คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 30 สิงหาคม 2010.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญรุ่นแรกเนื้อทองแดงหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ แช่น้ำมนต์และมีคราบผงติดตามเหรียญ



    (ปิดรายการ)
    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2012
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [FONT=Tahoma,]<table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="5" width="360"><tbody><tr><td align="center" bgcolor="#E0E0E0" valign="top">[​IMG]
    </td></tr></tbody></table>ช่วง นี้กระแสวัตถุมงคลพระเกจิอาจารย์จังหวัดกาญจนบุรีหลายรูปเริ่มกลับมาร้อนแรง ของรูปนี้ก็ไม่ธรรมดา หนึ่งในพระดี-เกจิดังแห่งอ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ที่มีนามว่า "พระครูจันทสโรภาส" หรือ "หลวงพ่อเที่ยง จันทสโร" อดีตเจ้าคณะตำบลม่วงชุม และอดีตเจ้าอาวาสวัดม่วงชุม เจ้าตำรับตะกรุดโทนหนังเสือ อันลือลั่น

    หลวง พ่อเที่ยงท่านเป็นศิษย์ และเป็นหลานหลวงปู่เปลี่ยน (พระวิสุทธิรังษี) วัดใต้ (วัดไชยชุมพลชนะสงคราม) สหธรรมิกที่โด่งดังในยุคท่านคือ หลวงพ่อนารถ วัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง ส่วนที่สนิทชิดเชื้ออย่างมากคือ หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม จ.นครปฐม ว่ากันว่าท่านเรียนวิชาทำตะกรุดหนังเสือมาจากสำนักเดียวกัน สหธรรมิกอีกหลายท่านที่พบปะสนิทสนมกันในงานพุทธาภิเษก อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่, หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก, หลวงปู่เพิ่ม วัด กลางบางแก้ว เป็นต้น

    ท่านเกิดในตระกูล "ท่านกเอี้ยง" ตรงกับวันพฤหัสบดี ปีชวด ที่บ้านม่วงชุม ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เมื่อปีพ.ศ.2431 เป็นบุตรของนายเขียว และนางทองแคล้ว มีพี่น้องรวม 8 คน หญิง 5 คน ชาย 3 คน วัยเด็กมีอุปนิสัยชอบทางด้านชกมวย และรักความยุติธรรม เป็นคนพูดแบบตรงไปตรงมาไม่เกรงกลัวใคร จึงเป็นที่รักของเด็กวัยเดียวกันยกให้เป็นพี่ใหญ่

    เมื่ออายุ 21 ปีบริบูรณ์ ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารรับใช้ชาติอยู่ 2 ปี หลังปลดประจำการได้กลับมาอยู่บ้านประกอบอาชีพทำนา กระทั่งอายุ 24 ปี จึงเข้าอุปสมบท ณ วัดบ้านถ้ำ แล้วอยู่ศึกษาเล่าเรียนกับอุปัชฌาย์ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดม่วงชุม ซึ่งเป็นวัดอยู่ใกล้บ้าน โดยได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสืออย่างจริงจังและเต็มที่ เนื่องจากในวัยเด็กมีโอกาสเล่าเรียนไม่มาก เพราะขาดแคลนครูและห้องเรียน ยิ่งเรียนท่านก็มีความสุขกับการเรียน ทำให้มีความแตกฉานเรื่องหนังสืออย่างมาก

    หลังจากได้ศึกษาธรรมวินัย และพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาจนเชี่ยวชาญ ท่านจึงเริ่มหันมาศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน และวิชาไสยเวทกับหลวงปู่เปลี่ยน วัดใต้ (วัดไชยชุมพลชนะสงคราม) ในฐานะที่หลวงพ่อเที่ยงมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่เปลี่ยน จึงได้รับความเมตตาจากหลวงปู่เปลี่ยนเป็นพิเศษ ในการถ่ายทอดสรรพวิชาด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านพุทธาคมแขนงต่างๆ จนมีความเชี่ยวชาญอย่างมาก

    ถึงกับมีเรื่องเล่ากันว่า เวลาหลวงพ่อเที่ยงได้รับนิมนต์ไปร่วมพุทธาภิเษกในงานพิธีใดก็ตาม ท่านมักจะมีอาการร้อนวิชาเสมอ จะเห็นท่านชอบสัพยอกให้พระเกจิที่ร่วมในพิธีแสดงอิทธิฤทธิ์ด้านคงกระพัน ชาตรี โดยท้าให้เอามีดเฉือนแขนว่าคมมีดจะบาดเข้าเนื้อหนังหรือไม่ แสดงให้เห็นว่าวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกเต็มเปี่ยมไปด้วยพุทธคุณ อย่างที่ชาวบ้านทั่วๆ ไปมักพูดว่าใครแขวนวัตถุมงคลของท่านแมลงวันไม่ได้กินเลือดนั้น หมายความว่าคนๆ นั้นหนังเหนียว แทงไม่เข้า ยิงไม่ออก แม้กระทั่ง หลวงปู่แย้ม เกจิอาจารย์ดังแห่งวัดสามง่าม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ยังกล่าวยกย่องหลวงปู่เที่ยงว่าท่านเก่งมาก โดยท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อเต๋ คงทอง (อาจารย์หลวงพ่อแย้ม) ซึ่งทั้ง 2 ท่านต่างมีชื่อเสียงอย่างมากในการสร้างตะกรุดหนังหน้าผากเสือ
    [/FONT]

