จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. Natcha@uk

    Natcha@uk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    618
    ค่าพลัง:
    +9,444

    ขออนุโมทนากับ จิตบุญทั้งสองดวง ที่เกิดขึ้น ในเวลาใกล้เคียงกัน จิตบุญ 138 คุณเกียรติศักดิ์ และ จิตบุญ 139 คุณมยุรี รวมทั้งครูผู้สอนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน มา ณ ที่นี้ ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


    ขออวยพรให้ ท่านทั้งสอง ซึ่งผ่านการปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ เป็นระยะเวลานาน ถึง 7-8 เดือนนั้น ขอให้จดจำ สภาวะอารมณ์จิตที่ท่านทรงได้ในวันที่จิตยก สภาวะอารมณ์จิต นั้นคือ อารมณ์พระนิพพาน ...

    ***การได้แชมป์ ว่ายากแล้ว ...แต่การรักษาแชมป์ ไว้นี่สิยากกว่า ***

    จิตของท่านทั้งสอง ผ่านการเดินมรรคมาทั้ง สมถะ และ วิปัสสนา จิตได้ถูกฝึกมาแล้วเป็นอย่างดี เพียบพร้อมด้วย
    สติ สมาธิ และ ปัญญา ตามแนวทางการสอน จิตเกาะพระ ...

    จิตดวงนี้เป็นจิตที่มีปัญญา รู้เท่าทัน กิเลส รู้ตามความเป็นจริงของขันธ์ 5 ในระดับหนึ่ง

    จิตดวงนี้ สามารถจัดการกับความทุกข์ได้ เพราะจิตเข้าถึงอารมณ์ในขั้นของสังขารุเบกขาญาน...

    นี่แหละ คือ อารมณ์พระนิพพาน ที่ผ่านการเจริญวิปัสสนาญาน ขอให้รักษาอารมณ์นี้ ไว้ให้ได้นานตลอดไป และ ยังคงต้องปฏิบัติธรรมเดินมรรคต่อไป เพื่อละรูป และ นามละเอียด เพื่อเจริญปัญญาให้ได้ปัญญาญานในที่สุด...ให้มีญานเป็นเครื่องรู้แจ้งเห็นจริงตัดกิเลสเป็นสมุทเฉทปหาน ให้จิตหลุดพ้นจากรูปและนามโดยเด็ดขาด แบบไม่เหลือเชื้อที่จะทำให้กลับมาเกิดอีก...
    นั่นคือ พระนิพพาน เป็นที่ไปทั้งสองท่าน ในชาตินี้ เทอญ

    ขออวยพรให้ท่านทั้งสอง เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ สาธุ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2013
  2. เกียรติ_K

    เกียรติ_K เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +139
    ขออนุโมทนาสาธุกับคุณอุ๋ยจิตบุญดวงที่139และครูผู้สอนทุกท่านด้วยครับ......อนุโมทนาสาธุครับ
     
  3. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [​IMG]

    ผู้ปฎิบัติธรรม คือผู้กำลังเดินมรรค กำลังจะได้ผล และก็กำลังจะได้นิพพานในอนาคตกาลฯ
    ผู้ปฎิบัติธรรม คือผู้ที่กำลังจะหาความจริงของชีวิตตนเอง
    ผู้ปฎิบัติธรรม จึงเปรียบเสมือนดอกบัว ที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำแล้วนั้น
    คอยชูดอกรับแสงพระอาทิตย์ก่อนที่จะหลุดโรยลงไปอีกที

    จึงเปรียบเสมือนจิตของผู้ปฎิบัติธรรม เมื่อปฎิบัติไปแล้วย่อมพบปัญญา พบธรรมภายในจิตตน
    หรือพบความจริงแห่งชีวิตตนก่อนที่ขันธ์จะดับลงไป นั่นเอง

    เมื่อเราสามารถเข้าถึงสภาวธรรม หรือสภาวะจิตตนเองแล้ว
    ย่อมจะรู้ความจริงแท้ที่มีอยู่ธรรมชาตินั้น

    โมทนาสาธุกับทุกๆดวงจิตที่กำลังเจริญปัญญา ตามมรรคมีองค์๘ นี้
    สาธุ
     
  4. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    โมทนาสาธุกับจิตบุญ ดวงที่ ๑๓๘ (คุณเกียรติ) และ จิตบุญ ๑๓๙ (คุณอุ๋ย)
    โมทนาสาธุกับครูผู้สอนและผู้เกี่ยวข้องทุกท่านด้วยครับ

    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ สาธุ​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 ธันวาคม 2013
  5. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    วันนี้โอนตังค์ทำบุญ

    http://palungjit.org/posts/8616153 100 บาท

    http://palungjit.org/threads/ยอดล่า...รค-ขาดอีก-300-000-บาทจะปิดโครงการครับ.515247/ 200บาท
    อยากทำบุญให้พ่อขับมอไซด์ไปโอนตังค์ขากลับเจอตำรวจตั้งด่านเก็บตังค์เลยทำบุญให้หลวงไป

