จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

นี่ละครับ กิ่งทองใบหยกจริงๆครับพี่พอใจ ...
ลูกพี่กับครูวัฒ แหมแค่คิดก้อ .... อึ้ยยย มันพะยะค่ะ อิอิ

อย่าปล่อยนานนะครับพี่พอใจ เวลาไม่รอใคร ทุกสิ่งล้วนไม่เที่ยง


จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

เอ..ทำไมถึงทราบทำจิตติดๆดับๆค่ะ สัญญานส่งไม่ดีค่ะคุณครูภู เสาสัญญานแย่มากเลยค่ะ ไม่ได้หายไปไหนค่ะ หาสัญญานใหม่อยู่ค่ะ ทำไมสัญญานส่งนอกโลกนี่โดนคลื่นพายุหรือเปล่าคะ

 

555 ... วันที่ 17 พย นี้
ผมได้คนบรรยายอีกคนเลี้ยว เหอะๆๆๆๆ
ทั้งรูปหล่อ เสียงหฃก้อหล่อ คารมก้อดี ยังงี้ ฉุดไม่อยู่แล้ว
เดี๋ยวจัดให้นั่งข้างๆครูลูกพลังเลยนะครับ จะได้วัดไปเลย ใครหล่อกว่ากัน อิอิ


จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

...ใจของเรามันอยู่ในกรง
ยิ่งกว่านั้น มันยังมีเสือกำลังอาละวาดอยู่ในกรงนั้นด้วย
ใจที่มันเอาแต่ใจของเรานี้
ถ้าหากมันไม่ได้อะไรตามที่มันต้องการแล้ว มันก็อาละวาด
เราจะต้องอบรมใจด้วยการปฏิบัติภาวนา ด้วยสมาธิ
นี่แหละที่เราเรียกว่า "การฝึกใจ"......


หลวงปู่ชา สุภัทโท

 

โมทนาสาธุครับพี่เมศ ... สาธุ


จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

อย่ากระโตกกระตากสิพี่ภู เดี๋ยวไก่ตื่น 5555
อุ้บ ไม่ใช่ไก่สิ ช้างเผือกเลยแหละ อิอิอิ

ผมลุ้น ๑๐๑ และ ๑๑๑ ... เข้ากั๊น เข้ากัน กับ จบ.๑๑


จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

อู้ววว ท่านพี่ภู ... อย่ากล่าวเช่นนั้นเลยครับ
ผมมิบังอาจ ...
ผมขอเป็นเพียงจิตดวงน้อยๆ เรือลำน้อยของผมก้อพอแล้วครับ

เรือน้อยๆ คอยรับส่งทุกท่าน รับใช้ท่านพ่อต่อไปจนหมดลมก้อพอแล้วครับ สำหรับผมแค่นี้พอจริงๆครับ


จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

ครูวัฒ คงทานอะไรไม่ลงแล้วละครับ อิ่มไปนานเลยแหละ

วันนี้คงอิ่มท้องกับครูหว้า กับ อิ่มวิชาจากพี่เมศแล้วด้วยครับ อิอิ

ไม่ให้เต้าหู้ แต่ให้ดอกบัวแทน เอาไปทั้งบึงเลยเน้อ 5555


จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

 

ขอแสดงความยินดีกับจิตบุญและคุณครูจิตบุญทุก ๆท่านค่ะ






จากใจสู่ใจ.....นก ญ

 

ขอเป็นกำลังใจให้กับชาวจิตบุญและคุณครูจิตบุญทุกๆท่านค่ะ

จากใจสู่ใจ.....นก ญ
​

 

นอนหลับฝันดี ทุกๆท่านค่ะ

ท่านพ่อรักและเมตตาชาวจิตบุญทุกๆ ท่านค่ะ (ท่านพ่อฝากบอกมาเจ้าค่ะ)

 

วันนี้ได้อะไรมากเลยครับ ได้มาเจอพี่เมศแบบตัวต่อตัว เพราะน้องหว้ามาช้า ตามแบบน้องคนเล็ก เลยได้มีโอกาสคุยหลายเรื่องเช่น วิชาไหมฟ้า อิๆๆๆๆๆ คอยตอดไปเรื่อยๆ วันละนิด วันละหน่อย ต้องขอขอบพระคุณพี่เมศมากครับ ที่สละเวลามา เนื่องจากปรกติพี่เมศภาระทางโลกมากเหลือเกิน
ส่วนน้องหว่ามากับความบึ๊ก อิๆๆๆๆ กินเก่งจริงๆ พอดีวันนี้ต่างคนต่างมีภาระนิดหน่อย เลยใช้เวลานิดเดียว แต่ก็คุ้มแล้วครับ ที่ได้เจอครูทั้งสอง เร็วๆนี้ได้เจอกันนอกรอบอีกแน่ๆครับ