    พระครูจันทสโรภาส (หลวงปู่เที่ยง จันทสโร) อดีตเจ้าคณะตำบลม่วงชุม อดีตเจ้าอาวาสวัดม่วงชุม ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี สถานนะเดิม……..นามเดิม นายเที่ยง ท่านกเอี้ยง เกิดวันพฤหัสบดี ปีชวด ที่บ้านม่วงชุม ตำบลม่วงชุม อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๑ โยมบิดาชื่อนายเขียว ท่านกเอี้ยง โยมมารดาชื่อนางทองแคล้ว ท่านกเอี้ยง มีพี่น้องรวม ๘ คน หญิง ๕ คน ชาย ๓ คน มีรายชื่อดังนี้ ๑.หลวงพ่อเที่ยง จันทสโร (มรณภาพแล้ว) ๒.พระสาย ท่านกเอี้ยง (มรณภาพแล้ว) ๓.นางทองดี ท่านกเอี้ยง (ถึงแก่กรรมแล้ว) ๔.นางทองคำ วรรณวงศ์ (ถึงแก่กรรมแล้ว) ๕.นางเปลื้อง ท่านกเอี้ยง (ถึงแก่กรรมแล้ว) ๖.นางปลด ท่านกเอี้ยง (ถึงแก่กรรมแล้ว) ๗.นายตุ้น ท่านกเอี้ยง (ถึงแก่กรรมแล้ว) ๘.นางปุ้น ท่านกเอี้ยง (ยังมีชีวิตอยู่) วัยเด็กหลวงพ่อเที่ยง ใช้ชีวิตแบบเด็กชนบททั่วไป การดำเนินชีวิตอยู่ตามท้องไร่ท้องนา มีอุปนิสัยชอบทางด้านชกมวย และความยุติธรรม เป็นที่รักของเด็กวัยเดียวกันยกให้เป็นพี่ใหญ่ เป็นคนพูดแบบตรงไปตรงมาไม่เกรงกลัวใคร หลวงพ่อเที่ยงได้ช่วย บิดา มารดา ทำนา จนมีอายุ ๒๑ ปีบริบูรณ์ ได้รับหมายเรียกจากทางราชการ ให้เข้ารับการคัดเลือกเพื่อเป็นทหารเกณฑ์ ตามกฎหมาย หลังจากรับราชการทหารครบ ๒ ปี ได้ปลดประจำการออกจากราชการทหาร เมื่อมีอายุ ๒๓ ปี กลับมาอยู่บ้านประกอบอาชีพทำนา อีก ๑ ปี เมื่ออายุ ๒๔ ปี ได้อุปสมบทตามประเพณี ณ.วัดบ้านถ้ำ เมื่ออุปสมบทแล้วอยู่ศึกษาเล่าเรียนกับอุปัชฌาย์ระยะหนึ่ง หลังจากนั้นได้ย้ายมาอยู่จำพรรษาที่วัดม่วงชุม ซึ่งเป็นวัดอยู่ใกล้บ้าน หลวงพ่อเที่ยงตั้งแต่มาอยู่วัดม่วงชุมก็ได้ศึกษาเล่าเรียนหนังสือ อย่างตั้งใจ เนื่องจากในวัยเด็กหลวงพ่อเที่ยงมีโอกาสได้เล่าเรียนไม่มากนักเพราะขาดแคลน ครูและห้องเรียน ยิ่งเรียนหลวงพ่อเที่ยงก็มีความสุขกับการเรียน ทำให้หลวงพ่อเที่ยงมีความแตกฉานเรื่องหนังสืออย่างมาก หลังจากนั้นหลวงพ่อเที่ยงได้ศึกษาธรรมวินัย และพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนาจนเชี่ยวชาญ จึงเริ่มหันมาศึกษาวิปัสสนากรรมฐาน ได้เล่าเรียนวิปัสสนากรรมฐานและวิชาไสยเวชกับหลวงพ่อปู่เปลี่ยนวัดใต้ ในฐานที่หลวงพ่อเที่ยงมีศักดิ์เป็นหลานของหลวงปู่เปลี่ยน จึงได้รับความเมตตาจากหลวงปู่วัดใต้เป็นพิเศษ ในการถ่ายทอดสรรพวิชาด้านต่างๆโดยเฉพาะด้านพุทธาคมและไสยเวชแขนงต่างๆ จนมีความเชี่ยวชาญอย่างมาก ถึงกับมีเรื่องเล่ากันว่าเวลาหลวงปู่เที่ยงได้รับนิมนต์ไปร่วมพุทธาภิเศกใน งานพิธีใดก็ตาม ท่านมักจะมีอาการร้อนวิชาเสมอ มักจะเห็นท่านชอบสัพยอกให้พระเกจิที่ร่วมในพิธีแสดงอิทธิฤทธิ์ด้านคงกระพัน ชาตรี โดยท้าให้เอามีดเชือนแขนว่าคมมีดจะบาดเข้าเนื้อหนังหรือไม่ แสดงให้เห็นว่าวัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกเต็มเปลี่ยมไปด้วยพุทธคุณ อย่างที่ชาวบ้านทั่วๆไปมักพูดว่าใครแขวนวัตถุมงคลของท่านแมลงวันไม่ได้กิน เลือดนั้นหมายความว่าคนๆนั้นหนังเหนียวแทงไม่เข้ายิงไม่ออก นายอารามบอยเคยได้ยินได้ฟังจากจากหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม เล่าให้ฟังบ่อยๆว่าหลวงปู่เที่ยง องค์นี้ท่านเก่งมากและเป็นสหธรรมมิกกับหลวงพ่อเต๋ คงทอง และทั้งหลวงปู่เที่ยงและหลวงพ่อเต๋ ต่างก็มีชื่อเสียงอย่างมากในการสร้างตะกุดหนังหน้าผากเสือ หลวงพ่อเที่ยงท่านเป็นพระของชาวบ้านชนบทโดยแท้ พูดตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ภาษาที่ใช้สื่อสารก็เหมือนหลวงพ่อคูณเป็นภาษาไทยแท้ๆฟังไม่เพราะหู แต่เต็มเปลี่ยมไปด้วยความเมตตา ญาติโยมที่ไปขอความช่วยเหลือจากท่าน ไม่เคยปรากฏว่าจะไม่ได้รับความเมตตาจากท่าน ทุกคนได้ความเมตตาช่วยเหลือในทุกๆเรื่องด้วยดี จากการบอกเล่าของชาวบ้านเล่าว่าท่านชอบกีฬาชกมวยอย่างมาก การเล่นนิยมลิเกและหนังตะลุง ท่านเป็นพระโบราณลูกทุ่งชนบทชอบฉันหมากไม่เคยขาดปากเลย นี่จึงเป็นที่มาของการสร้างพระเครื่องเนื้อชานหมากที่โด่งดังมาก หลวงพ่อเที่ยงเริ่มลงมือสร้างอุโบสถ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๔ ท่านค่อยๆสร้างโดยไม่มีการเรี่ยไร ท่านไม่ต้องการเป็นภาระของชาวบ้านเพราะช่วงเวลานั้นประเทศไทยยังตกอยู่ใน ระหว่างปลายสงครามโลก ครั้งที่ ๒ เมืองกาญจนบุรีได้รับผลกระทบจากภัยสงครามอย่างมากเพราะทหารญี่ปุ่นมาตั้งฐาน ทัพหลายแห่ง ทำให้ทหารพันธมิตรนำเครื่องบินมาทิ้งระเบิดเพื่อทำลายฐานทัพของญี่ปุ่น เป็นเหตุให้สภาพเศรษฐกิจของชาวบ้านตกต่ำอย่างมาก ตกอยู่ในภาวะข้าวยากหมากแพง แต่ชาวบ้านก็ช่วยบริจาคทุนทรัพย์สร้างอุโบสถจนสำเร็จได้ในที่สุด ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๙๔ สมณศักดิ์ที่ได้รับ ๑.ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูจันทสโรภาส เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๕ ลูกศิษย์ที่เคารพศรัทธาหลวงพ่อเที่ยงได้จัดงานเฉลิมฉลองและเพื่อแสดงมุทิตา จิตร และได้ขออนุญาตหลวงพ่อสร้างเหรียญเป็นที่ระลึกและเพื่อมอบให้ชาวบ้านที่มา ร่วมงาน จึงเป็นการสร้างเหรียญรูปท่านเป็นครั้งแรก ๒.ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูจันทสโรภาส ครูเจ้าคณะตำบลชั้นโท เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๐ ๓.ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูจันทสโรภาส ครูเจ้าคณะตำบลชั้นเอกเมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๒o หลวงพ่อเที่ยง จันทสโร มรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อวันที่ ๒๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๒๓ เวลา ๙.๐๐ นาฬิกาเศษ ณ วัดม่วงชุม ท่ามกลางความเศร้าอาลัยของศิษย์ยานุศิษย์ และชาวม่วงชุม ชาวม่วงชุมได้เก็บสรีระของหลวงพ่อไว้ถึง ๑๐ ปี ปรากฏว่าร่างของหลวงพ่อไม่เน่าไม่เปื่อย ชาวม่วงชุมจึงพร้อมใจกันสร้างมณฑป พร้อมทั้งโลงแก้วบรรจุร่างที่เป็นอมตะไว้ ณ.มณฑป เมื่อวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๔ จากวันที่หลวงพ่อเที่ยงจากไปถึงปัจจุบันเป็นเวลาถึง ๓๐ ปี ร่างหลวงพ่อเที่ยงก็ยังคงสภาพไม่เน่าเปื่อยเหมือนท่านยังอยู่เป็นที่พึ่งของ ชาวม่วงชุมตลอดไป ด้วยคุณงามความดีและเมตตาบารมีของท่านยังคงอยู่ในดวงใจของชาวม่วงชุม ชาวม่วงชุมและลูกศิษย์ที่เคารพนับถือท่านมาขอความเมตตาจากรูปหล่อเหมือนจริง หน้าสรีระของท่านในโลงแก้ว จะประสบผลสำเร็จตามใจปรารถนาทุกประการ นายอารามบอยทราบจากเจ้าอาวาสว่าเมื่อผู้มาขอพรจากท่านแล้วประสบผลจะนำหมาก พลู ขนมจีนน้ำพริก และแกงเทโพหมู มาแก้บน บางท่านก็จะนำหนังตะลุง มวย ยี่เก มาแสดงแก้บนด้วย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลอย่างสูงและที่มาจากเวป

