UN หวั่น "ซูเปอร์สตอร์ม" สัญญาณวิกฤตโลก

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย starme, 5 ธันวาคม 2012.

  1. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    ยูเอ็นหวั่น น้ำแข็งขั้วโลกเหนือลดต่ำสุด เกิด"ซูเปอร์สตอร์ม" สัญญาณวิกฤติโลก



    นายบัน คี-มุน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวเตือนต่อที่ประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมาว่า สภาวะอากาศรุนแรงกำลังจะกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นปกติ และจะเป็นภัยต่อมนุษยชาติ ทั้งนี้ น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือลดลงเหลือระดับต่ำสุด การเกิดซูเปอร์สตอร์ม ล้วนเป็นสัญญาณของวิกฤติ ดังนั้น นานาชาติจึงต้องหาทางบรรลุข้อตกลงให้ได้ก่อนการประชุมจะเสร็จสิ้นลงในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ซึ่งมีตัวแทนเกือบ 200 ประเทศเข้าร่วม

    ที่มา http://m.matichon.co.th/readnews.php?newsid=1354714689&grpid=03&catid=
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2012
  2. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    ถ้า "ซุปเปอร์สตอร์ม" เกิดขึ้นจริง ผมนึกถึงเรื่อง "the day after tomorrow"

    สัญญาณที่เกิดขึ้นก็ใกล้เคียงกันละ คือเรื่อง "น้ำแข็งที่ขั้วโลก..."
     
  3. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    คะ คิดคล้ายๆกันเลย
    ขอให้เกิดภัยพิบัติกับโลกน้อยที่สุด
    :boo:
     
  4. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
  5. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    ยอดตายไต้ฝุ่นโบพาในฟิลิปปินส์พุ่ง240ราย

    เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าเมืองนิว บาตัน ในจังหวัดคอมโปสเตล่า แวลลีย์ บนเกาะมินดาเนา ซึ่งเป็นจุดที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากพายุไต้ฝุ่นโบพา มีจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 142 รายแล้วและยังมีผู้สูญหายอีก 241 คน หลังจากกระแสน้ำเชี่่ยวกรากไหลเข้าท่วม ในจำนวนนี้ รวมถึงทหาร 1 นายที่เสียชีวิต อีก 6 นายสูญหายและอีก 3 นายบาดเจ็บขณะปฏิบัติงานกู้ภัยในพื้นที่นี้

    นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 81 คนในจังหวัดดาเวา ออเรียนทัล จุดที่พายุโบพาพัดขึ้นฝั่งเมื่อเช้ามืดวันอังคารด้วยความเร็วลมสูงถึง 210 กม./ชม. และมีผู้เสียชีวิตในจังหวัดอื่นๆอีกรวม 15 คน

    นางคอราซอน โซลิแมน รัฐมนตรีสวัสดิการสังคม และเจ้าหน้าที่ระบุว่า พายุได้สร้างความเสียหายอย่างหนักทำให้บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างพังราบเป็นหน้ากลองในหลายหมู่บ้าน และบอกว่าจำเป็นต้องเร่งส่งถุงบรรจุศพ ยา เสื้อผ้า เต็นท์ และอาหารไปยังพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้รอดชีวิตที่ต้องสูญเสียบ้านเรือน พร้อมกันนี้เธอแสดงความเป็นห่วงว่า ศพที่กระจายเกลื่อนบนพื้นอาจเสี่ยงเป็นแหล่งแพร่ระบาดของเชื้อโรค

    นอกจากนี้มีรายงานว่าประชาชนอีกกว่า 87,000 คนบนเกาะมินดาเนาต้องอพยพออกจากบ้านเรือนไปอาศัยอยู่ในศูนย์หลบภัยของทางการ หลังจากพายุทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม และดินถล่ม ระบบไฟฟ้าและโทรศัพท์ถูกตัดขาด ขณะที่อาหารและน้ำสะอาดมีปริมาณจำกัด

    ประธานาธิบดีเบนิกโน่ อาคิโน่ ประกาศวันนี้ว่า รัฐบาลพร้อมจัดสรรงบประมาณ 8,000 ล้านเปโซ หรือราว 5,600 ล้านบาทเพื่อใช้ในภารกิจบรรเทาทุกข์และการซ่อมแซมระบบโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ประสบภัย และเขามีแผนจะไปเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยทั้งในคอมโพสเทลา แวลลีย์ และดาเวา ออเรียนทัล


