ช้างเผือกในป่าอีสาน หลวงตาสมหมาย วัดป่าสันติกาวาส คำสอน/ประสบการณ์/วัตถุมงคล/ (ช่างชิต)

โอ๊ยยยน่อ หญ้าแห้งว่าจะขออยู่พอดี นายช่างพูดดักคอก่อน catt3

 

ขอบพระคุณพี่หญ้าแห้งที่เข้ามาพูดคุยกันทำให้ผมไม่รู้สึกโดดเดี่ยว 55555
ถ้าหามาเพิ่มได้เดียวจะเก็บไว้ให้ครับพี่

 

ยังตามอ่านอยู่ครับ55

 

นี่สิถึงจะว่า รักกันจริงwel lcome_dog(เนียนเลยนะหญ้าแห้ง)

 

โอเคครับ 55555

 

สบายใจเลยพี่ถ้ามีไม่หวง 55555

 

ติดตามอ่านอยู่เด้อค่ะเด้อ

 

น้ำใจ และสำเนียง จากคนซาอุ-ดร ทั้งคู่เลยนะเนี่ย นับถือ นับถือ

 

ครับพี่จะรีบมาเขียนให้เร็วไว

 

นั่งเครื่องที่ดอนเมืองไปลงซาอุ ซาอุดร ใช่ไหมครับพระจารย์ อิอิ

 

แวะเข้ามาติดตามอ่านวันละหลายเที่ยวแล้ว แต่นายช่างไม่เข้ามาเขียนต่อสักที
สงสัยว่านั่งเครื่องมาไกลแน่ๆ เลย จึงยังไม่มาถึงสักที หรือว่ายังไม่ลงจากเครื่อง
เดี๋ยวต้องรบกวนคุณหญ้าแห้งให้ไปรับซะหน่อยแล้วงานนี้

 

อีกหนึ่งประสบการณ์ ตรง จากลูกศิษย์

-----------------------------------------------------------------
ไม่น่าเชื่อว่า ว่าจะมี คนที่ นำเรื่อง เล่า ของ หลวงตาสมหมาย มา ให้อ่านกัน เพราะ ท่าน ถือเป็นพระ ปฎิบัติดี ปฎิบัติ ชอบ และไม่เน้นทาง เครื่องลางของขลังแต่อย่าใด ผมก็เป็น ลูกศิษย์ก้นกุฎิท่านอีก 1 คน งั้นผมขอแชร์เล่าประสบการณ์โดยตรงให้ท่านได้อ่านกันครับ

