ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

01.00 น. 13-01-2013 พบการก่อตัวของพายุลูกใหม่ในมหาสมุทรอินเดีย(TC09S)

 

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 13 มกราคม 2556 ภาค 07.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
สำหรับภาคกลางตอนล่างและภาคตะวันออกจะมีลมตะวันออกเฉียงใต้ และลมใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุม ทำให้มีฝนได้บางแห่ง
พยากรณ์อากาศตั้งแต่เช้าวันนี้ (13 ม.ค. 56) จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-11 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 16-18 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์
วันนี้ น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 09.55 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 34 เซ็นติเมตร และเวลา 18.15 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 13 เซนติเมตร
น้ำลงเต็มที่ เวลา 02.53 น. ต่ำกว่าระดับทะเลปานกลาง 76 เซนติเมตร และเวลา 13.39 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 79 เซนติเมตร
วันนี้ ที่ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.27 น.
กรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.08 น


อากาศที่เชียงใหม่หนาวเย็น เกิดน้ำค้างแข็งที่ดอยอ่างขางสองวันแล้ว อุณหภูมิเมื่อวานที่ผ่านมาลดเหลือ 0 องศาเซลเซียส

อากาศที่เชียงใหม่หนาวเย็น เกิดน้ำค้างแข็งที่ดอยอ่างขางสองวันแล้ว อุณหภูมิเมื่อวานที่ผ่านมาลดเหลือ 0 องศาเซลเซียส
อากาศที่เชียงใหม่หนาวเย็นอย่างมาก สัมผัสได้ในเขตตัวเมือง โดยพบว่าเช้าวันนี้ที่ตัวเมืองเชียงใหม่ อุณหภูมิ 13.2 องศาเซลเซียสเท่านั้น ขณะที่ ดอยอ่างขาง อำเภอฝาง อากาศหนาวที่สุดในรอบปี เกิดปรากฎการณ์น้ำค้างแข็ง สองวันติดต่อกันแล้ว เมื่อวานที่ผ่านมาอุณหภูมิลดต่ำถึง 0 องศาเซลเซียสที่บ้านหลวงรีสอร์ท ดอยอ่างขาง น้ำค้างแข็งเห็นอยู่ทั่วไป แม้กระทั่งกระจกรถยนต์ที่จอดอยู่กลางแจ้ง มีน้ำค้างแข็งเกาะอยู่สภาพคล้ายหิมะ ขณะที่วันนี้(13 ม.ค.56) อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียสเท่านั้น ขณะที่ยอดดอยอินทนนท์ไม่มีน้ำค้างแข็งและมีเมฆมาก ขณะที่พบว่านักท่องเที่ยวจำนวนมากไปเที่ยวชมความงามของดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่เริ่มบานแล้ว ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือรายงานสภาพอากาศว่า บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง ทำให้บริเวณภาคเหนือมีอากาศหนาวเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย
บริเวณภูเขาสูงในภาคเหนือมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่เกษตรกรที่ปลูกพืชในระยะนี้ควรเลือกปลูกพืชที่อายุการเก็บเกี่ยวสั้นและใช้น้าน้อย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการขาดแคลนน้ำของพืชในระยะเจริญเติบโต นอกจากนี้เกษตรกรบริเวณนอกเขตชลประทานควรกักเก็บน้ำเอาไว้ใช้ทางการเกษตร

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : เชียงใหม่ (สวท.) / ธนวันต์ ชุมแสง เชียงใหม่ (สวท.) / ธนวันต์ ชุมแสง
Rewriter : ชีวีรัตน์ ภักดี / สวท.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 

เชียงใหม่-เหนือหนาวจัดนักท่องเที่ยวแห่ขึ้นดอยชมซากุระเมืองไทย



ภาคเหนือเจอกับสภาพอากาศหนาวจัดที่สุดของฤดูหนาวทุบสถิติ แม่ฮ่องสอน ลำพูน พะเยา เชียงใหม่ 11-13 องศา ขณะที่นักท่องเที่ยวยังแห่ขึ้นยอดดอยอินทนนท์ สัมผัสอากาศหนาวหลายพันคน พร้อมกับชมดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่เริ่มเบ่งบานสวยงาม

สภาพอากาศทางภาคเหนือแม้ว่ามวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยจะเริ่มอ่อนกำลังลงแต่ยังไม่ทำให้พื้นที่ภาคเหนือตอนบนอุ่นขึ้น แต่ยังกลับทำให้อากาศหนาวเย็นลงได้อีก ถือว่าเข้าสู่ช่วงที่หนาวจัดที่สุดของฤดูหนาวปีนี้ โดยเช้านี้พบว่าหลายจังหวัดมีอากาศหนาวเย็นลงอีก 2-3 องศาทุบสถิติของปีนี้ในหลายจังหวัด ต่ำสุดเช้านี้วัดได้ 10.6 องศา ที่อำเภอเมือง จ.แม่ฮ่องสอน ขณะที่จังหวัดลำพูน 11.7 องศา พะเยา 12.6 องศา เชียงใหม่ 13.2 องศา ขณะที่บริเวณเทือกเขา และยอดดอยพบว่ามีอากาศหนาวจัด 1-8 องศา เท่านั้น

โดยเช้านี้บรรยากาศที่ยอดดอยอินทนนท์ พบว่ามีนักท่องเที่ยวใช้เวลาช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เดินทางขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาวกันอย่างคึกคัก ที่ยอดดอยเช้านี้วัดได้ 3.0 องศา ขณะที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน 4.0 องศา ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ 6.0 องศา โดยอุณหภูมิเช้านี้ที่จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน มีนักท่องเที่ยวหลายพันคนขึ้นไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้น แต่ด้วยอากาศที่หนาวจัดหลายคนต้องพึ่งกองไฟคลายหนาว แต่เช้านี้พบว่ามีเมฆมาก และมีลมหนาวพัดแรงทำให้ พลาดการชมเหม๋ยขาบ หรือแม่คะนิ้งในเช้าวันนี้

อย่างไรก็ตามนอกจากสัมผัสอากาศหนาวในช่วงนี้แล้วนักท่องเที่ยวที่ขึ้นไปเที่ยวยอดดอยอินทนนท์ยังจะได้ชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือดอกซากุระเมืองไทยที่ขึ้นอยู่ในระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,800 เมตร เริ่มแตกดอกเบ่งบานสวยงาม ตามเส้นทางขึ้นสู่ยอดดอยตั้งแต่กิโลเมตรที่ 31 เป็นต้นไป รวมทั้งในพื้นที่ของโครงการหลวงอินทนนท์ ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์กล้วยไม้รองเท้านารี และที่โครงการหลวงขุนวาง คาดว่าจะบานไปจนถึงช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพก็ต้องขึ้นไปในช่วงนี้เพื่อถ่ายภาพดอกซากุระเมืองไทย

ภัยแล้งโคราชกระทบเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดไข่


ภัยแล้ง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา กระทบเกษตรกรผู้เลี้ยงเป็ดไข่ ไม่มีแหล่งอาหารต้องออกตระเวนพาเป็ดหากินข้ามถิ่น

วันนี้ ( 13 ม.ค.2556 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนกน้อย แม๊ะครบุรี อายุ 58 ปี พร้อมด้วยบุตรชาย ต้องตัดสินใจขนย้ายเป็ดพันธุ์ไข่จำนวน 1,400 ตัว ออกมาจากบ้านเดิม ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านหนองผักไร หมู่ที่ 10 ต.ดอน อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เพื่อตระเวนหานาข้าวที่เพิ่งเก็บเกี่ยวและยังคงมีน้ำหลงเหลืออยู่ภายในแปลงนา ให้เป็นแหล่งอาหารของเป็นที่เลี้ยงไว้ เนื่องจากด้วยสภาพอากาศที่แห้งแล้งทำให้แหล่งน้ำตามธรรมชาติในภูมิลำเนาของตัวเองที่ อ.ปักธงชัยลดน้อยลง ประกอบกับแปลงนาของเพื่อนบ้านตีแปลงหว่านกล้าเพื่อนำนาปรังกับเต็มพื้นที่ จึงจำเป็นต้องพาฝูงเป็ดออกหากินนอกพื้นที่ โดยไม่มีทางเลือก


นางนกน้อย กล่าวว่า ครอบครัวของตนเองเลี้ยงเป็นพันธุ์ไข่ไว้เพื่อเก็บไข่จำหน่ายตามท้องตลาดมานานกว่า 5 ปีแล้ว ซึ่งก็ต้องตระเวนนำเป็ดออกหากินนอกพื้นที่อย่างนี้มาโดยตลอด และในปีนี้นาข้าวในพื้นที่อำเภอปักธงชัยได้ผลผลิตไม่ค่อยเต็มเม็ดเต็มหน่วย เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้งฝนไม่ตกต้องฤดูกาล ทำให้นาข้าวเหลืออาหารให้เป็ดกินค่อนข้างน้อย ประกอบกับในช่วงนี้ชาวนาในพื้นที่ต่างพากันเริ่มปรับสภาพแปลงนาเพื่อเตรียมการเพาะปลูกข้าวนาปรัง เนื่องจาก อ.ปักธงชัย เป็นพื้นที่เพียงแห่งเดียวของจังหวัดนครราชสีมา ที่มีน้ำจากอ่างเก็บน้ำพระเพลิง พอส่งน้ำให้ทำการเพาะปลูกข้าวนาปรังได้ ตนเองและครอบครัวต้องนำเป็ดออกตระเวนหาแหล่งอาหารใหม่เร็วกว่าปกติ ตอนนี้มาตั้งที่พักแรมอยู่ภายในแปลงนาในพื้นที่ตำบลด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เนื่องจากยังคงนาข้าวของเกษตรกรในพื้นที่ที่เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้ว และยังพอมีน้ำขัง รวมถึงศัตรูพืชของข้าว อาทิ หอย ปู ตัวหนอนทำลายต้นข้าว และเศษข้าวหลงเหลืออยู่ เพื่อทุ่นต้นทุนค่าอาหารที่สูงอย่างมาก ซึ่งหากไม่มีแหล่งอาหารตามธรรมชาติให้เป็นด ก็จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นหัวอาหารเป็นวันละประมาณ 1 บาท 50 สตางค์ต่อตัว หรือกว่า 2 พันบาทเดียว

น้ำโขงเริ่มแห้งกระทบเรือส่งสินค้า



แม่น้ำโขงแห้งเร็ว สันดอนทรายโผล่กระทบการขนส่งสินค้าระหว่างไทย-ลาว หวั่นช่วงมี.ค.-เม.ย.แล้งหนัก

