จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

โลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรี ๆ
ของฟรีไม่เคยมี ของดีไม่เคยถูก
อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย
ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ
ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
ในโลกกลม ๆ ใบนี้ ไม่มีคำว่า แน่นอน
คนเราเมื่อ ตัวตายก็ต้องลงดิน
ท้อแท้ได้ แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้ แต่อย่าริษยา พักได้ แต่อย่าหยุด
เหตุผลของคน ๆ หนึ่ง อาจไม่ใช่ของคน อีกคนหนึ่ง
ถ้าไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร
หนทางอันยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ
ปัญหาทุกอย่าง อยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
จะเห็นค่าของความอบอุ่น เมื่อผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว
อันตรายที่สุดคือ การคาดหวัง

เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
อย่ายอมแพ้ ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน
ไม่มีคำว่า บังเอิญ ในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่า ตั้งใจ
ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป

หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใสเสมอ
หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว
ไม่เป็นขุนนางนะ ได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้
มีแต่วันนี้ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง
เมื่อวานก็สายเกินแล้วพรุ่งนี้ ก็สายเกินไป
อย่าหวังว่าจะได้รับความรัก จากคนที่คุณรัก
เพราะคนที่คุณรัก ไม่ได้รักคุณ หมดทุกคน

แต่ที่นี่..ไม่มีความรัก มีแต่ความเมตตา
อย่าเสียเวลาตามหาใครหรือสิ่งที่ดีที่สุดในโลก
เพราะสิ่งที่ดีที่สุดในโลก ก็อยู่ภายใน ก็คือ จิตตนเอง​

 

คุณเมิลคะ ถ้าเราส่งคำเชิญทางเมล์แล้วให้คุณเกษตอบรับจะได้มั๊ยคะ พี่ไก่ส่งให้แล้วค่ะ

 

น่าจะได้คะพี่ไก่ ก็ต้องรอพี่เกษตอบรับคำเชิญพี่ แต่คงต้องมีใครแนะนำพี่เขาว่าทำยังไงต่อไป พี่เขาอาจจะงงกับคำถามของเฟส จะset upไม่ได้ก็ตรงนี้แหละคะ

 

คุณเมิลคะ คุณเกษตอบรับแล้วค่ะ
Maneekes suttipho แอดเข้ากลุ่มได้เลยค่ะ

 

อ่านแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ....สาธุค่ะ

 

กราบอนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่๑๐๗และจิตบุญดวงที่๑๐๘ และครูผู้สอนทุกท่านค่ะ

แสงจันทร

 

สาธุค่ะ.....ครูภูกล่าวได้ทราบซึ้งใจยิ่งนัก. มันเป็นเช่นนั้นจริงแท้เลยค่ะ

 

สะดุ้งเหมือนใครมาจิ้มสีข้าง อ๋อ ครูเพ็ญเรียกหานี่เอง
ไม่เป็นไร ปีหน้าก็ได้แล้ว ไม่ได้ก็ปีใน(ภาษาเหนือ)
ไม่ได้อีก ก็ปีจะใค(ตะใคร้) ออกดอก
มาเมื่อไหร่เราก็ไปลุยเมื่อนั้นแหละ อิอิ

 

ขอโมทนาสาธุกับจิตบุญดวงที่ 107 และ 108 ด้วยจ๊า
พร้อมโมทนาบุญไปกับครูจิตบุญทุกท่านเลยนะจ๊ะ
สาธุ

 

