ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

10-03-2013

คนแหลมฉบังหนีเตลิด! พายุงวงช้างขึ้นฝั่งพัดถล่ม



(9 มี.ค.) พายุงวงช้าง สูงเป็นกิโล ก่อนตัวนอกชายฝั่ง ก่อนพัดถล่มหมู่บ้านแหลมฉบังเก่า จ.ชลบุรี ชาวบ้านวิ่งหนีเตลิด บอกไม่เคยพบเห็นมาก่อน

เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. เกิดเหตุพายุฟ้าคะนอง บริเวณสะพานปลาแหลมฉบัง ย่านชุมชนแหลมฉบังเก่า อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ก่อนจะเริ่มก่อตัวเป็นพายุงวงช้า หรือ นาคเล่นน้ำ ห่างจากชายฝั่งไปราวๆ 200 เมตร โดยพายุงวงช้างดังกล่าว มีความสูงราวๆ 1 กิโลเมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 เมตร เคลื่อนตัวเข้าหาชายฝั่ง

เหตุดังกล่าวสร้างความตื่นตกใจให้แก่ชาวบ้าน ต่างพากันวิ่งหนีกันไปหลบในพื้นที่ปลอดภัย ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เปิดเผยว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่เคยเกิดพายุงวงช้างในลักษณะนี้มาก่อน พายุเริ่มก่อตัวในทะเลหลังจากพายุลมฝน ก่อนเคลื่อนตัวเข้าหาชายฝั่งและพัดเข้าสู่หมู่บ้าน แรงลมพายุทำให้ทรัพย์สินเสียหายเล็กน้อย แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก่อนที่ลมพายุจะสลายตัวไป หลังจากขึ้นฝั่งได้เล็กน้อย

ที่มาจาก ข่าว ข่าววันนี้ ข่าวสด ข่าวบันเทิง ข่าวดารา ข่าวด่วน : Sanook! News

 

เรือไททานิค 2



ภายหลังเรือไททานิคพุ่งชนภูเขาน้ำแข็งในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือและจมสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 15 เมษายน ปี 2455 จนถึงขณะนี้นับเป็นเวลาเกือบ 101 ปีล่วงมาแล้ว แต่ไททานิคยังไม่สิ้นชื่อตามเรือสำราญที่จมก้นทะเลเมื่อมีโครงการไททานิค 2 ผุดขึ้นมาจากแนวคิดของมหาเศรษฐีชาวออสเตรเลีย ซึ่งเตรียมลงมือสร้างเรือไททานิคเวอร์ชั่นใหม่ที่จะอวดโฉมแล่นฉิวในมหาสมุทรปลายปี 2559

ที่พิพิธภัณฑ์อวกาศ อากาศและทะเลในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ไคล์ฟพัลเมอร์ มหาเศรษฐีออสซีได้เผยพิมพ์เขียวฃของเรือไททานิคที่ได้ชื่อว่าเป็นเรือไม่มีวันจม พร้อมประกาศเริ่มสร้างเรือไททานิค 2 ในเร็ว ๆ นี้ ที่อู่ต่อเรือในจีน พัลเมอร์บอกว่า ผู้คนถึง 40,000 ราย ให้ความสนใจในตั๋วสำหรับการเดินทางเที่ยวแรกของเรือ ซึ่งเรือไททานิค 2จะย้อนรอยเส้นทางเดิมของเรือไททานิคที่แล่นออกจากเมืองเซาแธมป์ตันในประเทศอังกฤษมุ่งหน้าสู่นครนิวยอร์ก พัลเมอร์กล่าวว่า ผู้คนคือแรงบันดาลใจที่ทำให้เขามีแผนสร้างเรือไททานิค ซึ่งเป็นเรือที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่

พัลเมอร์บอกว่า เราทุกชีวิตที่อยู่บนโลกใบนี้ และหายใจด้วยอากาศเดียวกัน ดังนั้นเรือไททานิคจึงเป็นสิ่งที่ผู้คนใช้ร่วมกัน และยังเป็นการเชื่อมโยง 3 ทวีป นอกจากนั้นพัลเมอร์กล่าวด้วยว่า เรือไททานิคต้นแบบชนภูเขาน้ำแข็งจนต้องจมสู่ก้นทะเล แต่ผลพวงของภาวะโลกร้อน ทำให้ไม่มีภูเขาน้ำแข็งมากมายในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือเหมือนแต่ก่อน สำหรับผู้โดยสารของเรือไททานิค 2 นั้น จะต้องแต่งกายย้อนยุค และมีการเสิร์ฟอาหารด้วยเมนูดั้งเดิมของเรือไททานิคเมื่อ 100 ปีก่อนในห้องอาหารที่จำลองจากของเดิมทั้งหมดทุกกระเบียดนิ้ว

เฮเลน เบนซิเกอร์ ซึ่งเข้าร่วมโครงการไททานิค 2 ของพัลเมอร์ในฐานะคณะกรรมการที่ปรึกษา และเป็นเหลนสาวของมาร์กาเรต” มอลลี” บราวน์ ผู้รอดชีวิตจากเรือไททานิคล่ม กล่าวว่า ทวดของเธอที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปี 2475 รักที่จะได้เห็นเรือไททานิคถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ส่วนตัวแทนของนักออกแบบเรือไททานิค 2 แห่งฟินแลนด์กล่าวว่า เรือไททานิคลำใหม่นี้ จะเป็นเรือสำราญที่มีความปลอดภัยที่สุดในโลกมาร์กคู คาเนอร์วา ผู้อำนวยการบริษัทเดลตามาริน ซึ่งเป็นผู้ออกแบบทางทะเล เปิด เผยว่า เรือไททานิค 2 สร้างจำลองแบบจากเรือไททานิค และจะติดปล่องควัน 4 ปล่องเหมือนเรือไททานิคเดิมที่ใช้พลังงานถ่านหิน แต่เรือลำใหม่จะมีระบบนำร่องที่ทันสมัยและระบบรักษาความปลอดภัยที่ยอดเยี่ยม รวมทั้งใช้พลังงานดีเซล

ยุคนั้นเรือไททานิคถือเป็นเรือสำราญสุดหรูที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก การพุ่งชนภูเขาน้ำแข็ง ทำให้มีผู้รอดชีวิตเพียง 700 คนจากผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดกว่า 2,200 คน เนื่องจากจำนวนเรือชูชีพมีไม่เพียงพอต่อผู้โดยสาร นับเป็นโศกนาฏกรรมทางทะเลครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์.

