ร่วมอนุโมทนาบุญกฐินปิดท้าย สร้างพระอุปคุต,ตู้พระไตรปิฎก และ อื่นๆ

ในห้อง 'กฐิน - ผ้าป่า - งานวัด' ตั้งกระทู้โดย thitiwats, 13 กันยายน 2012.

  1. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    พระคาถาหลวงปู่อุปคุตเพื่อความเจริญรุ่งเรืองปัดเป่าอุปสรรค

    คาถาบูชาพระอุปคุต


    คาถาสวดบูชาพระอุปคุต

    อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร สัมพุทเธ นะ วิยากะโต มารัญจะ มาระพะลัญจะ โสอิทา นิมะหาเถโร นะมัสสิตตะวา ปะติฏฐิโต

    อะหัง วันทามิ อิทาเนวะ อุปะคุตตัง จะมะหาเถรัง ยัง ยัง อุปะทะวัง ชาตัง วิธัง เสติ อะเสสะโต มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ

    คาถาบทนี้ สวดบูชาพระอุปคุตทุกวัน จะบัลดลให้บังเกิดโชคลาภ ทรัพย์สินเงินทองมากมาย และป้องกันภัยอันตรายทั้งปวงแก่ผู้บูชา หากมีเวลาจำกัด

    อาจสวดแบบย่อ ดังนี้

    อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร ยักขาเทวา นะระปูชิโต โส ระโห ปัจจะยาทิมหิ มะหาลาภัง ภะวันตุ เม ฯ



    คำบูชาขอลาภพระอุปคุต

    มหาอุปคุตโต จะ มหาลาโภ พุทโธลาภัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ราชาปุริโส อิถีโยมานัง นะโม โจรา

    เมตตาจิตตัง เอหิจิตติจิตตัง ปิยังมะมะ สะเทวะกัง สะพรหมมะกัง มนุสสานัง สัพพะลาภัง ภะวันตุ เม ฯ


    เอหิจิตติจิตตัง พันธะนัง อุปะคุโต จะ มหาเถโร พุทธะสาวะกะ อานุภาเวนะ มาระวิชะยะ นิระภะยะ เตชะปุญณะตา

    จะเทวะตานัมปิ มะนุสสานันปิ เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ อิมังกายะ พันธะนัง อะทิถามิ ปะอัยยิสสุตัง อุปัจสะอิ



    ให้จุดธูปเทียน พร้อมดอกไม้หอม เครื่องหอม น้ำหอมต่างๆ เทหยดใส่ในขันน้ำมนต์ ณ ที่บูชาพระในร้านค้าขาย หรืออาคารสำนักงานธุรกิจ แล้วอธิษฐาน ธูปควันเทียน ลมพัดไปทางไหน ขอให้ดลใจผู้คนเข้ามาอุดหนุน ขอให้ดำเนินกิจการด้วยความราบรื่น มีความสำเร็จสมปรารถนาทุกประการ

    เมื่ออธิษฐานจุดธูปเทียนบูชาแล้ว ให้สวดนะโม ๓ จบ และสวดคาถาบูชาขอลาภพระอุปคุต ๑ จบ แล้วทำน้ำมนต์สวดด้วย คาถาขอลาภพระมหาอุปคุต อีก ๑ จบเสร็จแล้ว เอาน้ำมนต์ประพรมร้านค้า และสินค้าต่างๆ ในร้าน หรือทำธุรกิจอย่างอื่น ก็ให้เอาน้ำมนต์ประพรมภายในสำนักงานและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการประกอบธุรกิจนั้นทั้งหมด

    ให้ปฎิบัติตามที่กล่าวมานี้ก่อนเปิดร้านในตอนเช้า ก่อนลูกค้าจะเข้าร้านหรือเปิดสำนักงานเวลาเช้า เป็นการทำเสน่ห์ เมตตามหานิยม มีลูกค้าเข้ามาอุดหนุนมากมาย มีโชคลาภเข้ามาไม่ขาดระยะ ส่งเสริมให้ฐานะร่ำรวยมาก โจรผู้ร้ายบังเกิดเมตตาสงสารไม่ยากมารบกวนหรือคุกคาม ที่สำคัญศัตรูคู่แข่งไม่อาจขัดลาภหรือผลประโยชน์ได้



    คาถาพระอุปคุตผูกมาร

    มหาอุปะคุตโต มหาอุปะคุตตัง กายะพันทะนัง อมยิสะ พุทธังทะเถโร ธัมมัง ทะเถโร

    สังฆังทะเถโร ปะอัยยะสุตัง อุปัจสะอิ อิมังกายะพันทะนัง อะทิถามิ ฯ

    คาถาพระอุปคุตผูกมารนี้ นับเป็นคาถาที่มีอานุภาพมากที่สุด ดังปรากฏในประวัติของท่าน ตอนพระอุปคุตเถระผูกมารโดยบริกรรมคาถาเนรมิตเป็น

    ซากสุนัข เน่าเหม็นมีหนอนชอนไชยั้วเยี้ยไปผูกติดกับคอพญามาร แล้วเปล่งวาจาสิทธิ์ว่า แม้เทวดาและพรหมไม่สามารถปลดเปลื้องได้ และ พระอุปคุต ยังเอาผ้ารัดอกของท่านออกมาพันคอพญามารผูกติดกับภูเขาอยู่นานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วันจนกระทั้งพระเจ้าอโศกมหาราชทำการฉลองสมโภชพระสถูปเสร็จสิ้นแล้ว พระอุปคุตเถระจึงค่อยแก้พันธนาการออกจากคอพญามาร ให้เป็นอิสระกลับสูวิมานของตน คาถาพระมหาอุปคุตผูกมารมีอานุภาพความ ศักดิ์สิทธิ์ มาก เสกด้วยสายสิญจน์ทำเป็นมงคลสวมคอ หากปลุกเสกครบ ๑๐๘ ครั้ง สามารถป้องกันภูตผีปีศาจทั้งปวง และป้องกันอุปัทวะอันตรายต่างๆ

    ถ้าเสก ๓ –๗ คาบ ผูกคอหรือคล้องคอคนถูกผีเข้าสิง จะเจ็บปวดร้องครวญครางโหยหวนอย่างน่าเวทนา ถ้าจะให้ผีที่สิงอยู่ออกไป ให้ถอดหรือแก้ด้ายผูกคอออก แล้วเอาด้ายนี้ตีปัดตามตัวคนที่ถูกผีสิงอยู่นั้น ผีจะอยู่ไม่ได้จะเผ่นออก และไม่กล้ากลับมารบกวนคนในบ้านอีก
    คาถาพระมหาอุปคุตผูกมารนี้ยังมีอุปเทห์อีกมากมายใช้ปลุกเสกในทางพุทธเวชพิชิตโรคาพาธ ได้วิเศษนัก



    คาถาบูชาพระอุปคุต (บัวเข็ม)