หาเมลล์รายงานของคุณกุ้งไม่เจอ อ๋อที่แท้มาอยู่ในกระทู้นี่เอง
เอ๊ะครูวัฒน์กะครูเกษไปไหนแล้วเนี่ย หรือครูไม่อยู่เลยออกมากระทู้ อิอิ
ไม่เป็นไร ในเมลล์หรือกระทู้ก็ได้แล้วนะ
มีสติแยกกายแยกจิตได้แล้วนะคะ เหมือนแคสเชียร์ในซุปเปอร์มาเก็ต
รอรับเงิน(จิต)ลูกค้าผ่านมาจ่ายแล้วผ่านไปคนแล้วคนเล่า(กายทำนั่นจบ
ทำนี่ต่อ)แคสเชียร์ไม่ได้เดินตามไปกับลูกค้าที่จ่ายเงินเสร็จ ลองนึกดูสิว่า
หากแคสเชียร์หลงเดินตามลูกค้าท่านนั้นๆไป ลูกค้าคนหลังก็หลง
เหมือนกัน จ่ายไม่จ่ายก็ไม่รู้ที่นี้ก็พากันหลงไปหมดทั้งแคสและลูกค้า ฮ่าๆๆ
จิตกับกายก็เหมือนกัน หากยังมั่วไม่รู้ว่าอะไรเป็นจิตอะไรเป็นกาย
ก็งงเสร็จมารเอาไปแดร๊ก... แต่หากจิตเป็นตัวตั้งโดยมีสติกำกับ
กายทำอะไรจิตก็จะรู้จะเห็นหมด เห็นมันไปหมดแม้กระทั่งกระพริบตา
เห็นกายนอกทำอะไรแล้วก็จะเลยเข้าไปข้างในกายเลือดลมวนเวียน
เบียดออกสูดเข้า ตู๊บตั๊บหัวใจเต้นปอดขยับตับเขยิบ แล้วสุดท้าย
มันก็ค่อยๆเห็นเข้าไปในจิต ในใจ เห็นเนื้อเห็นในเข้าลึกไปจนหา
ที่สิ้นสุดมิได้ นี่แหละ สติตัวเดียวที่จะทำให้เกิดการแยกได้นะคะกายจิตเรานี้
จิตตื่นตั้งรับได้อยู่อย่างตลอด คือมีสติ อยู่ต่อเนื่องนี่เองค่ะ
ส่วนคนอื่นๆรอบตัว ก็อย่างที่ครูวัฒน์บอกนะคะ เอาเป็นว่า เมื่อไหร่ที่
เราว่ายน้ำเก่ง เมื่อนั้นจะกระโดดลงน้ำไปช่วยคนใกล้จมกี่ครั้งกี่คน
ก็ได้ค่ะ เพราะฉะนั้น อีกอึดใจเดียวก็จะถึงแล้ว กลับมาส่งการบ้าน
ที่ครูเป็นปกตินะคะ เดี๋ยวครูจะได้เช็คสังโยชน์ 10 ให้เลย
ครูวัฒน์เจ้าขา สังโยชน์10 รักโลภโกรธหลง ค่ะ ฝากโตยเด้อ
สาธุ

 

ร้อยหรือเกินร้อยซะละมั้ง เอาละได้ลุ้นกันสุดตัว
เราไม่ได้ไปก็จะเป็นกำลังใจในแนวหลังดังเช่นพี่ภูกะครูเพ็ญ
โมนาสาธุ

 

ถ้าจะต้องเลือกเกิด?