เมื่อวันที่ 13 ม.ค. แม่น้ำโขงในช่วงจังหวัดนครพนมได้ลดระดับลงต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ระดับประมาณ 3 เมตร ส่งผลให้เกิดสันดอนทรายโผล่บริเวณกลางแม่น้ำโขงเป็นพื้นที่กว้าง หลายจุด สร้างอุปสรรคในการเดินเรือสัญจรไปมาระหว่างไทยลาว โดยเฉพาะบริเวณตลาดการค้าจุดผ่อนปรนไทยลาว อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการทำธุรกิจค้าขายระหว่างชายแดนไทยลาว ที่มีประชาชน ชาวลาวนำสินค้ามาวางขาย และซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคกลับไปขาย แต่ในช่วงนี้กำลังประสบปัญหาเนื่องจากระดับน้ำโขงลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดสันดอนทรายกลางแม่น้ำโขง กระทบการเดินเรือขนส่งสินค้า ต้องใช้ระยะทางเดินเรืออ้อมไปตามร่องน้ำลึก ซึ่งเพิ่มระยะเวลาการเดินทางเท่าตัว จากประมาณ 20 นาที เพิ่มเป็นประมาณ 1 ชั่วโมง

ทั้งนี้ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายน้ำมันเพิ่มขึ้นเท่าตัว และเกิดความล่าช้าในการขนส่งสินค้า ไม่สามารถขนส่งสินค้าได้ตามเวลากำหนด เนื่องจากตลาดจุดผ่อนปรนชายแดน กำหนดให้สามารถขนส่งสินค้าเข้าออกได้ในช่วงเวลา 08.00 น. – 15.00 น. เท่านั้น สร้างความเดือดร้อนให้กับบรรดาพ่อค้า แม่ค้า ต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้นเท่าตัว

นายสมาน สาหัส อายุ 50 ปี ชาวบ้าน ที่ดูแลการเดินเรือข้ามฟาก กล่าวว่า ในช่วงบริเวณตลาดจุดผ่อนปรนกำลังเริ่มประสบปัญหาจากแม่น้ำโขงแห้ง ทำให้เกิดสันดอนทรายเป็นพื้นที่กว้างกลางแม่น้ำโขง สร้างอุปสรรคในการเดินเรือสัญจรไปมาระหว่างไทยลาว ต้องอ้อมสันดอนทรายที่ขวางทางเดินเรือ ส่งผลให้เพิ่มระยะเวลาการเดินทาง ค่าใช้จ่ายมากขึ้นเท่าตัว โดยในปีนี้พึ่งเดือนมกราคม แต่น้ำโขงแห้งเร็ว ยิ่งถึงเดือนมีนาคม – เมษายน ยิ่งจะกระทบหนัก อาจต้องเพิ่มระยะทางเดินเรือไกลมากขึ้น

อย่างไรก็ตามในการแก้ไขไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนไม่สามารถย้ายได้ เพราะต้องมีการขออนุญาตระดับกระทรวงมหาดไทย จึงเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนที่เดินทางผ่านไปมาต้องยอมแบกภาระค่าใช้จ่าย เพราะความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติไม่สามารถป้องกันได้ ยิ่งบางปีน้ำโขงแห้งหนักอาจต้องหยุดการเดินเรือชั่วคราว แต่หากไปใช้การขนส่งผ่านสะพานข้ามแม่น้ำโขง จะต้องมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายการขนส่ง และขั้นตอนการผ่านแดนที่ยุ่งยาก

ที่มาจาก โพสทูเดย์ เดลินิวส์ ครอบครัวข่าว3

 

01.00 น. 14-01-2013 จาก (JTWC) พายุในมหาสมุทรอินเดีย(TC09S)ได้รับการตั้งชี่อแล้วคือ (EMANG) โดยมีความแรงศูนย์กลางอยู่ที่ 35 น๊อต

 

เหนือ-อีสาน-กลางอากาศเย็น



กรมอุตุนิยมวิทยา เผย ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลางมีอากาศเย็นตอนเช้ามีหมอกหนา กรุงเทพฯ และปริมณฑลมีหมอกบางในตอนเช้า

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 14 มกราคม 2556 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลาง ยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกไว้ด้วย

สำหรับภาคใต้มีลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้มีฝนได้บางแห่ง
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาบางพื้นที่ ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 3-11 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-17 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีเมฆบางส่วนกับหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ปภ.สรุปล่าสุดเขตภัยหนาว10จว.,แล้ง29จว.



อธิบดี ปภ. เผย ประกาศภัยพิบัติภัยหนาวแล้ว 10 จว. 54 อำเภอ ส่วนภัยแล้ง ประกาศไปแล้ว 29 จว.
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยสถานการณ์อากาศหนาว ว่า ปัจจุบันได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยหนาว) 10 จังหวัด 54 อำเภอ 328 ตำบล 4,054 หมู่บ้าน 785,110 ครัวเรือน 1,948,465 คน ได้แก่ จ.เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เลย แพร่ ลำพูน น่าน หนองบัวลำภู และ มุกดาหาร
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด เตรียมรับสถานการณ์ภัยหนาว โดยจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานติดตามสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนสถานการณ์ภัยแล้ง ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฝนทิ้งช่วง/ภัยแล้ง) 29 จังหวัด ได้แก่
จ.กาฬสินธุ์ สกลนคร อุดรธานี บึงกาฬ หนองคาย มุกดาหาร หนองบัวลำภู มหาสารคาม ยโสธร อำนาจเจริญ
นครพนม ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ ศรีสะเกษ ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุโขทัย พิษณุโลก อุบลราชธานี นครสวรรค์ สุรินทร์ เชียงใหม่ แพร่ อุตรดิตถ์ พะเยา พิจิตร จันทบุรี และ เลย โดยปัจจุบันยังคงเหลือพื้นที่ทีประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ฝนทิ้งช่วง/ภัยแล้ง) 28 จังหวัด 275 อำเภอ 1,944 ตำบล 19,983 หมู่บ้าน ซึ่งจังหวัดที่ประกาศยุติภัยพิบัติฉุกเฉิน ได้แก่ จ.หนองคาย และ อ.บ้านม่วง เต่างอย พังโคน กุดบาก ภูพาน คำตากล้า โคกศรีสุพรรณ เมือง และ อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร

ที่มาจาก INN

 

เวลา 07.00 น.THA 14-01-2013 จาก TSR.พายุไซโคลน NARELLE ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว ความเร็วลมศูนย์กลางอยู่ที่ 55 น๊อต

 

พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 15 มกราคม 2556 ภาค 07.00 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีหมอกหนาไว้ด้วย สำหรับลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อยในระยะนี้
อนึ่ง ในช่วงวันที่ 17-20 มกราคม 2556 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนระลอกใหม่จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส และมีลมแรง

พยากรณ์อากาศตั้งแต่เช้าวันนี้ (15 ม.ค.56)จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกในตอนเช้า ตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-17 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับหมอกบางในตอนเช้า สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป : ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีเมฆบางส่วนกับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส
สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์
วันนี้ น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 10.25 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 28 เซนติเมตร และเวลา 20.04 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 7 เซนติเมตร
น้ำลงเต็มที่ เวลา 04.02 น. ต่ำกว่าระดับทะเลปานกลาง 64 เซนติเมตร และเวลา 16.25 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 42 เซนติเมตร
วันนี้ ที่ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.28 น.
กรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.09 น.

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : เอกสารข่าว เอกสารข่าว
Rewriter : วีระพันธ์ วุฒิบุญญะ / สวท. วีระพันธ์ วุฒิบุญญะ / สวท.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th


ญี่ปุ่น รัสเซีย โครเอเชีย เผชิญหิมะตกหนัก



หลายประเทศต้องเผชิญกับสภาพอากาศหนาวจัด โดยที่ญี่ปุ่นหิมะตกกะทันหัน ทำให้ระบบขนส่งมวลชนหยุดชะงัก และเกิดอุบัติเหตุหลายร้อยราย

สำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่น รายงานว่ามีประชาชน 267 คนในภาคตะวันออกของประเทศ รวมถึงกรุงโตเกียว ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เนื่องจากหิมะที่เริ่มตกตั้งแต่เช้าวานนี้ ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินในประเทศ 862 เที่ยว และระงับการเดินรถไฟหลายสายในกรุงโตเกียว รวมถึงตัดกระแสไฟฟ้าบ้านเรือนประชาชน 6 พัน 200 หลัง นอกจากนี้ยังสร้างความไม่สะดวกให้กับผู้หญิงญี่ปุ่นที่ต้องสวมชุดกิโมโน ฉลองวันบรรลุนิติภาวะครบ 20 ปีเมื่อวานนี้ด้วย

ส่วนที่โครเอเชีย ผู้คนที่จะเดินทางไปทำงานและผู้ขับขี่ยวดยานในกรุงซาเกรบ ต้องต่อสู้กับสภาพที่มีอันตรายเมื่อวานนี้ หลังหิมะตกกว่า 50 เซนติเมตร ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้การจราจรกลายเป็นอัมพาต อุณหภูมิในกรุงซาเกร็บตอนนี้อยู่ที่ต่ำถึงลบ 3 องซาเซลเซียส คาดว่าสภาพอากาศหนาวจัดที่มีหิมะตกหนักเช่นนี้จะมีต่อไปจนถึงปลายสัปดาห์นี้

ที่รัสเซีย น้ำค้างแข็ง หรือแม่คะนิ้ง ที่มาพร้อมอากาศหนาวจัด อุณหภูมิติดลบ 40-50 องศาเซลเซียส กำลังเล่นงานแคว้นยาคูเทีย ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ทำให้ไฟจราจรเมืองยูคุทสค์ ซึ่งเป็นเมืองเอกได้รับความเสียหาย ขณะที่ระบบไอน้ำทำความร้อนก็เกิดอุบัติเหตุ ส่งผลให้ประชาชนประมาณ 3 พันคน ไม่มีระบบทำความร้อน โรงเรียนต่างๆ ต้องยกเลิกการเรียนการสอน ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่เลือกที่จะเก็บตัวอยู่ภายในบ้าน

นักอุตุนิยมวิทยาเผยว่า อากาศหนาวผิดปกติ เกิดจากบริเวณความกดอากาศสูง หรือแอนติไซโคลน เอเชีย นอกจากส่งผลกระทบต่อภาคตะวันออกไกลของรัสเซียแล้ว ยังส่งผลต่อเอเชียตอนใต้และตะวันออกเฉียงใต้ด้วย

 

วิกฤตมลพิษจีนเข้าขั้นสาหัสเกินมาตรฐานสากล 40 เท่า



สถานการณ์มลพิษในกรุงปักกิ่งเข้าขั้นวิกฤตหนัก ปริมาณฝุ่นละอองในอากาศสูงกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ( ฮู ) ถึง 40 เท่า กระตุ้นให้ประชาชนเร่งกักตุนหน้ากากอนามันจนสินค้าขาดตลาด

