สติรับรู้ และ การวางอุเบกขา ไม่ใช่ที่สุดของการหลุดพ้นได้จริง ดอก ชยุต

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย phudit999, 8 สิงหาคม 2013.

  1. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    สติรับรู้ และ การวางอุเบกขา ไม่ใช่ที่สุดของการหลุดพ้นได้จริง ดอก ชยุตเอ๋ย

    มีอะไรที่มากไปกว่านั้น ....

    หรืออีกนัยหนึ่ง เป็นอะไรที่ง่ายไปกว่านั้น ....

    หรืออีกนัยหนึ่ง เป็นอะไรที่แทบจะไม่ต้องทำอะไร....

    มีสติ คือ มี อะไร

    วางอุเบกขา คือ ยังมี อะไร

    มีสติควบคุมได้ หมายถึง อะไร

    ละวางได้ หมายถึงอะไร

    ใบ้ให้ เน้อ ชยุต เกี่ยวกับตัวตน
     
  2. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    มีสติแล้ว มีปัญญา

    ปัญญา แบบไหน
     
  3. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    มีปัญญาเพราะใครทำ
     
  4. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    เพราะฉัน

    เพราะฉัน

    เพราะฉัน

    เพราะฉัน

    เพราะฉัน

    เพราะฉันทำใช่มั๊ย

    หรือเพราะใคร

    ไม่เห็นมีเพราะใคร

    เห็นมีแต่ฉันทำ

    ฉันทำ

    ฉันทำ

    ฉันทำสติ

    ฉัน

    ฉัน

    ฉัน

    ฉันแล้วไง

    อ้าว

    ก่ มีฉันไง

    ฉันทำ

    แล้วไง

    ก่ฉันยังอยู่ นิ

    ก่ทำแล้ว จะไม่มีฉันไง

    ทำไม มี ฉัน

    เพราะสติมันมีฉัน

    ฉัน

    ฉัน

    ฉัน ไปเรื่อย ๆ

    ไม่สิ้นสุดดอก

    เพราะฉันมี

    เพราะฉันเป็น

    เพราะฉัน ไม่ได้วาง ฉัน

    เพราะฉัน ยังมีจึงต้อง มีอุเบกขา

    (วางอุเบกขา นี่ หมายถึง อะไรหรือ หมายถึง ไม่เอาอุเบกขาหรือจ๊ะ ชยุต)
     
  5. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    วางเฉย

    หมายความว่าไง




    เฉย แล้วจึง ต้องวางเฉยอีกที

    หรือว่า ต้องทำเฉย

    หรือว่า ต้องทำตัวเฉย ๆ

    อ้าว ปรากฎ ตัว อีกแล้ว

    ปรากฎ ฉัน อีกแล้ว

    ฉันสุดยอดแล้ว ที่เฉยได้
     
  6. ---สมส่วน---

    ---สมส่วน--- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,979
    การรู้ว่าหลุดพ้น

    การรู้ว่าหลุดพ้นเป็นเช่นไร คือผู้ที่หลุดพ้นแล้วเท่านั้น ยกเว้นผู้ที่สำคัญผิด
     
  7. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ขอบคุณที่บอกนะครับพี่
    แต่ที่ผมเอามาเล่าไว้นั้น ก็เพราะท่านโกเอ็นก้าท่านพูดไว้เช่นนั้น
    และท่านก็บอกว่า นั่นหนะ คือคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ

    ถ้าพี่ยังไม่เคยไปลองฝึกวิปัสสนาตามแนวทางที่ท่านสอนเลย
    พี่ก็อาจจะเข้าใจผิดไปว่า สิ่งที่จะทำให้หลุดพ้นก็คือสติและการวางอุเบกขา
    แต่มันคือ "ปัญญา" ต่างหากหละที่จะทำให้หลุดพ้น
    ซึ่งหมายถึง ปัญญา ในระดับ ภาวนามยปัญญา
    อย่างที่ทุกๆคนก็รู้กันดีอยู่แล้วนั่นแหละ