พอดีเห็นบทความของท่านนี้..เข้าท่าดี! จึงนำมาลงให้อ่านเป็นธรรมทานครับ

-----------------------------------------------------
"คนเราเลือกเกิดไม่ได้จริงหรือ เหตุใดบางคนรวย บางคนจน บางคนพิการ บางคน ฯลฯ"
XXX ตามหลักพุทธศาสนาแล้ว คนเราเลือกเกิดอยู่ตลอดเวลาโดยที่เราไม่รู้ตัว อย่างเช่นคนที่จนมากๆ มีลักษณะตะหนี่ถี่เหนียวมาแต่ครั้งก่อน หรือเคยเอาทรัพย์ผู้อื่นมาแต่ครั้งก่อน ทำให้ปัจจุบันเป็นผู้ไม่มีทรัพย์
XXX มีอยู่ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็น"ขอทาน" ชื่อว่า "มหาทุกขตะ"(แปลว่าผู้มีความทุกข์อย่างยิ่ง) เพราะไม่เคยบริจาคทรัพย์หรือให้อะไรกับใครเลยในอดีตชาติ
XXX ถ้าเช่นนั้นเรามาดูวิธีเลือกเกิดกันในแบบพุทธกันนะครับ
** หากอยากเลือกเกิดเป็น "มนุษย์" ต้องหมั่นรักษาศีล 5
** หากเลือกเกิดเป็น "เทวดา" ต้องหมั่นรักษาศีล 5 และรู้จักทำทาน
** หากเลือกเกิดเป็น "พรหม" ต้องหมั่นฝึกจิตให้สงบ
** หากเลือกเกิดเป็น "สัตว์" ต้องทำจิตให้หลง
** หากเลือกเกิดเป็น "เปรต" ต้องทำจิตให้โลภ
** หากเลือกเกิดเป็น "อสุรกาย" ต้องทำจิตให้โกรธ
** หากเลือกเป็นสัตว์ "นรก" ต้องทำแต่กรรมชั่ว
XXX ทุกอย่างใน "ธรรมะ" (หรือ ธรรมชาติ) มีกฏอยู่ว่า "เมื่อมีเหตุ จึงมีผลตามมา เมื่อมีผลเกิดขึ้นย่อมมาจากเหตุก่อนนั้น"
XXX หลายคนตัดพ้อในโชคชะตาตัวเอง บางคนคิดอยู่ในใจว่า ทำไมฉันไม่ไปเกิดเป็นลูกเศรษฐี คำตอบคือ ถ้าคุณไม่ได้สร้างเหตุมาเพื่อเป็นลูกเศรษฐี หรือสร้างบุญมาไม่เท่าเขา ก็ไม่มีทางเกิดเป็นเหมือนเขาได้
---ทีนี้เรารู้แล้วว่าเราเลือกเกิดได้ แล้ววันนี้และวันต่อๆไป คุณจะเลือกเกิดเป็นอะไร???

ที่มา: --จิตอสุรา--
-----------------------------------------------------

แต่ถ้าท่านเลือกที่จะไม่เกิดเลย.. ก็ต้อง "จิตเกาะพระ" นะครับ!


ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี

 

กลับบ้านเราเถิดลูกเอ๋ย...
พวกเราชาวจิตบุญ จิตเกาะพระทั้งหลายจะจับมือจูงกันเป็นสาย ๆ ..เพื่อลอยล่อง...กลับสู่หาสมเด็จพ่อของพวกเรา..สาธุ สาธุ สาธุ[/CENTER]

 

ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๑๐๙ ณ วันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
กับจิตบุญดวงที่ ๑๐๙
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ​

​

 

อนุโมทนากับจิตบุญดวงที่ ๑๐๙ และครูจิตบุญ ครับ..

 

ขอโมทนากับจิตบุญดวงที่ ๑๐๙ และคุณครูผู้สอนด้วยค่ะ สาธุ ๆ ๆ

 

คุณพิม UK ศิษย์ครูแนท ครูดาว เสริมทัพด้วยครูลูกพลังและครูเกษ
จบกิจจิตเกาะพระเป็นจิตบุญ 109 ณ วันที่ 11พฤศจิกายน 2555
ขอเชิญคุณดาวช่วยขึ้นมาบอกเล่าที่มาที่ไปเกี่ยวกับคุณพิมด้วยค่ะ
เธอเป็นใคร มาจากไหนเหรอ แต่ที่ไปรู้กันทั่วแล้วจ้า
คุณพิมเิริ่มฝึกจิตเกาะพระตั้งแต่เมื่อไรคะ แต่ท่านนี้ก็มาไวไปไวนะ สาย UK นี่เครื่องแรงดีจริง ๆ
พี่เพ็ญขออนุญาตคัดลอกการบ้านมาให้ดูเป็นธรรมทานนะคะ