 

ก่อนเข้านอน นกขอเป็นตัวแทนชาวจิตบุญทุกๆท่าน มอบดอกไม้ช่อพิเศษนี้แด่ พี่ภู และ พี่เพ็ญ พี่ที่แสนดีมีเมตตาของพวกเราชาวจิตบุญทุกๆท่านเจ้าค่ะ




​

 

ตอนนี้ครูลูกพลังกินขาด เพราะท่านทำดีท๊อกซ์ ผิวคงสดใสปิ๊ง สงสัยครูลูกพลังทำมาเพื่อวันที่17แน่ๆเลย อิๆๆๆๆๆๆ

 

Good Idea ค่ะ น้องนก...โมทนาด้วยค่ะ สาธุ ท่านทั้งสองเหมาะสมอย่างยิ่งแล้ว สำหรับช่อดอกไม้แสนสวย แทนคำขอบคุณ
ความรักและความเมตตาที่มีให้กับพวกเราชาวจิตบุญทุกท่าน_heart+love_You both (kiss)(kiss)

 

สมเด็จองค์ปฐม หรือพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ครูบาอาจารย์ของพวกเรา
อันได้แก่ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ปาน หลวงปู่มั่น หลวงปู่ดู่ หลวงตามหาบัว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นต้น

ถึงแม้นพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ จะดับขันธปรินิพพานจากโลกหรือจากพวกเราไปตั้งนานแล้ว หรือ
ถึงแม้นครูบาอาจารย์ทุกๆองค์ จะละสังขารจากโลกหรือจากพวกเราไปตั้งนานแล้ว

แต่ทุกๆพระองค์ แต่ทุกๆองค์นั้น ยังไม่ได้ละไปจากจิตของพวกเราเลย แถมยังอยู่ประจำจิตของทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะใครก็ตาม ที่ยังระลึกหรือนึกถึงทุกพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ หรือทุกองค์นั้น ดวงจิตของพระองค์ท่านและองค์ท่านยังวนเวียนตามหา ตามเก็บดวงจิตของลูกหลานอยู่เป็นประจำ
เพียงแต่จะตามเก็บดวงจิตที่พร้อมมากๆก่อน แล้วจะนำขึ้นไปเก็บข้างบนพระนิพพานโน้น พระองค์ท่าน และองค์ท่านมิได้ยึดดวงจิตลูกหลานแต่อย่างใด แต่พระองค์ท่านมีพระเมตตาสูงยิ่งนัก ยากที่จะเข้าใจ ยากที่จะหาสิ่งใดมาเปรียบประมาณมิได้ หรือครูบาอาจารย์ท่านมีเมตตาสูง เช่น องค์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นต้น ท่านเป็นห่วง ท่านไม่อยากให้ลูกหลานกลับมาเกิด เพราะการเกิดมีร่างกายนั้น มันคือตัวทุกข์หรือกองทุกข์โดยแท้ และทุกวันนี้ฯ ได้มีดวงจิตโดยเฉพาะท่านพ่อและก็องค์หลวงพ่อฯกำลังจะตามเก็บดวงจิตของลูกหลานของท่านอยู่ และไม่ได้แค่ท่านตามเก็บเฉพาะชาตินี้เท่านั้น แต่จะยังตามเก็บกันไปทุกภพทุกชาติ

สำหรับท่านที่ชอบฝันถึงพระพุทธเจ้า หรือพระองค์ใดองค์หนึ่งนั้น ขอให้ท่านจงเข้าใจเลยนะว่า ท่านกำลังจะมาโปรดท่านแล้ว ให้พวกท่านรีบนำไปสู่การปฎิบัติ เพราะจิตที่จะไปพระนิพพานกันได้นั้น เห็นจะมีแต่ทางปฎิบัติที่จะนำไปสู่มรรค ผล หรือนิพพานได้ หรือปฎิบัติตามมรรคมีองค์ ๘ ของพระพุทธเจ้าเท่านั้น นอกนั้นไม่มี ไม่ได้ ไปไม่ถึง แต่ถ้าท่านมาหามาเยี่ยม แต่ถ้าท่านยังไม่สนใจ คือเป็นผู้ที่ยังหลงโลกอยู่นั้น พระองค์ท่านหรือองค์ท่านก็จะไปโปรดบุคคลอื่นๆต่อไป