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

• โผล่แล้วดาวหางแพนสตาร์ส (C/2011 L4 PANSTARRS) เหนือท้องฟ้าเมืองไทย


ภาพถ่ายดาวหางแพนสตาร์ส (C/2011 L4 PANSTARRS) ในวันที่ 9 มีนาคม 2556 เวลา 19.03 น. ณ จุดชมวิวดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่
(ภาพโดย : ศุภฤกษ์ คฤหานนท์)

เมื่อเวลา 18.00 น. ทีมเจ้าหน้าที่สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ นำทีมโดย ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการสถาบันฯ สังเกตดาวหางแพนสตาร์ส (C/2011 L4 PANSTARRS) ณ บริเวณจุดชมวิวดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ โดยเมื่อเวลา 18.48 น. ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา เริ่มสังเกตเห็นดาวหางโผล่ทางขอบฟ้าทิศตะวันตก โดยสังเกตเห็นผ่านกล้องสองตาอย่างชัดเจน และในเวลา 18.57 น. นายรณภพ ตันวุฒิบันฑิ หนึ่งในทีมเจ้าหน้าที่สถาบันฯ ก็สามารถบันทึกภาพดาวหางไว้ได้เป็นภาพแรก ในการสังเกตการณ์ดาวหางในวันที่ 9 มีนาคม นี้สามารถสังเกตเห็นดาวหางได้จนถึงเวลา 19.23 น.

ในการสังเกตดาวหางด้วยตาเปล่าค่อนข้างลำบาก เนื่องดาวหางจะอยู่ใกล้ขอบฟ้ามาก จึงต้องสังเกตจากสถานที่ที่ขอบฟ้าทิศตะวันตกเปิดโล่ง ไม่มีสิ่งใดบดบัง หรือสังเกตจากอาคารสูง และจำเป็นต้องใช้กล้องสองตาช่วยกวาดหาบริเวณขอบฟ้า ตาเปล่ามีโอกาสเห็นได้ หากดาวหางสว่างมากกว่านี้ มีหางยาว และท้องฟ้าเปิด ไม่มีเมฆหมอกและฝุ่นควันบดบัง


ภาพถ่ายดาวหางแพนสตาร์ส (C/2011 L4 PANSTARRS) ในวันที่ 9 มีนาคม 2556 เวลา 19.12 น. ณ จุดชมวิวดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่
(ภาพโดย : ศุภฤกษ์ คฤหานนท์)


ภาพถ่ายดาวหางแพนสตาร์ส (C/2011 L4 PANSTARRS) ในวันที่ 9 มีนาคม 2556 เวลา 19.17 น. ณ จุดชมวิวดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่
(ภาพโดย : ชนากานต์ สันติคุณาภรณ์)


จุดสังเกตการณ์ ณ บริเวณจุดชมวิวดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งสามารถมองเห็นขอบฟ้าทิศตะวันตกเปิดโล่ง ไม่มีสิ่งใดบดบัง

ที่มาจาก สำนักบริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

 

แผนที่อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา 10-03-2013 07.00 น.



อากาศวันนี้

ลักษณะอากาศทั่วไป เมื่อเวลา 04:00 น.วันนี้
ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะนี้

คาดหมาย
ในช่วงวันที่ 10-13 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้มีฝนบริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ สำหรับในช่วงวันที่ 14-16 มี.ค. ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีเพิ่มมากขึ้นในระยะนี้

ที่มาจาก The Weather Lover Club

 

ความรู้เกี่ยวกับ พายุฝนฟ้าคนอง



พายุฝนฟ้าคะนอง เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวันเหนือ พื้นผิวโลก โดยการก่อตัวที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่จะเป็นไปตามฤดูกาล ในบริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตร มีโอกาสที่จะเกิดพายุฝนฟ้าคะนองได้ตลอดปี เนื่องจากมีสภาพอากาศในเขตร้อนจึงมีอากาศร้อน อบอ้าว ซึ่งเอื้อต่อการก่อตัวของพายุฝนฟ้าคะนองได้ตลอดปี เนื่องจากมีสภาพอากาศในเขตร้อนจึงมีอากาศร้อนอบอ้าว ซึ่งเอื้อต่อการก่อตัวของพายุฝนฟ้าคะนอง ส่วนบริเวณขั้วโลกเหนือ และขั้วโลกใต้ที่อยู่ในละติจูดที่สูงขึ้นไป มักจะเกิดขึ้นในฤดูร้อน สำหรับประเทศไทยพายุฝนฟ้าคะนองสามารถก่อตัวได้เกือบตลอดเวลาและในทุกพื้นที่ เนื่องจากมีภูมิอากาศในเขตร้อน (Tropic) โดยเฉพาะในเดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม พายุฝนฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นจะมีความรุนแรงกว่าปกติ จนเกิดเป็นลักษณะที่เรียกว่า “พายุฤดูร้อน”

สาเหตุการเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง
พายุฝนฟ้าคะนอง เกิดจากเมฆที่ก่อตัวขึ้นในทางตั้ง (แนวดิ่ง) ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า เมมคิวบูโลพิมพัส (Cumulomimbus) หรือเมฆรูปทั่ง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดลักษณะอากาศร้ายชนิดต่าง เช่น ลมกระโชก ฟ้าแลบ และฟ้าผ่า ฝนตกหนัก อากาศปั่นป่วนรุนแรง ทำให้มีลูกเห็บตกและอาจเกิดน้ำแข็ง เกาะจับเครื่องบินที่บินรุนแรง ฯลฯ นอกจากนี้เมมคิวบูโลพิมพัส ที่ก่อตัวขึ้นในบริเวณพื้นที่ระบบกว้างใหญ่ เช่น ทางตะวันออกของภูเขารอกกี้ในสหรัฐอเมริกา เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดพายุทอร์นาโดหรือพายุลมงวง เมฆพายุฝนฟ้าคะนองดังกล่าวจะมีฐานเมฆต่ำ และมีกระแสอากาศไหลลงรุนแรง (Downdraft) จนทำให้เกิดเมฆเป็นลำคล้ายงวงช้าง ยื่นจากใต้ฐานเมฆหนาทึบลงมายังพื้นดิน โดยที่ภายในของลำเมฆที่
หมุนวนนี้จะมีความกดอากาศต่ำมาก จนเกือบเป็นสูญญากาศดูดสิ่งต่าง ๆ