    จิตติ จิตติ ริตติ ริตติ มิตติ มิตติ เอหิ มะมะ ปะทุมะ พุทโธ นานา ปารมีสัมปัณโน อิติปิ โส ภะคะวา มะอะอุเมตตา

    จะ มหาราชา สัพพะสะเนหา จะ ปูชิตา สัพพะสุขัง มหาลาภัง สัพพะโกธัง วินัสสันติ อะหัง วันทามิ สัพพะทา

    (สวด ๒, ๕, ๗, ๙ จบ หรือเท่าอายุของผู้บูชา)

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1258085002.jpg
      1258085002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54.5 KB
      เปิดดู:
      828
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ตุลาคม 2012
  2. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    อ้างอิง
    เรียน คุณธิติวัฒน์
    ผมขอร่วมทำบุญสร้างพระประจำวันพุธอีก1 องค์ ในนาม พิมุกต์ บุญชูคำ ครับ
    ขอบคุณครับ
    ธนวร

    ผม ธิติวัฒน์ขอกราบโมทนาบุญของพี่ธนาวร ที่ร่วมหมุนวงล้อธรรมจักร ในการเป็นเจ้าภาพสร้างพระประจำวันพุธเพิ่มอีก 1 องค์ในนาม พิมุกต์ บุญชูคำและร่วมบุญกฐิน พี่เป็นคนดีครับกรรมฐานที่ปฎิบัติดีของพี่ผมขอกราบโมทนา ขอกุศลเหล่านี้เป็นปัจจัยต่อยอดบารมีถึงพระนิพพานอันไกล้นี้เทอญขอกราบโมทนา
    ธิติวัฒน์




    UPDATE ผู้ร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระประจำวันครับ

    1.)วันอาทิตย์ จอง คุณเพชร 2545
    2.)วันจันทร์ จองแล้ว คุณ Gangfoo Panda
    3.)วันอังคาร จอง คุณเพชร 2545
    4.) วันพุธ คุณ พิมุกต์ บุญชูคำ
    5.)วันพฤหัสบดี จองแล้ว เพื่อนโดม
    6.)วันศุกร์ จองแล้ว คุณ ธนวร บุญชูคำ
    7.)วันเสาร์จองแล้ว คุณเพชร 2545
    8.)วันพุธกลางคืนจองแล้วคุณSunnySoCuteโอนแล้ว ขอกราบโมทนาบุญด้วยนะครับ
    9.)พระเกตุ จองแล้วคุณแหวน MPT
    ขอกราบโมทาบุญด้วยครับจำกัดแค่ 9 องค์นะครับ

    ครบแล้วครับขอกราบอนุโมทนากับทุกท่านด้ายนะครับ


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ตุลาคม 2012
  3. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    อ้างอิงคุณSunnySoCute

    กระผมขออนุโมทนาในกุศลกับทุกๆท่านด้วยครับ.../\...
    ------------------------------------------------------------
    บัญชีผู้รับโอน KBANK 4982333062 KBANK 4982333062
    ชื่อบัญชี MR. THITIWAT SANGWANDET
    วันที่เงินเข้าบัญชี 22 ต.ค. 2555
    จำนวนเงิน 3,510.00

    ผม ธิติวัฒน์ขอกราบโมทนาบุญของคุณSunnySoCute ที่ร่วมหมุนวงล้อธรรมจักร ในการสืบทอดพระพุทธศาสนาในครั้งนี้ ขอให้คุณSunnySoCuteมีความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ขอกุศลเหล่านี้เป็นปัจจัยต่อ ยอดบารมีถึงพระนิพพานอันไกล้นี้เทอญขอกราบโมทนา
    ธิติวัฒน์

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2012
  4. ปูรณ์

    ปูรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +216
    ขออนุโมทนาบุญในความตั้งใจจริงของคุณขวัญกับคุณแม่ด้วยนะคะ ขอให้งานของคุณขวัญสำเร็จลุล่วง ปราณีต สวยงาม สมดั่งที่ตั้งใจเอาไว้นะคะ

    ผ้าที่คุณขวัญนำมาใช้ จากประสบการณ์ที่เคยสัมผัสมาถ้าจำไม่ผิดน่าจะเรียกว่า "ผ้าตาด" หรือเรียกเต็มๆว่า "ผ้าตาดทองดิ้น" เป็นผ้าที่ทอด้วยไหมควบกับเงินแล่งทองจำนวนเท่าๆกันค่ะ ผิดถูกขออภัยด้วยนะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 ตุลาคม 2012
  5. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    พระเจ้าอโศกกับพระอุปคุต

    บัดนี้ พระเจ้าอโศกทรงทราบแล้วว่า ร่างกายนั้นหาค่าอะไรไม่ได้เลย แม้เมื่อเอาไปเทียบกับเปลือกไข่ที่ผสมกับทรายแต่การก้มลงกราบตลอดจนอาการอัน
    แสดงออกทางร่างกายซึ่งคารวะสักการ ย่อมจะได้กุศลผลบุญยิ่งกว่าได้ครอบครองแว่นแคว้นแดนดินทั่วทั้งโลกจากเขาพระสุเมรุจนจรดมหาสมุทร
    ในหลายต่อหลายกัลป์เสียอีก ด้วยเหตุฉะนี้ จึงมีพระราชประสงค์จะเตรียมพระองค์ เพื่อถวายเกียรติแด่พระสถูปของพระผู้มีพระภาคให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
    จึงพร้อมด้วยข้าราชบริพาร เสด็จยังวัดกุกกุฎาราม ทรงยืนอยู่ต่อหน้าบรรดาพระเถระ พลางทรงกระทำอัญชลีและทรงถามขึ้นว่า

    "พระสัพพัญญูพุทธเจ้า ได้ทรงพยากรณ์ถึงใครไว้อีกบ้างไหม นอกจากข้าพระเจ้า สมัยที่ถวายธุลีเป็นทานฯ"

    พระยศะ ผู้เป็นรัตตัญญู ได้ทูลตอบว่า
    “มหาบพิตร ทรงมีพุทธพยากรณ์อีกรายหนึ่ง กล่าวคือ ตอนจวนใกล้ปรินิพพาน ได้ทรงโปรดพญานาคชื่ออปลาละ นายช่างปั้นหม้อ
    หญิงจัณฑาล นายโคปาลและงูแล้ว พระผู้มีพระภาคได้เสด็จไปยังมถุรานคร ณ ที่นั้นได้ตรัสกับท่านพระอานนท์เถรเจ้าว่า “ดูกร อานนท์
    ณ ที่เมืองมถุรานี้ ร้อยปีแต่ตถาคตปรินิพพานล่วงแล้วไป จะมีพ่อค้าน้ำหอมชื่อคุปตะ เขาจะมีลูกชื่ออุปคุปต์ ซึ่งจะได้เป็นเอตทัคคะ
    ในบรรดาธรรมกถึกทั้งหลาย จักเป็นอนุพุทธ ผู้ทำกิจของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า”

