คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    พระเจ้าห้าพระองค์หลังพระพรหม ตาหลวงทอง วัดหลักห้า ยะลา

    ผลงานของ คุณอำพลเจนครับ มวลสารดีพิธีดี

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    พระผงบูรพาจารย์วัดป่าสาลวัน โคราช งานของคุณอำพลเจน

    ให้บูชา 400บาทค่าจัดส่ง]EMS 50บาทครับ (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2013
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เทพจำแลงพมร ครูบากฤษณะ

    เมตตามาหนิยม

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    ขุนแผนหลวงปู่เหลือ วัดท่าไม้เหนือ

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    พระสมเด็จหลวงปู่ฤทธิ์ วัดชลประทานราชดำริ บุรีรัมย์

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    พระผงสองสมเด็จ สุดยอดมวลสารสุดยอดพิธีและเสกเดี่ยว ....ที่หาได้ยากยิ่งและยากใน

    การสร้า้ง สุดยอดพิธีเหนือกลางตะวันออก ตะวันตก อีสาน ใต้......ลป.หยอด วัดแก้วเจริญ

    หลวงปู๋ดี วัดพระรูป หลวงพ่อคูณปริสุทโธ หลวงพ่ออุตตมะ หลวงพ่อเปิ่น หลวงพ่อฮวด วัดดอน

    โพธิ์ทอง พ่อท่านนอง วัดทรายขาว ลป.คร่ำ วัดวังหว้า สุดยอดเกจิอาจารย์ในยุคนั้น ครบถ้วนทุก

    องค์ครับ

    อ่านข้อมูลคร่าวๆตามนี้ครับ ของเก่าเก็บครับผมมี 10 องค์ สวยๆทุกองค์ เหลือ 6 องค์ครับ

    สองสมเด็จ : บทความ - เรื่องราวน่ารู้

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความที่มาและข้อมูลอย่างสูง


    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2013
  7. Sunny Moon

    Sunny Moon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2013
    โพสต์:
    1,388
    ค่าพลัง:
    +1,760
    ขอจองพระศรีสุทโธนาคราช 1
    พระสองสมเด็จ 2 องค์ ขอองค์สวยๆนะค่ะ องค์ที่ลงรูปหน้าหลวงปู่โตไม่สมบูรณ์ค่ะ
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    รับทราบครับ จะส่งองค์ที่หน้าสวยๆไม่แตกไปครับ พระเก็บมาหลายปี อยู่ใน

    กล่องเดิมๆครับ
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ขอความกรุณาโอนเงินภายใน 3 วันทำการหรือถ้าไม่สะดวกติดต่อมาได้ครับ

    ไม่เกิน 7 วัน หรือตามสมควรครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    จัดส่ง

    EI 3951 6959 4 TH ขุนหาญ


    EI 3951 6960 3 TH ศรีราชา

    ขอบคุณครับ
     
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    :ประวัติหลวงปู่คำตัน http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13140
    ประสบการณ์ที่มีผู้เล่าให้ฟัง-(ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะครับ) มาจาก www.tourwat.com***

    เรื่องมีอยู่ว่า ลุงคนหนึ่ง พ่อเค้าเก็บหัวลูกระเบิดปืน ค ซึ่งข้ามมาจากลาวเมืองครั้งสงครามเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ่อเค้าใช้เป็นทั่งไว้ทุบเหล็กและมีด จนพ่อตาย

    ลุงซึ่งเป็นลูกใช่ต่อ จนคิดว่าหากกลายเป็นฆ้อนคงทุบปืนทุบหินได้ดี จึงนำท่อเหล็กมาเชื่อมกับหัวลูกระเบิด มันจึงเกิดระเบิด

    ลืมบอกว่าร้านของลุงอยู่ริมถนนหกเลน ปากคาค - สกลนคร ร้านของแกพังหมดเลย ที่ประตูร้านรูที่เกิดจากสะเก็ดระเบิดรูใหญ่สุดเท่ากับลูกมะพร้าว

    บ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนก็พังมีคนได้รับบาดเจ็บขาหัก กับ แขนหัก ตัวคุณลุงเสื้อผ้าขาดหมด เลือดออกทางหูและจมูก หูดับไปสามเดือน

    มีแผลสะเก็ดระเบิดตามตัวเต็มไปหมด รพ ต่างอำเภอต้องนำส่ง รพ หนองคาย ทาง จนท ของ รพ ถามใหญ่เลยว่าแขวนพระอะไร จึงรู้ว่าลงแกแขวน

    เหรียญหลวงปู่คำตัน ธิตธัมโม วัดป่าดานศรีสำราญ ครับ

    เหรียญหลวงปู่คำตัน ธิตธัมโม วัดป่าดานศรีสำราญรุ่นแรกรุ่นเดียว ครับ

    เนื่องจากเป็นเหรียญนิยมหายากของเก๊มีของปลอมมี

    วิธีดูเหรียญแท้
    กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

    แบบนี้เหรียญเก๊
    กระดานข่าว www.g-pra.com : แสดงรายละเอียดในกระทู้

    ให้บูชา 2500 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มิถุนายน 2013
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม
    ประวัติ หลวงพ่อไสว ฐิตวณฺโณ วัดปรีดาราม จ.นครปฐม

    พระครูสถิตโชติคุณ(หลวงพ่อไสว ฐิตวณฺโณ) วัดปรีดาราม (ยายส้ม) ต.คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม



    ณ ดินแดนศรีทวาราวดี เมืองแห่งพระปฐมเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ซึ่งมีตำนานประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ที่สุดนับด้วยพันปีของสุวรรณภูมิ ได้ปรากฏกำเนิดยอดแห่งเกจิอาจารย์ เป็นที่ศรัทธาเป็นที่พึ่งของชาวบ้านทุกระดับชั้นมีมานานนับเนื่องหลายร้อยรูป จนมาถึงปัจจุบันก็ปรากฏ ?หลวงพ่อไสว ฐิตวณฺโณ? ปรากฏบุญญฤทธิ์บารมีโดดเด่นลือลั่นไปทั่วประเทศ ด้วยสรรพวิทยาพุทธาคม ไสยเวทย์ที่เจนจบ ร่ำเรียนสั่งสมมาจากบยอดเกจิอาจารย์มากมายในอดีต ตลอดทั้งได้จาริกธุดงค์ ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานในเถื่อนถ้ำ ภูเขาลำเนาไพรอันเติมไปด้วยภยันอันตรายสรรพสัตว์ร้ายและภูติไพรนานา กระทั่งสำเร็จวิชาชาคมพุทธเวทย์ก็ล่วงเวลาก็ล่วงเวลามาเกือบค่อนศตวรรษ อายุ ๗๗ ปี พรรษที่ ๕๖



    หลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม ถือกำเนิดเมื่อ ๑๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๖๔ ตรงกับพุธ แรม ๖ ค่ำ เดือนยี่ ปีระกา ณ บ้าน ราชคราม อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อ ?เสือ? มาราชื่อ ?ยิ้ม? นามสกุล ?พุทธศร? โดยโยมบิดาเป็นผู้ใหญ่บ้านจอมขมังเวทย์ เป็นคนใจดี แต่สนใจเรื่องวิชาอาคมต่างๆ เวลาดื่มเหล้าชอบเคี้ยวแก้วเล่นประจำ แสดงให้ชาวบ้านเห็นว่าวิชาคงกระพันชาตรีของโบราณเป็นของแท้มีจริง แถมยังมีพุทธาคมดับพิษไฟได้ถึงขนาดพ่นไฟ อมไฟเล่นให้ชาวบ้านเห็นเสมอๆ และเป็นการจุดประกายขึ้นภายในจิตใจของ ด.ช. ไสว พุธทศร ให้ชอบและเชื่อในเรื่องของอำนาจเวทมนต์คาถาอาคมขมัง และพุทธานุภาพของพุทธมนต์ต่างๆ ตั้งแต่ยังอยู่ในวัยเยาว์ ต่อมาบิดาเสียชีวิตแล้ว ท่านก็ได้ร่อนเร่พเนจร ไปอยู่ที่ต่างๆ หลายแห่งกระทั่งผลบุญนำมาเป็นเด็กวัดยายส้มหรือวัดปรีดารามในปัจจุบัน ได้ศึกษาเล่าเรียนจนจบชั้นประถมศึกษาที่โรงเรียนวัดปรีดารามเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๑ จึงบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดปรีดาราม โดยหลวงปู่ใจ วัดเชิงเลนเป็นพระอุปัชฌาย์สามเณรไสว พุทธศร ได้ศึกษาพระธรรมวินัยอยู่ที่วัดปรีดารามเป็นเวลา ๔ ปี ครั้นที่วันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๘๔ เวลา ๑๔.๐๐ น.จึงได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมา วัดปรีดาราม โดยหลวงพ่อใย วัดบางช้างใต้ เป็นอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เจิมวิสุทธิญา โณ เจ้าอาวาสวัดยายส้ม (วัดปรีดาราม) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เปลื้อง ยติมณี วัดจินดาราม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ?ฐิตวณฺโณ? จำพรรษาอยู่ที่วัดปรีดาราม ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมสอบ ได้นักธรรมชั้นเอก พร้อมทั้งศึกษาด้านวิปัสสนากรรมฐาน และร่ำเรียนอย่างอุกฤษฏ์ด้านวิทยาคม ไสวเวทย์ วิชาอาถรรพณ์ เร้นลับ พุทธคมต่างๆ มีความรู้ลึกซึ่งเป็นพหูสูตมาตั้งต้น และนำมาช่วยญาติโยมเห็นผมเป็นที่ประจักษ์



    บูรพาจารย์ที่ถ่ายทอดวิทยาคม ให้หลวงพ่อมีทั้งฆรวาสและบรรพชิต โดยท่านเป็นผู้คงแก่เรียนเมื่อทราบว่ามีครูบาอาจารย์ดีเก่งกล้าอยู่ที่ทิศใด ท่านก็จะดั้นด้นไปหา ขอศึกษาหาความรู้จนแตกฉาน เรียกว่า ปรนนิบัติอาจารย์เป็นเลิศ อาจารย์ก็เมตตาเห็นว่าตั้งใจจริง จึงถ่ายทอดวิชาให้ ชนิดแบบหมดไส้หมดพุง ถึงลูกถึงคนถึงพริกถึงขิง คือทดลอง ให้เห็นกันจะจะเลยทีเดียว ศิษย์ทำได้ถือว่าสำเร็จ แม้บางครั้งเสี่ยงต่อชีวิตแต่หลวงพ่อก็ไม่ย้อท้อ ขอเพียงให้ได้วิชาหรือศาสตร์อันลึกล้ำพิสดารนั้นมาท่านก็พอใจแล้วครูบาอาจารย์ของหลวงพ่อไสว เท่าที่พอจะประมวลได้พอสังเขปมีดังนี้



    ๑.หลวงปู่พูน เกสโร อดีตเจ้าอาวาสวัดใหม่ปิ่นเกลียว เป็นยอดพระเกจิฯ ร่นเดียวกับหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง นครปฐม หลวงพ่อวงษ์ วัดทุ่งผัดกูด และสหธรรมิกรุ่นพี่ของ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ซึ่งหลวงพ่อเงินท่านนับถือหลวงปู่พูน ในฐานะเป็นพระเกจิฯ รุ่นอาวุโสและเคยนิมนต์ให้มาปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นแรกๆ ของท่านหลวงปู่พูนท่านเป็นเจ้าตำรับวิชาคงกระพันชาตรี ขนาดใช้ฝ่ามือผ่าไม้รวกได้ วัตถุมงคลหลวงปู่พูน เซียนพระรุ่นเก่าๆรู้จักกันดี เช่นพระสังกัจจายน์ เนื้อผงใบลาน นางกวัก เนื้อผงดินเผา ปลัดขิก เหรียญรุ่น ๑ พ.ศ.๒๔๙๐ ผ้ายันต์-ผ้าประเจียด-ตะกรุดโทนปัจจุบันโด่งดังแต่หายากมาก หลวงพ่อไสว ได้รับการถ่ายทอดวิชา การลงอักขระเลขยันต์คงกระพันชาตรี วิชามหาอุด วิชาเมตตามหานิยม และอาถรรพ์เวทย์หลายด้านครบถ้วนจากหลวงปู่พูน ชนิดที่เรียกว่าครอบจักรวาลทีเดียว ที่หลวงพ่อไสวโด่งดังมากคือ ตะกรุดโทน ตำรับหลวงปู่พูน

    หลวงปู่พูน มรณะภาพ เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๑ ปัจจุบันมีรูปเหมือนขนาดเท่าองศ์จริงประดิษฐานอยู่ที่ ณ วัดใหม่ปิ่นเกลียว เป็นที่เคารพนับถือของคนนครปฐมมาก ทุกครั้งที่ทางวัดมีงานสำคัญ จะนิมนต์หลวงพ่อไสว ไปร่วมงานในฐานนะศิษย์เอกหลวงปู่พูน วัดใหม่ปิ่นเกลียว อันเป็นที่ อมตะในตำรับผ้ายันต์-ตะกรุดโทน



    ๒.หลวงพ่อเงิน วัดยายส้ม (วัดปรีดาราม) ท่านบวชที่ วัดใหม่ปิ่นเกลียว เป็นศิษย์รับใช้ใกล้ชิดหลวงปู่พูน ลำได้รับการถ่ายทอดพุทธวิทยาคมไปจากหลวงปู่พูน หลวงพ่อไสว ได้รับการฝึกฝนสมาธิจิตพื้นฐาน จากหลวงพ่อเงิน วัดยายส้ม เมื่อได้เคล็ดวิชาเบื้องต้นแล้ว หลวงพ่อเงิน วัดยายส้ม จึงได้นำหลวงพ่อไสวไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงปู่พูน ซึ่งเป็นปรมาจารย์จึงได้รับการถ่ายทอดสรรพวิทยาคาทั้งหมดฯลฯ ในปัจจุบันมีรูปเหมือนเท่าจริงหลวงพ่อเงิน ประดิษฐานอยู่หน้าอุโบสถหลังเก่าวัดปรีดาราม