    เหรียญหลวงพ่อเที่ยง๒๕๐๙สภาพสวยเดิมๆ ไม่ผ่านการบูชา สุดยอดประสบการณ์

    หายากครับ

    (ปิดรายการ)

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2012
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    (ปิดรายการ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มกราคม 2013
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    วันนี้จัดส่ง

    EI764970687TH โพธาราม ..........

    ขอบคุณครับ
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญหลวงพ่อแม้น วัดพิชิต คลอง 13 รุ่นแรกพิมพ์หน้าแก่ สภาพผ่านการบูชา

    ให้บูชา 1000 บาทค่จัดส่งEMS 50บาทครับ

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียยหลวงพ่ออู่ทอง วัดสว่างภพ ปี2516 หลวงปู่แสวงวัดสว่างภพอธิฐานจิตพร้อมเหรียญรุ่น

    แรกของท่านครับ

    ให้บูชา 600 บาทค่าจัดส่งEMS 50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    ชุดพระอาจารย์นก วัดเขาบังเหย ชัยภูมิ

    เหรียญหด รุ่นประสบการณ์

    พระสมเด็จสิริมหากาฬเนื้อตะกั่ว

    รูปถ่าย 2 ใบ

    เหรียญกฐิน
    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2012
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เบอร์บัญชีธ.กรุงไทย KTB125-0-08923-9 supachai thu
    โอนเงินแล้วช่วยแจ้งวันเวลาที่โอนในกระทู้เพื่อง่ายในการตรวจสอบหรือทางPMแล้วจะรีบดำเนินการจัดส่งEMSไปให้โดยด่วนนะครับ..หลายรายการก็ค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ __________________

    เบอร์ติดต่อ 081-70-4-72-64 ____________สนใจรายการไหนที่เคยลงไว้ต้อง

    การสอบถามหรือต้องการบูชา แจ้งสอบถามมาได้ครับ
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]


    เหรียญหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี

    ให้บูชา 300 บาทครับค่าจัดส่งEMS
    50
    บาทครับ


    [​IMG] [​IMG]
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]


    หลวงปู่คำดี ปภาโส เป็นพระเถระผู้ใหญ่รูปหนึ่ง ที่ชาวจังหวัดเลย รวมทั้งชาวภาคอีสาน ภาคเหนือ และภาคกลางให้ความเคารพนับถือมาก

    ด้วยความเป็นพระนักปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่มั่น ภูริทตโต อีกด้วย

    อัตโนประวัติหลวงปู่คำดี เกิดในสกุล นิลเขียว เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2445 ที่บ้านหนองคู ต.หว้า อ.เมือง จ.ขอนแก่น โยมบิดา-มารดาชื่อ นายพร และนางหมอก นิลเขียว

    ในช่วงวัยเยาว์ ด.ช.คำดีไม่ได้เรียนหนังสือ เนื่องจากในพื้นที่ไม่มีโรงเรียน จนเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ อายุครบ 22 ปี จึงได้ขอบุพการีออกบวช

    ตอนแรก ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในสายมหานิกาย ที่วัดหนองแหวง เมืองเก่า ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีพระครูเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์โพธิ์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์ ชสนุหลิด เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ต่อมา เจ้าอาวาสวัดหนองแวงได้ลาสิกขาบท หลวงปู่คำดีจึงได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดแทน
    <table style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" align="right" border="1" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"><tbody><tr bgcolor="#ffe9ff"><td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>

    ในระหว่างที่ออกบวชนั้น ท่านพิจารณาเห็นว่า การบวชตามประเพณีคงไม่ใช่แนวทางพ้นทุกข์ จึงมีดำริออกไปธุดงควัตร ฝึกฝนวิปัสสนากัมมัฏฐานให้รู้แจ้งเห็นจริง

    หลังจากออกธุดงค์แล้วหลวงปู่ดำดี ปภาโส ได้แปรญัตติจากมหานิกายมาเป็นพระภิกษุฝ่ายธรรมยุต ในปีพ.ศ.2471 และย้ายไปจำพรรษาที่วัดโคกศรี บ้านยาง อ.เมือง จ.ขอนแก่น

    หลวงปู่คำดีได้มีโอกาสพบกับ 2 พระอาจารย์ ที่ธุดงค์ผ่านมาที่วัด เป็นพระวิปัสสนากัมมัฏฐานคือ พระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม และพระอาจารย์มหาปิ่น ปัญญาพโล

    ในช่วงนั้นมีพระอาจารย์มาอยู่จำพรรษาด้วยหลายรูป อาทิ พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ, พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร, พระอาจารย์จันทร์ เขมปัตตโต ทำให้หลวงปู่คำดีได้รับการอบรมในเรื่องวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นอย่างดี

