ด่วน!! รีบจองที่นั่งเฝ้าระวัง: เดี่ยวภัยพิบัติ1 เเสดงแล้ววันนี้ทุกประเทศทั่วโลก

มีแต่ข่าวเจ๋งๆเลยท่าน ว่าแต่วันนี้ที่สุรินทร์ อากาศหนาวพอสมควร มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นซะงั้น อยู่ๆ ช่วงเช้ามืดเกิดฝนรินมาอย่างไม่มีสาเหตุ ทั้งๆที่ไม่เคยมีเหตุประหลาดแบบนี้เกิดขึ้น ว่ามีฝนตกในช่่วงฤดูที่กำลังจะหนาว ซะงั้น

 

เป็นเพราะอยู่ทางอีสานใต้หรือเปล่าครับ...

 

-รอบเย็นกับการสั่นไหวในรอบวันครับ

​

 

ข่าวเช้าวันที 28-12-2012 เวลา 07.30 น.

เหนือยังหนาวจัดยอดดอยน้ำค้างแข็งภาคอื่นอุ่นใต้ฝนลด


กรมอุตุฯ เผย ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกตอนบน มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า ส่วน ภาคใต้ มีฝนลดลง 1 - 2 วัน ขณะที่ กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า

บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคเหนือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกตอนบน มีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า บริเวณภูเขาสูงยังคงมีอากาศหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่งตามยอดดอย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้มีกำลังอ่อนลง ทำให้ภาคใต้มีฝนลดลงในระยะ 1-2 วันนี้ สำหรับ พายุดีเปรสชัน “หวู่คง” บริเวณทะเลจีนใต้จะอ่อนกำลังลงและสลายตัวใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามในวันที่ 29 ธันวาคม 2555 โดยพายุนี้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 30 ธ.ค. 2555 ถึง 1 ม.ค. 2556 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้ จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง คลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่
ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส
ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัดและมีน้ำค้างแข็งบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-15 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นทางตอนบนของภาค กับมีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส
อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพร ขึ้นมา:
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร
ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไป :
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า
อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ที่มาจาก INN


พายุโซนร้อน"หวู่คง"พัดถล่มฟิลิปปินส์



พายุโซนร้อน"หวู่คง"ซึ่งพัดถล่มพื้นที่ภาคกลางของฟิลิปปินส์เมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 คนสูญหาย 3 คน

อิทธิพลของพายุโซนร้อนหวู่คงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมแรง ต้นไม้จำนวนมากหักโค่น บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้น้ำในแม่น้ำเอ่อท้นเข้าท่วมบ้านเรือนและถนนหลายสาย มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 5 ราย ในจำนวนนี้ 3 รายเป็นคนในครอบครัวเดียวกันเสียชีวิตเนื่องจากต้นไม้หักโค่นลงมาทับบ้านที่จังหวัดซามาร์ตะวันออก ขณะที่หน่วยยามฝั่งรายงานว่า ผู้โดยสารกว่า 9,000 คนต้องติดค้างตามท่าเรือต่างๆ ในกรุงมะนิลา ลูเซน่า คาลาปันและแมมบูเรา

รายงานระบุว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันใน 22 เมือง ประชาชน 13,520 คนได้รับผลกระทบ อีกกว่า 6,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน ล่าสุดในวันนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว ขณะที่โซนร้อนหวู่คงเริ่มอ่อนกำลังลง และตอนนี้กำลังเคลื่อนไปยังเกาะปาลาวัน ทางตะวันตกของประเทศ

ปัตตานี-สถานการณ์น้ำท่วมกลับสู่ภาวะปกติ



สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดปัตตานีลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ ม.2 บ้านจางา ตำบลปะกาฮารัง ที่ถูกน้ำท่วมกว่า 3 วัน น้ำลดลงกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว

ล่าสุดวันนี้ ( 27 ธ.ค.) ระดับน้ำในแม่น้ำปัตตานีลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตลอด 2 วันที่ผ่านมาฝนตกลงมาไม่มาก ประกอบกับน้ำเหนือจากจังหวัดยะลาที่ไหลลงมาสู่แม่น้ำปัตตานีไม่ได้ส่งผลต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำปัตตานี ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่ติดริมแม่น้ำ โดยเฉพาะบริเวณ ม.2 บ้านจางา ตำบลปะกาฮารัง อำเภอเมืองปัตตานี ที่ถูกน้ำท่วมกว่า 3 วัน ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และกลับเข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เหลือเพียงแค่น้ำท่วมขังภายในหมู่บ้านเท่านั้น

ชาวบ้าน บอกว่ารู้สึกดีใจที่น้ำไม่ท่วมสูง และกินเวลานานเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา ทำให้หลายคนได้ออกไปประกอบอาชีพได้ตามปกติเป็นครั่งแรก หลังจากที่ผ่านมาต้องหยุดงานไปหลายวัน เนื่องจากฝนตกหนัก น้ำในแม่น้ำเชียวกราด และเกิดน้ำท่วมซ้ำอีก จึงไม่กล้าที่จะออกไปประกอบอาชีพ ทำให้เสียรายได้แต่ก็ยังเป็นห่วงน้ำที่ขังอยู่จะเน่าเสีย และส่งกลิ่นเหม็นทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบจากโรคผิวหนัง และทางเดินหายใจ จึงอยากให้ทางจังหวัดเข้ามาดูแลด้วย

ปัตตานี-ชาวเรือต้องหยุดหาปลาจากคลื่นลมแรง วอนรัฐช่วย



ชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดปัตตานี วอนภาครัฐเร่งหามาตรการช่วยเหลือ หลังเจอคลื่นลมมรสุมแรงจนไม่สามารถออกทำประมงได้ คาดหยุดยาวกว่าเดือน

จากบริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประทศไทยตอนบน ซึ่งถึงแม้จะมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยภาคใต้ และทะเลอันดามัน มีกำลังแรงและคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างคลื่นยังสูง 2 - 3 เมตร

ขณะที่จังหวัดปัตตานี แจ้งเตือนให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณชายฝั่งอ่าวไทยใน 6 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง หนองจิก ยะหริ่ง ปะนาเระ สายบุรี และ อำเภอไม้แก่น ระมัดระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้

ด้านนายประมุข ลมุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ลงพื้นที่บ้านแหลมนกเพื่อตรวจสอบสภาพคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่งจนน้ำล้นพนังกั้นคลื่นเข้าท่วมพื้นที่ใกล้ที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน และเกรงจะเกิดอันตราย โดยกำชับให้จัดเวรยามคอยเฝ้าระวัง รวมทั้งเตรียมพร้อมอพยพหากสถานการณ์รุนแรงขึ้นตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมไปรับทราบข้อมูลจากชาวประมงพื้นบ้านที่ขอความช่วยเหลือ โดยให้ทางจังหวัดเร่งหาอาชีพเสริมให้มีรายได้ในช่วงไม่ได้ออกทะเลจับสัตว์น้ำในช่วงที่เกิดมรสุมได้ ซึ่งอาจยืดเยื้อยาวนานกว่า 3 เดือน

นายอริสมันต์ สะแอแต๊ะ ผู้ใหญ่บ้านแหลมนก กล่าวว่าอยากให้หน่วยงานของรัฐจัดหางบประมาณเข้ามาจ้างงานชาวบ้านอาทิ ทำความสะอาดเก็บกวาดขยะที่มากับทะเล เพื่อให้มีงานทำ ซึ่งตอนนี้ชาวประมงเกือบทั้งหมู่บ้านไม่มีงานทำ และคงต้องรอไปจนถึงเดือน ก.พ. ปีหน้า

ที่มาจาก ครอบครัวข่าว 3

ยะลาน้ำท่วมเริ่มคลี่คลาย


น้ำท่วมยะลา หลายจุดเริ่มลดระดับแล้ว แต่พื้นที่ริมแม่น้ำสายบุรียังอ่วม ประชาชนเดือดร้อน 165 ครัวเรือน

วันนี้ (27 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่ จ.ยะลา ฝนได้หยุดตกบ้างแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้จนถึงเช้าวันนี้ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรีลดลง จากระดับ 7 เมตร มาอยู่ที่ระดับ 6 เมตร ส่งผลให้พื้นที่น้ำท่วมบางส่วนระดับน้ำลดลงแล้ว แต่ก็ยังมีพื้นที่ริมแม่น้ำสายบุรีที่ยังคงมีน้ำท่วมอยู่ เช่น ที่ ต.อาซ่อง ต.ตะโล๊ะหะลอ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบต้องขนย้ายสิ่งของหนีน้ำมากางเต็นท์อาศัยนอนอยู่ริมถนนในหมู่บ้าน ส่วนในพื้นที่ ต.ท่าธง ซึ่งเป็นพื้นที่ปลายน้ำของแม่น้ำสายบุรี ปริมาณน้ำยังคงทรงตัว เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาฝนได้ตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นต้นน้ำ
ทางศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และ ดินถล่ม จังหวัดยะลา ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัย มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 1 อำเภอ คือ ที่ อ.รามัน ใน ต.อาซ่อง ต.ท่าธง ต.ตะโล๊ะหะลอ ต.เกะรอ ต.กายูบอเกาะ และ ต.บาลอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 165 ครัวเรือน อพยพ 1 ครัวเรือน ถนนทางเข้าบ้านฮูยงปาเซ หมู่ 1 ต.ตะโล๊ะหะลอ เสียหาย ทางด้านการเกษตรอยู่ระหว่างสำรวจ

สังเวยแล้ว 2 ศพน้ำท่วมหนักฝั่งตะวันออกมาเลเซีย


ภาคตะวันออกของมาเลเซียกำลังเผชิญอุทกภัยอย่างหนักที่เกิดจากพายุฝนในช่วงฤดูมรสุม มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพ ทางการต้องเร่งอพยพประชาชนแล้วกว่า 16,000 คน

วันนี้ ( 27 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียว่า พื้นที่ตามแนวชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซียกำลังเผชิญอุทกภัยอย่างหนัก ที่มีสาเหตุจากพายุฝนในช่วงฤดูมรสุม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพ ขณะที่ทางการเร่งอพยพประชาชนแล้วกว่า 16,000 คน


รายงานของศูนย์เฝ้าระวังอุทกภัยมาเลเซีย ระบุว่า เจ้าหน้าที่อพยพประชาชนใน 3 รัฐทางฝั่งตะวันออก ได้แก่ตรังกานู ปะหัง และกลันตัน ที่กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกระจายประชาชนเข้าไปพำนักอยู่ในโรงเรียน อาคารมูลนิธิ และอาคารสถานที่ราชการหลายแห่ง ที่ต้องแปรสภาพเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว


ส่วนรายละเอียดของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพนั้น ประกอบด้วยหญิงรายหนึ่ง เสียชีวิตขณะออกไปตกปลาริมแม่น้ำ แต่ถูกกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากพัดพาหายไป ส่วนอีกรายเป็นเด็กชายวัย 15 ปี ประสบอุบัติเหตุลื่นไถลตกจากเรือโดยสาร ทำให้ถูกกระแสน้ำพัดพาจมหายไปเช่นกัน


ขณะที่รายงานคำพยากรณ์อากาศของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า จะมีฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ฝั่งตะวันออกตลอดทั้งสัปดาห์นี้ เรื่อยไปจนถึงช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวของมาเลเซียกำลังอยู่ในช่วงฤดูมรสุม ที่จะกินเวลาตั้งแต่เดือนพ.ย.จนถึงก.พ.