    ผมบอกว่าสิ่งสำคัญของการทำวิปัสสนาก็คือ สติ และ การวางอุเบกขา
    ซึ่งจะนำไปสู่ปัญญา อันจะทำให้หลุดพ้นต่างหากหละครับ

    ก็..ไม่รู้จะคอยมาจับผิดผมอยู่ทำไมนะ
    ชีวิตผมไม่ได้มีอะไรสำคัญสำหรับพี่ขนาดนั้นดอก
    ปล่อยให้ผมล้มลุกคลุกคลานของผมไปแบบนี้ไม่ได้หรือครับ
    ผมชอบแบบนี้แหละ เพราะผมเลือกด้วยความภาคภูมิใจของผม
    ที่จะเป็นแบบนี้ ที่จะทำแบบนี้ และเชื่อแบบนี้ หาได้มีใครบังคับแต่อย่างใดไม่เลย
    หาได้มีความเข้าใจผิด หรือ มีสติเลอะเลือนแต่อย่างใดไม่เลย
    ทุกอย่างเป็นไปด้วยสติสัมปชัญญะ และ ด้วยความคิดใคร่ครวญรอบคอบดีแล้ว

    เพราะฉะนั้น ถ้าผมจะขอให้พี่ "วางอุเบกขา" กับความคิด-ความเชื่อ ของผมจะได้ไหมครับ
    พี่จะทนไม่ได้เชียวหรือ ถ้าผมจะเชื่อ หรือ คิดต่างไปจากพี่

    แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังอยากจะขอขอบพระคุณในความหวังดีที่พี่มอบให้ตลอดมาอยู่นะครับ
    แต่ว่า หากใครคนใดคนหนึ่ง เขาเลือกวิถีชีวิตของเขาเองแบบไหนแล้ว
    เขาก็ย่อมอยากจะได้สิทธิ์นั้นทั้ง 100% เพราะว่าคนที่จะได้หรือเสียประโยชน์นั้น
    ก็คือตัวเขาเองใช่ไหมหละครับ

    หน้าที่เราก็คือ การชี้นำในสิ่งที่เราเห็นว่าถูกว่าควรให้เขา
    แต่ถ้าเขายังยืนยันหนักแน่นอย่างที่ผมยังคงกำลังทำอยู่นี่
    สิ่งที่เราจะต้องทำต่อไปก็คือ "วางอุเบกขาซะ" ถูกไหมครับ

    ทุกๆคนย่อมมีสเต็ปในการก้าวย่างไปบนหาทางแห่งจิตวิญญาณของตัวเขาเอง
    ดังนั้น เราจะหวังให้ใครก้าวย่างไปได้เท่ากับเรา หรือ เหมือนเราก็คงไม่ได้
    และถ้าเราแนะนำเขาในแบบที่รุกเร้ามากจนเกินไป บางทีมันก็จะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย
    ทั้งผู้ถูกแนะนำ และ ผู้แนะนำเองด้วย เพราะว่าเขาอาจจะรู้สึกด้านลบกับเราแทน
    ไม่ว่าเจตนาของเราจะดีเลิศเพียงใดก็ตาม..หวังว่าความจริงข้อนี้พี่คงจะรู้ดีอยู่แล้วนะครับ

    เอาหละนะครับ..ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะครับคุณพี่

    ..............................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2013
  8. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ผู้ที่หลุดพ้นแล้วเป็นอย่างไร จะรู้ได้อย่างไร