สวัสดีค่ะคุณครูทุกๆท่าน

เมื่อคืนได้โทรเช็คอารมณ์จิตคุณพิม แต่ไม่ได้เขียนรายงานส่ง (เมื่อวานยุ่งๆนิดนึงค่ะ) เมื่อคืนนี้พิมเล่าว่าเธอโล่งใจมากหลังจากได้โทรกลับไปคุยกับครอบครัวที่เมืองไทย เจอน้องชายสุดที่รักสอบอารมณ์...น้องชายว่า..งั้นขอคอนโดฯของพี่พิมเลยละกัน..ฮ่าๆ พิมบอกถ้าเป็นเมื่อก่อนคงตบแสกกระบาลผ่านสายโทรศัพท์ไปแล้ว แต่วันนี้กายกับจิตพิมแยกออกจากกันเห็นได้ชัด หูได้ยินว่านั่น..สิ่งยั่วโมโหวิ่งมานั่น แต่จิตพิมนิ่ง สงบ วางเฉยได้ แถมจิตยังวิปัสสนาต่อได้อีกว่าสิ่งของนอกกายมันก็ไม่เที่ยงแท้แน่นอนเหมือนกัน ตายไปก็เอาติดตัวไปไม่ได้ สักวันนึงมันก็ต้องพังสลายอยู่บนโลกนี้เช่นกัน เมื่อคืนพิมออกไปงานสังสรรค์ฮาโลวีนปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ที่แรกพิมบอกไม่อยากออกไป แต่ดาวยุให้ออกไปชนกับกิเลสดูซิ ว่าตอนนี้จิตพิมได้ของจริง หรือของปลอม พิมก็ไปแต่เธอว่าจิตเธอไม่เอาอะไรเลยกับโลกความบันเทิง ซึ่งผิดจากเมื่อก่อนมาก แต่เวลาอยู่กับเพื่อนที่ยังไม่เข้าใจธรรมะ ก็ต้องพยายามปรับตัว ยอมรับสภาพของเพื่อนๆในกลุ่ม โดยจิตไม่เข้าไปพัวพัน มั่ว ยุ่งเหยิง หรือฟุ้งซ่าน ไม่แม้แต่คำตำหนิ พิมบอกต้องยอมปล่อยให้เขาติดวาระกรรมแบบนี้ไปก่อน พิมยังช่วยอะไรเพื่อนไม่ได้ตอนนี้ ถ้ามีโอกาสก็จะช่วยแนะนำพวกเขาอีกทีค่ะ พิมเจอหลายกระทงค่ะเมื่อคืน เจอคำพูดยั่วโมโห เจอเพื่อนพูดแดกดัน เพราะพิมไม่ยอมดื่มแอลกอฮอล์ แต่พิมผ่านด่านยั่วยุทั้งหลายมาได้ เพราะจิตบอกชัดว่าไม่เอาอะไรทั้งสิ้น สุขก็ไม่เอา ทุกข์ก็ไม่เอา และทำให้เข้าใจธรรมชาติของมนุษย์ที่ตกอยู่ในหลุมอุบายของกิเลส จึงทำให้เข้าใจธรรมะของพุทธองค์มากขึ้นอีกด้วย และรู้แล้วว่าจะอยู่บนโลกนี้ต่อไปได้อย่างไร วิธีที่จะจัดการกับกิเลสทั้งหลายที่วิ่งเข้ามาได้ตลอดเวลา รอบทิศ ทุกทาง ก็คือ จัดการกับกิเลสด้วย "วิชาจิตเกาะพระ" นี่แล่ะค่ะ