    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2012
  6. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    ยูเอ็น บันคีมูน มองภัยธรรมชาติด้วยตาเนื้อ
    เเล้วบ่นๆๆ ว่ากลัวโน่นนี่ไม่เห็นบอกให้พลโลกเตรียมรับมือ
    อะไรอย่างไร
    ผู้มีบารมีเเละจักขุญาณ มองด้วยตาทิพย์เเลเห็นภัยพิบัติที่จะเกิด
    เเก่เวไนยสัตว์พร้อมบอกเตือนเเละการเตรียมตัวเพือให้อยู่รอดปลอดภัย

    ทราบเเล้วจะฟังใคร ฟังผู้เตือน หรือฟังผู้บ่นดี
     
  7. phirus

    phirus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +318
    รับทราบ :'(

    และเตรียมตัวให้พร้อม:cool:
     
  8. Jingjoknayork

    Jingjoknayork เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    700
    ค่าพลัง:
    +3,726
    ในหนังพูดถึงเรื่องกระแสน้ำอุ่น น้ำเย็น ทำให้โลกอบอุ่นน้อยลง

    จนเกิดพายุ...ผมไม่แน่ใจเลยหาข้อมูลมาเพิ่มเติมครับ

    ข้อมูลประกอบการพิจารณาครับ
    มหาสมุทรกับสภาพอากาศ (Weather and the sea)
     
  9. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นคะ
    ติดตามข่าวสาร พบว่าภัยธรรมชาติรุนแรงและบ่อยขึ้น


    อยากให้มนุษย์รักโลก เพื่อนมนุษย์ และสัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนร่วมโลกของเราให้มากขึ้น
    และเตรียมตัวสำหรับภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดในอนาคต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2012
  10. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    วันนี้ ( 6 ธ.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ว่า ทางการฟิลิปปินส์เผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “โบพา” ซึ่งเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังลมแรงที่สุดในรอบปีนี้ของประเทศ ว่าเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 325 ศพแล้ว

    นายเบนิโต รามอส ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันภัยพลเรือนของฟิลิปปินส์ แถลงในวันนี้ โดยแสดงความกังวลว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงขึ้นอีก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังได้รับรายงานว่ายังมีผู้สูญหายอีกกว่า 320 ราย โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชนบท และทุรกันดาร เจ้าหน้าที่จึงเน้นกระจายกำลังลงค้นหาผู้สูญหาย พร้อมกับให้ความช่วยเหลือประชาชนในบริเวณดังกล่าวมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กลับต้องเผชิญอุปสรรคใหญ่หลวง ทั้งจากถนนและสะพานหลายสายที่ได้รับความเสียหายหนัก กระแสไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์ที่ถูกตัดขาด ทำให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่เป็นไปอย่างยากลำบาก


    นอกจากนี้ แม้จะมีรายงานเข้ามาว่า พายุมีแนวโน้มเคลื่อนที่ออกไปทางทะเลจีนใต้ แต่รามอสกล่าวว่า สถานการณ์ทุกอย่างยังไม่น่าไว้วางใจ ประชาชนและชาวเรือจึงควรเตรียมรับมือด้วยการรับฟังข่าวสารอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการอย่างเคร่งครัด


    ขณะเดียวกัน นายมาร์ค โทเนอร์ รองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงในนามของรัฐบาลวอชิงตัน แสดงความเสียใจไปยังทางการฟิลิปปินส์ พร้อมกับกล่าวว่า ทางการสหรัฐพร้อมให้ความช่วยเหลือทุกประเภทผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตในกรุงมะนิลา


    ที่มา http://www.dailynews.co.th/world/170919
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 170919.jpg
      170919.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.6 KB
      เปิดดู:
      46
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2012
  11. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    ทอร์นาโดถล่มนิวซีแลนด์ตาย3/แผ่นดินไหวอิหร่านตาย6

    นิวซีแลนด์เผชิญพายุทอร์นาโดที่สร้างความเสียหายมากที่สุดในรอบกว่า 60 ปีทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน ขณะที่อิหร่านประสบแผ่นดินไหวระดับปานกลางที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน

    พายุทอร์นาโดได้สร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้างในเมืองโอ๊คแลนด์ เมืองใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ช่วงเที่ยงวันนี้ ทำให้ต้นไม้หักโค่น อาคารบ้านเรือนได้รับความเสียหายและทำให้เกิดฝนตกหนักน้ำท่วมถนนหลายสาย นอกจากนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน ผู้บาดเจ็บ 7 คน และอีก 250 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนที่พังถล่มและไม่มีไฟฟ้าใช้ โดยมีบ้านเรือนเกือบ 150 หลังพังเสียหายจนไม่สามารถอาศัยได้

