ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

........................

 

กราบหลวงปู่ทวด

 

กราบหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดครับ

 

แต่ละวัดก็จะมีการตั้งลานเปรต
ที่เขาเรียกว่าชิงเปรต ดังในภาพ สมัยก่อนจะทำไว้สูงมากค่ะ
และจะโยนลงมา ให้ผู้ที่รอรับข้างล่าง
มายุคปัจจุบัน ลานเปรตจะไม่ค่อยสูงนัก
และไม่ต้องโปรยเหมือนสมัยก่อนค่ะ เมื่อถึงเวลา
ก็เป็นดังภาพค่ะ
ผู้ที่ได้รับไปก็จะเป็นมงคลกับตัวเอง
สมัยนี้ ได้ข่าวว่าทั้งพม่าซึ่งมาทำงานอยู่ในประเทศเราจำนวนมาก
ก็มาชิงด้วย บางครั้งพิธียังไม่เรียบร้อย ก็ชิงกันก่อนแล้ว
ในช่วงนี้ก็จะมีโปรย กำพรึก ไปด้วยค่ะ
เมื่อพระทำพิธีเสร็จ ก็ร่วมวงทานอาหารกัน
(ปีนี้ทานเจ ก็ได้แวะซื้ออาหารเจที่เซ่เว่น มาพร้อมร่วมวงกับญาติๆ)

 

และเมื่อทานอาหารเสร็จ
ช่วงหลังจากนี้ก็มาบังสกุลกัน

 

เสร็จจากวัดประดู่ กลับไปวัดสีหยังอีกครั้งค่ะ
เมื่อช่วงเช้าได้สนทนาธรรมกับท่านเจ้าอาวาสวัดสีหยัง ซึ่งได้ขอความเมตตาท่านค่ะ
เรื่องขอนำพระบรรจุกรุ ของพี่เชน มาทำพิธีในโบสถ์ท่านก็เมตตาค่ะ

เมื่อถึงวัดสีหยังกำลังเดินไปสักการะบูชาหลวงปู่ทวดเจอน้องที่ในวัด
ได้ทักทายกัน น้องกำลังจะไปในโบสถ์ก็เลยขอเข้าไปกราบพระหลวงพ่อทวดทรงอักษรในโบสถ์ด้วย
น้องก็บอกว่าวันที่ 14 นี้พี่ว่างหรือเปล่าจะมีการเททองหล่่อพระ ซึ่งเป็นรูปเหมือนท่านเจ้าอาวาสองค์ก่อนของวัดสีหยัง เสียดายค่ะเพราะตรงกับวันทำงานไม่สามารถลางานได้
และจะมีทอดกฐินในวันที่ 26 ตค.56 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ คงมาร่วมทำบุญได้

 

ภายในโบสถ์เห็นมีพระองค์ใหญ่วางอยู่
ไม่เคยเห็นพระยอดขุนพล
เห็นทางวัดถอดพิมพ์พระยอดขุนพล
ซึ่งแบบเหมือนองค์ที่ขุนพันธ์ท่านใส่
ทราบว่ากดพิมพ์กันในโบสถ์
ก็เลยขออนุญาตน้องถ่ายภาพมาค่ะ

 

กราบพระในโบสถ์เรียบร้อย ก็ไปที่ศาลาหลังเก่าและตรงองค์หลวงพ่อทวด
องค์นี้เป็นทรงอักษรองค์ที่ 2 ซึ่งญาติโยมร่วมสร้างถวายวัดสีหยัง
วันนี้อธิฐานบอกหลวงปู่ไว้หลายเรื่องค่ะ

 

และตรงวิหารที่กำลังดำเนินการก่อสร้างเพื่ออัญเชิญหลวงพ่อทวดขึ้นประดิษฐาน
กราบพระหลวงพ่อทวดที่คุณหมอฟอร์ด มอบถวายให้ทางวัด

 