    ๓.อาจารย์ยัง เพชรบุรี เป็นครูสักยันต์ชื่อดังระดับประเทศ เคยบวชเรียนและศึกษาพุทธาคมจากหลวงปู่พูน วัดใหม่ปิ่นเกลียว อาจารย์ยัง ท่านเก่งทางวิชาหาสะเดาะ สะเดาะลูกกุญแจหรือกลอนประตูดุจ ขุนแผน กลับชาติมาเกิด หลวงพ่อเงิน วัดยายส้ม นำหลวงพ่อไสว ไปเรียนวิชาบางประการ อันเป็นเอตทัคคะของอาจารย์ยัง อาจารย์ยังเกรงใจหลวงพ่อเงิน จึงถ่ายทอดวิชาพิเศษให้

    หลวงพ่อไสว อาทิเช่น การทำมหายันต์กำเนิดนารายณ์ อันมีฤทธานุภาพยิ่งต่อมาผ้ายันต์กำเนิดนารายณ์ของหลวงพ่อไสว ก็โด่งดังลือลั่นมีศิษย์หลวงพ่อคนหนึ่งเผชิญมหาภัย ใช้ผ้ายันต์อธิษฐาน

    ทำให้ฝ่ายตรงข้ามมองมาเห็นตัว กลับเห็นคนโพกผ้าแดงเต็มไปหมด จึงหนีรอดจากปวงภัยไปได้ด้วยปาฏิหาริย์ผ้ายันต์นั้น นอกจากนี้ป้องกันภูตผีปีศาจ ด๗รผู้ร้ายไม่อาจทำอันตรายได้ นิยมติดผ้ายันต์นี้ไว้เหนือประตูบ้าน มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก มีผู้นักพบประสบการณ์มากมาย



    ๔.เสือย้อยชูรอด เป็นเสือร้ายจำใจในอดีต เป็นคนหมู่บ้านถนนขาด แถวเกาะวังไทร นครปฐม ตอนหลังกลับใจเป็นคนดีเป็นจอมขมังเวทย์ฤทธิ์เวทย์ขมังขลังนักเป็นที่เลื่องลือหลวงพ่อไสว ได้ขอเรียนวิชา ?ยันต์หน้าพระ? หรือนะหน้าคนจากเสือย้อย ซึ่งได้รับการประสิทธิ์ประสาทให้ด้วยความเต็มใจชนิดครอบครูยกตำรับตำราให้เลย หลวงพ่อไสวฝึกฝนสูตรสนธิแม่นยำ และประทับใจในยันต์หน้าพระมาก หลวงพ่อไสวจึงใช้ยันต์เป็นสัญลักษณ์ประจำตัวท่าน โดนใช้ยันต์นี้ประทับอยู่ด้านหลังเหรียญของท่านแทบทุกรุ่น ได้รับปรากฏอิทธานุภาพเป็นที่รำลือเช่นกัน ตำรับยันต์หน้าพระเสือย้อยได้มอบแก่ ?พระอาจารย์สำราญ? วัดเขาตะเครา และพระราชสุธรรมเมธี (หลวงพ่อ-เทพ) เจ้าอาวาสวัดพระปฐมเจดีย์ราชวิหาร อีกด้วย หลวงพ่อไสวจะเขียวยันต์นี้เจิมบ้าน เจิมรถ ลงกระหม่อมให้ลูกศิษย์ โดยบริกรรมภาวานาเรียกสูตรเรื่อยไปตากตำรับ ห้ามยกดินสอ กระทั่งเขียวเสร็จ



    ๕.หลวงพ่อขาว วัดสวนส้ม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาครเป็นผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา ?ปิดทองเข้าหน้าผาก? หรือลงนะหน้าทองตำรับพิสดารให้แก่หลวงพ่อไสว เป็นสิ่งมหัศจรรย์ยิ่ง ต้องใช้พลังจิตชั้นสูงบริกรรมภาวานา โดยปิดทองคำเปลวที่หน้าผาก โดยใช้ ๓ แผ่นบ้าง ๙แผ่นบ้าง โดยไม่ต้องแกะกระดาษปิดออก หลวงพ่อเสกบริกรรม แล้วตบเบาๆ เปรี้ยงเดียวแผ่นทองคำก็หายไปในหน้าผากทั้งหมด มีอาณุภาพทางเมตตามหานิยม คุ้มภัยนานา



    ๖.อาจารย์ปิ่น รอดคลองตัน สมุทรสาคร เก่งในเรื่อง ?ปลัดขิก? เพราะเป็นศิษย์หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี เป็นศิษย์หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก จ.ฉะเชิงเทรา เป็นศิษย์หลวงปู่พูน

    วัดใหม่ปิ่นเกลียว ปลัดขิกของหลวงพ่อไสวมีผู้อาราธนาฟาดสายรุ้ง ขาดออกจากกัน และเมื่อปลุกเสกในบาตรน้ำมนต์ วิ่งพล่านดุจมีชีวิต และกระโดดออกจากบาตรได้ ปัจจุบันหลวงพ่อไสว เป็นศูนย์รวมหนึ่งเดียวของการปลุกเสกปลัดขิกมีอานุภาพอัศจรรย์ปรากฏชื่อเกียรติคุณอยู่ในขณะนี้




    ๗.อาจารย์แช่ม ตะโกสูง จ.นครปฐม เป็นศิษย์หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง หลวงพ่อแช่มนั้นเป็นศิษย์ของหลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก ซึ่งมีอิทธิฤทธิ์หลายประการรวมทั้งย่นระยะทางได้ อาจารย์แช่มเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาแพทย์แผ่นโบราณตำรับพุทธมนต์โอสถแก่หลวงพ่อไสว ซึ่งหลวงพ่อไสว เคยรักษาโรคร้ายแรง ที่โรงพยาบาลไม่รับ หายมาแล้วมากมาย ฯลฯ



    ๘.พระปลัดตู่ วัดหนองเสือ มีวิชาเร้นลับสำคัญอยู่ เรียกว่า วิชาตกวิญญาณ สำหรับใช้เรียกวิญญาณคนตกน้ำตายเพื่อนำวิญญาณไปอยู่ในที่อันควร พระปลัดตู่ได้ถ่ายทอดวิชาตกวิญญาณ

    ให้หลวงพ่อไสวอย่างสมบูรณ์แบบได้ผลอัศจรรย์ยิ่งพิธีสังเขปคือ เมื่อเรียกวิญญาณปลุกเสกหุ่นเสร็จ ตั้งเครื่องเสียกบาลต่างๆ แล้วใส่กระทงกากล้วย ทำบัตรพลี ใช้เบ็ดตกปลาเกี่ยวดินอาคมหย่อนลงไปในน้ำที่มีคนตกไปตาย บริกรรมคาถาเรียกวิญญาณ ผู้ที่มาเห็นปรากฏการณ์ประหลาดมีคลื่นวิ่งเป็นทางยาว สายเบ็ดกระตุกดุจมีปลาใหญ่มากินเหยื่อ จนคันเบ็ดโค้งโก่งไปโก่งมา ต้องกันดึงขึ้นมา ฯลฯ เรื่องนี้ชาวบ้านคลองจินดาต่างประจักษ์กันดี การตายโหงทุกรูปแบบหลวงพ่อก็ไปทำพิธีมาหมดแล้วแม้แต่มีผีเจ้าของสิงที่ไหนท่านก็เคยปรากมาหมดแล้ว โดยมากพาคน โดนผีเข้าที่อาการหนัก มารดน้ำมนต์หลวงพ่อ ผีดิ้นพราด ร้องโหยหวนวังเวง ก่อนจะออก



