้ไม่ง่วงนะครับ ลองดูนะครับ ผมก็พึ่งลองมาไม่กี่วันเองครับ

    แล้วก็เวลานอนหลับช่วงนี้ รู้สึกว่าจะอยากหลับเร็วขึ้นนะ เมื่อก่อนสมัยเด็ก ผมมักจะนอนแล้วเกิดสภาวะกระดุกกระดิกไม่ได้ แถมหายใจก็ไม่ได้ จะตายเอาซะให้ได้ ถ้าดิ้นไม่หลุดนี่ก็ไม่รู้จะไหลตายไปเลยไหม แต่ทุกครั้งที่ผมดิ้นหลุดออกมา พอลืมตาขึ้น ผมจะเห็น "มือ" เป็นเงาของฝ่ามือ ในทุกจุดที่ผมมองไปแล้วภาพมือจะไปตกตรงผนังตรงจุดที่ผมมองนั้น อยู่ประมาณนาทีหนึ่งก็ค่อยๆจางหายไป พอโตขึ้น ก็มีอาการถูกกดทับอยู่ แต่ไม่เห็นมือแล้ว ผมก็กำลังสังเกตุช่วงนี้อยู่ เพราะมันเหมือนมีการระเบิดของพลังงานในตัวมากขึ้น ทำให้การกดทับตรงนั้นผมเริ่มไม่ค่อยรู้สึก แต่จะไปรู้สึกตรงการระเบิดพลังงานแทน พอดีผมเป็นคนชอบนอนกับพื้นไม้ คือไม่ต้องปูอะไรเลย แค่หมอนกับผ้าห่มก็พอ แล้วบางทีนอนตะแคงจนแขนเริ่มชา แล้วก็เกิดอาการกระดุกกระดิกไม่ได้ก็มี เลยไม่ชัดเจนว่า อาการเหล่านี้น่าจะจากหลายสาเหตุ แต่ถ้าสมัยเด็กๆนี่ชัดเจนเลย เพราะนอนท่าไหน หรือนอนตรงไหน ที่ไหน โดนกดทับตลอด ขนาดนอนกับพ่อ แม่ พี่ ในห้องเดียวกัน ก็ยังโดนทั้งคืน พอดิ้นหลุดมา ลงไปนอน ก็โดนอีก ทั้้งคืนก็มี แต่ผมไม่เคยเอาไปคิดมากเรื่องผีอำหรืออะไรแบบนี้ เพราะเป็นคนชอบแผ่เมตตา ก็เลยคิดว่าถ้าเป็นผีอำเราก็แผ่เมตตาให้ละกัน คนที่บ้านหรือเพื่อนจะรู้เลย ถ้าผมนอนอยู่ แล้วส่งเสียงอ้าเอ้ออะไรก็ตาม ก็จะรู้ละ ไปแตะมัน (เป็นเสียงที่ผมพยายามตะโกนขอให้ใครก็ได้มาแตะผมที เพราะผมหายใจไม่ออกแล้ว ณ เวลานั้น ซึ่งบางครั้งก็ไม่มีใครได้ยิน ทั้งที่อยู่ใกล้ๆกัน หรือบางทีเสียงดังได้ยินถึงข้างบ้านก็มีอะครับ) แต่ตอนนี้เริ่มคิดเรื่องการสั่นสะเทือนด้วย ที่ผมมาแปลนี่ก็เพราะพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็ขอบคุณกระทู้นี้ที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมได้คิดถึงเรื่องมิติที่สูงกว่า และการเลื่อนระดับของมนุษยชาติครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2014
  19. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +680
    ผมจะบอกว่า.โดนใจผมมั่กมาก ฮ่า
    ขอบคุณคุณท่านชยุตมากนะครับ น๊านๆถึงจะมีอะไรโดนใจผมได้แบบนี้ ขอบคุณหลายๆๆเน้ออ
     
  20. X-File

    X-File Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +78
    ก่อนที่จะได้อ่านข้อความนี้ ผมพึ่งฝันแบบนี้ไปเมื่อคืนนี้เอง คืนวันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557 เวลาน่าจะเป็นช่วงใกล้สว่างแล้วระหว่าง ตี 3-ตี 5 ในฝันเหมือนกันว่าตัวผมอุ้มท้องอยู่ใกล้คลอด แล้ววิธีคลอดคือใช้มีดกรีดใต้ท้องให้เด็กออกมา ความรู้สึกโดนมีดปาดท้องยังอยู่เลยครับ สถานที่ในฝันเหมือนเป็นใต้ถุนบ้านยกสูงแบบชนบท พอปาดท้องปุ้บเด็กก็ไหลออกมาหัวกระแทกพื้นหัวช้ำเลย ผมก็โกรธหมอที่ทำคลอดมากๆ เด็กที่คลอดมาตัวสูงใหญ่กว่าเด็กทารกทั่วไปมากเหมือนเด็กอายุเกือบขวบ เป็นเด็กผู้ชาย สักพักผมเริ่มรู้สึกว่าผมกลายเป็นเด็กคนนั้นแล้ว สักพักก็เดินได้แล้ว (ความรู้สึกเหมือนผ่านไป 1 หรือ 2 วันหลังจากคลอดออกมาครับ) ผมแปลกใจมากเลยในฝัน เด็กพึ่งคลอดเดินได้ไง ตัวก็สูงใหญ่แล้ว เป็นฝันที่แปลกมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...