ผู้ที่คล่องตัวในอิทธิบาทสี่ ต้องปฏิบัติอย่างไร ?

ฮี้ ฮี้ ฮี้ ฮี้

ก็ นึกอยู่แล้วหละเดี๋ยวจะต้อง พูดแบบนี้

ใช่ ตอบตรงมากเลย ตอบแบบว่า เหมือนเอา คำถามนั่นแหละมาเป็นคำตอบ

คือ ตอบแล้วก็ไม่ได้ รู้ในสิ่งที่ไม่รู้

ตอบแล้ว ก็ไม่ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่ได้ฟัง

ทีนี้ หากคุณ เซเบลอ จะหมายเอา ธรรมที่ยิ่งขึ้น คือ ธรรมที่ไม่เคยได้ยินได้
ฟังมาก่อนเป็น อรรถสาระ ของ ประโยชน์ในการ ถามตอบ

ไม่ใช่ว่า ถาม 1 ตอบ 0.5 + 0.5 = 1 ไง

หรือ เอาแบบว่า ก้ำปั้นเนี่ยะ ทุบดินลงไป แล้วถอดแสควร์รูทได้ ความพอใจ
แล้ว กระดื๊บๆ พอผ่าน ก็จะอีกอย่างหนึ่ง

จริงไหม

ทีนี้ หากคุณ เซเบลอ ชอบแบบว่า ถาม 1 แล้วตอบ 0.01 +0.02 +0.07
เสร็จแล้ว ทรงจำเอาไว้แบบนั้น เจอพระไตรปิฏกก็ คว่ำเสีย ไม่รับฟัง ไม่นำ
ไปใช้ ไม่เอาไปเปิดเผยเด็ดขาด เพราะ .................

ก็จะอีกเรื่องหนึ่ง จริงไหม

 

มีอะไรสงสัย มีอะไร ค้าน เชิญมาสอบถาม หลวงพี่เล็ก ได้ด้วยตัวเอง นะครับ


.

 

ทีเนี่ยะ

สังเกตดีๆ นะ

ความไพบูลย์ ความร่าเริง ในการ เปิดเผย สัทธรรม ธรรมของพระพุทธองค์ ให้ถูกต้อง
ครบถ้วนเนี่ยะ มีไหม

หากไม่มี อิทธิบาท4 ไม่ได้เจริญอยู่ ...............

อิทธิบาท4 ไม่ได้เจริญอยู่ ธรรมะที่ถูกต้องไม่เผยแผ่ ไม่ทำอิทธิบาทไว้ด้วยดี
นี่ในวงการพระท่านจะทราบเลย ท่านจะบอกต่อๆกันเลย ว่า มีผลต่ออายุเหมือน
กันนะ

 

สั้นๆก็

อันผู้ใดผู้หนึ่ง

ทำฉันทะให้เกิด

เมื่อทำฉันทะเกิดแล้ว ก็เพียรให้ฉันทะเกิดบ่อยๆ
ความเพียรต่อเนื่อง เรียกว่า มี วิริยะ


เมื่อ มีวิริยะ อย่างต่อเนื่อง จิตตะย่อมบังเกิด

ความมั่นคงความตั่งมั่น อย่างต่อเนื่อง ย่อมบังเกิดวิมังสา

 

กั๊กๆ เนี่ยะ ก็เหมือนเดิม คือ เหมือนที่อุปมาตะกี้ ประมาณว่า

เห็นขอทาน เขาขัดสน เข็ญใจ แต่ตะกี้นี้ โยนขี้ให้ขอทาน ปล้นทรัพย์ขอทาน

แต่อันนี้ ตน คือ คุณ เซเบลอเนี่ยะ กลายเป็น คนเข็ญใจ

พอกลายเป็นคนเข็ญใจ แล้ว ก็บอกคนอื่น สอนคนอื่น ถึง วิธีรวยทรัพย์ เว้นเฮ้ย

บอกว่า รู้วิธีรวยทรัพย์ มีทรัพย์ คือ ต้องไปปรึกษาท่านนั้น ท่านนี้ แล้วจะรวย

โถ่..................................


ก็ดูเอาคน ที่พึ่งไปถามมา เรียนมา ที่ เซเบลอมาตรงนี้ก็ได้ว่า ผลจะเป็นยังไง

ธรรมทายาทเนี่ยะ เป็นยังไง หาก เป็นได้แค่นี้ แหม..............