ลำดับชั้นการเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง
ระยะเจริญเติบโต
โดยเริ่มจากการที่อากาศร้อนลอยตัวขึ้นสู่บรรยากาศ พร้อมกับการมีแรงมากระทำ หรือผลักดันให้มวลอากาศยกตัวขึ้นไปสู่ความสูงระดับหนึ่ง โดยมวลอากาศจะเย็นลงเมื่อลอยสูงขึ้น และเริ่มที่จะเคลื่อนตัวเป็นละอองน้ำเล็ก ๆ เป็นการก่อตัวของเมมคิวมูลัส ในขณะที่ความร้อนแฝงจากการกลั่นตัว ของไอน้ำจะช่วยให้อัตราการลอยตัว ของกระแสอากาศภายในก้อนเมฆเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุให้ขนาดของ เมฆคิวมูลัสมีขนาดใหญ่ขึ้น และยอดเมฆสูงเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ จนเคลื่อนที่ขึ้นถึงระดับบนสุดแล้ว (จุดอิ่มตัว) จนพัฒนามาเป็นเมฆคิวมูโลพิมพัส กระแสอากาศบางส่วนก็จะเริ่มเคลื่อนที่ลง และจะเพิ่มมากขึ้นจนกลายเป็น กระแสอากาศที่เคลื่อนที่ลงอย่างเดียว

ระยะเจริญเติบโตเต็มที่
เป็นช่วงที่กระแสอากาศมีทั้งไหลขึ้นและไหลลง ปริมาณความร้อนแฝงที่เกิดขึ้นจากการกลั่นตัวลดน้อยลง ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่หยาดน้ำฟ้า ที่ตกลงมามีอุณหภูมิต่ำ ช่วยทำให้อุณหภูมิของกลุ่มอากาศเย็นกว่าอากาศแวดล้อม ดังนั้นอัตราการเคลื่อนที่ลงของกระแสอากาศจะมีค่าเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ กระแสอากาศที่เคลื่อนที่ลงมา จะแผ่ขยายตัวออกด้านข้าง ก่อให้เกิดลมกระโชกรุนแรง อุณหภูมิจะลดลงทันทีทันใด และความกดอากาศจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและยาวนาน แผ่ออกไปไกลถึง 60 กิโลเมตรได้ โดยเฉพาะส่วนที่อยู่ด้านหน้าของทิศทาง การเคลื่อนที่ของพายุฝนฟ้าคะนอง พร้อมกันนั้นการที่กระแสอากาศเคลื่อนที่ขึ้น และเคลื่อนที่ลงจะก่อให้เกิดลมเชียร์รุนแรง และเกิดอากาศปั่นป่วนโดยรอบ

ระยะสลายตัว
เป็นระยะที่พายุฝนฟ้าคะนองมีกระแสอากาศเคลื่อนที่ลงเพียงอย่างเดียว หยาด น้ำฟ้าตกลงมาอย่างรวดเร็วและหมดไป พร้อม ๆ กับกระแสอากาศที่ไหลลงก็จะเบาบางลง

ลักษณะอากาศร้ายเนื่องจากพายุฝนฟ้าคะนอง
1) พายุลมงวง เป็นอากาศร้ายรุนแรงที่สุด ซึ่งเกิดจากพายุฝนฟ้าคะนอง มีลักษณะเป็นลำเหมือนงวงช้างยื่นออกมาจากฐานเมฆ มีลักษณะการหมุนวนบิดเป็นเกลียว มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1,000 ฟุต มักจะเกิดในที่ราบกว้างใหญ่ เช่น พื้นที่ราบในทวีปออสเตรเลีย ที่งานทางตะวันออก ของเทือกเขารอกที่ในสหรัฐอเมริกา สำหรับในประเทศไทยจะมีลักษณะเป็นพายุลมงวงขนาดเล็ก ซึ่งเกิดจากเมฆพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงที่มีฐานเมฆต่ำ และมีกระแสอากาศไหลลงรุนแรง จนเกิดเมฆเป็นลำพวย พุ่งลงมาจนใกล้พื้นดินดูดเอาอากาศ และเศษวัสดุหมุนวนเป็นลำพุ่งขึ้นไปในอากาศ ความรุนแรงของลำพวยอากาศนี้สามารถ ปิดให้ต้นไม้ขนาดใหญ่หักขาดได้ ในขณะที่บ้านเปียกและสิ่งก่อสร้าง ก็จะได้รับความเสียหายตามแนวที่พาลมงวงเคลื่อนที่ผ่าน

2) อากาศปั่นป่วน กระแสอากาศที่ปั่นป่วนและลมกระโชกที่รุนแรง ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ บนพื้นดิน ซึ่งบางครั้งพบห่างออกไปกว่า 30 กิโลเมตร จากกลุ่มเมฆพายุฝนฟ้าคะนอง

3) พายุลูกเห็บ ลูกเห็บที่เกิดขึ้นพร้อม ๆ กับอากาศที่ปั่นป่วนรุนแรง มักจะเกิดขึ้นจากพายุฝนฟ้าคะนองที่มีออกเมฆสูงมาก กระแสอากาศที่เคลื่อนที่ขึ้นไปในระดับสูงมาก ทำให้หยดน้ำเริ่มแข็งตัวเป็นหยดน้ำแข็ง มีหยดน้ำอื่น ๆ รวมเข้าด้วยกันสะสมจนมีขนาดโตขึ้น และในที่สุดเมื่อกระแสอากาศพยุงรับทั้งหน้าที่เพิ่มขึ้นไม่ได้ ก็จะตกลงมาเป็นลูกเห็บ ทำความเสียหายไปพื้นที่ การเกษตรได้