    พายุทอร์นาโดลูกนี้มีความรุนแรงที่สุดเท่าที่นิวซีแลนด์เคยประสบมาในรอบกว่า 60 ปี แม้ว่าปกติแล้วนิวซีแลนด์จะเผชิญพายุทอร์นาโดพัดถล่มปีละ 7 ลูก ส่วนใหญ่เป็นพายุขนาดเล็ก โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางเพียงเกือบ 30 เมตรและพัดหายไปภายใน 2-3 นาทีจึงสร้างความเสียหายเล็กน้อย แต่ในช่วงหลายวันนี้ สภาพอากาศอบอุ่นมากและความชื้นสูง บวกกับมีพายุฟ้าคะนอง จึงส่งผลให้เกิดทอร์นาโดที่มีความรุนแรง แม้ว่าพายุมีขนาดค่อนข้างเล็กก็ตาม


    ขณะที่อิหร่านประสบแผ่นดินไหวที่วัดความรุนแรงได้ 5.5 ริกเตอร์ในเมืองโซฮาน จังหวัด
    โคราซานทางภาคตะวันออกเมื่อคืนวาน และมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน และผู้บาดเจ็บ 23 คน บ้านเรือนในหลายหมู่บ้านได้รับความเสียหาย ทำให้หลายร้อยครอบครัวไม่มีที่อยู่อาศัย ขณะที่ระบบไฟฟ้าและโทรศัพท์ถูกตัดขาด หน่วยกาชาดอิหร่านได้จัดหาศูนย์พักพิงชั่วคราวให้กับผู้ประสบภัยแล้ว


    ที่มา http://breakingnews.nationchannel.com/home/read.php?newsid=661510
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2012
  12. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    ภัยพิบัติเกิดรุนแรงและบ่อยขึ้นทั่วโลก
    อยากให้เพื่อนๆเตรียมพร้อมไว้
    :boo:
     
  13. wongphan

    wongphan สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +20
    ผมเตรียมอุปกรณ์ยังชีพ เป้ฉุกเฉิน ติดรถไว้ตลอด มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่า จะใช้แล้วไม่มีครับ
     
  14. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    ยอดเหยื่อพายุโบพาในฟิลิปปินส์พุ่งเป็น475ราย

    ยอดเหยื่อพายุโบพาในฟิลิปปินส์พุ่งเป็น 475 ราย บาดเจ็บ 411 คน และสูญหาย 379 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยในฟิลิปปินส์ กำลังอยู่ระหว่างการขจัดเศษซากต่าง ๆ ออกจากถนน , จัดการกับเสาไฟฟ้าที่หักโค่น และกู้ระบบสื่อสาร ในระหว่างการค้นหาประชาชนหลายร้อยคนที่สูญหายไปหลังจากถูกพายุไต้ฝุ่นโบพาพัดกระหน่ำที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 475 ราย

    คณะกรรมการจัดการและลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ รายงานว่า ประชาชนมากกว่า 180,000 คน ต้องไร้ที่อยู่อาศัย หลังจากพายุไต้ฝุ่นโบพา พัดกระหน่ำพื้นที่เป็นบริเวณกว้างบนเกาะมินดาเนา ที่อยู่ทางใต้ ซึ่งอิทธิพลของพายุทำให้เกิดฝนตกหนักและกระแสลมแรง 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 475 ราย บาดเจ็บ 411 คน และสูญหายอีก 379 คน

    ด้านสำนักข่าวฟิลิปปินส์ รายงานว่า ผู้ที่สูญหายส่วนใหญ่อยู่ในเมืองที่อยู่บนที่สูงและห่างไกล ซึ่งพบว่า พายุได้พัดกระหน่ำหมู่บ้าน บาคูลิน ที่อยู่บนเทือกเขา และคร่าชีวิตของประชาชนครึ่งหนึ่งของหมู่บ้านคินาบลันกัน ที่อยู่ใกล้เคียง บ้านเรือนในหมู่บ้านหลายแห่งของเมืองบอสตัน , คาทีล และบากันก้า ได้รับความเสียหายเกือบทั้งหมด

    เจ้าหน้าที่มนุษยธรรม ของกลุ่มเวิร์ลด์ วิชั่น บนเกาะมินดาเนา เปิดเผยว่า ลมและพายุรุนแรง สร้างความเสียหายไม่ต่างจากแผ่นดินไหว ซึ่งชาวฟิลิปปินส์ เรียกพายุลูกนี้ว่า พาโบล และกำลังมุ่งหน้าสู่จังหวัดปาลาวัน ที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ

