เชิญแลกเปลี่ยนเรื่องเล่าและแบ่งปันภาพความประทับใจในไทยและต่างแดนคร่า

คล้ายๆ กับบ้านเราเนอะ ขายของตลาดนัด ที่โบสถ์ ไทยเราก็ขายของตลาดนัด ที่วัด

 

มาดูกันค่ะว่า ตลาดนัดของฝรั่ง ที่ตูลูส ฝรั่งเศสนี้ ขายอะไรกันบ้าง..... น้อยมากที่เขาจะพูดภาษาอังกฤษ คือแทบจะไม่มีเลยค่ะ

เราก็เลยประมาณว่าชี้แล้วซื้อเอาค่ะ ถึงเป็นตลาดสดในโบสถ์ก็ตาม เขาจะมีป้ายราคาสินค้าติดไว้ด้วยทุกอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็น

ผัก ผลไม้ ดอกไม้ เนื้อสัตว์ เสื้อผ้า และอื่นๆ ในภาพที่เห็น ที่รู้จักก็จะมีมันฝรั่ง และโค ตะ ระ หอมแดงค่ะ อิอิ..... ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า

มีลักษณะคล้ายแต่ลูกใหญ่กว่ามั่กมากกกกก

 

ผัก ผลไม้ ประเทศเขา อาจจะขนาดใหญ่กว่าบ้านเรานะคะ แต่ว่ารสชาติไม่เข้มข้นเท่าบ้านเราค่ะ ออกแนวจืดๆ ค่ะ ฟักทองลูกนึง

ลูกใหญ่นะคะ เลยแบ่งขายได้เยอะมาก ร้านนี้มีแยมขายด้วยค่ะ เงินที่เขาใช้เป็น ยูโรค่ะ ตอนนั้นรู้สึกว่า 1 ยูโร = 45 บาทค่ะ

ปัจจุบัน 1 ยูโร = 43.75 บาทค่ะ

 

มีร้านดอกไม้อยู่ประมาณ 1-2 ร้านค่ะ นี่คือร้านแรกที่เดินไปพบค่ะ

 

มีผักสวนครัวขายด้วยค่ะ

 

มีต้นกระบองเพชรหลากหลายพันธุ์ขายด้วยค่ะ

 

ผลไม้ที่เขาขาย ก็มี ส้ม สับปะรด มีแตงฝรั่งด้วยค่ะ

 

แตงฝรั่ง หน้าตาเป็นไงอ่ะคะ พี่มณี
ผิวขาว จมูกโด่ง รึป่าว ^^

 

มีร้านขนมปัง 2 ร้านค่ะ ในร้านก็จะมี ขนมปังฝรั่งเศส หรือ บาแก็ต (baguette)เป็นหลักค่ะ นอกจากนั้น ก็จะมี ครัวซอง และขนมปังชนิดอื่นๆ



ขนมปังฝรั่งเศส หรือ บาแก็ต เป็นขนมปังมีลักษณะรูปทรงเป็นแท่งยาวขนาดใหญ่ เปลือกนอกแข็งกรอบ เนื้อในนุ่มเหนียวและเป็น

โพรงอากาศ มักนำมาหั่นเฉียงเป็นแผ่นหนา เพื่อรับประทานกับซุป ปาดเนยสด หรือประกอบทำเป็นแซนด์วิช โดยปกติแล้วบาแก็ต

จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางอยู่ที่ 5 - 6 เซนติเมตร (2 - 2⅓ นิ้ว) และความยาวอยู่ที่ 165 เซนติเมตร (26 นิ้ว)

 

ร้านนี้ มีแอปเปิ้ล และสาลี่ขายด้วยค่ะ

 

เขาขายพวกชีสซึ่งมีหลากหลายแบบให้เลือกค่ะ ชีสเน่า หรือ Blue Cheese ก็มีค่ะ คงเหมือนกับประเทศไทยเรา ที่มี ปลาร้า กะปิ น้ำบูดู น้ำปู๋ และอีกหลายอย่าง ฝรั่งเขาก็มีผลิตภัณฑ์ "ชีส" แบบหลากหลายเช่นกัน เลยมีเรื่องเล่าแบบชีสๆ มาเล่าให้ฟังค่ะ