......เมื่อประมาณ ปี 2554-55 ช่วงนั้นผมถือว่า ชีวิตตกต่ำสุดขีด ถึงขั้งลงเหวเลยก็ว่าได้ แฟนที่รักกันมากๆ จะแต่งกันอยู่ละ ก็ทิ้งกันไปอีก สุดๆ งะ ตอนนั้น แทบจะบ้าตาย.. พ่อ และ แม่ ผม จึงได้พาไปหาหลวงตาสมหมาย ซึ่งเป็น ครูบาอาจารย์ ที่ผมนับถือที่สุด (ผมรู้จักกับหลวงตามาก่อนหน้านั้นนานแล้วครับ) ไปทำบุญตักบาตร ขอพรจากท่าน ที่วัดป่าสันติกาวาส อ.ไชยวาน (วัดหลวงตานะครับ) พอ ท่าน ฉันจังหัน เสร็จ และ คุยธุระ กับ แขกที่มาเยี่ยม มาทำบุญกันท่านจนหมด ผม รอเป็น คนสุดท้าย จะได้คุยกับหลวงตานานๆ หลวงตาเห็นหน้า ผม คำแรกที่หลวงตา ทัก คือ "แซนด์ เรา ต้อง บวช เลยนะ ตอนนี้เลย ไปโกนหัววันนี้เลยนะ" ผมอึ้งไปพักหนึ่ง (คือผมเคยบวชกับท่านมาก่อนแล้วรอบ 1 ครับ) ตอนนั้นพูดจิงๆ ครับ ไม่อยากบวชเลย แถม ช่วง เข้าพรรษาอยู่ด้วย พ่อ กับ แม่ ผม เอาเลยลูก บวช เลย ทำตามที่หลวงตาบอกนั้นละ ผมหันไปหาหลวงตา แล้วก็บอกว่า "ยังไม่พร้อม ครับ หลวงตา ขอเวลาคิดได้ไหมครับ" หลวงตาท่านก็ "บอกไม่ได้ ต้องบวช ยังใงก็ต้องบวช แล้วค่อยไป สึกตอนออกพรรษา...." ผมเลยต้องทำตามท่าน เพราะ ถ้าไม่สำคัญจิงๆ ท่านไม่เคยบังคับใครบวช อีกอย่าง ครูบาอู๋..(เป็นพระที่วัดหลวงตาที่ผมนับถืออีกท่านนึง) มาบอกกับผมว่า "แซนเรานี้มีบุญมากนะ ที่หลวงตาขอให้บวช อีกอย่าง แซนจะกล้าขัดท่านเลยหรอ บาปหนักเลยนะ และต้องมีไรแน่ๆ ท่านถึงให้บวช" สรุป ผมก็ เลย ต้องจำใจบวช หลังจากบวช ช่วงแรก ผมนี้ อยากกลับบ้าน อยากออกไปหาแฟน(เก่า) ที่ทิ้งกันไป มันมีไรหลายอย่างข้องใจไปหมด พูดง่ายๆ คือ ผมห่มผ้าเหลืองช่วงนั้นร้อนมากๆ อยากสึก แต่ผมก็ได้แค่คิดในใจ...จนวันหนึ่งผมแอบโทรศัพท์ออกไปหา แฟนเก่าผม ซึ้ง ขอ ยืม โทรศัพท์ เด็กน้อยในวัดโทร บอกมันว่าจะโทรกลับบ้านแอบโกหกเด็กอีกต่างหาก 555 คือมันไม่ไหวแล้วจิงๆ ร้อนมากๆ เลยโทรออกไปพอเขาหลับสายและบอกว่าอยู่กับผู้ชายอีกคน แค่นั้นละ ผมก็วางหูทันที แอบโทรคุยเสร็จ ตอนเย็นวันนั้น ผมก็ ได้เข้าไป สรงน้ำ นวดขา หลวงตาที่กุฎิ ผมนวดขาท่านไป คิดถึงแฟนเก่าไป นวดขาไป คิดถึงแฟนเก่าไป เรื้อยๆ ประมาณ 5 นาที ที่คิดถึง และแล้ว สิ่งที่ทำให้ผมขนลุกจนแทบจะไม่กล้าขยับตัว ก็คือ หลวงตาที่หลับอยู่ คือประมาณ หลับตา แต่ตัวยังมีสติตลอด ก็ได้พูดขึ้นมาดังๆขึ้น พร้อมกับ พระที่นั้งนวดขาด้วยกันได้ยินเต็ม 2 หู " จะไปคิดถึงเขาทำไมแฟนเก่า เขาไปมีคนอื่นละ และก็อย่าไปติดต่อเขาอีกละ มันไม่ดี เอาสติกับมาอยู่กับตัวสิ พระแซนด์ " แค่นั้นละ อึ้ง ไปพัก หนึ่ง พูดไรไม่ออก ได้แต่ พนมมือขึ้นมากราบ หลวงตาและบอกว่า ผมจะไม่ทำอีกจะไม่ติดต่อเขาอีกครับ หลวงตา จังหวะนั้น ผมขนลุก อยู่ ตลอดเวลา รู้สึกผิด รู้สึกกลัวบาปมากๆ คิดในใจ หลวงตาท่านรู้ได้ใง ท่านเตือนเราขนาดนี้ เรายังจะกล้าคิดอีกหรอ ตั้งแต่วันนั้นมา ผมก็ไม่คิดถึงเขาอีกเลย พยายามเอา พุทโธ มาข่ม จิตเวลา คิดถึงเขา และ พอมาถึงวัน ที่ผมจะขอ หลวงตาท่าน ลา สึก คือ ตอนนั้น เลยออกพรรษา มา ได้ หลายวันละ อีกอย่าง รุ่นพี่ที่ กทม ก็ รอผมขึ้นไป สัมภาษงานอยู่ ผมจึงต้องไป ก่อนจะ สึก วันนั้น ผม คิดคำถามนี้มานานละ จะถามก็ไม่กล้า ถาม พอมาวันนี้จะลาสิขาละ จึงถามท่านตรงๆว่า "หลวงตาครับ ทำไมวันนั้นหลวงตาบังคับแซนบวชครับ และ ถ้า ไม่ บวช จะเกิดไรขึ้นกับแซนด์ ครับ " หลวงตาท่านก็มองหน้าและก็ตอบมาว่า "ถ้าเราไม่บวชนะ เราจะไปฆ่าคน ซึ้ง จะเป็นแฟนเก่าเรานะ สติเราตอนนั้นไม่มีเลย หมกมุ่นมีแต่จะโกรธจะแค้น.. หลวงตาจึงต้องให้บวชเพื่อระงับสติอารมณ์ก่อนจะสายไป" น้ำตาผมซึมออกมา และก็กราบหลวงตาไปพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า หลวงตาครับ ผม ขอบคุณหลวงตาจิงๆ ไม่มีหลวงตา ผมอาจจะไปฆ่าเขาจิงๆก็ได้ จบ.....ครับ เอาเป็นว่า ผม รักและนับถือท่านมาตลอดและเชื่อมาตลอดว่า หลวงตา เป็น พระอรหันต์ อย่างสมบูรณ์แบบจิงๆ ผมได้มีบุญวาสนา รู้จักกับท่านมาประมาณ 12 ปี จนถึงทุกวันนี้หลวงตาก็ยังอยู่ในใจผมเสมอ ช่วยเตือนสติผมตลอด และ ผมก็ยังติดต่อท่านเป็นครั้งคราวเล่าชีวิตการทำงานให้ท่านฟังบ่อยๆ นี้คือ ประสบการณ์ ตรง จาก หลวงตาสมหมาย อัตตมโน เป็น ครูบาอาจารย์ที่น่ากราบไหว้ นับถือ อีก องค์ 1 เลย ครับ สำหรับท่านใดที่กำลังตามหา

