มโนมยิทธิไปนิพพาน

-การใช้มโนมยิทธิไปนิพพาน จิตที่นิพานยังรับรู้ ยังมีวิมานอยู่ไช่ไหมครับ
แต่นิพพานของจริงนี่ปิดการรับรู้แล้วใช่ไหมครับคือสูญสนิทปิดการรับรู้ไม่มีเจตสิก
ไม่มีอะไรเลยนี่ผมเข้าใจถูกไหมครับ
-สมมุติผมตายในฌานไปอยู่ที่พรหมอายุหลายสิบ,ร้อยพัน,กัปอายุอยู่นานขนาดนั้นต้องรอจุติอย่างเดียวเลยใช่ไหมครับแล้วสมมุติพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ขึ้นไปเทศน์โปรดดวงตาเห็นธรรมแล้วเคลื่อนสู่อนาคามี,อรหันต์,นิพพานทันทีได้เลยไหมครับโดยไม่ต้องรอจุติเพราะต้องรอเป็นกัปเลยใช่ไหมครับกว่าจะตาย
หรือที่พรหมสามารถปฏิบัติเข้านิพพานต่อเลยหรือเข้านิพพานก่อนหมดอายูไขได้ไหมครับ

 

พรหมที่เข้าสู่นิพพานได้เลย คือ พรหมในชั้นสุทธาวาส

ถ้ายังไม่ข้ามโคตรภู ยังไม่ตกกระแสนิพพาน แม้เป็นพรหม ก็ต้องลงมาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่

เพราะลักษณะขันธ์ที่ไม่มีรูปขันธ์ ไม่สามารถใช้ฝึกสติจนเกิดปัญญาเห็นทางหลุดพ้นได้

ที่ยกเว้นพรหมสุทธาวาส เพราะว่า พรหมสุทธาวาส คือ พระอริยบุคคล ที่ดวงจิตเกิดปัญญา เห็นทางหลุดพ้นแล้ว แต่ยังชำระเชื้อในการเกิดแบบละเอียดบางตัวยังไม่หมด จึงต้องเกิดอีก แต่เชื้อในการเกิดที่ยังเหลือนั้น เป็นเชื้อละเอียดมาก จึงไม่นำพาให้กลับมาเกิดในภพภูมิมนุษย์ได้อีก เกิดแต่เพียงชั้นของพรหม และปฏิบัติต่อด้วยแนวทางที่ตนได้รู้มาแล้วจนจบ

 

ยังไม่เคยไป เลยไม่ทราบ!?!!?!

 

ไม่ใช่ครับ

 

ที่รับรู้คือ จิต จิตมีสภาพรู้ ส่วนเจตสิกนั้นมันอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่มีในพระนิพพาน
ที่คุณว่ามา ผมว่าไม่ถูก ปิดสนิทจริงๆนะอยู่ในอรูปพรหม ไม่มีอายตนะรับรู้

 

ผมว่าไม่ถูกครับ อยากรู้นิพพานก็ไปดูที่นิพพานเองครับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น มาถามคนแถวนี้ไม่รู้ว่ามีใครถึงนิพพานกันรึยัง ผมเองก็ไม่รู้ สงสัยแบบนี้ไม่เกิดประโยชน์ครับ ต้องขออภัยที่ใช้คำตรงไปหน่อย แต่ไม่ได้มีเจตนาจะก่อกวนนะครับ

 

ตอบเคลื่อนเข้ารอที่นิพพานของสาวกอรหันต์น่ะไช่ครับ แต่ไม่ไช่นิพพานแบบพุทธองค์ เพราะนิพพานแบบพุทธองค์ ต้องนิพพานตอนเป็นมนุษย์ที่ยังมีชีวิตให้ได้ก่อนครับ ต้องดับอุปทานสัญญาวิญญาณของเชื้อที่นำพาให้เกิดมาเป็นมนุษย์ให้ได้ก่อนครับ


ไม่ว่าจะพรหม ก็ต้องกลับมาเกิดในโลกเป็นมนุษย์อีกครั้ง หรือในแดนนิพพานของสาวกอรหันต์ทั้งหลายก็ต้องกลับมาเกิด เป็นมนุษย์ อีกครั้ง เพื่อ ให้เข้าถึงซึ่งมรรคแปด นั่นก็คือ ความเป็นมนุษย์ผุ้ประเสริฐ ครับ ไม่ไช่เป็น อรหันต์หรอกครับ เพราะนี่คือศาสนาพุทธ ไม่ไช่ศาสนาอรหันต์ แต่อย่างใด

ซึ่งคนส่วนมากเข้าใจ คำว่าอรหันต์ที่พุทธองค์เข้าถึง กับอรหันต์สาวก ทุกวันนี้ ว่าอันเดียวกัน แต่ที่จริง คนละแบบกัน เพราะ พระสงฆ์ที่เข้าถึงอรหันต์ แต่ก็หาไช่ เป็น มนุษย์ผุ้ประเสริฐ ไม่ คนละอันกันครับ

 

อย่างไรครับ?

