ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

*** กรรมรอบบ้าน ****

เพื่อนบ้าน...ไม่รู้ว่าประสาทหินที่มีในบ้าน
คือ พุทธสถานในยุคโบราณ

บ้านเราเอง....ไม่รู้ คิดว่าประสาทหินที่มีในบ้านเรา
คือ พุทธสถานในยุคโบราณ ยุคเดียวกัน ศาสนาเดียวกัน
คิดว่า...เป็นศิลปะเพื่อนบ้าน

ยุคนี้ ไม่มีใครรู้ว่า...สมัยโบราณเก่าแก่มาก
พุทธศาสนาอยู่คู่โลกมานาน...หลายยุคของมนุษย์

เมื่อเชื่อเทคโนโลยี...ก็คิดว่ามนุษย์ปัจจุบันเจริญสูงสุด
เมื่อหาคำตอบ ความจริงไม่ได้....ก็แต่งคำตอบขึ้นมาใหม่
เรียบเรียงประวัติศาสตร์กันใหญ่...ดูถูกปัญญาคนโบราณ


ต่อไป.......
ระวัง...ประวัติศาตร์ที่เขียนแต่งขึ้นกัน....จะย้อนกลับมาทำร้าย
ประวัติเก่าของฝรั่ง...จะถูกอ้างเพื่อทวงดินแดน
หากคนสยาม...ไม่สามัคคี
หากคนสยาม....ไม่มี "สัจจะ" ในการทำความดี
ชาวสยาม...ต้องเผชิญ การเสียดินแดนอีกหนึ่งทิศทาง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

555...Phuket Man...555

(b-cry) (b-wow) [bw-cry]

 

พิสูจน์คำทำนาย จากโหรโสรัจจะ นวลอยู่

อุบัติเหตุทางเครื่องบิน, พม่าเกิดการจราจล, ศีลธรรมจะเสื่อมโทรม(ลูกฆ่าพ่อแม่) ได้เกิดขึ้นให้เห็นจริงแล้ว ในเดือนกันยายน 2550 นี้

กันยายน 2550
แผ่นดินไหวสุดรุนแรง คนเหนือตายเกลื่อน ดีเปรสชั่นผ่านตอนเหนือของประเทศอย่างรุนแรง น้ำป่าเริ่มไหลบ่าจากทางภาคเหนือและอีสาน ลงมาทางใต้ต่อเลยมาถึงกรุงเทพฯ เขื่อนทั้งเล็กและใหญ่จะพังทลาย เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายจังหวัด พืชพันธุ์ธัญญาหารเสียหายหนักยิ่งกว่าครั้งใด มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน กรุงเทพฯ ต้องจมอยู่ใต้บาดาลเป็นเวลายาวนาน การจราจรเป็นอัมพาต ปัญหาของประเทศมีมาก ผู้เป็นใหญ่ บุคคลสำคัญจักล้มเจ็บอย่างกะทันหัน จักมีอุบัติเหตุในประเทศ มีเหตุร้ายทางอากาศ และค่อนข้างไม่ดีระยะครึ่งแรกของเดือน สภาพของบ้านเมือง มีผู้คนทะเลาะกัน ผู้ใหญ่ข่มเหง คนหยิ่งผยองเหลิงในอำนาจ มีเรื่องทุกข์โศก บ้านเมืองเย็นยะเยือก การบริหารประเทศจะต้องอาศัยสามัคคีธรรมเป็นที่ตั้ง มิใช่มุ่งแต่จะโค่นล้มทำลายกัน พม่าคงยังคุกรุ่นอยู่ภายใน ยังจะมีเรื่องโหดเหี้ยม อุบัติเหตุภายใน มีปัญหาการปฏิวัติที่เคยแสดงบทบาทในที่แจ้งอย่างฮึกเหิม ก็ถูกฝ่ายผู้ถืออาวุธปราบปรามอย่างอำมหิตจนต้องหลบไปเคลื่อนไหวกันใต้ดิน คราวนี้กลับรุนแรงยิ่งไปกว่าเดิม ผู้คนจะถูกกำจัด ถูกฝ่ายที่มีอำนาจทำลายล้างอย่างโหดเหี้ยมเลือดเย็นและสยดสยอง ประเทศอินเดีย โดนดาวบาปเคราะห์ 3 ดวงเล็งอย่างเต็ม ๆ ผู้คนคงจะหนาวแข็งตาย และที่เป็นเหยื่อของความหิวโหยล้มตายไปก็มาก เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงในประเทศไทย เกิดขึ้นทางภาคเหนือ มีผู้คนเสียชีวิตจำนวนมหาศาล และจะมีอุบัติภัยทางทะเลและทางเครื่องบินมากกว่าในระยะใด มีการตายหมู่เป็นร้อย บ้านเมืองก็ยังประสพภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ หุ้นตกวินาศสันตะโร ธนาคารจะเข้าสุ่จุดคับขัน ความลำบากยากแค้นจะมีไปทั่ว ศีลธรรมจะเสื่อมโทรม พระอลัชชีกับมนุษย์ลวงโลกจะกำเริบเสิบสาน ทำให้ประเทศชาติเสื่อมเสียชื่อเสียง