    มันเป็นสิ่งรู้ได้เฉพาะตนไม่ใช่หรือ

    ยกเว้น สำหรับผู้ที่มีภูมิธรรมสูงกว่าจึงจะรู้ได้



    ยกเว้นสำคัญผิดเป็นอย่างไรหรือ

    เพราะมัน ก่ ยังเป็นสิ่งรู้ได้เฉพาะตนไม่ใช่หรือ

    ยกเว้น สำหรับผู้ที่มีภูมิธรรมสูงกว่า ที่จะรู้ได้


    เพราะมันมีแต่ทางเดิน

    แต่ทางเดิน มิได้หมายถึง การหลุดพ้น

    ทางเดิน ก่ แค่ทางเดิน

    เดินแล้ว ก่ รู้หมดเลยหรือ

    เคยเดินทาง(ไกล)ไหม เดินทางไปสักระยะหนึ่ง

    ก่ ต้องถาม(ผู้รู้ทาง)ว่า ทางนี้ใช่ไหม

    เดินไปอีก ก่ ต้องถามอีกว่าทางนี้คือ ทางที่จะจุดหมายที่จะถึงใช่ไหม

    เป็นการแสดงถึงไม่ประมาท

    ไม่ใช่กูรู้แล้ว กูจะไปทางนี้

    กูรู้แล้ว กูจะเดินทางตามที่กูรู้ นี้

    กูเห็นในตำราบอกแล้ว กูเห็นในแผนที่ แล้ว กูก่จะเดินไปตามแผนที่ นี้ล่ะ

    เสร็จแล้ว กูก่ เดินทางไป

    เดินทางไป

    เดินทางไปอีก

    พอถึงที่หมาย กลับมองไม่เห็น เป้าหมายที่จะเดิน

    เพราะลืมถามคน ใกล้เคียง ลืมถามคนในท้องถิ่น

    ว่าเป้าหมายที่เดิน ยังเดินไปทางนี้ใช่หรือไม่

    แบบนี้เขาเรียกว่า พวกตะแบง

    พวกดื้อ พวกขี้อวด

    ก่ ต้องย้อน กลับมา(โลด)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2013
  9. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    แล้ว " ปัญญา ในระดับ ภาวนามยปัญญา " มันเป็นอย่างไร ชยุตเอ๋ย ...

    หรือ ที่ว่าสามารถทำให้หลุดพ้น ได้ หน่ะ

    ใครที่คิดว่าตนเองรู้ (ไม่จำเป็นชยุตมาเล่า)

    ภาวนามยปัญญา คือ อย่างไร

    มาเล่าให้ฟังสักหน่อย ....... อยากจะรู้
     
  10. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    และไม่ต้องมาพูดว่ารู้ได้เฉพาะตน อธิบายไม่ได้

    เมื่อไม่รู้ว่า มันเป็นอย่างไร

    ไม่สามารถอธิบาย ให้แจ่มชัดได้


    แสดงว่า ที่ฝึกๆ กันไป ยังไม่รู้จุดหมาย

    ว่า ฝึกแล้วได้ปัญญา จริง ๆ

    แบบนี้เรียกว่า ถูกตำราหลอกตุ๋น

    หากฝึกแล้วมีปัญญา ให้ยกตัวอย่าง

    บุคคล ที่พบปัญญา อย่างว่า ด้วย ....
     
  11. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ออ... ไม่มีอะไร มากดอก เพียง อยากจะรู้

    และจะไปหา .... ผู้ที่มีปัญญา .... ว่ามีปัญญาจริงหรือเปล่า
     
  12. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ชยุต เอ๋ย ที่สื่อมา ทั้งหลาย

    นั้นพอจะอ่านได้

    แต่ยกเว้น วัตรปฏิบัติ

    เพราะสมัย หรือ ยุค

    และองค์ประกอบมันเปลี่ยนไปแล้ว

    วัตรเดิม ก่ ต้องเปลี่ยนด้วย

    ตำราเก่าๆ ก่ ผิด

    มันหมดยุคไปนาน แล้ว ชยุต เอ๋ย

    ชยุตจะเดินทาง ชยุต ก่ ต้องดูว่า

    เป้าหมาย ที่จะไป มันเปลี่ยนตำแหน่ง

    เปลี่ยนที่ตั้ง เปลี่ยนแผ่นดินแล้วหรือยัง ....
     