    กาชาดฟิลิปปินส์ ระบุว่า มีผู้ประสบภัยที่ไร้ที่อยู่อาศัยราว 216,000 คน ท่ามกลางความวิตกว่า ประชาชนจะขาดแคลนน้ำเพื่อการบริโภค เนื่องจากน้ำจากมหาสมุทรได้ไปเจือปนกับน้ำตามบ่อน้ำ และเกรงว่า จะเกิดปัญหาด้านสุขอนามัย

    สภาพบนเกาะมินดาเนาในปัจจุบัน พบว่า มีน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทั้งบริเวณเชิงเขาและพื้นที่ห่างไกล บ้านเรือนได้รับความเสียหายราว 2,970 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่ต้องทำงานด้วยความยากลำบากในการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เปราะบาง ไปยังพื้นที่ปลอดภัย ได้แก่อาคารสาธารณะและโรงเรียน และเมื่อระบบสื่อสารล่ม ทำให้ยากจะติดต่อกับทีมกู้ภัย
    อีกทั้ง การคมนาคมมีอุปสรรคเนื่องจากสะพานขาด 5 แห่ง และถนนเสียหาย 9 สาย ทำให้ต้องอาศัยเรือประมงในการนำสิ่งของจำเป็นไปให้ผู้ประสบภัยในบางพื้นที่


    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2012
  15. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,255
    ให้รีบเร่งทำบุญสร้างกุศลด้วยการ ให้ทาน รักษาศิล เจริญสมาธิ วิปัสสนาปํญญา แผ่เมตตา ฯ กันให้มาก ๆ เมื่อความตายมาถึงจะได้ไม่ต้องกลัว
     
  16. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    จับสัญญาณภัยพิบัติ 2012-2015 รับมือ "พายุสุริยะ" กับ "น้ำท่วม" เฝ้าระวัง 4 ปีอันตราย !

    วิกฤตอุทกภัยครั้งใหญ่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ว่ากันว่าอาจมีบ้านเรือนเสียหายจากน้ำท่วมคราวนี้มากถึง 5 แสนหลัง แต่เหตุการณ์สงบได้ไม่ทันข้ามเดือน พื้นที่ภาคใต้ก็ถูกฝนถล่มจนน้ำท่วมอีก

    จนเกิดคำถามว่า... เกิดอะไรกับโลกของเรา !

    ที่น่าเป็นห่วงคือนับวันภัยพิบัติ ธรรมชาติยิ่งรุนแรงและมีความถี่มากขึ้น หลายครั้งไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า มาก่อน ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจึงเริ่มมี นักวิชาการศึกษาเกี่ยวกับทฤษฎีใหม่เกี่ยวกับการเกิด "ภัยพิบัติธรรมชาติ" ที่มีความสัมพันธ์กับการเกิด "พายุสุริยะ" ที่มีต้นตอจากดวงอาทิตย์

    โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้ การประปานครหลวง (กปน.) ได้เชิญ "ดร.ก้อง- ก้องภพ อยู่เย็น" วิศวกรหนุ่มชาวไทย วัย 34 ปี ขององค์การนาซา ดีกรีปริญญาเอกด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและเทคโนโลยี จากสถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย ซึ่งเป็นหนึ่งในนักวิชาการที่ศึกษาเรื่องนี้ มาบรรยายในหัวข้อ "ภัยพิบัติที่จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในปี 2012" เพื่อสะท้อนมุมมองที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน


    อะไรคือ "พายุสุริยะ"

    เนื้อหาการบรรยาย ดร.ก้องภพสื่อสารให้เห็นว่า ปรากฏการณ์ "พายุสุริยะ" ทำให้ดวงอาทิตย์ส่งพลังงานประจุไฟฟ้าออกมายังโลกและดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ ซึ่งประจุไฟฟ้าที่ ส่งออกมาคือสิ่งที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของ "ภูมิอากาศ" และ "ระบบธรณีวิทยา" บนโลก

    แล้วปรากฏการณ์พายุสุริยะเกิดขึ้นได้อย่างไร !

