คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม ประสบการณ์พระพุทโธน้อยและของอธิษฐาน

555 ครับพี่เอม พี่เอมโพสนี้ทีหลังอีกโพสไม่ใช่หรือครับ แต่ไหงมาเป็นโพสนี้นำหน้าครับ ไม่ได้ท่าแล้วล่ะครับเว็บมาสเตอร์แก้ไขปัญหานานเกินแล้วล่ะครับ เงินก็จะเอา แต่ดูแล้วไม่คุ้มค่ากับคนที่เสียเงินเลยครับ

เมื่อไหร่คุณแม่ฯจะเมตตาเราบ้างน้อ จริงมั๊ยครับพี่เอม ^^

 

พี่ว่าน้องบอลมีประสบการณ์หลายครั้งแล้วครับ ครั้งที่เช่าพระก็รอบหนึ่ง ก่อนหน้าที่ถูกหวยก็รอบหนึ่ง ได้งานใหม่ก็รอบหนึ่ง แล้วนี่ก็อีกรอบล่าสุดเลยครับ ยินดีด้วยจริงๆครับ

 

ยินดีกับน้อง bugbon55 ด้วยครับที่มีโชคงวดนี้

^^ ผมก็เหมือนกันครับ ซื้อ 88 กับ 82 อดเหมือนเคย ...

 

ไม่กลับล่ะครับพี่เล็ก วันหน้าซื้อหวยต้องกลับด้วยครับ ไม่อย่างนั้นมาเสียดายแบบนี้ไม่ดีครับ ^^

 

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ

 

ผมจะซื้อแต่ล็อตเตอรี่ครับ บางทีก็ซื้อหวยชุดเลขไหนก็เลขนั้นไม่เคยกลับซะทีครับ เฉย ๆ ครับไม่ค่อยเสียดายโดนจนชิน 555 ...

 

5555555 งวดหน้าเอาใหม่ครับพี่ ^^

 

รอติดตามด้วยคนครับ ^^

555 ช่วยกันอุดหนุนรัฐบาลครับ จะได้มีเงินมาพัฒนาประเทศ (i)(i)

 

ผมก็ฝันตรงๆ เลยทะเบียนรถพ่อผม แต่....ไม่ได้ซื้อครับ :'(

 

จริงด้วยครับพี่เชษฐ์ พรุ่งนี้ผมจะไปตรวจสลากออมสินก่อนเผื่อได้รางวัลใหญ่ๆ
^0^

 

ไม่เป็นไรครับ คงยังไม่ใช่วันของเราน่ะครับ

ขอให้โชคดีครับ ^^

 

เรื่องจริงที่ควรรู้ เกี่ยวกับ
"ถุงเหนี่ยวทรัพย์" คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
ว่าด้วยเรื่อง "การพิจารณาความเก่าของผ้า"

ปล.เป็นเรื่องราวที่เรียบเรียงขึ้นจากจากการสังเกตุและวิเคราะห์จากสิ่งที่เห็น ควรใช้วิจารณญาณในการอ่านและศึกษา