    แล้วตรัสถามพระอานนท์ว่า
    “แลเห็นเส้นข้างบนสุดขอบฟ้าโน่นไหม”
    เมื่อพระอานนท์กราบทูลรับว่าแลเห็นแล้ว จึงมีพระพุทธฎีกาว่า
    “อานนท์นั่นแหละภูเขาชื่ออุรุมมุณฑะร้อยปีแต่พุทธปรินิพพานของตถาคตจะมีวัดอรัญญิกชื่อนฎภฎิกะ
    ในบรรดาสถานที่ทั้งหลาย วัดนี้จะดีที่สุดเพราะจะพร้อมไปด้วยเตียงตั่งอันเหมาะสำหรับบำเพ็ญสมาธิภาวนา”
    ดังกล่าวพรรณนาไว้เป็นคาถาว่า

    เอตทัคคะในทางแสดงธรรม คือท่านอุปคุปต์อันวิเศษ
    พระโลกวิทูได้ทรงพยากรณ์ไว้ว่าท่านจะยังกรณียกิจของพระพุทธเจ้าให้เป็นไปฯ

    พระเจ้าอโศกจึงตรัสถามพระยศะว่า

    “ขอจงบอกโยม ว่าพระอุปคุปต์ผู้เป็นมุนีรูปนี้ บัดนี้ ดำรงชีวิตอยู่ที่ไหน หรือท่านยังไม่อุบัติ”
    พระเถรเจ้าทูลตอบว่า
    “ ท่านดำรงชีพอยู่ พระผู้ทรงคุณอันวิเศษรูปนี้ เอาชนะกิเลสมารได้แล้ว ท่านจำพรรษาอยู่บนเขาอุรุมมุณฑะ
    ณ บัดนี้ ทั้งนี้เพื่อเกื้อกูลสัตว์ผู้ต้องการความกรุณา ถือว่าท่านเป็นประธานในหมู่พระอรหันต์นอกไปจากนี้แล้ว
    มหาบพิตรท่านผู้บริสุทธิ์รูปนี้เป็นสัพพัญญู ท่านแสดงธรรมไพเราะยิ่งนัก ท่านชี้แจงแสดงให้เห็นคุณและโทษเป็นอย่างเลิศ
    เพื่อแนะนำเทวดา จอมอมนุษย์ พญานาค และมนุษย์ในนครนี้ ผู้คนได้หลุดพ้นเป็นพันๆ แล้วฯ "

    ในขณะนั้น ท่านพระอุปคุปต์กำลังพำนักอยู่ ณ วัดนฎภฎิกะ พร้อมด้วยพระอรหันต์ผู้เป็นบริวารอีกหมื่นแปดพันองค์ ครั้นทรงทราบความข้อนี้ พระเจ้าอโศกจึงตรัสเรียกอำมาตย์มาสั่งว่า

    "จงเตรียมช้าง ม้า รถให้ไปกับเรา เราจะไปยังภูเขาอุรุมมุณฑะ เพื่อทอดทัศนาพระอรหันต์ เจ้าอุปคุปต์ ผู้ปลอดพ้นแล้วจากกองกิเลสทั้งปวงฯ "

    แต่บรรดาอำมาตย์กราบทูลว่า
    “ขอเดชะ พระองค์ไม่ควรเสด็จไปเอง หากโปรดให้ส่งราชบุรุษไปยังเขาอุรุมมุณฑะ แล้วอาราธนาพระมุนีไปพำนัก ณ ที่นั้น ให้มาเฝ้า จึงจะควร”

    พระเจ้าอโศกตรัสตอบว่า
    “พระคุณท่านมิใช่บุคคลอันควรจะมาหาเรา หากเราควรจะไปหาท่าน”
    ดังคาถาว่า

    " เราคิดว่ากายของพระอุปคุปต์เป็นวัชระแข็งแกร่งยิ่งกว่าศิลา ท่านเป็นบุคคลดังเช่นพระศาสดาท่านอาจไม่รับอาราธนาก็ได้ฯ "

    ทันใดนั้น ก็ทรงส่งราชบุรุษให้ไปกราบเรียนพระอุปคุปต์เถระว่าพระองค์กำลังจะเสด็จไปหา
    ฝ่ายพระเถระนั้น กลับดำริว่าถ้าพระราชาเสด็จ จะไม่มีอาหารพอเลี้ยงพวกข้าราชบริพารเป็นจำนวนมากที่ตามเสด็จ จึงให้ไปทูลว่า
    ท่านจะเข้าไปในราชธานีด้วยตนเอง พระเจ้าอโศกทรงคาดว่าพระอุปคุปต์คงมาทางเรือ จึงโปรดให้เอาเรือหลวงไปรอรับระหว่างนครมถุรา สู่กรุงปาฎลีบุตรและเพื่อเอาพระทัยพระราชา พระเถรเจ้าจึงตกลงไปทางเรือ พร้อมด้วย พระอรหันต์หมื่นแปดพันองค์ ภายในเวลาไม่ช้าก็ถึงพระนครราชบุรุษประกาศให้ทรงทราบ
    “ขอเดชะ ขอจงทรงพระราชปิติ พระอุปคุปต์เถรเจ้า ผู้เป็นใหญ่เหนือดวงจิต ผู้ถือหางเสือเรือของพระสัทธรรม
    บัดนี้ ได้มายืนอยู่ที่ตรงหัวแถว พร้อมด้วยท่านผู้ข้ามโอฆสงสารองค์อื่นๆ ซึ่งถึงอีกฟากฝั่งข้างโน้นแล้ว ทั้งนี้เพื่อจะโปรดมหาราช”

    เมื่อทรงทราบข่าวนี้ พระเจ้าอโศกทรงพอพระราชหฤทัยยิ่งนัก ทรงถอดพระสังวาลไข่มุกอันมีค่าเท่ากับทองแสนแท่ง พระราชทานผู้ที่ทูลข่าวดีนี้ แล้วมีพระราชโองการให้ราชโฆษกแจ้งแก่ชาวพระนคร “เจ้าจงตีฆ้องร้องป่าว ให้ทั่วกรุงปาฏลีบุตร ประกาศว่า พระอุปคุปต์เถรเจ้าได้มาถึงแล้ว และจงพรรณนาด้วยว่า

    ถ้าใครต้องการละความยากจนอันเป็นต้นเหตุแห่งความไร้ค่าใดๆสิ้นและถ้าต้องการเจริญงอกงามเป็นอย่างยิ่งในโลก
    ขอให้ไปทอดทัศนายังท่านพระอุปคุปต์ ผู้ซึ่งอาจนำสวรรค์และโมกษธรรมมาให้ได้ฯ
    ถ้าใครไม่เคยเห็นท่านผู้เป็นเลิศในหมู่มนุษย์ อันเปี่ยมไปด้วยมหากรุณา ในฐานที่เป็นศาสดาที่ปราศจากอัตตาอีกแล้ว
    ขอจงไปทอดทัศนาท่านอุปคุปต์เถรเจ้าผู้ซึ่งคล้ายพระบรมศาสดาในทางที่มีแสงอันสุกสกาวทั่วทั้งไตรภูมิฯ


