วัตถุมงคลสายอธุยา สุพรรณบุรี..หลวงพ่อปาน หลวงพ่อสละ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ อื่นๆ

เหรียญพิธีใหญ่จตุพิธพรชัย


หลวงพ่อออด วัดบ้านช้าง อยุธยา



พิธีนี้ผมคงไม่ต้องบรรยายมากน่ะครับเนื่องจากหาอ่านได้ทั่วไปในเวปอื่นๆครับ พิธรนี้ยิ่งใหญ่มากและพระคณาจารย์ระดับครูอาจารย์ทั้งนั้นครับที่มาเสก หลวงพ่อออด ท่านก็เป็นพระคณาจารย์ที่ชาวอยุธยาเคารพมากๆครับประสบการณ์ด้านมหาอุตม์คงกระพันเป็นที่ยอมรับอย่างมากครับ จากประสบการณ์จังๆหลายครั้ง ตอนเสกพระ หลวงพ่อกวยท่านชื่นชมหลวงพ่อออดว่าเด่นทางมหาอุตม์ ตอนเสกพระ ท่านเห็นตัว เฑาะ ลอยออกจากปากหลวงพ่อออด....



ราคา 1,050 บาท พร้อมส่งครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

​

เหรียญหลวงพ่อโต วัดดาวคะนอง

รุ่นแรก ปี 2520

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

อีกหนึ่งเหรียญหลักของพื้นที่ ที่คนเก็บกันมากครับ เหตุเนื่องจากมีประสบการณ์ ตำรวจไล่จับโจร โจรเกิดขัดขืน เจ้าหน้าที่ตำรวจเลย ยิงใส่ขณะวิ่ง แต่ยิงไม่ออก สุดท้ายจับตัวได้ ในคอคนร้ายมีเหรียญรุ่นนี้อยู่ ตำรวจที่อยู่ในเหตุการถึงกับ เกือบจะแย่งกันเลยทีเดียว ภายหลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตามกวาดเช่าซะเกือบเรียบตลาด ปกติก้หายากอยู่แล้ว ยิ่งหายากเข้าไปอีก เรื่องนี้รู้โดยทัวกันนนนน........

สภาพสวยมาก บล็อคเรียบบบบ


ราคา ....สอบถามจ้า ของดีที่ไม่ต้องเชียร์

เช่าแล้ววว

 

​

พระพิมพ์ หลวงพ่อปาน

วัดบางนมโค พิมพ์ทรงเม่น


พิมพ์นี้พุทธคุณที่เล่าสืบต่อกันมา เหมาะกับชาวไร ชาวสวน การเดินทางในป่า ด้านป้องกันคุ้มครอง แก้คุณไสยใช้ได้ทุกพิมพ์ครับ

สำหรับพระหลวงพ่อปานเรื่องอิทธิคุณผมคงไม่ต้องโม้อะไรอีกแล้วครับเพราะเป็นพระตลาดและคล่องตัวมาก สมัยก่อนเขาว่ามีพระหลวงพ่อปานเท่ากับมีหมออยู่ประจำบ้านเชียวครับ



รับประกันแท้ (ตามมาตรฐานสากลนิยม) ไม่อุด ไม่ซ่อม

น่าเก็บไว้บูชาครับ


พิมพ์นี้ถ้าสวยคงไม่ต้องบอกราคาน่ะครับว่ากี่หมื่น

ราคา ..1x,xxx.. บาท พร้อมส่ง


เก็บพระหลวงพ่อปานก็เหมือนเก็บเงินสดน่ะครับ

สวยๆเอาไว้ขายได้ราคา ช้ำราคาเบากว่าหลายเท่า เอาไว้ใช้

เช่าแล้วครับ

 

เหรียญหลวงพ่อฟื้น วัดโพธิ์เผือก รุ่นแรก

 

ได้รับพระแล้วนะครับ ขอบคุณครับ

 

รับทราบครับผม. ขอบคุณครับ

 

หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ปี 2514
ราคาเท่าไหร่ครับ

 

ตอบแล้วครับบบบ...................................

 

การสร้างพระสมเด็จที่พิถีพิถันมากครับ


ที่สำคัญ หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อโชติ วัดป้อมแก้ว ปลุกเสก

พระสมเด็จ หลวงพ่อเชื้อ วัดกระแชง



หลวงพ่อเชื้อ ชื่อเดิมว่า เชื้อ วงษ์จันทร์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๔๐ ณ ต.กระแชง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อนายจันทร์ วงษ์จันทร์ มารดาชื่อนางคล้าย วงษ์จันทร์ ประกอบอาชีพทำนา หลวงพ่อเชื้อท่านเข้าอุปสมบทเมื่ออายุ ๓๔ ปี วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๔๗๔ ณ วัดกระแชง โดยมีพระครูอดุลวุฒิกร วัดช่างเหล็กเป็นพระอุปัชฌายะ พระอธิการแพ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูประโชติวุฒิกร วัดป้อมแก้วเป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า เชื้อ จนฺโชโต หลังจากที่อุปสมบทแล้ว หลวงพ่อเชื้อท่านได้จำพรรษาอยู่ที่วัดกระแชง และได้ฝากตัวเป็นศิษเพื่อศึกษาเล่าเรียนวิชาความรู้รวมถึงพระเวทวิทยาคมต่างๆกับพระอาจารย์ที่ทรงวิทยาคมในสมัยนั้นหลายท่านด้วยกัน เช่น, หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก , หลวงพ่อโชติ วัดป้อมแก้ว และหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ. ชลบุรี เป็นต้น