    ๙.หลวงพ่อประพันธ์ คำสิงห์ อยู่ในถ้ำดงพญาไฟ ได้ถ่ายทอดวิชาสร้างพระปรอท-ธาตุกายสิทธิ์ให้ศิษย์คนหนึ่งที่รับสัจจะเลิกเป็นโจรสลัด ต่อมาศิษย์คนนั้น ได้ถ่ายทอดวิชาให้แก่หลวงพ่อไสว หลวงพ่อได้สร้างพระปรอทแจกทหารเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ ๒ ทหารหาญผ่านสมรภูมิอย่างโชกโชน ถูกยิงไม่เข้า แคล้วคลาดจากระเบิด ปราศจากโรคภัยรอดมาได้ฯลฯนอกจากนี้หลวงพ่อไสวยังได้ไปเรียนวิชาอาคมเป็นเกร็ดเล็กน้อย จากพระเกจิอาจารย์อีกหลายรูป อาทิ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง เจ้าแห่งการสร้างพระราหูดันเลื่องลือ เป็นต้น เหตุที่หลวงพ่อไสวมีจิตตานุภาพสูง ก็เพราะท่านได้บำเพ็ญธุดงค์วัตรฝึกสมาธิจิตหลังจากสอบได้นักธรรมเอก โดยอธิฐานออกธุดงค์ในพรรษาที่ ๓ มุ่งหน้าสู่ภาคอีสานไปมนัสการ พระธาตุพนม พรรษที่ ๗ ธุดงค์จาริกไปทางเขาวงพระจันทร์ ดินแดนถ้ำผาท้าวกกขนาก จ.ลพบุรี สู่ จ.อุตรดิตถ์ ฯลฯ สมัยนั้นเป็นป่ารกทึบ เต็มไปด้วยสัตว์ร้ายนานาชนิด และคลาคล่ำด้วยภูตผีปีศาจโขมดดง ผีก็องกอย ไข้ป่า และกฎอันศักดิ์สิทธิ์ของการสมาทานธุดงค์ เช่นครั้งท่านปักกลดลงไปแล้วครอบเอารังมดเข้าถอนกลดก็ไม่ได้จึงสมาธิแผ่เมตตาว่าคาถากันหมด ซึ่งได้มาจากหลวงพ่อพระครูสาครคุณาธาร เจ้าอาวาส วัดเดชาฯ จ.นครปฐม เกิดปรากกฎการณ์อัศจรรย์ มดฝูงใหญ่รวมกันอยู่ภายในกลดไม่มาไต่ท่านเลย เรื่องราวปาฏิหาริย์ของหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม ยังอีกมาก

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระผงรูปเหมือนและพระสังกจายน์ หลวงพ่อไสว เปิดเบาๆครับ ครูบาอาจารย์ยุคเก่า

    น่าสะสมบูชามากครับ สมัยก่อนคนไปลงทองกับท่านกันเยอะมากครับ ในนครปฐมชื่อเสียง

    ของหลวงพ่อคนรู้จักมากมายครับ

    ให้บูชาองค์ละ 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    องค์ที่ 1
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    องค์ที่ 2

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]


    องค์ที่ 3(ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2013
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    แสดงกระทู้ - หลวงปู่บุดดา ถาวโร • ลานธรรมจักร

    อ่านประวัติท่านได้ที่นี้ครับ

    ปกติหลวงปู่บุดดาท่านมักจะพกกระป๋องแป้งติดตัวอยู่เสมอเพื่อประทานให้แก่ญาติโยมที่ไปกราบนมัสการ เมื่อหลวงปู่บุดดาและหลวงพ่อต่างกราบกันและกันเสร็จเรียบร้อยแล้วหลวงปู่บุดดาท่านได้ประทานแป้งใส่มือหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ดู่ท่านรับมาแล้วนำมาทาบนศรีษะ

    มีญาติโยมที่นั่งอยู่ด้วยเรียนถามหลวงปู่ดู่ว่า ทำไมจึงนำแป้งไปทาบนศรีษะ

    ท่านตอบว่า

    "ของพระอรหันต์ให้ แกจะให้เอาไปทาที่ไหนละจึงจะสมควร เดี๋ยวจะกลายเป็นความไม่เคารพ นอกจากบนหัวของเรา"

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน กล่าวไว้ว่า “...หลวงพ่อบุดดานี่เป็นพระสำคัญอยู่นะ ทางด้านจิตใจสำคัญอยู่...พอเชื่อแน่ในใจแล้ว ผู้เฒ่านี่เป็นพระสำคัญ ในสำนวนโวหารพูดอะไรออกมามันก็แปลกๆ อยู่ มันแปลกมาจากใจนั่นละ จะแปลกมาจากไหน ใจไม่แปลกมันก็ไม่แปลกถ้าใจแปลก มันแปลกทั้งนั้น กิริยาแสดงออกมามันแปลก มันแปลกออกมาจากหัวใจ ผู้เฒ่าสำคัญอยู่องค์หนึ่ง...”

    ที่สรุปไว้อย่างรวบรัด ชัดเจนที่สุดมาจาก หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

    “ยอดเยี่ยมที่หนึ่งเลย แก่ทั้งอายุ แก่ทั้งพรรษา แก่ทั้งมรรคผลนิพพาน”

    ที่ว่าแก่ทั้งอายุ เพราะสิริรวมอายุมากถึง 100 ปี 7 วัน

    แก่ทั้งพรรษา เพราะนับได้ 73 พรรษา

    แก่ทั้งมรรคผลนิพพาน เพราะท่านบรรลุมรรคผลนิพพานมาตั้งแต่ยังหนุ่ม

    http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-budda/lp-budda-hist-12.htm

    อ่านเรื่องราวดีๆของหลวงปู่ได้ที่เวปนี้ครับ

    ...........พระปิดตาแป้งเสก หลวงปู่บุดดา ถาวโร............พิธีใหญ่วัดบวรและหลวงปู่

    เมตตาอธิฐานจิตให้องค์เล็กจิ๋วน่าบูชาอย่างยิ่งให้เด็กเล็กๆสตรีหรือชายชาตรีแขวนได้ดีครับ

    เลี่ยมทองก็เบาๆครับ มี50องค์ครับ ปัจจุบันบางเวปให้บูชากันองค์ละ300-700บาทแล้ว

    ก็มีคนบูชาด้วย ผมเก็บไว้เยอะ เก็บไว้มากก็ขลังอยู่แต่ทีี่เก็บเลยนำมาแบ่งให้บูชา

    ให้บูชาเป็นคู่นะครับ คู่ละ 200 บาท ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  14. Little Dragon

    Little Dragon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    3,186
    ค่าพลัง:
    +5,362


    ขอจองครับ
     
  15. Little Dragon

    Little Dragon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    3,186
    ค่าพลัง:
    +5,362


    จองครับ
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เบอร์บัญชีผมครับ
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