ทุกท่านคงจะทราบดีแล้วนะครับว่า "ถุงเหนี่ยวทรัพย์" คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม เป็นหนึ่งสิ่งของอธิษฐาน ที่เด่นด้านโภคทรัพย์ เป็นที่ต้องการของลูกหลานและศานุศิษย์คุณแม่ฯอย่างมาก เนื่องด้วยเพราะประสบการณ์ที่ได้รับฟังและประสบกันมาอย่างต่อเนื่องของลูกศิษย์เก่าๆที่ได้ครอบครองและบูชาไว้ ถุงเหนี่ยวทรัพย์ ดังกล่าวจากประวัติอ้างอิงชัดเจน จะมีสองที่ที่คุณแม่ฯท่านแจกให้ลูกหลานได้เก็บรักษาไว้เพื่อเหนี่ยวทรัพย์ คุณแม่ฯ ท่านเรียกถุงนี้ว่า "ถุงเหนี่ยวทรัพย์" คือ พระพุทธบาท สระบุรี และ วัดท่าผา ราชบุรี แต่ด้วยปริมาณของลูกหลานคุณแม่ฯมีไม่น้อยเลยทีเดียว "ถุงเหนี่ยวทรัพย์"ที่ทำการแจกในสองที่ดังกล่าวจึงไม่เพียงพอ ได้มีการจัดทำขึ้นในภายหลังอีกหลายครั้ง ตามประวัติที่ได้รู้มา คุณแม่ฯท่านจะจัดสร้างขึ้นในช่วงวันปีใหม่เพื่อให้ลูกหลานและศานุศิษย์ได้ทำการสอยไปบูชา(เหมือนการสอยดาว) ของในถุงจะมีแตกต่างกันไปแล้วแต่ว่าใครจะโชคดีได้สิ่งใด และอีกสามที่ที่ได้ทราบมา คือ สามชุก สุพรรณบุรี ประแสร์ ระยอง บ้านสามัคคีวิสุทธิ์(หรือวัดอาวุธฯ ทั้งสองที่ยังไม่ยืนยันแน่ชัดว่าที่ใด) ต่างๆเหล่านี้มีการจัดทำถุงเหนี่ยวทรัพย์ขึ้นมาให้คุณแม่ฯท่านได้อธิษฐานให้ทั้งสิ้น เนื้อผ้า ขนาดของถุง ฝีมือการตัดเย็บ จะไม่เหมือนกันในแต่ละสถานที่ ขึ้นอยู่กับผู้ทำการตัดเย็บเป็นหลัก ก่อนหน้าที่ผมจะทำการศึกษาเรื่องนี้อย่างชัดเจน จะได้ยินเสมอว่า ถุงแบบนี้ แบบนั้นปลอม แต่เมื่อได้ศึกษาแล้วกลับรู้ว่า ถุงเหล่านั้นไม่น่าจะปลอมเพียงแต่ไม่เหมือนกับที่หลายท่านที่ทำการศึกษาก่อนหน้าได้เห็นมาก็เท่านั้น แต่ทั้งนี้อาจจะเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการทำปลอม บอกได้เลยครับว่าน่าจะมี เพราะราคาที่ร้านพระ หรือเซียนต่างๆ ตั้งไว้ให้เช่าหากันมาแต่แรกมันยั่วยวนจิตใจคนที่จิตใจไม่ซื่อและฉวยโอกาสนี้โดยไม่รู้จักบาปบุญไม่น้อยเลยทีเดียว แต่หากท่านได้ศึกษา และรู้จักพิจารณาหลายสิ่งประกอบกันก่อนการเช่าหาจะเป็นภูมิคุ้มกันมากเลยทีเดียว วันนี้ผมจึงมาพูดคุยและนำเรื่องการพิจารณาความเก่าของผ้าถุงเหนี่ยวทรัพย์ มาให้ทุกท่านได้อ่านและศึกษากันเพื่อเพิ่มเติมความรู้ให้มากยิ่งขึ้นครับ ไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยนะครับ เรื่อง ความเก่าของเนื้อผ้าถุงเหนี่ยวทรัพย์ ตั้งแต่เริ่มศึกษาของอธิษฐานต่างๆนั้น ผมจะได้ยินเสมอว่า ผ้าต้องกินตัว หมายถึง ต้องมีการขาดของเนื้อผ้าเนื่องจากอายุที่ผ่านมาถึง 40 กว่าปี ผมได้ฟังแล้วก็เฉยๆ เพราะยังไม่รู้เรื่องอะไรมากอีกอย่างก็ไม่อยากจะเชื่อสิ่งใดเลยตั้งแต่แรกทั้งที่ยังไม่ได้พิจารณา ผมก็นำความรู้นั้นกลับมาคิดพิจารณาว่าจริงหรือไม่ที่จะเป็นเช่นนั้น ค้นหารูป ถุงเหนี่ยวทรัพย์ ที่มีอยู่ตามเว็บต่างๆมากมาย แต่ทำไมไม่เหมือนกัน ทั้งเนื้อผ้า การเย็บ ก็ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ อีกทั้งเรื่องหลักที่ได้รับรู้มาคือ ผ้าต้องมีการกินตัว ก็ไม่เห็นจะมีสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ที่เห็นก็ใหม่ๆ ไม่มีขาด งานนี้คงไม่ง่ายอย่างที่คิดไว้ซะแล้ว แต่วันหนึ่งผมก็บังเอิญหันไปเห็นเสื้อนอนของผมตัวหนึ่งซึ่งผมจะใส่ประจำและก็ซักบ่อย อายุของเสื้อตัวนี้ก็ 15 ปีแล้วครับ(ทุกท่านไม่ต้องสงสัยนะครับว่าทำไมเสื้อตัวนี้อายุมากเหลือเกิน