ต้น เมื่อร่ำเรียนวิชาจากพระอาจารย์ต่างๆจนเป็นที่พอใจแล้ว ในปี๒๔๘๕ หลวงพ่อเชื้อท่านใด้จัดสร้างวัตถุมงคลเป็นครั้งแรกโดยสร้างเป็นพระเนื้อผงและเนื้อดินพิมพ์ต่างๆหลายสิบพิมพ์ด้วยกันโดยมี หลวงตามั่งเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ในการช่วยจัดสร้างและได้นิมนต์หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก พระอาจารย์ของท่านมาร่วมปลุกเสกพระชุดนี้ด้วย มวลสารต่างๆที่ใช้จัดสร้างพระในครั้งนั้นมีของวิเศษมากมายดังเช่น ๑. ผงวิเศษที่หลวงพ่อเชื้อเขียน และ ลบขึ้นเอง ๒. ว่านยาต่างๆที่หลวงพ่อเชื้อและหลวงตามั่งท่านปลูกไว้ เช่น ว่านนาราย , ว่านนาคราช ๓. ผงตะไบพระแก้วจากวัดพุทไธศวรรย์ ๔. ผงตะไบตะปูสังฆวานรที่หลวงพ่อเชื้อได้มาจากวัดพุทไธศวรรย์ ๕. ดินใจกลางคลองสำหรับสร้างพระเนื้อดิน ๖. เศษอิฐที่แตกหักสมัยโบราณที่ตกอยู่เวณวิหารวัดกระแชง ๗. ผงช็อกที่ใช้สอนพระเรียนนักธรรม โดยหลวงพ่อเชื้อท่านจะนำไม้ไผ่ผ่าครึ่งไปรองผงช็อกที่ถูกลบตกลงมา ท่านบอก ว่า “ของดีๆทั้งนั้น พระธรรมทั้งนั้น” ๘. เศษข้าวเศษอาหาร ที่เหลือจากการบิณบาตร

การจัดสร้างพระของหลวงพ่อเชื้อในแต่ละครั้งนั้น พอจะแบ่งเป็นรุ่นได้ดังนี้ ๑. รุ่นซ่อมฝาผนังอุโบสถ (ราวปี ๒๔๘๕) พระชุดนี้คาดว่าเป็นการจัดสร้างขึ้นครั้งแรก เนื้อหาของพระจะจัด และ หนึกนุ่มแต่มีความแกร่งในตัว เนื่องจากมีส่วนผสมของว่านและผงพุทธคุณจำนวนมาก พิมพ์พระที่สร้างได้แก่ พระธรรมจักร ลองพิมพ์ , สมเด็จสามชั้นสมาธิราบ และสมาธิเพชร ๒. รุ่นยกเสาร์ศาลาการเปรียญ ในครั้งนี้มีการจัดสร้างพระพิมพ์ขึ้นจำนวนมาก และ มีหลายแบบหลายพิมพ์ด้วยกัน โดยมีหลวงตามั่ง เป็นผู้ช่วยจัดหามวลสารและว่านยาต่างๆ และมีครูหง่า( เป็นศิษฆราวาสของหลวงพ่อจง ) เป็นผู้ช่วยแกะแม่พิมพ์ ได้แก่ พระธรรมจักร พิมพ์ใหญ่ พระธรรมจักรพิมพ์กลาง พระธรรมจักรพิมพ์เล็ก พระธรรมจักรพิมพ์จิ๋ว พระนารายสี่กร พิมพ์พระประธาน สมเด็จสามชั้นพิมพ์กลาง สมเด็จเจ็ดชั้น สมเด็จเก้าชั้น และอีกหลายๆพิมพ์ด้วยกัน เนื้อหาของพระชุดนี้ จะออกโทนสีขาวเนื่องจากแก่ผงช็อกและผงพุทธคุณ บางองค์มีคราบกรุเนื่องจากพระบางส่วนถูกนำไปบรรจุกรุในเจดีย์หน้าวิหารหลวงปู่เจียม ซึ่งต่อมาได้ถูกหัวขโมยลักลอบขุดนำพระออกมาจนหมด

๓. รุ่นยกช่อฟ้า พิมพ์พระที่จัดสร้างได้แก่ พระธรรมจักรพิมพ์ใหญ่ พระธรรมจักร พิมพ์กลาง พระธรรมจักร พิมพ์เล็ก(เนื้อโซนสีเหลืองพิมพ์ตื้น) พระนาคปรกมุจลินท์นาคราช(เนื้อสีแดง และ เนื้อสีดำ) พระขุนแผนเนื้อผง และเนื้อดิน พระโคนสมอลงรัก ๔. รุ่นฉลองพัดยศ พระชุดนี้สร้างขึ้นเนื่องในงานฉลองพัดยศเป็นพระครู โดยจัดสร้างเป็นพระผงขนาดใหญ่ เช่น พระธรรมจักรพิมพ์ใหญ่จัมโบ้ พิมพ์พระตรีกาย พระโคนสมอเนื้อดิน พระสังกัจจายน์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังได้มีการสร้างพระประจำวันนื้อดิน โดยนำดินใจกลางคลองและเศษอิฐตามกำแพงโบสถ์ที่แตกหัก มาบดให้ระเอียด กรองด้วยผ้าขาวบาง และนำมากดพิมพ์พระ แต่มีจำนวนไม่มากนัก<!-- google_ad_section_end -->

ประวัติบทความดีๆ จากคุณยุทธศักดิ์ คนท้องที่เขาทำไว้อย่างยอดเยี่ยม สมคำล่ำลือครับ


เนื้อจัดมากมายครับ ดูง่ายสบายดา

ของดีที่คนพื้นที่เขานับถือกันอย่างมาก ทีเดียวเชียว


ราคา สอบถามครับ

เช่าแล้วครับ

 