ที่มาจาก เดลินิวส์

สหรัฐฯ-ประกาศภาวะฉุกเฉินพายุหิมะใน 2 รัฐ



อิทธิพลของพายุหิมะ ได้แผ่ขยายวงกว้างสร้างความเสียหาย ในหลายพื้นที่ทั่วสหรัฐฯ ล่าสุดทางการได้ประกาวภาวะฉุกเฉิน 2 รัฐ หลังไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง และมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 6 คน

สำนักอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐฯ ออกคำเตือนว่าจะเกิดพายุหิมะและพายุฤดูหนาวในรัฐอิลลินอยส์ , อินเดียนา และ โอไฮโอ และพื้นที่ส่วนใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะมีหิมะตกหนักในพื้นที่ตะวันตกของรัฐนิวยอร์ก และ ตอนกลางของรัฐเมน ประมาณ 6-8 นิ้ว และ ว่ากระแสลมฤดูหนาวจะทำให้ทัศนวิสัยบนท้องถนนลดลง ผู้ที่จะเดินทางในช่วงวันหยุดยาวคริสต์มาส ต้องใช้ความระมัดระวัง หลังจากที่พายุหิมะได้พัดถล่มในรัฐเท็กซัส พื้นที่ตอนใต้ของสหรัฐฯ ไปแล้ว และมีรายงานว่ามีพายุทอร์นาโด 34 ลูก เกิดขึ้นในรัฐเท็กซัส ลุยเซียนา มิสซิสซิปปี และ แอละแบมา รวมไปถึง โอคลาโฮมาซิตี้ เมื่ออังคารที่ผ่านมา สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนประชาชน ต้นไม้หักโค่นล้มระเนระนาด และ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 6 คน

ล่าสุดทางการสหรัฐฯ ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินในรัฐมิสซิสซิปปี และ แอละแบมา หลังจากลมพายุพัดเสาไฟฟ้าหักโค่น จนเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งทำให้หลายบ้านต้องฉลองค่ำคืนคริสต์มาส ท่ามกลางความมืด

นอกจากนี้สภาพอากาศที่เลวร้าย ยังทำให้เที่ยวบินกว่า 1,500 เที่ยวถูกยกเลิก ขณะที่ผู้คนที่กำลังเดินทางในช่วงวันหยุดยาวของเทศกาลคริสต์มาส เฝ้ารอการกลับบ้านหรือท่องเที่ยว โดยเฉพาะสนามบินหลายแห่งในนิวยอร์ก ซิตี มีรายงานว่าเที่ยวบินจำนวนมากต้องล่าช้า นานกว่า 1 ชั่วโมง ขณะที่สนามบินน๊วก มีเที่ยวบินล่าช้า เฉลี่ยเกือบ 3 ชั่วโมง ทางสนามบินเตือนให้ผู้โดยสารตรวจสอบเที่ยวบินถูกยกเลิกหรือล่าช้าหรือไม่ ก่อนออกจากบ้าน

ทั้งนี้ อาจมีเที่ยวบินล่าช้าเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากคาดว่าพายุหิมะจะเคลื่อนตัวพัดถล่มรัฐนิวยอร์ก และ เมน ในอีก 24 ชั่วโมงข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้เกิดหิมะตกสูงประมาณ 18 นิ้ว

ที่มาจาก ครอบครัวข่าว 3

เตือน 7 จุดเสี่ยง เกิดอุบัติเหตุบนทางหลวง



พ.ต.อ.ดิเรก ปลั่งดี รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง(บก.ทล.) เปิดเผยถึง จุดเสี่ยงถนนทางหลวง ที่มักเกิดอุบัติเหตุรุนแรงในช่วงเทศกาลปีใหม่ ใน 7 เส้นทางสายหลัก

โดยกองตำรวจทางหลวง ได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงทั้ง 8 กองกำกับการ 41 สถานี เร่งดำเนินการตั้งจุดตรวจจับความเร็วทุกระยะบนทางหลวงที่เป็นจุดเสี่ยงและจุดที่รับผิดชอบ ซึ่งจะมีด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ตลอดเส้นทาง ตรวจจับบริเวณเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ และเส้นทึบสีเหลืองซึ่งเป็นเขตห้ามแซง

7 จุดเสี่ยง เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่

1.ถนนพหลโยธิน ช่วง ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณ กม.77-78 ซึ่งมีลักษณะเป็นโค้งอันตราย

2.ถนนมิตรภาพ ช่วง ต.มวกเหล็ก อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี กม.27-30 ลักษณะเป็นทางลงเขาลาดชัน โค้งหักมุมต่อเนื่อง

3.ถนนพระราม 2 ช่วง หน้าตลาดปลา อ.เมือง จ.สมุทรสาคร กม.ที่ 28-35 (ขาเข้า กทม.) ลักษณะ ถนนลื่น เนื้องจากมีน้ำเมือกปลาไหลจากรถบรรทุกปลาเป็นจำนวนมาก

4.ทางหลวงหมายเลข 304 ช่วง กบินทร์-ปักธงชัย กม.42-48 ลักษณะ เป็นทางขึ้น-ลง เขาลาดชัน โค้งตัวเอส เบี่ยงการจราจรจาก 4 ช่องทาง เหลือ 2 ช่องทาง เป็นระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร

5.ทางหลวงหมายเลข 348 ช่วง อรัญประเทศ-โนนดินแดง จ.สระแก้ว ระหว่าง กม.76-79 ลักษณะ เป็นทางขึ้น-ลงลาดชัน โค้งตัวเอส มี 2 ช่องจราจร

6.ถนนมิตรภาขาขึ้น ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กม.40+500 ลักษณะ มีรถจอดซื้อของฝากจำนวนมาก และมีจุดกลับรถ

7.ถนนมิตราภาพขาล่อง จ.นครราชสีมา ช่วง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กม.38-35 ลักษณะ เป็นทางลงเนินลาดชัน รถส่วนใหญ่ใช้ความเร็วสูง

ที่มาจาก MThai News

 

สกู๊ปพิเศษ

ทางเลี่ยงรถติด ทางลัด ช่วงปีใหม่



ทางเลี่ยงรถติด กรุงเทพ – ภาคเหนือ

เส้นทางที่ 1 : ใช้ถนนวิภาวดีรังสิต (ทางหลวงหมายเลข 31) หรือ ใช้ทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ เข้าถนนพหลโยธิน ถึงต่างระดับบางปะอิน เลี้ยวซ้าย เข้าสายเอเซีย (ทางหลวงหมายเลข 32) มุ่งสู่ จ . นครสวรรค์ เพื่อเดินทางสู่ ภาคเหนือ

เส้นทางที่ 2 : จากถนนรัตนาธิเบศร์ (สาย 302) ถึงต่างระดับบางใหญ่ เลี้ยวขวาเข้าถนนกาญจนาภิเษก ถึงต่างระดับบางบัวทอง เลี้ยวซ้ายเข้าถนนบางบัวทอง – สุพรรณบุรี (ทางหลวงหมายเลข 340) ผ่าน จ.สุพรรณบุรี จ.ชัยนาท เข้าสายเอเซีย ที่ อ.มโนรมย์ มุ่งสู่ จ.นครสวรรค์เพื่อไป ภาคเหนือ

เส้นทางที่ 3 : จากถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก ) ถึงต่างระดับเชียงรากน้อย เลี้ยวซ้ายเข้าสายบางปะอิน – บางปะหัน (ทางหลวงหมายเลข 347) เข้าสายเอเชีย ที่ อ.บางปะหัน เพื่อไปภาคเหนือ

เส้นทางเลี่ยงรถติด จ . นครสวรรค์
เส้นทางที่ 1 : จากต่างระดับอินทร์บุรี เลี้ยวขวา ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 ผ่าน อ . ตากฟ้า ท่าตะโก สากเหล็ก ถึงสามแยกวังทอง เลี้ยวซ้าย มุ่งสู่ จ . พิษณุโลก คลิกดูแผนที่

เส้นทางที่ 2 : เมื่อถึงแยกเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ( กม . 331+810 บนทางหลวงหมายเลข 1) เลี้ยวซ้าย ใช้ทางเลี่ยงเมืองนครสวรรค์ ( ทางหลวงหมายเลข 122 ) ถึงสามแยกหนองตะโก
2.1 เลี้ยวซ้ายไป จ . กำแพงเพชร
2.2 เลี้ยวขวาไป จ.พิษณุโลก


ทางเลี่ยงรถติด กรุงเทพฯ – ภาคเหนือ


เส้นทางลัด ภาคเหนือ

ทางเลี่ยงรถติด กรุงเทพ – ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เส้นทางที่ 1 : จากถนนกาญจนาภิเษก(วงแหวนตะวันตก )มุ่งหน้าสู่ต่างระดับบางปะอิน เข้าถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งสู่สระบุรี เพื่อไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เส้นทางที่ 2 : จากถนนกาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันออก ) มุ่งหน้าสู่ต่างระดับบางปะอิน เลี้ยวขวาเข้าถนนพหลโยธิน( ทางหลวงหมายเลข 1 ) มุ่งสู่สระบุรี เพื่อไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เส้นทางที่ 3 : จากต่างระดับรังสิต ไปตามถนนรังสิต – องครักษ์ (สาย 305) ตรงไปจังหวัดนครนายก เลี้ยวขวาเข้าถนนสุวรรณศร ( ทางหลวงหมายเลข 33 ) มุ่งสู่ อ . กบินทร์บุรี ถึงสี่แยกกบินทร์บุรี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกบินทร์บุรี – ปักธงชัย (ทางหลวงหมายเลข 304) เพื่อไป จ .นครราชสีมา