    จากนั้น หลวงปู่คำดีได้ออกท่องธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระอาจารย์ และในช่วงที่หลวงปู่ออกธุดงค์ได้พบกับเรื่องต่างๆ มากมาย ในขณะที่ปฏิบัติธรรมอยู่ตามป่าเขามาโดยตลอด ก่อนที่ท่านจะมาอยู่ที่วัดถ้ำผาปู่ประมาณปีพ.ศ.2497

    ตอนนั้น หลวงปู่จำพรรษาอยู่ที่วัดคีรีวันคำหวายยาง ต.บ้านกง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น มีพระอดิสัยคุณาทาน หรือหลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ หรือพระธรรมวราลังการ เจ้าอาวาสวัดเลยหลง จ.เลย เดินทางไปตรวจปัญหาธรรมที่จังหวัดนครราชสีมาและมาแวะพักกับหลวงปู่คำดี

    หลวงปู่คำดีถามว่า สถานที่วิเวกที่จังหวัดเลยมีที่ไหนบ้าง พอจะเป็นที่วิเวกประกอบความเพียรได้สะดวกบ้าง หลวงปู่ศรีจันทร์ฯ บอกว่ามีหลายแห่ง เป็นถ้ำที่สำคัญทั้งนั้น ตอนนั้นไม่ค่อยมีพระอยู่ ไปๆ มาๆ เนื่องจากอยู่ในที่กันดาร น้ำอาหารการกินลำบากมาก มีถ้ำมโหฬาร อ.วังสะพุง ปัจจุบันอยู่ในกิ่ง อ.หนองหิน ถ้ำผาบิ้ง อ.วังสะพุง, ถ้ำผาปู่ ต.นาอ้อ อ.เมืองเลย

    ต่อมา หลวงปู่คำดี ปภาโส ได้พาลูกศิษย์เดินทางมาจังหวัดเลยเพื่อเสาะแสวงหาความวิเวก และแวะตามถ้ำต่างๆ แต่ไม่ถูกใจ จนมาถึงวัดเลยหลง หลวงปู่ศรีจันทร์จึงให้ไปจำพรรษาที่วัดถ้ำผาปู่ ซึ่งขณะนั้นยังเป็นสำนักสงฆ์อยู่ มีพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำ ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้สร้าง

    และหลวงปู่คำดีพอใจมาก เพราะเป็นสถานที่สงบ เหมาะสำหรับการบำเพ็ญเพียรภาวนา ท่านจึงจำพรรษาอยู่ที่วัดถ้ำผาปู่มาโดยตลอด และพัฒนาวัดจนเจริญในทุกวันนี้

    ปัจจุบัน หลวงปู่คำดีได้มรณภาพ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2527 สิริรวมอายุ 83 ปี

    แม้หลวงปู่คำดีมรณภาพไปนานแล้ว แต่บรรดาลูกศิษย์ลูกหาต่างพากันไปกราบไว้บูชาที่พิพิธภัณฑ์ของหลวงปู่ ซึ่งมีการรวมรวมเรื่องราวความเป็นมา ประวัติและคำสั่งสอนของหลวงปู่คำดี ในหนังสือเอาไว้เป็นจำนวนมาก


    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่คำดี ปภาโส ศิษย์กรรมฐานสายหลวงปู่มั่น

    เหรียญสภาพผ่านการบูชา วััตถุมงคลพระอรหันต์อธิฐานจิตไม่ต้องบรรยาย

    ให้บูชาองค์ละ 1300 บาทค่าจัด
    ส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2012
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญรุ่นแรกเนื้อทองแดงหลวงพ่อสงวน วัดไผ่พันมือ แช่น้ำมนต์และมีคราบผงติดตามเหรียญ



    (ปิดรายการ)
    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 กรกฎาคม 2012
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]