​

เหรียญหลวงพ่ออิ่ม วัดลาดชะโด รุ่นแรก 2490



สุดยอดเหรียญหาชมยากของอยุธยาครับ


หลวงพ่ออุปัชฌาย์ (อิ่ม ธัมมสาโร) หลวงพ่ออุปัชฌาย์ (อิ่ม ธัมมสาโร) เกิดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๑๓ บิดาชื่อนายดิษฐ์ มารดาชื่อนางหนู มีพี่น้องร่วมท้อง ๕ คน คือ ๑ นางหรุ่น ๒ นางทิม ๓ พระอุปัชฌาย์อิ่มธัมมสาโร ๔นายหลำ ๕หรุ่ม หลวงพ่ออุปัชฌาย์อิ่ม ในช่วงเป็นเด็กครอบครัวได้ส่งมาเรียนหนังสืที่วัดสะแกและได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่เด็ก ต่อมาได้อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดสะแก อำเภออุทัย จังหวัดอยุธยา โดยหลวงพ่อหร่าย วัดสะแกเป็นอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นท่านได้ศึกษาวิชากับหลวงปู่หร่ายซึ่งสมัยนั้นท่านเป็นพระที่มีวิชากล้าแข็งซึ่งแม้แต่หลวงพ่อกลั่นยังได้มาศึกษาวิชากับท่าน หลังจากนั้นท่านได้ไปศึกษาวิชาต่อกับหลวงพ่อกลั่น ต่อมาท่านได้กลับมาอยู่ที่วัดลาดชะโดต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจากหลวงพ่อทองและเป็นเจ้าอาวาสลำดับที่๑๓แห่งวัดลาดชะโด จากนั้นได้เป็นพระอุปัชฌาย์บวชพระเณรแถวนี้ทั้งหมดตั้งแต่ ลาดชะโด ดอนลาน นาคู ลำตะเคียน ลานช้าง ลาดตาล ในสมัยยุคนี้ถือว่าวัดรุ่งเรืองเป็นอย่างมากบางปีมีพระจำพรรษาถึงร้อยกว่ารูปก็มี ท่านชอบทำยาแผนโบราณแจก เช่น ยาเขียว ยาเหลือง ยาดำ ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมายถึงกรุงเทพฯ เจ้านายผู้ใหญ่ เช่น หม่อมเจ้าคำรพ ทรงนับถือท่านนักโดยเฉพาะพวกบ้านแป้งบ้านขนมจีน อำเภอเสนานับถือท่านมาก ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ที่เห็นในปัจจุบันก็เกิดในสมัยท่าน นอกจากนั้นยังมีพระเกจิอาจารย์มาขอเรียนวิชากับท่านมากมายเช่น หลวงปู่โต๊ะวัดลาดตาล,หลวงพ่อกร่ายวัดโพธิ์ศรีเป็นต้น หลวงพ่ออิ่มท่านมรณภาพในเดือน๑๐ปีพุทธศักราช ๒๔๙๐ สิริอายุได้๗๗ปี ๕๗ พรรษา หล่อรูปหลวงพ่ออิ่ม ลูกศิษย์ต่างๆให้ความเคารพหลวงพ่ออิ่มมาก จึงต้องการหล่อรูปเหมือนของหลวงพ่ออิ่มไว้เพื่อทำการบูชาต่อไป จึงได้ไปขออนุญาติหลวงพ่ออิ่มเพื่อทำการหล่อรูปเหมือน แต่หลวงพ่อกับบอกว่าถ้าหล่อรูปเหมือนแล้วตนจะต้องตาย จึงบอกไม่ให้หล่อ แต่ลูกศิษย์ด้วยความนับถือต้องการจะหล่อรูปเหมือนให้ได้ จึงไปตามช่างมาปั้นหุ่นแกะรูปของท่านโดยหลวงพ่อก็นั่งเป็นแบบให้ช่างแกะและมีน้ำตาไหลตลอดเมื่อช่างแกะเรียบร้อยแล้วปรากฎว่าเหมือนหลวงพ่อมาก หลวงพ่อจึงพูดออกมาว่ากูตายแน่ วันที่ทำการหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อได้สร้างวัตถุมงคลมาปลุกเสกพร้อมกันโดยสร้างเหรียญรุ่นหนึ่งมา๒แบบ แบบที่๑ คือแบบพุ่มข้าวบิณฑ์ แบบที่๒ แบบใบเสมา และมีแหวนพิรอด ซึ่งพันด้วยผ้าดิบสีขาว,ธง๓ชาย โดยทำพิธีหล่อที่หน้าโรงเรียนวัดลาดชะโด มีหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก มาปลุกเสกรูปหล่อและเหรียญของท่านซึ่งวันนั้นมีประชาชนมากันมากมาย เมื่อทำการปลุกเสกเสร็จได้มีการจำหน่ายเหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ในราคา ๑ บาทและแหวนพิรอดในราคา ๑บาท ส่วนเหรียญรูปใบเสมาหลวงพ่อบอกว่าให้นำใส่ขันลงหินนำมาเก็บไว้ที่กุฏิ ซึ่งได้นำมาจากภายหลังและถือได้ว่าเป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวของหลวงพ่ออิ่ม การหล่อรูปเหมือนได้ทำการหล่อในช่วงกลางเดือนห้า พ.