    พระเจ้าอโศกโปรดให้ประดับพระนครเพื่อต้อนรับพระเถรเจ้าทั้งยังเสด็จออกนอกพระนครไปเป็นระยะทางถึงสองโยชน์กึ่ง พร้อมด้วยอำมาตย์และประชาราษฎรเพื่อต้อนรับพระเถรเจ้า มีเครื่องดนตรี ทุกชนิดคอยประโคมดุริยศัพท์ ประกอบกับพวงดอกไม้ น้ำหอม และช่อบุปผานานาชนิด แม้ยังไกลออกไป แต่พระเจ้าอโศกก็ทอดพระเนตร เห็นพระเถรเจ้าพร้อมด้วยพระอรหันต์อีกหมื่นแปดพันองค์ แวดล้อมพระคุณท่านอย่างเป็นอัฒจันทร์ พลันก็เสด็จลงจากหลังช้างทรง แล้วทรง พระดำเนินด้วยพระบาทเปล่า สู่ริมท่าน้ำ พระบาทข้างหนึ่งอยู่บนฝั่ง พระบาทอีกข้างอยู่บนลำเรือคอยรับ พระเถรเจ้า ทรงอุ้มองค์ท่านขึ้นจากเรือสู่ที่บนบกแล้วทรงเหยียดพระองค์ลงบนพื้นดินต่อหน้าพระอุปคุปต์ ดุจดังต้นไม้ที่ล้มลงนอนแล้วถอนรากขึ้นฉะนั้น ทรงจุมพิตที่เท้าพระเถระ แล้วทรงยืนขึ้นแล้วคุกพระชงฆ์ลงไปอีก เพื่อทรงกระทำอัญชลี แล้วทอดพระเนตรขึ้นไปยังพระเถรเจ้า พลางตรัสว่า

    เมื่อข้าพระเจ้าปราบศัตรูจนราบคาบ รวมพื้นพิภพและภูเขาทั้งหมดจนจรดทะเล ให้อยู่ใต้เอกฉัตรแห่งเสมาธิปัตย์
    แม้กระนั้น ความปิติยินดีคราวนั้น ก็ยังไม่เท่าคราวนี้ ที่ข้าพระเจ้าได้แลเห็นพระคุณท่าน ผู้เป็นพระเถรเจ้าฯ

    เพียงได้แลเห็นท่าน ก็เพิ่มศรัทธาให้ข้าพระเจ้าในองค์คุณของพระสังฆเจ้าเป็นทวีคูณฯ

    มองเห็นพระคุณเจ้าวันนี้ เท่ากับว่าข้าพระเจ้าได้แลเห็นพระมหาวิสุทธิคุณเจ้าแม้พระสุคตเจ้าจะได้เสด็จจากไปนานแล้วก็ตามฯ
    ทรงพรรณนาต่อไปว่า

    บัดนี้ พระชินเจ้า ผู้ทรงมหากรุณา ได้เสด็จไปสู่ความระงับแล้ว พระคุณเจ้ารับงานของ พระพุทธองค์มากระทำในไตรภูมิฯ
    บัดนี้ พระมหากรุณาเจ้าได้เสด็จไปดีแล้ว และทรงปิดพระเนตรแล้วจากโลกนี้อันเต็มไปด้วยความลุ่มหลงฯ

    พระคุณเจ้านั้น ดุจดวงอาทิตย์ ฉายแสงแห่งปัญญาออกมาให้ปรากฏฯ

    พระคุณเจ้าก็ดุจดังพระศาสดา ผู้ทรงเป็นดวงตาของโลก พระคุณเจ้าเป็นเอตทัคคะในทางแสดงธรรม
    ข้าพระเจ้าขอถือเอาพระคุณเจ้าเป็นสรณะขอพระผู้มีพลัง และพระผู้มีความบริสุทธิ์ ได้บอกข้าพระเจ้าด้วยว่าควรทำอะไร
    แล้วข้าพระเจ้าจักรีบกระทำตามทันที ตามโอวาทของพระคุณท่าน ในวันนี้ฯ

    ครั้นแล้วพระอุปคุปต์จึงใช้หัตถ์ขวาแตะพระเศียรพระราชาพลางถวายพระพรว่า

    " มหาบพิตร ได้ทรงสถาปนาอิสราธิปไตยขึ้นได้แล้ว ขอจงทรงปกครองอย่างตั้งพระหฤทัย โดยถือเอาพระรัตนตรัยเป็นสรณะตลอดไปฯ "

    “นอกไปจากนี้แล้ว มหาบพิตร พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ได้ทรงตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง ผู้ทรงเป็นนายสารถีที่ฝึกสัตว์ทั้งหลาย
    ได้อย่างไม่มีผู้ใดเปรียบได้ทรงมอบไว้ให้เรา คือทั้งอาตมภาพและมหาบพิตรในอันที่จะรักษาพระศาสนา ให้ดำรงอยู่อย่างปราศจากความประมาท
    ในหมู่บริษัททั้งหลายสิ้นกาลนาน”
    พระเจ้าอโศกตรัสว่า
    “ข้าแต่พระเถรเจ้า ข้าพระเจ้าจักทำทุกอย่างตามพุทธพยากรณ์”

    ข้าพระเจ้าได้นำสารีริกธาตุออกมาแพร่ขยายให้พื้นพิภพได้งดงามทั่วทุกแห่ง ด้วยการสร้างพรสถูปไว้ดังภูเขาอย่างมีสีสันเป็นอันมาก ประดับประดาไปด้วยธงทิวและฉัตร พร้อมด้วย รัตนมณีอันมีค่าฯ นอกไปจากนี้แล้ว
    ข้าพระเจ้าได้สละหมดตั้งแต่บุตรภรรยา แม้จนข้าพระเจ้าเองและทั้งวงศ์สกุล รวมตลอดถึงแผ่นดิน และราชสมบัติ ราชพัสดุต่างๆ ทุกๆ อย่าง ข้าพระเจ้าสละสิ้น เพื่อพระศาสนาของพระธรรมราชา สัมมาสัมพุทธเจ้าฯ
    พระอุปคุปต์เถระกล่าวอนุโมทนาว่า
    “ชอบแล้ว มหาบพิตร ทรงประกอบราชกรณียะสมควรอยู่”
    เพราะผู้ที่รับใช้พระธรรมด้วยร่างกาย ด้วยสมบัติ แม้ด้วยชีวิต ย่อมไม่เศร้าโศก เวลาตาย หากจะขึ้นสวรรค์ไปอยู่ร่วมกับทวยเทพฯ