ชีสมาจากอะไรกันนะ
ชีสคือผลิตภัณฑ์นม ชีสเป็นการนำเอาส่วนของโปรตีนไม่ใช่ส่วนของไขมันมาใช้ประโยชน์ ซึ่งความอร่อยของชีสอยู่ที่ความหอม มัน เข้มข้น ความเข้มข้นที่ว่านั้นมาจากการแยกโปรตีนออกจากนม โดยการเติมเอนไซม์เรนนินซึ่งทำให้โปรตีนที่แขวนลอยอยู่ในนมจับตัวกันเป็น ก้อน หรือเรียกว่า “เคิร์ด” และเจ้าเคิร์ดนี้ก็ คือชีสนั่นเอง แต่เป็นชีสสดที่ยังไม่ได้ผ่านการบ่มหรือที่เรียกว่าเฟรชชีส ซึ่งถ้านำไปผ่านการบ่มกับเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา เติมเครื่องเทศ แต่งสี แต่งรส ก็จะทำให้ได้ชีสที่หลากหลายชนิดขึ้น



ประเภทของชีส
ชีสมีมากมายกว่า 3,000 ชนิด การแบ่งประเภทของชีสมีวิธีแบ่งแตกต่างกันไป เช่น อาจแบ่งตามชนิด ของนม แบ่งตามวิธีการบ่ม ความชื้น ระยะเวลาในการบ่ม หรือแม้แต่ประเทศที่ผลิต แต่ชีสที่มีวางขายทั่วไปในซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ


Very Hard Cheese
ชีสที่มีเปลือกหนาเนื้อแข็ง ใช้เวลาในการบ่มนาน (มาก) จนแทบไม่เหลือความชื้นอยู่ในชีสเลย ที่รู้จัก ทั่วไปคือ Parmigiano, Reggiano, Parmesan ฯลฯ



Hard Cheese
ชีสชนิดแข็งที่ยังพอมีความชื้นอยู่บ้าง เช่น Cheddar, Gruy re, Gouda, Emmental, Edam ฯลฯ ชีสหมวดนี้ค่อนข้างนิยมในบ้านเราค่ะ



Semi-Soft Cheese
ชีสเนื้อนุ่ม เช่น Mozzarella, Brie, Camembert, Blue Cheese, Feta ฯลฯ



Soft Cheese
ชีสที่มีความชื้นอยู่สูง เช่น Cottage, Ricotta และ Mascarpone เป็นต้น



นอกจากชีส 4 ประเภทนี้ยังมีชีสชนิดที่ปรุงแต่งรสให้ เลือกซื้อ อีกมากมาย เช่น Smoked Cheese รสพริกไทย รสแฮม หรือรสปาปริก้า เรียกว่ามีให้เลือกหลากหลายทีเดียวค่ะ


จะขอเล่าเรื่อง Blue Cheese เป็นพิเศษค่ะ
ในบรรดาชีสทั้งหมดที่มีมากกว่า 3,000 ประเภททั่วโลก ไม่กล่าวถึงบลูชีสไม่ได้เลย เพราะ บลูชีส เป็นชีส ประเภทหนึ่งที่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ทั้งหน้าตา รวมไปถึงกลิ่นและรสชาติ บางคนเรียกบลูชีสว่า “ชีสเน่า” เพราะกลิ่นที่รุนแรงเฉพาะตัว และสายของราสีน้ำเงินปนเขียวซึ่งขึ้นแทรกอยู่ทั่วเนื้อชีสจึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่า “บลูชีส”



กำเนิดของบลูชีสมาจากความบังเอิญโดยแท้ เมื่อนานมาแล้ว ชายเลี้ยงแกะผู้หนึ่งลืมชีสที่เขาบ่มไว้ในถ้ำแถบ โร้คฟอร์-ซูร์-ซูลซง (Roquefort) แคว้นมีดิ ปีเรเน (Midi-Pyrenees) ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ผ่านไปหลาย เดือนจึงกลับไปดู พบว่าชีสนั้นเต็มไปด้วยลวดลายของรา ครั้นเมื่อลองชิมพบว่าปลอดภัยและอร่อยดี Roquefort Cheese หนึ่งในบลูชีสที่ดีที่สุดของเมืองน้ำหอมจึงถือกำเนิดขึ้นนับแต่นั้น

นอกจากโร้คฟอร์ชีสแล้ว อีกหนึ่งบลูชีสสัญชาติฝรั่งเศสที่โด่งดังไม่แพ้กัน คือ เบลอ โดแวร์ญ (Bleu d’Auvergne) ที่มีถิ่นฐานจากแคว้นอูแวง ทางตอนกลางค่อนไปทางใต้ของประเทศ ส่วนบลูชีสสัญชาติอื่นที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย ได้แก่ Gorgonzola จากอิตาลี Stilton จากเกาะอังกฤษ Danablu จากเดนมาร์ก Bavarian Blue จากเยอรมนี Cabrales จากสเปน และ Maytag Blue จากสหรัฐอเมริกา