โดย ผู้จัดการออนไลน์
28 ธันวาคม 2549 19:05 น.
http://www.yehyeh.com/webboard/question_detail.php?question_id=4245

 

มนต์ดำคืออะไร? และมีความหมายอย่างไร?​

​

อยากทราบว่ามนต์ดำมีความหมายว่าอย่างไร เกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์หรือเปล่าหรือว่าเป็นสิ่งเดียวกัน แล้วพระกับไสยศาสตร์เกี่ยวข้องกันหรือไม่อย่างไร รบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ เพราะเป็นสิ่งที่ค้างคาใจมานานค่ะ ขอบคุณค่ะ

โดยคุณ : ระเวง วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2546 15:44 น.

มนต์ดำ คือ ไสยศาสตร์ที่ใช้ในทางมิจฉาทิฎฐิ หรือ เรียกบุคคลนี้ว่า หมอผี ซึ่งจะนำเวทมนต์ดังกล่าวไปใช้ในทางที่เบียดเบียนผู้อื่น ถือเป็นการสร้างบาปอย่างหนึ่ง ซึ่งพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจะไม่ข้องเกี่ยวกับการกระทำดังกล่าว

โดยคุณ : น้อง วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2546, 10:00 น.

มนต์ดำ น่าจะหมายเอาเฉพาะคาถาอาคม ที่ถูกนำไปใช้ในทางที่นำมาซึ่งความเดือดร้อน ทั้งแก่ผู้อื่นและแก่ผู้ใช้เองในที่สุด แท้จริง “มนต์” ทั้งหลายเป็นความเชื่อของพราหมณ์ฮินดูที่เข้ามาสู่พระพุทธศาสนาในสมัยหลัง กระทั่งมีนิกายชื่อว่า “มันตรยาน” เกิดขึ้น

มนต์ดำเป็นไสยศาสตร์ในความหมายที่เป็นสิ่งซึ่งทำให้ผู้ที่ใช้ติดอยู่ กระทั่งไม่อาจนำตนเองให้หลุดพ้นจากทุกข์ได้ เพราะเป็นศาสตร์แห่งความหลับ ซึ่งตรงกันข้ามกับ “พุทธะ” ซึ่งเป็นศาสตร์แห่งความตื่น

พระภิกษุในพระพุทธศาสนาต้องไม่เกี่ยวข้องกับมนต์ดำ หรือไสยศาสตร์ อย่างเด็ดขาด หากมีเป้าหมายที่จะฝึกฝนพัฒนาตนให้หลุดพ้นจากทุกข์ เข้าสู่ความเป็นอิสระจากสิ่งร้อยรัดทั้งปวง

พระภิกษุผู้มี่ความรู้และความเข้าใจ รู้จักเลือกใช้ ก็อาจนำไสยศาสตร์มาเป็นเครื่องมือสอนคน(ซึ่งมีหลายระดับ) ให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในศีลธรรมอันดีได้เช่นเดียวกัน

พระสงฆ์ไทยสมัยก่อน(หรือแม้แต่ครูบาอาจารย์ที่เก่ง ๆ) เมื่อรู้ว่าผู้จะมาขอเป็นศิษย์เพื่อเรียนมนต์เป็นคนเช่นไร เมื่อมาขอเป็นศิษย์และเรียนมนต์จากท่าน ท่านจะมีข้อแม้เสมอ สำหรับผู้จะเรียนมนต์ที่เหมาะสมกับผู้นั้นเสมอว่า จะต้องไม่ลงมือทำร้ายผู้อื่นก่อน(กรณีศิษย์เป็นนักเลงชอบตีชอบต่อย)ไม่เช่นนั้นความคงกระพันก็จะเสื่อมไป จะต้องไม่ผิดลูกเมียผู้อื่น(กรณีเป็นคนเจ้าชู้)ไม่เช่นนั้นความมีเสน่ห์ก็จะเสื่อมไป เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม การใช้มนต์อย่างไร จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

โดยคุณ : พระวิทยากร05 doojai@hotmail.com วันที่ 16 มีนาคม 2546, 12.10 น.