    จากนั้น พระราชาทรงนำพระอุปคุปต์เข้าสู่พระราชวัง มีขบวนแห่อย่างมโหฬาร แล้วทรงอุ้ม พระเถระขึ้นนั่งบนอาสนะที่จัดไว้ถวายเป็นพิเศษ ก็พระอุปคุปต์นั้นมีผิวหนังอันละเอียด นุ่มดังสำลี เมื่อพระเจ้าอโศกทรงถูกต้ององค์ท่าน ย่อมทรงสังเกตได้ จึงทรงกระทำอัญชลี แล้วตรัสเป็นคาถาว่า
    ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า แขนขาของท่านอ่อนนุ่ม ผิวของท่านดังสำลี หรือผ้าไหมจากพาราณสีฯ

    ส่วนข้าพระเจ้านั้น น่าเศร้านัก ที่ร่างกายไม่อ่อนนุ่มเลย แขนขาของข้าพระเจ้าหยาบกระด้างและแข็งทื่อ ผิวหนังหยาบจับต้องแล้วไม่น่าพึงพอใจเลยฯพระเถรเจ้าทูลตอบว่า

    ทั้งนี้เพราะ เมื่ออาตมภาพถวายทานแด่พระผู้ทรงวิสุทธิคุณทานนั้นบริสุทธิ์ น่าพึงพอใจฯ
    อาตมภาพไม่ได้ถวายผงธุลีแด่พระตถาคต ดังที่มหาบพิตรได้ทรงกระทำมาในชาติปางก่อนฯ

    พระราชาทรงท้วงขึ้นว่า

    "ข้าแต่พระเถรเจ้า เวลานั้นข้าพระเจ้าเป็นเด็ก แล้วกาลก็นานมาแล้ว
    แม้กระนั้นก็ได้เห็นในเนื้อนาบุญอันไม่มีนาบุญอื่นใดยิ่งกว่า
    จึงเอาผงธุลีถวายทาน แต่แล้วก็มีผลมาจนบัดนี้เจียวหรือฯ"

    พระเถระต้องประสงค์จะให้ทรงพระปีติปราโมทย์ จึงกล่าวเป็นคาถาว่า
    มหาบพิตร เพราะทรงมั่นในเนื้อนาบุญอันเป็นเลิศ
    จึงทรงถวายทานด้วยธุลี เป็นเหตุให้ได้เสวยราชสมบัติอันยิ่ง ทรงพระอธิปไตยอย่างไม่มีใครเทียมฯ

    เมื่อได้ทรงสดับความข้อนี้ พระเนตรของพระเจ้าอโศกเบิกกว้างขึ้นอย่างอัศจรรย์ ตรัสเรียกบรรดาอำมาตย์ รับสั่งว่า

    เราได้รับผลจนได้เป็นพลจักรพรรดิ เพียงเพราะถวายธุลีเป็นทานฯ
    พวกเจ้าทั้งหลายจงอย่ารั้งวิริยอุตสาหะในการสรรเสริญคุณพระผู้มีพระภาคฯ
     
  6. ปฏิเสวามิ

    ปฏิเสวามิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3,064
    ค่าพลัง:
    +3,962

    5555 ขอบคุณมากค่ะคุณลีที่มาให้ความกระจ่าง อิอิอิ
    อนุโมทนานะคะ
     
  7. nanbatakeshi

    nanbatakeshi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2011
    โพสต์:
    17,591
    ค่าพลัง:
    +20,415
    วันที่23/10/12เวลา18.42น.ได้ร่วมทำบุญทอดกฐินจำนวน100บาทและขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ได้ร่วมทำบุญในการทอดกฐินครั้งนี้ด้วยครับสาธุๆๆ
     
  8. ปฏิเสวามิ

    ปฏิเสวามิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3,064
    ค่าพลัง:
    +3,962
    สาธุนะคะ..
    บุญรักษาค่ะ
     
  9. ปฏิเสวามิ

    ปฏิเสวามิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3,064
    ค่าพลัง:
    +3,962
    วันนี้นำความคืบหน้าของการเย็บและตกแต่งผ้าห่มองค์พระอุปคุตด้วยมือ มาให้ได้ดูและอนุโมทนากันนะคะ ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี เนื่องจากสายดิ้นทองที่นำมาตกแต่งยาวไม่พอ ต้องไปซื้อมาเพิ่มเติมค่ะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ทำเสร็จไปหนึ่งข้าง เหลืออีก 1 ข้างและชายผ้าด้านล่างอีก 2 ฝั่ง คงต้องไปหาซื้อดิ้นทองมาตกแต่งเพิ่มเติม เพราะที่ซื้อมาตอนแรกยาวไม่พอ

    เดี๋ยวถ้าทำเสร็จแล้วจะนำมาให้ได้ชมกันอีกครั้งค่ะ...
     
  10. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    พระอุปคุตช่วยหลวงปู่คำคะนึง ตอนหลวงปู่คำคนึงไปดูพระพุทธรูปทองคำ

    เรื่องนี้คัดลอกมาจากหนังสือ พระอริยสงฆ์เผชิญพญานาค ท่านผู้อ่านโปรดพิจารณาตามความเชื่อของแต่ท่าน พระพุทธรูปทองคำใต้น้ำ

    หลวงปู่คำคะนิงยังคงธุดงค์อยู่ในเขตราชอาณาจักรลาว ด้วยพอใจในความสงบวิเวกเหมาะที่จะบำเพ็ญเพียรอย่างยิ ่ง ทั้งนี้เพราะในลาวอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าเข้าลำเนาไพร หมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านอยู่ห่างกันไม่พลุกพล่านเป็นชุ มชนใหม่ๆ เช่น ฝั่งไทย หลวงปู่ธุดงค์มาถึงเมืองบูรพาก็ได้ยินชาวบ้านโจษขานก ันว่า ที่แม่น้ำสายหนึ่งที่เป็นแม่น้ำกว้างและลึกมากตรงบริ เวณน้ำลึกที่สุดนั้น มีพระพุทธรูปองค์มหึมาจมอยู่ก้นแม่น้ำวันดีคืนดีจะมี แสงสว่างพวยพุ่งขึ้นจากแม่น้ำ แสงนั้นเจิดจรัสเป็นฉับพรรณรังสีสว่างไสวไปทั่วอาณาบ ริเวณโดยรอบ หลวงปู่คำคะนิงรับฟังเช่นนั้นก็เกิดความสงสัยเป็นเรื ่องจริงหรือไม่ จึงตกลงจะไปพิสูจน์ด้วยตัวท่านเองหลวงปู่คำคะนิงได้เ ดินทางมาถึงใกล้บริเวณแม่น้ำ ซึ้งเชื่อว่าตรงกลางแม่น้ำแห่งนี้มีพระพุทธรูปทองคำจ มอยู่ หลวงปู่จึงตกลงใจจำพรรษาที่นี่เพื่อต้องการดำน้ำลงไป ดูพระพุทธรูปทองคำให้ได้