    การจะเกิดพายุสุริยะได้ต้องมี 3 องค์ประกอบ คือ
    1) ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว
    2) เกิดปรากฏการณ์เรียงตัวกันเป็นระนาบในทางช้างเผือก
    3) มีรังสีคอสมิก

    ขณะเดียวกัน เมื่อปี 2551 องค์การนาซาได้ตรวจพบ "รูรั่ว" ในสนามแม่เหล็กโลกที่มีขนาดใหญ่กว่าที่เคยคาดไว้ และยังพบชั้นบรรยากาศของโลกที่หดตัวลงมากเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้เปรียบเสมือนสิ่งที่เป็นเกราะป้องกันรังสีจากนอกโลกไว้ ประเด็นคือยิ่งปริมาณ "รังสีคอสมิก" เข้ามามากเท่าไหร่ จะเกิดความแปรปรวนของภูมิอากาศในโลก จะมีน้ำก่อตัวมากขึ้น ที่น่าเป็นห่วงคือเมื่อปี 1978 มีนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสท่านหนึ่งเคยคาดการณ์ล่วงหน้าว่า ในช่วงเร็ว ๆ นี้ระบบสุริยะที่มีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง กำลังจะเคลื่อนตัวเข้าสู่กลุ่มก๊าซขนาดใหญ่ในอวกาศ ทำให้มี "รังสีคอสมิก" เข้ามาในระบบสุริยะมากขึ้น และส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศบนดาวเคราะห์ทุกดวงในระบบสุริยะ

    สมมติฐานนี้ได้ถูกคอนเฟิร์มแล้ว เมื่อปี 2009 จากข้อมูลของดาวเทียม voyager 1 และ 2 ของนาซาที่โคจรอยู่บริเวณขอบของระบบสุริยะ จึงตั้งข้อสังเกตว่า หลายประเทศ ทั่วโลกที่กำลังมีความเคลื่อนไหว อาทิ พม่าย้ายเมืองหลวงไปที่เนปิเดา ห่างชาย ฝั่งทะเล 400 กิโลเมตร เนเธอร์แลนด์สร้างบ้านลอยน้ำ อเมริกากำลังสร้างเมืองลอยน้ำ นอรเวย์ย้ายฐานทัพทหารลงใต้ดิน รัสเซียกำลัง สร้างฐานทัพและหลุมหลบภัยใต้ดิน 5 พันแห่ง ฯลฯ จะเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ !


    สัญญาณบอกเหตุ 1-3 วัน

    ย้อนกลับมาดูผลศึกษาเหตุการณ์ในอดีต พบว่าเมื่อปี 1859 พายุสุริยะเคยเกิดขึ้นทำให้ระบบสายส่งโทรเลขขัดข้อง มีเจ้าหน้าที่ถูกไฟฟ้าชอร์ตเพราะพลังงานเหล่านี้ถูกส่งผ่านจากชั้นบรรยากาศ ถัดมายุคปัจจุบัน เริ่มจากวิกฤตอุทกภัยในภาคกลางของประเทศไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2554 ได้เกิดพายุสุริยะขึ้น เป็นช่วงที่ดวงอาทิตย์มีการระเบิดอย่างรุนแรง โดยหน่วยงาน spaceweather.com ของสหรัฐทำนายว่า ในวันที่ 26 กันยายน จะเกิดประจุไฟฟ้ามาตกกระทบที่ขอบโลก ด้านนอก และตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน ปริมาณน้ำก็เพิ่มขึ้นมากและเกิดน้ำท่วมต่อมา และในวันเดียวกัน ที่ประเทศสเปนยังมีภูเขาไฟระเบิดอีกด้วย

    ล่าสุดกับ "น้ำท่วมภาคใต้" ปรากฏว่าตรวจพบพายุสุริยะเมื่อ 26 ธันวาคม จากนั้น 28 ธันวาคม เกิดฝนตกหนัก และวันที่ 30-31 ธันวาคม น้ำก็ท่วม

    ส่วนการเกิดคลื่นสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคมปีที่ผ่านมา ก็ตรวจพบดวงอาทิตย์มีการระเบิดอย่างรุนแรง ทำให้ "จุดดับ" บนดวงอาทิตย์เกิดการหดหรือขยายตัว จึงมีการตั้งข้อสังเกต หากจุดดับบนดวงอาทิตย์หดหรือขยายตัว จะสัมพันธ์กับการเกิด แผ่นดินไหวบนโลก นั่นหมายความว่า ก่อนจะเกิดปรากฏการณ์ภัยพิบัติธรรมชาติ จะมีพายุสุริยะหรือการระเบิดของดวงอาทิตย์เกิดขึ้นก่อน เฉลี่ย 1-3 วัน