ที่มา http://www.budpage.com/webboard/show_content.pl?board=2&topic=129
<!-- / message --><!-- attachments -->

 

ทะยอยส่งมาเรื่อยๆ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** หนึ่งกรรม ปรากฏ ****

ที่เพื่อนบ้านเรา...บ้านเราควรระวัง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ปะทะเดือดในอัฟกานิสถาน 2 วันตายแล้วกว่า 150 ศพ

​

คาบูล 26 ก.ย. - ทหารของกองกำลังผสมนานาชาตินำโดยกองกำลังสหรัฐในอัฟกานิสถานปะทะกับกบฏตอลีบานในเขตมูซา คาลา จังหวัดเฮลด์มาน ในภาคใต้ของอัฟกานิสถาน อย่างหนัก 2 วันติดต่อกัน

รายงานระบุว่า การปะทะระลอกล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันอังคาร ปะทุขึ้นหลังจากที่กบฏตอลีบานอาศัยอาคารหลายแห่งเป็นที่มั่นระดมยิงปืนกลถล่มเข้าใส่กองกำลังอัฟกานิสถานและกองกำลังผสมนานาชาติ ทำให้ต้องตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่เข้าถล่มเป็นระลอก ประมาณการว่ามีกบฏตอลีบานถูกสังหารไม่น้อยกว่า 100 คน ส่งผลให้มีกบฏตอลีบานเสียชีวิตจากการปะทะที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เมื่อวันจันทร์แล้วไม่น้อยกว่า 165 คน.- สำนักข่าวไทย

[ 2007-09-26 : 19:39:49 ]

อิสราเอลเปิดปฏิบัติการทหารในกาซา-ตาย 9 เจ็บเกือบ 30

​

กาซา 27 ก.ย.

 

มีข่าวสะพานข้ามแม่น้ำโขงพังในเวียดนาม จะว่าบ.รับเหมาชุ่ยก็ใช่ที่เพราะเขาค่อนข้างรักชาติกัน และบ.ที่ก่อสร้างก็เป็นบ.ญี่ปุ่นมารับเหมางาน

ดังนั้นจึงเป็นที่น่าสังเกตุได้ว่า สภาพทางธรณีวิทยาของโลกในหลายๆพื้นที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากที่เคยคำนวนค่ากันเอาไว้ ดังนั้นก็ขอให้ช่วยกันจับตาและระมัดระวัง สะพาน เขื่อน อ่างเก้บน้ำตามจุดต่างๆทั่วประเทศ หากเราอยู่ในพื้นที่เห็น รอยร้าว หรือเห็นดินยุบใกล้ๆ ต้องรีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทราบโดยเร็วครับ จะได้เตือนภัยกันก่อน คำว่า"ช่างมัน" อย่าได้นำมาใช้กันเลยในกรณีนี้ เนื่องจากความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินที่ตามมาสูงกว่าการเตือนภัยล่วงหน้ามากนักครับ

 

คาถาป้องกันคุณไสย...จากหลวงพ่อฤาษีลิงดำครับ โดยคุณ Newtype​

คาถาสนองกลับ (ผู้กระทำไสยศาสตร์)​

​

 

*** เมตตา ****

 

*** สิ่งไม่ดีทำอะไรไม่ได้ ****

ไม่มีใครทำอะไรได้...หากเรายังรู้จักพิจารณา "สัจจะ"
มีผลการกระทำด้วย "สัจจะ"

เพราะ... "หลักสัจจะธรรม" คือ สิ่งสูงสุด
ไสยศาสตร์ จะอยู่เหนือ... "หลักสัจจะธรรม" ไม่ได้