 

ขอบพระคุณที่มาแชร์ประสบการณ์นะครับ

กำลังจะเข้ามาเขียน เห็นมีคนมาแชร์ประสบการณ์ของหลวงตาอีกเรื่องแล้วต้องบอกว่า ดีใจจริงๆครับที่ยังมีลูกศิษย์หลวงตาท่านอื่นมาช่วยยืนยันในเรื่องอภิญญาหลวงตา ยังไงเข้ามาอ่านมาแชร์เรื่อยๆนะครับ นายช่างแซน

 

มาแล้วครับ 55555

 

ผิดผลาดประการใด ก็ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ยังใงปีใหม่ปีนี้ ผมลงไปกราบท่านที่วัดแน่นอนครับ ใครสนใจ ก็ ตามลงไปเจอกันที่ วัดป่าสันติกาวาส อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี วันที่ 1 ช่วงเช้า ทำบุญตักบาตร ครับ

 

ดีมากครับได้ทำบุญกับพระแท้ที่ยังดำรงขันต์อยู่ต้องบอกว่ามีบุญมากเลยนะครับ
และต้องขอโทษทุกท่านด้วยที่หายไปนานเพราะช่วงนี้กำลังยุ่งๆวุ่นๆกับเรื่องงาน และผมก็เข้าไปศึกษาประวัติพระเถระองค์อื่น (ช่วงนี้ติดพระอาจารย์ชาญณรงค์มากไล่อ่านมาหลายวันละ) เลยยังไม่ได้เข้ามาเขียน แต่เห็นคุณนายช่างแซนเข้ามาช่วยแชร์ก็มีกำลังใจมากขึ้น
วันนี้ผมว่าจะเข้ามาเขียนประสบการณ์หลวงตาพอดีเรื่องรู้วาระจิตที่ยังมีค้างอยู่เรื่อง แต่ท่านสมาชิกที่เข้ามาแชร์พึ่งลงไปแนวเดียวกันเมื่อกี้
งั้นเดี้ยวผมทำธุระก่อนจะกลับมาเขียนนะครับ