 

นิพพานไม่ใช่ที่ใดๆ เพราะมีทุกที่ ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล จะแจ้งนิิพานต้องดับอายนะทั้ง6

 

-การใช้มโนมยิทธิไปนิพพาน จิตที่นิพานยังรับรู้ ยังมีวิมานอยู่ไช่ไม๊ครับ

นิพพานเป็นเมืองทิพย์วิเศษ ไม่มีการเคลื่อน ปรารถนาอะไรแค่คิดก็ได้แล้ว ผู้ที่สามารถเข้าไปอยู่ได้จึงต้องไม่มีกิเลสแล้ว วิมาน 1 คน ต่อ 1 หลัง แล้วแต่ว่าบุคคลใดสั่งสมบุญบารมีมาขนาดไหนจะเป็นวิมานทอง วิมานแก้ว 7 ประการ 9 ประการ สุดแต่บุญของท่านนั้น ส่วนจิตหรือ อทิสมานกายรับรู้ทั้งหมด เพียงแต่ หมดแล้วซึ่งกิเลส โลภะ โทสะ โมหะ ....



แต่นิพพานของจริงนี่ปิดการรับรู้แล้วใช่ไม๊ครับคือสูญสนิทปิดการรับรู้ไม่มีเจตสิก
ไม่มีอะไรเลยนี่ผมเข้าใจถูกไม๊ครับ

ไม่ถูกครับ การปิดการรับรู้แล้วไม่มีอายตนะนี่เป็นอรูปพรหม จะอยู่ระหว่าง พรหมชั้นที่ 6 หรือ 7 เนี่ยแหละครับ จะมีลักษณะเป็นดวงแก้ว ลอยอยู่ แม้พระพุทธเจ้าจะเสด็จโปรดก็ไม่อาจช่วยได้เนื่องจากไม่มีอายตนะรับรู้แล้ว หากหมดบุญก็ต้องจุติ อาจจะลงนรกเลยหรือเป็นมนุษย์สุดแล้วแต่ บุคคลจำพวกนี้ท่านชอบเข้าฌานในอรูปฌานและตายตอนเข้าฌานครับก็จะไปเกิดเป็นอรูปพรหม


-สมมุติผมตายในณานไปอยู่ที่พรหมอายุหลายสิบ,ร้อยพัน,กัปอายุอยู่นานขนาดนั้นต้องรอจุติอย่างเดียวเลยใช่ไม๊ครับแล้วสมมุติพระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์ขึ้นไปเทศน์โปรดดวงตาเห็นธรรมแล้วเคลื่อนสู่อนาคามี,อรหันต์,นิพพานทันทีได้เลยไม๊ครับโดยไม่ต้องรอจุติเพราะต้องรอเป๊นกัปเลยใช่ไม๊ครับกว่าจะตายหรือที่พรหมสามารถปฏิบัติเข้านิพพานต่อเลยหรือเข้านิพพานก่อนหมดอายูไขได้ไม๊ครับ

หากพระพุทธเจ้าเทศน์โปรดบรรลุเป็นพระอรหันต์แล้วไปนิพพานได้เลย แต่ถ้ายังเป็นพระอนาคามีน่าจะต้องอยู่รอทำหน้าที่ตนเองให้จบก่อนเหมือนท่านท้าวผกาพรหม และท่านท้าวสหัมบดีพรหม ครับ ถ้าพรหม ต่ำกว่าชั้นที่ 12 คือตั้งแต่ชั้นที่ี 11 ลงมา จะเป็นบุคคลที่ได้ฌาน แต่ตั้งแต่ 12 ขึ้นไปจะเป็นพระอนาคามีแล้วครับ คือ รอการบรรลุเป็นพระอรหันต์ ส่วนให้พรหมตั้งแต่ชั้นที่ 11 ลงมา ชอบเข้าฌานเป็นปรกติ ส่วนใหญ่ไม่มีใครรอลงมาจุติหรอกครับมีแต่ขวนขวายทำให้ตัวเองดีขึ้น แต่ก็อาจจะมีบางท่านไม่ได้เป็นแบบนั้นนะครับ

 

นิพพานเป็นบ้านเมือง อิฉันก็อยากได้สักหลังสองหลังจริงๆๆ ติดถนนตัดใหม่ด้วยไหมค่ะ คุณ เป็นบ้านเมืองนี่

 

ในพระไตรปิฏกพระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสคำว่าบ้านเมืองพระนิพพาน แต่มีตรัสถึง ประตูพระนิพพาน
ช่วยอธิบายด้วย ประตูพระนิพพาน ที่พระองค์ตรัสถึงนั้น คืออะไร

 

คงคล้่ายๆๆอุปมา นั้นแหละค่ะ ให้พอเข้าใจไำด้อย่างฉันหน้าซีด เป็นไก่ต้ม ก็ไม่ได้หมายความว่าหน้าฉันมีสีขาวแบบนั้นจริงๆๆ แต่เป็นอาการของหน้าคนเวลาตกใจซึ่งไม่ได้ดูมีเลือดฝาดแบบเวลาปกติ ประตูนิพาน ก็น่าจะหมายถึงทำนองนี้ คือจิตสำรอกกิเลสออก หมด มันก็รู้นิพพาน ก็เปรียบเหมือนมันผ่านเข้าประตูนิพพาน ประตูการบรรลุธรรมเข้าไปแล้ว