วันนี้ดาวโทรเช็คอารมณ์จิตของพิมอีกรอบ (เพื่อความมั่นใจว่าเธอได้ของจริง) วันนี้พิมรู้สึกมีแต่ความสบายใจ ความโล่ง ความอิ่มในจิตในใจ อิ่มมาถึงท้องเลยพิมบอกพิมไม่รู้สึกหิวข้าวเลย ไม่รู้สึกเหนือย หรือเพลีย ขนาดว่าเมื่อคืนนอนดึกมากๆด้วย ก็ยังตื่นเช้าได้อย่างสดชื่นแจ่มใส พิมบอกว่าวันนี้พิมเดินจงกรมอยู่เหมือนพิมจะลอยได้ค่ะ ตัวพิมเบาหวิวเลย (ดาวนึกในใจ..ฮ่าๆ อาการนี่แล่ะ..ใช่เลย!) พิมบอกวันนี้พิมมั่นใจอย่างบอกไม่ถูกว่าปฏิบัติธรรมจิตเกาะพระนี่แล่ะใช่เลย พิมมาถูกทางแล้ว เข้าถึงธรรมต้องได้ปฏิบัติจริงๆแบบนี้แล่ะ เมื่อก่อนพิมอ่านเยอะ แต่ก็ไม่เข้าใจได้ชัดเจนแบบนี้มาก่อน ถ้าเดินถูกทางจะต้องได้ "ตัวสติ" แบบนี้แล่ะค่ะ พิมย้ำเรื่องจะใช้ชีวิตอย่างไรไม่ให้ทุกข์บ่อยมาก เมื่อก่อนด้วยเพราะพิมตัวคนเดียวและต้องอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแบบนี้ พิมมักวิ่งเข้าหาเพื่อน เพราะเหงา แต่มา ณ เวลานี้พิมบอกพิมไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนเยอะแยะเหมือนเมื่อก่อน พิมก็มั่นใจว่าพิมอยู่ได้ พิมชอบความสงบเงียบแบบนี้มากกว่า พิมขอเลือกเดินทางนี้ดีกว่า "เดินบนเส้นทางสายพระนิพพาน" เมื่อเห็นความมุ่งมั่น ความมั่นใจของพิมแบบนี้แล้ว ดาวจึงขอให้พิมกำหนดจิตถึงภาพสมเด็จพ่อองค์ปฐม และให้น้อมกราบลงแทบพระบาท พร้อมทั้งถวายดอกบัวแก้วเพื่อเป็นพุทธบูชา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงถ่ายทอดวิชาจิตเกาะพระมายังลูกหลานได้เดินตามรอยฝ่าพระบาท...เพียงเท่านั้นเองค่ะ....พิมบอกว่าพิมได้รับกระแสบางอย่างเป็นพลังงานเย็น ทำให้รู้สึกเย็นไปทั่วร่างกาย พิมรับรู้ได้ว่าท่านอยู่ตรงนั้น พิมจึงขอความเมตตา ขอให้ท่านนำพาดวงจิตของพิมขึ้นสู่พระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ดาวจับพิมสอบเทียบอารมณ์กับสังโยชน์ 10 เลยค่ะ


เทียบเคียงอารมณ์จิต ณ ปัจจุบัน กับ สังโยชน์ 10 ประการ
1.สักกายทิฏฐิ : เมื่อพบสภาพความจริงของธรรมชาติแล้ว ในเมื่อร่างกายนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ มันไม่ใช่ของเรา เราเพียงมาขออาศัยอยู่ชั่วคราวเท่านั้น ถึงเวลาหมดอายุขัยก็ต้องทิ้งร่างนี้ไว้บนโลกเหมือนเดิมกลับคืนสู่ธรรมชาติไป แบกร่างนี้ไปด้วยไม่ได้ เช่นนี้แล้วไม่ควรอย่างยิ่งที่จะยึดติดกับสิ่งสมมุตินี้ แต่เมื่อเรายังต้องอาศัยอยู่ในร่างนี้ต่อไปก็จะดูแลไปตามอัตภาพ ไม่ไปเพิ่มทุกข์ให้กับร่างกายขันธ์ 5 นี้


2.วิจิกิจฉา : ศรัทธาในคุณพระรัตนตรัยเต็ม 100% เวลากราบพระจะน้อมกราบด้วยกายและใจ และยิ่งได้มาปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพุทธองค์แล้ว เห็นความสำเร็จได้ด้วยจิตตัวเองว่านี่แล่ะ..ใช่เลย! ได้เข้าใจในสภาวะธรรมต่างๆ ซึ่งเมื่อก่อนได้แต่ความรู้จากการอ่าน การฟัง แต่ตอนนี้ได้ความรู้จากการลงมือปฏิบัติ และเดินมรรคด้วยวิธี จิตเกาะพระ สามารถนำพาให้ดวงจิตได้บรรลุถึงธรรมได้จริงๆ


3.สีลัพพตปรามาส : สามารถรักษาศีล 5 เป็นไปได้อย่างอัตโนมัติ เมื่อสติและจิตทำงานร่วมกันได้เช่นนี้ การรักษาศีลเป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้นจริงๆ จิตจะปฏิเสธความชั่ว ความบาป จิตไม่เอากิเลสแล้ว


4.กามฉันทะ : ไม่ลุ่มหลง ไม่ยึดติดในกามคุณ 5 รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส สิ่งเหล่านี้คือตัวกิเลสที่สามารถเข้ามาเกาะฝังอยู่ในจิตได้ง่ายๆ ต้องใช้สติ และปัญญาที่ได้รับจากการเดินมรรคมาช่วยกำจัดลงไปให้สิ้นซาก ไม่ให้มีเชื้อเกิดเป็นเปลวไฟขึ้นมาได้อีก ต้องดับให้สนิท ด้วยวิธีจิตเกาะพระนี่แล่ะค่ะ ช่วยให้แยกกายแยกจิตได้เป็นอย่างดี