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** กรรมปรากฏชัดขึ้น ****

ด้วยความหวังดี

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

น่ากลัวจริงๆ ถ้าเรามีโอกาศได้สร้างโลกเราจะสร้างต้นไม้ชื่อต้น "ต้นไม้เนื้อสัตว์" ด้วยละ ค่ะ แบบปลูกเอาไว้กินได้เหมือนเนื้อสัตว์ อร่อยเหมือนกาน5555+ แล้วเราก็จะเป็นพระเจ้าอยู่บนเมฆ มี อิทธิฤทธิ์ เหนือมนุษย์ ควบคุมสมดุลโลก และเปนหย่ายยยยยยยยยยยยย ดีปะ

 

พบ"มักกะลีผล-นารีผล"ที่เมืองกาญจน์​

​

พบมักกะลีผลแบ่งเพศเป็นหญิงชายชัดเจน หนุ่มใหญ่อ้างได้มาจากเพื่อนที่เข้าไปเดินป่าแนวชายแดนไทย-พม่า ฝั่งกาญจนบุรี

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 31 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายมารุต ติเยาว์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175/1 หมู่ที่ 2 ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ว่า ได้พบกับมักกะลีผล หรือ นารีผล ซึ่งเป็นพันธุ์ไม้ที่หาดูได้อยาก จึงเดินทางมาพิสูจน์

ถึงบ้านเลขที่ดังกล่าวพบว่า นายมารุต กำลังนั่งส่องกล้องมักกะลีผลอยู่หน้าบ้านเพียงลำพัง ซึ่งมักกลีผลดังกล่าวมีทั้งหมด 16 ตัว มีลักษณะไม่ผิดกับมนุษย์ เมื่อสังเกตเห็นสามารถแยกเป็นเพศหญิงเพศชายอย่างเห็นได้ชัด โดยเพศชายจะมีขนาดความสูงประมาณ 16 ซม. วัดลำตัวกว้างประมาณ 4 ซม.เพศหญิงสูงประมาณ 15 ซม. ลำตัวกว้างประมาณ 3 ซม. มีสีเหลืองออกน้ำตาล น้ำตาลอ่อน และน้ำตาลเข้ม ลักษณะเปลือยกาย

ลักษณะด้านหน้า มีใบหน้า มีหูตา คิ้วจมูก เหมือนกับคนไม่มีผิด เพศหญิงก็จะมีเนินเต้านมนูนขึ้นมา มีอวัยวะเพศ ด้านหลังมีลักษณะเป็นเส้นผมเหยียดตรงยาวสยาย ส่วนเพศชายก็จะพบอวัยวะเพศเหมือนชาย ทั้งเพศชาย-หญิง ลำตัวตรง มือทั้งสองข้างชิดลำตัว ขาทั้งสองเหยียดตรง ปลายเท้าทั้งสองชี้ตรง ด้านบนของศีรษะ มีจุกคล้ายกับจุกมะเขือเทศทั้งสองเพศ ยาวประมาณ 1 ซม. ถ้าส่องกล้องดูบางตัวพบว่ามีขนทั่วทั้งตัว นอกจากนี้พอดมดู พบว่ามีกลิ่นคล้ายกับกลิ่นเปลือกไม้โดยทั่วไป

นายมารุต เปิดเผยว่า ตนได้รู้จักกับเพื่อนคนหนึ่งที่ อ.บ่อพลอย และได้เก็บมักกะลีผลมาจากในป่าลึก อ.ทองผาภูมิ โดยมีชาวพม่าที่มารับจ้างทำงานที่ อ.ทองผาภูมิ พาเข้าไปในป่าเมื่อไม่นานมานี้เองตนจึงได้ขอดูเห็นว่าแปลกดีจึงได้ขอแบ่งซื้อมา 20 ตัว แจกจ่ายเพื่อนๆที่รู้จักไปบ้าง ตอนนี้เหลือ 16 ตัว

"เพื่อนเล่าให้ฟังอีกว่า มักกะลีผลที่ได้มา หาได้ไม่ง่ายเพราะอยู่ในป่าลึกและคนที่เคยพบเท่านั้นจึงรู้ว่าขึ้นอยู่บริเวณใดของป่าซึ่งลำต้นจะมีลักษณะสูงใหญ่คล้ายกับต้นมะม่วง ใบเป็นแฉกๆ คล้ายกับใบสาเก ตอนที่ผลมักกะลีผลอ่อนจะเป็นสีเขียว ในส่วนที่เป็นอวัยวะจะเต่งตึง แต่พอผลแก่ก็จะเหี่ยวย่นอย่างเห็นได้ชัด"