จากจุดกำเนิดด้วยความบังเอิญ ในปัจจุบัน บลูชีส ถูกผลิตอย่างจงใจให้เกิดรา โดยสปอร์ของเชื้อราที่ใส่ลงไประหว่างผลิตมี 2 ชนิด คือ Penicillium roque-forti และ Penicillium glaucum และเพราะเชื้อราจะเติบโตได้ดีเมื่อโดนอากาศ บลูชีสจึงถูกเจาะหรือแทงให้เป็นรูเพื่อเพิ่มพื้นผิวสัมผัสอากาศให้สายราแทรกซึมทั่วทั้งก้อน ส่วนใหญ่บลูชีสจะถูกบ่มไว้ในถ้ำหรือห้องใต้ดิน ยิ่งบ่มนานบลูชีสก้อนนั้นจะยิ่งมีรสเข้มข้นและผิวเรียบสวย ส่วนสี กลิ่น รส จะเป็นอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับประเภทของราและส่วนผสมอื่น ๆ บลูชีสมีทั้งที่ทำจากนมวัว นมแพะ และนมแกะ ส่วนสิ่งที่คุณจะสัมผัสได้จากบลูชีสทุกก้อนคือ กลิ่นเหม็นเฉพาะตัวและรสชาติเค็ม จัดจ้าน



ยังมีรายละเอียด และเรื่องราวของชีสอีกมากค่ะ ติดตามเพิ่มเติมและขอขอบคุณที่มาของข้อมูลจาก แนะนำสุขภาพน่ารู้ และ ��٪�� �������¨ҡ���տ��




แต่บอกตามตรงค่ะ ชิม Blue Cheese แล้ว คงลิ้นไม่ถึง..... ขอ กะปิ ปลาร้า น้ำบูดู น้ำปู๋ บ้านเราดีกว่าเป็นไหนๆ คร่า

 

น้องมณี ทั้งสวยทั้งเก่งว้ากกก สอบชิงทุนก้อได้บ่อยๆ สุดยอดเลย กดlikeไม่ได้เลยเครื่องเปนไรไม่รุ แต่like จ้า

 

ไม่เป็นไรค่ะ พี่บุษ มาให้กำลังใจน้องก็ขอบคุณมากแล้วค่ะ

 

ได้ไปพบสาวไทยคนสวยตั้งรกรากอยู่กับหนุ่ม French ที่ตูลูสนี่หละค่ะ สาวในภาพนี้แหละค่ะ




เขาขายผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากไม้ค่ะ รู้สึกว่าจะเอามาจากเมืองไทยเรานี่แหละค่ะ

 

ยายเล่นไม่เคยได้ทุนสักกะที 555555 เพราะไม่เคยไปสอบเล้ยจร้า..55555 มะกล้าและมะเก่ง อ่ะค่ะ.......ยอมแพ้จร้า คุณมณีคนจ๊วย

 

คุณเล่นไม่กล้าเท่านั้นแหละค่ะ ถ้ากล้านะ มณีว่าไปหลายประเทศแล้ว มณีโชคดี หัวหน้าดีค่ะ ให้โอกาสเราเสมอค่ะ มีทุนไรมาให้ไปสอบเรื่อย แต่งานที่เราทำก็หนักกว่าชาวบ้านเขาค่ะ อิอิ กลับดึกกลับดื่นเรื่อย เพราะหัวหน้าเอย อธิบดี รองอธิบดี เรียกใช้งานได้ตลอดค่ะ โอกาสที่ดีมากมาย ก็มากับน้ำหนักที่มากมาย เอ้ย ไม่ใช่ โอกาสที่ดีมากมาย ก็มากับภาระหน้าที่ที่มากมายยิ่งกว่าค่ะ

 

เพิ่งเห็นโพสต์อันนี้ของน้องแตน อิอิ พี่ว่าคล้ายแคนตาลูปนะ ไม่ได้ซื้อชิมซะด้วยค่ะ น้องสาว ซื้อแต่ ส้ม แอปเปิ้ล สตอเบอรรี่ ค่ะ

 

ร้านนี้ สตอเบอรี่ ยั่วน้ำลายมากกกกก เชอรี่ก็มีค่ะ เขาทำเป็นน้ำสตอเบอรี่ แยมสตอเบอรี่มาขายด้วยค่ะ

 

ยายๆ ลองไปสอบชิงทุนจิ ภาษาปะกิตยาย น่าจะได้อ่ะ
อาจได้ทุนไปเที่ยวเขมร หรือพม่า ก็ได้น๊า อิอิอิ

 

ที่ตูลูซนี้ มีไร่องุ่น และผลิตภัณฑ์ไวน์ ที่มีชื่อ..... ใน Trip นี้ ดิฉันจะพาไปเที่ยวไร่องุ่น และโรงบ่มไวน์ด้วยค่ะ โปรดติดตามตอนต่อไปนะคะ เพื่อนๆ