    ขอความกรุณาโอนเงินภายใน 3 วันทำการหรือถ้าไม่สะดวกติดต่อมาได้ครับ

    ไม่เกิน 7 วัน หรือตามสมควรครับ

    ติดต่อได้ที่ 08..1.70..4..72..64
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    หลวงปู่เริ่ม ท่านมีนามเดิมว่า เริ่ม นามสกุล เฉียงเอก เกิดเมื่อวันศุกร์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 8 ปีมะเส็ง ตรงกับ วันที่ 7 กรกฎาคม 2448 ณ บ้านเลขที่ 26 ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โยมบิดาชื่อ มิ่ง มารดาชื่อ เลี่ยม เฉียงเอก มีพี่น้องร่วมบิดามารดารวม 11 คน คือ

    1. หลวงปู่เริ่ม ปรโม 2. นางทองดี เฉียงเอก

    3. นายรื่น เฉียงเอก 4. นางโถม เฉียงเอก

    5. นางอบ เสียงเอก 6. นางสำรวย เฉียงเอก

    7. นางเยี้ยน เฉียงเอก 8. นางหงส์ กล่อมเกลา

    9. นางทวาย เฉียงเอก 10. น.ส.ผึ้ง เฉียงเอก

    11. นางทวี เฉียงเอก

    หลวงปู่เริ่มท่านเป็นผู้ฝักใฝ่ในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เยาว์วัย พออายุครบ 20 ปีท่านจึงได้บรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดแหลมฉบัง ต.ทุ่งศุขลา โดยมีพระครูสุนทรธรรมรส วัดอ่างศิลา เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์จั้ว วัดอ่างศิลา เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์ลำดวน วัดอ่างศิลา เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “ ปรโม ”

    เมื่ออุปสมบทแล้วท่านได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดจุกกะเฌอ ซึ่งมีพระอธิการถันเป็นเจ้าอาวาส เหตุที่ท่านไม่ได้บวชที่วัดจุกกะเฌอเพราะสมัยนั้นที่วัดจุกกะเฌอยังไม่มีพระอุโบสถ เมื่อมาอยู่ที่วัดจุกกะเฌอท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัย ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ จนชาวบ้านเคารพเลื่อมใสและศรัทธา

    หลังจากที่ท่านบวขได้เพียง 6 พรรษาหลวงพ่อถันเจ้าอาวาสก็ได้มรณภาพลง ชาวบ้านจึงนิมนต์ท่านรับตำแหน่งเจ้าอาวาสสืบต่อ และในปีต่อมาท่านก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลทั้ง ๆ ที่ท่านยังไม่ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครู นับว่าท่านเป็นผู้ที่มีความสามารถและเป็นนักปกครองที่ดี

    งานด้านการปกครอง

    พ.ศ. 2479 เป็นเจ้าอาวาสวัดจุกกะเฌอ

    พ.ศ. 2484 เป็นพระกรรมวาจาจารย์

    พ.ศ. 2485 เป็นพระอุปัชฌาย์

    พ.ศ. 2487 เป็นเจ้าคณะตำบลบึง-หนองขาม

    พ.ศ. 2518 เป็นรักษาการเจ้าคณะอำเภอศรีราชา

    พ.ศ. 2519 เป็นเจ้าคณะอำเภอศรีราชา

    พ.ศ. 2530 ลาออกจากตำแหน่งเจัาอาวาสวัดจุกกระเฌอ เพื่อรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจุฑาทิศธรรมสภารามวรวิหาร กิ่งอำเภอเกาะสชัง ชลบุร็ เพื่อสนองงานคณะสงฆ์

    สมณศักดิ์

    พ.ศ. 2481 เป็นพระครูประทวน

    พ.ศ. 2493 เป็นพระครูสัญูญาบัดรเจ้าคณะดำบลชั้นตรี

    พ.ศ. 2507 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นโท

    พ.ศ. 2515 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะตำบลชั้นเอก

    พ.ศ. 2520 เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก

    ในด้านพุทธาคมหลวงปู่เริ่มท่านมีความสนใจมาตั้งแต่ก่อนอุปสมบท มีพระอาจารยเก่ง ๆ มีชื่อเสียงอยู่ที่ใด ท่านก็จะดั้นด้นเดินทางไปกราบขอศึกษาเล่าเรียนด้วย

    หลวงปู่เริ่มท่านเคยเล่าให้ศิษย์ฟังว่า พระอาจารย์รูปแรกของท่านก็คือ หลวงพ่ออ่ำ เรือเก่า อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองกระบอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง ที่สร้างเครื่องรางเป็นรูป “ แพะ ” มีพุทธคุณสูงทางด้านเมตตามหานิยมเป็นที่โด่งดังไปทั่ว

    หลวงปู่เริ่มท่านได้ศึกษาพุทธาคมจากหลวงพ่ออ่ำหลายอย่าง โดยเฉพาะ วิชาฝนแสนห่าและสีผึ้งเจ็ดจันทร์ ซึ่งเป็นวิชาทางด้านเมตตามหานิยมชั้นสูง แต่ก่อนที่หลวงพ่ออ่ำจะสอนวิชาให้ท่านได้ทดสอบสมาธิและความกล้าของหลวงปู่เริ่ม โดยจับมัดมือไพล่หลังคร่อมตออยู่ริมป่าช้าผีดุวัดหนองกระบอกและให้คาถามา 4 ตัว บอกให้ภาวนาจนเชือกหลุด หลวงปู่เริ่มท่านก็สามารถทำได้ หลวงพ่อจึงรับไว้เป็นศิษย์ถ่ายทอด วิชาดังกล่าว

    นอกจากหลวงพ่ออ่ำแล้วหลวงปู่เริ่มยังได้ศึกษาวิชากับพระอาจารย์อีกหลายรูป อย่างเช่นไปเรียนวิชาทำ ปลัดขิกและหนังหน้าผากเสือ กับ หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ เรียนวิชาหนังหน้าผากเสือกับ หลวงพ่อสาย วัดหนองเกตุน้อย ชลบุรี เรียนวิชาทำผง 12 นักษัตรจาก หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ ปทุมธานี และวิชาอื่น ๆ จากพระอาจารย์หลายรูปอาทิ หลวงพ่ออ่อง วัดหนองรี ชลบุรี หลวงพ่อผุย วัดหน้าพระธาตุ พนัสนิคม ชลบุรี เจ้าคุณศรีฯ วัดอ่างศิลา เป็นต้น

    พระอาจารย์องค์สำคัญอีกองค์หนึ่งของหลวงปู่เริ่ม คือ สมเด็จพระสังฆราช ( อยู่ ญาโณทัย ) วัดสระเกศ กรุงเทพฯ ซึ่งหลวงปู่เริ่มได้ใปขอศึกษาวิชาการสร้าง พระปิดตา วิปัสสนากรรมฐาน และวิชาโหราศาสตร์ จากท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จนกระทั่งเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะด้านโหราศาสตร์ ท่านสามารถดูดวงชะตาราศีสามารถเปลี่ยนดวงและสลับดวงชะตาได้

    หลวงปู่เริ่มนอกจากจะเชี่ยวชาญพุทธาคมแล้ว ท่านยังศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณเพึ่อนำไปขจัดปัดเป่าโรคภัยให้แก่ขาวบ้าน