    ในพรรษาแรก...หลวงปู่ได้เตรียมตัวรักษาสุขภาพจนแข็งแ รงพอสมควร เมื่อเห็นว่าพร้อมแล้วท่านก็ทำพิธีตั้งจิตอธิฐานอารา ธนาบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ เทพยดา พญานาค พญาครุฑ พระแม่ธรณี พระแม่คงคาขอได้โปรดรักษาให้พ้นภัยทั้งหลาย เพราะเจตนาที่จะดำลงไปดูพระพุทธรูปทองคำครั้งนี้ไม่ไ ด้เจตนาโลภ หลง หรืออยากได้มาเป็นสมบัติของตนเองแม้แต่น้อย หากแต่ต้องการลงไปดูพระพุทธรูปทองคำด้วยตาตัวเองเท่า นั้นครั้นอธิฐานจิตจบสิ้นแล้ว หลวงปู่คำคะนิงได้นำเหล็กแหลมสั้นๆ ติดตัวไปด้วย คิดว่าถ้าจำเป็นต้องขุดต้องแงะจะได้ใช้เหล็กแหลมนี้ท ำประโยชน์ เมื่อหลวงปู่คำคะนิงดำลงไปปรากฏว่าน้ำลึกมากรู้สึกปว ดแก้วหูจนทนไม่ไหวจึงต้องขึ้นสู่ผิวน้ำ และยังต้องรักษาตัวนานนับเดือนอาการเจ็บปวดหูถึงได้ห ายไป กระนั้นหลวงปู่ก็ไม่ได้ล้มเลิกความตั้งใจ

    เข้าพรรษาที่สอง...หลวงปู่คำคะนองเห็นว่าร่างกายสมบู รณ์แข็งแรงดีแล้ว ท่านจงดำลงไปอีกแต่ยังไม่ทันถึงก้นแม่น้ำ ก็ต้องกลับขึ้นมาอีกเพราะเจ็บปวดแก้วหูจนทนไม่ไหวและ ต้องรักษาตัวเป็นเดือนเหมือนครั้งแรก แต่หลวงปู่ไม่ท้อแท้คิดมามะพยายามจะดำลงไปอีก

    เข้าพรรษาที่สาม...หลวงปู่คำคะนิงก็ดำลงไปอีกแต่ก็ไม ่สำเร็จเช่นเดิม เนื่องจากแรงกดดันของน้ำทำให้ท่านเจ็บปวดแก้วหูสุดทน หากเป็นคนอื่นคงเลิกรายอมแพ้ไปแล้วแต่สำหรับหลวงปู่ไ ม่ยอมสิ้นมานะ

    เข้าพรรษาที่สี่...หลวงปู่คำคะนิงทำพิธีตั้งจิตอธิฐา นขอบารมีคุณพระรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์ทั้งหลาย ให้คุ้มครองเช่นทุกครั้งแล้วท่านก็ดำดิ่งลงสู่ก้นแม่ น้ำด้วยพลังจิตที่หาญกล้า คราวนี้อาการปวดแก้วหูไม่ปรากฏท่านจึงดำลงไปเรื่อยๆ ยังไม่ถึงก้นแม่น้ำเท้าก็เหยียบกับสิ่งหนึ่ง เมื่อพิจารณาดูแล้วปรากฏว่าท่านกำลังยืนอยู่บนพระอัง สะของพระพุทธรูปองค์ใหญ่โดยไม่รู้ตัว หลวงปู่คำคะนิงประมาณว่าพระพุทธรูปทองคำองค์นี้ ต้องมีความสูงไม่ต่ำกว่า 20-30 เมตรแน่ส่วนความใหญ่โตของพระพุทธรูปนี้มหึมายากจะประ มาณ หลวงปู่อยู่ใต้น้ำก็จริงแต่มองรอบด้านได้ชัดเจนพอสมค วร ทั้งนี้เพราะบริเวณรายรอบพระพุทธรูปทองคำมีแสงทองคำส ่องสว่างเป็นปริมณฑล เวลาพื้นน้ำกระเพื่อมไหวและรัศมีทองคำส่องกระทบมองคล ้ายฟ้าแลบแปลบปลาบตลอดเวลา

    ด้านหลังพระพุทธรูปทองคำต่ำลงไปที่ก้นแม่น้ำมีปากอุโ มงค์ใหญ่ปรากฏอยู่ ตรงปากอุโมงค์นั้นมีปลาขนาดใหญ่มหึมาหลายตัวว่ายวนเว ียนอยู่ ประหนึ่งคอยพิทักษ์รักษาปากอุโมงค์ไว้ปลาที่หลวงปู่ค ำคะนิงเห็นอยู่นั้น ใหญ่โตมโหฬารยิ่งกว่าปลายักษ์ปากที่อ้ากว้างสามารถฮุ บคนได้ทั้งคนในลักษณะขวางได้สบายๆ จากรัศมีแสงทองคำที่ส่องไปถึงในอุโมงค์กว้างใหญ่ ทำให้มองเห็นสิ่งอัศจรรย์ซึ่งหลวงปู่คำคะนิงไม่คาดคิ ดว่าจะเจอนั้นคือมีคนอยู่ในอุโมงค์ ลำตัวท่อนบนเหมือนคนทั่วไปแต่ท่อนล่างตั้งแต่เอวลงมา เป็นปลา หลวงปู่แปลกใจและสงสัยว่าใต้น้ำเช่นนี้มีคนอาศัยอยู่ ได้เช่นไร ท่านจึงตันสินใจว่ายไปยังปากอุโมงค์เพื่อขอดูให้ถนัด ตาว่าคนครึ่งปลาที่เรียกกันว่าเงือกนั้นเป็นอย่างไร เพราะที่เห็นแรกๆนั้นนางเงือกหันด้านข้างให้

    เมื่อเข้าใกล้ปากอุโมงค์พวกปลายักษ์ได้แสดงอาการไม่ย ินยอมให้หลวงปู่คำคะนิงเข้าไปในถ้ำ โดยพวกมันว่ายรี่เข้ามาปิดกั้นปากอุโมงค์ไว้ ในฉับพลันทันทีก็เกิดปรากฏการณ์อันไม่คาดคิด นั้นคือแสงสว่างจากทองคำด้านบนหายไปดื้อๆ หลวงปู่แหงนหน้าขึ้นไปดูก็เห็นสัตว์ชนิดหนึ่งตัวใหญ่ มหึมาคล้ายกับปลากระเบนหรือนกยักษ์กำลังรอยอยู่เหนือ ศีรษะท่าน ความมืดใต้น้ำที่ท่านเผชิญอยู่นี้เป็นเพราะลำตัวสัตว ์ประหลาดกางกั้นแสงเอาไว้ และสัตว์ตัวนั้นได้ทิ้งดิ่งลงมาทับร่างหลวงปู่คำคะนิงอย่างรวดเร็ว ขณะนั้นหลวงปู่คำคะนิงอยู่ก้นแม่น้ำท่านพยายามจะคลาน หนี แต่สัตว์ประหลาดกลับกดน้ำหนักตัวทับลงมาประหนึ่งจะให ้ร่างท่านบี้แบนอยู่ตรงนั้น