ผมเป็นคนที่เสียดายเสื้อผ้าจะใส่จนกว่าจะขาดแบบไม่เหลือดีแล้วค่อยทิ้งครับ ) ปรากฏว่า เสื้อตัวนั้นเพิ่งมีรอยขาดเองของเนื้อผ้า หรือ ที่นิยมเรียกกันว่าผ้ากินตัวนั่นแหละครับ เมื่อเห็นเช่นนั้นทำให้ผมย้อนคิดไปอีกว่า เสื้อผ้าของแม่ผม เมื่อ 40 ปีก่อน ยุคกางเกงขาระฆังอะไรประมาณนั้นและสีสันบาดตาบาดใจนั่นแหละครับ ที่เก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าในห้องนอนของแม่ผม ผมเห็นมาจนถึงวันนี้ไม่เห็นชุดเหล่านั้นมีรอยขาดเลยแม้แต่น้อย สีก็สวยสดเกือบเหมือนใหม่ด้วยซ้ำ บางท่านอาจคิดว่าเสื้อผ้านั้น เนื้อผ้าอาจจะหนาเลยทำให้ไม่ขาดก็เป็นได้ เอาเป็นว่า เรื่องนี้ผมก็มีอีกชุดเพื่อยืนยัน คือ ชุดแต่งงานของแม่ผมครับ ทุกท่านคงรู้นะครับว่าเนื้อผ้าของชุดเจ้าสาวนั้นไม่ได้หนาอะไรเลย แต่ชุดเจ้าสาวของแม่ผมวันนี้ก็ไม่มีรอบขาดเลยครับ จะมีแต่ลักษณะคราบสีเหลือง และคราบสีน้ำตาลเป็นจุดๆ ใหญ่บ้าง เล็กบ้าง หรือที่หลายท่านอาจจะรู้จักที่นิยมเรียกกันว่า "สนิมผ้า" ก็เท่านั้น ผ้าไหม ของย่าและยายผมที่เก็บไว้ในตู้นานกว่า 50 ปีก็เช่นกัน ไม่มีการกินต้วของผ้าแต่อย่างใด เมื่อย่าและยายผมเสียไป น้าๆยังนำผ้านั้นไปตัดชุดสวมใส่ได้สบายด้วยซ้ำ จากหลายๆสิ่งที่ผมได้เห็นมา เมื่อนำมาวิเคราะห์หลายๆสิ่งทำให้ผมเข้าใจว่า ผ้าต่างๆไม่ว่าจะผ่านกาลเวลามานานเท่าไหร่ก็ตามหากเก็บรักษาอย่างดีแล้ว(ไม่ถูกแสงแดด ไม่มีความร้อนเข้ารบกวนมาก ไม่ถูกแมลงกัดกินเสื้อผ้าเข้าทำลาย) ผ้าเหล่านั้นก็ยังคงสภาพและสีสันเกือบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ว่าได้ครับ แต่หาก ผ้านั้นได้ผ่านการใช้อยู่เสมอ และมีการซักทำความสะอาดเป็นประจำ เนื้อผ้านั้นจะมีการขาดได้เมื่อถึงเวลาหนึ่ง ดังนั้นการที่บอกว่า "ผ้าต้องมีการกินตัว" ในถุงเหนี่ยวทรัพย์ นั้นก็ไม่ผิดครับ แต่อาจจะไม่ครบตรงที่ว่าขาดเงื่อนไข "มีการใช้ประจำและมีการซักทำความสะอาดด้วย" ก็เท่านั้น หากเป็นถุงเหนี่ยวทรัพย์ ที่เก็บรักษาไว้ ไม่ได้นำออกมาใช้ ก็ไม่มีการกินตัวของเนื้อผ้าอย่างแน่นอนครับ และสีสรรก็ยังจะสดใสเหมือนกับของใหม่เลยทีเดียว แต่จะมีลักษณะอย่างหนึ่งครับที่บ่งบอกได้ในผ้าที่เก็บเก่าแต่ไม่ขาด คือ สนิมผ้า ที่ปรากฏไม่มากก็น้อย เพราะสิ่งนี้เกิดจากการทำปฏิกิริยาบางอย่างของเหงื่อของเราเมื่อสัมผัสผ้า เมื่อเวลาผ่านไปก็จะเกิดลักษณะ สนิมผ้า ขึ้นได้ไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับการสัมผัสผ้าชิ้นนั้นว่ามากหรือน้อยครับ นี่ก็เป็นเรื่องราวของการพิจารณาเนื้อผ้า และ ความจริงเกี่ยวกับการกินตัวของผ้า ที่ได้ยินกันมาเนิ่นานว่าแท้จริงเป็นเช่นไร เหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมได้เห็นมากับตัวเองและนำมาคิดพิจารณาเหตุและผลว่าน่าจะมีข้อสรุปเรื่องนี้อย่างไร อาจไม่ใช่ข้อสรุปที่บ่งบอกว่าครอบคลุม 100 เปอร์เซ็นต์ของความจริง เพียงแต่เป็นอีกแง่มุมหนึ่งนำมาให้ทุกท่านได้อ่าน และศึกษาร่วมกันไป เพื่อประโยชน์ในวันหน้าสำหรับการเช่าหา "ถุงเหนี่ยวทรัพย์" คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม มาเพื่อบูชาและเสริมด้านโภคทรัพย์ให้ท่านมากยิ่งขึ้นครับ ทุกท่านลองกลับไปดูและพิจารณาเสื้อผ้าของท่านเองก็ได้ครับ ว่าเป็นอย่างที่ผมได้กล่าวมาหรือเปล่า หากได้ผลการสังเกตอย่างไร มาเล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