  13. action_jai

    action_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2007
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +241
    ตามทัศนะของข้าพเจ้า...
    ทุกวันนี้ เราเข้าใจ"ธรรมะ"ผ่านมุมมองของพระอรหันต์ที่เป็นสาวกภูมิ (ซึ่งมีภูมิในการสอนที่ไม่แยบคาย ไม่รู้กว้าง เหมือนพระพุทธเจ้า ที่เป็นบรมครู...มิได้กล่าวว่าท่านเหล่านั้นไม่รู้จริง เพียงแต่ท่านไม่เข้าใจภูมิของจิตที่ไม่ใช่สาวกภูมิ เสมือนรุ่นพี่ไม่เข้าใจรุ่นน้องได้มากพอ ได้อย่างที่อาจารย์เข้าใจศิษย์)
    เราจึงถ่ายทอดกันมาแบบ 1>2>3>4 และเห็นว่า ใครไม่รู้ตามลำดับ ยังไม่บรรลุ"ธรรม" แท้..
    แต่ความจริงบรรดาพุทธบริษัทในยุคนี้ ประกอบไปด้วย บุคคลหลายจำพวก มีทั้งผู้ที่ปรารถนา พุทธภูมิ ปัจเจกภูมิ สาวกภูมิ... ซึ่งมีการ"รับรู้ธรรม" และ"วาระการบรรลุธรรม"ที่แตกต่างกันออกไป... เราจึงมักจะสงสัยในภูมิธรรมของผู้อื่นอยู่เสมอ... และพยายามเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "อริยะบุคคล" พยายามสังเกตุว่าท่าน ปฏิบัติอย่างไร ดำเนินชีวิตอย่างไร... ซึ่งความเป็นจริง การจะเข้าใจธรรมของแต่ละท่าน อาจมีวิธีที่ไม่เหมือนกัน เพราะอาสวะกิเลสของแต่ละคนมากน้อยต่างกัน การติดข้องในแต่ละเหตุปัจจัยก็แตกต่างกัน มีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้...และการที่จะรู้ได้ ก็ด้วยการน้อมเข้าไปดูในจิตตน มิใช่ การไปดูผู้อื่น แม้ว่า ผู้ที่ยึดเป็นแบบอย่างนั้นจะเป็นพระอรหันต์ก็ตามที...
    อีกทั้ง บุคคลบางจำพวกโดยเฉพาะพุทธภูมิ มีปัญญารู้เห็น "ธรรม" แล้ว เข้าใจด้วยปัญญาแล้ว แต่จิตใจยังไม่ตัดจากปัจจัยบางอย่างที่ยังเป็นเชื้อในการเกิดอยู่ จึงอาจทำให้บางคนที่ไม่เข้าใจ และคิดไปว่าบุคคลเหล่านั้น ดูเหมือนคนที่ยังมิกิเลสแต่มาพร่ำสอนชาวบ้าน...ทั้งที่บางครั้ง ท่านเหล่านั้น ก็เห็น "ธรรม" แล้วจริงๆ...
    ...วิธีการในการปฏิบัติจึงไม่สำคัญ...แต่สำคัญตรงที่ "สอดคล้อง" หรือ "ขัดแย้ง" กับหลักไตรลักษณ์ จึงจะทราบได้ว่า กำลังอยู่ใน "ทาง" หรือ "นอกทาง"
     
  14. elmaun

    elmaun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +149
    เข้าใจความรู้สึกคุณชยุต เลยครับ แต่ทำไงได้คุณชยุตมีบารมี ผู้มีบารมีจะมีประกายส่งออกมาให้ผู้อื่นรุ้สึกได้ แค่มีชื่อคุณชยุตอยุ่บนหัวข้อกระทุ้ ก็ทำให้มีผู้สนใจกระทุ้นี้ทั้งเวปแล้วครับ คิดว่าได้บุญละกันครับ
     
  15. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ฟังธรรมแล้ว(รู้สึก)ยอดเยี่ยม...ที่

    ...ที่สามารถพรรณนาออกมาได้
    รู้สึกว่ายอดเยี่ยม เพราะเข้าใจในตนเองและภาพปรากฎ

    แต่ติดอยู่อย่างหนึ่ง คือ กรอบ
    ละกรอบ ได้มั๊ย ......
    ออกจากกรอบ ได้มั๊ย ....