เส้นทางที่ 4 : ใช้ถนนรามอินทรา – สุวินทวงค์ (ทางหลวงหมายเลข 304) ผ่านฉะเชิงเทรา , พนมสารคาม , กบินทร์บุรี , ปักธงชัย เพื่อไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เส้นทางเลี่ยงรถติด จ . สระบุรี
เส้นทางที่ 1 : จากแยกเลี่ยงเมืองสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนรอบเมืองสระบุรีด้านตะวันออก ( ทางหลวงหมายเลข 362 ) บรรจบถนนมิตรภาพ เลี้ยวขวาเพื่อมุ่งสู่ จ . นครราชสีมา

เส้นทางที่ 2 : จากแยกเลี่ยงเมืองสระบุรี เลี้ยวขวาเข้าถนนวงแหวนรอบเมืองสระบุรีด้านตะวันตก ( ทางหลวงหมายเลข 362 ) บรรจบทางหลวงหมายเลข 21 มุ่งหน้าไปทาง จ . เพชรบูรณ์ ถึงแยกอำเภอท่าหลวง จ . ลพบุรี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2256 ถึง อ . ด่านขุนทด เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 201 ไป จ . ชัยภูมิ เพื่อ ไป ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


ทางเลี่ยงรถติด กรุงเทพ – ภาคอีสาน


ทางเลี่ยงรถติด กรุงเทพ – ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทางเลี่ยงรถติด กรุงเทพ – ภาคตะวันออก

จากถนนศรีนครินทร์ (ทางหลวงหมายเลข 3344) ใช้ทางหลวงพิเศษกรุงเทพ – ชลบุรี (มอเตอร์เวย์สาย 7) มุ่งสู่พัทยาไป ภาคตะวันออก

ทางเลี่ยงรถติด กรุงเทพ – ภาคใต้

เส้นทางที่ 1 : ใช้ถนนธนบุรี – ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35 : พระราม 2) เข้าถนน เพชรเกษม (ทางหลวงหมายเลข 4) เดินทางสู่ ภาคใต้

เส้นทางที่ 2 : ใช้ถนนเพชรเกษม ( ทางหลวงหมายเลข 4) ผ่าน อ.สามพราน จ.นครปฐม , โพธาราม , ราชบุรี อ.ปากท่อ เพื่อเข้าสู่ ภาคใต้

เส้นทางที่ 3 : จากขนส่งสายใต้ใหม่ ใช้ถนนบางกอกน้อย – นครชัยศรี (ทางหลวงหมายเลข 338) เข้านครปฐม , ราชบุรี , เพชรบุรี สู่ภาคใต้


เส้นทางเลี่ยงรถติด กรุงเทพ – ภาคใต้


เส้นทางแนะนำ กรุงเทพ – ภาคใต้

หมายเลขโทรศัพท์
- สอบถามรายละเอียดเส้นทาง โทร. 1586 ( ศูนย์ประชาสัมพันธ์กรมทางหลวง )
- ตำรวจทางหลวง โทร.1193
- ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว 1155
- จส.100 โทร 1137
- ร่วมด้วยช่วยกัน 1677
- สวพ.91 โทร 1644
- ศูนย์ควบคุมการจราจร 1197
- สอบถามหมายเลขโทรศัพท์ทั่วประเทศ 1133
- สอบถามสภาพจราจร 1543

ที่มาจาก MThai News

 

หวู่คงจะสลายตัวจริงไหม จากที่ JTWC ประกาศไปเมื่อวาน

ภาพเมื่อเวลา 13.00 น. 27-12-2012 THA



ภาพวันนี้ 03.30 น. 28-12-2012 THA




ภาพถ่ายจากดาวเทียม GOES-9 IR1



ภาพถ่ายดาวเทียมบริเวณเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทุก ๆ 1 ชั่วโมง



ภาพถ่ายสภาพพายุจาก Asia Satellite (Weather Channel)



University College London



แผนที่อากาศกรมอุตุนิยมวิทยา ล่าสุด !

 

siamblogza: เกลียวคู่และเมฆลึกลับ

 

อัพเดทข่าว 12.00 น.


10:00 ทาง JTWC ขณะจับตาดูหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง (ทางขวาของภาพดาวเทียม) เมื่อเวลา 03:30 ตามเวลาไทย กลับพบว่า พายุหวู่คง TD27W ซึ่งประกาศสลายตัวไปแล้วนั้น ได้รวมตัวขึ้นมาใหม่เป็นพายุดีเปรสชัน และทางอุตุนิยมญี่ปุ่นก็ยืนยันเรื่องนี้ ทั้งยังคาดแนวทางพายุจะเคลื่อนมาใกล้ทางมาเลฯกับภาคใต้ของไทยด้วย





ว่าแล้วเชียว ติดตามต่อไปครับ

ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

พายุหิมะถล่มสหรัฐฯดับแล้ว16ราย



พายุหิมะพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ทำให้มีหิมะตกหนักเป็นประวัติการณ์ในบางพื้นที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 16 ราย

28 ธ.ค.55 หลายรัฐในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐเผชิญหิมะและฝนตกหนักและลมกระโชกแรงตั้งแต่คืนวันพุธถึงวันพฤหัสบดี โดยบางแห่งในรัฐแมสซาชูเสตต์มีหิมะตกวัดได้ 30 ซม. และเมืองลิตเติลร็อค ในรัฐอาคันซอส์ กลับมีหิมะตกหนักวัดได้ 23 ซม.มากที่สุดในรอบ 86 ปีของเมืองนี้ นอกจากนี้ยังมีหิมะตกในรัฐเมน เวอร์มอนต์ นิวแฮมป์เชียร์ และเพนซิลเวเนีย รวมถึงพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศแคนาดาด้วย และยังมีรายงานเกิดพายุทอร์นาโดมากถึง 34 ลูกในหลายรัฐของสหรัฐ เช่น เท็กซัส หลุยเซียนา อลาบามา และมิสซิสซิปปี้ ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย
พายุหิมะยังทำให้มีผู้เสียชีวิตในหลายรัฐรวม 16 รายแล้ว โดยบางคนเสียชีวิตเนื่องจากต้นไม้หักโค่นลงมาทับหรืออุบัติเหตุบนถนนลื่น และประชาชนหลายแสนคนไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยเฉพาะที่นครนิวยอร์ก นายกเทศมนตรีได้เรียกร้องให้ประชาชนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้นานสองเดือนเนื่องจากพายุแซนดี้ อพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงในช่วงอากาศหนาวจัดขณะนี้ นอกจากนี้พายุยังส่งผลให้เที่ยวบินกว่า 3,000 เที่ยวในหลายพื้นที่ถูกยกเลิกนับตั้งแต่วันคริสต์มาสเป็นต้นมา
รัฐมิสซิสซิปปี้และอลาบามาได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว และรัฐอินเดียน่าต้องใช้รถเกือบ 600 คน ออกกวาดหิมะตามถนนสายต่างๆ และแนะนำให้ประชาชนพยายามอยู่แต่ในบ้านเพื่อความปลอดภัย
ขณะที่พยากรณ์อากาศคาดว่า พายุฤดูหนาวระลอกใหม่จะพัดปกคลุมแถบนิวอิงแลนด์ และโอไฮโอในช่วงสุดสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ ทีจะทำให้มีหิมะตกหนักมากขึ้น

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

"พยากรณ์อากาศช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556"

ฉบับที่ (357/2555) ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2555

ในช่วงวันที่ 28 – 29 ธันวาคม 2555 ภาคเหนือตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป อุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ส่วนพื้นที่อื่นๆ ของประเทศมีอากาศเย็นสบายโดยทั่วไป อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 22 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 2555 – 2 มกราคม 2556 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลงอีกโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 4 – 7 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาและภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส โดยอาจมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ตามยอดดอยสูงๆ ในภาคเหนือ สำหรับพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนอื่นๆ ที่อยู่ตามเทือกเขาต่างๆ ของภาคกลางและภาคตะวันออก จะมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสโดยทั่วไปเช่นกัน ผู้ที่จะเดินทางไปสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นขอให้เตรียมเครื่องกันหนาวไว้ให้เพียงพอด้วย ส่วนแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออก อ่าวไทยตอนบน และฝั่งอันดามัน ทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ไม่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวพักผ่อนตามเกาะแก่งต่างๆ แต่อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร เป็นอันตรายต่อการเดินเรือขนาดเล็กและการท่องเที่ยวพักผ่อนตามแนวชายฝั่งได้ ขอให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 2555 – 2 มกราคม 2556 ภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้ จึงขอให้ประชาชนเตรียมการสำหรับรับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงนี้ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 07.00 น.



(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

 

siamblogza: UFO appeared on Mount Bugarach this Dec. 21, 2012.

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะทุกๆท่าน ไม่ได้เข้ามาซะนาน ยุ่งกับงานที่บ้าน ลุ้นระทึกกับ 21/12/12 ดีใจที่ผ่านไปด้วยดี ลมหนาวมาได้หลายวันแล้ว แต่เป็นหนาวแบบกระปิดกระปรอย บางวันหนาวมาก หนาวน้อย บางวันลมแรง บางวันก็แดดดี ร้อนเป็นพิเศษ เลยเป็นหวัดซะ วันนี้พึ่งไป รพ.มา ขอทุกๆท่านรักษาสุขภาพกันให้แข็งแรงด้วยนะคะ ปีใหม่นี้ขอให้มีแต่เรื่องดีๆ รับทรัพย์กันทั่วหน้านะคะ อยากได้อะไรให้สมหวัง สมปรารถนาทุกๆท่านค่ะ ขอให้ชีวิตมีความสุขตลอดไปค่ะ ({)

 

ข่าววันนี้ 29-12-2012 เวลา 08.00 น.

