ใครปลูกว่าน เล่นว่านบ้างเข้ามาคุยกันหน่อย

เค้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องว่านเน้อ แค่ชอบปลูกต้นไม้เท่านั้นเอง
ที่บ้าน ส่วนใหญ่ก็ปลูกลงกระถางค่ะ เพราะดินที่นี่เป็นดินกรวด
ปลูกต้นไม้ไม่ค่อยงาม ปลูกลงกระถางก็ดีอย่าง คือ เคลื่อนย้ายง่าย
แต่สิ่งสำคัญสุดในการปลูกต้นไม้ ไม่ว่าต้นอะไร คือ ความใส่ใจอ่ะนะคะ ^^

 

ขอบคุณครับ ....ประสบการณ์ทำให้เราเชี่ยวชาญครับ ....ก่อนมีประสบการณ์ก็ต้องได้รับคำแนะนำก่อน ครับ .....

จะลองเอาไปประยุต์ใช้ นะครับ ...

 

เพื่อนสมาชิกท่านใดมีวิธีแปรรูปว่านยาบ้างครับ

เพื่อนสมาชิกท่านใดมีวิธีแปรรูปว่านยาบ้างครับ เช่น ว่านหัวแบบต่างๆ ครับ .เช่นทำเป็นผง สกัดเป็นน้ำมัน หุง หรือเคี้ยว เป็นน้ำมัน ....รบกวนช่วยแบ่งปันประสบการณ์ เป็นวิทยาทาน หน่อย ครับ ขอบคุณครับ

 

ว่านเสน่ห์จันทน์เขียว : เครดิตบทความ panmai.com

ว่านเสน่ห์จันทน์เขียว
ชื่อวิทยาศาสตร์
Homalomena spp.
วงศ์
ARACEAE
ชื่อสามัญ
-
ชื่ออื่นๆ
-
ลักษณะทั่วไป
เป็นว่านที่เกิดจากหัวที่อยู่ใต้ดิน ลำต้นโผล่ขึ้นมาเหนือดิน มีลักษณะเป็นกอกลม คล้ายต้นบวบมีสีน้ำตาลไหม้ ใบเป็นรูปหัวใจ ปลายใบแหลม โคนเว้า พื้นใบและก้านใบมีสีเขียว ช่วงใบถี่ ขอบใบเรียบไม่มีหยัก ใบออกตรงส่วนยอดของลำต้น ออกดอกเป็นกลุ่มระหว่างกาบของก้านใบ ลักษณะของดอกคล้ายกับดอกจำปีตูมมีสีเขียว มีกาบดอกห่อหุ้มเกสรอยู่ และมีลักษณะเป็นแท่ง ว่านเสน่ห์จันทน์เขียวมี 2 ชนิด คือ ชนิดหนึ่งเกสรจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ และอีกชนิดหนึ่งเกสรไม่มีกลิ่นหอม
การปลูก
เสน่ห์จันทน์เขียวเป็นว่านที่ปลูกได้ในดินทุกชนิด แต่จะเจริญงอกงามได้ดีในดินปนทราย ควรปลูกในที่ร่มหรือที่ร่มรำไร ให้มีแสงแดดส่องได้เพียงเล็กน้อย ถ้าถูกแสงแดดจัดนานจะทำให้ใบไหม้ การให้น้ำควรให้สม่ำเสมอทั้งเช้าและเย็น เพราะว่านเสน่ห์จันทน์เขียว เป็นไม้ที่ต้องการความชื้นสูงพอสมควร
การขยายพันธุ์
โดยการแยกหน่อจากหัวเดิมมาปลูกใหม่
ความเป็นมงคล
เสน่ห์จันทน์เขียวเป็นว่านเสน่ห์เมตตามหานิยม ปลูกเลี้ยงไว้เพื่ออำนวยโชคลาภและทำให้ผู้เป็นเจ้าของมีเสน่ห์ การพบปะผู้คนก็จะมีแต่คนชอบคนรักในตัวผู้เป็นเจ้าของว่าน และเป็นว่านที่เหมาะที่จะปลูกไว้ตามร้านค้าและบ้านเรือนเพราะจะทำให้มีลูกค้าหรือแขกบ้านไปมาหาสู่อย่างมิตรอย่างสม่ำเสมอ

 

ว่านแสงอาทิตย์ กับว่านกุมารทอง เหมือน ต่าง กัน อย่างไร

ว่านแสงอาทิตย์
ชื่อวิทยาศาสตร์
Heliconia metallica planch. & Lind. ex Hook
วงศ์
HELICONIACEAE
ชื่อสามัญ
-
ชื่ออื่นๆ
ว่านแสงไฟ