    ต่อมาในบั้นปลายชีวิตของท่านหันเข้าศึกษาวิปัสสนาเพื่อให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ท่านเคยกล่าวไว้ว่า คาถาอาคมทุกอย่างไม่ได้อยู่ที่ตัวอักษรแต่มันอยู่ที่ใจ คนหัวไวปัญญาดีท่องคาถาอาคมวันเดียวคืนเดียวก็สำเร็จ แต่จะใช้ได้ผลเพียงใดหรือไม่ มันอยู่ที่ใจ เคล็ดลับทั้งหลายที่จะใช้คาถาอาคมเป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวของอารมณ์ มันฟสำคัญที่ใจทั้งสิ้นต้องฝึกจิตฝึกใจให้เป็นสมาธิ เมื่อใจเป็นสมาธิแล้วต้องใช้สมาธิให้เกิดประโยขน์ที่สูงยิ่งขึ้นไปจนถึงขั้นเกิดปัญญา อย่าไปติดอย่าไปหลงอยู่กับฤทธิ์แต่เพียงเท่านั้นต้องทำปัญญาให้เกิดขื้นด้วยจึงเป็นชาวพุทธที่แท้จริง

    หลังจากที่หลวงปู่เริ่ม ปรโม ได้เดินทางไปรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดจุฑาทิศธรรมสภาราม กิ่งอำเภอเกาะสีชัง จังหวัด ชลบุรี เป็นการสนองงานทางการคณะสงฆ์อันที่จะไปแก้ไขข้อขัดข้องในการบริหารงานของวัดจุฑาทิศธรรมสภารามวรวิหาร ซึ่งท่านได้ใปแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ประมาณ 2 ปี ท่านก็อาพาธเข้ารับการรักษาตัว ณ โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา ด้วยโรคถุงลมโป่งพอง ระหว่างนี้ท่านก็ได้พักรักษาตัว ณ วัดจุกกะเฌอ ตำบลบึง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นวัดของท่านที่ได้พำนักอาศัยอยู่เดิม

    ระหว่างนี้ท่านก็มีอาการของโรคประจำตัวถี่ขึ้น ทางคณะแพทย์ที่ได้ถวายการรักษาได้ให้คำแนะนำว่าให้พักรักษาตัว ณ วัดจุกกะเฌอ เพื่อสะดวกในการเดินทางไปพบแพทย์ หรือหากว่ามีอาการมากขึ้นแพทย์จะได้เดินทางไปถวายการรักษาได้ง่าย ซึ่งหลวงปู่เริ่ม ปรโม ได้อยู่พำนักรักษาตัว ณ วัดจุกกระเชอ ซึ่งก็ได้รับการอภิบาลดูแลรักษาเป็นอย่างดีจาก พระปลัดอนันต์ กิตติญาโณ รักษาการเจ้าอาวาสวัดจุกกะเฌอ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอศรีราชา

    ระหว่างพำนักรักษาตัว ณ วัดจุกกะเฌอ ก็ได้รับการอภิบาลรักษาดูแลจากพระปลัดอนันต์เป็นอย่างดี แม้แต่ในระหว่างนี้ท่านมีอาการอาพาธหนักขึ้นและมีโรคแทรกซ้อนเกิดขึ้น โดยต้องทำการผ่าตัด ซึ่งหลวงฟอเริ่มได้รับการผ่าตัดต่อมลูกหมากจากคณะแพทย์โรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชา ซึ่งระหว่างนี้คณะแพทย์ของโรงพยาบาลสมเด็จ ณ ศรีราชาได้พยายามหลีกเลี่ยงการผ่าตัด เนื่องจากท่านเป็นผู้สูงอายุและอยู่ในวัยชราย่อมเป็นการเสี่ยงต่อการผ่าตัดมาก แพทย์พยายามใช้วิธีอื่น ๆ ที่ก้าวหน้ากว่าการผ่าตัด แต่ไม่สามารถแก้ไขได้วิธีนี้จึงต้องทำการผ่าตัดซึ่งก็ได้รับการรักษาเป็นอย่างดีจากคณะแพทย์ของโรงพยาบาลสมเด็จฯ เป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งอาการของหลวงปู่ก็ดีขึ้นกลับแข็งแรงกลับมาพักรักษาตัวได้ ณ วัดจุกกระเชอ

    ต่อมาหลวงปู่ก็มีอาการอาพาธจากพยาธิเบียดเบียนถี่ขึ้น ประกอบด้วยท่านชราภาพมากแล้ว จึงคงอยู่จำพรรษารักษาตัวอยู่ ณ วัดจุกกะเฌอนี้เอง

    ในปี พ.ศ. 2536 สุขภาพของท่านได้แข็งแรงขึ้นดีมากท่านสามารถประกอบศาสนกิจต่าง ๆ ได้เป็นปกติ อาทิ ได้สนองศรัทธาญาติโยมในศาสนกิจต่าง ๆ ตลอดจนงานพระศาสนาท่านได้ออกตรวจและเยี่ยมเยียนวัดต่าง ๆ ในเขตการปกครอง ทั้งเป็นที่น่าปลึ้มปิติยินดีของบรรดาศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการพุทธาภิเษกท่านได้ไห้ความอนุเคราะห์โดยการไปนั่งปรกแผ่เมตตาจิตให้หลายราย ย่อมเป็นที่ยินดีของศิษยานุศิษย์

    ในวันที่ 19 กรกฎาคม 2538 ในเวลาเช้า 07.30 น. หลวงปู่ได้ฉันภัตตาหารเช้า อันได้แก่ ข้าวต้ม ผลไม้ และฉันยาประจำเป็นปกติ หลังจากนั้นท่านก็พักผ่อนท่านได้จำวัดจนถึงเวลาประมาณ 10.00 น. เศษ ท่านได้ลุกขึ้นและเข้าห้องน้ำล้างหน้าและกลับมานอนพักโดยอ่านหนังสือมนต์คือบทชินบัญชร ในขณะนี้เองพระลูกวัดที่เฝัาปฏิบัติได้ไปจัดเตรียมภัตตาหารเพลเพื่อที่จะถวายท่าน และรอจนกระทั่งถึงเวลาเพลจึงนำภัตตาหารเพลไปถวาย ไปปลุกท่านแต่ปรากฏว่าท่านได้จากพวกลูกศิษย์ทั้งหลายไปแล้วโดยอาการแห่งความสงบ สิริอายุทั้งสิ้น 91 ปี 12 วัน พรรษาที่ 71



    จากหนังสือ ประวัติและวัตถุมงคล หลวงปู่เริ่ม ปรโม

    ( พระครูศรีฉฬังคสังวร ) วัดจุกกระเฌอ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