4) ฟ้าแลบ ฟ้าผ่า ฟ้าแลบและฟ้าผ่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดควบคู่กัน นับเป็นภัยรรมชาติที่มีอันตรายต่อชีวิตมนุษย์มากกว่าปรากฏการณ์ธรรมชาติอื่น ฟ้าแลบและฟ้าผ่าเกิดขึ้น จากการปล่อยประจุอิเล็กตรอน ระหว่างก้อนเมฆกับก้อนเมฆ หรือภายในกลุ่มเมฆเดียวกัน หรือเกิดขึ้นระหว่างก้อนเมฆกับพื้นดิน เมื่อเกิดความต่างศักย์ไฟฟ้าระหว่างตำแหน่งทั้งสองที่มีค่าระดับหนึ่ง ซึ่งเกิดจากปฏิกริยาที่ก่อให้เกิดสนามไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยประจุไฟฟ้าบวกจะอยู่ทางด้านบนของเมฆ และประจุไฟฟ้าลบจะอยู่ทางตอนล่างของเมฆ ประจุไฟฟ้าลบนี้จะชักน้ำให้ประจุไฟฟ้า พวกที่อยู่ด้านบนก้อนเมฆ และประจุไฟฟ้าบวกที่อยู่ใต้พื้นผิวโลก เคลื่อนที่เข้าหาประจุไฟฟ้าลบบริเวณใต้กลุ่มเมฆ โดยมีอากาศทำหน้าที่เป็นฉนวน ป้องกันการถ่ายเทของประจุไฟฟ้าทั้งสองกำลังแรงพอ ก็จะทำให้เกิดเป็นกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน อากาศทำให้เกิดฟ้าแลบในก้อนเมฆ หรือระหว่างภัยเมฆและเกิดกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน อากาศอย่างเฉียบพลันจากเมฆถึงทำให้เกิดฟ้าผ่า

5) ฝนตกหนัก พายุฝนฟ้าคะนองสามารถก่อให้เกิดฝนตกหนัก และน้ำท่วมฉับพลันได้ในพื้นที่ซึ่งเป็นที่ราบลุ่ม หรือที่ต่ำและพื้นที่ตามบริเวณเชิงเขา

http://www.aeromet.tmd.go.th/met/story/show_88.htm

(ดร.วัฒนา กันบัว)

 

ความคืบหน้าพายุไซโคลน SANDRA จาก TSR เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ผ่านมา พายุได้ทวีกำลังเป็นไซโคลนระดับ 2 แล้ว ความเร็วลมศูนย์กลางอยู่ที่ 85 น็อต

 

พายุถล่ม'มะกัน'บ้านพังตกทะเล!
สหรัฐเจอพายุฤดูหนาวในพื้นที่ชายฝั่ง บ้าน 2 หลังพังตกทะเล อีกหลายหลังเสียหาย



10 มี.ค. 56 เกิดเหตุบ้านสองหลัง พังถล่มลงไปในมหาสมุทร ในบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐแมสซาจูเสตส์ ของสหรัฐ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะที่อีกหลายหลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก อันเนื่องมาจากพายุฤดูหนาว ที่ทำให้เกิดลมพัดแรงและคลื่นสูง
พายุฤดูหนาวลูกนี้ ยังทำให้หิมะตกหนัก หนา 2 ฟุต ในรัฐนิวอิงแลนด์ ที่อยู่ตอนใต้ เป็นเวลา 2 วัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยในขณะที่อากาศในหลายพื้นที่เริ่มอุ่นขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ แต่แต่เจ้าของบ้านที่อยู่บนเกาะพลัม ต้องดูบ้านที่หลุดจากรากฐานของพวกเขาถูกน้ำทะเลซัดไป
เจ้าของบ้านผู้เคราะห์ร้าย บอกว่า มันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจ เป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตของพวกเขา ในขณะที่เริ่มมีการรื้อถอนซากบ้าน / ชายฝั่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ต้องเผชิญกับคลื่นยักษ์ 3 ลูก ในระหว่างที่พายุพัดกระหน่ำ และเลวร้ายที่สุดเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ ทำให้ถนนและหลายเมืองในพื้นที่ชายฝั่ง ถูกน้ำท่วมสูง 3 ฟุต
ตอนที่พายุฤดูหนาวพัดผ่านบริเวณมิดเวสต์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ทำให้เกิดหิมะตกสูงเกือบ 2 ฟุต ขณะที่กรุงวอชิงตัน ยังคงได้รับคำเตือนให้ระวังหิมะตกสูง 10 นิ้ว

ที่มาจาก คมชัดลึก

 

พายุลูกเห็บพัดสุราษฎร์บ้านพัง50หลัง



อำเภอพุนพิน สุราษฎร์ธานีเจอพายุลูกเห็บพัดถล่มบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 50 หลัง ผู้ใหญ่บ้านเผยเกิดเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปี

เมื่อวันที่ 10 มี.ค.นายชาคริช ศรีภิรมย์มิตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านบางเบา ต.ตะปาน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุพายุฝนพัดลูกเห็บถล่มในพื้นที่หมู่บ้านเป็นเวลา 30 นาทีทำให้บ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหายจำนวนมาก เมื่อออกตรวจสอบเบื้องต้นพบพื้นที่หมู่บ้านบางเบา ในเขตชุมชนตะปานเมืองใหม่ ที่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินจากรัฐบ้านหลังหมดสัญญาเช่าของนายทุน มีบ้านบ้านพักอาศัยของสมาชิกในชุมชนกว่า 50 ครัวเรือนได้รับรับความเสียหาย

ทั้งนี้ พบว่า บ้านที่ได้รับความเสียหายส่วนใหญ่เป็นหลังคากระเบื้องแตกทั้งหลัง และบ้านบางหลังมีสภาพหลังคายุบพังลงมากองกับพื้นดิน นอกจากนี้มีพืชผลการเกษตรได้รับความเสียหายอีกด้วย ซึ่งได้รวบรวมความเสียหายทั้งหมดรายงานนายไพศาล ตรีธัญญา นายอำเภอพุนพิน ทราบและให้การช่วยเหลือต่อไป

นายชาคริช กล่าวว่า พายุฝนลูกเห็บดังกล่าวมีลักษณะลมพัดแรงและมีฝนตกหนักซึ่งเม็ดฝนเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดหัวแม่เท้า โดยขณะนี้เกิดเหตุชาวบ้านพากันตกใจวิ่งหนีหลบลูกเห็บกันอลม่านเนื่องจากไม่เคยมีปรากฎการณ์ดังกล่าวมาหลายสิบปีแล้ว แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ



ที่มาจาก โพสทูเดย์

 