ศ. ๒๔๙๐ และต่อมาหลวงพ่อได้มรณะภาพเดือนเก้า พ.ศ.๒๔๙๐ ซึ่งได้เป็นไปตามที่หลวงพ่อได้บอกลูกศิษย์ไว้ว่าถ้ารูปหล่อเหมือนของตนแล้วตัวเองต้องตาย การฌาปนกิจศพหลวงพ่ออิ่ม มีขึ้นในเดือนห้าของปีต่อมาโดยก่อนที่ฌาปนกิจมีประชาชนที่ให้ความเคารพมาขอจีวรของหลวงพ่ออิ่มไปเป็นจำนวนมากเมื่อฌาปนกิจเสร็จแล้ว กระดูกและเศษเถ่าก็มีประชาชนที่ศรัทธาจำนวนมากมาขอไปจนหมด ต่อมาภายหลังมีบางคนนำกระดูกของหลวงพ่อไปขาย ซึ่งมีราคาสูงมาก ขัดรูปหล่อ ครั้งหนึ่งชาวบ้านได้เห็นว่ารูปหล่อหลวงพ่ออิ่มเก่ามากแล้วชาวบ้านต้องการจะขัดให้ใหม่จึง ได้วางแผนไปให้ช่างขัดแต่ปรากฎว่าหลวงพ่อมาเข้าฝันว่าไม่ต้องนำมารูปหล่อมาขัดเพราะท่านกลัวเจ้บแต่ชาวบ้านก็ไม่เชื่อจึงได้ยกหลวงพ่ออิ่มไปขัดต้องใช้คนยกถึงสิบคนจึงจะสามารถยกรูปหล่อของหลวงพ่ออิ่มขึ้น เมื่อไปถึงโรงขัดปรากฎว่าหลวงพ่ออิ่มได้เข้าฝันคนขัดว่าไม่ให้ขัดรูปหล่อของตนเพราะกลัวเจ็บแต่ช่างไม่เชื่อจึงได้ลงมือขัดปรากฎว่าช่างมีอาการปวดไหล่เมื่อมีอาการขัดส่วนต่างๆ ก็มีอาการปวดตามจุดที่ขัดดังนั้นจึงไม่มีการขัดต่อได้จึงได้ ไปบอกให้ชาวบ้านว่าไม่สามารถขัดรูปหล่อหลวงพ่อต่อได้ให้ชาวบ้านมายกกลับขากลับใช้คนยกเพียงสองคนก็ยกขึ้นได้สบาย ประสบการณ์เหรียญรุ่นแรก เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่ออิ่มจัดสร้างในปี๒๔๙๐ แบ่งเป็น๒พิมพ์ คือ ๑.เหรียญพิมพ์พุ่มข้าวบิณฑ์ ๒.เหรียญพิมพ์เสมาคว่ำ ทั้ง๒พิมพ์สร้างรวมกันประมาณ๑,๐๐๐เหรียญ ปัจจุบันเป็นเหรียญหายากเหรียญหนึ่งของจ.พระนครศรีอยุธยา ประสบการณ์เหรียญก็มากมายพอยกตัวอย่างได้ดังนี้ กรณีตาสนิทกับตาผัน ตาสนิทนั้นท่านมีไข่ทองแดงซึ่งถือว่าเป็นเครื่องรางตามธรรมชาติสร้างมาและมีความคงกระพันสูง ส่วนตาผันนั้นแกนับถือหลวงพ่ออิ่มมากและได้คล้องเหรียญหลวงพ่ออิ่มติดกายไว้ตลอดเวลา วันหนึ่งทั้งสองท่านเกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขั้นนำมีดดาบออกมาฟันกัน ปรากฏว่ามีดดาบนั้นไม่ระคายผิวของทั้ง๒ท่านเลยทีเดียว กรณีตำรวจที่ผักไห่ ในสมัยก่อนในย่านผักไห่ลาดชะโดถือว่าไกลปืนเที่ยง โจรผู้ร้ายชุกชุม วันหนึ่งเกิดกรณีโจรได้บุกมาชิงตัวผู้ต้องหาที่โรงพัก ในช่วงนั้นมีตำรวจเข้าเวรไม่กี่นาย และปรากฎว่ามีตำรวจนายหนึ่งได้ถูกโจรยิงเข้าอย่างจังจนตกจากชั้นบนลงมาข้างล่างแต่ปรากฏว่าตำรวจคนดังกล่าวกลับไม่เป็นอะไรเลย ปัจจุบันหากมีนายตำรวจย้ายไปที่ผักไห่ก็จะถามถึงเหรียญหลวงพ่ออิ่มทุกครั้งไป กรณีเด็กรถที่สัตหีบ ในสมัยก่อนเถ้าแก่ศรีนวล วิเศษสุวรรณซึ่งเป็นคนลาดชะโดแต่ได้ไปทำธุรกิจรถสองแถวโดยสารที่สัตหีบ ท่านจึงได้นำเด็กที่ลาดชะโดไปเป็นเด็กรถ วันหนึ่งเด็กรถของแกเกิดทะเลาะเบาะแว้งกับนักเลงที่นั่นถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน นักเลงถิ่นสู้ไม่ได้จึงชักปืนยิงเด็กรถของเถ้าแก่ศรีนวลอย่างจัง แต่ปรากฏว่ากระสุนนัดดังกล่าวไม่ได้ระคายผิวของเด็กรถแต่อย่างใด เนื่องจากเด็กคนนั้นแขวนหลวงพ่ออิ่มไว้นคอนั่นเอง นอกจากนั้นยังเกิดประสบการณ์มากมายกับเหรียญรุ่นนี้ จนในสมัยก่อนยังมีคนนำเหรียญของท่านไปแขวนไว้ตามหน้าบ้าน,เล้าเป็ดและคอกสัตว์เพื่อป้องกันสัตว์ร้ายและภูติผีต่างๆด้วย ขอบคุณข้อมูลพี่จักรครับ