เส้นทางพายุดีเปรสชั่นหวู่คงจาก TSR หลังพายุนี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางล่าสุด 25 น็อตและมีแนวโน้มการเคลื่อนตัวดังในภาพ



สรุปยอดตายล่าสุดในฟิลิปปินส์จากพายุหวู่คงล่าสุดที่ 11 ราย

พบการก่อตัวใหม่ของพายุโซนร้อน 05P ทางทิศใต้ของหมู่เกาะโซโลมอน

ภาพดาวเทียมจาก JTWC แสดงการเกิดหย่อมความกดอากาศต่ำจำนวนมากแถบเส้นศูนย์สูตร มีคำเตือนถึงการก่อตัวของดีเปรสชันลูกใหม่ในซีกโลกใต้คือ 06P



01:00 แผนที่อากาศจากกรมอุตุ แสดงหหย่อมความกดอากาศสูงกำลังแรงลูกใหม่ที่กำลังเคลื่นเขามา (ปกติจะเคลื่อนมาจากด้านตะวันตก) ซึ่งจะส่งผลใหมีอากาศหนาวในช่วงต่อไป และย่อมความกดอากาศต่ำจำนวนมากเกิดขึ้นมาแถบเส้นศูนย์สูตร คือฝนหนักในภาคใต้ ที่แปลกคือเส้นความชันที่มีลักษณะหยักเป็นคลื่นค่อนข้างมาก



ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"

ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2555

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค. 55) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลงอีกโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 4-7 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบต่อไป ในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาและภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือขนาดเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 3-4 วันนี้ (30 ธ.ค. 55-2 ม.ค. 55)

ประกาศ ณ วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 05.30 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

"พยากรณ์อากาศช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556"

ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2555

ในช่วงวันที่ 28 – 29 ธันวาคม 2555 ภาคเหนือตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป อุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ส่วนพื้นที่อื่นๆ ของประเทศมีอากาศเย็นสบายโดยทั่วไป อุณหภูมิต่ำสุด 18 – 22 องศาเซลเซียส
ในช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 2555 – 2 มกราคม 2556 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทย ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลงอีกโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 4 – 7 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง โดยบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาและภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส โดยอาจมีน้ำค้างแข็งเกิดขึ้นได้ตามยอดดอยสูงๆ ในภาคเหนือ สำหรับพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนอื่นๆ ที่อยู่ตามเทือกเขาต่างๆ ของภาคกลางและภาคตะวันออก จะมีอากาศหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสโดยทั่วไปเช่นกัน ผู้ที่จะเดินทางไปสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นขอให้เตรียมเครื่องกันหนาวไว้ให้เพียงพอด้วย ส่วนแหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออก อ่าวไทยตอนบน และฝั่งอันดามัน ทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ไม่เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยวพักผ่อนตามเกาะแก่งต่างๆ แต่อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูง 2 – 4 เมตร เป็นอันตรายต่อการเดินเรือขนาดเล็กและการท่องเที่ยวพักผ่อนตามแนวชายฝั่งได้ ขอให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 30 ธันวาคม 2555 – 2 มกราคม 2556 ภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส จะมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากได้ จึงขอให้ประชาชนเตรียมการสำหรับรับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงนี้ไว้ด้วย

ประกาศ ณ วันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 07.00 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

เตือนเหนือกลางอีสานหนาวระลอกใหม่


เตือนภาคเหนือ อีสาน ออก กลาง อากาศหนาวเย็นลง วันที่ 30 ธ.ค. หลังอุณหภูมิลดลง 4-7 องศา จากอิทธิพลความกดอากาศสูง กำลังแรงระลอกใหม่ จากจีนปกคลุม ส่วนใต้ มรสุม พัดปกคลุม คลื่นสูง 2-4 เมตร งดเดินเรือเล็ก ตั้งแต่ 30 ธ.ค.55-2ม.ค.56

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.วันนี้(29 ธ.ค.) ว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยในวันพรุ่งนี้ (30 ธ.ค. 55) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลงอีกโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 4-7 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบต่อไป ในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาและภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือขนาดเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 3-4 วันนี้ (30 ธ.ค. 55-2 ม.ค. 55)

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทางตอนบนของภาค อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกบางในตอนเช้าและอุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศา กับมีลมแรง ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาค อากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นทางตอนบนของภาค กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพร ขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

สหรัฐยังเดือดร้อนหนักจาก “พายุหิมะ-ทอร์นาโด”


ชาวอเมริกันทางตะวันออกเฉียงเหนือและทางใต้ของประเทศยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากพายุหิมะ และพายุทอร์นาโด ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ศพ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกาว่า ประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากพายุหิมะกำลังรุนแรงที่ยังคงแผ่อิทธิพลปกคลุมพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อระบบคมนาคมทั้งทางบกและทางอากาศ และมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ศพ ขณะที่ประชาชนทางตอนใต้ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ หลังระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าได้รับความเสียหายจากพายุทอร์นาโด


รายงานของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาสหรัฐเมื่อวันพฤหัสบดี ระบุว่า แม้พายุหิมะจะเริ่มอ่อนกำลังลงบ้าง แต่อาจยังส่งผลให้เกิดหิมะตกหนักราว 15-20 เซนติเมตรในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ และทางตะวันตกของรัฐเมน ขณะที่เมืองเอ็ดเวิร์ดส ทางตอนเหนือของรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเมืองพรมแดนติดกับแคนาดา มีรายงานหิมะตกหนักสูงถึง 40 เซนติเมตร


ทั้งนี้ อิทธิพลของพายุหิมะ และพายุทอร์นาโดเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 ศพ แบ่งเป็น 3 ศพในรัฐอาร์คันซอ 2 ศพในรัฐโอกลาโฮมา อินเดียนา และเวอร์จิเนีย และ 1 ศพในรัฐลุยเซียนา โอไฮโอ เพนซิลเวเนีย และเทกซัส


ในวันเดียวกัน มีรายงานการประกาศยกเลิกเที่ยวบินเพิ่มอีก 746 เที่ยว ส่งผลให้มีเที่ยวบินถูกระงับแล้วทั้งสิ้นกว่า 3,000 เที่ยว นับตั้งแต่วันคริสต์มาสที่ผ่านมา ในจำนวนนี้เป็นเที่ยวบินที่เดินทางเข้า-ออกจากนครนิวยอร์กถึง 186 เที่ยว


ส่วนพายุทอร์นาโดกว่า 30 ลูกที่พัดถล่มพื้นที่ทางตอนใต้ของสหรัฐ ได้แก่รัฐเทกซัส ลุยเซียนา แอละบามา มิสซิสซิปปี และอาร์คันซอ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนกว่า 200,000 คน ที่ต้องอาศัยอยู่ในความมืดมิด เนื่องจากตกอยู่ในภาวะขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ด้านผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าท้องถิ่นออกประกาศแจ้งว่า อาจต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 1 สัปดาห์ในการซ่อมแซมเสาไฟฟ้าที่ถูกต้นไม้ล้มทับพังระเนระนาด รวมถึงระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า

เรือกินีบิสเซาล่มตายสูญหายเกือบร้อย


เรือโดยสารล่มในทะเล นอกชายฝั่งเมืองหลวงสาธารณรัฐกินีบิสเซา ทางตะวันตกของทวีปแอฟริกา ทำให้ผู้ที่อยู่ในเรือเสียชีวิต 22 ราย ยังสูญหายอีก 69 ราย

วันนี้ (29 ธ.ค.) สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงบิสเซา สาธารณรัฐกินีบิสเซา ว่า เกิดอุบัติเหตุเรือโดยสารกินีบิสเซาล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายเกือบร้อยคน โดยเจ้าหน้าที่ทางการกินีบิสเซา เผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันศุกร์ (28 ธ.ค.) เรือโดยสารลำดังกล่าวออกเดินทางจากเกาะโบโลมา ในมหาสมุทรแอตแลนติก มุ่งหน้าสู่ปลายทางกรุงบิสเซา เมืองหลวงกินีบิสเซา แต่เรือซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 97 คน เกิดล่มลงในทะเลระหว่างทาง ทำให้มีผู้เสียชีวิตพบศพแล้ว 22 ราย ยังสูญหาย 69 คน ส่วนอีก 6 คนรอดชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุอาจเกิดจากเรือบรรทุกผู้โดยสารและสัมภาระเกินอัตรา.

จำนวนผู้เสียชีวิตจากพายุโซนร้อน “หวู่คง” ยังเพิ่มไม่หยุด


จำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน "หวู่คง" ที่พัดถล่มภาคกลางของฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้นเป็น 11 ศพแล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ว่า พายุโซนร้อน “หวู่คง”ยังคงเดินหน้าพัดถล่มฟิลิปปินส์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 6 ศพ เป็น 11 ศพแล้ว อย่างไรก็ตาม เป็นที่น่าโล่งอกที่พายุไม่มีแนวโน้มเคลื่อนตัวลงไปทางใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ระหว่างการฟื้นตัว หลังได้รับความเสียหายอย่างหนักหน่วงจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “โบพา”


นายเบนิโต รามอส ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนฟิลิปปินส์ แถลงในวันนี้ว่า สถานการณ์เริ่มมีแนวโน้มกลับสู่สภาวะปกติเร็วขึ้น หลังพายุเริ่มอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมพื้นที่แถบทะเลจีนใต้ บริเวณนอกชายฝั่งจังหวัดปาลาวัน แต่อิทธิพลของพายุยังก่อให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองในพื้นที่โดยรอบเมืองคาลิโบ เมืองหลวงของจังหวัดอากลาน บนเกาะปาเนย์ ส่งผลให้ระดับน้ำเอ่อล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนจำนวนมาก


ส่วนผู้เสียชีวิตที่เจ้าหน้าที่พบเพิ่มขึ้นอีก 6 ศพ นั้น 3 ศพเสียชีวิตจากการถูกต้นไม้ยักษ์ล้มทับใส่บ้าน ในจังหวัดซามาร์ตะวันออก ส่วนอีก 3 ศพคาดว่าเสียชีวิตจากการพลัดตกน้ำ ทำให้ถูกกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากพัดพาหายไป หรืออาจถูกโคลนถล่มทับ


ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความเสียหายไม่รุนแรงเท่าเมื่อครั้งพายุไต้ฝุ่นโบพา มาจากการที่พื้นที่ส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบเป็นพื้นที่ราบสูงซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขา ระดับน้ำจึงไม่ไหลเอ่อล้นลงมาท่วมพื้นที่ลุ่มเบื้องล่าง


พายุโซนร้อนหวู่คง เป็นพายุลูกที่ 17 ที่เคลื่อนตัวเข้าถล่มฟิลิปปินส์ในปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาเพียงไม่กี่วันก่อนประเทศจะผ่านพ้นช่วงฤดูมรสุม ทั้งนี้ ทางการคาดว่าพายุลูกดังกล่าวน่าจะเป็นพายุลูกสุดท้ายของปี


ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากพายุไต้ฝุ่นโบพา ล่าสุดอยู่ที่ 1,067 ศพแล้ว และมีรายงานผู้สูญหายอีกกว่า 800 ราย รัฐบาลฟิลิปปินส์ประเมินมูลค่าความเสียหายที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นลูกนี้ไว้ที่ 902 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 27,960 ล้านบาท )

ที่มาจาก เดลินิวส์

 

ข่าวบ่ายนี้


พายุโซนร้อน 06P ทิศตะวันตกของออสเตรเลีย ได้รับชื่อเรียกว่า มิตเชล Mitchell

พายุโซนร้อน 05P ทิศใต้ของเกาะโซโลมอน ได้รับชื่อเรียกว่า ฟรีดา Freda

13:00 JTWC ประกาศการสลายตัวของพายุหวู่คงเป็นครั้งที่ 2 ไม่พบพายุนี้ในภาพดาวเทียมล่าสุดเวลนี้ แต่มีภาพของพายุเกิดใหม่ในซีกโลกใต้คือมิตเชล และฟรีดา รวมทั้งหย่อมความกดอากาศต่ำเกิดใหม่ในมหาสมุทรอินเดีย (พายุทั้ง 2 ยังไม่มีแนวโน้มจะเข้าใกล้ฝั่งประเทศใด)




รอดูอีก 1 ลูกว่าจะทวีกำลังแรงขึ้นหรือไม่

15:30 พายุโซนร้อนฟรีดา เคลื่อนผ่านเส้น 160°E แล้ว ถือว่าเข้าเขตน่านน้ำออสเตรเลีย ทางการเริ่มจับตาดูอย่างใกล้ชิด

ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com

 

กองทัพนกเอี้ยงบุกตลาดอ่างทอง ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวลั่น-คนแห่ดู

ชาวอ่างทอง ตะลึงฝูงนกเอี้ยงกว่า 10,000 ตัว อพยพมาอยู่กลางเมือง เกาะตามสายไฟ เหล็กดัดตามอาคารพาณิชย์ ส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าวดังลั่น สร้างบรรยากาศช่วงเทศกาลปีใหม่ หลายคนต่างถ่ายรูปเป็นที่ระลึกนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก...



>เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีนกเอี้ยงจำนวนมากกว่า 10,000 ตัว อพยพมาเกาะอยู่ตามสายไฟฟ้าหน้าตึกแถวอาคารพาณิชย์ กลางตลาดอ่างทอง บริเวณสี่แยกไฟแดงอ่างทอง ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง ดึงดูดความสนใจของผู้ที่ผ่านไปมา โดยนกเอี้ยงดังกล่าวต่างส่งเสียงตามสัญชาติญาณ เหมือนกำลังพูดกัน หรือเถียงกันไปมา ตามความรู้สึกของผู้พบเห็น นอกจากนั้น กลุ่มนกเอี้ยงเหล่านี้ยังบินไปเกาะตามเหล็กดัดหน้าต่างห้างร้านและป้ายโฆษณา เพิ่มบรรยากาศช่วงวันแห่งความสุขในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ซึ่งได้มีประชาชนจำนวนมากต่างนำกล้องและโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึก

ขณะที่ นายวิเชียร บูรณะ อายุ 43 ปี คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง กล่าวว่า นกเอี้ยงฝูงนี้ได้ทยอยอพยพเข้ามาพักอาศัยในบริเวณดังกล่าว เฉพาะด้านทิศตะวันตกของถนนเพียงฝั่งเดียวมานานหลายวันแล้ว และเท่าที่สังเกตพบว่านกมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกวัน โดยช่วงเช้าเวลาประมาณตี 5 นกจะพากันบินออกไปหาอาหารและเริ่มบินกลับมาอาศัยหลับนอนในช่วงหัวค่ำ และในช่วงปีใหม่นี้มีคนเดินทางกลับบ้านเป็นจำนวนมาก ได้ต่างมาถ่ายรูปและนำไปโพสต์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งแต่ละคนต่างบอกไม่เคยเห็นนกเอี้ยงจำนวนมากขนาดนี้มาอยู่รวมกันกลางเมืองแบบนี้มาก่อน อีกทั้งนกเอี้ยงเหล่านี้กลับไม่ตื่นกลัวผู้คน หรือยวดยานพาหนะ ที่ขับผ่านไปมาแต่อย่างใด.

ที่มา : ไทยรัฐ

 

ข่าวเช้านี้ 30-12-2012 เวลา 08.00 น.


00:00 พายุหวู่คงสลายตัวรอบสองแล้ว

05:30 พายุโซนร้อนฟรีดา ยกระดับขึ้นเป็นไซโคลน


พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 30 ธันวาคม 2555 เวลา 07.00 น.


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
ฉบับที่ 5 (362/2555)
เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้วคาดว่าจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยในวันนี้ (30 ธ.ค.55) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลงอีกโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 4-7 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบต่อไป ในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาและภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือขนาดเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 3-4วันนี้ (30ธ.ค.2555 - 2 ม.ค.2556)

พยากรณ์อากาศตั้งแต่เช้าวันนี้ (30 ธ.ค.55)จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ ทางตอนบนของภาคอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีหมอกบางในตอนเช้าและอุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศา กับมีลมแรง ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็นทางตอนบนของภาค กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออกมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพร ขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ทางตอนล่างของภาค ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส
สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์
วันนี้น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 10.05 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 30 เซนติเมตร และเวลา 18.39 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 3 เซนติเมตร
น้ำลงเต็มที่ เวลา 03.01 น. ต่ำกว่าระดับทะเลปานกลาง 75 เซนติเมตร และเวลา 15.11 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 63 เซนติเมตร
วันนี้ที่ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.20 น.
กรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.00 น.


ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : วรรณิภา ภู่ทอง / สวท. วรรณิภา ภู่ทอง / สวท.
Rewriter : วีระพันธ์ วุฒิบุญญะ / สวท. วีระพันธ์ วุฒิบุญญะ / สวท.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th


เหนืออีสานกลางตอ.กทม.หนาวลงอีกใต้ฝนหนักหลายพท.



กรมอุตุฯเตือนภาคเหนือ อีสาน ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลงอีก 4-7 อาศา - ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนตกเพิ่ม

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน ลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงระลอกใหม่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้วคาดว่าจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยในวันนี้ (30 ธ.ค. 55) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลงอีกโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 4-7 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง โดยเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆจะได้รับผลกระทบต่อไป ในบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส บริเวณเทือกเขาและภูเขาสูง จะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือขนาดเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 3-4 วันนี้ (30 ธ.ค. 55 - 2 ม.ค. 56)


สำหรับ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

พายุหิมะถล่มสหรัฐฯหนัก! เสียชีวิตแล้ว 16 ราย



พายุหิมะพัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ทำให้มีหิมะตกหนักเป็นประวัติการณ์ในบางพื้นที่ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 16 ราย

วันนี้(29 ธ.ค.)หลายรัฐในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐเผชิญหิมะและฝนตกหนักและลมกระโชกแรง โดยบางแห่งในรัฐแมสซาชูเสตต์มีหิมะตกวัดได้ 30 ซม. และเมืองลิตเติลร็อค ในรัฐอาคันซอส์ กลับมีหิมะตกหนักวัดได้ 23 ซมถือว่ามากที่สุดในรอบ 86 ปีของเมืองนี้ นอกจากนี้ยังมีหิมะตกในรัฐเมน เวอร์มอนต์ นิวแฮมป์เชียร์ และเพนซิลเวเนีย รวมถึงพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศแคนาดาด้วย และยังมีรายงานเกิดพายุทอร์นาโดมากถึง 34 ลูกในหลายรัฐของสหรัฐ ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหาย
พายุหิมะยังทำให้มีผู้เสียชีวิตในหลายรัฐรวม 16 รายแล้ว โดยบางคนเสียชีวิตเนื่องจากต้นไม้หักโค่นลงมาทับหรืออุบัติเหตุบนถนนลื่น และประชาชนหลายแสนคนไม่มีไฟฟ้าใช้ นอกจากนี้พายุยังส่งผลให้เที่ยวบินกว่า 3,000 เที่ยวในหลายพื้นที่ถูกยกเลิกนับตั้งแต่วันคริสต์มาสเป็นต้นมา ขณะที่พยากรณ์อากาศคาดว่า พายุฤดูหนาวระลอกใหม่จะพัดปกคลุมแถบนิวอิงแลนด์ และโอไฮโอในช่วงสุดสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ และจะทำให้มีหิมะตกหนักมากขึ้น

นราธิวาส-น้ำท่วมเริ่มคลี่คลายเหลือเพียง 6 ชุมชน



สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนราธิวาส หลายพื้นที่เข้าสู่สภาวะปกติแล้ว เหลือเพียง 6 ชุมชนในอำเภอสุไหงโก-ลก ที่ยังมีน้ำท่วมขัง

ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดนราธิวาส ขณะนี้ฝนที่ตกลงมาอย่างหนักได้หยุดตกเป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำท่วมขังในที่ราบลุ่ม และพื้นที่ทางการเกษตร รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนทั้ง 13 อำเภอ ลดลงตามลำดับ จนบางพื้นที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ เหลือเพียง 6 ชุมชน คือ ชุมชนหัวสะพาน ท่าโรงเลื่อย ท่าชมพู ท่าเจ๊ะกาเซ้ง ท่าบือเร็ง และท่ากอไผ่ ที่ยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขัง ระดับน้ำเหลือเพียง 30-60 ซ.ม.