    หลวง ปู่ทา จารุธัมโม" เกิดในสกุล "อารีวงค์ "เกิดวันที่ 1 เมษายน2452 ขึ้น 11 ค่ำเดือน4ปีระกา ตำบลคูเมือง อ.วารินชำราบ อุบลราชธานีอายุ 15 ปี ท่านบวชเป็นสามเณรครบอายุ
    20 ปี จึงญัตติจากสามเณรเป็นพระฝ่ายมหานิกายที่วัดใหญ่ชีทวน อุบลราชธานีและจำพรรษาที่นั้น 5พรรษาแต่ไม่สามารถดืมด่ำในรสพระธรรมดั่งตั้งใจจึงลาสิขาบท วัยหนุ่ม
    ท่านเคยล้มป่วยปางตาย น้าชาย-หญิงของท่านสวดอ้อนวอนพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอให้ท่านหายป่วยและสัญญาว่าถ้าหายป่วยจะให้ท่านบวช จากนั้นก็ให้ท่านภาวนา
    พุทโธ จนหายเป็นปกติ ทำให้ท่านเชื่อมั่นในพุทธศาสนา ต่อมาหลวงปู่เสาร์ กนฺตส๊โล และหลวงปู่มี ญาณมุนีพร้อมคณะเดินทางธุดงค์กรรมฐานมาที่บ้านชีทวน หลวงปู่ทาฟัง
    ธรรมะจากหลวงปู่เสาร์และหลวงปู่มี จึงตั้งจิตขอบวชไม่สึก จากนั้นเดินทางไปขอบวชกับหลวงปู่มี ญาณมุนี ที่เสนาสนะบ้านสูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ฉายา "จารุ
    ธัมโม"แปลว่า "ผู้มีธรรมอันงามพร้อม" ปี2500 หลวงปู่สีลา อิสฺสโร ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เดินธุดงค์กรรมฐานมาพบเขาและถ้ำมืดเหมาะสำหรับภาวนา จึงมาเรียนหลวงปู่มี
    ให้ทราบ หลวงปู่มีจึงนำศิษย์เดินทางมาธุดงค์ที่"ถ้ำมืด" หรือถ้ำซับมืด บ้านซับม่วง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แต่เกิดไข้มาเลเรียจนหลวงปู่มีป่วยหนักจึงถอนธุดงค์กลับ ต่อมา
    ปี2506หลวงปู่มีและหลวงปู่ทาจึงเดินทางมาธุดงค์ที่ถ้ำซับมืดอีกครั้ง ปี2512หลวงปู่ทาเดินทางมาจำพรรษาที่ถ้ำซับมืด อย่างเรียบง่าย ถือสันโดษ สมถะ เปี่ยมล้นด้วยเมตตา
    "หลวงปู่ทา จารุธัมโม" ได้ละสังขาร วันที่ 30พฤษภาคม 2550 รวมสิริอายุ 98ปี 65พรรษา ธรรมะหลวงปู่ทา จารุธัมโม
    <dl class="tattl attm"><dt>
    </dt><dd>

    ขอขอบคุณที่มาและข้อมูลอย่างสูงครับ
    </dd></dl> พระผงรูปเหมือนรุ่น๑หลวงปู่ทา สร้า้งน้อยหาไม่ยาก แต่ไม่่ค่อยเจอ

    (ปิดรายการ)
    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2012
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]

    ประวัติ หลวงพ่ออบ อินทวิริโย เป็นชาวบ้านหนองช้างปลัก ตำบลหัวสะพาน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี เกิดปีระกา ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๑๑ พุทธศักราช ๒๔๕๒ นามบิดา ผึ่ง กลีบจงกล นามมารดา เพี้ยน กลีบจงกล มีพี่น้องร่วมกัน ๖ คน หลวงพ่ออบเป็นคนหัวปี หลวงพ่ออบอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ อุโบสถวัดถ้ำแก้ว มีพระอุปฌายย์ คือหลวงพ่อทิม วัดโคก หลวงพ่อเช้า วัดเวียงคอย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่ออยู่ วัดถ้ำแก้วเป็นพระนุสาวนาจารย์ เมื่ออุปสมบทแล้ว หลวงพ่ออบก็จำพรรษาอยู่วัดถ้ำแก้ว ศึกษาวิปัสสนาธุระ และพุทธคมกับหลวงพ่ออยู่ ด้วยความพากเพียรเป็นเวลาถึง ๕ พรรษา จากนั้นจึงเดินออกธุดงค์อยู่ทุกปี ร่ำเรียนวิชากับพระอาจารย์ต่าง ๆ คือ อาจารย์วัดลาดบัวขาว จังหวัดปราจีนบุรี หลวงปู่นาค วัดหัวหิน อาจารย์อยู่ อาจารย์หยอย เจ้าอาวาสวัดถ้ำแก้ว และปู่แสง(โยมพระอาจารย์หยอดญ)ซึ่งเป็นฆราวาสถือศีบกินเพล ซึ่งเรืองวิทยาคมและมีชื่อเสียงดังมากในจังหวีดเพชรบุรีสมัยนั้น วัตถุมงคลที่ท่านทำนั้น มี ตระกรุด ผ้ายันต์ เหรียญมี ๓ รุ่น
    หลวงพ่ออบ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์เมืองเพชรบุรีที่มีวิทยาคมเก่งกล้าด้านคงกระพันชาตรี จากประวัติคำบอกเล่ามีว่า...ครั้งหนึ่งมีคนบ้าถือมีดพร้าเข้ามาฟันท่านในวัด เสียงดัง บึกๆ แต่ไม่ระคายผิวท่านเลยแม้แต่น้อย ซึ่งสอดคล้องกับที่หลวงพ่อแดงเคยบอกผู้ที่ไปกราบท่านว่า"ถ้าจะเอาเหนียว ต้องไปหาท่านอบ วัดถ้ำแก้ว"หลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว พระเถระที่ประพฤติปฏิบัติ ดี ตามพระธรรมวินัย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากการมรณภาพของท่าน ที่มี ผู้รู้มั่งไม่รู้มั่งนำไปพูดจาไม่ดี ทำให้หลวงพ่ออบ ท่านเงียบหายไปกับสายลม นั่นคือท่านมรณภาพด้วยการที่ซุงบนรถบรรทุก หล่นลงมาทับร่างของท่านจนถึงแก่มรณะภาพ ทั้งนี้เนื่องมาจากโซ่ที่ใช้รัดซุงดังกล่าวขาด แต่ที่น่าแปลกคือ ก่อนเกิดเหตุนั้น ท่านได้บอกกับคนอื่นที่ต้องไปช่วยงานท่านในการตีตราซุงเหล่านั้นให้หลบออกไป จากบริเวณดังกล่าวให้หมด รวมทั้งภายหลังที่เกิดเหตุแล้ว เมื่อไปพบร่างท่าน ปรากฏว่า ร่างกายท่านแทบไม่มีเลือดออกเลย มีเพียงเลือดเล็กน้อย ที่บริเวณปากท่านเท่านั้น นี่เองที่ทำให้พวกปากไม่ดีนำไปพูดว่า ขนาดท่านยังมรณภาพแบบนี้เลย แล้วพระท่านจะดีได้อย่างไร รวมทั้งผู้ที่ใช้ก็อาจจะตายไม่ดีเช่นนี้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นคำพูดที่ผิดอย่างมาก รวมทั้งเป็นคำพูดของคนที่เต็มไปอวิชชาแท้ๆอย่าลืมว่า ในอดีตยุคพุทธกาลนั้น พระสาวกที่ทรงด้วยอิทธิฤทธิ์ เช่น พระโมคคัลานะ ก็มรณภาพด้วยการถูกตีจากกลุ่มโจร ก่อนที่ท่านจะเข้าสู่นิพพาน และจากกรณีที่เครื่องบินตก แล้วมีพระเถราจารย์ มรณภาพ อาทิเช่น พระอาจารย์วัน ,พระอาจารย์จวน เป็นต้นนั้น เวลาก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่า ท่านเป็นผู้บรรลุธรรมชั้นสูงทั้งนั้น นั่นคือ อัฐิของท่านเหล่านี้ ได้แปรสภาพเป็นพระธาตุไปจนหมด ดังนั้น จึงไม่อยากให้มองข้ามของดีๆไปหลวงพ่อ แดง วัดเขาบันไดอิฐ พระเกจิอาจารย์ผู้ลือนามแห่ง จ.เพชรบุรี ท่านได้กล่าวไว้ว่า "หากฉันตายให้ไปหาหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว เขาสามารถแทนฉันได้ " นี่เป็นคำกล่าวยืนยันจากหลวงพ่อแดงท่านได้กล่าวไว้ปัจจุบันเหรียญของท่านหา ค่อนข้างยากแล้วมีประสบการณ์ดี