ไม่ใช่เป็นเมืองแก้วแบบบางสำนักสอน ว่าเป็นเมืองจริงๆๆๆ ไม่ได้เป็นอุปมาอะไรแบบนี้

 

แล้วทราบได้ยังไงว่า บางสำนักที่สอนนั้น ไม่ได้ อุปมา หรือถ้าเป็นเมืองแก้วจริงตามที่สอน
แล้วคนที่ฝึกๆกันได้ไปเห็นมาจริงนั้น หมายความว่ายังไง หรือ คุณ นางมะลิ ว่าเขาโกหกหรือ
บางที เราเองต่างหาก ที่ ตาบอดคลำช้าง หรือ ตาบอดแต่กำเหนิด แล้วมีคนมาบอกว่าพระอาทิตย์มี พระจันทร์มี
แต่เราไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เพราะฉะนั้น พระจันทร์ พระอาทิตย์ ย่อมไม่มีแน่นอน เป็นเช่นนั้นไหม
คุณ อธิบายได้ไหมว่าทำไม เมื่อเพ่งกสิณดินจนได้ฌานสี่ ก็สามารถเดินบนน้ำ บนอากาศได้

ทั้งหมดนี้เราต้องการเหตุต้องการผล ไม่อยากกล่าวหาผู้ใดโดยยังไม่ได้พิสูจน์เอง

 

มโนสามารถไปนิพพานได้ จริงแท้แน่นอน ล้านเปอร์เซนต์ แต่จะไปได้เฉพาะตอนมีชีวิตอยู่เท่านั้น เข้าใจนะคับบบบบบบ

 

ก็ถูกครับต้องตอนมีชีวิตอยู่ ถ้าตายแล้วจะใช้มโนได้ไงละ
อยากทราบว่า ไปนิพพาน แบบไหน ถอดจิตไป หรือว่า ไปด้วยใจ หรือ คิดไป

 

ฉันไม่ได้บอกนะค่ะที่เขาไม่ได้เห็นจริง แต่รู้ได้ไงว่าที่เห็นนะจริง ไม่ใช่หลงไปเอง เหมือนคนเราฝันในฝันบางครั้งมันก็ยากที่จะแยกว่าอะไรจริงไม่จริง แค่พูดใครก็พูดได้ค่ะ

ส่วนที่ว่าบางสำนักสอนไม่ได้อุปมา ก็ถามเขาแล้วนี่ค่ะว่า อุปมาไหมหรือเป็นงั้นจริง เขาว่าเป็น เป็นเมือง ฉันก็เลยจบหมดสงสัยว่าเขาสอนว่าเป็นเมืองก็แค่นี้


ส่วนใครจะเดินบนน้ำ บนอากาศได้หรือไม่เคยเห็นค่ะถ้าไม่ใช่มายากลนะ เพราะถามคนที่ว่าทำได้เขาก็ว่าเอามาแสดงให้ดูไม่ได้ ก็สงสัยเหมือนกันว่าทำได้จริงหรือไม่
นี่ก็เป็น การหาเหตุผลพิสูตรนะค่ะ แต่เขาไม่ให้เราพิสูตรเราก็จนใจ....

 

ทำไม่ได้ก็เงียบไว้จะดีกว่า ทำได้แล้วค่อยมาคุย นะ

 

แล้วคุณทำได้หรือเปล่าค่ะไม่งั้นจะเข้าตัวเองนะค่ะที่พูดน่ะ คุณร้อยยูส ทำให้ฉันดูหน่อยสิฉันไม่มีอะไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจง่ายไม่ดื้อแค่พิสูตรให้ฉันเห็นฉันก็เชื่อแล้ว แต่ถ้าไม่ฉันก็ยังไม่ฟันธงนะค่ะ ว่าจริงเท็จ ยึดทางสายกลางค่ะ

 

ครับ คุณร้อยกว่ายูส...

ไปฝึกสิบคน ไม่ใช่ว่าได้ทุกคน

ครูฝึก ที่นั่งสอนคุณ ฝึกมโนยิทธิ

เค้ารู้ว่าคุณไปได้ หรือไม่ได้

ถ้าเค้าไม่รู้ เค้าเป็นครูไม่ได้หรอก

คุณบอกว่า เห็น แต่ครูฝึกเค้าคลุมคุณอยู่

เค้าก็รู้ว่าคุณเห็น หรือไม่เห็น

.. ลุงผมอยากได้มาก อยากฝึก ถวายเงิน

สร้างนู็น สร้างนี่ เยอะไปหมด

พอนั่งล้อมวง ฝึกมโนยิทธิ ครูฝึกนั่งหันหลังไห้ทันที

เค้ารู้ตั้งแต่ก่อนนั่งแล้ว ว่าลุงผมไปไหม่ได้

ครูที่ทำได้จริงๆ