ลักษณะทั่วไป
เป็นไม้ล้มลุกที่นำมาจากต่างประเทศ หัวเป็นเหง้าใต้ดิน ขนาดใหญ่ มีการแตกเป็นแง่งได้ เช่นเดียวกับหัวข่า ก้านใบสั้นส่วนใหญ่แผ่ออกเป็นกาบสีแดงโอบหุ้มกันเป็นลำกลมแบน สูง 30-50 ซม. ใบรูปรียาว ขนาดกว้าง 14-20 ซม. ยาว 30-40 ซม. ปลายใบแหลมเป็นติ่ง โคนใบเบี้ยว ขอบใบมีขลิบสีแดงโดยรอบทางด้านบน เส้นกลางใบเป็นร่องสีแดง ขอบของร่องสีขาว เส้นใบนูนออกในลักษณะตั้งฉากกับเส้นกลางใบ แผ่นใบสีเขียว ด้านล่างแผ่นใบอ่อนมีสีแดง ใบแก่จะมีสีแดงเรื่อๆ เส้นกลางใบนูนเป็นสันสีแดงเข้มกว่าแผ่นใบเมื่อถูกไฟหรือแสงอาทิตย์ใบจะห่อและด้านล่างใบจะมีเงาสะท้อน เป็นว่านที่ไม่โทรมทั้งในฤดูหนาวและฤดูร้อน งามได้ตลอดปี

การปลูก
ควรปลูกในดินร่วนปนทราย เป็นว่านที่ชอบอยู่ในที่ชื้นเย็น และถูกแสงแดดรำไร
การขยายพันธุ์
โดยการแยกหน่อ

ความเป็นมงคล
ถือเป็นว่านทางโชคลาภ หากนำหัวว่านพกติดตัวเดินทางไกลจะเป็นอำนาจแก่ตน คุ้มครองอันตรายทั้งปวง ผู้ที่จะนำว่านนี้มาใช้ต้องชำระร่างกายและจิตใจให้สะอาดเสียก่อน คือ ต้องถือศีล 5 หรือศีล 8

 

ชื่อเรียกเหมือนกัน กับ กระทู้ก่อนหน้่า....

ว่านกุมารทอง
ชื่อวิทยาศาสตร์
Haemanthus multiforus (Tratt.) Martyn.
วงศ์
AMARYLLEDACEAE
ชื่อสามัญ
Blood flower, Powder puff lily
ชื่ออื่นๆ
ว่านกระทุ่ม ว่านตะกร้อ (เหนือ) ว่านแสงอาทิตย์ (กรุงเทพฯ)

ลักษณะทั่วไป
เป็นพันธุ์ไม้ล้มลุกที่มีลำต้นใต้ดิน ลักษณะหัวว่านคล้ายหอมหัวใหญ่ เปลือกที่หุ้มหัวมีสีน้ำตาลไหม้ และมีจุดสีแดงคล้ำประทั่วหัว ส่วนล่างของหัวมีรากออกเป็นกระจุกหนาแน่นดูเหมือนแท่นหรือฐานรองหัว ทำให้ดูคล้ายเด็กนั่งอยู่บนแท่นไว้ผมจุก จึงถูกเรียกชื่อว่า "ว่านกุมารทอง" ลำต้นส่วนที่โผล่ขึ้นมาเหนือผิวดินจะมีลักษณะกลม สีเขียว มีจุดสีแดงคล้ำตลอดทั้งก้าน ใบเป็นใบเลี้ยงเดี่ยว ลักษณะใบรีแกมรูปขอบขนาน ปลายใบมน โคนใบสอบเรียว ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย พื้นใบเป็นสี เขียวสด บิดตัวเป็นคลื่นเล็กน้อย ก้านใบเป็นรูปครึ่งวงกลม หรือหวายผ่าซีก แตกใบตรงส่วนยอดของต้นหรือก้านใบ ดอกจะออกก่อนใบ เมื่อดอกโรยแล้วใบจึงจะแทงขึ้นจากหัวใต้ดิน ดอกเป็นช่อแบบช่อซี่ร่ม ลักษณะของช่อดอกกลม ช่อหนึ่งๆ ประกอบด้วยดอกเล็กๆ หลายดอก ซึ่งแต่ละดอกมีกลีบดอกเป็นเส้นฝอยสีแดง ตรงปลายเป็นสีเหลืองเล็กน้อย ก้านดอกยาวมีสีเขียว ดอกดูสวยงามมาก โดยส่วนใหญ่แล้วดอกจะออกประมาณเดือนเมษายนถึงพฤษภาคมของทุกปี

