เก็บไว้ให้คิด...คนเล่นวิชชาต่ำ

อ่อๆ นั่นเรียกว่าปรอทน้ำครำครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นนะ แต่ปรอทหมอกหรือปรอทป่ามันจะมีฤทธิ์กว่าปรอทพวกนี้อยู่มาก

 

ลองสีผึ้ง(พญาลือ)

วันนี้ว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไร คิดขึ้นมาได้อยากเอาสีผึ้งพญาลือที่เก็บมาลองใช้ดู เราก็เลยเอาของสต็อคไปเรขายที่ตลาดดู ก่อนออกจากบ้านก็เจิมหน้าผากเรากับแฟนเรา พอไปถึงตลาดเรายังไม่ทันจะปูพื้นเลย ลูกค้ามายืนมุงรอซื้อกันเลย แต่เรื่องมันมาเกิดตรงที่ ตัวเราเป็นคนทอนเงินเก็บเงินจากมือลูกค้า เอาก็คิดอุตริ อยากเอาสีผึ้งป้ายสาวซะหน่อย ในระหว่างที่ขายไอเราก็บริกรรมมนต์พญาลือไปด้วยตลอดนะ ไอของพวกนี้เวลาใช้มันต้องบริกรรมคาถากำกับไปตลอดมันถึงจะไว พอได้โอกาสเห็นผู้หญิงคนนึงที่หน้าตาใช้ได้ทีเดียว ก็เลยเอาล่ะ ลองกับคนนี้แหละว่ะ ลองเอาสีผึ้งป้ายซะเลยเวลาทอนตัง ปรากฎว่าได้เรื่องนะ พอผู้หญิงที่ถูกป้ายไป เขาก็เดินไปที่อื่น สักพักนึงก็มาเลือกของใหม่ คราวนี้เลือกซะนานเชียว แถมยังขอเบอร์จะติดต่อรับของจากเราไปขายอีก(จริงๆแล้วเขาหาเรื่องคุยมากกว่า) ขอเสร็จก็เดินไปไหนอีกไม่รู้ แล้วก็มาเลือกของอีก มาคุยนู่นนี่เกี่ยวกับของที่ขายบ้าง จนแฟนเราถามว่าทำอะไรเขาอีกล่ะเนี่ย
เราก็เลยบอกแฟนไปแค่อยากลองเฉยๆ เล่นเอางอนกันเลยทีเดียว สรุปว่าการลองครั้งนี้ได้ผลดีทีเดียวเมื่อบริกรรมมนต์พญาลือกำกับไปตลอด ของที่ขายก็ดีมากๆ นะ

ปล. ผู้หญิงที่โดนป้ายได้ถอนมนต์ไปเรียบร้อยแล้วนะ

 

แล้วต่อด้วยคาถา นะอกแตก เลยป่าวครับพี่ประพน รับรอง ตามกลับบ้านเลย

 

อกแตกแทบขาดใจ ไม่เห็นหน้าเราทนอยู่มิได้ ใช่ไหมคุณโบ้

 

แบบนี้แหละครับพี่ ที่ผมชอบ มีแจกไหมครับ อิอิ

 

หมดหรือยังคับ ผมคิดว่าคงต้องมีบางท่านอยากบูชาบ้างหน่ะคับ

 

ผมก็เคยอุตริครับ ก็ลองเนี้ยะแหละเพราะความอยากรู้ หนึบเลยตามแจกอดติดหนับจนเว่อร์อายชาวบ้านด้วยครับ ตั้งแต่นั้นมากลายเป็นเข็ด แต่แปลกพอรอให้เจอก็ไม่เจอถูกใจซะที เล่ามาก็เล่าไปครับขำๆกันบ้าง

 

ยังมีอยู่ครับ ตอนนี้ไปสี่ตลับแล้วครับ สีผึ้งเก่า ของ อ.ฟ้อน ดีสว่าง

 

คงแจกไม่ได้ล่ะครับ เป็นสีผึ้งเก่าของ อ.ฟ้อน

 

ถ้าเราทำแบบนี้ก็ต้องรู้จักการคลายมนต์หรือถอนมนต์ออกครับ อันนี้เป็นแค่การลองของกับวิชชาเฉยๆ

 

อย่างนี้ต้องบอกว่า " สวดยอด " เลยหละค่ะ แค่หน้าตาก็กินขาดใครหลายๆคนแล้วเน้อ อิอิ..