จากการบินสำรวจด้วยพารามอเตอร์ช่วงสายวันนี้ พบว่าเริ่มเห็นต้นไม้เขียวขจีโผล่อยู่เหนือผิวน้ำ คอสะพานทั้งทางรถยนต์และรถไฟที่เคยถูกน้ำท่วมสูงถึงบริเวณแนวคานลดลงจนเห็นแนวคานได้ชัดเจน รวมไปถึงประตูสนามฟุตบอลที่ถูกน้ำท่วมมิดเริ่มที่จะมองเห็นช่วงบริเวณคานบน คาดว่าในช่วง 3-4 วันนี้ หากฝนหยุดตกพื้นที่น้ำท่วมขังทั้ง 6 ชุมชน จะกลับคืนสู่สภาวะปกติ

อุบัติเหตุวันแรก 314 ครั้ง ตาย 33 คน



ศภถ.รายงานวันแรกของการรณรงค์ลดอุบัติเหตุ ตายแล้ว 33 คน เกิดอุบัติเหตุ 314 ครั้ง จังหวัดเชียงใหม่ เกิดเหตุมากที่สุด

(28 ธ.ค.)เมื่อเวลา 11.00 น.นายชัชชาติ สุทธิพันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม รายงานสรุปการรณรงค์ลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ โดยศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 รายงานสรุปอุบัติเหตุในรอบ 24 ชั่วโมง ของวันที่ 27 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ ว่า มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 314 ครั้ง จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ จังหวัดเชียงใหม่ 20 ครั้ง มหาสารคาม 13 ครั้ง และ พิษณุโลก 12 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 33 คน เปรียบเทียบกับวันแรกของการรณรงค์ปี 2555 ลดลง 3 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด คือ เชียงใหม่ 4 คน กรุงเทพฯ 3 คน จังหวัดภูเก็ต แพร่ และ นครปฐม จังหวัดละ 2 คน จำนวนผู้บาดเจ็บในวันแรกรวม 322 คน เปรียบเทียบกับวันแรกของการรณรงค์ ปี 2555 มีผู้บาดเจ็บ 473 คน ลดลง 151 คน

ส่วนสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุ เกิดจากเมาสุรา ร้อยละ 33.4 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 21.6 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 20.3 มอร์เตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย ร้อยละ 15.2 มีพฤติกรรมเสี่ยงไม่สวมหมวกนิรภัย ร้อยละ 18.5 ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ร้อยละ 1.6

ประเภทรถที่ประสบอุบัติเหตุมากที่สุด คือ มอร์เตอร์ไซค์ ร้อยละ 82.4 ปิคอัพ ร้อยละ 8.9 รถยนต์นั่งส่วนบุคคล หรือรถแท็กซี่ ร้อยละ ?2.7 รถบรรทุกหกล้อ ร้อยละ .093 รถโดยสารสี่ล้อ ร้้อยละ 0.31

ประเภทถนนที่ประสบอุบัติเหตุ ทางหลวงแผ่นดิน ร้อยละ 35.6 ถนนในอบต.หรือหมู่บ้าน ร้อยละ 31.8 ถนนในเมือง ร้อยละ 16.5 จุดที่เกิดเหตุทางตรง ร้อยละ 44 ทางโค้ง ร้อยละ 17.2 ทางแยกร้อยละ 13.3

ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือเวลาเย็นถึงค่ำ คือเวลา 16.00-20.00 น. ร้อยละ 39.8 เวลา 20.00-24.00 น. ร้อยละ 15.9 เวลา 12.00-16.00 น. ร้อยละ 17.2 กลุ่มที่ประสบอุบัติเหตุมากทีสุด คือ กลุ่มคนทำงาน ร้อยละ 56.3 อายุ 50 ปี ขึ้นไปร้อยละ 24.5 -21.6

เครื่องบินรัสเซียตกกระแทกพื้นดับ4ศพ



วันนี้ (29 ธ.ค.)สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซียว่า กระทรวงมหาดไทยของรัสเซียแถลงว่า เกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารของรัสเซีย เกิดอุบัติเหตุ แล่นไถลออกนอกรันเวย์ ขณะพยายามนำเครื่องร่อนลงจอดที่สนามบินวนุกกาวา ในกรุงมอสโก แล้วเกิดหล่นกระแทกพื้น ระเบิดไฟลุกท่วม แยกเป็นส่วนๆ เช่นส่วนหนึ่งไปหยุดอยู่ที่รั้วกั้นของสนามบิน กับอีกส่วน บนทางหลวงที่อยู่ติดกับสนามบิน

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เครื่องบินลำนี้ไม่มีผู้โดยสาร แต่มีลูกเรือทั้งหมด 8 คนด้วยกัน ซึ่งก็ตรงกับรายงานของโฆษกหญิงของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉิน แถลงว่า เครื่องบินโดยสารแบบตูโปเลฟ-204 หล่นกระแทกพื้นอย่างแรง ขณะพยายามนำเครื่องลงจอดที่สนามบินวนุกกาวา กรุงมอสโก มีลูกเรือ 8 คน ต่างจากรายงานข่าวในตอนแรกที่ระบุว่า มีผูู้โดยสารและลูกเรือรวม 12 คนบนเครื่อง ต่อมา เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยรัสเซีย ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 4 ศพและบาดเจ็บ 4 คน


ภาพข่าวโทรทัศน์ยังแสดงให้เห็นว่า การจราจรบนทางหลวงที่ติดกับสนามบิน ต้องหยุดชะงักงัน อันเนื่องมาจากผลของอุบัติเหตุในครั้งนี้ สำหรับเครื่องบินลำที่เกิดเหตุ เป็นของบริษัทสายการบิน เรด วิงส์ ของรัสเซีย เดินทางมาจากสาธารณรัฐเช็ก และ เครื่องบินโดยสารแบบตูโปเลฟ หรือ ตู-204 เป็นเครื่องบินโดยสารขนาดกลาง ใช้เครื่องยนต์ไอพ่น 2 เครื่อง จุผู้โดยสารได้ 210 คน

พลอยอำพัน - สารพันต่างแดน



เมื่อกระแสลมแรงซัดกระหน่ำชายฝั่งทะเลบอลติกของโปแลนด์ พายุจะนำพาอัญมณีล้ำค่าจากยุคดึกดำบรรพ์ขึ้นมาบนชายหาด ซึ่งสิ่งนี้คือพลอยอำพัน หรือที่รู้จักกันในชื่อของ “บอลติก โกลด์” และการอุดมไปด้วยสายแร่ของฟอสซิลต้นสนเก่าแก่อายุ 40 ล้านปี คือที่มาของยางสน ซึ่งแข็งตัวจนกลายเป็น “พลอยอำพัน” ทำให้เกิดการค้าขายมานานหลายร้อยปีในกดานสค์ เมืองท่าทางตอนเหนือของโปแลนด์ ส่งผลให้เมืองแห่งนี้กลายเป็นเมืองหลวงพลอยอำพันของโลก

ย้อนกลับไปในยุคหินใหม่ มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการทำลูกปัด กำไลข้อมือ และเครื่องรางของขลัง ที่เป็นการยืนยันว่า พลอยอำพันเป็นอัญมณีล้ำค่าและสวยงามที่ยังสามารถดึงดูดใจผู้คนได้จนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตาม เคยมีการค้นหาทองคำและอัญมณีล้ำค่าตามชายหาดต่าง ๆ อย่างละเอียดมาแล้ว

แต่ วโลเด็ค ยาโนว์สกี้ ช่างเครื่องจักรกลวัยเกษียณอายุ 53 ปี และนักมวยสมัครเล่นบอกว่า เขาโชคดีหลังจากพายุสงบลง ได้พบพลอยอำพันน้ำหนัก 7 ออนซ์ในเพียงวันเดียว พร้อมกับเทพลอยอำพันประมาณ 12 ชิ้นที่มีลักษณะต่างกันออกจากกระเป๋าให้ดู พลอยอำพันของยาโนว์สกี้ มีหลายสีตั้งแต่สีทองไปจนถึงสีน้ำตาลแดง หรือที่บ้านเราเรียกว่าแดงอำพัน และบางชิ้นมีขนาดเท่ากับลูกกอล์ฟ

ส่วนพลอยอำพันที่ยังไม่ได้ผ่านกรรมวิธีเจียระไน และขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีน้ำหนัก 9.75 กิโลกรัม ปัจจุบันเก็บรักษาเอาไว้ที่กรุงเบอร์ลินของเยอรมนี บรรดาผู้เชี่ยวชาญบอกว่า การนำพลอยอำพันมาทำหัตถกรรมเริ่มขึ้นในยุคหินใหม่ ราว 5,000 ปีก่อน ทุกวันนี้พลอยอำพันมีราคาเริ่มต้นกรัมละ 10 ยูโร หรือราว 403 บาท แต่ราคาอาจถีบตัวสูงขึ้นได้ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของชนิด โดยเฉพาะพลอยอำพันที่มีสีเขียวอมน้ำเงินหายากที่สุดและมีราคาแพงที่สุด

พลอยอำพันที่ทับถมอยู่ในโปแลนด์ และแคว้นคาลินินกราดของรัสเซีย รวมทั้งลิทัวเนีย ได้รับการประเมินว่ามีประมาณ 650,000 ตัน แต่พลอยอำพันขนาดเล็กกระจัดกระจายอยู่ทั่วโลกตั้งแต่แคนาดาไปจนถึงอเมริกาใต้ และออสเตรเลีย รวมทั้งแอฟริกา เอเชีย และตะวันออกกลาง

กล่าวกันว่า หากกดานสค์ เป็นเมืองหลวงของพลอยอำพันโลก ลุชยาน ไมร์ทา วัย 66 ปีก็คือช่างฝีมือขั้นเทพไร้เทียมทาน เขาเป็นนักสร้างสรรค์และเป็นเจ้าของในสิ่งที่อ้างว่าคือการสะสมศิลปะที่ทำจากพลอยอำพันที่มากสุดในโลก ซึ่งในจำนวนนี้ รวมถึงพลอยอำพันที่ยังไม่ได้เจียระไนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยน้ำหนัก 5.95 กิโลกรัม และหีบสมบัติพลอยอำพันแบบยืนสูง 2.75 เมตร

อย่างไรก็ตาม ไมร์ทา ไม่ได้เก็บงานศิลปะจากพลอยอำพันไว้ดูตามลำพัง แต่เขามีแผนการที่จะนำงานศิลปะเหล่านี้ไปแสดงในหลายประเทศ เช่น รัสเซีย และซาอุดีอาระเบีย รวมทั้งอาจนำไปแสดงที่ฝรั่งเศสด้วย สุดท้าย ลาทีปีเก่า สวัสดีปีใหม่ ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีความสุข ความเจริญ ตลอดปี พ.ศ. 2556.