    200บาท(ตรูไม่ได้ตั้งใจทำบุญให้หลวงนะเว้ย5555)พิจรณามีอารมณ์ปฎิฆะไหมเฉยๆทำบุญมี

    อุปสรรคบุญแรง555ทุกข์โว้ยชั่งมันโว้ย ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายไม่เกิดแล้วเว้ยพอกันทีกับการเกิด

    ตอนนี้ป่วยไข้อีกแล้วเลยพิจรณาร่างกายอีก(หวัดรับประทาน)เป็นคราวก่อนอธิฐานไว้ว่าหากยัง

    ตัดร่างกายไม่ขาดขอให้เป็นอีกเลยโดนหวัดรอบ2โดนจัดหนัก

    ภาพพระเปลี่ยนอีกแล้วครับฝึกใหม่ๆจับภาพพ่อชินราชสีทองแล้วเปลี่ยนเป็นสีขาว

    จากสีขาวเปลี่ยนเป็นแก้วใสจนเปลี่ยนภาพเป็นแบบนี้อะครับจับภาพสาวๆยังไม่ชัดขนาดนี้เลยชัดมากๆเหมือนท่านพ่ออยู่กับผมตลอด

    พี่ๆร่วมโมทนาบุญกับผมนะครับบุญแรงไปทำบุญโดนตำรวจจับด้วย5555

    ทานนี้อธิฐานเพื่อหลุดพ้นและอุทิศส่วนกุศลให้พ่อมีความสุขอย่างเดียวครับ

    ตั้งกำลังใจต่อให้โดนอุปสรรคหนักกว่านี้หรือต้องตายผมก็จะไปทำบุญขวางผมไม่ได้หรอกครับ

    รูปเอาไว้ด้านบนไม่เป็นกราบขอขมาท่านพ่อด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ธันวาคม 2013
  6. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209
    จริงๆนะเนี่ย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ...ไม่ต้องอาลัยอดีต...

    ...ไม่ต้องพะวงอนาคต...

    ...ขอแต่ให้ทำหน้าที่ของตน...

    ...อย่างถูกต้อง...ในปัจจุบัน...ก็เพียงพอแล้ว.....

    ...คำสั่งสอนของหลวงพ่อ พุทธทาสภิกขุ...กราบน้อมรับพระธรรมคำสอนเจ้าค่ะกราบๆ
     
  8. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ก่อนที่จะภาวนา หรือ รู้ลมหายใจ

    ...ท่านให้พิจารณา อนิจจัง ทุกขัง อนัตตาก่อน...

    ...คิดว่าตัวเราก็ดี ตัวคนอื่นก็ดี สัตว์โลกก็ดีเป็นอนิจจังทั้งหมด คือ

    -เป็นของไม่เที่ยง ไม่มีการทรงตัว แล้วร่างกายนี้มันจะแก่เราก็ห้ามมันไม่ได้

    ...เราห้ามความแก่ไม่ได้ ถ้ามันจะป่วย เราก็ห้ามไม่ให้ป่วยไม่ได้ มันจะตาย...

    -เราก็ห้ามความตายไม่ได้...แล้วมันก็เป็น อนิจจัง...เป็นของไม่เที่ยง...

    ...และขณะที่มันไม่เที่ยงอย่างนี้...มีการเคลื่อนไป มันแก่ก็ดี ป่วยก็ดี...

    -มันจะตายก็ตาม เราก็เป็นทุกข์...โลกนี้นอกจากจะไม่เที่ยงแล้ว ก็เป็นทุกข์

    ...อนัตตา ในที่สุดก็ตาย...ในเมื่อร่างกายจะต้องตายอย่างนี้...

    -เราจะต้องตายอย่าง...คนมีกำไร...ไม่ใช่คนขาดทุน...

    ...พระธรรมคำสั่งสอนของหลวงพ่อฤาษิลิงดำ คัดจากหนังสือธัมมวิโมกข์ ปี่ที่ ๓๓

    .ฉบับที่ ๓๗๐ มกราคม ๒๕๕๕ น้อมกราบท่านพ่อด้วยเศียรเก้ลาเจ้าค่ะกราบๆๆๆ
     
  9. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    สาธุ ๆ ๆ โมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ 138 และ 139 ด้วยค่ะ
     