ความคืบหน้าพายุไซโคลน SANDRA จาก TSR เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา พายุได้ทวีกำลังเป็นไซโคลนระดับ 3 แล้ว ความเร็วลมศูนย์กลางอยู่ที่ 110 น็อต

 

ยุ่นมึน! กรุงโตเกียวถูกพายุทรายพัดปกคลุมทั้งเมือง


10 มี.ค. กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นถูกพายุทรายพัดปกคลุมทั่วทั้งเมืองในวันนี้ ทำให้สภาพอากาศที่สดใสและมีแดดกลับเต็มไปด้วยฝุ่นทรายสีน้ำตาลและมืดมัว ทัศนวิสัยลดลงอย่างรวดเร็ว


นักอุตุนิยมวิทยาชี้แจงว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวเกิดจากแนวอากาศเย็นก่อตัวขึ้นฉับพลันทางตอนเหนือ แล้วเคลื่อนตัวลงมาทางใต้ แนวอากาศเย็นนี้ทำให้เกิดพายุหิมะในพื้นที่ทางเหนือ และทำให้เกิดกระแสลมแรงในกรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ เป็นเหตุให้ฝุ่นละอองจากพื้นถูกพัดกระจายคลุ้งไปทั่ว ไม่เกี่ยวข้องกับมลภาวะทางอากาศจากจีน คาดว่าปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะ และหากมีฝนตกก็จะช่วยขจัดฝุ่นในอากาศได้

ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNMk1qa3hPREkxTlE9PQ==&subcatid=

 

11-03-2013

อุตุฯเผยกลาง-ตอ.-ใต้มีฝนบางแห่ง,กทม.อากาศร้อน



กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะนี้ ขณะที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 15-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ที่มาจาก VOICE TV

 

อากาศวันนี้

ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกเป็นแห่งๆ ในระยะนี้

ในช่วงวันที่ 10-13 มี.ค. ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้มีฝนบริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ สำหรับในช่วงวันที่ 14-16 มี.ค. ความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีเพิ่มมากขึ้นในระยะนี้

จากกรมอุตุนิยมวิทยา



อากาศร้อน ท้องฟ้ามีเมฆบางส่วน บ่าย-เย็น ทางตอนบนของประเทศยังเกิดพายุฤดูร้อนได้ต่อไปตาม รูปแบบของลมที่พัดพาความชื้นในระดับล่าง และมีอากาศเย็น-แห้งมาซ้อนทับในระดับบน ทำให้เเมฆฝนเกิดแล้วจะก้อนโต-สูง ลมจึงแรงกว่าปกติ
ที่มา แผนที่ลมชั้นบน กขอ.ทอ.
NOAA.GOV




ขอบคุณที่มาจาก กองข่าวอากาศ (เหล่าอุตุนิยมวิทยา) WEATHER DIVISION RTAF THAILAND

ที่มาจาก https://www.facebook.com/WeatherLoverClub

 

12-03-2013

กรมอุตุฯ เตือนยังมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่


มีลมตะวันออกเฉียงใต้ พัดความชื้นทะเลจีนใต้ อ่าวไทย ปกคลุม กรุงเทพฯ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่งผลให้มีฝนตกบางพื้นที่

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.วันนี้ (12มี.ค.) ว่าความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่ง ในระยะนี้
อนึ่ง คลื่นกระแสลมตะวันตกคลื่นผ่านภาคเหนือเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนืออุณหภูมิลดลง 1-2 องศา ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ ในช่วงวันที่ 12-13 มีนาคม 2556 นี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.
ภาคเหนือ ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว กับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดบึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร
อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ทางตอนบนของภาคอากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของกรุงเทพฯ
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.


อากาศวันนี้ จากแผนที่อากาศ

ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ส่วนลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนบางแห่ง ในระยะนี้ อนึ่ง คลื่นกระแสลมตะวันตกคลื่นผ่านภาคเหนือเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนืออุณหภูมิลดลง 1-2 องศา ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ ในช่วงวันที่ 12-13 มีนาคม 2556 นี้

กรมอุตุนิยมวิทยา

 

แผ่นดินไหวแคลิฟอร์เนีย 5.1 ริคเตอร์


แผ่นดินไหววัดได้ 5.1 ริคเตอร์ทำให้ตึกสูงในลอสแองเจลิสสั่นสะเทือนเมื่อวันจันทร์ที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ เสียชีวิตหรือความเสียหายรุนแรง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มี.ค.ว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งเหตุแผ่นดินไหววัดได้ 5.1 ริคเตอร์ เมื่อวันจันทร์ที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ที่ 19 กม.ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองอันซา รัฐแคลิฟอร์เนีย หรือประมาณ 160 กม.ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครลอสแองเจลิส และ ยังสามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ในเมืองซานดิอาโก แม้อยู่ห่างออกมาจากลอสแองเจลิส โดยใช้เวลาขับรถราว 2 ชั่วโมง

แผ่นดินไหวยังสามารถรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้สำหรับตึกสูงในย่านฮอลลีวู้ด ทางตะวันตกเฉียงเหนือของย่านดาวน์ทาวน์ลอสแองเจลิส แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหายรุนแรง ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์แอลเอ ไทมส์ และ สื่อท้องถิ่นอื่นๆ

ลอสแองเจลิสตั้งอยู่ในเขตที่เรียกว่า วงแหวนไฟ รอบมหาสมุทรแปซิฟิก และเกิดแผ่นดินไหวขึ้นบ่อยครั้ง รวมทั้งเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2554 แผ่นดินไหวรุนแรง 9.0 ริคเตอร์จนเกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดเข้าสู่ชายฝั่งที่ประเทศญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิตเกือบ 19,000 ศพ

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

อัพเดทพายุไซโคลน SANDRA จาก TSR เมื่อเวลา 07.00 น.12-03-2013 ที่ผ่านมา พายุได้ลดกำลังลงเป็นไซโคลนระดับ 2 ความเร็วลมศูนย์กลางอยู่ที่ 85 น็อต