 

ฮ่าๆ เป็นไงมั่งเอายาให้พ่อทานหรือยังครับ

 

ยังเลยค่ะ..เพราะเตรียมตัวเข้าผ่าตัดวันศุกร์นี้ หมองดน้ำและอาหารทุกอย่างค่ะให้แต่นมทางการแพทย์ทางเส้นเลือด แต่เก็บไว้อย่างดีค่ะ คิดว่าให้กลับมาบ้านก่อนดีกว่า...ขอบพระคุณมากนะคะ ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองคุณประพนให้แคล้วคลาดปลอดภัยตลอดเวลานะคะ..สาธุค่ะ

 

อ่อๆ ยังไงก็เป็นกำลังใจให้คุณพ่อหายไวๆนะครับ
ขอให้คุณพ่อหายจากโรคภัย ด้วยอำนาจของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครับ

 

ส่วนตัวผมเรียกสิ่งเหล่านี้ว่า "อวิชชา" ครับ

ขอเจริญในธรรมทุกท่านนะครับ

 

อวิชชา คือ อะไรครับ บอกผมหน่อยสิ

 

ก่อนอื่น, ผมขอบอกก่อนว่าไม่ได้ต้องการจะพูดเพื่อให้ผู้อื่นมองว่า
มีความรู้มากกว่าท่านอื่นอย่างไรนะครับ

หากท่านไม่เคยอ่านพระไตรปิฎกผ่านตามมาบ้าง ผมอาจพอแนะนำ
ให้ได้ครับ แต่ถ้าเคยอ่านผ่านตามาบ้างแล้วก็ถือว่ากล่าวซ้ำเพื่อให้
จำได้แม่นยำยิ่งขึ้นแล้วกันนะครับ

ในทางพุทธศาสนาแล้วคำว่า "วิชชา" และ "อวิชชา" แปลดังนี้
วิชชา แปลว่า ความรู้แจ้งในอริยสัจ
อวิชชา แปลว่า ตรงๆตามตัว คือความไม่รู้ในอริยสัจ

หนทางนี้ท่านย่อมรู้อยู่แก่ใจดีว่าเป็นอวิชชาหรือไม่

พระพุทธเจ้าท่านสำเร็จสมาบัติแปด รูปฌาณ 4และ อรูปฌาณ4
ตั้งแต่เป็นเจ้าชายสิทธัตถะ ฝึกได้ภายในวันเดียว ซึ่งอาจารย์ของ
ท่านในต้องใช้เวลาฝึกถึง 10 ปีจึงสำเร็จ แถมเจ้าชายสิทธัตถะ
ยังสามารถใช้ฌาณสมาบัติได้รวดเร็วกว่าผู้เป็นอาจารย์หลายเท่า

แต่ด้วยความที่บำเพ็ญโพธิญาณจนบารมีเต็มทั้งสิบทัศ ท่านจึง
รู้สึกได้ว่าความวิเศษนี้ ยังไม่ใช่หนทางที่จะพ้นทุกข์ไปได้ แม้ว่า
อาจารย์ของท่านจะเห็นความสามารถและชักชวนให้ช่วยกันดูแล
สำนักสืบต่อไปก็ตาม ท่านก็ปฏิเสธและแสวงหาหนทางพ้นทุกข์
จนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในกาลต่อมา