ชอบมากครับประสบการณ์เพียบ สุดยอดเหนียวแน่นหนึบครับ


สวยๆ ยอดหายากจริงๆ คนผักไห่ นับถือท่านแบบสุดๆ เพราะตบะบารมีท่านจริงๆครับ



ราคา 45,000 บาท พร้อมส่ง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

​

เหรียญหลวงพ่ออิ่ม วัดลาดชะโด รุ่นแรก 2490



สุดยอดเหรียญหาชมยากของอยุธยาครับ


หลวงพ่ออุปัชฌาย์ (อิ่ม ธัมมสาโร) หลวงพ่ออุปัชฌาย์ (อิ่ม ธัมมสาโร) เกิดเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๑๓ บิดาชื่อนายดิษฐ์ มารดาชื่อนางหนู มีพี่น้องร่วมท้อง ๕ คน คือ ๑ นางหรุ่น ๒ นางทิม ๓ พระอุปัชฌาย์อิ่มธัมมสาโร ๔นายหลำ ๕หรุ่ม หลวงพ่ออุปัชฌาย์อิ่ม ในช่วงเป็นเด็กครอบครัวได้ส่งมาเรียนหนังสืที่วัดสะแกและได้บรรพชาเป็นสามเณรตั้งแต่เด็ก ต่อมาได้อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดสะแก อำเภออุทัย จังหวัดอยุธยา โดยหลวงพ่อหร่าย วัดสะแกเป็นอุปัชฌาย์ หลังจากนั้นท่านได้ศึกษาวิชากับหลวงปู่หร่ายซึ่งสมัยนั้นท่านเป็นพระที่มีวิชากล้าแข็งซึ่งแม้แต่หลวงพ่อกลั่นยังได้มาศึกษาวิชากับท่าน หลังจากนั้นท่านได้ไปศึกษาวิชาต่อกับหลวงพ่อกลั่น ต่อมาท่านได้กลับมาอยู่ที่วัดลาดชะโดต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสต่อจากหลวงพ่อทองและเป็นเจ้าอาวาสลำดับที่๑๓แห่งวัดลาดชะโด จากนั้นได้เป็นพระอุปัชฌาย์บวชพระเณรแถวนี้ทั้งหมดตั้งแต่ ลาดชะโด ดอนลาน นาคู ลำตะเคียน ลานช้าง ลาดตาล ในสมัยยุคนี้ถือว่าวัดรุ่งเรืองเป็นอย่างมากบางปีมีพระจำพรรษาถึงร้อยกว่ารูปก็มี ท่านชอบทำยาแผนโบราณแจก เช่น ยาเขียว ยาเหลือง ยาดำ ท่านมีลูกศิษย์ลูกหามากมายถึงกรุงเทพฯ เจ้านายผู้ใหญ่ เช่น หม่อมเจ้าคำรพ ทรงนับถือท่านนักโดยเฉพาะพวกบ้านแป้งบ้านขนมจีน อำเภอเสนานับถือท่านมาก ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ที่เห็นในปัจจุบันก็เกิดในสมัยท่าน นอกจากนั้นยังมีพระเกจิอาจารย์มาขอเรียนวิชากับท่านมากมายเช่น หลวงปู่โต๊ะวัดลาดตาล,หลวงพ่อกร่ายวัดโพธิ์ศรีเป็นต้น หลวงพ่ออิ่มท่านมรณภาพในเดือน๑๐ปีพุทธศักราช ๒๔๙๐ สิริอายุได้๗๗ปี ๕๗ พรรษา หล่อรูปหลวงพ่ออิ่ม ลูกศิษย์ต่างๆให้ความเคารพหลวงพ่ออิ่มมาก จึงต้องการหล่อรูปเหมือนของหลวงพ่ออิ่มไว้เพื่อทำการบูชาต่อไป จึงได้ไปขออนุญาติหลวงพ่ออิ่มเพื่อทำการหล่อรูปเหมือน แต่หลวงพ่อกับบอกว่าถ้าหล่อรูปเหมือนแล้วตนจะต้องตาย จึงบอกไม่ให้หล่อ แต่ลูกศิษย์ด้วยความนับถือต้องการจะหล่อรูปเหมือนให้ได้ จึงไปตามช่างมาปั้นหุ่นแกะรูปของท่านโดยหลวงพ่อก็นั่งเป็นแบบให้ช่างแกะและมีน้ำตาไหลตลอดเมื่อช่างแกะเรียบร้อยแล้วปรากฎว่าเหมือนหลวงพ่อมาก หลวงพ่อจึงพูดออกมาว่ากูตายแน่ วันที่ทำการหล่อรูปเหมือนหลวงพ่อได้สร้างวัตถุมงคลมาปลุกเสกพร้อมกันโดยสร้างเหรียญรุ่นหนึ่งมา๒แบบ แบบที่๑ คือแบบพุ่มข้าวบิณฑ์ แบบที่๒ แบบใบเสมา และมีแหวนพิรอด ซึ่งพันด้วยผ้าดิบสีขาว,ธง๓ชาย โดยทำพิธีหล่อที่หน้าโรงเรียนวัดลาดชะโด มีหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก มาปลุกเสกรูปหล่อและเหรียญของท่านซึ่งวันนั้นมีประชาชนมากันมากมาย เมื่อทำการปลุกเสกเสร็จได้มีการจำหน่ายเหรียญทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ในราคา ๑ บาทและแหวนพิรอดในราคา ๑บาท ส่วนเหรียญรูปใบเสมาหลวงพ่อบอกว่าให้นำใส่ขันลงหินนำมาเก็บไว้ที่กุฏิ ซึ่งได้นำมาจากภายหลังและถือได้ว่าเป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวของหลวงพ่ออิ่ม การหล่อรูปเหมือนได้ทำการหล่อในช่วงกลางเดือนห้า พ.