5.ปฏิฆะ : ผลจากการฝึกจิตเกาะพระ ทำให้สติเกิด สติกลับมา ได้อย่างว่องไวยิ่งนัก สติสำคัญมาก มั่นเจริญสติอย่างต่อเนื่องให้ได้แบบนี้จะเป็นอาวุธอย่างดีที่ป้องกันจิตไม่ให้ถูกรุกรานจากสิ่งยั่วยุต่างๆ อารมณ์ที่เข้ามากระทบกระทั่งก็จะถูกกำจัดลงอย่างง่ายดาย


6.รูปฌาน : ไม่ยึดติดค่ะ ขอมุ่งตรงสู่พระนิพพานอย่างเดียว เพราะพระนิพพานเป็นสุขที่เหนือสุข เป็นสุขอย่างยิ่ง


7.อรูปฌาน : ไม่ยึดติดอยู่แค่อรูปณานค่ะ นำจิตไปเกาะไว้ที่พระ ระลึกถึงพระนิพพานเป็นอารมณ์ ตายเมื่อใดก็ไปพระนิพพานทันที

8.มานะ : ทุกดวงจิต ทุกชีวิตมีคุณค่าเหมือนๆกัน ต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนๆกัน ต่างกันตรงที่เราโชคดีที่ได้มาเรียนรู้และเข้าใจในหลักธรรมชาติตรงนี้ มันช่วยให้ไม่ต้องการแบ่งแยกชนชั้น วรรณะ ถ้าเข้าใจเรื่องของธรรชาติซะอย่างเดียวมันสามารถตัดความถือตัวถือตนได้เป็นอย่างดี เราเอาปัญญาเข้าไปพิจารณาให้เห็นชัดๆเราก็จะรู้เองว่ามันไม่มีอะไรจริงๆ มันมีแต่สิ่งสมมุติ แล้วจะไปยึดสมมุุติไว้ทำไม ให้ความเห็นอกเห็นใจต่อชีวิตอื่นๆถึงจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องและควรทำให้เสมอภาคกันกับทุกชีวิตทุกดวงจิต


9.อุทธัจจะ : เมื่อจิตเกาะพระได้แนบสนิท จิตและสติรวมเป็นหนึ่งเดียว จนเกิดเป็นสมาธิได้แล้ว มันตัดปัญหาความฟุ้งซ่าน รำคาญใจไปหมดสิ้น ความสุขมันอยู่ที่จิตที่ใจ ไม่ต้องไปวิ่งหาข้างนอกจนฟุ้งซ่าน ยึดจิตเกาะพระ + อารมณ์พระนิพพานไว้เท่านี้ก็สุขใจได้แล้ว

10.อวิชชา : เมื่อมีการพิจารณาธรรมเกิดขึ้น ตัวปัญญาก็จะตามมา จิตเกาะพระช่วยให้จิตเข้าวิปัสสนาได้เป็นอัตโนมัติ พิจารณาไปเรื่อยๆก็เข้าใจธรรมะมากขึ้น เข้าใจธรรมดาของธรรมชาติมากขึ้น รู้หนทางที่จะดับทุกข์ได้อย่างถาวรแล้ว คือการเข้าสู่พระนิพพาน ไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีก เมื่อรู้แล้วก็เพียงแค่เดินตามนั้นปฏิบัติตามนั้นไปจนกว่าวันสุดท้ายของชีวิต


จบการรายงานของคุณพิมเท่านี้ค่ะ

ดาว


สวัสดียามเช้า(ที่อังกฤษ)ค่ะคุณครูพี่เพ็ญ

โทษทีค่ะพี่เพ็ญ จริงๆคำถามเหล่านั้นดาวได้ยิงคำถามเธอไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วละค่ะ เวลาพูดคุยทางโทรศัพท์ตอนนั้นก็มีสติเต็มร้อยนะค่ะ แต่พอพูดจบไปสักพักแล้วต้องไปทำธุระอื่นต่อ ยังไม่ได้เขียนรายงานทันที สัญญาดาวมันดับตกกระป๋้องไปค่ะ5555+ เป็นหนักๆมาติดต่อกัน 3 วันแล้วค่ะ แต่ก็ดีค่ะ.....วันนี้ขอโทรเช็คให้ชัวร์ๆอีกครั้งไปเลย เพิ่งวางสายจากคุณพิมเมื่อกี้เองค่ะ ต้องรีบส่งรายงานก่อนแล้วค่ะ เดี๋ยวมันดับไปอีก...ฮ่าๆๆๆ