วันนี้ ( 15 ม.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีนว่า ความต้องการหน้ากากอนามัยในจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังระดับปริมาณฝุ่นละอองในอากาศของกรุงปักกิ่งอยู่ในขั้นที่สูงกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ( ฮู ) ถึง 40 เท่า


ผู้ประกอบการร้านขายยาในเครือบริษัท จิงหลงทั่ง เปิดเผยว่า ประชาชนจำนวนมากพากันมาซื้อหน้ากากอนามัยจนหมดเกลี้ยงร้าน และอาจต้องรออีกหลายวันกว่าสินค้าล็อตใหม่จะมาถึง ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นสูงอย่างเห็นได้ชัด มาจากการที่สภาพอากาศในกรุงปักกิ่งเลวร้ายจนอยู่ในระดับวิกฤต


ขณะที่หุ้นของบริษัท เซี่ยงไฮ้ ดราก้อน และ ฟูเจี้ยน ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเครื่องฟอกอากาศ เพิ่มสูงขึ้นทันทีหลังการเปิดตลาดซื้อขายในวันนี้ โดยเพิ่มขึ้น 10% และ 9.64% ตามลำดับ


ล่าสุดระดับอนุภาคฝุ่นละอองขนาด 2.5 ไมครอน ( พีเอ็ม 2.5 ) เพิ่มสูงขึ้นในระดับความหนาแน่น 993 ไมโครกรัม ต่อ 1 ลูกบาศก์เมตร ถือเป็นระดับละอองในอณูอากาศเลวร้ายที่สุด ที่สามารถเข้าไปฝังตัวและทำลายปอดได้แม้สูดหายใจเข้าไปเพียงเล็กน้อย และที่สำคัญที่สุดยังสูงกว่ามาตรฐานในระดับปลอดภัยของฮูถึง 40 เท่า



อย่างไรก็ตาม ระดับมลพิษในกรุงปักกิ่งเริ่มลดลงเล็กน้อย โดยศูนย์เฝ้าระวังภัยด้านสิ่งแวดล้อมแห่งชาติวัดระดับคุณภาพอากาศได้ 161 ซึ่งอยู่ในขั้น “ปานกลาง” ทว่ารายงานของสถานทูตสหรัฐประจำกรุงปักกิ่งระบุเอาไว้ที่ 153 หรือในระดับที่ “เป็นพิษ” ตามมาตรฐานของรัฐบาลวอชิงตัน


ด้านเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลหลายแห่งในกรุงปักกิ่งเปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากวิกฤตด้านมลพิษทางอากาศในเมืองหลวงของจีนมีแนวโน้มที่จะดำเนินเช่นนี้ไปอีกหลายวัน


นาซาพบจุดระเบิดบนดวงอาทิตย์


นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย ยืนยันภาพการระเบิดบนผิวดวงอาทิตย์ครั้งล่าสุด เมื่อ 2 วันก่อน เป็นปรากฏการณ์ที่ไม่มีผลใดๆ ต่อโลก

นายอารี สวัสดี นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย ให้ความเห็นถึงปรากฏการณ์บนดวงอาทิตย์ หลังองค์การนาซ่า ได้เผยแพร่ภาพการระเบิดที่เกิดขึ้นบนผิวดวงอาทิตย์และปล่อยก้อนสสาร หรือ CME เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา โดยระบุว่าเป็นปรากฏการณ์ตามปกติบนดวงอาทิตย์และไม่น่าจะมีอิทธิพลใดๆต่อโลก แต่ในระยะนี้นักวิทยาศาสตร์ให้ความสนใจดวงอาทิตย์ เพราะมีเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาทันสมัยมากขึ้นกว่าในในอดีต ขณะที่ปรากฏการณที่เกิดบนดวงอาทิตย์ ทั้งพายุสุริยะ การปล่อยสสารหรืออนุภาคขนาดเล็กออกมานั้น เป็นปรากฏการณ์ตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นมานานนับพันปีแล้ว และไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้โลกร้อนขึ้น

ข้อมูลจากเว็บไซต์ spaeceweather รายงานว่า ปรากฏการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างชัดเจนต่อเนื่อง เป็นเวลา 37 ชั่วโมง โดยกล้องโทรทรรศน์จากยาน Solar Dynamic Observatory สามารถบันทึกภาพไว้ได้ หลังจากที่การลุกจ้าครั้งนี้ได้เกิดขึ้นเมื่อ 4 วันที่แล้ว จุดมืดที่ชื่อ AR 1654 ได้หันออกไปนอกโลก แต่ตอนนี้ได้กลับมาหันหน้าเข้าโลกอีกครั้ง การลุกจ้าครั้งนี้นับเป็นครั้งนานที่สุดนับจากที่โลกสามารถสำรวจได้ ส่งผลให้สนามแม่เหล็กบนท้องฟ้ามีแสงสว่าง เมื่อดูจากท้องฟ้าจะเหมือนหลอดไฟหลายๆ ดวง

โครเอเชียและอังกฤษยังเผชิญกับหิมะอยู่



โครเอเชีย เผชิญกับพายุหิมะอย่างหนักเมื่อวานนี้ ส่งผลการเดินทางประสบภาวะชะงักงัน

โดยที่กรุงซาเกรบ เมื่อเช้าวานนี้มีถูกหิมะปกคลุมหนาถึง 40 เซนติเมตร ทางการต้องนำรถเก็บกวาดหิมะกว่า 200 คันมาเก็บกวาดหิมะบนท้องถนนเพื่อให้การเดินทางทั้งรถประจำทางและรถรางให้บริการได้ตามปกติ ขณะที่พื้นที่ทางเหนือของโครเอเชีย การเดินทางโดยรถไฟต้องประสบปัญหาจากหิมะที่ตกหนัก อย่างไรก็ตามสนามบินในกรุงซาเกรบยังเปิดให้บริการตามปกติ พยากรณ์อากาศคาดว่า ตลอดทั้งสัปดาห์นี้โครเอเชียจะต้องเผชิญทั้งหิมะและฝน

ส่วนที่แคว้นสก็อตแลนด์ หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้ผู้ขับขี่ยวดยานบนท้องถนต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ทำให้การจราจรบนท้องถนนติดขัดอย่างหนัก คาดว่า หิมะจะยังคงตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ในแคว้นสก็อตแลนด์ พยากรณ์อากาศยังเพิ่มระดับการเตือนภัย พร้อมทั้งมีคำสั่งให้หน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะสาธารณสุขให้ดูแลกลุ่มเสี่ยงที่อาจได้รับอันตรายจากพายุหิมะมากเป็นพิเศษ

ที่มาจาก เดลินิวส์ ครอบครัวข่าว3

 

อุตุฯพยากรณ์เที่ยงวันอุณหภูมิลดลง4-6องศา


กรมอุตุฯ พยากรณ์ช่วงเที่ยงวันนี้ อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาฯ มีลมแรง คลื่นลมอ่าวไทยกำลังแรง

กรมอุตุนิมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีน จะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.56) ทำให้ในช่วงวันที่ 17-20 มกราคม 2556 ประเทศไทยตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าว ดูแลสุขภาพ เนื่องจากอากาศทีหหนาวเย็นลงในช่วงนี้ สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าว เพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ ในช่วงวันที่ 18-21 มกราคม 2556 ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 12.00 น. วันนี้ - 12.00 น. วันพรุ่งนี้ มีเมฆบางส่วน และมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 ก.ม./ช.ม.

ยานคิวริออสซิติเตรียมเจาะผิวดาวแดงครั้งแรก



ยานสำรวจคิวริออสซิติของนาซ่า เตรียมขุดเจาะผิวดาวอังคารเป็นครั้งแรก

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวันนี้ว่า ยานสำรวจดาวอังคารคิวริออสซิติจะเริ่มการขุดเจาะดาวแดงเป็นครั้งแรกในเร็วๆนี้ เพื่อเก็บตัวอย่างหิน ซึ่งการเจาะผิวดาวอังคารถือเป็นภารกิจท้าทายที่สุด นับตั้งแต่ยานสำรวจคิวริออสซิติเริ่มปฏิบัติภารกิจบนดาวแดงเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมปีที่แล้ว ทั้งนี้ ยานคิวริออสซิติจะเก็บรวบรวมตัวอย่างต่างๆ จากหินชั้นในของดาวอังคาร เพื่อวิเคราะห์หาสารเคมีและองค์ประกอบของแร่
โดยภารกิจของยานคิวริออสซิติ ที่มีกำหนดระยะเวลา 2 ปี ตั้งเป้าเพื่อศึกษาสภาพแวดล้อมบนดาวอังคาร เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการส่งยานที่มีมนุษย์เดินทางไปด้วยในอนาคต ซึ่งประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐประกาศสนับสนุนการส่งคนไปดาวอังคารในปี 2573

ที่มาจาก เดลินิวส์ INN

 

โคราชประกาศภัยแล้งเพิ่มเป็น 27 อำเภอแล้วพื้นที่เสียหายเกือบล้านไร่


นาข้าวโชคชัยถูกภัยแล้งเล่นงานเสียหายหมื่นไร่ ขณะที่ทั้งจังหวัดได้รับผลกระทบแล้วเกือบ 9 แสนไร่ ประกาศภัยแล้งเพิ่มเป็น 27 อำเภอ

วันนี้ ( 16 ม.ค. ) นายทวี จงปัตนา เกษตรอำเภอโชคชัย จ.นครราชสีมา สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเกษตรอำเภอออกสำรวจพื้นที่การเพาะปลูกพืชผลทางการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง เพื่อนำมารวบรวมเป็นสถิติและเฝ้าระวังความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยเฉพาะการเพาะปลูกข้าวนาปรังที่เบื้องต้นพบว่ามีชาวนาเริ่มทำการเพาะปลูกข้าวนาปรังแล้วทั่วพื้นที่ของอำเภอโชคชัย ถึงแม้ว่าในปีนี้ทางจังหวัดได้ประกาศออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าจะไม่มีการให้ความช่วยเหลือก็ตาม

นายทวี จงปัตนา เกษตรอำเภอโชคชัย เปิดเผยว่า ในห้วงเริ่มต้นฤดูแล้งที่ผ่านมาทางอำเภอโชคชัย ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งไปแล้วรวม 7 ตำบล และได้มีการออกสำรวจความเสียหายพบว่ามีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายไปรวม 10,005 ไร่ ส่วนใหญ่เป็นข้าวนาปีฤดูกาลที่ผ่านมา เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน 1,082 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 6 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ทางอำเภอได้รายงานข้อมูลทั้งหมดไปยังทางจังหวัดเพื่อพิจารณางบประมาณให้ความช่วยเหลือแล้ว ส่วนสถานการณ์ปัจจุบัน พื้นที่อำเภอโชคชัยกำลังเข้าสู่สภาวะภัยแล้งเต็มรูปแบบแล้ว แต่ก็ยังมีเกษตรกรชาวนาที่ไม่สนใจคำเตือนของหน่วยงานราชการปลูกข้าวนาปรังเต็มพื้นที่ จึงอยากฝากเตือนให้เฝ้าระวังดูแลข้าวของตนเองอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ได้ผลผลิตคืนมามากที่สุด เพราะทางหน่วยงานราชการไม่อาจจะชดเชยความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้

ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งภาพรวมของจังหวัดนครราชสีมานั้น ทางนางปิยะฉัตร อินสว่าง หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการประกาศให้ 27 อำเภอจากทั้งหมด 32 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติฉุกเฉินภัยแล้งแล้ว ครอบคลุมพื้นที่รวม 209 ตำบล 2,172 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 863,000 ไร่ ซึ่งขณะนี้ทางหน่วยงานระดับท้องถิ่นและระดับอำเภอกำลังให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

ระเบิดที่มหาวิทยาลัยในซีเรีย มีผู้เสียชีวิตกว่า 80 คนแล้ว



เกิดระเบิด 2 ครั้งซ้อนที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเมืองอเลปโป เมืองใหญ่อันดับ 2 ของซีเรียเ มื่อวานนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 80 คน

เหตุระเบิดที่มหาวิทยาลัยในครั้งนี้ เกิดขึ้นใกล้กับบริเวณหอพักและคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ขณะที่นักศึกษากำลังอยู่ในระหว่างการสอบวันแรก หลังเกิดระเบิดพื้นที่โดยรอบอาคารและรถยนต์หลายคันถูกไฟไหม้เป็นจำนวนมาก บรรดาผู้รอดชีวิตต่างร้องไห้และหลบหนีไปยังอาคารข้างเคียง กลุ่มสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 83 คน และได้รับบาดเจ็บ 150 คน ซึ่งในจำนวนนี้บางคนมีอาการสาหัส

ขณะที่ผู้ว่าเมืองอเลปโป รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 82 คน และมีผู้บาดเจ็บ 160 คน และอ้างว่าเหตุระเบิดดังกล่าวเป็นฝีมือของกลุ่มต่อต้านที่พุ่งเป้าไปยังนักศึกษา ซึ่งมหาวิทยาลัยดังกล่าวอยู่ในพื้นที่การควบคุมของฝ่ายรัฐบาล แต่ฝ่ายต่อต้านก็ออกมาปฏิเสธความรับผิดชอบ และกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของเครื่องบินรบฝ่ายรัฐบาล ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา เมืองอเลปโปเป็นสถานที่ที่เกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านมาโดยตลอด

ด้านรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการซีเรีย ประกาศไว้อาลัยทั่วประเทศในวันนี้ เพื่อรำลึกถึงเหยื่อผู้เสียชีวิต ทั้งยังเรียกร้องให้ประธานาธิบดีบาชาร์ อัลอัสซาต ออกมารับผิดชอบการฟื้นฟูความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยด่วน ขณะที่นายกรัฐมนตรี วาเอล อัลฮาลากี ที่เดินทางไปเยือนกรุงเตหะราน ของอิหร่าน เมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการยุติความขัดแย้งในซีเรีย ออกมาประนามผู้ก่อเหตุครั้งนี้

สหประชาชาติ รายงานว่าเหตุลุกฮือต่อต้านประธานาธิบดีบาซาร์ อัล อัสซาดซึ่ง ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2011 คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 60,000 คน


เฮลิคอปเตอร์ตกใจกลางกรุงลอนดอน


เฮลิคอปเตอร์ชนเครนที่อยู่บนยอดตึกในใจกลางกรุงลอนดอนของอังกฤษจนเกิดไฟลุกท่วม ก่อนตกสู่พื้น เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ศพ

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานวันนี้ว่า เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งพุ่งชนเครนที่อยู่บนยอดตึก ทำให้มีไฟลุกท่วม ก่อนตกกระแทกพื้น โดยเหตุเกิดขึ้นในใจกลางกรุงลอนดอนของอังกฤษ ขณะที่ ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงรุดไปยังที่เกิดเหตุอย่างทันที ซึ่งอยู่ใกล้แม่น้ำเทมส์ที่ย่านแว็กซ์ฮอลล์


นายพอล เฟอร์กูสัน พนักงานบริษัทที่อยู่ใกล้จุดเฮลิคอปเตอร์ตก ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์วิทยุบีบีซี นิวส์ ว่า เกิดไฟลุกจากนั้นเฮลิคอปเตอร์ร่วงสู่พื้นแล้วระเบิด และมีควันกลุ่มใหญ่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า นอกจากนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์ต่างๆ ได้ถ่ายภาพแล้วนำรูปเฮลิคอปเตอร์ตกและถูกไฟเผาจนเหลือแต่ซากโพสต์ลงเครือข่ายสังคมออนไลน์ เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ศพ


ขณะที่ โฆษกตำรวจนครบาลกรุงลอนดอนระบุว่า อากาศยานที่ตกคือเฮลิคอปเตอร์ไม่ใช่เครื่องบิน และการตกของเฮลิคอปเตอร์ ทำให้รถติดเป็นทางยาวในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ขณะเดียวกัน โฆษกกองบัญชาการปราบปรามผู้ก่อการร้ายในกรุงลอนดอนกล่าวว่า การตกของเฮลิคอปเตอร์ครั้งนี้ ไม่มีประเด็นผู้ก่อการร้ายเข้ามาเกี่ยวข้อง

ที่มาจาก เดลินิวส์ ครอบครัวข่าว 3

 

เหนือ-อีสาน-กลาง อากาศเย็นลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส


ภาคเหนือ-อีสาน-กลาง อากาศจะหนาวเย็นลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส กรุงเทพฯ อากาศกำลังสบาย ต่ำสุด 23-24 องศา

วันนี้ ( 17 ม.ค.) กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ทำให้ ประเทศไทยตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีลมแรง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในช่วงนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 18-21 มกราคม 2556 ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้าและมีหมอกหนาในบางพื้นที่
ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส
ตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด
อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส และมีลมแรง
อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด
อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส และมีฝนเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว
อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส และมีฝนเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว
อุณหภูมิต่ำสุด 14-17 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา:
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร
ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป :
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วนและมีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนเล็กน้อย
อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม

อากาศหนาวเย็นต้องก่อไฟให้กับช้าง


อากาศหนาวเย็นในช่วงกลางคืนและช่วงเช้า เจ้าของช้างและควาญที่หมู่บ้านช้างต้องสุ่มไฟ เพื่อให้ความอบอุ่นช้าง ก่อนนำไปเลี้ยงและตากแดด

วันนี้(17 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ชาวช้างทั้งควาญและเจ้าของต้องดูแลช้างอย่างใกล้ชิด หลังอากาศหนาวเย็น โดยเฉพาะช่วงเวลากลางคืนและช่วงเช้า โดยควาญเละเจ้าของต้องสุ่มไฟ เพื่อคลายความหนาวเย็นให้กับช้าง และควันไฟสามารถไล่แมลงที่มารบกวนช้างด้วย ก่อนที่จะนำช้างออกไปเลี้ยงที่ป่าและตากแดด เพื่อคลายหนาวให้กับช้าง

สำหรับสภาพอากาศในจังหวัดสุรินทร์ขณะนี้พบว่าในช่วงกลางคืนจนกระทั่งช่วงเช้า อากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ช้างในหมู่บ้านช้างและภายในศูนย์คชศึกษาและในโครงการคชอาณาจักรกว่า 250 เชือก เริ่มได้รับผลกระทบจากอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งควาญและเจ้าของจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด และหาวิธีให้ความอบอุ่นกับช้าง โดยเฉพาะช้างที่มีอายุมาก อาจเกิดโรคทางเดินหายใจ ร่างกายจะเกร่งขยับตัวไม่ได้ รวมไปถึงช้างพลายที่สมบูรณ์อาจตกมันได้

ด้านนายสัตวแพทย์วันชัย ตันวัฒนะ ผู้อำนวยการโครงการคชอาณาจักร องค์การสวนสัตว์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เปิดเผยว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงที่สภาพอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ช้างทั้งหมดกว่า 250 เชือก ในศูนย์คชอาณาจักร ในความรับผิดชอบขององค์การสวนสัตว์ และศูนย์คชศึกษา ในการดูแลขององค์การบริหารส่วน จังหวัดสุรินทร์ ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวเย็น

โดยเฉพาะช้างที่มีอายุมาก อาจเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ การกินอาหารที่แข็งๆ ช้างจะกินได้ลำบาก เคี้ยวได้ ลำบากขึ้น เนื่องจากสภาพร่างกายของช้างจะเกร่ง และขยับตัวได้ช้าลง เพราะอากาศหนาวเย็น ซึ่งได้ให้มีการบด หรือให้อาหารที่มีลักษณะอ่อนๆ กินได้ง่ายขึ้น โดยการบดอาหารผสมกับรำข้าวให้ช้างกิน ซึ่งช่วยแก้ปัญหาช้างกินอาหารไม่ได้

ส่วนช้างพลายหรือช้างตัวผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง และมีการสะสมอาหารมาตั้งแต่ช่วงหน้าฝนที่ผ่านมา ร่างกายของช้างก็จะสมบูรณ์มาก และเมื่อมาถึงช่วงหน้าหนาว ช้างก็มีลักษณะตกมัน และแสดงอาการดุร้าย เพราะร่างกายแข็งแรง อากาศหนาวเอื้อต่อการตกมัน ขณะนี้พบว่ามีช้างตกมันหลายเชือก จึงต้องดูแลอย่างใกล้ชิด สำหรับช้างแม่ลูกอ่อน และช้างน้อย ควาญช้างต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด เช่นกัน เพราะช้างอาจเกิดโรคระบบทางเดินหายใจ อาจเป็นหวัด หรือ การหายใจติดขัด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทางสัตวแพทย์ ได้เข้าตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่องในช่วงนี้….

หิมะจับเป็นก้อนร่วงลงมาจากตึกหอคอยสูงแห่งโตเกียว


น้ำแข็งจับเป็นก้อนร่วงลงมาจากยอดตึกหอคอยสูงที่สุดในโลก ทะลุหลังคาบ้านหลังหนึ่ง เกิดเป็นรูโหว่กว้างประมาณ 30 ซม.