    ขอขอบคุณที่มาและข้อมูลอย่างสูงครับ

    พระผงรูปเหมือนหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้วองค์นี้เกษาเห็นชัดเจนครับ

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ(ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2012
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ

    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  15. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    ของจองรายการนี้ครับ.......................
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]


    ชีวประวัติ
    พระครูธรรมจักรชโยดม มีนามเดิมว่า ผล เกิดในตระกูล โต๊ะสัมฤทธิ์ เป็นบุตรชายคนโตของ คุณพ่อเชื่อม-คุณแม่นาค โต๊ะสัมฤทธิ์ ท่านเกิดวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2457 ตรงกับวันพุธ แรม 11 ค่ำ เดือน 11 ปีขาล ที่หมู่บ้านดักคะนน ต.ธรรมมมูล อ.เมือง จ.ชัยนาท มีพี่น้องร่วมสายเลือดดังนี้คือ
    1.พระครูธรรมจักรชโยดม (ล.พ.ผล ฐานทัตโต)
    2.นางผิ่ว พูนทอง
    3.นายผ่อง โต๊ะสัมฤทธิ์
    4.นางผุด บุญเพ็ง
    5.นางทับทิม แซ่เตีย
    6.นางน้อย แซ่เฮง
    7.นายทองสุข โต๊ะสัมฤทธิ์ (แพทย์แผนโบราณ) <table style="table-layout: fixed;" border="0" width="100%"> <tbody><tr> <td colspan="2" class="smalltext" width="100%">
    </td> </tr><tr> </tr><tr> <td height="100%" valign="top" width="85%">เมื่อหลวงพ่อผลอายุได้ประมาณ 10 ขวบ โยมพ่อได้พาท่านไปถวายเป็นบุตรบุญธรรมต่อหลวงพ่ออยู่ วัดดักคะนน หลวงพ่ออยู่เห็นหน่วยก้านเข้าลักษณะคนดีมีปัญญา จึงรับตัวท่านไว้เป็นบุตรบุญธรรม ได้สอนให้อ่านหนังสือไทยจนเจนจบ พออายุครบ 20 ปี หลวงพ่ออยู่ก็เป็นเจ้าภาพอุปสมบทให้หลวงพ่อผลอีก
    หลวงพ่ออยู่นั้นตามประวัติกล่าวว่าท่านเป็นพระเก่งเรื่องเวทย์วิทยาคมท่าน หนึ่งทีเดียว เป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า และหลวงพ่อคง วัดบางกะพี้ หลวงพ่ออยู่ท่านเคยร่ำเรียนบาลีที่วัดสระเกศ กทม. ถึง 8 ปี มีความรอบรู้เชี่ยวชาญด้านภาษาบาลีเป็นอย่างยิ่ง และยังแตกฉานในพระไตรปิฎก รอบรู้ในไตรสิกขาต่างๆ