    เรียบเรียงโดยพระปลัดอนันต์ กิตติญาโณ

    ต้องขออนุญาตนำลงเพื่อเผยแพร่บารมีหลวงปู่เริ่ม ไว้ ณ.ที่นี้ด้วยครับ

    ขอขอบคุณที่มาเจ้าของบทความข้อมูลอย่างสูงครับ

    พระผงรูปเหมือนจันทร์ลอย หลวงปู่เริ่ม

    ให้บูชา200บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2013
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    ประวัติ หลวงปู่ม่วง นาคเสโน วัดยางงาม PDF พิมพ์ อีเมล ประวัติ หลวงปู่ม่วง นาคเสโน วัดยางงาม "พระครูสุนทรจริยาวัตร" พระเกจิอาจารย์เรื่องวิทยาคมชื่อดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง หรือที่รู้จักกันดีในนาม หลวงปู่ม่วง นาคเสโน แห่งวัดยางงาม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี กล่าวได้ว่าหลวงปู่ม่วง เป็นพระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มน้ำแม่กลองรูปสุดท้ายแล้ว ท่านมีอาวุโสพรรษาในการประพฤติปฏิบัติธรรมมาก เป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้าน หลวงปู่ม่วง นาคเสโน วัดยางงามหลวงปู่ม่วง ดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอปากท่อ จ.ราชบุรี และเจ้าอาวาสวัดยางงาม อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ม่วง พุ่มโรจน์ เกิดเมื่อวันพุธที่ 21 สิงหาคม 2455 ตรงกับวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ปีชวด ณ บ้านหมู่ที่ 5 ต.ปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี อายุ 20 ปี ตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มิถุนายน 2474 ณ พัทธสีมาวัดปากท่อ อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี โดยมีพระครูอินทเขมาจารย์ (ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์ที่พระราชเขมาจารย์) วัดช่องลม อ.เมือง จ.ราชบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังครองผ้ากาสาวพัสตร์ มุ่งมั่นศึกษาหาความรู้ทางด้านพระธรรมวินัย พ.ศ.2476 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนวัดปากท่อ พ.ศ.2478 สอบได้นักธรรมชั้นโท แม้ในชั้นแรก ตั้งใจบวชเรียนเพียง 2-3 พรรษา แต่เมื่อได้ศึกษาร่ำเรียนพระปริยัติธรรม เกิดความซาบซึ้งในรสพระธรรมจนไม่คิดลาสิกขา ท่านตัดสินใจเดินทางมาอยู่ที่วัดยางงาม ร่วมกับพระลูกวัดและชาวบ้าน พัฒนาวัดอย่างต่อเนื่อง จัดสอนธรรมมะ เปิดโรงเรียนสอนพระอภิธรรม มีชาวบ้านมาเรียนมากมาย ต่อมาได้จัดให้มีการบวชชีพราหมณ์ ในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมกันอย่างมากและยังมีบวชสามเณรภาคฤดูร้อน ผลงานด้านการศึกษา พ.ศ.2480 เป็นครูสอนนักธรรม พ.ศ.2501 เป็นเจ้าสำนักเรียนพระปริยัติธรรมวัดยางงามและเป็นผู้อุปการะโรงเรียนประชาบาลวัดยางงาม ในการส่งเสริมการศึกษาหรือการเผยแผ่พระพุทธศาสนา หลวงปู่ม่วง ยังเดินหน้าจัดอบรมศีลธรรม จริยธรรมแก่ประชาชนทั่วไป จัดให้มีการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน อบรมวิปัสสนากัมมัฏฐานทุกปี จัดสวนพระปาฏิโมกข์และฟังอ่านพระปาฏิโมกข์แปลทุกวันพระ 14-15 ค่ำ กลางเดือนและสิ้นเดือน จัดให้มีการพิมพ์หนังสือ บทความธรรมะ แจกจ่ายแก่พระภิกษุสามเณรและบุคทั่วไป รวมจัดตั้งกองทุนเพื่อการศึกษาในเขตโรงเรียนประถมศึกษาต่างๆ และการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ งานสาธารณูปการ จัดการบูรณะและพัฒนากุฏิสงฆ์ทรงไทยเรือนไม้ ศาลาหอฉัน สร้างสะพานข้ามคลอง เพื่อประโยชน์ส่วนรวม จัดสร้างถาวรวัตถุอีกมากมายให้วัดและประชาชน ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2480 เป็นครูสอนนักธรรม ณ สำนักเรียนวัดยางงาม พ.ศ.2488 เป็นเจ้าคณะตำบลจอมประทัด พ.ศ.2501 เป็นเจ้าอาวาสวัดยางงามและเจ้าคณะตำบลปากท่อ พ.ศ.2508 เป็นอุปัชฌาย์ พ.ศ.2540 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอปากท่อ ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2501 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูสุนทรจริยาวัตร พ.ศ.2521 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามเดิม หลวงปู่ม่วง เป็นพระที่มีความเมตตา ไม่เคยดุด่าว่าใคร ทำให้ชาวบ้านต่างเลื่อมใสศรัทธาเป็นอย่างยิ่ง ท่านเคยปรารภว่า "อยากให้ทุกคนมีความเมตตา ด้วยมีเมตตาแล้ว สิ่งดีจะบังเกิดผลตามมา" หลวงปู่ม่วง มรณภาพลงด้วยโรคมะเร็งในต่อมน้ำเหลืองในช่องท้อง ด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 22 สิงหาคม 2552 สิริอายุ 98 ปี พรรษา 78 เป็นที่เศร้าสลดแก่บรรดาสานุศิษย์และญาติโยมชาวเมืองราชบุรี ทั้งนี้ คณะกรรมการวัดยางงาม ได้ตกลงว่าจะนำสังขารหลวงปู่ม่วงตั้งบำเพ็ญกุศล ณ วัดยางงาม อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี และจัดพิธีสวดพระอภิธรรม ไปจนครบ 100 วัน ก่อนดำเนินการขอรับพระราชทานเพลิงศพต่อไป โดยทุกวัน จะมีผู้มาร่วมไว้อาลัยระลึกคุณความดีของหลวงปู่ม่วงกันอย่างล้นหลาม แม้สังขารสูญสลาย แต่คุณงามความดีมิมีวันเสื่อม


    พระปิดตาหลวงปู่ม่ว วัดยางงาม รุ่นนิยม

    ปิดรายการ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2013
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    จัดส่ง

    EI 3951 7066 3 TH โพธาราม

    EI 3951 7067 7 TH สัตหีบ

    EI 3951 7068 5 TH สมุทสาคร

    EI 3951 7069 4 TH อุดรธานี

    ได้เร็วหรือช้าตามระยะทางและการส่งของไปรษณีย์ครับ

    Track And Trace : EMS : Thailand Post : Spider

    ขอบคุณครับ
     
  20. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,464
    ค่าพลัง:
    +21,326
    หลวงพ่อถม ธัมมทีโป ปูชนียเถระ-พระเกจิลพบุรี
    ที่มา : ข่าวสดรายวัน -22 มีนาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6688

    คอลัมน์ มงคลข่าวสด

    " พระครูโสภณธรรมรัต" หรือ หลวงพ่อถม ธัมมทีโป เจ้าอาวาสวัดเชิงท่า ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี และที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี เป็นพระเถระนักพัฒนาและพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่มีผู้เลื่อมใสศรัทธาจำนวนมาก ด้วยความเป็นพระที่มีเมตตาธรรมขั้นสูง เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจแก่ผู้ทุกข์ร้อน ปฏิปทา สงบ สมถะ เรียบง่าย

    หลวงพ่อถม มีอายุยาวนานมาถึง 4 แผ่นดิน ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 มาจนถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลปัจจุบัน

    เป็นรัตตัญญูรับ รู้เรื่องราวทั้งในอดีตและปัจจุบันเป็นอย่างดี

    วัตถุมงคลของหลวงพ่อ ถม ที่จัดสร้างขึ้นเป็นที่ต้องการไว้ครอบครองบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคลของตนเองและครอบครัว

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ถม สงวนวงษ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน 2455 ตรงกับวันแรม 13 ค่ำเดือน 11 ปีชวด เวลาประมาณ 04.00 น. ที่บ้านโพธิ์ผีไห้ ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี

    โยมบิดาเป็นกำนัน ชื่อ นายลอย สงวนวงษ์ และโยมมารดาชื่อ เนย ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

    เริ่มการศึกษาครั้งแรกกับโยมบิดาตั้งแต่อายุได้ 5 ปี ต่อมาใน พ.ศ.2462 โยมบิดาได้นำตัวมาฝากไว้กับอา ชื่อ สามเณรแถม ที่วัดเชิงท่า ต.ท่าหิน อ.เมือง จ.ลพบุรี

    ณ สถานที่ห่งนี้ ทำให้เรียนหนังสือแบบเรียนเร็ว หนังสือมูลบทบรรพกิจ รวมทั้งหัดอ่านตัวขอมจากคัมภีร์พระมาลัย

    จนถึง พ.ศ.2464 โยมบิดาได้นำตัวไปฝากเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัดลพบุรี ในครั้งนั้นอยู่ ณ บ้านวิชาเยนทร์ เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 1

    พ.ศ.2465 ได้ย้ายไปอยู่กับพระครูธรรมรักขิต ผู้เป็นอาที่วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ ได้ศึกษาที่โรงเรียนของวัดสุทัศน์ จนจบชั้นประถมศึกษา และจบประถมช่างไม้ จากนั้นได้เรียนภาษาบาลีเพิ่มเติม พออายุได้ 15 ปี ตรงกับ พ.ศ.2470 ได้กลับบ้านมาช่วยครอบครัวทำนา

    จนกระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ท่านได้เข้าพิธีบรรพชาอุปสมบท ที่พัทธสีมาวัดโคกหม้อ ต.โพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2475 มีพระครูโวทานสมณคุณ ผู้เป็นเจ้าอาวาสวัดกวิศรารามฯ เจ้าอาวาสวัดเชิงท่าและเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการบุญ เจ้าอาวาสโคกหม้อ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ฉาย วัดเชิงท่า เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    พ.ศ.2479 ย้ายมาอยู่วัดเชิงท่า เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม ด้วยความมุ่งมั่นจนสอบได้นักธรรมชั้นเอก ในพ.ศ.2481

    ลำดับงานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2482 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดเชิงท่า พ.ศ.2504 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดเชิงท่า

    พ.ศ.2505 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลพรหมาสตร์และตำบลบางขันหมาก จ.ลพบุรี

    พ.ศ.2516 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2519 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี

    พ.ศ.2543 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรี

    ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2493 เป็นพระครูใบฎีกา ตำแหน่งฐานานุกรมของพระกิตติญาณมุนี (ต่อมาเลื่อนสมณศักดิ์ที่พระพุทธวรญาณ)

    พ.ศ.2513 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร ในราชทินนามพระครูโสภณธรรมรัต พ.ศ.2525 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร รองเจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามเดิม

    พระครูโสภณธรรมรัต มีบทบาทในการทำนุส่งเสริมพระพุทธศาสนา เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม ณ สำนักวัดเชิงท่า ตั้งแต่ พ.ศ.2482 จนถึง พ.ศ.2535 ได้นิพนธ์งานส่งเสริมศีลธรรมอันดีตามหลักพระพุทธศาสนาให้กับปวงชน และพิมพ์เผยแพร่อย่างสม่ำเสมอ

    ท่านยังมีหน้าที่บริหารคณะสงฆ์อำเภอ เมืองลพบุรี รวมทั้งได้อบรมพระภิกษุ-สามเณรร่วมกับเจ้าคณะอำเภอเมืองลพบุรีเป็นประจำ

    หลวงพ่อถม ได้จัดสร้างพิพิธภัณฑ์หอโสภณศิลป์ เพื่อรวบรวมและจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุอันมีค่า ในการศึกษามรดกวัฒนธรรมไทย ให้ได้เป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจศึกษา

    เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2545 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯทรงเปิดพิพิธภัณฑ์หอโสภณศิลป์ วัดเชิงท่า ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมสิ่งที่มีคุณค่าและมีประโยชน์อย่างยิ่งในศิลป วัฒนธรรม อันจะเป็นสมบัติของประชาชนและสมบัติของชาติไทยสืบไป

    พระพุทธวรญาณ อดีตเจ้าอาวาสวัดกวิศรารามฯและเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี ได้กล่าวคำนิยมแด่พระครูโสภณธรรมรัต ในคราวทำบุญอายุ 80 ปี เมื่อ พ.ศ.2535 ตอนหนึ่งว่า

    "ท่านพระครูโสภณธรรมรัต เป็นพระเถระที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่า เป็นปูชนียบุคคลของพระพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เพราะท่านมีความเป็นอยู่ด้วยความสงบตามสมณวิสัย ซึ่งหาได้ยากยิ่งในเวลานี้ ท่านได้ยึดมั่นในสมณปฏิบัติ ประกอบด้วยเมตตาธรรม ยึดพระธรรมวินัย อันเป็นแบบชีวิตที่ถูกต้องและสมบูรณ์เป็นหลัก มุ่งหมายความสงบเรียบร้อยเป็นปกติสำคัญ ข้าพเจ้ายืนยันได้ว่า ข้าพเจ้ารัก นับถือและเลื่อมใสท่านมากมานาน"

    หลวงพ่อถม ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปว่าเป็น "ปูชนียบุคคล" ของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย เพราะท่านมีความเป็นอยู่ด้วยความสงบ ตามสมณวิสัย ซึ่งหาได้อย่างยากยิ่งในปัจจุบัน

    ทำให้เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของ ประชาชนทั่วไป รวมทั้ง คณะสงฆ์ให้ความเคารพรักและศรัทธาอย่างจริงใจ

    ชั่วชีวิตของหลวงพ่อถม ได้ทุ่มเททำงานปฏิบัติงานทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนามากมายนานัปการ และได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดเชิงท่ามาอย่างต่อเนื่อง

    เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2552 หลวงพ่อถม ได้ล้มป่วยอาพาธด้วยโรคชรา และโรคไต คณะศิษยานุศิษย์จึงได้นำส่งโรงพยาบาลเมืองนารายณ์ ให้แพทย์วินิจฉัยทำการรักษา จนถึงวันที่ 9 มีนาคม 2552 จึงย้ายมารักษาต่อที่โรงพยาบาลลพบุรี

    กระทั่งเมื่อเวลา 15.07 น. วันที่ 15 มีนาคม 2552 จึงมรณภาพลงด้วยอาการสงบ สิริรวมอายุ 96 ปี พรรษา 77

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาจากข่าวสดอย่างสูงครับ
    ครับ


    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS 50บาทครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มิถุนายน 2013

แชร์หน้านี้

Loading...