จะต้องไปเรียนกับใครที่ไหนหละคร้าบ ดูตัวอย่างปัจจุบันธรรมนี่แหละ ขัดสน
ถึงขนาดต้องโยนให้เป็น ภาระคนอื่นอยู่นี่ โยนไปเรื่อยเลย

 

พระพุทธเจ้า ตรัส 1ไม่มีสอง
ผมชอบสโลแกนนี้ เจ้าของกระทู้เคยพิมพ์ให้อ่าน

***********

อิทธิบาท ๔ อันผู้ใดผู้หนึ่ง
เจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว กระทำให้เป็นดุจยาน กระทำให้เป็นที่ตั้ง ให้คล่องแคล่วแล้ว
สั่งสมแล้ว ปรารภดีแล้ว ผู้นั้น เมื่อจำนงอยู่พึงดำรงอยู่ได้กัลป์หนึ่ง หรือเกินกว่ากัลป์หนึ่ง

************

 

ปรุงแต่ง เก่งจริง

ไม่กี่นาที ...

 

เอาหน่า ก็ใช่ว่า จะไม่เคยรุ้จักกัน ก็เคยเห็นตีนงุ เห็นนมกันมาก่อน ชะมะ

ดังนั้น เวลาคุย ช่วยทำให้มันเป็นเรื่อง ระหว่างเราสองคน ไว้หน่อย

อย่า ส่งจิตออกนอก เอาไปนำเสนอ กะว่า จะมีใครเห็นด้วย จะหาพวกว่างั้น

เสวนาธรรมกันสองคน หน่าคร้าบ ไม่ใช่เรื่อง รณรงค์การวิวาท ( ไม่ได้
แปลว่า ทะเลาะกันนะ วิ-มาจาก วิเศษ หรือ หลากหลาย วาท มาจาก วาทะ )

***************

เอ่อนี่ ผมจะ ทะลึ่งกล่าวอะไรให้ฟัง

คุณ อยากหล่อ อยากหนุ่ม มีอายุยืนไหม

การที่จะหนุ่ม จะหล่อ อายุยืน มันก็ต้อง บำรุงกายสังขารด้วยอาหารคือคำข้าว
ที่ปราศจากอกุศลที่เป็นโทษถูกไหม

ทีนี้ หากอยากมี จิตหล่อ แก้ที่จิตหล่อ ทำไง !?

............. มันเข้าใจยากตรงไหนเนี่ยะ !

คุณเองก็ตอบได้ และ เพียรได้ พินาดีๆ สิ

จิตเป็นประธาน เนี่ยะ เรียนตั้งแต่ อนุบาลเลยมั้ง

 

อันนี้เกี่ยวกับ กระทู้ หรือเปล่า ไม่รู้นะ ไป พินา เอาเอง

*************

ปรกติ คนเรา จะอยู่ยาว มันก็ต้องมีเหตุ

เหตุระหว่าง " กูอยากอยู่ยาว " กับ " อยู่ยาวโดยมีหน้าที่ " สองอันนี้ อันไหนเป็น กุศล

ทีนี้ ก็อาจจะตอบกันได้ไม่ยาก เบลอแค่ไหน ก็ตอบได้ว่า "อยู่โดยหน้าที่" สิ

ก็จะถามต่อว่า การอยู่อย่างมีหน้าที่ ใช้ปัจจัยอะไรในการ ดำรงค์ไว้ซึ่งหน้าที่

1. นั่งนิ่งๆ ไม่ไหว ไม่ติง อยู่บนเก้าอี้ ครองเก้าอี้ที่ได้ตามหน้าที่ เอาไว้ เรียกว่า เขาสมบัติ

2. ทำงานทำการตามหน้าที่ให้ครบถ้วน สมบูรณ์ ไม่ตกไม่หล่น ไม่พลั้งไปทางทำร้ายใคร
แม้แต่คนเดียว จนเป็นเหตุให้สมควรกับการตั้งอยู่ของ " หน้าที่ "