นายกฯญี่ปุ่นลงพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ


นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น เดินทางลงพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะไดอิจิ เพื่อเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่กำลังปฏิบัติงานทำความสะอาด และซ่อมแซมโรงไฟฟ้า

วันนี้ ( 29 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฟูกูชิมะ ประเทศญี่ปุ่นว่า ทางการญี่ปุ่นยอมรับว่า การทำความสะอาดกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะไดอิจิ หลังสามารถจัดการและซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโรงไฟฟ้า ซึ่งมีสาเหตุจากแผ่นดินไหวรุนแรง ที่ก่อให้เกิดสึนามิเมื่อเดือนมี.ค. ปีที่แล้วนั้น เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ

นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น กล่าวระหว่างเดินทางลงพื้นที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งดังกล่าวในวันนี้ เพียงไม่กี่วันหลังเข้าทำพิธีสาบานตนว่า การทำความสะอาดและฟื้นฟูโรงไฟฟ้า ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและสึนามิ ที่แม้จะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น และอาจต้องใช้เวลานานนับทศวรรษ แต่จะเป็นการปูแนวทางสู่การพัฒนาเมืองฟูกูชิมะ และประเทศญี่ปุ่นอย่างแท้จริงในอนาคต


พร้อมกันนี้ อาเบะยังกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ และอาสาสมัครทุกคน ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งที่เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนควรไปเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กับครอบครัว


อาเบะให้คำมั่นว่า จะทบทวนนโยบายของรัฐบาลชุดก่อน ที่ระบุจะเลิกใช้พลังงานนิวเคลียร์ภายใน 30 ปี และจะอนุมัติให้มีการเปิดใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์อีกครั้ง หากได้รับการยืนยันความปลอดภัยจากสำนักงานควบคุมดูแลความปลอดภัยของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ( อาร์เอ็นเอ ) หลังเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั่วประเทศกว่า 50 เครื่องต้องถูกปิดตัวลงชั่วคราว เพื่อรับการตรวจสอบสภาพโดยละเอียด


ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานนิวเคลียร์หลายรายเตือนว่า เตาปฏิกรณ์ของโรงไฟฟ้าหลายแห่ง รวมถึงของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะไดอิจิ ตั้งอยู่บนแนวรอยเลื่อนเปลือกโลก ที่เสี่ยงต่อการเกิดแผ่นดินไหวในอนาคต ล่าสุดสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ ( ยูเอสจีเอส ) รายงานการเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.1 ริคเตอร์ นอกชายฝั่งเมืองฟูกูชิมะในวันนี้ แต่บริษัทโตเกียว อิเล็คทริค พาวเวอร์ ( เท็ปโก ) ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ยืนยันว่าไม่ได้รับรายงานความเสียหายใดๆ


วิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมะ มีความรุนแรงเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์โลก รองจากวิกฤตโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ที่ยูเครน เมื่อปี 2529 ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาทำความสะอาดนานกว่า 25 ปี..

 

ยังไม่วันที่ 1 ครับ ใจร่มๆ ไว้

 

ข่าวเย็นนี้

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน

และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้

ฉบับที่ 6 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2555

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนแล้ว และจะแผ่ปกคลุมภาคอื่นๆ ต่อไป ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ส่วนบริเวณเทือกเขาและภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้ตั้งแต่จังหวัดสุราษฏร์ธานีลงไปมีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือและเรือขนาดเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 30 ธ.ค. 55 – 2 ม.ค. 56

ประกาศ ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 11.30 น.

ที่มา กรมอุตุนิยมวิทยา


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

“อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน

และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้”

ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2555

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว และจะแผ่ปกคลุมภาคอื่นๆ ต่อไป ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ส่วนบริเวณเทือกเขาและภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตก

เพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือขอให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือขนาดเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 30 ธ.ค. 55 – 2 ม.ค. 56

ประกาศ ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16.30 น.

ที่มา กรมอุตุนิยมวิทยา


พัทลุงอ่วมรับปีใหม่ล่าสุดน้ำเอ่อล้นถนนเพชรเกษม พัทลุง-ตรังแล้ว




พัทลุง - พัทลุงน้ำท่วมรับปีใหม่ หลังฝนตกหนัก และต่อเนื่อง ส่งผลให้อำเภอแนวเทือกเขาบรรทัดน้ำไหลเข้าท่วมหมู่บ้านแล้ว ในขณะที่ถนนเพชรเกษม สายพัทลุง-ตรัง น้ำเอ่อล้นท่วมผิวถนนแล้วเช่นกัน ประชาชน หรือนักท่องเที่ยวต้องใช้ถนนอย่างระมัดระวัง

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมาจนถึงเช้าวันนี้ (30 ธ.ค.) ทำให้น้ำท่วมรับปีใหม่ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ปริมาณฝนได้ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง จนถึงขณะนี้ยังตกไม่หยุดทำให้ระดับน้ำในลำคลองสายหลักทั้ง 7 สาย ที่ไหลลงมาจากเทือกเขาบรรทัด มีระดับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และเริ่มเอ่อล้นพื้นที่สวนยางพารา และนาขาวแล้ว และปริมาณน้ำก็เพิ่มระดับขึ้นตลอดเวลา โดยเฉพาะที่น้ำตกไพรวัลย์ น้ำตกมโนราห์ น้ำตกลานหม่อมจุ้ย น้ำตกโตนแปรทอง และน้ำตกเขาคราม น้ำป่าไหลแรง และมีสีแดงขุ่นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บวกกับปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ ทำให้น้ำไหลเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ด้านล่างริมป่าเทือกเขาบรรทัด ของ อ.กงหรา อ.ตะโหมด อ.ศรีนครินทร์ อ.ป่าบอน อ.ศรีบรรพต และ อ.ป่าพะยอม โดยมีระดับน้ำสูงประมา 50-80 ซม.

ในขณะเดียวกัน ฝนที่ตกลงมาในพื้นที่ ต.โคกชะงาย อ.เมือง บวกกับน้ำป่าที่ไหลลงมาสมทบทำให้ระดับน้ำได้ไหลท่วมถนนผิวการจราจรหลายสาย โดยเฉพาะเส้น สายเพชรเกษมพัทลุง-ตรัง มีน้ำท่วมสูงหลายจุด ตั้งแต่บ้านส้มตรีด อ.เมือง บ้านต้นไทร อ.ศรีนครินทร์ มีน้ำท่วมสูงประมาณ 20-30 ซม.ชาวบ้าน และนักท่องเที่ยวที่ขับรถผ่านต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินทางเป็นกรณีพิเศษ


น้ำตกหลายแห่งในพื้นที่ จ.พัทลุง ไหลแรงและเป็นสีขุ่นแล้ว

ชมคลิป! “เครื่องบินรัสเซีย” ไถลชนขอบถนนหัก 3 ท่อน ลูกเรือดับ 4 ราย


ซากเครื่องบินโดยสารของสายการบินเรดวิงส์ ที่ประสบอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกรันเวย์ไปชนขอบถนนหลวงข้างๆสนามบิน Vnukovo วานนี้(29) ส่งผลให้ลูกเรือเสียชีวิตทันที 4 ราย

รอยเตอร์ - เครื่องบินซึ่งปราศจากผู้โดยสารของรัสเซียลำหนึ่งประสบอุบัติเหตุลื่นไถลออกนอกรันเวย์ และชนเข้ากับขอบถนนหลวงนอกกรุงมอสโกจนพังยับเยินขณะร่อนลงจอดเมื่อวานนี้(29) ส่งผลให้ลูกเรือเสียชีวิตไป 4 ราย และมีเศษซากเครื่องบินกระจัดกระจายอยู่บนถนนซึ่งปกคลุมไปด้วยหิมะ

อุบัติเหตุซึ่งเกิดขึ้นก่อนช่วงวันหยุดปีใหม่ของรัสเซียซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (30) ไปจนถึงวันจันทร์ที่ 9 มกราคม สะท้อนมาตรฐานความปลอดภัยด้านการบินของแดนหมีขาวที่ยังลุ่มๆดอนๆ แม้ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน จะสั่งให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขแล้วก็ตาม

สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นเผยแพร่ภาพเครื่องบิน Tupolev Tu-204 มีควันพวยพุ่งออกมาจากส่วนหาง ขณะที่ห้องนักบินฉีกขาดออกจากลำตัวเครื่องโดยสิ้นเชิง

ผู้เห็นเหตุการณ์ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Rossiya-24 ว่า เห็นชายคนหนึ่งกระเด็นออกมาจากตัวเครื่องบิน ขณะที่มันพุ่งเข้าชนแบริเออร์ถนนหลวงข้างๆสนามบินวีนูโคโว ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก ขณะที่อีกคนหนึ่งเล่าว่าได้ช่วยดึงผู้บาดเจ็บออกมาจากซากเครื่องบิน

เยเลนา ครีโลวา โฆษกหญิงประจำสนามบินแถลงว่า “ลำตัวเครื่องบินฉีกออกเป็น 3 ส่วน” ขณะที่โฆษกตำรวจ เกนนาดี โบกาชยอฟ ระบุว่า “เครื่องบินลื่นไถลออกนอกรันเวย์ ก่อนจะพุ่งชนกับแบริเออร์และเกิดไฟลุกท่วม”

กระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินรัสเซียแถลงว่า ผู้เสียชีวิต 4 รายได้แก่ นักบิน, ผู้ช่วยนักบิน, วิศวกรการบิน และพนักงานต้อนรับอีก 1 คน ส่วนพนักงานต้อนรับอีก 4 คนที่เหลือบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะ และถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว

เครื่องบิน Tu-204 ลำนี้เป็นของสายการบิน เรดวิงส์ ซึ่งเดินทางจากเมืองครีโลวาในสาธารณรัฐเช็กมายังกรุงมอสโก

พนักงานสอบสวนรัสเซีย แถลงว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าอุบัติเหตุน่าจะเกิดจากความผิดพลาดของตัวนักบินเอง

อเล็กซานเดอร์ เลเบเดฟ เจ้าของสายการบิน เรดวิงส์ เปิดเผยว่า เครื่องบินที่ประสบอุบัติเหตุเพิ่งผลิตขึ้นเมื่อปี 2008 และนักบินก็มีประสบการณ์สูงถึง 14,500 ชั่วโมงบิน พร้อมสัญญาจะมอบความช่วยเหลือทางการเงินแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย

เครื่องบิน Tu-204 ของรัสเซียมีขนาดเทียบเคียงได้กับ โบอิ้ง 757 และ แอร์บัส A321 โดยเป็นอากาศยานที่ผลิตขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 1990 และปัจจุบันไม่มีการผลิตเพิ่มเติมแล้ว

http://youtu.be/hEQdW6yS5o4

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

"อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบน และฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้"

ฉบับที่ 8 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2555

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยแล้ว และจะแผ่ปกคลุมภาคอื่นๆ ในวันพรุ่งนี้(31 ธ.ค. 55) ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นลงโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลง 4-7 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ส่วนบริเวณเทือกเขาและภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตก

เพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือขอให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือขนาดเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 30 ธ.ค. 55 - 2 ม.ค. 56

ประกาศ ณ วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555 เวลา 22.30 น.