    หลวงปู่คำคะนิงไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่เอามือยันเอาไ ว้ กระทั้งควานมือไปถูกส่วนหนึ่งของลำตัวมันมีลักษณะเต้ นตุบๆ คล้ายกับหัวใจเต้น พร้อมกันนั้นท่านก็รู้ว่าสัตว์ประหลาดเป็นนกยักษ์แน่ ๆ เนื่องจากตัวของมันห่อหุ้มด้วนขนลักษณะขนนก ขณะที่ท่านกำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความตายทำให้ต้องดิ้ นรนเอาชีวิตรอด หลวงปู่จึงใช้เหล็กแหลมสั้นที่ถือติดมือมาแทงสวนขึ้น ไปโดยไม่มีเจตนาฆ่ามัน กะว่าให้เจ็บจะได้ถอยห่างออกไปทันใดนกยักษ์ก็ทะยานพร วดขึ้นไปคล้ายกระพือปีก ทำให้เกิดแรงดึงดูดร่างของหลวงปู่ตามขึ้นไปด้วยก่อนท ี่หลวงปู่จะขึ้นสู่ผิวน้ำ มีชาวบ้านกำลังพายเรือหาปลาอยู่ใกล้ชายฝั่งชาวบ้านพว กนั้นต่างตกใจสุดขีด เมื่ออยู่ๆ เกิดเสียงตูมสนั่นหวั่นไหวขึ้นกลางแม่น้ำประหนึ่งมีร ะเบิดตกลงมา แล้วปรากฏคลื่นใหญ่กระจายม้วนเข้ากระแทกฝั่งทั้ง 2 ด้าน และที่กลางแม่น้ำชาวบ้านเห็นหลวงปู่คำคะนิงลอยคออยู่ ท่ามกลางเกลียวคลื่น พวกนั้นจึงรีบพายเรือไปช่วยหลวงปู่คำคะนิงขึ้นมาบนเร ือแล้วกลับเข้าฝั่ง ชาวบ้านถามว่าเหตุใดท่านถึงมาโผล่ที่กลางแม่น้ำ หลวงปู่คำคะนิงได้แต่ตอบเลี่ยงๆ ไปไม่ตอบตามความจริง และท่านก็ถามชาวบ้านว่าเห็นอะไรผุดขึ้นจากแม่น้ำบ้าง ไหม ชาวบ้านก็บอกไม่เห็นอะไรนอกจากเสียงดังคล้ายระเบิดตก แล้วก็เกิดคลื่นใหญ่ซัดกระแทกเข้าหาฝั่ง

    เมื่อหลวงปู่คำคะนิงกลับมาถึงกลด เปลี่ยนผ้า อาบน้ำแล้วมาห่มครองจีวรจนเรียบร้อย ท่านก็เข้าเจริญสมาธิเพื่อดูว่านกยักษ์นั้นเป็นอะไรเ หตุใดจึงลงไปน้ำลึกเช่นนั้น ต่อมาท่านได้ทราบว่าเป็นพญาครุฑหรือพระอุปคุตจำแลงแป ลงร่างลงไปช่วยท่าน น่าเชื่อว่าอันตรายกำลังจะบังเกิดแก่หลวงปู่หากหลวงป ู่จะดึงดันเข้าไปในอุโมงค์ นางเงือกและปลายักษ์เหล่านั้นคงไม่ไว้ชีวิตท่านแน่ เหตุนี้หลวงปู่คำคะนิงจึงนับถือพระอุปคุตอย่างที่สุด เมื่อถึงคราวขับขันหรือเจอเหตุการณ์ร้ายแรงใดๆ จะต้องอาราธนาอธิฐานขอให้ท่านช่วยทุกครั้ง สำหรับการลงไปดูพระพุทธรูปทองคำก้นแม่น้ำ ไปพบปลายักษ์และนางเงือกอยู่ในอุโมงค์ใหญ่ กระทั่งพระอุปคุตหรือพญาครุฑช่วยชีวิตเอาไว้ หลวงปู่คำคะนิงสรุปถึงความอัศจรรย์อีกข้อหนึ่งในตอนท ้ายว่า “อยู่ใต้น้ำถึง 2 ชั่วโมง ไม่รู้ว่าหายใจใต้น้ำเป็นเวลานานๆ อย่างนั้นได้อย่างไร....”ท่าน
    <!-- google_ad_section_end -->__________________
    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เหตุใดไม่เร่งขวนขวายสร้างสมบารมีที่เป็นอริยทรัพย์อันประเสริฐ์<!-- google_ad_section_end -->
     
  11. ปฏิเสวามิ

    ปฏิเสวามิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3,064
    ค่าพลัง:
    +3,962
    เนื่องจากมีญาติธรรมใจดี ได้ร่วมบุญส่งเจดีย์ผอบบรรจุพระอรหันต์ธาตุ จำนวน 21 ชุดมาร่วมบุญในงานทอดกฐินครั้งนี้กับเรา ขวัญก็เลยนำมาตำแต่งคริสตัลเพชรให้เจดีย์ผอบพระธาตุสวยขึ้นๆหน่อยค่ะ

    ปล. ตกแต่งครั้งแรกในชีวิตค่ะ ไม่รู้จะไปหาซื้อเม็ดคริสตัลแท้ได้ที่ไหน สงสัยต้องไปสำเพ็ง แต่เนื่องจากไม่มีเวลาว่างเลยจริงๆ เลยซื้อเป็นเพชรคริสตัลที่ไว้แต่งโทรศัพท์มือถือมาแต่งไปพลางๆก่อน ก็สวยดีนะคะ ...ถ้าท่านใดอยากแชร์ไอเดียหรือแนะนำวิธีการทำ ก็บอกมาได้เลยนะคะ หนูยังเป็นมือใหม่สำหรับงานนี้อยู่

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 ตุลาคม 2012
  12. ปฏิเสวามิ

    ปฏิเสวามิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3,064
    ค่าพลัง:
    +3,962
    เมื่อวานได้ไปทยอยเตรียมซื้อขันเงิน ขันทองขนาดมหึมา จำนวน 9 ใบ เพื่อนำมาเตรียมบรรจุชุดสังฆทานที่จะซื้อของมาจัดเอง รวมทั้งชุดธูป เทียนต่างๆ บางส่วน ( แต่ยังไม่ครบนะคะ ยังขาดอีกเพียบที่ต้องซื้อ) เพื่อไปถวายในงานทอดกฐินครั้งนี้ด้วยค่ะ