เธอยอมรับว่าเธอจบกิจแล้วค่ะ เพราะสิ่งที่ได้จากการปฏิบัติธรรมในครั้งนี้ มันทำให้เธอตอบปัญหาคาใจได้ในหลายเรื่องเกี่ยวกับธรรมะ เธอบอกว่าธรรมะมันก็คือธรรมชาติ ทุกคนสามารถไปถึงจุดที่คนเขาเรียกกันว่า "พระอรหันต์" ได้จริง เพราะจริงๆแล้วคำว่า"พระอรหันต์" ก็ยังเป็นเพียงสมมุติเช่นกัน ผู้ที่ถึงจุดนั้นด้วยตัวเองแล้วจริงๆ จิตจะรู้ได้ด้วยตัวจิตเองว่าเราถึงแล้ว เธอไม่มีห่วงใดๆทั้งสิ้นค่ะ..คนโสดอีกต่างหาก เธอไม่มีพันธะใดๆทางโลกค่ะ ทรัพย์สินที่มีอยู่ เธอบอกถ้าเทียบกับพระนิพพานแล้ว ทรัพย์สินเหล่านั้นไม่มีค่าอะไรสำหรับเธอ เธอขอเลือกพระนิพพานค่ะ ถ้าต้องตายวันนี้ได้ยิ่งดีค่ะเธอบอก เธอจะได้บรมสุขซะที เมื่อคืนเธอก็ไปเช็คตัวเองอีกรอบนะค่ะ คือไปฟังเทศน์เรื่องของอารมณ์พระนิพพาน ยิ่งทำให้เธอมั่นใจมากยิ่งขึ้น ว่าเธอไปถึงพระนิพพานได้แล้วจริงๆ เธอบอกว่าเมื่อคืนเธอไม่ง่วงนอนเลยค่ะ ไม่หิวด้วย แต่วันนี้เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อทำงาน 7 โมงเช้า เธอก็บอกว่ามันไม่เหนื่อย ไม่เพลีย ซึ่งแตกต่างเห็นชัดจากเมื่อก่อนมากๆค่ะถ้าเธอไม่ได้นอนทั้งคืนรับรองตอนเช้าเธอตื่นไม่ไหวแน่นอน...ตอนนี้จิตเธอกำลังตื่นเต็มที่ค่ะ จิตเบิกบาน หรืออีกอย่างก็คือ จิตเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานนั่นเองค่ะ

จบรายงานเท่านี้นะค่ะ...ขอบคุณครูพี่เพ็ญมากๆนะค่ะ..

ดาวค่ะ

ปล.ยิ่งสอนยิ่งได้ความรู้จริงๆนะค่ะเนี่ย ทั้งจากครู upline และจากลูกศิษย์ เยี่ยมจริงๆ ^_^

 

โอ๊ะโอ๊ะ.. คุณพี่พอใจ แหม่..ซูดยอดดเจงๆๆๆ..555

 

พี่ภูอยู่หนาย ขอเม้าท์ครูดาวหน่อย ท่านนี้จิตแรงแซงโค้งตลอด เธอสอนธรรมะผ่านโทรศัพท์ได้ยอดเยี่ยม สื่อจิตตรงมรรคเป๊ะๆๆ ทำให้ลูกศิษย์เธอที่เรียนทางโทรศัพท์จับประเด็นได้เป๊ะๆๆ และความสามารถพิเศษอีกอย่างของเธอก็คือเธอรายงานการบ้านแทนลูกศิษย์เก่งมากกกกกกกกกกกกกกกก 55555

 

_/\_ สาธุ
ขออนุโมทนากับจิตบุญดวงที่ ๑๐๙ และคุณครูจิตบุญทุกท่านด้วยครับ