ตนเห็นแปลกดีจึงนำมาเก็บเอาไว้ดู ตอนแรกก็ไม่เชื่อว่าจะมีไม้ประเภทนี้จริง จึงเข้าไปเปิดเวปไซท์ดู ปรากฏว่า เหมือนกับที่บรรยายไว้ในเวปไซท์ไม่มีผิด หลังจากที่ได้เก็บมาไว้ดูก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ หรือ พบชาย-หญิง นุ่งขาวห่มขาวมาให้เห็นแต่อย่างใด

ที่มา นสพ.คมชัดลึก
โดย : kruchan วันที่ 31 พฤษภาคม 2550 [ 21:59:56 ]
http://www.obec.go.th/board_obec/index.php?id=kruchan&option=viewer&ques_id=41

 

นารีผล
โดยคุณ Sitantara

​

นารีผล หรือมักกะลีผล หรือมัคคะลีผล เป็นพืชวิเศษชนิดหนึ่ง เกิดอยู่ในป่าหิมพานต์ ว่ากันว่า นารีผล ขั้วลูกอยู่ด้านบนศีรษะ มีรูปร่างเป็นหญิง ผลสด รูปร่างสะโอดสะอง สมส่วน ผิวพรรณงดงาม ปานเทพธิดา

ข้าพเจ้า เคยได้ยินเรื่องเล่าถึงนารีผล ในใจก็ใคร่อยากชมดูอยู่เหมือนกัน แต่จนใจ เราไม่มีตาทิพย์ ไม่มีฤทธิ์ จึงมิอาจไปชมดูได้... จึงได้แต่ตั้งจิตอธิษฐาน ขอเห็นในนิมิตฝันก็ยังดี... เมื่อจิตเป็นสมาธิดี เกิดนิมิตขึ้น ก็ได้เห็นนารีผลจริงๆ แต่เป็นนารีผล ที่มีใครไม่ทราบเด็ดมาจากต้นแล้ว นั่นคือข้าพเจ้า ไม่ได้เห็นต้นนารีผล เห็นเพียงร่างนารีผล ที่นอนเปลือยเปล่าอยู่พื้นหินแห่งหนึ่ง เท่านั้น... แต่นิมิต ก็คือภาพนิมิต ไม่ใช่ความจริง ไม่เหมือนเห็นด้วยตาจริง เชื่อถือไม่ได้...

ข้าพเจ้าได้ยินมาว่า

เมื่อประมาณหลายหมื่นปีก่อน ครั้งที่พระเวสสันดร พระนางมัทรี พร้อมด้วยบุตร ๒ คนคือ ชาลีกุมาร และ กัณหาชิณากุมารี ถูกเนรเทศจากนคร ได้เดินทางสู่ป่าหิมพานต์ และบำเพ็ญเพียร ปฏิบัติธรรมอยู่ที่นั้น

ที่ป่าหิมพานต์ มีสัตว์ป่ามากมายอันตรายรอบด้าน ทว่า สัตว์ป่าทั้งหลาย เมื่อได้รับเมตตาจิตจากพระเวสสันดร ก็คลายความดุร้ายลง กลายเป็นมิตร ... นอกจากสัตว์ป่าทั้งหลายแล้ว ก็ยังมีดาบส ฤๅษี นักสิทธิ์ วิทยาธร คนธรรพ์ ทั้งหลายอาศัยอยู่ หรือไปมาอยู่เรื่อยๆ พระนางมัทรี ผู้มีรูปร่างโสภา บางครั้งออกหาอาหาร หาผลไม้ตามลำพังคนเดียว หากนักสิทธิ์ วิทยาธร ตลอดถึงฤๅษี มาพบเข้า อาจตบะแตก แล้วล่วงศีลได้...

ท้าวสักกะเทวราช ซึ่งเป็นพระอินทร์ เล็งเห็นเหตุร้ายนี้แล้ว เพื่อเป็นการป้องกัน พระองค์จึงเนรมิต ต้นไม้วิเศษ ไว้รอบทิศ ณ ที่ไกล ก่อนถึงถิ่นแดน อันเป็นที่พำนักของพระเวสสันดรและนางมัทรี รวม ๑๖ ต้น

ต้นไม้วิเศษนี้ ออกผลซึ่งมีรูปร่างเหมือนสตรี ผลโตเต็มที่ จะมีทรวดทรงปานสาวงามแรกรุ่น แต่ผิวพรรณ ทรวดทรงองค์เอว รูปร่างหน้าตา งดงามปานเทพธิดา...