  10. ladylamb

    ladylamb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +200
    สวัสดีค่ะท่านผู้อ่านทุกท่าน ทั้งเพื่อนนักปฏิบัติธรรมและที่ไม่ปฏิบัติ
    ข้าพเจ้าขอรายตัวอย่างเป็นทางการซะทีหลังจากที่ได้เข้ามาเรียนวิชาจิตเกาะพระเป็นเวลา 7 เดือน กับ อีก27 วัน ( สถิติตามที่ครูเกษารยงานค่ะจริงๆแล้วตัวข้าพเจ้าเองก็ไม่ได้จดบันทึกเลยว่าตัวเองเริ่มเรียนเมื่อไหร่ ขอบคุณครูเกษค่ะที่บันทึกไว้ให้) จนถึงวันจิตยกเมื่อวันที่ 11ธันวาคมเป็นจิตบุญที่139 ข้าพเจ้าจะขอเล่าการปฏิบัติพอสังเขปตั้งแต่เริ่มเข้ามาปฏิบัติจนถึงวันจิตยก เพื่อเป็นธรรมทานแก่ท่านที่ได้เข้ามาอ่านค่ะ

    ขอเริ่มเลยค่ะข้าพเจ้า มยุรี แลมบ์ ( อุ๋ย) เป็นจิตบุญสาย UK ค่ะจากการขัดเกลาด้วยความมานะและอดทนของคุณครูพี่แนท และคุณครูท่านพี่ภู (เดี๋ยวจะขยายความตรงนี้เิพิ่มว่าท่านทั้งสองมีความอดทนแค่ไหนเพื่อที่ท่านผู้อ่านทุกท่านจะได้ร่วมโมทนา สาธุการกับจิตอันบริสุทธิ์ของครูทั้งสองท่านค่ะ) และแล้วข้าพเจ้าก็มีวันที่สมเด็จปู่องค์ปฐมอันเป็นที่รักยิ่งของเราๆท่านๆทั้งหลายท่านได้ทรงพระเมตตาเสด็จมารับดวงจิตของข้าพเจ้าในนิมิต

    จุดหักเหที่ทำให้ข้าพเจ้าเข้ามาเรียนจิตเกาะพระก็คือเจ้ากิเลสตัวโทษะที่ข้าพเจ้าปล่อยให้มันครอบงำจิตใจเปลี่ยนจากร่างกายมนุษย์เราดีๆ กลายเป็นตัวสัตว์ร้ายในสายตาของคนที่ข้าพเจ้ารักในเวลาโกรธขึ้นมาไม่มีอะไรจะหยุดยั้งมันได้ ยังถือว่าโชคดีที่ข้าพเจ้าเป็นคนชอบอ่านหนังสือธรรมะซึ่งได้เป็นสื่อชักนำให้ข้าพเจ้าอยากจะหาทางออกให้กับตัวเองไม่อย่างนั้นชีวิตครอบครัวของข้าพเจ้าต้องมีอันต้องพังแน่ๆ
    ข้าพเจ้าได้รู้จักจิตเกาะพระจากการแนะนำของคุณเพ็ญ UK ค่ะ ปกติก็เป็นกัลยาณมิตรกับคุณเพ็ญคุยเรื่องธรรมกันตลอด และแล้ววันหนึ่งคุณเพ็ญก็แนะนำให้รู้จักครูดาว ได้คุยทางโทรศัพท์กับครูดาว ครูดาวได้ถามความรู้สึกเพื่อความแน่ใจว่าอยากจะเข้ามาเรียนจริงๆเพราะวิชาจิตเกาะพระไม่ใช่วิชาที่เรียนๆเล่นๆ ใครเรียนจริงก็ได้ของจริงไป ตามที่ท่านจิตบุญทั้งหลายรวมทั้งตัวข้าพเจ้าเองได้ประจักษ์กันมาแล้ว ต่อมาก็มีคุณครูพี่แนทเข้ามาเสริมรายละเอียดของการปฎิบัติตั้งแต่ขั้นเริ่มแรกเลย ตอนแรกเริ่มเดิมที่เลยก็เคยบอกกับคุณครูพี่แนทว่าตัวเองนอกจากคปัญหาเรื่องความโมโหแล้วนอกนั้นก็ไม่มีความทุกข์อะไรเลย จนมารู้เอาภายหลังว่าตัวเองนั่งอยู่บนกองทุกข์แต่ไม่รู้จักทุกข์เอาเสียเลย

    การปฏิบัติของข้าพเจ้านั้นล้มลุกคลุกคลานมาก เนื่องด้วยภาระหน้าที่ของกายหยาบนั้นมันยุ่งเสียจนแทบจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย เป็นคุณแม่ลูกสอง ทำงานเพื่อมีรายได้มาจุนเจือครอบครัว 3วันต่ออาทิตย์ ( ทำความสะอาดและช่วยงานคุณสามีซึ่งก็คืองานผ่าฟืนขายค่ะ) แค่นั้นยังยุ่งไม่พอ ยังพาตัวเองเข้าไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งแห่งตนทางโลกได้ในอนาคต อีกทั้งเป็นผู้ช่วยครูในโรงเรียนเด็กๆซึ่งเป็นงานอาสาสมัคร เพื่อจะได้มีข้อมูลเข้ามาเขียนรายงานส่งคณูที่วิทยาลัยค่ะ