ช่วงเช้า หลังจากได้สนทนาธรรมกับท่านเจ้าอาวาสวัดสีหยังแล้ว
พี่ได้โทรถึงพระอาจารย์ปิติพงษ์ ที่สำนักเวียงปาโป แต่สายไม่ว่าง
พอว่างท่านอาจารย์รับ แต่ได้ยินท่านสวด อิติปิโส ท่านคงทำพิธีอยู่
ได้ฟังอยู่เกือบ 2 นาที แสดงว่าท่านไม่ว่าง

และในช่วงที่กลับมากราบหลวงพ่อทวดที่วัดสีหยัง
ก็อธิษฐานกับหลวงพ่อทวดค่ะว่า ขอให้พระอาจารย์ปิติพงษ์ที่สำนักสงฆ์เวียงปาโปท่านว่าง
จะได้โทรกลับไปกราบเรียนท่าน
เรื่องจะให้ พระอาจารย์อธิษฐานจิตพระบรรจุกรุ อยู่ๆ พระอาจารย์ก็โทรกลับมา
เบอร์พี่ ค่ะ คงได้ขึ้นเขาไปกับพี่เชน ในวันจันทร์หรืออังคารที่จะถึงนี้ค่ะ

http://palungjit.org/threads/ร่วมบุ...ที่-๓-ภาคใต้-น-๙๘.335851/page-103#post8396885

 

ขอบคุณคุณพี่nuanpanครับ ที่ได้นำบรรยากาศเดือนสิบมาให้กันชมครับ

 

ขากลับน้าขอโดยสารกลับหาดใหญ่ด้วยค่ะ
ท่านเล่าให้ฟังค่ะ เป็นเรื่องที่แปลก และเหลือเชื่อ

คือที่ เก็บกระดูกทางฝ่ายญาติทางแม่ จะเป็นรวมเก็บกระดูกของ
จะมีทั้งยาย ตา และญาติๆ อีกหลายคน
ท่านเล่าให้ฟังว่า น้า ซึ่งเป็นพ่อของหลาน
อยู่ๆ ไปเข้าทรงแฟนของหลาน เพราะคิดถึง
เมื่อรู้ว่าเป็นน้าชายที่เสียไปแล้ว ก็ถามว่า มายังไง
เขาก็บอกว่ามากับแฟนของน้า ซึ่งน้าได้นำกระดูกไปไว้รวมกัน
เป็นคนพามาที่นี่ ก็เลยถามน้าต่อไปว่า แล้วพวกเขามากันยังไง
คืออยากรู้ว่า โลกวิญญาญเขาเดินทางมากันอย่างไร
: น้าก็ตอบแบบติดตลกค่ะว่า อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันพอดียังไม่ตายที

แต่น้าสาวก็ได้มีสอบถาม กับน้าชายที่มาในครั้งนั้นว่า แล้วที่ทำบุญไปให้ได้รับหรือเปล่า
เขาก็บอกว่าได้รับ แค่สวดนะโม ตัสสะ และบอกกล่าวชื่อเขาก็ได้รับแล้ว

น้าถามต่อไปว่า อยู่กันสุขสบายหรือเปล่า เขาก็บอกว่าอยู่สุขสบายดี ได้อยู่ร่วมกัน

น้าเล่าอีกว่า บางครั้งเรานำกระดูกผู้ที่ล่วงลับไปแล้วมาอยู่ที่ร่วมกันในโลกของเขา
หากเขาไม่ถูกกัน ก็มีโอกาสทะเลาะกันเหมือนเราๆ อย่างบางแห่งที่บอกว่าโกศแตก

ได้รับฟังมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

 

ค่ะ เป็นประเพณีแถวทางบ้านพี่ค่ะ
ปีที่แล้วพี่ไม่ได้ไปร่วมทำบุญ และบุญรับปีนี้ก็ไม่ได้ไป เมื่อวานก็เลยไปร่วมทำบุญส่งค่ะ

แต่ที่นครศรีธรรมราช เขาจัดใหญ่มากค่ะ
หากมีโอกาสได้ท่องเที่ยวทางใต้ ในช่วงเทศกาล แวะกราบพระธาตุนครและร่วมทำบุญ ชมเทศกาลเดือนสิบค่ะ