ปล.ขอฝากผู้ที่มีญาณสูงช่วยมาฟันธงให้พี่ภูด้วย ว่าสิ่งที่พี่ภูพร่ำไปนั้น จริงหรือไม่
เช่น คุณดัช คุณปาราเมศ คุณแพท คุณดาว คุณแนท หรือผู้ที่มีญาณแอบซุ่มอยู่ แต่ไม่อยากเปิดเผย(อีแอบ) หรือผู้ที่กำลังมาทำหน้าที่ ได้โปรดออกมาแสดงตน มาช่วยท่านพ่อ หลวงพ่อฯได้แล้ว พี่ภูรู้นะ..ตะเอง

 

ครูวิทย์ขา ดูพี่ฟ้าให้ด้วยค่ะ จุ๋มเห็นอะไรแว๊บๆ...

 

เรื่องของสติ ฌาน ปัญญา

สติ เปรียบได้ดั่งอาหารและยาของจิต
ฌาน เปรียบได้ดั่งที่พักริมทาง หรือยานพาหนะที่จะนำพาไปสู่ปัญญาของจิต
ปัญญา เปรียบได้ดั่งยานพาหนะตัวหนึ่งที่จะนำพาไปสู่จุดหมายปลายทางของจิต
นั่นก็คือ มรรค ผล หรือนิพพาน​

จิตกินสติไม่อิ่ม จิตก็จะไม่นิ่ง พอจิตไม่หยุดนิ่ง จิตก็จะออกไปหากินที่อื่น จนทำให้เจ้าของจิตนั้นเดือดร้อน ในฐานะไม่ดูแลจิตของตนเอง แต่ถ้าจิตกินอิ่ม จิตก็จะนอนพักผ่อนอยู่กับกายอยู่กับใจตนเอง ไม่ไปดิ้นรนหรือแสวงหาสิ่งอื่นๆได้ เปรียบเสมือสามีภรรยาก็เช่นกัน จะต้องดูแลให้ดีทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว จะเกิดปัญหาได้ในภายหลัง คือจะต้องเลี้ยงให้อิ่มทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องปากท้องและก็เรื่องบน...(นั่น! ผู้ที่รู้แล้วก็หัวเราะล่า แต่ผู้ที่ไม่รู้ก็ปล่อยให้ท่านงงไป อย่าไปบอก)