วันนี้ (16 ม.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า น.ส.อายูมิ คิมูระ โฆษกของโตเกียว สกายทรี ตึกหอคอยที่สูงที่สุดในโลก 634 ม. ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว แถลงว่า มีหิมะจับเป็นก้อนน้ำแข็งขนาดใหญ่อยู่บนยอดตึกโตเกียว สกายทรี ได้ร่วงมาจากยอดตึกไปตกบนหลังคาของบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไป 100 ม.ทางใต้ของหอคอย โตเกียว สกายทรี ทำให้เกิดรูโหว่บนหลังคาระเบียงบ้าน กว้างประมาณ 30 ซม. แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

กรุงโตเกียว เมืองหลวงของ เผชิญกับพายุหิมะรุนแรงในช่วงสัปดาห์นี้ ยังผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บอีก 1,600 คน ส่วนใหญ่จากอุบัติเหตุทางรถยนต์เพราะถนนลื่น น้ำแข็งเกาะ ตามรายงานของโทรทัศน์เอ็นเอชเค

อย่างไรก็ตาม โตเกียว สกายทรี ได้ส่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 60 คน ไปประจำอยู่ตามจุดต่างๆรอบฐานที่ตั้งของอาคาหอคอย โตเกียว สกายทรี เพื่อคอยแจ้งเตือรประชาชนให้ระวังอันตรายจากหิมะและน้ำแข็งที่อาจจะตกลงมาจากยอดตึกหอคอย ซึ่งเมื่อปีที่แล้ว ก็เคยเกิดเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันนี้ มีบ้านบางหลังหรือไม่ก็อาคารสำนักงาน ได้รับความเสียหายเพราะหิมะและน้ำแข็งตกลงมา

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

จาการ์ตาน้ำท่วมใหญ่คนไร้บ้านร่วมหมื่น


ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ประชาชนร่วม 10,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ศพ

วันนี้ (16 ม.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียว่า นายซูโตโป เปอร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานบริหารจัดการวิบัติภัยแห่งชาติ แถลงว่า มีประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย 9,374 คน จึงต้องอพยพเข้าไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงจาการ์ตา ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ศพ หนึ่งในนั้นเป็นเด็กซึ่งถูกกระแสน้ำพัดจมหายไป เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

โฆษกสำนักงานบริหารจัดการวิบัติภัย กล่าวต่อไปว่า ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้กระแสน้ำเอ่อล้นในแม่น้ำ และไหลบ่าลงมาบนถนน บางจุดท่วมสูงถึง 3 เมตร ประกอบกับแม่น้ำในกรุงจาการ์ตานั้น มักจะไม่สามารถกักเก็บน้ำได้มาก โดยเฉพาะในช่วงฤดูมรสุม

อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่เกิดน้ำท่วมและดินถล่มจนมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ช่วงฤดูมรสุม ซึ่งกินเวลานานประมาณครึ่งปี และชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำ มักจะได้รับความเดือดร้อนจากเรื่องน้ำท่วม เช่นเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิต 11 ศพ และสูญหาย 7 คน หลังน้ำท่วมฉับพลัน จากฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งบนเกาะสุลาเวสีของอินโดนีเซีย

เหยื่อตึกถล่มที่อียิปต์พุ่ง 17 ศพ


เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลอียิปต์ เผยตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุตึกอพาร์ตเมนต์ถล่ม ในเมืองอเล็กซานเดรีย เมืองใหญ่อันดับสองของอียิปต์ เพิ่มขึ้นเป็น 17 ศพแล้ว

วันนี้ (16 ม.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ว่า นายอับเดล-อาซิส ทอว์ฟิก ผู้ช่วยรัฐมนตรีมหาดไทยอียิปต์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 17 ศพแล้ว จากเหตุอาคารอพาร์ตเมนต์สูง 12 ชั้น เกิดพังถล่มลงมา เมื่อเช้าวันนี้ ในเมืองอเล็กซานเดรีย เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แต่การกู้ภัยก็ยังคงดำเนินต่อไป เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพัง นอกจากนั้นแล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 8 คน หลังเจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือขึ้นมาจากซากปรักหักพัง 10 คน

รายงานข่าวระบุว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าอะไรเป็นสาเหตุทำให้อาคารอพาร์ตเมนต์พังถล่มลงมา แต่ก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวว่าอาคารนี้เคยสั่นสะเทือนรุนแรงมาแล้วหลายครั้ง และ นายโมฮัมเหม็ด อับบาส อัตตา ผู้ว่าการเมืองอเล็กซานเดรีย เปิดเผยว่า อาคารนี้สร้างขึ้นมาโดยไม่ได้รับใบอนุญาต

ข่าวอาคารถล่มในเมืองอเล็กซานเดรียเกิดขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้ มีข่าวตำรวจที่ผ่านมาการคัดเลือก 19 คนเสียชีวิต และบาดเจ็บกว่า 100 คน เพราะรถไฟตกรางและพุ่งชนเข้ากับรถไฟอีกขบวนหนึ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงไคโร แต่เมื่อเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ก็มีผู้เสียชีวิต 19 ศพ เพราะตึกถล่มในเมืองอเล็กซานเดรีย มีบ้านพังไป 3 หลัง

จีน..หมอกควันมลพิษที่เซี่ยงไฮ้



มลพิษทางอากาศ ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแค่กรุงปักกิ่งเท่านั้น ขณะนี้มีการเปิดเผยว่านครเซี่ยงไฮ้ ศูนย์กลางการเงินของจีน ก็เจอปัญหาเข้าขั้นวิกฤตเช่นกัน

เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ประจำนครเซี่ยงไฮ้ บันทึกค่ามลพิษทางอากาศในเซี่ยงไฮ้ เมื่อวานนี้ได้ 273 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์อันตราย เมื่อเทียบกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกที่ระบุว่า ค่าดัชนีไม่ควรเกิน 20 ในแต่ละวัน ขณะที่สารมลพิษ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5 ไมครอน ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างยิ่ง

ปีที่แล้ว กรีนพีซร่วมกับมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เผยแพร่รายงาน ประเมินว่า สารมลพิษขนาด 2.5 ไมครอน เป็นสาเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตก่อนวัยอันควร เกือบ 8,600 คน ในเมืองใหญ่ 4 แห่งของจีน เนื่องจากมีขนาดเล็กจนสามารถแทรกซึมเข้าทำลายปอด และยังมีโลหะหนักเจือปน ที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงมะเร็งปอดและอาการติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน

ด้านนักท่องเที่ยวจีนที่มาเยือนเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่ารู้สึกอากาศไม่สะอาด และทำให้อึดอัดไม่สบายเมื่อสูดเข้าไป และหลายคนยังแสดงความผิดหวัง ที่หมอกควันพิษบดบังวิวแม่น้ำ หวงผู่ จากตึกสูงอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ดัชนีคุณภาพอากาศในเซี่ยงไฮ้ ยังต่ำกว่าที่วัดได้ในกรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งสูงถึง 755 หรือสูงสุดเท่าที่มีการบันทึก จนสร้างความโกรธเกรี้ยวให้กับชาวกรุงปักกิ่ง ถึงขั้นที่หลี่ เค่อเฉียง ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของจีน ต้องออกมาเรียกร้องให้ทางการเร่งควบคุมหมอกควันพิษ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวถึงปัญหามลพิษที่สูงเป็นประวัติการณ์นี้

ที่มาจาก เดลินิวส์ ครอบครัวข่าว3

 

18-01-2013

ทั่วไทยอุณหภูมิลดอากาศยังหนาวเย็น


มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ทั่วไทย อุณหภูมิลด อากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง

วันนี้ (18 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาไป จะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 18-20 มกราคม 2556 ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียส ตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า และลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล อากาศเย็นและมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ปภ. เตือน 9 จว.ใต้ ระวังมรสุม 18-21 ม.ค.นี้



อธิบดี ปภ. ประกาศเตือนภัย ช่วง 18 - 21 ม.ค. มรสุมปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ ให้ 9 จว.ภาคใต้ ระมัดระวังฝนตกหนัก คลื่นลมแรง

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศ กับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดช่วงวันที่ 18 - 21 ม.ค. 2556 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้น ฝนตกหนักบางแห่งและคลื่นลมแรง อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี นราธิวาส จึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ จะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที ส่วนคลื่นลมอ่าวไทย มีกำลังแรง ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะนี้

ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสาน 9 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ เขต 11 สุราษฎร์ธานี เขต 12 สงขลา จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัย ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงประกาศแจ้งเตือนให้ชาวเรือและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเลเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก และคลื่นลมแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง


อินโดนีเซีย..ภาวะฉุกเฉินน้ำท่วมจาร์กาตา



ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ของอินโดนีเซีย ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังน้ำท่วมสูงทำให้การจราจรทั่วเมืองเป็นอัมพาต และมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน

โจโค วิโดโด ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทั่วกรุงจาการ์ตา จนถึงวันที่ 27 มกราคม หลังฝนตกหนักในฤดูมรสุม ทำให้เกิดน้ำท่วมสูง ประชาชนอย่างน้อย 2 หมื่นคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ส่วนสถานที่ราชการ และกิจการหลายแห่งต้องปิดทำการ ไม่เว้นแม้แต่ย่านธุรกิจสำคัญ ขณะที่รถไฟและรถบัสโดยสารส่วนใหญ่หยุดให้บริการ ส่วนสนามบินหลักในกรุงจาการ์ตา ยังคงเปิดทำการตามปกติ แต่มีรายงานว่า ถนนหลายสายที่เข้าสู่สนามบินถูกปิดเนื่องจากน้ำท่วมสูง โดยบางจุดระดับน้ำสูงถึง 3 เมตร ทำให้มีรถยนต์หลายคันจอดนิ่งกลางถนนเป็นแถวยาว ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำเรือยางออกช่วยอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัย

ผู้ว่าการกรุงจาการ์ตา ประกาศจะเร่งแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มีการผันน้ำออกจากแม่น้ำซิลิวุง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลัก เพื่อลดแรงดันหน้าพนังกั้นนํ้า พร้อมกับประกาศจะสร้างเขื่อนกั้นน้ำขนาดใหญ่ในกรุงจาการ์ตาและสร้างบ่อรับน้ำมากกว่า 1 หมื่นบ่อ เพื่อรับมือกับน้ำท่วมในระยะยาว ขณะที่สำนักงานป้องกันภัยพิบัติรายงานว่า พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และขอร้องประชาชนให้อยู่แต่ในบ้าน เพื่อลดการจราจรที่แออัด

เมื่อวานนี้ประธานาธิบดี ซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโน ของอินโดนีเซีย ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์จุดที่น้ำท่วมหนักที่สุด ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีก็น้ำท่วมเช่นกัน จนต้องเลื่อนกำหนดพบหารือประธานาธิบดี คริสตินา เคิร์ชเนอร์ ของอาร์เจนตินา ที่อยู่ระหว่างเยือนอินโดนีเซีย รวมถึงอาจจะส่งผลกระทบต่อแผนเยือนอินโดนีเซีย ของนายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะ ของญี่ปุ่น ซึ่งมีกำหนดในวันนี้