 

ข่าวเช้านี้ ส่งท้ายปีเก่า 31-12-2012 เวลา 07.30 น.

00:10 ไซโคลนฟรีดาที่ความแรงระดับระดับ 3 ยังไม่มีทิศทางที่จะเลี้ยวเข้าหาออสเตรเลีย

01:00 ความกดอากาศสูงจากจีน แผ่ลงถึงไทย อากาศโดยทั่วไปเย็นลงหลายองศา

04:00 พายุโซนร้อนมิตเชล หรือ 06S กำลังจะสลายตัว

05:30 ลมสุริยะเพิ่มความเร็วมาที่ 473 กม/วินาที แรงดัน 1 kPa สภาพอวกาศรอบโลก -ปกติ-

06:30 กรุงเทพ 24°C กระบี่ 23°C ปัตตานี 25°C ลพบุรี 24°C ลำพูน 21°C อุดร 15°C ขอนแก่น 16°C อุบล 17°C ลำปาง 19°C เชียงใหม่ 21°C หนองคาย 15°C อุตรดิตถ์ 19°C แพร่ 19°C





ที่มาจาก เว็บภัยพิบัติ Paipibat.com


พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ภาค 07.00 น.

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

ฉบับที่ 9 (366/2555)
เรื่อง อากาศหนาวเย็นบริเวณประเทศไทยตอนบนและฝนตกหนัก คลื่นลมแรง บริเวณภาคใต้

บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียสในหลายพื้นที่ ส่วนบริเวณเทือกเขาและภูเขาสูงจะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้
สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือขอให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือขนาดเล็กในอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไปควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 55 - 2 ม.ค. 56

พยากรณ์อากาศตั้งแต่เช้าวันนี้ (31 ธ.ค.55) จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า กับมีหมอกหนาในบางพื้นที่ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ทางตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-16 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า และมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาอุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 8-12 องศาเซลเซียส

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 18-21 องศาเซลเซียส สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส

ภาคตะวันออก อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีลมแรง สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดชุมพร ขึ้นมา : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงไป : ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส
สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ คำนวณโดยกรมอุทกศาสตร์
วันนี้ น้ำขึ้นเต็มที่ เวลา 10.33 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 1 เมตร 29 เซนติเมตร และเวลา 19.08 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 94 เซนติเมตร
น้ำลงเต็มที่ เวลา 03.34 น. ต่ำกว่าระดับทะเลปานกลาง 80 เซนติเมตร และเวลา 15.49 น. สูงกว่าระดับทะเลปานกลาง 52 เซนติเมตร
วันนี้ ที่ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.20 น.
กรุงเทพมหานคร ดวงอาทิตย์ตกเวลา 18.01 น.

ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : เอกสารข่าว เอกสารข่าว
Rewriter : อังคณา ประเสริฐสังข์ อังคณา ประเสริฐสังข์
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

เหนืออีสานกลางกทม.ตอ.หนาวลดอีก4-7องศาใต้มีฝน



อุตุฯเตือน ภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็น-ภาคใต้ มีฝนตกเพิ่มมากขึ้น

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไป บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน ได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนแล้ว ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพมหานคร และภาคตะวันออก มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป และอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 2-4 องศาเซลเซียส กับมีลมพัดแรง โดยบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีอุณหภูมิจะต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส ในหลายพื้นที่ ส่วนบริเวณเทือกเขา และภูเขาสูง จะมีอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำกว่า 8 องศาเซลเซียส และมีน้ำค้างแข็งบางแห่งบริเวณยอดดอยในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพ เนื่องจากอากาศที่หนาวเย็นลงในระยะนี้

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้ และอ่าวไทย มีกำลังแรง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยอ่าวไทยตอนล่าง จะมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ประชาชนบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นสูงและลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือ ขอให้เพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ เรือขนาดเล็กในอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงไป ควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 31 ธ.ค. 55 - 2 ม.ค. 56

สำหรับ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น กับมีหมอกบางในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 ก.ม./ช.ม.

สตูลระวังภัยพายุฝนถล่ม



ผวจ.สตูล ทำหนังสือด่วนถึง 7นายอำเภอ เร่งแจ้งเตือนเจ้าหน้าที่รัฐประชาสัมพันธ์ ให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ตามริมชายฝั่งทะเลอันดามัน ที่ราบลุ่มริมน้ำ พื้นที่ลาดชัน และตามพื้นที่เสี่ยงภัย ระวังอันตรายที่เกิดจากภัยธรรมชาติช่วงวันที่ 30 ธ.ค.55-วันที่ 2 ม.ค.56 แนะชาวเรือเพิ่มความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากชายฝั่ง

วันนี้ ( 30 ธ.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเหนือชาย จิระอภิรักษ์ ผวจ.สตูล ได้มีหนังสือเร่งด่วนที่ สต.0034/พิเศษ ลงวันที่ 27 ธ.ค.2555 ถึงนายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ ของจังหวัดสตูลให้เร่งแจ้งเตือนให้กำนัน,ผู้ใหญ่บ้าน และผู้เกี่ยวข้องให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ตามริมชายฝั่งทะเลอันดามัน ที่ราบลุ่มริมน้ำ พื้นที่ลาดชัน และตามพื้นที่เสี่ยงภัยระมัดระวังภัยอันตรายที่เกิดจากภัยธรรมชาติในช่วงระหว่างวันที่ 30 ธ.ค.55-วันที่ 2 ม.ค.56 นี้ โดยชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากชายฝั่ง

ส่วนเจ้าหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวข้องให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและให้อยู่ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง และให้เร่งตรวจสอบปริมาณน้ำในเขื่อน/ ฝาย /อ่าง /คันกั้นน้ำ อย่างต่อเนื่อง นอกจากนั้นหากพบว่ามีภัยเกิดขึ้นรีบใช้ มิสเตอร์เตือนภัย ตามหมู่บ้านพื้นที่เสี่ยงภัยเร่งประกาศแจ้งภัยดังกล่าวให้ประชาชนและศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯ ในระดับจังหวัด/อำเภอทราบอย่างโดยเร็วด้วยเพื่อจะดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุต่อไป

กรณีเกิดภัยพิบัติขึ้นมาให้รีบรายงานสถานการณ์ให้ทางจังหวัดสตูลทราบอย่างฉับพลันทันด่วน หรือโทร 074-722121, 074-722296 ส่วนสภาพอากาศในพื้นที่ว่า บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยเมฆฝนสลับกับการมีแสงแดดส่อง ในขณะที่การรณรงค์ในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2556 พบว่าเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 55 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 5 ครั้ง บาดเจ็บ 9 ราย อุบัติเหตุสะสม( 27-29 ธ.ค.55 ) มี 11 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 15 ราย โดยส่วนใหญ่ขับรถโดยประมาท และขับรถจยย.ไม่สวมหมวกกันน็อก รวมทั้งขับรถยนต์ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย แต่อุบัติเหตุดังกล่าวยังไม่มีผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด

พัทลุงอ่วม น้ำป่าทะลักท่วม -ทหารเร่งช่วย



น้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ไหลทะลักท่วมพัทลุง เดือดร้อนกว่า 1,200 ครัวเรือน ทหารเร่งช่วย

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พัทลุง น่าเป็นห่วงอีกครั้ง หลังน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัด ที่ไหลผ่าน อ.ศรีบรรพต ทางคลองท่าแนะ ต.เขาย่า ได้เพิ่มระดับขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ฝายชลประทานท่าแนะ ต้องเร่งเปิดประตูระบายน้ำ ทั้ง 3 ประตู เปิดสูงประมาณ 1.50 เมตร ทำให้น้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่หมู่ 11 ต.ชะมวง อ.ควนขนุน ชาวบ้านต้องระดมกำลังนำทรายใส่กระสอบเพื่อไปกั้นน้ำที่กำลังล้นตลิ่ง และกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ได้ไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในขณะที่หมู่ 5,7,8 และ 9 ต.ควนขนุน อ.ควนขนุน ชาวบ้านต้องเร่งขนข้าวของไว้ที่สูงกันอย่างอลหม่าน และได้รับความเดือดร้อนกว่า 1,200 ครัวเรือน

โดยน้ำที่ไหลเชี่ยว ยังกัดเซาะบ้าน นายสมมาตร ทองอินทร์แก้ว อายุ 35 ปี เลขที่ 103 ม.7 ต.ควนขนุน อ.ควนขนุน พังเสียหายทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวน ชายแดนที่ 434 พัทลุง จำนวน 12 นาย ออกไปช่วยขนย้ายสิ่งของชาวบ้านพร้อมเร่งบรรจุกระสอบทรายนำไปกันน้ำทะลักท่วมบ้านเรือนอย่างเร่งด่วนแล้ว ส่วนเขตเทศบาลเมืองพัทลุง น้ำฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเอ่อท่วมถนนซอยในเขตเทศบาลหลายสาย เนื่องจากระบายน้ำไม่ทัน
สำหรับพื้นที่รอบนอกน้ำท่วมที่ลุ่ม ต.ปรางหมู่ ต.ชัยบุรี และ ต.พญาขันธ์ อ.เมือง น้ำจากคลองนาท่อมล้นตลิ่งนาข้าว และบ้านเรือนของราษฎร ระดับน้ำสูงประมาณ 50 ซ.ม.

จีน เตือนระวังฝน-หิมะถล่ม คาดภายใน3วัน



สำนักพยากรณ์อากาศจีน คาด พายุฝน - หิมะ จะพัดถล่มพื้นที่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงใต้
ใน 3 วันข้างหน้า

สำนักข่าวซินหัว ของทางการจีน รายงานว่า ในวันนี้ สำนักพยากรณ์อากาศ ได้มีการประกาศเตือนประชาชน ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันตกเฉียงใต้ ให้เตรียมพร้อมรับมือกับพายุฝน และหิมะถล่ม ในช่วง 1 - 3 วันนี้
รายงานระบุว่า หิมะ หรือลูกเห็บ จะถล่มพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือ, เขตปกครองตนเอง มองโกเลีย และบางส่วนของจังหวัดกุ้ยโจว แต่ในขณะเดียวกัน ที่มณฑลยูนาน จังหวัดไห่หนาน และไต้หวัน จะมีฝนปานกลาง ซึ่งจะทำให้พื้นที่ ตะวันออกเฉียงใต้ อุณหภูมิลดลงเหลือประมาณ 4 - 8 องศาเท่านั้น

ที่มาจาก เดลินิวส์ INN สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์