การปลูก
ใช้ดินปนทรายหรือดินเผาไฟเป็นดินปลูก กลบดินพอมิดหัวว่าน รดน้ำที่เสกด้วยคาถา นะโมพุทธายะ ๓ หรือ ๗ จบ เสมอ ควรปลูกในวันเกิดของผู้ปลูกจะเป็นสิริมงคล ว่านต้นนี้ชอบความชื้นสูง ควรตั้งไว้ในที่ร่มรำไร
การขยายพันธุ์
ขยายพันธุ์ด้วยการแยกต้นที่เกิดใหม่หรือหัวใต้ดิน

ความเป็นมงคล
บ้านเรือนหรือร้านค้าใดมีว่านกุมารทองปลูกไว้จะเป็นสิริมงคลแก่สถานที่และผู้ปลูก เป็นว่านที่มีอำนาจ มีเทวดาคุ้มครอง เป็นที่ยำเกรงแก่ผู้พบเห็น ถ้าค้าขายก็จะขายได้กำไรไม่ล่มจม ให้อธิษฐานเอาเถิดในสิ่งที่ปรารถนา ถ้านำดอกว่านไปเคี่ยวน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันถั่วไว้ทาตัวจะทำให้อยู่ยงคงกระพันชาตรี ควรปลูกว่านต้นนี้ไว้ใกล้ๆ ศาลพระภูมิจะยิ่งดี เป็นว่านคู่กับ ว่านนางคุ้ม ว่านผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน

 

ปลูกว่านเพราะสนใจเรื่องคุณสมบัติทางสมุนไพรมาเป็นอันดับแรก นอกนั้นปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับหรือปลูกเป็นไม้มงคล

 

ขอบคุณครับ ....แล้วว่านยาที่คุณปลูก นำมาแปรรูปแบบใหน บ้างครับ ถ้าเป็นไป ได้ช่วยแบ่งปันกัน บ้างนะครับ ผมเองก็ชอบแนวทางนี้เหมือนกัน ครับ ...ที่สนใจด้านนี้ก็เพราะว่า สมุนไพร ทางยา ไม่ค่อยมีผลตกค้างในร่างกาย ครับ...

 

เคยแต่สกัดเป็นน้ำมันมาใช้ครับ เช่น น้ำมันพลับพลึง น้ำมันไพล น้ำมันว่านเอ็นเหลือง น้ำมันเสลดพังพอน เป็นต้น

น้ำมันพลับพลึงนี่ใช้ทานวดแก้อัมพฤกษ์อัมพาตได้ดีครับ ได้ความรู้มาจากอาจารย์ แกละ ที่เชี่ยวชาญด้านการนวดรักษาโรคต่างๆ นานแล้วครับ เลยลองมาทำดูได้ผลดีเกินคาดแล้วเก็บไว้ใช้ได้ 2-3 ปีเลย

สูตรยาก็คือใช้ใบพลับพลึง 10 ใบ ล้างให้สะอาด แล้วผึ่งไว้ครู่ใหญ่ให้พอแห้ง (ผมเองใช้พลับพลึงดอกขาว ใบใหญ่ แต่พลับพลึงชนิดอื่นก็น่าจะใช้ได้ แต่ไม่เคยทดลองครับ) ใช้มีดหั่นใบพลับพลึงเป็นชิ้นๆเล็กๆ อย่าใช้พวกเครื่องปั่น เพราะสีน้ำมันหลังสกัดแล้วจะออกมาเขียวเข้มมากไปเวลาทาแล้วเปื้อนเสื้อผ้าได้ง่าย

เอากระทะใบใหญ่หน่อยตั้งไฟอ่อนๆ ใส่น้ำมันมะพร้าวลงไปจะใช้น้ำมันแบบสกัดร้อนหรือสกัดเย็นก็ได้ แต่ผมชอบใช้แบบสกัดเย็นเพราะกลิ่นหอม ไม่เหม็นหืน น้ำมันมะพร้าวใช้ปริมาณ 1 ลิตร พอน้ำมันร้อนแล้วก็ใส่ใบพลับพลึงหั่นที่เตรียมไว้ลงไปในกระทะ ใช้ตะหลิวกวนไปมา 15-20 นาที ก็ยกลง ปล่อยให้เย็นลงพออุ่นเล็กน้อย ใช้ผ้าขาวบางคั้นกรองเอาน้ำมันออกมาให้ได้มากที่สุด จะได้น้ำมันมาจำนวนหนึ่งเหลือประมาณ 700 ซีซี