 

แวะที่วัดศิลาลอยค่ะ ซึ่งไม่เคยเข้าไปที่วัดนี้เลย
จะแวะไปกราบพ่อท่านแสงค่ะ สอบถามเด็กที่วัด ก็บอกว่า
หลวงพ่อแสงท่านติดกิจนิมนต์ วัดใกล้ๆ คุยกับน้องเด็กวัดก็ไม่ค่อยได้ความนัก
เพราะเขานักดูมีดหมอของเขาอยู่ ก็เลยเดินไปหาคุณลุงอีกท่านเห็นคุณลุงกำลังนำพัดลมไปเก็บที่วิหาร ได้สนทนาธรรมกับคุณลุง เห็นพระข้างในวิหาร ก็เลยขอเข้าไปกราบพระท่านก็ว่าได้ และบอกว่า องค์พระศิลาลอยองค์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ข้างในนั้นแหละลูก
ไม่เคยมาวัดนี้เลยค่ะ ได้กราบพ่อท่านแสง เมื่อครั้งที่ไปวัดสุวรรณคีรีสงขลา
วัดศิลาลอยอยู่ใกล้ๆ กับวัดพะโคะและวัดสีหยัง ขับรถผ่านทุกครั้ง
เป็นครั้งแรกค่ะที่เข้ามาวัดนี้
ชมพระศิลาลอยค่ะ



วัดศิลาลอย ตั้งอยู่เลขที่ 16 หมู่ที่ 4 บ้านวัดเกาะ ต.ชุมพล อ.สทิงพระ จ.สงขลา สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่ 10 ไร่ 2 งาน 88 ตารางวา สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเป็นวัดเมื่อประมาณพ.ศ.1300

เดิมมีนามว่า 'วัดยางงาม' ต่อมามีพระ พุทธรูปสร้างด้วยหินปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 60 นิ้ว ถูกคลื่นซัดขึ้นมาจากทะเลอ่าวไทย ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นพระพุทธรูปที่ มาจากเกาะกระ ต่างเตรียมอาราธนาอัญเชิญท่านเพื่อไปประดิษฐานที่วัดดีหลวง ก็เกิดเหตุการณ์ให้ประจักษ์แก่สายตาชาวบ้าน เชือกขนาดใหญ่ที่ใช้ในการลากเกิดขาดขึ้นมาหลายครั้งหลายครา และเมื่อเห็นเป็นเช่นนั้นชาวบ้านก็พร้อมใจกันอาราธนาอัญเชิญท่านเพื่อไปประดิษฐานที่วัดนางเหล้า ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกันก็เกิดเหตุการณ์เฉกเช่นเดียวกันอยู่หลายครั้งหลายครา

เมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวคณะศรัทธาและชาวบ้านจึงบอกกล่าวอาราธนาอัญเชิญท่านเพื่อมาประดิษฐานยังวัดยางงาม เป็นเหตุอัศจรรย์หรือความบังเอิญก็สุดคาดเดาการอัญเชิญท่านมาวัดยางงามไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆ เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจแก่ชาวบ้านยิ่งนักและชาวบ้านได้เรียกนามวัดใหม่ว่า 'วัดกระ' ตามที่มาของพระพุทธรูปศิลาที่ท่านมาจากเกาะกระ

ครั้นต่อมาวัดกระได้ว่างเว้นพระสงฆ์จำพรรษากลายเป็นวัดร้างไปในที่สุดจนถึงปีพ.ศ.2462 ชาวบ้านวัดกระได้เดินทางไปนิมนต์พระดำ ติสสโร วัดดีหลวง ให้มาปกครองวัด และท่านก็ได้รับนิมนต์เดินทางมาจำพรรษาที่วัดกระ และได้บูรณะพัฒนาวัดพร้อมกับได้บูรณะพระพุทธรูปศิลาและถวายนามว่า 'พระศิลาลอย'