    ช่วงแรกๆของการปฏิบัติก็มีการเขียนตอบการบ้านกันทางอีเมลกับคุณครูดีค่ะแต่พอเวลามีไม่พอให้เราได้เขียนก็เปลี่ยนมาส่งการบ้านกันทางโทรศัพท์แทน ซึ่งคุณครูพี่แนทท่านก็เข้าใจลูกศิษย์ของท่านดีมากค่ะ( จริงๆแล้วท่านอยากจะให้เขียนเพื่อจะได้เป็นธรรมทานกับผู้ปฏิบัติท่านอื่นได้บ้างและเป็นการปฏิบัติวิริยะบารมีของข้าพเจ้าไปในตัวด้วย) ขนาดนั้นการสนทนาธรรมทางโทรศัพท์ส่วนมากจะกระทำได้ตอนที่ข้าพเจ้าขับรถ ใช้วิธีเสียบหูฟังคุยกัน ข้าพเจ้าอาศัยอยู่นอกเมืองประมาณ 12ไมล์ ขับขึ้นเขาลงเขาคลื่นหายประจำ ต้องกดต่อสายใหม่เรื่อย (ตอนนี้คุณครูพี่แนทเริ่มจะชินกับการต้องพูดคนเดียวในสาย เพราะลูกศิษย์หายเข้าหุบเขาไปแล้วค่ะ) บางทีคุยกันได้อรรธ ได้ธรรมกัน ก็ลากยาวพาคุณครูพี่แนทเข้าไปผ่าฟืนด้วย ต้องทนฟังเสียงเครื่องผ่าซึ่งเป็นรถแทร็กเตอร์ดังกระหึ่มตลอดตลอดเวลาการสนทนา บางวันก็พาท่านเข้าไปทำความสะอาดด้วย เสียงเครื่องดูดฝุ่นก็ดังให้คุณครูเราได้ฝึกขันติบารมีอย่างดีเลยแหละค่ะ จริงๆแล้วก็เกรงใจท่านอยู่มากเหมือนกัน ถึงได้บอกว่าท่านมีความอดทนเป็นที่หนึ่งซึ่งจะหาตัวเทียบได้ยากมาก ยอมสละเวลาอันมีค่าของท่านเพื่อที่จะช่วยมวลมนุษยชาติโดยไม่เคยเรียกร้องสิ่งตอบแทนใดๆ สมแล้วที่ท่านปู่ และหลวงพ่อท่านได้เลือกให้ท่านได้เป็นผู้พาลูกๆหลานๆท่านกลับบ้านพระนิพพาน (ข้าพเจ้าขอน้อมคารวะในคุณความดีนี้ด้วยความเคารพยิ่ง)

    การปฏิบัติเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เวลากลางวันก็ทำงานของกายหยาบไปพร้อมทั้งการระลึกถึงภาพพระไปด้วย นึกได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางทีก็ลืมนึก ตามแต่จะทำได้ในตอนนั้นค่ะ ส่วนตอนเย็นหลังจากเสร็จภาระเรื่องดูแลครอบครัวแล้วก็จะจัดเวลาพอที่จะให้ตัวเองได้มีการสวดมนต์ไหว้พระและต่อด้วยการนั่งพระกรรมฐานภาวนาทุกคืน จนจิตเขาเริ่มชินเป็นปกติ

    พอจิตเราเริ่มชินแต่จิตของคุณสามีซึ่งเป็นชาวต่างชาติเขาไม่ชินกับเรา ถึงจะเป็นเวลาหลายปีที่เขาได้เห็นขนบธรรมเนียมของการไหว้พระสวดมนต์ของคนไทยเราตามวัดไทยที่เขาได้เดินทางไปร่วมในงานแต่เขาก็ไม่เคยเห็นการปฏิบัติจริงๆที่มุ่งจะหลุดพ้นจากวัฏสงสาร คำถามต่างๆได้เกิดขึ้นในใจเขามากมาย เขาก็พยายามจะหาคำตอบจากตัวข้าพเจ้าแต่ก็คงจะไม่เด่นชัดมากเท่าไหร่ ความขัดแย้งเริ่มเกิดขึ้นก็เนื่องจากว่าเขาก็มีความหวังดีเห็นเราทำงานมาเหนื่อยๆทั้งวัน แทนที่จะพักผ่อนด้วยการนั่งดูทีวีกันตอนเย็นตามที่คนส่วนใหญ่เขาทำกัน แต่ข้าพเจ้ากลับปลีกตัวเข้าหามุมสงบเงียบของตัวเอง หนักๆเข้าข้าพเจ้าก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ตอนนั้นกำลังใจตกมาก พระท่านคงจะนึกสงสารและเมตตาข้าพเจ้าและครอบครัว ท่านได้เข้ามาสงเคราะห์ให้คุณสามีสื่อถึงท่านได้ในนิมิต หลังจากนั้นมาทุกอย่างก็กลับกลายจากหลังมือเป็นหน้ามือ ไม่มีคำถามใดๆเกี่ยวกับการปฏิบัติของข้าพเจ้าจากคุณสามีอีกเลยแถมยังช่วยสนับสนุนการปฏิบัติ รวมถึงเกื้อหนุนให้งานต่างๆที่ข้าพเจ้าได้กระทำเพื่อพระพุทธศาสนาสำเร็จลุล่วงด้วยดีมาตลอด