ว่ากันว่า จริงๆ แล้ว ผลหนึ่งผล ก็คือรุกขเทพธิดาหนึ่งนาง หรือ เมื่อต้นนารีผลออกดอก เสมือนเกิดวิมานแห่งรุกขเทพธิดาขึ้นที่นั่น เมื่อติดลูก ก็คือเทพธิดาจุติลงมาเกิดที่นั่น ความสวยงามสมบูรณ์แห่งผลนารีผล แต่ละผล จึงสวยงามต่างกัน ขึ้นอยู่กับบุญของเทพธิดาแต่ละนางด้วย...

เมื่อเหล่านักสิทธิ์ วิทยาธร เดินทางมาพบเข้า หากจิตใจไม่เข้มแข็งพอ ตบะแตก ก็จักได้เสพบำเรอกับนารีผล... เมื่อตบะแตก ฤทธิ์เสื่อม เหาะไปต่อไม่ได้ ... เมื่อไปต่อไม่ได้ ก็ไม่มีทางจะได้พบกับพระนางมัทรี.... การจะเดินทางต่อ หรือออกไป จำต้องบำเพ็ญเพียรใหม่ ยกระดับจิตขึ้นแล้ว จึงกลับออกมาได้....

นี่คือด่านป้องกัน ไม่ให้ใครไปล่วงศีลกับพระนางมัทรี และเทพธิดาที่จุติไปเกิดที่นารีผล แต่ละนางก็ไปด้วยกรรมของตน มิได้บังคับไปแต่อย่างใด

แม้ว่า พระเวสสันดร พระนางมัทรี จะเสด็จออกจากป่าเข้าเมืองไปแล้ว ต้นนารีผล ก็ยังคงมีอยู่ในที่นั้น ตราบเท่าทุกวันนี้ ยังมีดอกหอมกรุ่น มีนารีผลห้อยระย้าอยู่ดังเดิม แม้ลูกที่หมดอายุขัยจะร่วงหล่นเหี่ยวเฉาไป ลูกใหม่ก็ขึ้นมาแทนที่ไม่ได้ขาด

ว่ากันว่า บางครั้ง ฤๅษีที่บำเพ็ญเพียรจนตบะกล้า กิเลสสงบรำงับ เพื่อจะทดสอบจิตตน ก็จะเหาะไปที่ต้นนารีผล มองดูนารีผล ว่าตนจะตบะแตกหรือไม่... หรือบางครั้งฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ อาจจะพาลูกศิษย์ไปทดสอบระดับจิต ไปฝึกควบคุมจิต ที่นั่น ก็มี

และว่ากันว่า พวกนักสิทธิ์วิทยาธร มักจะเหาะไปเก็บนารีผล อุ้มมาเชยชมแล้ว ฝึกจิตใหม่ ค่อยเหาะกลับออกมา

นารีผล เป็นที่ต้องการของสัตว์วิเศษ (คนธรรพ์เป็นต้น) รวมถึงวิทยาธรทั้งหลายผู้ยังไม่หมดกามราคะ ดังนั้น การที่นารีผลจะเหี่ยวแห้งคาต้นแล้วร่วงหล่นนั้น เป็นไปได้ยาก ก่อนจะโรยรา จะมีเทวดา สัตว์วิเศษ และวิทยาธร เป็นต้นมาเก็บเอาไป

ที่มา http://sitantara.50webs.com/lablae/plablae08.html

หมายเหตุ

ต้นนารีผลในโลกมนุษย์ กับต้นนารีผลในป่าหิมพานต์ อาจจะเป็นสายพันธุ์ใกล้เคียงกัน จึงให้ผลที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายมนุษย์เหมือนกัน เพียงแต่มีขนาดที่แตกต่างกัน