จึงได้เปลี่ยนนามวัดเป็น 'วัดศิลาลอย' ตั้งแต่นั้นมา

จากหลักฐานบันทึกการสร้าง หลวงพ่อทวดรุ่นแรกปี 2506 วัดพะโคะ จ.สงขลา เมื่อครั้งนั้น 'พ่อท่านแสง อาภาธโร' วัดศิลาลอย อ.สทิงพระ จ.สงขลา เป็นองค์ดำเนินการด้านพิธีกรรม ตลอดถึงมวลสารต่างๆ

พ่อท่านแสงมีความเชี่ยวชาญในด้านว่านยาอย่างเอกอุ ท่านมีความพิถีพิถันในเรื่องพิธีกรรมและเคร่งครัด ห้ามมิให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาข้องแวะโดยเด็ดขาด

หากมีความจำเป็นต้องมีผู้ร่วมประกอบพิธีกรรม ท่านจะต้องให้ถือศีลปฏิบัติตนให้บริสุทธิ์ตลอดระยะเวลาที่ประกอบพิธีกรรม ท่านทุ่มเทตั้งใจสร้างหลวงพ่อทวดอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ด้วยมวลสารชั้นครู ประกอบพิธีกรรมตามตำราบูรพาจารย์

พ่อท่านแสงทุ่มเทกำลังแรงกาย แรงใจ และองค์ความรู้ แรงครูในการสร้างสุดยอดวัตถุมงคลหลวงพ่อทวดอย่างสุดความสามารถ มีประสบการณ์มากมายเป็นที่ประจักษ์ชัด ครอบจักรวาลทั้งด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย และโชคลาภ
ที่มา
]

 

เมื่อกราบพระศิลาลอยในวิหารเสร็จ ก็สอบถามคุณลุงว่าพ่อท่านแสงจะกลับมาเมื่อไหร่
คุณลุงบอกว่า คงอีกไม่นาน พอเดินออกจากวิหาร มองไปทางกุฏิท่าน เห็นมีรถ และเห็นท่านนั่งอยู่ ท่านกลับมาพอดี ก็เลยได้แวะกราบนมัสการพ่อท่านแสงค่ะ

และขอความเมตตาท่านเรื่อง ขอให้ท่านอธิฐานจิตพระบรรจุกรุ
ท่านก็ให้ลูกศิษย์ไปดูสมุดว่า ท่านว่างวันไหน
ค่ะ ท่านก็นัดเวลาให้ และท่านก็เมตตา อธิษฐานในวิหารที่มีองค์พระศิลาลอยค่ะ

และได้เจอกับหลานของพ่อท่านแสงค่ะ ซึ่งมีไม้ค้ำยันอยู่น่าจะประสบอุบัติเหตุ
ท่านเล่าบอกค่ะว่า พารถไปคว่ำมา
และเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง

ระหว่างนั้นมีคนมาที่วัดสอบถามแต่ตะกรุด ก็เลยถ่ายภาพมาให้ชมค่ะ
เพราะท่านจารด้วยมือ แต่ตะกรุดยาวมาก

 

แวะผ่านเข้าไปทางวัดพะโคะ แต่ไม่ได้เข้าไปในวัด
เพราะต้องไปเยี่ยมญาติซึ่งอยู่หลังวัดพะโคะ

เมื่อวานรถชนท้ายกันหลายคันค่ะ
เดินทางช่วงหน้าเทศกาลต้องระวังค่ะ
หาดใหญ่เริ่มเทศกาลทานเจ เชิญชวนเที่ยวเมืองหาดใหญ่ค่ะ

 

***ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
มาแอบติดตามเรื่องเล่า ของ คุณนวลอยู่ครับ ชอบๆ
***

 

***อยากไปเที่ยว หาดใหญ่ อีกครั้งครับ***

 

***จอง ....เจ้าตัวนี้ครับ ชอบๆ***

 

***สาธุ.................กราบ.หลวงปู่ ทวด ท่านศักดิ์สิทธิ์ จริงๆครับ ท่าน อ.จงอาง***