สรุปแล้ว ผู้ที่สำเร็จจากที่นี่ไป
๑.จะมองเห็นดวงจิตเดิมแท้ของตนเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
๒.จะเข้าใจธรรมะมากขึ้น เพราะจิตท่านนิ่งและละเอียด
๓.จะฉลาดในการทำบุญ แต่มิได้เลือกว่าจะทำแต่บุญใหญ่ แต่มักจะเลือกกระทำแต่บุญใหญ่ก่อน แล้วจึงไล่ลงมาทำบุญขนาดกลางและก็เล็ก แต่ผิดกับเมื่อก่อน เลือกทำบุญเล็กก่อน แล้วค่อยไปทำบุญใหญ่ทีหลัง ก็เพราะว่า มันเป็นเรื่องกำลังใจ(บุญหรือบารมี)ของตนเองเป็นหลัก
ก็เหมือนกับ เรื่องพระอริยบุคคลไม่สนใจเรื่องของปุถุชน เพราะท่านรู้ความจริงแห่งธรรมมาหมดแล้ว ทำได้แต่ท่านไม่ทำ หรือปุถุชนไม่สนใจเรื่องของพระอริยบุคคล เพราะทำไม่ได้แบบท่าน เพราะว่ากำลังใจเป็นสาเหตุหลักใหญ่
๔.รู้จัก คำว่า ศีลและธรรม ขนาดหยาบ กลาง ละเอียดมากยิ่งขึ้น
๕.มีสติปัญญามากขึ้น และยากที่จะหลงทางอีก
๖.คำว่า พระนิพพานนั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะรู้และเข้าใจกันดีแล้วว่า นิพพานนั้น ที่แท้มิใช่เป็นสมบัติของใครหรือคนใดคนหนึ่งเท่านั้น หรือเป็นของพระอริยบุคคลหรือฝ่ายสงฆ์เท่านั้นที่สามารถจะเข้าไปถึงกันได้ แต่ปุถุชนหรืออริยบุคคลฝ่ายฆราวาสก็สามารถเข้าไปถึงได้เช่นกัน แต่จะด้วยการเจริญสติภาวนานี้ แต่ที่นักภาวนาหรือผู้ปฎิบัติทั้งหลาย ที่พวกท่านบอกว่ามันยากนักหนานั้นก็คือ การทำจิตตนเองให้นิ่ง ฟังใหม่ก็คือ การทำจิตของตนเองให้นิ่งนี้ มันยาก การเข้าถึงธรรมนั้นไม่ได้ยากอย่างที่ท่านคิดเลย เพียงแต่ก่อนที่พวกท่านจะไปให้ถึงธรรมนั้น ท่านจำเป็นจะต้องเข้าไปให้ถึงกระแสจิตของตนเองกันให้ได้เสียก่อน และนั่นก็คือ การทำให้จิตตนเองนิ่งก่อน แต่ถ้าไม่แล้ว ไม่ว่าหน้าไหน นักภาวนาไหน หรือผู้ปฎิบัติไหนๆ ก็ไม่มีทางจะเจริญในธรรมกันได้ เพราะเราจะต้องรู้จักทำให้จิตตนเองนิ่งให้ได้เสียก่อน หรือเจริญมรรคให้ถูกต้องด้วยและจะต้องมีครูฝึกสอนที่ท่านเคยทำสำเร็จมาก่อนด้วย ท่านจึงจะสามารถกระทำได้สำเร็จกัน ขอให้พวกท่านไปทำตามที่ครูบาอาจารย์ท่านอื่นๆที่ได้กล่าวไปแล้วนั้น หรือพระระดับเกจิหรือพระอรหันต์ แต่ก็ไปตามหาท่านก็มิใช่เรื่องง่าย สำหรับผู้ปฎิบัติที่จะเข้าไปถึงตัวท่าน

พร่ำกันเท่านี้ก่อน ทำท่าจะยาวอีกแล้ว

 

555..ไม่รู้ซิ..555
เอ้า..เล่าให้ฟังก็ได้..
พอจิตเรายกแล้ว ความตายมันก็คืบคลานเข้ามาอยู่ตลอดเวลาเลยนะ
เมื่อไม่นานมานี้ได้มีเหตุโอกาสให้ตรวจร่างกาย พบว่าสารบ่งชี้มะเร็งในลำไส้ขึ้นสูงเกินมาตราฐานมากๆ
จิตก็เฉยๆไม่ได้สนใจ ก็ใช้ชีวิตไปตามปกติธรรมดา เรื่องของขันธ์ไม่เกี่ยวกับจิต!
แต่คนใกล้ชิดนี่ซิ เดือดร้อนยิ่งกว่าตัวเราเองเสียอีก
แล้วก็บังเอิญว่าได้เจอรุ่นพี่ปฎิบัติธรรมเหมือนกัน ท่านแนะนำให้ทำดีท๊อกซ์
เราก็เลยลองทำดูครั้งแรกเมื่อ3อาทิตย์ก่อน แล้วบังเอิญท่านมาที่บ้านก็เลยทำต่ออีกครั้ง
ก็เผื่อว่าไอ้สารก่อมะเร็งในลำไส้มันอาจจะลดลงไปได้บ้าง(เขาว่างั้นนะ)
เพียงแค่ดูแลธาตุขันธ์ตามอัตภาพ ตามจังหวะพระท่านจัดสรรมา ไม่ถึงกับดิ้นรนมากนัก
เราเองน่ะไม่กลัวตาย!มานานมากแล้ว.. (เพียงแต่ไม่ค่อยพูดเรื่องนี้เท่านั้นเอง..555)
มรณานุสสติกรรมฐานอยู่เนืองๆ..
ฝึกเดินฌาน1-2-3-4, 4-3-2-1, 1-2-3-4 ออกฌาน เตรียมพร้อมละขันธ์อยู่เสมอๆ
นั่งตัดผมที่ร้านตัดผม หรือมองกระจกไม่ค่อยเห็นตัวเองซักเท่าไร
มองเห็นแต่"ความว่าง"กับ"กระโหลก+โครงกระดูก"ซะส่วนใหญ่..555(สงสัยมีตาทิพย์มั้ง)
มองสาวๆนะ แค่เพ่งนิดเดียวก็จะเห็นเป็นโครงกระดูกทันที..555