    เหลือตรงนี้
    ออกจากกรอบ
    ไม่ยึดติดในกรอบ

    เมื่อออกแล้ว....

    มองย้อนมาดูในกรอบ
    จะเป็นเช่นไร ....

    ---------------------------------------

    เมื่อเราร่ำเรียนจบจากมหาลัย หรือจากสถาบัน บังคับต่างๆ

    แล้ว จะเป็นอิสระจากกรอบการบังคับของสังคม

    เป็นอิสระจากที่ฝึกตน เป็นอิสระจากที่ร่ำเรียนมา

    ผลสุดท้าย เมื่อไปทำงานจริง

    เคยได้นำสิ่งที่เรียนรู้ ไปใช้งานจริง

    สักกี่เปอร์เซนต์

    สิ่งที่เหลือของท่านคือ

    เมื่อจบทุกกระบวนแล้ว

    ของพื้นฐานของความรู้

    ที่เหลือ คือ การละทิ้งออกจากกรอบ

    เมื่อละทิ้งออกจากกรอบ

    ก่ จะเห็นแล้วเข้าใจยิ่งขึ้นเอง

    .....ความรู้ที่เรียนมา

    แทบจะไม่ได้ใช้เลย

    ก่ สามารถดำรงตนเป็นผู้ประสบผลสำเร็จ

    ได้

    ---------------------------

    มองให้รอบ และให้สิ่งรอบๆ เป็นความรู้

    ความรู้ที่เกิดจากการผลักดันจากสิ่งรอบๆ

    จะทำให้ตนเองพัฒนา ต่อไป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2013
  16. action_jai

    action_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2007
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +241
    ....ขอยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า ยังออกจาก "กรอบ" ไม่ได้
    ...แต่พอจะเห็นในบางขณะแล้ว ว่าอะไรคือ "กรอบ" และอะไรคือ "แก่น"
    และก็ต้องพัฒนา อย่างที่ท่านชี้แนะ ต่อไป...
     
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ในกรณีที่เราขอให้ใครเขาช่วยสั่งสอนเราหน่อย อันนั้นหนะพอจะเข้าใจได้
    ว่าเราต้องอดทนเพื่อให้ได้ความรู้ที่เขาจะมาสั่งสอนนั้นๆ

    แต่ในกรณีนี้ ผมไม่เคยขอให้พี่ช่วยมาเป็นครูบาอาจารย์ให้ผมเลยนะครับ
    แล้วทำไมถึงคอย หรือ อยาก จะมาแนะนำสั่งสอนผมจังเลย


    ......................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2013
  18. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    รอเวลา

    รอผู้นำ

    รอการพัฒนาจากผู้นำ เท่านั้น

    ------------------------------
    ผู้นำจะทำลายสิ่งที่ไม่เหมาะสมให้
    ------------------------------

    หากไม่ทำลาย บางสิ่งที่ไม่เหมาะสม

    ก็จะพัฒนาต่อไปไม่ได้ .......

    รอ
     
  19. Ultimate9000

    Ultimate9000 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2013
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +32
    เห็นด้วยครับ ไปยุ่งอะไรกับชยุตเขาครับเนี่ย น่าจะแจ้งมอดว่ารังควาญไ้ด้นะครับเนี่ย พอดีช่วงนี้ไม่ค่อยมีผู้วิเศษมาตั้งกระทู้เลยไปเล่นชยุตแทนใช่ไหมครับ ผมว่าเขาไม่ได้อยากจะสนใจคุณเลยนะครับเนี่ย
     
  20. phudit999

    phudit999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +2,396
    ยินดีที่ได้รู้จัก ....

    อยากรู้มั๊ย ยินดีเรื่องอะไร

    อยากรู้ ก่ ไปถาม ญ ที่ชื่อว่า มณีส่องแสง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...