ที่มาจาก เดลินิวส์ INN ครอบครัวข่าว 3

 

01.00 น. 18-01-2013 TSR ประกาศการสลายตัว(RMNTS)ของพายุโซนร้อน EMANG (TC 09) แล้ว



แผนที่อากาศกรมอุตุนิยมวิทยา ล่าสุด

 

อุตุฯ พยากรณ์ช่วงเที่ยงวันหนาวต่อไป



กรมอุตุฯ พยากรณ์อากาศ ช่วงเที่ยงวัน อุณหภูมิ จะลดลงอีก 1-3 องศา ส่วนภาคใต้ อาจมีฝนตกหนัก

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป เมื่อเวลา 10:00 น. วันนี้ บริเวณความกดอากาศสูง หรือ มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ซึ่งยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็น และอุณหภูมิจะลดลงอีก 1-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงสำหรับลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลา ลงไปมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 18 - 20 มกราคม 2556 ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งแต่เวลา 12:00 น.วันนี้ - 12:00 น.วันพรุ่งนี้ อากาศเย็น และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อย กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

อุตุภาคใต้ฝั่งตะวันออกเตือนฉ.2คลื่นลมแรง



ประกาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฉบับที่ 2 (7/2556) เรื่อง คลื่นลมแรงในอ่าวไทย

บริเวณความกดอากาศสูง หรือ มวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้บริเวณอ่าวไทยตอนบนคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่สุราษฎร์ธานีลงมา คลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ตั้งแต่วันที่ 18-20 มกราคม 2556

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก
ออกประกาศวัน ศุกร์ที่ 18 มกราคม 2556
เวลา 06.30 น.

เตรียมชมปรากฏการณ์บนท้องฟ้าตลอดปี 56



ปีนี้จะมีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าสนใจหลายเหตุการณ์ ทั้งปรากฏการณ์ จันทรุปราคาที่มองเห็นได้บางส่วนรวมทั้งฝนดาวตกและปรากฏการณ์ดาวเคราะห์น้อยโคจรใกล้โลกมากที่สุด

ดาวเคราะห์น้อย 2012 ดีเอ 14 ขนาดประมาณ 45 เมตร จะโครเข้าใกล้โลกในระยะ 27,000 กิโลเมตร ใกล้กว่าวงโคจรของดาวเทียมค้างฟ้า ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งเป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่นักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์เฝ้าจับตาแต่เชื่อว่าไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อโลก

นอกจากนี้ยังมีปรากฏการณ์ของดาวหาง 2 ครั้ง คือดาวหางแพนสตาร์ ซึ่งจะผ่านใกล้โลกมากที่สุดวันที่ 5 มีนาคม แต่จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดระหว่างวันที่ 9-17 มีนาคม และยังมีดาวหางไอซอน ที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนและต่อเนื่องถึงเดือนต้นปีหน้าทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นดาวหางที่สว่างที่สุดในรอบ 10 ปี

ถัดจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือน จะเกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคาบางส่วนในช่วงกลางดึก ก่อนรุ่งวันที่ 26 เมษายน โดยเริ่มเกิดเวลา 2 นาฬิกา 54 นาทีและสิ้นสุดเวลา 5 นาฬิกา 11 นาที โดยประเทศไทยจะเห็นเหตุการณ์พร้อมกับซีกด้านตะวันออกของอเมริกาใต้ ยุโรป แอฟริกา เอเชีย และ ออสเตรเลีย

ขณะที่ปรากฏการณ์ฝนดาวตกในปีนี้ จะเกิดขึ้นมากกว่า 6 ช่วงเวลา โดยช่วงที่คาดว่าจะเกิดได้มากที่สุดคือ คืนวันที่ 12 ถึงเช้ามืด วันที่ 13 สิงหาคมและจะมีฝนดาวตกมากกว่า 60 ดวง

ที่มาจาก INN ครอบครัวข่าว3

 

อุณหภูมิ “ซิดนีย์” ทุบสถิติร้อนที่สุดในรอบกว่า 70 ปี



ชาวเมืองซิดนีย์ ของออสเตรเลีย กำลังเผชิญสภาพอากาศร้อนจัดที่สุดในรอบ 74 ปี โดยอุณหภูมิอยู่ที่สูงถึง 45.8 องศาเซลเซียส

วันนี้ ( 18 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลียว่า อุณหภูมิในเมืองซิดนีย์พุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบ 74 ปี โดยอยู่ที่ 45.8 องศาเซลเซียส


วัดอุณหภูมิดังกล่าวที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาเมืองซิดนีย์วัดได้เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำลายสถิติอุณหภูมิสูงสุดของซิดนีย์ 45.3 องศาเซลเซียส ที่ครองตำแหน่งมายาวนานตั้งแต่ปี 2482


ปัจจุบัน ดินแดนดาวน์อันเดอร์กำลังเผชิญกับอิทธิพลของคลื่นความร้อน ที่แผ่ปกคลุมพื้นที่ของประเทศกว่า 70% ซึ่งอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศที่สูงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ซึ่งคำพยากรณ์ของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติ ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยช่วงฤดูร้อนของออสเตรเลียในปีนี้ มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นสูงถึง 50 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดของประเทศอยู่ที่ 50.7 องศาเซลเซียส วัดได้เมื่อเดือนม.ค. 2503 ที่เมือง อูดนาดัตตา ในรัฐเซาท์ออสเตรเลีย


สภาพอากาศที่ร้อน และแห้งแล้งจัดก่อให้เกิดไฟไหม้ป่าอย่างรุนแรงในหลายพื้นที่ของออสเตรเลีย โดยเฉพาะในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และแทสเมเนียเมื่อราว 2 สัปดาห์ก่อน แม้เจ้าหน้าที่จะควบคุมสถานการณ์โดยรวมได้แล้ว แต่ยังมีรายงานไฟป่าปะทุขึ้นอย่างต่อเนื่องในรัฐนิวเซาท์เวลส์ และวิกตอเรีย ทำให้นายกรัฐมนตรีจูเลีย กิลลาร์ด แห่งออสเตรเลีย แถลงเตือน และกระตุ้นประชาชนให้เฝ้าระวังสถานการณ์ และติดตามข่าวสารตลอดเวลา แม้ไฟป่าจะเป็นเหตุการณ์จากธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำในทุกฤดูร้อนก็ตาม เนื่องจากสถานการณ์ยังไม่อาจวางใจได้

ไฟไหม้เรือประมงเกาหลีใต้ใกล้หมู่เกาะพิพาท “ญี่ปุ่น-จีน”



เรือประมงเกาหลีใต้ประสบเหตุเพลิงไหม้ ระหว่างล่องเรือเข้ามายังน่านน้ำหมู่เกาะพิพาทระหว่างญี่ปุ่นกับจีน มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ศพ สูญหายอีก 5 ราย

วันนี้ ( 18 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นว่า เรือประมงลำหนึ่งของเกาหลีใต้ประสบเหตุเพลิงไหม้ ระหว่างล่องเรือเข้ามายังน่านน้ำหมู่เกาะพิพาทระหว่างญี่ปุ่นกับจีน ยังผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ศพ สูญหายอีก 5 ราย


ทั้งนี้ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 08.24 น. ตามเวลาท้องถิ่น ( 06.24 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) โดยเจ้าหน้าที่หน่วยเรือยามชายฝั่งญี่ปุ่นได้รับแจ้งจากหน่วยเรือยามชายฝั่งของเกาหลีใต้ว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บนเรือประมงสัญชาติเกาหลีใต้ลำหนึ่ง ที่กำลังแล่นอยู่ในรัศมี 100 ไมล์ทะเล ทางตอนเหนือของเกาะโอตซูริ 1 ใน 5 เกาะย่อยของหมู่เกาะเซนกากุ ในทะเลจีนตะวันออก ทั้งนี้ มีผู้อยู่บนเรือ 9 คน แบ่งเป็นชาวเกาหลีใต้ 7 คน และชาวจีน 2 คน


เจ้าหน้าที่จึงส่งเครื่องบินลาดตระเวนขึ้นบินตรวจสอบ และเรือกู้ชีพอีก 2 ลำเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งพบชิ้นส่วนของเรือลำดังกล่าวจริง และเร่งค้นหาลูกเรือที่สูญหายอีก 5 คน หลังมีรายงานว่าเรือประมงของเกาหลีใต้อีกลำหนึ่งสามารถช่วยเหลือลูกเรือได้ 4 คน แต่ 3 คน เสียชีวิตแล้ว


กรณีพิพาทเรื่องการแย่งชิงกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่หมู่เกาะเซนกากุ หรือเตียวหยูในภาษาจีน เป็นปัญหาเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างญี่ปุ่นกับจีนอย่างต่อเนื่อง ทว่าสถานการณ์อยู่ในขั้นร้อนระอุที่สุดเมื่อปีที่แล้ว หลังรัฐบาลโตเกียวประกาศซื้อเกาะย่อย 3 จาก 5 เกาะ สร้างความไม่พอใจให้แก่ทางการปักกิ่งอย่างรุนแรง กลายเป็นชนวนให้เกิดการประท้วงในหลายเมืองใหญ่ของจีน ส่งผลให้บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งต้องประกาศปิดกิจการอย่างไม่มีกำหนด


อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่นยังมีกรณีพิพาทกับเกาหลีใต้เรื่องการแย่งชิงความเป็นเจ้าของหมู่เกาะทาเคชิมะ หรือด๊อกโกในภาษาเกาหลี ที่ตั้งอยู่กลางทะเลตะวันออก โดยฝ่ายเกาหลีใต้เป็นผู้สร้างสถานการณ์ตึงเครียด เมื่อประธานาธิบดีลี เมียง-บัก เดินทางเยือนหมู่เกาะแห่งนี้เมื่อช่วงฤดูร้อน โดยปราศจากกำหนดการล่วงหน้า

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

อินโดฯยังระทมน้ำท่วมหนักตายแล้ว 11 ศพ




วันนี้ ( 18 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 11 ศพ และไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่า 18,000 คน จากเหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ถล่มเมืองหลวงของอินโดนีเซียเมื่อช่วงต้นสัปดาห์


นายซูโตโป เปอร์ดว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานบรรเทาภัยพิบัติแห่งชาติ แถลงในวันนี้ว่า แม้ระดับน้ำจะเริ่มทรงตัว แต่จำนวนผู้เสียชีวิตกลับเพิ่มขึ้นอยู่ที่อย่างน้อย 11 ศพแล้ว เป็นเด็ก 2 ศพ อายุ 2 ปี และ 13 ปีตามลำดับ นอกจากนี้ ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 5 ศพ เสียชีวิตจากการถูกกระแสไฟฟ้าช็อต