พายุไซโคลน Sandra เข้าใกล้ชายฝั่งแคลิโดเนียตั้งแต่เช้าวันอังคารจนถึงวันพฤหัสบดีนำลมพัดแรงและคลื่นสูงเข้าหาชายฝั่ง, ข่าวดีก็คือว่าพายุนี้จะไม่ขึ้นฝั่งแต่ยังคงได้รับผลผลกระทบจากพายุ และมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบตามชายฝั่งทางเหนือของเกาะที่เมืองนูเมอาที่กระแสลม 100 kph สำหรับชุมชนชายฝั่ง จากนั้นพายุลูกนี้ก็จะเบนเส้นทางไปทางทิศตะวันตกในทะเลปะการังสัปดาห์นี้

<iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/9voEPzf4noQ" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

พายุหิมะถล่มภาคเหนือฝรั่งเศส


เกิดพายุหิมะพัดถล่มทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ทำให้ประชาชนกว่า 68,000 คน ขาดแคลนกระแสไฟฟ้า และอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องติดอยู่ภายในรถยนต์ เนื่องจากหิมะที่เกาะหนาบนพื้นผิวถนนทำให้พาหนะไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองก็อง ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ว่า มวลอากาศหนาวเย็นกำลังแรงจัด แผ่อิทธิพลเข้าปกคลุมในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือของฝรั่งเศส ส่งผลให้ประชาชนกว่า 68,000 คน ตกอยู่ในภาวะขาดแคลนกระแสไฟฟ้า และอีกจำนวนไม่น้อยที่ต้องติดอยู่ภายในรถยนต์ เนื่องจากหิมะที่เกาะหนาบนพื้นผิวถนนทำให้พาหนะไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฝรั่งเศสออกประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และทางตอนเหนือของประเทศรวม 26 เมือง ให้เตรียมรับมือผลกระทบและระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากพายุหิมะรุนแรง ที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุรถยนต์ชนท้ายกัน 3 คันซ้อนในเมืองลีล เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 คน

ขณะที่มีรายงานรถยนต์เกือบ 500 คัน ต้องจอดแน่นิ่งอยู่บนถนนชานเมืองเชอร์บูร์ก เนื่องจากมีหิมะและน้ำแข็งเกาะเต็มบนพื้นผิวการจราจรหนาถึง 60 เซนติเมตร บวกกับกระแสลมที่พัดแรงถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังมีรายงานประชาชนในแคว้นนอร์มังดีและบริตตานีกว่า 68,000 คน ประสบกับภาวะขาดแคลนกระแสไฟฟ้า แต่บริษัท เออแอร์เดแอฟ ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าท้องถิ่น สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงทีแล้ว

ด้านระบบการขนส่งมวลชนทางอากาศได้รับผลกระทบเช่นกัน มีรายงานการยกเลิกเที่ยวบินจากสนามบินออร์ลี และรัวซี ราว 25% เช่นเดียวกับระบบการเดินรถไฟหัวกระสุนความเร็วสูง เตเชเว ที่ได้รับผลกระทบจนทำให้ตารางเวลาเดินรถล่าช้ากว่ากำหนดในหลายเส้นทาง อย่างไรก็ตาม สำนักงานอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่า สภาพอากาศจะมีแนวโน้มดีขึ้นภายในวันพุธที่ 13 มี.ค.นี้

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

พายุฤดูร้อนถล่มพิมายเสียหายหลายหลังคาเรือน



พายุฤดูร้อน ซัดถล่มบ้านเรือนประชาชน ในอ.พิมาย จ.นครราชสีมา เสียหายหลายสิบหลังคาเรือน

ภายหลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีการประกาศแจ้งเตือนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ระวังฝนฟ้าคะนองและมีลมกรรโชกแรงในบางพื้นที่ เนื่องจากความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมปะทะกับสภาพอากาศประเทศไทยที่ร้อนจัด ส่งผลให้ในช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา(12มี.ค.56) ในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ได้เกิดพายุฤดูร้อนซัดถล่มบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ที่ 2 ,3 , 15และหมู่ 16 ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เสียหายกว่าสิบหลังคาเรือน โดยสภาพบ้านเรือนแต่ละหลัง พายุได้พัดหลังคาบ้านปลิวหลุดออกจากตัวบ้านเหลือเพียงแต่เสาและคาบ้าน นอกจากนี้พายุฤดูร้อนยังได้พัดต้นไม้ขนาดใหญ่หักโค่นขวางการจราจรบริเวณถนนสายพิมาย - ชุมพวง ระหว่างหลักกม.ที่ 18-19 ต.โบสถ์ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา

ด้านนายสงัด สายใหม่ ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เกิดจาก มีลมจากทิศตะวันออกเฉียงใต้พัดพาความชื่นจากทะเลจีนใต้และอ่าวไทยเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ส่งผลให้ในพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา มีเมฆก่อตัวมีฝนตกและพายุท้องฟ้าคะนอง หรือพายุฤดูร้อน พัดบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งในทุกพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมาจะยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และสามารถจะเกิดพายุฤดูร้อนได้ในทุกพื้นที่จนไปถึงวันที่ 13 มี.ค.56 ซึ่งสามารถเกิดได้ทุกเมื่อ ดังนั้นให้ประชาชนสังเกตท้องฟ้าหากพบว่ามีฟ้าหลัวและมีเมฆปกคลุม ฟ้าร้อง และมีฟ้าผ่า ให้ประชาชาระวังลมพายุ ฝนตก และลูกเห็บ ดังนั้นอยากให้ประชาชนที่ทำงานในที่แจ้งควรรีบกลับเข้าบ้านเรือนของตนเอง หรือในสถานที่ที่ปลอดภัย ไม่ควรหลบอยู่ต้นต้นไม่ใหญ่เนื่องจากหากเกิดลมกรรโชกแรงก็อาจจะส่งผลให้ต้นไม้ใหญ่นั้นหักลมทับได้

ที่มาจาก โพสทูเดย์

 

หิมะถล่มยุโรปตะวันตกเป็นอัมพาตยกเลิกเที่ยวบิน-รถไฟความเร็วสูง


เที่ยวบินกว่า 1 ใน 4 ที่จะเดินทางออกจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ถูกยกเลิก ขณะที่เบลเยี่ยมประสบปัญหารถติดอย่างหนักเป็นประวัติการณ์ และรถไฟความเร็วสูงก็ต้องจอดแช่อยู่ในสถานีหลายแห่ง เนื่องเจาพายุหิมะตกอย่างหนักในยุโรปตะวันตก