    การเดินมรรคก็ดำเนินไปเรื่อยๆ พอติดขัดช่วงไหนคุณคครูพี่แนท คุณครูท่านพี่ภูจะเมตาเข้ามาแนะนำตลอด การปฏิบัติธรรมนี่สำคัญมากต้องมีครูบาอาจารย์ท่านผู้รู้สอบอารมณ์เรื่อยๆ ไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่รู้ว่าการปฏิบัติของเราได้มีความก้าวหน้ามากน้อยแค่ไหน
    ช่วงที่น้องจิตของข้าพเจ้าเข้าไปติดกรรมฐานก็นานพอสมควรกว่าจะออกมาได้ ต้องเจอเรื่องน่าสิ่วหน้าขวานต่อหน้าต่อตาเจ้าน้องจิตถึงได้กระโดดออกจากถ้ำได้ หลังจากนั้นมาพอการเจริญสติของข้าพเจ้าต่อเนื่อง จิตเขาก็จะมีการวิปัสนาเรื่องต่างๆของเขาไปเรื่อยซึ่งตัวข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้หรอกว่าเขาทำของเขาไปถึงไหน แต่จะรู้ก็ต่อเมื่อเวลาเจอบททดสอบหรือสิ่งต่างๆที่เข้ามากระทบ เขาจะยอมรับมันตามกฏธรรมดาได้มากขึ้น

    จริงๆแล้วข้าพเจ้าเองก็ไม่รู้เลยว่าตัวเองจิตยก เพียงแต่ได้โทรไปรายงานการบ้านตามปกติและได้เล่าความฝันของตังเองให้คุณครูพี่แนทฟัง ในคืนนั้น เวลา 3:03 น.ก่อนที่ข้าพเจ้าจะได้ฝันนั้น พอดีลูกสาวคนโตได้ลุกขึ้นมาอาเจียนเอาของที่เขากินเข้าไปเมื่อตอนเย็นออกมาทั้งหมดเลย ซึ่งตอนที่เขาจะเข้านอนอาการเขาก็ปกติดีมาก ก็เป็นห่วงเขาเพราะวันพรุ่งเขาจะต้องไปร่วมการแข่งขันว่ายน้ำ พอเห็นสิ่งที่มันออกมาจากร่างกายของคนเราสดๆแบบนั้นแทนที่มันจะขยะแขยงแต่ไม่ นี่กลับไปยืนพิจารณาจนเสร็จสรรพแล้วค่อยเอามือไปล้วงล้างออกจากอ่างน้ำและก็บอกกับตัวเองในใจว่าในร่างกายของตัวเองยิ่งสกปรกกว่านี้เป็นไหนๆ หลังส่งลูกสาวกลับห้องเขาแล้วตัวเองก็ล้มตัวลงนอนต่อ แต่ก่อนจะผลอยหลับไปอีกรอบก็ให้นึกถึงภาพพระซึ่งเป็นปกตินิสัยแล้ว หลับไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบได้มารู้อีกทีตัวเองอยู่ในน้ำแล้วและมีท่อนไม้ยาวและหนักมากทับอยู๋(แต่ตัวเองไม่รู้สึกหนักอะไร รู้สึกเบามากเหมือนตังเองไม่มีร่างกายเลย) และรู้ตัวในนิมิตนั่นเลยว่าตัวเองจะต้องตายแน่ๆแต่ก็ไม่มีความรู้สึกกลัวแต่อย่างใดเลย สิ่งแรกที่นึกได้คือต้องการไปกราบลาแม่บังเกิดเกล้าและก็ได้น้อมจิตไปกราบเท้าท่านและบอกท่านว่าให้สวดมนต์ไหว้พระอย่าได้ขาดนะ หลังจากนั้นจิตก็นึกถึงภาพพระของเขา และภาพของเสด็จปู่ก็ได้ปรากฏขึ้นในน้ำเหนือร่างกายหยาบของข้าพเจ้า อย่างไม่รอช้า จำได้ว่าตัวเองรีบเกาะพระบาทท่านทันทีเลย แล้วทุกอย่างก็ดับเงียบหมด

    เล่ามาถึงตรงนี้ข้าพเจ้าก็อยากจะบอกทุกท่านว่าขออย่าได้ท้อถอยกับการปฏิบัติกันเลย คนอื่นไม่เห็นแต่เราเห็น พระท่านเห็น ท่านไม่ทอดทิ้งเราท่านอยู่กับเราตลอด ขอให้ทุกท่านมีความเพียรในการที่จะไม่ต้องกลับมาเกิดอีกซ้ำแล้วซ้ำเล่าซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าเบื่อมาก และไหนจะต้องมาทนกับไอ้เจ้าแรงกระทบจากอารมณ์ทั้งหลายทั้งมวล ขอเป็นกำลังให้กับทุกท่านค่ะ