 

สวัสดีครับพี่ช้าง ^^

น้องนอร์ นำรูปมาช่วยประกอบเรื่องเลยนะครับ ^^
จุดสีน้ำตาลบน "ถุงขาวเจ้าทรัพย์" ใบของน้องนอร์ นั้นคือ "สนิมผ้า" จะบอกได้ว่าผ้านั้นเก่าหรือไม่ อีกสิ่งคือ เชือกปากถุงฯ ซึ่งจะเป็นเชือกด้ายขน ซึ่งเป็นด้ายแบบเก่าที่มีการใช้อยู่สมัยเมื่อ 40 - 50 ปีที่ผ่านมา ปัจจุบันไม่นิยมใช้กันแล้วครับ

 

กราบกราบกราบคุณแม่บุญเรือนที่เคารพยิ่งค่ะ
สวัสดีทุกท่านนะคะวันนี้ลูกหลานคุณแม่มีใครมีโชคบ้างค่ะ
ยินดีกับผู้ที่มีโชคทุกท่านนะคะ
สำหรับตัวเอง 28 ซื้อมาสองงวดก่อน งวดนี้ไม่ได้ตามค่ะ :'(

 

ได้ความรู้เยอะครับ พี่เชษฐ์ แต่สำหรับผมบูชาจากพี่เชษฐ์ดีกว่า ได้ของจริงล้านเปอร์เซ็น อีกอย่างได้ราคาพิเศษด้วย(มั้ง) อิอิ (deejai)

 

ไม่เป็นไรครับพี่ณิ วันนี้ยังไม่ใช่วันของเราครับ ^^

ขอบคุณครับ ความรู้ต่างๆ พยายามหามาให้ลูกหลานคุณแม่ฯได้อ่านกันครับ ^^

 

สวัสดีครับพี่ๆทุกๆท่าน หลานเเม่มาประจำการเเล้วครับผม ^^

 

สวัสดีครับน้องท็อป วันนี้มาเร็วนะครับ สงสัยไม่มีสังสรรค์กับเพื่อนๆ ^^