หิมะที่ตกลงมาทำให้ถนนหนทางลื่น ทัศนวิสัยย่ำแย่ ลดลงอย่างมาก และกระแสลมแรงยังทำให้สภาพอากาศเลวร้ายมากขึ้น ส่งผลให้การจราจรในเบลเยียมติดขัดยาวที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1,600 กิโลเมตร ในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนในตอนเช้า รถไฟหลายสายถูกยกเลิก รวมถึงรถไฟความเร็วสูงปลายทางกรุงปารีส เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ บางสาย ทำให้มีผู้โดยสารตกค้างอยู่ในชานชาลาหลายพันคน

ส่วนในอังกฤษ ตำรวจเมืองซัสเซ็กซ์ รายงานว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกันกว่า 300 กรณี ในช่วง 24 ชั่วโมง เนื่องจากถนนลื่น แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บร้ายแรง โรงเรียนหลายแห่งในพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษต้องปิดการเรียนการสอนเนื่องจากสภาพอากาศรุนแรง

ทั้งนี้ การขาดการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับหิมะตกหนัก ซึ่งปกติจะตกในยุโรปตอนเหนือและตะวันออก ทำให้ฝรั่งเศส อังกฤษ และเบลเยี่ยม ต้องใช้ความพยายามอย่างหนักเพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการขนส่งท่ามกลางสภาพอากาศที่หนาวเหน็บ โดยหน้าจอแจ้งตารางการบินในกรุงปารีส ขึ้นคำเตือนเป็นตัวแดง หลังจากสำนักงานการบินพลเรือนฝรั่งเศส สั่งยกเลิกเที่ยวบินร้อยละ 25 ที่จะออกจากสนามบินชาร์ลส์ เดอ โกล และร้อยละ 20 ของเที่ยวบินที่จะออกจากสนามบินออร์ลี

ส่วนเครือข่ายรถไฟฝรั่งเศส เอสเอ็นซีเอฟ เรียกร้องให้ผู้โดยสารในเขตกรุงปารีส พักอยู่แต่ในบ้านเมื่อวันอังคารแทนที่จะเดินทางไปย่านกลางเมือง เพราะสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย และหิมะยังตกลงมาปิดถนนหลายสายทั่วภาคเหนือของฝรั่งเศส และมีบางสายที่เจ้าหน้าที่ขนส่งต้องปิดเส้นทาง เนื่องจากอันตราย ขณะที่รถบรรทุกถูกห้ามวิ่งในหลายเส้นทาง

รัสเซียเสนอถล่มดาวเคราะห์น้อยด้วยนิวเคลียร์ก่อนชนโลก


รัสเซียผุดความคิดป้องกันดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก ด้วยการนำอุปกรณ์ส่งสัญญาณไฟฟ้าขึ้นไปติดบนดาวเคราะห์น้อย ไม่หรือก็ใช้ระเบิดนิวเคลียร์อย่างน้อยหนึ่งล้านตันยิงถล่มก่อนพุ่งชนโลก

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ว่า เจ้าหน้าที่รัสเซีย เสนอแนวความคิดหลายอย่างทั้งติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณไฟฟ้าบนดาวเคราะห์น้อย ไปจนถึงการโจมตีด้ายระเบิดนิวเคลียร์ขนาดหนึ่งล้านตัน เพื่อหลีกเลี่ยงภัยคุกคามจากดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก โดยการรักษาโลกให้รอดพ้นจากการพุ่งชนของดาวเคราะห์น้อย ได้หลุดออกจากหนังสือนวนิยายแนววิทยาศาสตร์ในรัสเซีย เข้าสู่ความจริงทางการเมืองในรัสเซีย หลังจากเกิดเหตุอุกกาบาต พุ่งแหวกน่านฟ้ารัสเซีย ระเบิดอย่างรุนแรง จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากถึง 1,500 คนในเขตชนบทแดนหมีขาวในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ อุกกาบาตระเบิดเหนือน่านฟ้าเมืองเชลยาบินส์ค ของรัสเซีย เพิ่มความหวาดกลัวถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้น หากมีเทหวัตถุที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ เข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลกเหนือพื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่หนาแน่น



นายวลาดิเมียร์ โปปอฟคิน ประธานสำนักงานอวกาศรัสเซีย กล่าวต่อที่ประชุมพิเศษในวุฒิสภารัสเซียว่า รัสเซียกำลังติดตามอย่างใกล้ชิดในการเคลื่อนที่ของดาวเคราะห์น้อย “อะโพฟิส” ซึ่งจะโคจรเข้าใกล้โลกในปี 2579 เราต้องการติดตั้งสัญญาณไฟบนดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส เพื่อค้นหาเส้นทางโคจรของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ให้รู้จริง และวางแผนการดำเนินการในขั้นตอนต่อไปเพื่อรับมือกับการมาเยือนของดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ในปี 2579

ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกคนหนึ่งจากสำนักงานนิวเคลียร์รัสเซีย กล่าวในที่ประชุมเดียวกันว่า การระเบิดดาวเคราะห์น้อยด้วยนิวเคลียร์ลูกหนึ่ง จะต้องใช้ระเบิดที่มีกำลังขนาดอย่างน้อยหนึ่งล้านตัน

ดาวเคราะห์น้อย "อะโพฟิส" ถูกค้นพบเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2547 และเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เมื่อนักดาราศาสตร์คำนวณเมื่อปี 2547 ว่า ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้มีโอกาส ร้อยละ 2.7 ที่จะพุ่งชนโลกในวันที่ 13 เมษายน 2572 และจะโคจรมาใกล้โลกในระยะประชิดอีกครั้งในปี 2579 โดยจากการคำนวณในตอนแรกคาดว่า "อะโพพิส" น่าจะมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 270 เมตร หรือประมาณสนามฟุตบอล 2 สนาม แต่จากการโคจรมาใกล้โลกในครั้งนี้ พบว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ มีขนาดใหญ่กว่าที่คาด ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางราว 325 เมตร

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

เชื่อดวงจันทร์ดาวพฤหัสฯอาจมีเอเลียน



นาซาเผยมีความเป็นไปได้ที่ดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดีจะมีสิ่งมีชีวิต เหตุมีน้ำปะทุขึ้นมาสู่ผิวดินอาจทำปฏิกิริยากับพื้นผิวจนกำเนิดชีวิตได้