    อันบุญกุศลใดที่จะได้เกิดจากการปฏิบัติของข้าพเจ้านี้ ข้าพเจ้าขอน้อมถวายแด่พระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์เจ้าทั้งหลาย รวมถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์และผู้มีพระคุณทุกท่าน
    ขอข้าพเจ้าและท่านผู้อ่านทุกท่านได้มีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ
    อุ๋ย uk

    นี่ขนาดรายงานพอสังเขปนะค่ะเนี่ย เล่นร่ายยาวเชียว ลูกศิษย์ ใครเอ่ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2013
  11. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ขออนุโมทนาสาธุ กับคุณอุ๋ย เป็นที่น่ายินดี และดีใจ ที่ท่านได้เดินทางมาถึงจุดนี้ ชีวิตเกิดมาเป็นของยาก และจะดําเนินชีวิตให้ถึงความดีก็เป็นของยาก แต่ตอนนี้ จิตท่านได้ผ่าน"ยากลําบาก"เดินเข้าสู่ทางธรรม ที่เต็มไปด้วยความสว่างไสว และความสุขที่ได้เกิดขึ้นในหัวใจของท่าน ผู้เขียนขอแสดงความยินดี และดีใจเป็นอย่างมาก อ่านข้อความข้างบนนี้แล้ว เกิดความซาบซึ้งแทนท่านมากๆ ที่ได้ผ่านพ้นอุปสรรคนาๆประการมาได้ ท่านผู้นี้ มีความอดทน อนกลั้น คือ มีขันติบารมีสูง จึงทําให้ท่านมีวันนี้ได้ ขอให้ท่านจงเจริญก้าวหน้าในธรรมของท่านยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ...สาธุค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2013
  12. therd2499

    therd2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    388
    ค่าพลัง:
    +3,209


    ขออนุโมทนาและขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุครับ
     
  13. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    จิตบุญวันนี้ จงดำเนิน จงพัฒนาจิตของตนเอง อย่าหยุดยั้ง
    โดยทำควบคู่กับไปกับภายนอก คือกายทำงานทางโลกไปตามปกติทุกอย่าง
    แต่ภายใน อย่าหยุด จนกว่าจะดับขันธ์

    หน้าที่ของจิตบุญใหม่นี้ก็คือ แยกกายแยกจิตให้ชัดเจน
    โดยเฉพาะ มุ่งหน้าละนามอันละเอียดของตนต่อไป
    โดยเฉพาะ ตัวนามละเอียดสองตัวสุดท้าย อันได้แก่ ตัวสังขาร+วิญญาณของตนเอง

    แต่ถ้าจิตบุญดับธรรมสองตัวนี้ ภายในได้ เท่ากับ อนัตตา คือดับไม่เหลือ
    แต่ภายในกายหยาบ ซึ่งประกอบไปด้วย ธาตุทั้ง๔ โดยเฉพาะรูปนาม
    หรือกิเลสตัณหาฯ แม้นกระทั่ง นามอันละเอียดซึ่งมีอยู่จริงตามธรรมชาติแล้ว
    แต่มีอยู่สิ่งเดียว ที่ผู้ปฎิบัติได้มาหลังจากเดินมรรคแล้ว
    นั่นก็คือ ผล ถ้าเผู้ใดดินมรรค แต่ไม่ได้ผล เพราะฉะนั้น คำว่า นิพพาน ยังอีกไกล

    ส่วนผลจะได้ไม่เท่ากัน จะเป็นเพราะเหตุอันใด ไม่ต้องตามหาคำตอบ
    เพราะเสียเวลา เดินต่อไป ทำความเพียรต่อไป และก็ทำให้เข้มยิ่งๆขึ้นไปด้วย
    จนอารมณ์ตนเป็นเอกัคคตารมณ์ หรือสำรวมจิตให้เป็นปกติภายในนั้น
    ทรงความสงบ ทรงอารมณ์ให้แน่น เพราะกำลังจะสูง บุญบารมีก็จะสูงตาม
    อย่าได้สนใจสิ่งที่เหลวไหล ไร้สาระทั้งหลายแหล่ะ เพราะไม่มีประโยชน์อันใดจริงแท้