ขันธ์นี้ยังเก็บเอาไว้เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนาตามสภาพของมัน+ชดใช้กรรมทางโลกไป กิจอื่นไม่มีเลี้ยว..
(และเอาไว้ให้ครูวิทย์แซวด้วย..555)
ส่วนว่าดีท๊อกซ์แล้วผิวจะสดใสหรือเปล่า? อีอันนั้นก็ช่วยไม่ได้เฟ้ยย.. คงจะเป็นของแถมมั้ง..555

 

คนเรานั้นสอนกันไม่ได้ ธรรมะก็สอนกันไม่ได้
ถึงพวกท่านจะพยายามสอนให้ได้ แต่พวกเขาก็จะไม่เก็ตอยู่ดี(ลังเลหรือสงสัยต่อไป)​

นอกเสียจาก พวกท่านจะเป็นผู้นำพาหรือแนะนำให้ผู้ปฎิบัติพวกเขาเหล่านั้น หรือพากันปฎิบัติธรรมตามพระธรรมหรือคำสั่งสอนของพระพุทธองค์นั้น โดยการนำจิตของผู้ปฎิบัติเจริญหรือเดินตามมรรคมีองค์ ๘ นี้เท่านั้น

พากันเจริญสติภาวนา พากันเดินตามรอยมรรคที่กล่าวไปแล้วนั้น จนพวกเขามีสติ หรือทำให้จิตนิ่งให้ได้ก่อน (แต่ที่นี่ ก็คือ ให้ผู้ปฎิบัติคอยหมั่นนึกถึงพระบ่อยๆ หรือถี่ๆ อย่างต่อเนื่อง นี่ก็คือการสร้างสติกำลังจะเริ่มต้นเท่านั้น)
จิตจึงจะเป็นสมาธิหรือฌานตามลำดับของจิต(ความนิ่งมากหรือน้อยของจิต) เมื่อจิตสามารถเข้าถึงสมาธิหรือฌานได้แล้ว ปัญญาของจิตก็จะเกิดขึ้น
ต่อไปนั้น จิตจึงจะเข้าสู่โหมดวิปัสสนาโดยอัตโนมัติกันได้
เมื่อจิตของผู้ปฎิบัติสามารถสอบผ่านวิปัสสนาแล้ว จิตของผู้ปฎิบัติก็จะเป็นวิปัสสนาญาณหรือปัญญาญาณ หรือจิตหยั่งรู้

ลืมพูดถึงผู้ปฎิบัติ ที่มีของเก่า หรืออภิญญา ก็อาจจะเกิด อาจจะพบเห็นได้ด้วยตนเอง จะก่อนจิตยกหรือจิตยกแล้วเท่านั้น แต่จิตก่อนจะยกนั้นก็หมายถึง จิตในขณะที่จิตเขาทรงฌานลึก(ฌานสูงหรือฌาน๔)เท่านั้น

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ พี่ภูจะสื่อว่า ผู้ที่สอนได้ หรือผู้ที่จะเข้าถึงหรือเข้าใจธรรมะของพระพุทธองค์นั้น ก็คือ ผู้ที่จะต้องฝึกจิตให้นิ่งมากดีพอแล้ว หรือทำจิตของตนเองให้ละเอียดมากๆก่อน ท่านจึงจะเข้าใจในความหมายของ คำว่า พระธรรม หรือ คำสั่งสอนของพระพุทธองค์ หรือธรรมะของครูบาอาจารย์ของพวกเรากันได้อย่างลึกซั้งทีเดียว

หรือให้ผู้นั้นมีปัญญาในทางธรรมเสียก่อน เดี๋ยวปัญญาหรือธรรมของผู้ปฎิบัติท่านๆนั้น จะคอยสอนตนเอง(จิต)
แต่จะบอกล่าวกับผู้ที่ยังไม่เข้าใจว่า ปัญญาในทางธรรมที่ว่ามานี้ มันจะอยู่หลัง คำว่า สมาธิ
หรือขอให้พวกเรานึกถึงคำว่ามรรคมีองค์๘ หรือ ศีล สมาธิ ปัญญา
แต่จิตบุญทราบกันหมดแล้ว นี่จะบอกแต่เฉพาะผู้ที่ยังเข้าไปไม่ถึงกระแสจิต(ตนเอง) และกระแสธรรม(ตนเอง) เท่านั้น