    เสี่ยงน้ำท่วมอีก 4 ปี

    การบรรยายในวันนั้นมีข้อสรุปแบบฟันธงว่า ระหว่างปี 2012-2015 ยังมีโอกาสที่ดวงอาทิตย์จะเกิดปฏิกิริยาพายุสุริยะได้ตลอด แต่ "ดร.ก้องภพ" ไม่ขอฟันธงว่า ภัยพิบัติธรรมชาติจะเกิดขึ้นในเมืองไทยหรือประเทศอื่น แต่เชื่อว่าแนวโน้มสภาพอากาศ แปรปรวน ปัญหาน้ำท่วมยังคงมีอยู่ และมีโอกาสจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม หลังจากปี 2015 ความถี่การเกิดพายุสุริยะจะลดลง จนกว่าจะผ่านไปอีก 11ปี ที่วงรอบการเกิดพายุสุริยะถี่จะกลับมา ระหว่างนี้ คนไทยจึงไม่ควรประมาทกับภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น

    "สำหรับประเทศไทย ปัญหาน้ำท่วม ผมอาจจะบอกไม่ได้ ว่าเกิดที่ไหน รุนแรงเท่าใด แต่ความเสี่ยงยังมีอยู่ ช่วงระหว่างปี 2012-2015 เมื่อคำนวณจากปรากฏการณ์พายุสุริยะ" คำทำนายทิ้งทวนของ "ดร.ก้องภพ"


    ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327127771&grpid=01&catid=02
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2012
  17. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    การเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต

    เมื่อเราเข้าใจสภาพรอบตัวและสังคมที่แท้จริงที่เราอยู่ รวมทั้งเข้าใจถีงเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขี้นแล้ว เราสามารถเตรียมวางแผนอนาคตได้ทั้งทางร่างกาย และจิตใจ เพี่อเข้าถีงแก่นแท้ของชีวิตและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างเป็นหนึ่งเดียว และ เกิดความสมดุล ซี่งเราสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ การพัฒนาทางร่างกาย และ จิตใจ และ การพัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่สร้างมลภาวะเป็นพิษให้แก่โลก


    ทางด้านร่างกาย
    เราจำเป็นต้องกระหนักถีงทรัพยากรรอบตัวและใช้มันให้คุ้มค่าโดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และเข้าถีงธรรมชาติให้มากที่สุด ข้อแนะนำเบื้องต้นได้แก่

    การลดปริมาณการบริโภคสี่งที่ไม่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิต เช่น ของใช้ที่ฟุ่มเฟือย นอกเหนือปัจจัยสี่ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติโดยไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม
    เลือกซี้อผลิตภัณท์ที่ใช้ได้ทนทาน หรือนำมาใช้ใหม่ได้ ที่มีราคาเหมาะสม เพี่อลดการซี้อของเป็นจำนวนบ่อยครั้ง และ ลดปริมาณขยะ
    ลดการบริโภคเนี้อสัตว์ เพราะการผลิตเนื้อสัตว์นั้นใช้ทรัพยากรทางธรรมชาติมากกว่าปลูกพืช นอกจากนั้นแล้ว บาง
    พี้นที่ฆ่าสัตว์โดยไม่ถูกวิธีเช่นการทรมานสัตว์ ทำให้สัตว์หลั่งสารพิษซี่งทำให้ผู้บริโภคเนี้อสัตว์เกิดอาการเจ็บป่วยได้ในระยะยาว
    บริโภคอาหารที่สด สะอาด ปราศจากสารเคมี แบบ ออร์แกนิค เพี่อให้สุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย
    ลดการพึ่งพายาหรือสารเคมีในการรักษาโรค และหันมาใช้วิธีทางธรรมชาติให้มากที่สุด
    สี่งเหล่านี้นอกจากจะสร้างความสมดุลให้กับธรรมชาติแล้วยังช่วยให้เรารับมือกับสภานการณ์ภัยพิบัติในกรณีเกิดเหตุการณ์อาหารขาดแคลน