ศ. ๒๔๙๐ และต่อมาหลวงพ่อได้มรณะภาพเดือนเก้า พ.ศ.๒๔๙๐ ซึ่งได้เป็นไปตามที่หลวงพ่อได้บอกลูกศิษย์ไว้ว่าถ้ารูปหล่อเหมือนของตนแล้วตัวเองต้องตาย การฌาปนกิจศพหลวงพ่ออิ่ม มีขึ้นในเดือนห้าของปีต่อมาโดยก่อนที่ฌาปนกิจมีประชาชนที่ให้ความเคารพมาขอจีวรของหลวงพ่ออิ่มไปเป็นจำนวนมากเมื่อฌาปนกิจเสร็จแล้ว กระดูกและเศษเถ่าก็มีประชาชนที่ศรัทธาจำนวนมากมาขอไปจนหมด ต่อมาภายหลังมีบางคนนำกระดูกของหลวงพ่อไปขาย ซึ่งมีราคาสูงมาก ขัดรูปหล่อ ครั้งหนึ่งชาวบ้านได้เห็นว่ารูปหล่อหลวงพ่ออิ่มเก่ามากแล้วชาวบ้านต้องการจะขัดให้ใหม่จึง ได้วางแผนไปให้ช่างขัดแต่ปรากฎว่าหลวงพ่อมาเข้าฝันว่าไม่ต้องนำมารูปหล่อมาขัดเพราะท่านกลัวเจ้บแต่ชาวบ้านก็ไม่เชื่อจึงได้ยกหลวงพ่ออิ่มไปขัดต้องใช้คนยกถึงสิบคนจึงจะสามารถยกรูปหล่อของหลวงพ่ออิ่มขึ้น เมื่อไปถึงโรงขัดปรากฎว่าหลวงพ่ออิ่มได้เข้าฝันคนขัดว่าไม่ให้ขัดรูปหล่อของตนเพราะกลัวเจ็บแต่ช่างไม่เชื่อจึงได้ลงมือขัดปรากฎว่าช่างมีอาการปวดไหล่เมื่อมีอาการขัดส่วนต่างๆ ก็มีอาการปวดตามจุดที่ขัดดังนั้นจึงไม่มีการขัดต่อได้จึงได้ ไปบอกให้ชาวบ้านว่าไม่สามารถขัดรูปหล่อหลวงพ่อต่อได้ให้ชาวบ้านมายกกลับขากลับใช้คนยกเพียงสองคนก็ยกขึ้นได้สบาย ประสบการณ์เหรียญรุ่นแรก เหรียญรุ่นแรกของหลวงพ่ออิ่มจัดสร้างในปี๒๔๙๐ แบ่งเป็น๒พิมพ์ คือ ๑.เหรียญพิมพ์พุ่มข้าวบิณฑ์ ๒.เหรียญพิมพ์เสมาคว่ำ ทั้ง๒พิมพ์สร้างรวมกันประมาณ๑,๐๐๐เหรียญ ปัจจุบันเป็นเหรียญหายากเหรียญหนึ่งของจ.พระนครศรีอยุธยา ประสบการณ์เหรียญก็มากมายพอยกตัวอย่างได้ดังนี้ กรณีตาสนิทกับตาผัน ตาสนิทนั้นท่านมีไข่ทองแดงซึ่งถือว่าเป็นเครื่องรางตามธรรมชาติสร้างมาและมีความคงกระพันสูง ส่วนตาผันนั้นแกนับถือหลวงพ่ออิ่มมากและได้คล้องเหรียญหลวงพ่ออิ่มติดกายไว้ตลอดเวลา วันหนึ่งทั้งสองท่านเกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรงถึงขั้นนำมีดดาบออกมาฟันกัน ปรากฏว่ามีดดาบนั้นไม่ระคายผิวของทั้ง๒ท่านเลยทีเดียว กรณีตำรวจที่ผักไห่ ในสมัยก่อนในย่านผักไห่ลาดชะโดถือว่าไกลปืนเที่ยง โจรผู้ร้ายชุกชุม วันหนึ่งเกิดกรณีโจรได้บุกมาชิงตัวผู้ต้องหาที่โรงพัก ในช่วงนั้นมีตำรวจเข้าเวรไม่กี่นาย และปรากฎว่ามีตำรวจนายหนึ่งได้ถูกโจรยิงเข้าอย่างจังจนตกจากชั้นบนลงมาข้างล่างแต่ปรากฏว่าตำรวจคนดังกล่าวกลับไม่เป็นอะไรเลย ปัจจุบันหากมีนายตำรวจย้ายไปที่ผักไห่ก็จะถามถึงเหรียญหลวงพ่ออิ่มทุกครั้งไป กรณีเด็กรถที่สัตหีบ ในสมัยก่อนเถ้าแก่ศรีนวล วิเศษสุวรรณซึ่งเป็นคนลาดชะโดแต่ได้ไปทำธุรกิจรถสองแถวโดยสารที่สัตหีบ ท่านจึงได้นำเด็กที่ลาดชะโดไปเป็นเด็กรถ วันหนึ่งเด็กรถของแกเกิดทะเลาะเบาะแว้งกับนักเลงที่นั่นถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน นักเลงถิ่นสู้ไม่ได้จึงชักปืนยิงเด็กรถของเถ้าแก่ศรีนวลอย่างจัง แต่ปรากฏว่ากระสุนนัดดังกล่าวไม่ได้ระคายผิวของเด็กรถแต่อย่างใด เนื่องจากเด็กคนนั้นแขวนหลวงพ่ออิ่มไว้นคอนั่นเอง นอกจากนั้นยังเกิดประสบการณ์มากมายกับเหรียญรุ่นนี้ จนในสมัยก่อนยังมีคนนำเหรียญของท่านไปแขวนไว้ตามหน้าบ้าน,เล้าเป็ดและคอกสัตว์เพื่อป้องกันสัตว์ร้ายและภูติผีต่างๆด้วย ขอบคุณข้อมูลพี่จักรครับ