    สติ สมาธิ ปัญญา ก็ยังไม่เที่ยง

    แม้นกระทั้ง จิตก็ยังไม่เที่ยง ยังคิด ยังปรุงแต่งไปตามธรรมชาติของมันอยู่อย่างนั้น
    เพราะฉะนั้น ผู้ปฎิบัติจะต้องเร่งปัญญาของตนเองให้กลายเป็น ปัญญาญาณให้ได้
    มิฉะนั้นแล้ว เราไม่มีทางที่จะออกมาจากนามอันละเอียดของตนเองได้เลย
    ถึงจะบอกอาการให้กับพวกเราฟัง ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี ก็เลย ไม่พูดแล้ว
    แต่ถ้าผู้ใดสามารถกระทำได้แล้ว คือได้ปัญญาณหรือ มีญาณเป็นของตนเองแล้ว
    จักรู้ด้วยภาษาจิตเองแหล่ะ ถึงว่า พระตถาคตเจ้า บอกแค่มรรคมีองค์๘ เท่านั้น

    เพราะมรรคข้อที่๙(สัมมาญาณะ) และ๑๐(สัมมาวิมุติ)นั้น เป็นของพระอริยเจ้าหรือพระอรหันตเจ้า หรืออริยบุคคลขั้นสูง เท่านั้น
    กรุณาอย่ามาเล็งที่ข้าพเจ้า บอกไปหลายรอบแล้วว่า ข้าฯไม่ใช่... แค่รู้อยู่เหนือตรงนี้ เฉยๆ


    FB: ภูทยานฌาน2
     
  14. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    ส่วนผู้ที่เป็นจิตบุญเก่าๆ จงอย่าหยุด เพียรตนให้มีกำลังใจสูงสุด
    โดยการรับพระพุทธคุณมาสู่จิตตนให้จงได้ เพราะจะมีกำลังใจละหรือตัดหรืออยู่เหนือกิเลสละเอียดของตนได้
    โดยเฉพาะตัวสังขารขันธ์ ดังที่กล่าวซ้ำอยู่บ่อยๆนั้น
    เพราะถือเป็นธรรมสำคัญมาก เพราะจะเป้นตัวแปลสำหรับการจุติใหม่ของตนด้วย

    ผู้ใดยังเอา ยังไปยึด ยังตามตัวสังขารขันธ์ของตน มายึด มาเป้นตัว เป็นตนมาก
    ก็เห็นมีแต่จะทุกข์มากเท่านั้นเอง
    ผู้ใดคิดนึก ปรุงแต่งมาก ท่านรู้ตัวไหมว่า ท่านได้ตกอยู่ในโลกแห่งความคิดของตนเองไปแล้ว
    โดยมิรู้ตัว หลงไปแล้ว นั่นเอง หลงก็ให้มีสติรู้ว่าหลง เอาใหม่ ทำใหม่

    เพราะฉะนั้น สำหรับคนที่เป็นทุกข์มากกว่าคนอื่นๆนั้นก็คือ คนที่ไปยึดเอาตัวสังขารฯของตนมาเป็นตัวเป็นตนมากนั้นเอง
    พูดง่ายๆก็คือ พวกที่ชอบนัก กับความรู้สึก กับความนึกคิด อันนี้จงเข้าใจกันไว้เลยว่า
    นี่คือนามละเอียดสุดๆของตนเอง หรือกิเลสละเอียดสุดๆของตนเอง จงรู้ตัวไว้ด้วย
    ตามดูให้ทัน เมื่อตามดูทันแล้ว ย่อมจะมีญาณพาออกจากจุดตรงนี้ของตนได้เอง


    แต่พระอริยเจ้าทั้งหลาย ท่านจึงพากันสำรวมจิต มิให้ไปหลงในนามละเอียดหรือกิเลสอันละเอียดยิ๊บๆของตนเอง
    พอทำบ่อย เดี๋ยวเราก็ชินไปเอง ต่อไปจะได้มานั่งขำตนเองว่า เมื่อก่อนกูไปโกรธคนนั้นคนนี้ ทำไมฟ่ะ โง่ซะมัด
    กูหลงรู้สึก หลงไปคิดอย่างนู้นอย่างนี้ เป็นตุ๊เป็นต๊ะ เป็นตัวเป็นตนขึ้นมา ทำไมฟ่ะ

    ผู้เจริญทั้งหลาย จงใช้สติปัญญาของท่านเอง เฝ้าพินิจ พิจารณาธรรมนี้ให้ดีๆ
    เพราะถ้าไม่ผ่านตรงนี้ เหมือนกันตนเองได้เปิดประตูบ้านรับโจรขโมยทุกวันเลย
    ผมหมายถึงกรรมต่าง ไม่ว่าดีและไม่ดี แต่เกรงว่าจะไปรับแต่กรรมไม่ดีซะมากกว่าน่ะจิ


    FB: จบรายงานข่าว...ภูทยานฌาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 ธันวาคม 2013
  15. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    2ความว่าง...ที่ต่างกัน

    [​IMG]