อย่างไรก็ตาม ทางการสามารถควบคุมสถานการณ์โดยรวมได้แล้ว แม้ระดับน้ำในพื้นที่ราว 8% ของกรุงจาการ์ตาจะยังคงเพิ่มสูงอยู่ก็ตาม


อุทกภัยที่เกิดขึ้นทำให้การจราจรบนถนนหลายสายติดขัดเป็นอัมพาต รวมถึงกระแสน้ำยังสร้างความเสียหายให้แก่เสาไฟฟ้า ทำให้ประชาชนเกือยทั่วทั้งเมืองต้องตกอยู่ภาวะขาดแคลนกระแสไฟฟ้า เนื่องจากเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องปิดสถานีจ่ายกระแสไฟฟ้าย่อยกว่า 1,000 แห่ง เพื่อตรวจสอบสภาพ และทำการซ่อมแซมระบบ



ลือหึ่ง!! ฝีมือ "ต่างดาว" ทำ"หน้ายิ้ม" บนตัวแกะทั่วสหราชอาณาจักร




วันนี้ (18 ม.ค.) เว็บไซต์ต่างประเทศ "เดลี่เมลล์" นำเสนอข่าว สัญลักษณ์ 'ใบหน้าที่ยิ้ม' ลึกลับ ที่ปรากฏในตัวแกะหลายร้อยตัวทั่วสหราชอาณาจักร รวมทั้งเดวอน และเพิร์ธ ในสกอตแลนด์ ซึ่งร่วมแบ่งปันผ่านทางเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์

ทั้งนี้บรรดาเจ้าของฟาร์มรวมทั้งชาวนาบางส่วนเชื่อว่าสัญลักษณ์ประหลาดมาเป็นที่ปรากฎบนตัวสัตว์เป็น 'พลังเหนือธรรมชาติ' และ 'ยูเอฟโอ' นายบลาเฟดเกษตรกรคนหนึ่งได้อธิบายสัญลักษณ์ประหลาดนี้ว่ามันเป็นวงกลม เหมือนว่าดวงตาที่ยิ้มทั้งสองและมีเส้นตรงสั้นยาวเป็นรูปปากเชื่อมต่อกันโดยจะมีสัญลักษณ์ดังกล่าวจะอยู่บนแกะเป็นบางตัว อีกทั้งตัวแกะที่มีหน้ายิ้มเองก็ไม่ได้รับผลกระทบในทางใดทางหนึ่ง ปัจจุบันนี้พวกเขายังคงทำปศุสัตว์ดำเนินชีวิตประจำวันในแบบปกติ

เกษตรกรบางส่วนที่ได้รับผลกระทบบางรายไม่ติดใจอะไร พร้อมกล่าวอย่างติดตลกว่า มันเป็นการเพิ่มสีสันให้แกะของเขาที่ปกติจะเป็นสีขาวธรรมดา และคงจะอดขำไม่ได้เมื่อเห็นสัญลักษณ์หน้ายิ้มบนแกะเหล่านี้.

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

ทั่วไทยอากาศหนาวเย็นลงส่วนภาคใต้คลื่นลมแรง


กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสภาพอากาศเย็นลงเกือบทุกพื้นที่ของไทย ส่วนภาคใต้คลื่นลมแรง เตือนให้ระวังการเดินเรือ

เมื่อวันที่ 19 ม.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็น กับมีลมแรง


สำหรับลมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้คลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไปมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 19-20 มกราคม 2556 ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า โดยมีหมอกหนาในบางพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส
ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-15 องศาเซลเซียสตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 3-9 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียสสำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสอุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสงขลาลงไป ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

หิมะตกหนักทั่วอังกฤษ



วานนี้ (18 ม.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษว่า โฆษกหญิงของสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน แถลงว่า สนามบินฮีทโธรว์ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดในโลก ต้องประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปอย่างน้อย 60 เที่ยวบิน อันเนื่องจากสภาพอากาศที่มีหิมะตกลงมาอย่างหนัก และต้องใช้รถถึง 24 คันในการกวาดหิมะ
ออกจากรันเวย์สนามบิน ขณะเดียวกัน สนามบินในกรุงคาร์ดิฟฟ์ แคว้นเวลส์ ในเมืองเซาท์แธมป์ตัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอังกฤษ และ ในเมืองบริสตอล ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ ก็ต้องปิดให้บริการชั่วคราว อย่างไรก็ตาม โฆษกของสนามบินคาร์ดิฟฟ์ แจ้งว่า สนามบินอาจกลับมาให้บริการได้อีกครั้ง หากสภาพอากาศดีขึ้น

ส่วนสายการบินบริติช แอร์เวย์ส แถลงว่า ได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วกว่า 60 เที่ยว และตัวเลขการยกเลิกเที่ยวบินอาจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนั้นแล้วยังมีโรงเรียนอีกกว่า 2,000 โรงทั่วประเทศอังกฤษ ต้องหยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เพราะสภาพอากาศทำให้เส้นทางสัญจรมีปัญหาจากกองหิมะที่ตกลงมาทับถมอย่างต่อเนื่อง

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของอังกฤษ ได้ประกาศเตือนภัยเรื่องพายุหิมะพัดถล่มบางพื้นที่ทางตอนใต้ของแคว้นเวลส์ ซึ่งคาดว่าอาจมีหิมะสูงถึง 30 ซม.

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

นักท่องเที่ยวแห่สัมผัสอากาศหนาวระลอกใหม่



หนาวระลอกใหม่เข้าปกคลุมภาคเหนืออีกครั้ง ทำให้หลายจังหวัดอุณหภูมิลดลงอีก ขณะที่ยอดดอยกลับมามีอากาศหนาวจัด ดอยอ่างขางและดอยอินทนนท์เช้านี้มีเหมยขาบรับนักท่องเที่ยวที่ยังแห่ขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาว

อากาศทางภาคเหนือกลับเข้าอยู่ในช่วงอากาศหนาวจัดอีกครั้งในเช้าวันนี้ หลายจังหวัดมีอากาศหนาวเย็นลงอีก 2-4 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ทางศูนย์อุตุนิยมวิทบยาภาคเหนือรายงานว่า ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือตอนบน

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป กับมีหมอกหนาบางพื้นที่และมีน้ำค้างแข็ง (เหมยขาบ) ในช่วงตลอดระยะปลายสัปดาห์นี้

สำหรับพื้นที่ภาคเหนือตอนบนอุณหภูมิพื้นราบอยู่ที่ 14-16 องศา เซลเซียส ต่ำสุดเช้านี้วัดได้ 13.5 องศา เชียงใหม่ 16.4 องศา ส่วนบริเวณเทือกเขา และยอดดอยอุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศา ต่ำสุดเช้านี้วัดได้ 5.9 องศาที่ยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ กับมีเหมยขาบบริเวณกิโลเมตรที่ 44-45 อีกครั้งในรอบปีนี้ ขณะะที่ดอยอ่างขาง 6.0 องศา

อย่างไรก็ตามสภาพอากาศหนาวเย็นจะยาวนานต่อเนื่องไปจนถึงช่วงต้นสัปดาห์หน้า ยังมีโอกาสที่จะเห็นน้ำค้างแข็งต่อเนื่องได้เช่นกัน
ขณะที่ยอดดอยอินทนนท์เช้านี้ยังคึกคักนักท่องเที่ยวยังแห่ขึ้นไปสัมผัสอากาศหนาว หลายคนเลือกที่จะกางเต็นท์ เพื่อสัมผัสอากาศหนาว และบรรยากาศของการแคมป์ปิ้ง ซึ่งมีทั้งพื้นที่ของชุมชน ที่รวมกลุ่มกันบริการจุดพักแรมให้นักท่องเที่ยว

ขณะที่ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ก็มีบริการลานสวนสนสำหรับพักแรมแบบกางเต็นท์ ซึ่งมีบริการเต็นท์ที่พัก และเครื่องนอนไว้บริการนักท่องเที่ยว

โคราชเช้าหนาวกลางวันร้อนจัดระวังไข้หวัดใหญ่


โคราชเช้าหนาว กลางวันร้อน แพทย์เตือนระวังไข้หวัดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงเด็กและผู้สูงอายุ ปีที่แล้วป่วยกว่า 3 พันคน

วันนี้ (19 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศโดยทั่วไปในพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีอากาศหนาวเย็น และลมพัดแรง อุณหภูมิลดลงในช่วงเช้า 18-20 องศาเซลเซียส ประชาชนต้องสวมเสื้อกันหนาว และพากันออกมายืนแตกแดดกลางแจ้งเพื่อคลายหนาว

ขณะที่นพ.ธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 5 นครราชสีมา เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ในช่วงเช้าหนาวเย็นและอุณหภูมิร้อนขึ้นในช่วงกลางวัน ทำให้ประชาชนเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงหากเจ็บป่วยแล้วจะมีอาการมากกว่าคนปกติ ได้แก่ ผู้ป่วยโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หญิงมีครรภ์ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป และเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ต้องเฝ้าระวัง

จากข้อมูลปี 55 ในพื้นที่สาธารณสุขเขต 14 ประกอบด้วย นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์ มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ 3,452 คน อย่างไรก็ตาม หากป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ต้องปิดปาก ปิดจมูกเมื่อไอ หรือจาม หากมีไข้ ไอ เจ็บคอ หรือมีน้ำมูก เกิน 2 วัน ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านหรือไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย และใช้หลักปฏิบัติกินร้อน ช้อนกลาง และล้างมือบ่อยๆ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคไปสู่ผู้อื่น

ทั้งนี้ โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจเฉียบพลัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดตามตัว และปวดกล้ามเนื้อ เชื้อนี้ติดต่อได้ง่ายโดยการไอหรือจาม ส่วนการป้องกันให้หลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีผู้คนแออัดและอากาศถ่ายเทไม่สะดวกเป็นเวลานาน ต้องสวมหน้ากากอนามัย ปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ล้างมือบ่อยๆ ที่สำคัญหากป่วยเป็นไข้หวัด งดกิจกรรมการเดินทาง หยุดเรียน หยุดงาน จนกว่าจะหายเป็นปกติ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิด หรือใช้สิ่งของร่วมกับผู้อื่น และฉีดวัคซีนป้องกันโรค.

ปภ. สรุปภัยหนาว 11 จว. แล้ง 25 จว.