***********

ทีเนี้ยะ จริงหรือไม่จริง คนบางคนในโลกนี้ ไม่รู้หน้าที่ ไม่รู้จักเรื่องหน้าที่ และ วิธี
การทำให้ " หน้าที่ " มันดำรงค์อยู่ แต่ไปสำคัญเอาว่า มีตัวกู ตัวกู มันยังไม่สิ้น
มันก็เลยคิดได้แค่ว่า " ต้องนั่งนิ่งๆ ครอง สมบัติ " เข้างิโงกสมบัติ รากงอกติด
เก้าอี้ ใครเคลื่อนย้ายไม่ได้

แต่ถ้า คนเป็นหละ คนที่เขารู้จักประโยชน์ของหน้าที่ การรักษาปัจจัยว่าด้วยการมี หน้าที่
เขาจะทำอย่างไร

ฮะเอ่อ

คำตอบอยู่ในงานนิทัศการณ์ ใต้โรงพยาบาลศิริราช อีกที่ ก็อาจจะเป็น โรงพยาบาลจุฬา

แต่....................

สมมติว่า เกิดรู้สึกว่า หมดหน้าที่ หรือ หน้าที่นั้น ไม่มีความจำเป็นอีก อันนี้ จะอยู่กัน
ได้ต่อหรือไม่ นี้ก็เรื่องหนึ่ง แต่................เวลาใครจะรู้สึกว่าหมดหน้าที่ ก็มักจะมี
การเข้าไปกระซิบบอก " หน้าที่ " ให้รู้ และ ขอให้ดำรงค์หน้าที่ อันนี้ก็จะเป็นอีกแบบ
หนึ่งในการ ครองหน้าที่ต่อ

ดังนั้น

พินาเอาละกันว่า

ระหว่าง " นั่งนิ่งๆที่คิดว่าใช่ " กับ " เรื่องว่าด้วยรู้ปัจจัยในการมีหน้าที่ " อันไหน กุศล
และเป็นเรื่องที่สมควรแก่เหตุ

ซึ่ง คุณ!! คุณนั่นแหละ คุณเอง ก็ พิจารณาได้ ไม่ใช่ไม่ได้

***********


ทีนี้ จะติดอยู่เรื่องเดียว คือ " หน้าที่ " เนี่ยะ อยู่ดีๆ อุปโลคเองได้หรือเปล่า
อุปโลคเอง ไม่ฉลาดพอ แป๊ปเดียวเองนะ หน้าที่เสร็จ ก็ไปเลย

 

ไม่รับรอง เเละไม่ไปคัดค้่านเค้านั้นเเละทางที่ดีเเเล้ว. พระเจ้าท่านเทศอะไร ถ้ารู้สึกว่าไม่ตรงกับที่เล่าเรียนก็ปล่อยวางสะ ไม่ใช่ว่ายกตนข่มท่านเถียงกับพระไปได้ มันไม่ได้ช่วยให้ก้าวหน้าสักนิด ถ้าจะบอกว่าเราคิดถูกสุดก็ต้องไปปฏิบัติเอ้าเล่าปังเอ่ย ผลเป็นอย่างไรเตัวเรารู้เอง ไม่ใช่ว่าเถียงเเล้วอธิบาทนั้นก้าวหน้าสักนิด

 

เอ่อ พี่คร้าบ หากพี่เป็น คนสิ้นกิเลส ปราศจากตัณหา

เวลา กล่าวเรื่องอะไรแล้ว บังเอิญว่า ทรงจำมาผิด ซึ่ง มันเกิดขึ้นได้
ไม่ใช่ความผิด หรือ มุสา อะไร ก็แค่ ทรงจำผิด

แล้ว บังเอิญว่า มีเพื่อนคุณ เขาสะกิด บอกว่า ม่ายช่ายๆ ข้อความ
ที่มีสอนอยู่ เขาสอนกันแบบนี้

เนี่ยะ คุณจะทำอย่างไรกับ เพื่อนคนนั้นคร้าบ ............

ตกลง กุศล หรือ อกุศล มันเกิดขึ้นคร้าบ ในการ สนทนาธรรมะ

 

ท่านเทพทั้งหลาย ต่อๆครับ กระผมกำลัง พินา อยู่



ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรม...

 

นกแก้วนกขุนทอง ร้องขับขาน
ก้องกังวานหวาน ร้องระงม
เกลือกกลั้วมัวเมา เคล้าโคลนตม
หวังบรมสุข พบทุกข์วจี