จากนั้นก็เติมการบูรลงไปแล้วคนจนละลายหมด จนอิ่มตัว ก็ประมาณราวๆ 300-400 กรัม
สูตรเดิมท่านบอกไว้ 500 กรัม ต่อน้ำมันมะพร้าว 1 ลิตร แต่ทำจริงแล้วเวลาบีบน้ำมันออกมาได้ไม่ถึงลิตร ปริมาณการบูรที่ใช้จึงลดลงตามส่วน

สูตรก็ง่ายๆแค่นี้ครับ บางท่านอาจไปเิติมเมนทอลให้เย็นๆหรือแต่งกลิ่นเพิ่มเติมอีกก็ได้
จากที่เคยใช้ก็สามารถเก็บไว้ได้นานอย่างน้อย 3 ปี

ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้กับคนที่เป็นโรคเบาหวานครับ

 

ส่วนน้ำมันไพล น้ำมันว่านเอ็นเหลือง ถ้าสกัดแบบชาวบ้าน ราคาประหยัดก็ใช้น้ำมันพืชสกัดเอา ถ้าจะให้ดีก็ใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันงาครับ แต่แพงหน่อย วิธีการก็ง่ายๆ ล้างว่านให้สะอาด หั่นเป็นแว่นๆ แล้วเอากระทะตั้งไฟเข้า เติมน้ำมันพืชลงไป แล้วเอาว่านที่หั่นแล้วใส่ลงไปทอดจนได้ที่แล้วก็เอาขึ้นครับ สัดส่วนน้ำมันกับปริมาณว่านในการทอดและเวลาที่ใช้ ผมก็กะๆเอาครับ แล้วแต่ว่าอยากสกัดให้ได้เข้มข้นแค่ไหน

พอสกัดแล้วจะเอามาทานวดแก้ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรือจะเอามาผสมทำเป็นยาหม่องใช้ก็ได้ครับ เช่น ทำเป็นยาหม่องไพลใช้ก็ได้ครับ

ตัวอย่าง วิธีการทำยาหม่องไพล การทำยาหม่องไพลไว้ใช้เอง

 

การทำน้ำมันเสลดพังพอน สูตรยาหมอพื้นบ้าน จังหวัดขอนแก่น
การทำน้ำมันเสลดพังพอน | thrai

ถ้าจะแปรรูปเป็นยาหม่องเสลดพังพอนก็ไม่ยากครับ ก็ทำคล้ายๆกับทำยาหม่องไพล

 

เยี่ยมเลย ขอบคุณครับ ภูมิปัญญา อย่างแท้จริงเลยครับ อยากให้มีใช้กันทุกบ้านเลยครับ จะได้เป็นการสนับสนุนกันและกัน ...

 

เยี่ยมเลยครับ ......ถามเพิ่มนิดหนึ่งนะครับ สกัดร้อน กับ สกัดเย็น เป็นอย่างไร(ขั้นตอนหรือ ขบวนการ สกัด)หรือ ครับ ตรงนี้ ผม ไม่ค่อยแน่ใจครับ เพราะไม่เคยทำนะครับ ..เคยแต่ได้ยินมาครับ แต่ก้ไม่ได้ติดตาม นะครับ ....ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณมากเลย ครับ ....ผมอ่านแล้ว มีทั้งส่วนผสม และขั้นตอนชัดเจนดี ครับ ....ชักอยากจะทดลองทำ แล้วเอามาแบ่งปัน ให้เพื่อนสมาชิก ใช้กันซะแล้ว ครับ ....แบบนี้ต้องวางแผนปลูกว่านยาบนพื้นที่บ้าน ตจว. แบบจริงๆ จังๆ ซะแล้ว ครับ ......

 

ขอบคุณครับ ....ยังงัย ต้องดูวงจร ของว่านต้นนี้ประกอบจากคำแนะนำ อีกทีนะครับ ......อย่างน้อยๆ เพื่อนสมาชิก ก็ ได้ให้ข้อสังเกต ไว้หลายๆ จุด นะครับ ยังงัย ผม จะ มาแบ่งปัน อย่างต่อเนื่องต่อไป นะครับ ......