    ทางด้านจิตใจ
    สิ่งนี้คือสี่งที่สำคัญที่สุดนอกเหนือสี่งอื่นใด เพราะตัวตนที่แท้จริงของมนุษย์คือจิตวิญญาณ การพัฒนาทางด้านจิตใจจะทำให้เราอยู่ในโลกนี้ได้อย่างมีความสุข และทำให้เราอยู่ในสถานการณ์ที่เราเป็นสุขได้ตลอดเวลา การพัฒนาทางจิตนั้นได้แก่ การนั่งสมาธิ และ รับรู้สี่งต่างๆที่เกิดขี้นรอบตัว เข้าใจในพฤติกรรมของมนุษย์ ทั้งด้านบวกและลบ และไม่
    ยีดมั่นถือมั่นในความเชื่อของระบบ แต่รับรู้สิ่งทั้งหมดที่เกิดขี้นอย่างที่มันเกิดขี้น อย่าลืมว่าความเชื่อที่เราได้รับผ่านทางระบบการศีกษา ศาสนา หรือ แม้แต่วิทยาศาสตร์ นั้นไม่ใช้ความเชื่อของตัวเรา แต่เป็นความเชื่อของระบบ



    ทางด้านเทคโนโลยี
    เราสามารถทำให้โลกกลับมาอยู่ในภาวะสมดุลโดยการพัฒนาเทคโนโลยีที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีที่สำคัญในการรับมือกับภัยพิบัติ คือเทคโนโลยีด้านพลังงาน และ ยารักษาโรค เทคโนโลยีด้านพลังงานที่เสนอแนะได้แก่การใช้พลังงานจากสูญญากาศ พลังงานแม่เหล็ก พลังงานจากแรงโน้มถ่วงมาผลิตกระแสไฟฟ้า ระบบได้สอนทฤษฏีที่ทำให้เราเข้าใจว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะนำพลังงานเหล่านี้มาใช้ แต่ทฤษฏีเหล่านี้เป็นแค่เซตเล็กๆ ของธรรมชาติที่มีขนาดใหญ่มหาศาล รายละเอียดเหล่านี้สามารถหาอ่านได้จาก หมวดวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

    เทคโนโลยีด้านพลังงานนี้ สามารถนำมาใช้ได้ในยามฉุกเฉิน เมื่อเชี้อเพลิงปกติเกิดการขาดแคลน และทำให้เรามีพลังงานอย่างไม่จำกัดเพี่อใช้ในการเปลี่ยนธรรมชาติให้กลับมาสมดุลในอนาคต

    ในเรื่องของยารักษาโรค เราต้องแก้ปัญหาที่สาเหตุโดยการผลิตสารที่สามารถฆ่าเชี้อไวรัสและแบคทีเรียในร่างกายได้ ซี่งมีการศีกษาวิจัยกันมานานแล้วว่าแต่ไม่ได้รับการแพร่หลาย ทั้งๆที่ทำได้ง่ายและราคาถูก เช่น การใช้ MMS, Colloidal Silver และ Rife frequencies ผู้ที่สนใจสามารถศีกษาได้จากข้อมูลทาง อินเตอร์เน็ต และจะเตรียมการแปลเอกสารเหล่านี้ในอนาคต


    การเตรียมความพร้อมในการรับภัยพิบัติ
    ส่วนนี้จะเป็นเรื่องของการเตรียมตัวรองรับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลงมากขี้นทุกวันจนถีงจุดที่จะต้องตัดสินใจเตรียมการหลบหนีภัยพิบัติ ซี่งขี้นอยู่กับการตัดสินใจของคนอ่าน ในที่นี้จะเสนอแนะในกรณีที่ภัยพิบัติเกิดขี้นในระดับสูงสุด(ซี่งอาจจะไม่เกิดขี้นก็ได้) นั่นคือการเกิดเหตุ แผ่นดินไหว นำมาซี่งคลื่นซูนามิที่มีขนาดใหญ่ สี่งที่จะได้เล่าต่อไปนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัว ถ้าเหตุการณ์เป็นเช่นนี้จะแนะนำให้ หาแหล่งที่ตั้งที่อยู่ห่างจากชายฝั่งน้ำทะเลประมาณ 250 กิโลเมตร สูงจากระดับน้ำทะเลอย่างน้อย 150 เมตรและ มีสาธารณูปโภคในท้องถิ่นใช้ เช่นแหล่งน้ำบาดาลใช้ในกรณีที่เกิดเส้นทางถูกตัดขาด นอกจากนั้นแล้ว ควรก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างซี่งสามารถป้องกันแผ่นดินไหวในระดับ 10 ริเตอร์ได้

    นอกจากนั้นยังมีพลังงานจากรังสีคอสมิก และ รังสีแกมมา ซี่งเกิดจากการระเบิดจากจุดศูนย์กลางของทางช้างเผือก และจากปฏิกริยาของพระอาทิตย์ ซี่งอาจจะทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทาง DNA และ ส่งผลกระทบอย่างมากในโลก 3 มิติใบนี้ แต่สี่งเหล่านี้อาจจะเกิดขี้นหลังจากเหตุการณ์ 2012 ก็เป็นได้เนื่องจากเรายังไม่สามารถคำนวณความเร็วของรังสีนี้ว่าจะมาถีงโลกเมื่อไหร่