ชอบมากครับประสบการณ์เพียบ สุดยอดเหนียวแน่นหนึบครับ


สวยๆ ยอดหายากจริงๆ คนผักไห่ นับถือท่านแบบสุดๆ เพราะตบะบารมีท่านจริงๆครับ



ราคา 65,000 บาท พร้อมส่ง<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

​

เหรียญหลวงพ่อกรุด ปี 2502




วัดทองบ่อ บางปะอิน หลวงพ่อจง ปลุกเสก

อย่าเพื่องเชื่อใคร ถ้าท่านไม่ได้เจอกับตัวเอง............................................ วัดทองบ่อ เหรียญหลวงพ่อกรุด วัดทองบ่อ รุ่นนี้ถึงจะเป็นเหรียญตาย คือสร้างหลังจากท่านมรณะภาพไปแล้วก็ตาม แต่คนพื้นที่เขานับถือกันมากๆครับ ..เหตุที่ผมชอบเหรียญนี้ก้เนื่องจากศิลปะการแกะแบบพิมพ์ที่สวยงาม มีมิติมากเหรียญหนึ่ง และที่สำคัญที่ผมสนใจเพราะ ท่านเป้นพระเถระชาวมอญ น่าจะเป็นพระคณาจารย์เดียวของอยุธยาที่มีเหรียญ เท่าที่ผมทราบผิดพลาดประการใดขออภัยครับ...ชุมชนนี้อพยบมาจากภาคเหนือของประเทศไทยเมื่อ 2360.. หลวงพ่อท่านก้เป็นหนึ่งในกลุ่มคนยุคต้นๆของชุมชนนี้ ที่สำคัญความขลังของท่านนั้น ทำให้สมเด้จพระวันรัต วัดโสมนัส ทรงนับถือหลวงพ่อกรุดอย่างมาก ...เขียนแล้วจะยาวมากครับ...เอาเป็นว่า รุ่นนี้ ปลุกเสกโดยหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก หลวงพ่อท่านมรณะเมื่อปี 2500 อายุ 79 ปี....ด้วยโรคมะเร็งลำคอ .....ท่านเป็นพระที่ยอมตายแต่ไม่ยอมผิดศีล เหตุที่ท่านยอมตายนั้นคือท่านไม่ยอมฉันยา เพราะในตัวยานั้นมีส่วนผสมของงาช้างครับ เป็นสัตว์ที่ต้องห้ามซึ่งฉันแล้วก่อให้เกิดการอาบัติ ครับ......ประสบการณ์เด่นชัดมากด้าน แคล้วคลาดจากอุบัติเหตุ จนชาวบ้านเสาะหากันมากในหลักพันทีเดียว ยันด้านหลังเหรียยเป็นภาษามอญ อ่านว่า นะ โม พุธ ธา ยะ ยันต์สามเหลี่ยม อักขระล้อมยันต์อ่านว่า มะ อะ อุ....ประสบการณ์เพียบ ถึงไม่ออกแนวมหาอุตม์ และแนวเหนียว แต่ก้ได้รับการยอมรับว่าแคล้วคลาดดีจริงๆ .....หลวงพ่อท่าน ได้เรียนด้านพระปริยัติธรรมจนแตกฉาน เคร่งครัดวัติปฏิบัติมากๆ ก่อนท่านมรณะภาพด้วยโรคมะเร็ง ท่านทรมาณมากครับ ด้วยกรรมเก่า ท่านไม่ยอมรักษา ให้ปล่อยไปตามกรรม แต่ทุกครั้งที่ท่านปวดแผล จะให้พระมานั่งสวดบทพุทธคุณให้ฟังจนท่านหลับไป ทุกครั้ง และท่านก็มรณะ ภาพด้วยการฟังบทพุทะคุณด้วยอาการอันสงบ...เมื่อ ปี 2500 อายุ 79 ....ท่านเป็นพระเถระชาวมอญที่เคร่งครัดมากๆอย่างที่บอกจนชาวบ้านเลื่อมใสอย่างยิ่ง ศีลท่านบริสุทธิ์ ตลอดสังขารท่านมิได้สร้างวัตถุมงคลใดๆ มีแต่ธรรมมะ และคำสั่งสอน .....พระแบบนี้หละครับที่ชาวบ้านรักและเคารพจนกระทั่งปัจจุบันนี้.....ภาพนี้ถ่ายในพรรษาสุดท้ายก่อนท่านมรณะภาพ ถ่ายเมื่อปี 2499 เหรียยนี้ถือว่าสวยมากเหรียยหนึ่งครับ....คนพื้นที่เขาเล่นหา ชาวนาชาวไร่ ชาวบ้าน จะควักเงินพันนี้ไม่ธรรมดา ถ้าไม่ศรัทธา หยิบออกมายากครับ พระดีพื้นที่ แต่ไม่ดังออกนอกพื้นที่แบบนี้ผมชอบ เพราะยังเก็บได้ในราคาไม่แพง แต่แรง ..ประสบการณ์ .....................จะหาสวยแบบนี้เหรียยที่สองน่าจะยากกกก..............






เหรียญสวยมากกะไหล่ทองเต็ม



4,000 บาท พร้อมส่ง

 

ประชาสัมพันธ์



<TABLE style="MARGIN: 10px 0px" class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 425><THEAD><TR><TD style="TEXT-ALIGN: center" class=tcat colSpan=2></TD></TR></THEAD><TBODY><TR><TD class=panelsurround align=middle><EMBED height=350 type=application/x-shockwave-flash width=425 src=http://www.youtube.com/v/Y6Uw-XyOJ1E wmode="transparent" allowfullscreen="true"></EMBED></TD></TR></TBODY></TABLE>




รายการนี้อัดมานานแล้วครับตั้งแต่ปีที่แล้ว ออกอากาศมานานแล้ว แต่ไม่ได้เอามาลง อิอิ อาย........พระที่จะเสนอมีเยอะเลยครับ แต่รายการให้เวลาน้อย ไม่งั้นร่ายยาวสองชั่วโมงก้ไม่จบ(โม้เก่ง)....55




ตามลิ้งนี้ครับ


###### ร้าน ที่ 1........


ร้าน เบ็น วิเศษฯ บ้านนี้มีแต่พระ... บ้านพระ Baanpra.com



#### ร้าน ที่ 2 เวปท่าพระจันทร์ครับ เปิดไหม่ล่าสุด อิอิ เข้ายากมากครับเวปนี้ ตรวจสอบ และต้องให้คนในสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย รับรอง



ตามลิ้งนี้ครับ .................เบ็น วิเศษฯ เวปพระท่าพระจันทร์


ไม่สะดวกโทร Line ถามได้ครับ<!-- google_ad_section_end -->







​

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>

​

ดูรายการคงเหลือ หน้า 70 เป็นต้นมาครับ


..........