    "คำว่าว่างนี้ ในภาษาคนก็หมายถึงไม่มีอะไรเลย คำว่าว่างในภาษาธรรมนั้น หมายถึงมีครบหมดทุกอย่าง แต่ไม่มีการยึดถือว่าเป็นตัวเป็นตน เมื่อไม่มีการยึดถือว่าเป็นตัวเป็นตนก็เท่ากับว่าง สิ่งทั้งปวงที่ไม่ถูกยึดถือว่าเป็นตัวเป็นตนนั้น เราก็เรียกว่ามันว่าง ฉะนั้นโลกนี้ทั้งโลก ทั้งสัตว์ ทั้งคน ทั้งอะไรทั้งหมด ที่มีอยู่ในโลกนี้ ก็เรียกว่าว่าง เพราะไม่มีความเป็นตัวเป็นตนที่แท้จริง อย่างนี้เรียกว่าว่างในภาษาธรรม นี้เป็นการเปรียบเทียบ ให้เห็นว่ามันต่างกันมาก คำว่าว่างในภาษาคน คือไม่มีอะไรเลย คำว่าว่างในภาษาธรรมมีหมดทุกอย่าง แต่ไม่มีความรู้สึกว่าตัวตน หรือของตน อย่างนี้เป็นต้น"

    .........................
    ท่านพุทธทาส ภิกขุ
     
  16. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    [​IMG]
     
  17. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    [​IMG]
     
  18. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    [​IMG]

    พระป่า ท่านมีคติ อีกอย่างหนึ่ง คือ ไม่ว่าวันไหน จะบิณฑบาต ได้ภัตตาหาร มากน้อย เท่าใด ต้อง ฉันแต่น้อย แต่พอดี แม้จะมีอาหาร ล้นเหลือ ก็จะไม่ฉัน จนอิ่มตื้อ เพราะ ถ้าทำเช่นนั้น จะง่วง ภาวนา ไม่ได้ นอกจาก ระวังไม่ฉันมากแล้ว พระป่า ท่านยังระวัง ไม่ให้ติด รสอาหาร ด้วย โดยการหลีกเลี่ยง อาหารที่อร่อย ทั้งนี้ เพราะเกรงว่าจะ "ติดสุข" นั่นเอง ในเวลาฉัน ต้องพิจารณา ตามแบบ ที่พระพุทธเจ้า ทรงสอน พูดง่าย ๆ คือว่า กินเพื่ออยู่ เพื่อประทังชีวิต ประทังความหิว ท่านจึงเงียบสงบ ระหว่างฉัน ไม่สนทนาพาที อะไรกัน เพราะท่านต้อง พิจารณาอาหาร ไปด้วย

    ที่มา FB
     
  19. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    [​IMG]

    "ผู้อื่นไม่ได้ทำจิตของเราเศร้าหมองดอก, ผู้อื่นไม่ได้ทำให้จิตของเราผ่องแผ้ว, เราเองเป็นผู้ทำให้ผ่องแผ้ว เราเองเป็นผู้ทำให้จิตของตนเศร้าหมอง,ผู้อื่นช่วยไม่ได้ แม้พระพุทธเจ้าก็ช่วยไม่ได้, ท่านทรงเป็นผู้บอกทางให้เท่านั้น.''

    อนาลโยวาท:หลวงปู่ขาว อนาลโย.
     
  20. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    [​IMG]

    "ถ้าจิตของเราทรงอยู่ในพรหมวิหาร ๔ แล้ว มีอะไรบ้างที่มันจะเกิดขึ้น นั่นก็คือ ศีลบริสุทธิ์ ไม่ต้องระมัดระวังศีล ความเป็นผู้มีเหตุมีผล มีความเคารพในองค์สมเด็จพระทศพลก็มีพร้อมบริบูรณ์ เพราะอะไร เพราะคนที่ทรงศีลบริสุทธิ์ ก็แสดงว่ามีความเคารพในพระพุทธเจ้า มีความเคารพในพระธรรม มีความเคารพในพระสงฆ์

    เพราะว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทรงแนะนำให้จิตอยู่ในขอบเขตนี้ เรามีความเคารพในองค์สมเด็จพระชินสีห์ เป็นต้น เราจึงมีศีลบริสุทธิ์ เราจึงรู้จักอายความชั่ว เกรงกลัวความชั่ว จึงได้มีการประกอบความดี คือ จิตทรงพรหมวิหาร ๔ มีหิริและโอตัปปะ นึกถึงความตายเป็นอารมณ์ อยู่ที่ไหนก็มีแต่ความเยือกเย็น มีแต่ความเป็นสุข เราก็เป็นสุข บุคคลอื่นก็เป็นสุข เพราะกายไม่เสียปากไม่เสีย ทั้งนี้เพราะว่าใจไม่เสีย ถ้ากายเสีย ปากเสีย ก็แสดงว่าใจมันเสีย เสียมากจนล้นมาถึงกาย ถึงวาจา นี่เป็นอันว่าถ้าทรงคุณธรรมอย่างนี้ได้ ความเป็นพระโสดาบันย่อมปรากฏ"


    ธรรมโอวาทหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

    ที่มา FB​
     

แชร์หน้านี้

Loading...