 

อ๋อ ...แบบนี้ นิเอง .....ผมเห็นในรูป หัวใหญ่ มากๆ เลยครับ รูปที่ ผมถ่ายมาให้ดูนี้ ต้นเล็กมากๆ เลยนะ... ดูท่าทาง จะ อึดเอาเรื่ิองเลย ครับ เพราะอยู่ตรงทางเข้าบ้านเลยครับ ....(ตรงนี้ ทางซ้ายของภาพ ห่างจากว่านต้นนี้ ไปประมาณ เมตรครึ่ง มีจอมปลวก อยู่ครับ )

 

ข้อสังเกต ว่านที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ (ส่วนตัว)

ข้อสังเกต ว่านที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ (ส่วนตัว) ผมสังเกตเห็นว่าน หลายๆชนิด ที่มีอยู่ในหนังสือ เล่มต่างๆ ครับ (..ทั้งจากเน็ต และจากในหนังสือ)

ผมพอมีเวลาช่วงกลับตจว. ผม ก็ชอบเข้าป่าบ้าง เดินลัดเลาะ ไปตามทุ่งนา ป่าดอน ป่าอ้อยบ้าง ก็มักจะเห็น ว่านที่มีในหนังสือ อยู่เต็มไปหมดครับ ส่วนใหญ่ ช่วงหน้าฝน บางทีก็เห็นดอกบ้าง ไม่เห็นบ้าง แต่ใบ นะค่อยข้างชัด เห็นปั๊บ รู้เลย ว่าใช่แน่เลย ต้องเปิดตำราดูกันยกใหญ่เลย ..... ถ้าตรงใหน มีว่าน นะครับ จะเป็นจุดที่น่าสนใจมาก ครับ ทั้ง น้ำ ดิน และ ลม ....ไม่รู้ว่าผมหลอนไปเองหรือเปล่านะครับ ...

กลับมาที่ไร่-นา ในพื้นที่บ้านผมบ้าง โดยเฉพาะ ตรงที่มีต้นไม้ผล ยืนต้น ในรัสมีไกล้ๆ กัน ผม จะพบกับจอมปลวก อยู่ครับ และไม่ไกลจากจอมปลวก ผม ก็จะเห็นว่าน อยู่ไกล้ๆ กันนั้นเสมอ ครับ ......ส่วนจะเป็นว่านอะไร นั้น ก็จะแตกต่างกันออกไป ครับ รู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง นะครับ ...หน้าฝนเนี้ย จะเห็นเยอะ มาก จริงๆ ครับ .....จะว่าไปแล้ว แต่เก่าก่อน ก็มีอยู่แล้ว นะครับ แต่ผม ไม่ได้ใส่ใจ นะครับ .....พอเวลาผ่านไป ผม เริ่มอยากรู้จัก เลย ได้เห็นค่อนข้าง เยอะ นะครับ

เพื่อนๆ สมาชิกท่านอื่นๆ เคยมีประสบการณ์ เรื่องนี้ อย่างไร เล่าสู่กันฟังบ้าง นะครับ ....ขอบคุณครับ

 

น้ำมันมะพร้าวมีสองแบบครับ คือแบบสกัดร้อน คือการสกัดโดยใช้ความร้อนช่วย แบบนี้ผมยังไม่เคยทำ แต่เคยซื้อมาใช้จากตลาด น้ำมันจะมีสีเหลืองอ่อน ถ้าเก็บไว้นานจะเหม็นหืนง่าย วิธีทำก็ตามนี้ครับ
บทความ สุขภาพ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การศึกษา | วิชาการ.คอม » การทำน้ำมันมะพร้าวสูตร สกัด ร้��


สำหรับแบบสกัดเย็น ใช้วิธีการหมัก น้ำมันจะมีสีขาวใส กลิ่นหอม ผมเคยทำครั้งหนึ่ง ทำไม่ยากครับ ถ้าที่บ้านมีสวนมะพร้าวก็ทำน้ำมันเองเลย ประหยัดดี ถ้าซื้อเป็นน้ำมันสำเร็จรูปราคาจะค่อนข้างสูง หรือจะไปหาซื้อเนื้อมะพร้าวที่ขูดแล้วมาทำเองก็ได้ครับ ราคาก็ยังถูกกว่าซื้อสำเร็จเพียงแต่เสียเวลาทำบ้าง รายละเอียดก็ตามลิ้งไปเลยครับ การสกัดน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์

 

แบบนี้...ต้องเข้าทางทวด ซะแล้ว ......ครับ

 

ขอบคุณมากเลยครับ .....ผมนึกว่าจะต้องใช้เครื่องมือราคาแพง ในการสกัด อีกนะครับ ...