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ยิงอีกแล้ว!! พม่า “ยิงทุกคน” บนท้องถนน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 กันยายน 2550 17:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ทหารยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชน-ผู้ประท้วงขว้างกระป๋องแก๊สน้ำตาคืนเข้าใส่ทหาร ในที่ชุมนุมแห่งแรกที่บริเวณใกล้สี่แยกมหาเจดีย์สุเล เมื่อวันพฤหัสบดี (27 ก.ย.) นี้จากนั้นก็มีเสียงปืนดังติดตามมา (ภาพ: Reuters) [SIZE=+0]</CENTER>[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
ทหารและตำรวจปราบจลาจลกว่า 200 นายติดอาวุธครบมือ เดินตระเวนไปตามท้องถนนกรุงย่างกุ้งเมื่อวันพฤหัสบดี (27 ก.ย.) นี้ ได้ยิงปืนเพื่อสลายฝูงชนที่บริเวณสถานีรถไฟ ขณะที่ทหารประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงเตือนให้ประชาชนกลับเข้าบ้านหรือไม่ก็ “จะถูกยิง”

มีผู้ประท้วง 1 คนล้มลงหลังจากเสียงปืนดังขึ้นในอีกเหตุการณ์หนึ่งที่บริเวณสี่แยกมหาเจดีย์สุเล ยังไม่ทราบว่าได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ล้มลงเพราะกระสุนปืน หรือล้มลงด้วยพิษแก๊สน้ำตาที่ทหาร-ตำรวจยิงสลายการชุมนุม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์

หลังจากทหารได้ประกาศยื่นคำขาดให้ประชาชนสลายตัวภายใน 10 นาที ขบวนแถวทหารก็ได้เคลื่อนไปตามถนน ขณะที่ตำรวจปราบจลาจลถือโล่กับกระบองไล่ทุบตีฝูงชนเพื่อเคลียร์พื้นที่แห่งนั้น

“เสียงมันดังน่ากลัวมาก” ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวถึงเสียงปืน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ตำรวจปราบจลาจลซึ่งเป็น "ไม้สอง" ควงกระบองเข้าสลายฝูงชนในย่านสี่แยกมหาเจดีย์สุเล เมื่อวันพฤหัสบดี (27 ก.ย.) หลังจากฝ่ายทหารลุยนำหน้าและประกาศจะยิงทุกคนบนท้องถนน (ภาพ: Reuters) [SIZE=+0]</CENTER>[/SIZE]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ขณะที่ห่างออกไปราว 500 เมตร กลุ่มผู้ประท้วงราว 100 คน กำลังเผชิญหน้ากับผู้ถืออาวุธ ที่บริเวณใกล้สถานีรถไฟกลางย่างกุ้ง และเสียงปืนดังขึ้น ผู้คนที่เกาะกลุ่มดูเหตุการณ์ตามทางเท้าต่างตกใจกลัววิ่งหาที่กำบังหลบกระสุนปืนของฝ่ายทหาร

ในเหตุการณ์ชุลมุนอีกที่หนึ่งในใกล้กับโรงแรมเทรดเดอร์ส (Traders Hotel) ย่านใจกลางเมือง ผู้ประท้วงได้โบกให้รถบรรทุกอิฐคันหนึ่งหยุด จากนั้นก็ได้ใช้ก้อนอิฐขว้างปาตอบโต้ทหารและตำรวจ

วันนี้ทางการยังได้ส่งแก๊งอันธพาลที่สนับสนุนรัฐบาลลงสู่ท้องถนนเพื่อร่วมขับไล่ผู้ชุมนุมประท้วง ในย่านใจกลางเมืองอีกด้วย

ผู้เห็นเหตุการณ์ ยังบอกกับรอยเตอร์ว่า ทหาร-ตำรวจ ได้เข้าตรวจค้นในวัดแห่งหนึ่งในย่านที่ห่างไกลของเขตอ๊อกกะลาปา (Okkalapa) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงย่างกุ้ง

ก่อนหน้านั้นทหาร-ตำรวจอีกกลุ่มหนึ่งก็ได้ยิงก๊าซน้ำตาล ยิงปืนขู่และยิงระเบิดควัน เข้าใส่ฝูงชนในย่านกลางเมือง มีผู้ประท้วงล้มพับลงอีกคนหลังสิ้นเสียงปืน ยังไม่ทราบชะตากรรม

ผู้เห็นเหตุการณ์ยังได้เห็นชาวต่างประเทศคนหนึ่งถูกตำรวจปราบจลาจลจำนวน 4 คน หามออกไปจากที่เกิดเหตุ ยังไม่ทีราบว่าได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตหรือไม่ แต่อย่างน้อยมีผู้ประท้วงบาดเจ็บไป 3 ราย ณ จุดที่ชุมนุมแห่งนั้น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมว่าหมอดูก็คู่กับหมอเดา มั่ว ๆ มากกว่า ถูกนิดเดียว