    ที่มา http://www.truth4thai.org


    อยากให้เพื่อนๆลองปฏิบัติดู เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับภัยพิบัติที่รุนแรงมากขึ้น ในอนาคต :boo:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2012
  18. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    'วงแหวนแห่งไฟ'ขยับญี่ปุ่น,อินโดนีเซีย,นิวซีแลนด์สั่นไปทั่ว

    อาฟเตอร์ช็อคแผ่นดินไหวญี่ปุ่น เกิดตามมากว่า10 ครั้งมากสุดวัดได้ 6.1 ขณะพื้นที่โดยรอบวงแหวนแห่งไฟมหาสมุทรแปซิฟิก ตลอดคืนเกิดแผ่นดินไหวเกือบ20ครั้ง ทั้งนิวซีแลนด์ และอินโดนีเซีย ...


    ภายหลังจากที่เมื่อช่วงเวลาประมาณ 16.02 น.ตามเวลาประเทศไทย เกิดแผ่นดินไหวขนาดความแรง 7.3 ริคเตอร์ ที่นอกชายฝั่ง ด้านทิศตะวันออกของประเทศญี่ปุ่น ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากเมืองคามิอาชิ ราว 300 กิโลเมตร ความลึก 33 กิโลเมตร โดยมีการเกิดสึนามิขนาดเล็กความสูงคลื่นประมาณ 1 เมตร ตามมาด้วยนั้น ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงเวลาประมาณ 03.30 น. ปรากฏว่าเกิดแผ่นดินไหวขนาดความสั่นสะเทือนเกินกว่า 4.0 ริคเตอร์นับสิบครั้งโดยเป็นอาฟเตอร์ช๊อคที่ประเทศญี่ปุ่น 15 ครั้ง วัดความสั่นสะเทือนได้มากที่สุดในส่วนของอาฟเตอร์ช็อกนั้นสามารถวัดได้ถึง 6.1 ริคเตอร์


    นอกจากนี้ เว็บไซต์ GFZ Potsdam Earthquake Bulletin - last 20 events ยังรายงานเพิ่มเติมอีกด้วยว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.19 น. เกิดแผ่นดินไหวทางตอนเหนือของเกาะนิวซีแลนด์ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.3 ริคเตอร์ โดยแรงสั่นสะเทือนขยายกว้างไปแทบทั่วทั้งเกาะ ขณะที่ยังไม่มีรายงานความเสียหายจากการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ปรากฎแต่อย่างใด ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เกิดแผ่นดินไหวจำนวนหลายครั้งและมีความแรงการสั่นสะเทือนใกล้เคียงหรือเกิน ระดับ 5.0 ริคเตอร์หลายครั้ง โดยพิกัดการเกิดแผ่นดินไหวที่พบนี้ ทั้งหมดอยู่ในแนวของรอยเลื่อนเปลือกโลกที่เรียกว่า วงแหวนแห่งไฟ ในมหาสมุทรแปซิฟิคทั้งสิ้น
    .


    ที่มา http://www.thairath.co.th/content/oversea/311784
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 630.jpg
      630.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.7 KB
      เปิดดู:
      58
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ธันวาคม 2012
  19. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    ขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ
    จะติดตามเหตุการณ์ภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง
    และนำมารายงานให้เพื่อนๆทราบ
    พร้อมบทวิเคราะห์ในเรื่องภัยพิบัติที่สำคัญ
    :cool:
     
  20. starme

    starme เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +2,277
    แผ่นดินไหว มินดาเนา ฟิลิปปินส์ 5.6 ริกเตอร์​ ถล่มซ้ำไต้ฝุ่นโบพา...


    เมื่อเวลา 04.45 น.วันที่ 10 ธ.ค. สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานการเกิดแผ่นดินไหวที่เมืองมินดาเนา ประเทศฟิลิปปินส์ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.6 ริกเตอร์ ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวอยู่ลึกลงไปใต้ผิวดิน 10 กม. โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้เคียงจุดที่ก่อนหน้านี้พายุไต้ฝุ่นโบพาพัดผ่านมาแล้ว โดยเบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว

    ที่มา http://www.thairath.co.th/content/oversea/312201
     

แชร์หน้านี้

Loading...