คำถามที่ว่าในอวกาศมีสิ่งมีชีวิตอยู่หรือไม่ ดูจะเป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์ และคนทั่วไปหาคำตอบมานานแล้ว เพราะปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันได้

ทว่า ล่าสุดคำตอบต่อข้อสงสัยดังกล่าวดูจะใกล้ความจริงทุกที เนื่องจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์จากองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ (นาซา) ออกมาระบุว่า มีความเป็นไปได้สูงที่มนุษย์จะพบสิ่งมีชีวิต บนดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดี ที่ชื่อ “ยูโรปา”

เควิน แฮนด์ จากนาซา และศาสตราจารย์ ไมค์ บราวน์ นักดาราศาสตร์จากสถาบันเทคโนโลยีแห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ให้เหตุผลว่า บนดวงจันทร์ยูโรปามีน้ำแข็งขนาดใหญ่ฝังอยู่ใต้ดิน และน้ำนั้นก็ปะทุขึ้นมาสู่พื้นผิว ดังนั้น จึงมีโอกาสสูงที่น้ำจะทำปฏิกิริยากับพื้นผิว ทำให้เกิดพลังงาน หรือปฏิกิริยาทางเคมีที่เป็นตัวก่อกำเนิดสิ่งมีชีวิต

ทั้งนี้ ดวงจันทร์ยูโรปาถูกค้นพบโดย กาลิเลโอ เมื่อปี ค.ศ. 1610 โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่าน้ำบนดวงจันทร์ดังกล่าวอยู่ลึกลงไปจากพื้นผิวประมาณ 60 ไมล์ และมีปริมาณครอบคลุมดวงดาวทั้งดวง

ญี่ปุ่นเจ๋งสกัดแก๊สได้จากน้ำแข็งไฟ



ญี่ปุ่นเผยสกัดแก๊สธรรมชาติได้จากน้ำแข็งไฟได้เป็นครั้งแรกในโลกหลังมีการขุดพบผลึกมีเทนไฮเดรตนอกชายฝั่ง

ญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ประสบความสำเร็จในการสกัดแก๊สธรรมชาติจากผลึกมีเทนไฮเดรตนอกชายฝั่งภาคกลางของประเทศได้เป็นครั้งแรกของโลก

ทั้งนี้ มีเทนไฮเดรต หรือคลาเทรต เป็นสารที่ประกอบด้วยมีเทนในรูปผลึกโครงสร้างคล้ายน้ำแข็งแห้ง หรือเรียกว่า "น้ำแข็งไฟ" ถูกพบครั้งแรกเกิดอยู่ภายนอกระบบสุริยะ ต่อมามีการค้นพบมีเทนคลาเทรต สะสมกับตะกอนที่อยู่ที่พื้นมหาสมุทรลึก

กลุ่มกิจการร่วมค้าของญี่ปุ่นอ้างว่า สามารถขุดผลึกมีเทนไฮเดรต หรือที่รู้จักกันในชื่อ น้ำแข็งไฟ จากก้นทะเลได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก บริเวณฐานขุดห่างจากเกาะฮอนชู เกาะใหญ่ที่สุดของประเทศ ไปทางตะวันออกราว 50 กม. หรือบริเวณรอยเลื่อนนันไก

นักวิจัยเปิดเผยว่า มีเทนไฮเดรต สามารถนำไปใช้เป็นพลังงานทางเลือกสำหรับญี่ปุ่น ที่จำเป็นต้องนำเข้าพลังงานที่จำเป็นทั้งหมด ขณะที่ประเทศอื่นๆ อาทิ สหรัฐฯและจีน ต่างพยายามหาช่องทางการนำมีเทนไฮเดรตมาใช้ประโยชน์เช่นกัน

เจ้าหน้าที่กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่นเผยว่า กลุ่มกิจการร่วมค้าที่นำโดยบรรษัทน้ำมัน ก๊าซและโลหะแห่งชาติญี่ปุ่นได้เริ่มโครงการขุดหาน้ำแข็งไฟตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีก่อน โดยขุดลึกลงไปใต้ระดับน้ำทะเล 1 กิโลเมตร จนกระทั่งสามารถขุดขึ้นมาได้สำเร็จ และได้เริ่มทดลองผลิตเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้วตั้งแต่วันนี้ นับเป็นครั้งแรกของโลกที่มีการทดลองผลิตก๊าซจากมีเทนไฮเดรตนอกชายฝั่ง โดยจะใช้แรงดันสูงที่ระดับความลึกเป็นวิธีแยกก๊าซจากผลึก

น้ำแข็งไฟเป็นผลึกมีเทนเข้มข้นคล้ายน้ำแข็ง มีสีขาว เมื่อเผาไฟจะเกิดเปลวไฟสีอ่อนและเหลือแต่น้ำที่ปนอยู่ในผลึก น้ำแข็งไฟ 1 ลูกบาศก์เมตรมีก๊าซมีเทนสะสมอยู่หลายเท่าตัวของน้ำหนักผลึก ประมาณว่าก้นทะเลนอกชายฝั่งเกาะชิโกกุ ทางตะวันตกของญี่ปุ่นมีน้ำแข็งไฟขนาดใหญ่ที่มีก๊าซมีเทนสะสมอยู่ประมาณ 1.1 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นก๊าซที่ใช้ในญี่ปุ่นได้นานถึง 11 ปี กลุ่มกิจการร่วมค้าตั้งเป้าว่า จะมีเทคโนโลยีที่สามารถใช้ได้จริงภายในปีงบประมาณ 2561 ที่จะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2562

ที่มาจาก โพสทูเดย์

 

13-03-2013

เตือนอีสานระวังฝนฟ้าคะนอง




ลักษณะอากาศทั่วไปประจำวันที่ 13 มีนาคม 2556 เมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศจีนตอนล่างแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมถึงด้านตะวันออกของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ในวันพรุ่งนี้ (14 มี.ค. 56) ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง โดยเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคกลาง และภาคตะวันออกจะได้รับผลกระทบในวันที่ 15-16 มีนาคม 2556 ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 14-16 มีนาคม 2556 ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 16-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางด้านตะวันออกของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก ทางตอนบนของภาคอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนบนของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนขึ้นกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่าง อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ที่มาจาก ISN 03