จะเห็นได้ว่าอิทธิฤทธิ์ทั้งหลายทั้งมวล แค่เพียงเจ้าชายสิทธัตถะ
ก็ถือว่ามากสุดประมาณแล้ว ใยต้องมาบวชและตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
อีกเพื่อสิ่งใด นั่นแสดงให้เห็นว่าเส้นทางนั้นไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ตามที่
พระพุทธองค์ท่านได้แสดงไว้ให้เห็นแล้วนั่นเอง

ปุถุชนหากตายขณะที่กำลังเข้าฌาณ ตายในรูปฌาณ ไปเกิดในพรหม
เป็นรูปพรหม ตายในอรูปฌาณ ไปเกิดในพรหมเป็นอรูปพรหม อายุยาว
นานเป็นหลายพันกัป ซึ่งนานจนบางครั้งพอนึกย้อนไปในอดีต ก็หลงไป
เลยว่าเป็นพรหมนั้นเที่ยง สามารถอยู่ได้เป็นอมตะก็มี

ผู้ที่เกิดในภพภูมิของเทวดาและพรหม ส่วนน้อยได้กลับมาเกิดสุขติภูมิ
ส่วนใหญ่ลงสู่อบายภูมิทั้งสิ้น เพราะความหลง ติดสุข ติดฌาณ เรื่องราว
เหล่านี้ท่านสามารถหาอ่านได้ในพระไตรปิฎกนะครับ มีครบหมด

เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวนะครับ หากไม่ถูกใจท่านผู้ใด ผมขอรับผิด
แต่เพียงผู้เดียว ด้วยความต้องการเพียง อยากให้ชาวพุทธเข้าใจธรรมะ
ของพระพุทธเจ้าในทางที่ถูกต้องเท่านั้น ผิดพลาดประการใดท่านผู้รู้
ทั้งหลายอโหสิกรรมให้ผมด้วยนะครับ

ขอเจริญในธรรมทุกท่านนะครับ

ปล. ขำๆนะครับ ไสยศาสตร์ แปลตามตัวคือ ศาสตร์แห่งการนอน,
การหลับ แต่พระพุทธองค์ท่านเป็น ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน

อยากทราบจริงๆว่า ท่านเจ้าของกระทู้ออกจากวิชชาต่ำนั้นได้อย่างไร
พอจะเล่าให้ฟังประดับปัญญาบ้างได้ไหมครับ

 

ถ้าอ่านประวัตศาสตร์สมัยพระนารายมหาราชเกี่ยวกับเรื่องไสยศาสตร์ จะเข้าใจว่า ที่มาของ " พุทธคาถา " ว่าสิ่งใดที่ให้กำเนิดศาสตร์ด้านนี้
ยุคนั้นขุนนางชั้นผู้ใหญ่หลายท่านไปแสดงวิชาพวกนี้ถึงฝรั่งเศส โดยให้ทหารฝรั่งเศสทดสอบเองเลย

 

ที่ไปประเทศผรั่งเศล หรือป่าวครับ

ถ้าเป็นจริงเเบบนั้น ทหารไทยเหนียวเบบนั้น สัก กองพันสบายไม่ต้องกลัวข้าศึก

บู๊กว่าเเรมโป๊ อีก ทหารไทยรบเก่งอยู่เเล้ววว

 

ป่าวครับ ไม่เคยไป แต่ฟังในข่าวTV ข่าวในพระราชสำนัก ไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่เสด็จไปเยือนฝรั่งเศส ในข่าวบอกว่ามีการโชว์ไสยศาสตร์ในยุคที่พระนารายมหาราช

เจ้าพระยาโกษาธิบดี( ปาน)เมื่อเป็นอัครราชทูตไปประเทศฝรั่งเศส ในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ก็ได้นำเอาวิชาเวทย์มนต์ทางคงกระพัน และอภินิหารต่าง ๆ ไปแสดงให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ได้ทอดพระเนตรหน้าพระที่นั่ง