    ก็นำภาพความคืบหน้ามาให้ได้ชมและร่วมบุญ ร่วมอนุโมทนากันนะคะ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  13. ปฏิเสวามิ

    ปฏิเสวามิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3,064
    ค่าพลัง:
    +3,962
    เมื่อวานมีโอกาสไปกราบพระอาจารย์ถวิล และก็บังเอิญโชคดี พระอาจารย์ท่านพาไปนมัสการหลวงปู่มหาโส กัสสโป และหลวงปู่ผางที่จ.ขอนแก่น...ดีใจสุดๆๆค่ะ
    ไม่คิดไม่ฝันว่าจะได้ไปนมัสการพระอริยะเจ้าถึงที่เลย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  14. ตวงธันยา

    ตวงธันยา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    564
    ค่าพลัง:
    +910
    ขออนุโมทนาบุญด้วย krab.
    สำหรับชุดสังฆทานพรุ่งนี้ข้าพเจ้าจะโอนเงินร่วมบุญชุดสังฆทานด้วยคร้าบ
    เนื่องจากช่วงนี้ติดภารกิจงานเร่งด่วนจึงไม่มีโอกาสเข้ามาอนุโมทนาคร้าบ
     
  15. ปฏิเสวามิ

    ปฏิเสวามิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    3,064
    ค่าพลัง:
    +3,962
    อนุโมทนาค้า
    สาธุๆๆๆ...
     
  16. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    ผมธิติวัฒน์ขอกราบโมทนาบุญในกุศลจิตและศรัทธาของพี่ธนวร

    อ้างอิง

    เรียน คุณธิติวัฒน์
    วันนี้ 28 oct 12 เวลา 11:15น. ผมได้โอนเงินทำบุญสร้างพระประจำวันพุธกับวันศุกร์ จำนวนเงิน 7,000 บาท
    และเงินทำบุญร่วมบุญกฐิน 500 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 7,500 บาท

    ส่วนพระอุปคุตบูชาจะส่งให้หลังงานกฐินผมขอกราบโมทนาบุญกับพี่นะขอให้พี่มีความเจริญ รุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม มีความคล่องตัวในทุกด้านครับ
    และขอให้กุศลบุญในครั้งนี้เป็นปัจจัยต่อยอดให้เข้่าถึงมรรคผลนิพพานอันไกล้นี้เทอญ ขอกราบโมทนา ธิติวัฒน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2012
  17. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    ขอกราบโมทนาในกุศลจิต และศรัทธาของพี่เพชร

    อ้างอิง

    เรียนคุณธิติวัฒน์
    วันนี้29/10/2555 ได้โอนปัจจัยจำนวน 13350 บาท สำหรับพระประจำวัน จำนวน 10500 บาท
    พระประจำวันเสาร์ คุณพ่อลิบฮึง แซ่อึ๊ง
    พระประจำวันอาทิตย์ นพ.ธงชัย ภูวคีรีวิวัฒน์ และคุณขวัญฤทัย แซ่อึ๊ง
    พระประจำวันอังคาร ด.ช.ธีรัตม์ ภูวคีรีวิวัฒน์
    ปัจจัย จำนวน 2850 บาท ร่วมสร้างพระอุปคุต ถวายพระไตรปิฎกและตู้พระไตรปิฎก ซื้อที่ดิน และทุกบุญที่ร่วมในงานกฐิน
    ขอให้ทุกๆท่านดังกล่าวข้างต้นได้ในทุกๆบุญดังกล่าวเช่นกันเทอญขอให้คำอธิษฐานขอพรประสบความสำเร็จทุกท่านคล่องตัวทุกๆด้านเป็นที่รักของมนุษย์และอมนุษย์>>
    ขอนอุทิศบุญกุศลแด่ญาติทั้งหลาย เจ้ากรรมนายเวรและ ขอน้อมถวายบุญเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และน้อมถวายบุญแด่ เทพเทวา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน พระภูมิเจ้าที่ทุกๆแห่งที่ได้อยู่อาศัยและครอบครอง พระแม่ธรณี พระแม่คงคา แม่ย่านาง พระเพลิง พระพาย ท้าวจตุมหาราช องค์อินทร์ พระยายมราช และนายนิรยบาล ผู้ดูแลธาตุกายสิทธ์ ยักษ์ พญานาค ครุฑ คนธรรพ์ นาคา ทุกดวงจิตดวงวิญญาณขอให้มาโมทนาบุญเทอญ สาธุ

    ส่วนพระอุปคุตบูชาจะส่งให้หลังงานกฐินผมขอกราบโมทนาบุญกับพี่เพชร นะครับ ขอให้พี่มีความเจริญ รุ่งเรืองทั้งทางโลกและทางธรรม มีความคล่องตัวในทุกด้านครับและขอให้กุศลบุญในครั้งนี้เป็นปัจจัยต่อยอดให้เข้่าถึงมรรคผลนิพพานอันไกล้นี้เทอญ ขอกราบโมทนา ธิติวัฒน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤศจิกายน 2012
  18. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    เห็นโพสภาพหลวงปู่จันทา พี่ก็เคยไปกราบท่านมาก่อนท่านมรณภาพไม่นาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02228.JPG
      DSC02228.JPG
      ขนาดไฟล์:
      113.4 KB
      เปิดดู:
      42
  19. wirotp

    wirotp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    379
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ผมและครอบครัวขอร่วมบุญมหากฐิน ในครั้งนี้ด้วยจำนวน 1,000 บาท โอนปัจจัยเรียบร้อยแล้วครับ วิโรจน์ ผาณิตพจมาน-วันทา หอพัฒนาวุฒิวงศ์ และครอบครัว
    _______



    โอนเงินให้บุคคลอื่น - สถานะการทำรายการ

    สถานะการทำรายการ ธนาคารได้ทำรายการของท่านเรียบร้อยแล้ว
    หมายเลขอ้างอิง TRTR121031212261447

    รายละเอียดการทำรายการ
    จากบัญชี 020-2-39398-5 บัญชี ค่าน้ำ - KBank - CITIBANK
    เพื่อเข้าบัญชี 498-2-33306-2 Donate chaipoom
    ชื่อบัญชี ธิติวัฒน์ สังวาลย์เดช
    จำนวนเงิน (บาท) 1,000.00
    วันที่โอนเงิน 31/10/2012
    บันทึกช่วยจำ
    แจ้งผู้รับโอน
     
  20. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    อนุโมทนา สาธุกับทุกท่าน
    คุณธิติวัฒน์ เป็นสะพานบุญที่ศรัทธาต่อพระรัตนตรัยอย่างแท้จริง
     

แชร์หน้านี้

Loading...