 

เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง


ปี 2473 บล็อคหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค เสก (หูขีด)


วงการนิยมมากครับ สวยๆเป็นแสนบาท

ประวัติท่าน ท่านถือเป็นพระเกจิคณาจารยืประจำจังหวัด ภูเก็ตเลยทีเดียวPhuket Thailand, Hotel Reservation, Business Directory, Shopping, Phuket Information



ตามประวัติ เหรียญหลวงพ่อแช่ม พิมพ์สี่เหลี่ยม พ.ศ. 2473 นี้ ผู้สร้างคือ หลวงพ่อปาน ออกที่วัดบางนมโค พระนครศรีอยุธยา โดยตามหนังสืออัตประวัติของหลวงพ่อปาน กล่าวว่า ท่านเป็นพระภิกษุที่ศรัทธาการธุดงวัตร ช่วงหนึ่ง (ประมาณ พ.ศ. 2472) ท่านได้เดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต มาจำวัดที่วัดท่าฉะลอง หรือวัดฉลองในปัจจุบัน มีหลวงพ่อช่วงเป็นเจ้าอาวาส ท่านได้รับรูปเหมือนหลวงพ่อแช่มที่ทางวัดจัดพิมพ์ขึ้น และปลุกเสกกลับไปด้วย และท่านก็ได้จัดสร้างเหรียญหลวงพ่อแช่มพิมพ์นี้ขึ้น จึงพอสรุปได้ว่า เหรียญหลวงพ่อแช่มพิมพ์สี่เหลี่ยมนี้ สร้างโดยหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ในปี พ.ศ. 2473 โดยทำการปลุกเสกที่วัดบางนมโค

เหรียญพิมพ์สี่เหลี่ยมหลวงพ่อแช่ม พ.ศ. 2473 ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นเหรียญหลวงพ่อแช่มแล้ว ผู้สร้างคือหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ก็เป็นพระเกจิชื่อดังของประเทศ
อย่างไรก็ตาม เหรียญพิมพ์สี่เหลี่ยม ยังมีอีกหลายรุ่นแตกต่างกันออกไปเช่น
พิมพ์หลังเล็บจิก ในยุคหลวงพ่อช่วงเป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 2473
พิมพ์หลังยันต์หัวใจ ในยุคหลวงพ่อช่วงเป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 2484
พิมพ์ตัวหนังสือโค้ง ในยุคหลวงพ่อเกลื้อมเป็นเจ้าอาวาส พ.ศ. 2497 (โดยลักษณะเด่นคือ ตัวหนังสือ " พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุณี (แช่ม)" จะมีลักษณะโค้ง)
นอกจากนี้ เหรียญพิมพ์สี่้เหลี่ยมที่สร้างขึ้นในเวลาต่อมา ก็ได้รับความนิยมเช่นกัน เช่น พ.ศ. 2498, 2500, 2512 เป็นต้น รวมทั้งเหรียญหลวงพ่อแช่มพิมพ์สี่เหลี่ยม วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2484 อีกด้วย


บล็อคนี้ถือเป็นบล็อคนิยม และหายากมากๆครับ


รับประกันไม่ผิดบล็อค รับประกันแท้ ครับท่านนนน

 

พระนางพญา กรุโรงทอ

จังหวัดพิษณุโลก

นิยมใช้บูชาแทน พระนางพญา วัดนางพญาที่ราคาหลักล้านครับ

พระสภาพดีดูง่ายสบายตาเป็นที่สุด


รับประกันแท้ตามมาตรฐานสากล

เงินแท้พระต้องแท้ ส่งงานประกวดงานสมาคมงานไหนไม่รับ มารับเงินคืนครับ

ราคา 80,000 บาท อย่านึกว่าพระแท้จะมาให้ท่านเจอได้บ่อยๆนะครับ

 

เหรียญร่นแรก


หลวงพ่อขัน วัดนกกระจาบ



สุดยอดเหรียญหลักแสนของอยุธยาอีกหนึ่งท่าน



สุดยอดประสบการณ์ อีกหนึ่งพระคณาจารที่กรมหลวงชุมพรทรงนับถือ และเสด็จมาสักกับหลวงพ่อ


ประสบการณ์ดี เก๊เฉียบ.......เหรียญนี้ประกันแท้ตลอดชีพครับ

ราคา 35,000 บาท พร้อทส่ง

 

​

ขอโชว์ครับ หายากมากๆครับท่าน


พระครูสัทธานุสารี(เปี้ยน ชิณปุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดโพธาราม(จรเข้สามพัน) เกิดเมื่อปีพ.ศ.2397 เป็นเจ้าคณะแขวงอำเภอจรเข้สามพันรูปแรก(เมื่อก่อนอู่ทองยังไม่ใช่อำเภอ)เหรียญรุ่นแรกสร้างปีพ.ศ.2460 เป็นที่ระลึกสำหรับท่านผู้บริจาคทรัพย์สร้างโรงเรียนธรรมวัดโพธาราม เหรียญรุ่นสองสร้างเปนที่ระลึกได้รับพระครูสัญญาบัตรพระครูสัทธานุสารี พ.ศ.2471 มีสองแบบ แบบเสมาหน้าใหญ่ ทองแดงกะไหล่ทอง และแบบเนื้อเงินเสมาขอบเลื่อย แบบขอบเลื่อยแบ่งเป็นสองบล็อคอีก บล๊อคที่ท่านเห็นเป็นบล็อคนิยม ท แหลมซึ่งสวยๆแบบติดชัดๆแบบนี้ แถมผิวเดิมๆได้ยากเย็นแสนเข็ญครับ หลวงปู่เปี้ยนมรณะภาพเมื่อปี พ.ศ.2477รวมอายุ80ปี ...........เรื่องประสบการณ์คไม่ต้องพููดกันมาก คนท้องที่เอง จะร้องอ๋อ เรื่องเหนียวนั้นเป็นปฐมจริงๆ หลวงพ่อท่านเป็นพระเก่าแกอีกองคืหนึ่งของชาวอู่ทองที่สืบสาน ความนับถือและเล่าลือกันมาถึงความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน จากรึ่นสู่ร่น ปู่เล่าให้ลูกฟัง ลูกเล่าหลานฟัง หลานเล่าให้เหลนฟัง จนสืบต่อความนับถือและฝังอยู่ในดวงใจของชาวอู่ทองมาจนวันนี้ครับ...เหรียญรุ่นนี้ถือเป็นเหรียญที่มีศิลปะสวยงามมากครับ งานแฮนเมดตัดของด้วยมือที่ละเหรียญดูคลาสสิคเป็นอย่างยิ่งงงงง

 

.............................................

 

ถ้ามีแบบนี้เข้ามาแจ้งผมด้วยนะครับ