ปภ. รายงาน มีพื้นที่ประสบภัยหนาว 11 จังหวัด ภัยแล้ง 25 จังหวัด น้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศ เหลือร้อยละ 67
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. รายงานสถานการณ์สาธารณภัย ประจำวันที่ 19 ม.ค.2556 ว่า จังหวัดที่มีการประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ กรณีฉุกเฉิน ภัยหนาว 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ อุตรดิตถ์ แม่ฮ่องสอน เชียงราย เลย แพร่ ลำพูน น่าน หนองบัวลำภู มุกดาหาร และจังหวัดตาก

ส่วนพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ฝนทิ้งช่วงภัยแล้ง 25 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนคร อุดรธานี บึงกาฬ มหาสารคาม ยโสธร อำนาจเจริญ นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น บุรีรัมย์ นครราชสีมา สุโขทัย พิษณุโลก อุบลราชธานี นครสวรรค์ สุรินทร์ เชียงใหม่ แพร่ อุตรดิตถ์ พะเยา พิจิตร จันทบุรี เลย และจังหวัดตาก

สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ทั่วประเทศ มีปริมาตรน้ำในอ่างฯ ทั้งหมด 46,784 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ คิดเป็น ร้อยละ 67 ของความจุอ่างฯ ทั้งหมด ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ ทั้งหมดวันนี้ 13.84 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำระบายวันนี้ 104.68 ล้านลูกบาศก์เมตร

ที่มาจาก เดลินิวส์ ครอบครัวข่าว 3 INN

 

น้ำท่วมอินโดฯเริ่มคลี่คลายแต่ตายเพิ่มเป็น15ศพ



สถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในกรุงจาการ์ตา ของอินโดนีเซีย เริ่มดีขึ้น ระดับน้ำในหลายพื้นที่ลดลงแล้ว แต่เจ้าหน้าที่พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น ทำให้ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ 15 ศพแล้ว

วันนี้ ( 19 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียว่า แม้สถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ในกรุงจาการ์ตาจะดีขึ้นเป็นลำดับ ระดับน้ำในหลายพื้นที่ลดลงแล้ว แต่มีรายงานการพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 4 ศพ ทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 15 ศพ


นายริควานโต โฆษกสำนักงานตำรวจกรุงจาการ์ตา แถลงในวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพ 3 ศพ จมอยู่ใต้น้ำ เบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตจากการถูกกระแสน้ำพัดพามาจากที่ใดที่หนึ่ง ส่วนอีก 1 ศพ เสียชีวิตอยู่ภายในลานจอดรถแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองที่มีน้ำท่วมขังในระดับสูง ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตเมื่อรวมกับก่อนหน้านี้อีก 11 ศพ เพิ่มขึ้นเป็น 15 ศพ และทำให้ประชาชนกว่า 18,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย


อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงค้นหาผู้สูญหายอีก 1 ราย ซึ่งเป็นชาย หลังได้รับรายงานว่าอาจติดอยู่ภายในลานจอดรถเดียวกับที่มีการพบผู้เสียชีวิต 1 ศพ

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังสามารถช่วยเหลือชาย 2 คน ซึ่งรอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์ หลังติดอยู่นานกว่า 24 ชั่วโมงภายในชั้นใต้ดินของบ้านพักที่ถูกน้ำท่วมสูงถึง 4 เมตร


รายงานล่าสุดระบุว่า ระดับน้ำในพื้นที่ส่วนใหญ่ของกรุงจาการ์ตา โดยเฉพาะในย่านธุรกิจนั้นลดลงมากแล้ว และฝนที่ตกกระหน่ำต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ได้หยุดลงเมื่อวันศุกร์


ทั้งนี้ อุทกภัยที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงจาการ์ตา ถือว่าเลวร้ายที่สุดตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นยังผลให้มีผู้เสียชีวิตราว 50 ศพ ประชาชนอีกกว่า 300,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย

ยุโรปเผชิญหิมะตกหนักต่อเนื่อง



ยุโรปเผชิญหิมะตกหนักต่อเนื่อง เที่ยวบินหลายร้อยถูกยกเลิก โรงเรียนปิดหลายพันแห่ง
19 ม.ค.56 หิมะที่ตกหนักติดต่อกัน 2 วันในกรุงมอสโคว์ ของรัสเซีย ยิ่งทำให้การจราจรที่ติดขัดอยู่แล้วเลวร้ายลงหนักขึ้น จากปัญหารถติดยาวหลายกิโลเมตร เครื่องกวาดหิมะต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อกำจัดหิมะออกจากถนน คาดว่า หิมะจะยังคงตกหนักต่อไปอีกหลายวัน เนื่องจากอุณหภูมิจะยังคงต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ที่โคโซโว่ มีหมู่บ้านหลายสิบแห่ง ในพื้นที่บริเวณภูเขารอบเมืองเพ็ค ที่อยู่ทางตะวันตกของประเทศ ถูกปิดล้อมด้วยหิมะที่ตกหนักติดต่อกัน 3 วัน
ชาวบ้านต้องประสบความยากลำบากในการเข้าไปยังบ้านของพวกเขา ขณะที่ผู้ใช้รถยนต์ต้องเอาโซ่ไปพันรอบล้อรถเพื่อแล่นฝ่าหิมะ ขณะที่รถติดตั้งเครื่องกวาดหิมะเร่งกำจัดหิมะออกจากถนน เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศ คาดว่า สภาพอากาศและหิมะตกหนักแบบนี้จะยังคงดำเนินต่อไปอีก
ส่วนที่อังกฤษ หิมะที่ตกหนักทำให้หลายพันครอบครัวในเซาท์ เวลส์ ต้องตกอยู่ในความมืดเพราะไฟดับ สำนักพยากรณ์อากาศ ได้ประกาศเตือนภัยสีแดง เกี่ยวกับสภาพอากาศและหิมะตกหนักในเวลส์ ซึ่งที่เซนนี่บริดจ์ ในเมืองโพวี่ส์ มีหิมะตกหนาถึง 25 เซ็นติเมตรแล้ว
สำนักงานพยากรณ์อากาศ ยังเตือนภัยสีเหลือง ในพื้นที่แถบมิดแลนด์ส , กรุงลอนดอน และพื้นที่ทางใต้ และทางตะวันออกของอิงค์แลนด์ เซาท์เวสต์ และไอร์แลนด์เหนือ สนามบินฮีทโธรว์ ต้องปิดรันเวย์และยกเลิกเที่ยวบินนับร้อยเที่ยว เนื่องจากพายุหิมะรบกวนการเดินทางทั่วอังกฤษ
รันเวย์ทางเหนือของสนามบินฮีทโธรว์ ต้องปิดให้บริการ 45 นาที ก่อนจะเปิดใหม่ หลังจากกำจัดนำแข็งและหิมะ หลังจากมีเที่ยวบินประมาณ 400 เที่ยวบิน ถูกยกเลิกในช่วงเที่ยงวันของเมื่อวานนี้
การสัญจรทางรถไฟก็ถูกรบกวนเช่นกัน ถนนหลายสายต้องปิดหลังจากน้ำแข็งจับ เนื่องจากอุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง โรงเรียน 3 พันแห่ง ต้องปิดการเรียนการสอน ในบางพื้นที่มีหิมะตกหนักและหนาถึง 30 เซ็นติเมตร เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศ ระบุว่า คาดว่า หิมาจะตกหนักในพื้นที่ทางใต้และทางตะวันตกของกรุงลอนดอน และพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ

อังกฤษหิมะตกหนัก-สภาพอากาศเลวร้าย

สภาพการจราจรที่ติดขัดบนถนนสายต่างๆ รวมถึงสนามบินต้องปิดให้บริการเพราะหิมะตกหนักได้รับคาดหมายว่า จะดำเนินต่อไปตลอดช่วงสุดสัปดาห์ เที่ยวบินมากกว่า 400 เที่ยวบิน ที่ถูกยกเลิกที่สนามบินฮีทโธรว์ ได้ก่อให้เกิดความสับสนและโกลาหล ส่วนสนามบินแก็ทวิค ซึ่งมีอยู่เพียงรันเวย์เดียวยังคงให้บริการ แต่ยกเลิกเฉพาะเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากแชนแนล ไอส์แลนด์
ยอดขายเลื่อนหิมะทะลุเพดาน จากการที่ครอบครัวซื้อไปเล่นเนื่องจากโรงเรียน 3 พันแห่ง ปิดการเรียนการสอน มีโรงเรียนแห่งเดียวในเมืองเคนท์ ที่ประกาศว่า จะไม่ยอมปิดเรียนแม้สภาพอากาศจะเลวร้าย ประชาชนพากันปิดถนนในย่านนิวพอร์ต และขว้างหิมะใส่ตำรวจเพื่อประท้วงสภาพการจราจรที่ติดขัด
เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศเตือนว่า ทั้งหิมะและน้ำแข็ง จะยังคงเป็นอุปสรรคในการเดินทางทั่วประเทศไปอีกหลายวัน ขณะที่อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อการเดินทางได้ ล่าสุดเส้นทางมอเตอร์เวย์ถูกปิด , สนามบินหลายแห่งไม่สามารถให้บริการได้ ทำให้อังกฤษตกอยู่ในสภาพสงบนิ่ง หลายพื้นที่มีหิมะตกหนาเกือบ 1 ฟุต
สนามบินฮีทโธรว์ เจอหิมะหนาแค่ 2 นิ้ว แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ต้องปิดรันเวย์และยกเลิกเที่ยวบิน 404 เที่ยว หรือเกือบ 1 ใน 3 ของเที่ยวบินทั้งหมด แม้ว่า จะมีการทุ่มงบประมาณภายใต้โครงการปรับตัวรับฤดูหนาวไปถึง 36 ล้านปอนด์ หรือราว 1,800 ล้านบาท ที่รวมทั้งรถกวาดหิมะและรถกำจัดน้ำแข็งมูลค่าร่วม 11 ล้านปอนด์ก็ตาม
ผู้โดยสารของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ที่ต้องการเดินทางไปพักผ่อนในต่างประเทศ ต่างระบุว่า ไม่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อน ขณะที่บางคนไม่พอใจที่ข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และต้องเสียเวลาอยู่ที่สนามบินนานถึง 8 ชั่วโมง ด้านโฆษกสนามบินฮีทโธรว์ โทษว่าเป็นเพราะทัศนวิสัยไม่ดี ทำให้เที่ยวบินถูกยกเลิกหรือดีเลย์
ขณะที่หิมะตกหนักทั่วประเทศ โดยเฉพาะเวลส์ , เวสต์ มิดแลนด์ส และทางใต้ของอังกฤษ พบว่าประชาชนราว 10,000 คน ไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ เนื่องจากหิมะที่ตกหนักทำให้สายไฟฟ้าขาด ผู้ให้บริการรถไฟโดยสาร พากันยกเลิกเนื่องจากหิมะตกหนักเช่นกัน

ที่มาจาก คมขัดลึก ครอบครัวข่าว3