 

ท่านพระอาจารย์สมหมาย อตตมโน เป็นครูบาอาจารย์ของบ้านผมและสนิทสนมกับที่บ้านมาก
อนุสนธิจากที่พระคุณเจ้าหลวงปู่หลอด ปโมทิโต ให้นิมนต์ท่านพระอาจารย์มางานวันเกิดท่านทุกปี ท่านให้เหตุผลว่า "พระหนุ่มองค์นึ้ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ" ท่านต้องมีอะไรดี หลวงปู่ท่านจึงต้องให้นิมนต์มาทุกปี ท่านอาจารย์สมัยก่อนท่านจะอยู่เกือบท้ายแถว เพราะสมัยนั้นพระผู้ใหญ่ยังอยู่กันมาก เช่น หลวงปู่เหรียญ หลวงปู่จันทร์โสม หลวงปู่ต้น เป็นต้น ท่านอาจารย์สมัยก่อนเป็นคนไม่ใคร่ไม่พูด เจอกันถ้าไม่ทักก็ไม่ตอบ พูดคำตอบคำ สำรวมอินทรีย์ตลอดเวลา ภาพที่คือท่านจะยึ้มน้อยๆ ถ้าไม่มีคนมากราบก็จะนั่งสมาธิ ไม่พูดไม่จากับใคร (ช่วงนั้นท่านคงเร่งความเพียรอยู่) แต่มาพักหลังได้ 2-3 ปี รู้สึกว่าท่านอาจารย์เปลี่ยนไป เป็นคนตลก พูดอะไรเฮฮา มีความเมตตาสูง ผมเลยคิดว่าท่านอาจารย์ท่านคงภาวนาจนถึงจุดที่สมประสงค์แล้ว จึงเริ่มสงเคาระห์โลก คือหยั่งประโยชรณ์ของตนให้ถึงพร้อมแล้วจึงหยั่งประโยชรณ์ให้คนอื่น ท่านอาจารย์เป็นคนที่มีนิมิตที่แม่นมาก เพราะเกิดจากผลที่ท่านอาจารย์ภาวนามานานและไม่เคยละความเพียร ภาพที่เห็นคือท่านอาจารย์จะนั่งภาวนาตัวตรงไม่กระดิกเป็นเวลานานๆ บางที่คืนยันรุ่งก็มี

สรุปคือ ท่านอาจารย์เป็นพระที่กราบไหว้ได้สนิทใจ เป็นเนื้อนาบุญ ทายาทธรรมสายท่านพระอาจารย์มั่นที่ยังดำรงขันธ์อยู่

 

อยากฟังเรื่องหลวงปู่กรดมั่ย ?

 

ขออนุโมทนา สาธุ กับความโชคดีและบุญวาสนาของนายช่างแซนด์ ที่นำประสบการณ์ชีวิตมาเล่าสู่กันฟัง

 

ใช่ครับแต่ก่อนหลวงตาจะดุมาก ใครๆก็พูดแบบนี้หมด ตอนผมบวชรอบแรกก็กลัวหลวงตามาก แต่ผมมันคนหน้ามึน 55555 ผมว่าคุณกล่าวได้ถูกต้องเลยละ ท่านคงถึง ณ จุดๆนั้นแล้วเลยเปลี่ยนอริยาบทเพื่อสงเคราะห์โลก ผมเคยบอกกับท่านว่า "หลวงตาเหนื่อยหลวงตาพักเถอะครับอย่ารับนินมต์เยอะเลย"
"ไม่รับไม่ได้ไม่ไปไม่ได้หลวงตายังไหวต้องช่วยเขาก่อนสงเคราะห์เขาก่อน" ท่านจะว่าประมาณนี้ประจำ