    อุปสมบท
    หลวงพ่อผล เมื่อมีอายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ ในราวปี พ.ศ.2477 หลวงพ่ออยู่ ผู้เป็นอาจารย์ก็จัดการเป็นเจ้าภาพอุปสมบทให้ โดยมี พระครูธรรมจักรชโยดม (พูน ปภัทสโล) วัดธรรมามูล เป็นพระอุปัชฌาย์, พระปลัดนวม วัดขวาง เป็นพระกรรมวาจาจารย์, พระสมุห์ปลั่ง วัดดักคะนน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า "ฐานทัตโต"
    เมื่ออุปสมบทแล้วก็ตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยตลอดจนวิชาอาคม, การลบผงอิทธิเจ ตลอดจนผงนะต่างๆ ตามสูตรของหลวงพ่ออยู่ ซึ่งเป็นทั้งอาจารย์และบิดาบุญธรรมจนมีความเชี่ยวชาญ และเป็นที่รักเมตตาของหลวงพ่ออยู่

    การศึกษา
    พ.ศ.2477 สอบได้นักธรรมตรี
    พ.ศ.2478 สอบได้นักธรรมโท
    พ.ศ.2484 สอบได้นักธรรมเอก

    งานด้านสาธารณูปโภค
    พ.ศ.2488 - 2489 สร้างกุฏิสงฆ์ กว้าง 8 เมตร ยาว 16 เมตร
    พ.ศ.2507 สร้างศาลาการเปรียญ 1 หลัง กว้าง 22.50 เมตร ยาว 30 เมตร และหอสวดมนต์ กว้าง 9.50 เมตร 18 เมตร
    พ.ศ.2511 สร้างพระอุโบสถ และศาลาพิพิธภัณฑ์ เสร็จภายในปีเดียวกัน

    หน้าที่ทางสงฆ์
    พ.ศ.2484 ได้รับแต่งตั้งเป็น พระปลัด ฐานะของพระปลัดทองเลื่อน วัดศรีวิชัย
    พ.ศ.2498 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลธรรมามูล
    พ.ศ.2505 ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์ และได้รับการแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูธรรมจักรชโยดม
    พ.ศ.2506 ได้รับแต่งตั้งจากคณะสงฆ์ของจังหวัดชัยนาทให้เป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมามูล วรวิหาร ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี และได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นเป็นชั้นโท ในพระราชทินนามเดิม เป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมามูลจนถึงปี พ.ศ.2528 รวมระยะเวลา 22 ปี
    พ.ศ.2528 กลับมาเป็นเจ้าอาวาสวัดดักคะนน จวบจนมรณะภาพในปี พ.ศ.2538


    หลวง พ่อผล นอกจากท่านจะเป็นพระเกจิฯ ที่ขมังเวทย์องค์หนึ่งของชัยนาทแล้ว ท่านยังเป็นแพทย์แผนโบราณที่เลื่องชื่อในการรักษาผู้ป่วยโรคเรื้อน (ถึงขั้นนอนใบตองก็ยังหายได้) และยารักษาอัมพาต ที่ช่วยคนหายทุกข์เวทนามามากต่อมากทีเดียว

    วัตถุมงคล
    พ.ศ.2522 สร้างพระสมเด็จรุ่นแรก ล้อพิมพ์สมเด็จวัดระฆัง ทรงเจดีย์
    พ.ศ.2529 สร้างเหรียญขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นที่ระลึกอายุครบ 6 รอบ ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่หูในตัว หลวงพ่อผลครึ่งองค์ใบหน้าตะแคงไปทางขวามือ หลังเหรียญเป็นรูปพระสังกัจจายณ์ (จำลองมาจากองค์พระสังกัจจายณ์เชียงแสนทองคำแท้ที่ท่านขุดได้ตามนิมิตร)
    พ.ศ.2530 สร้างพระสมเด็จสัมฤทธิผล หลังรูปเหมือนหลวงพ่อผล มีชนิดฝังตะกรุด 3 กษัตริย์, ตะกรุดเงิน, ตะกรุดทองแดง
    พ.ศ.2530 สร้างเหรียญเป็นรุ่นที่ 2 เรียกว่ารุ่น ช่องบกผู้ชนะ เพื่อแจกแก่ทหารที่ไปรบที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี จำนวนสร้าง 12,000 เหรียญ ลักษณะเหรียญเป็นรูปไข่หูในตัวหลวงพ่อนั่งสมาธิเต็มองค์ มีหนังสือโค้งตามเหรียญว่า หลวงพ่อผล วัดดักคะนน อ.เมือง จ.ชัยนาท 15 มิ.ย.2530 ใต้อาสนะที่หลวงพ่อนั่งเขียนว่า ช่องบกผู้ชนะ ดำเนินการสร้างโดย ร.อ.พูนศักดิ์ พสุนนท์ (ร้อยเอกคือยศในขณะนั้น)
    พ.ศ.2531 สร้างสมเด็จพุทธกวักไตรมาส ซึ่งปลุกเสกในไตรมาสของปี 2531 ตลอดพรรษา
    พ.ศ.2531 สร้างเหรียญขึ้นเป็นรุ่น 3 เพื่อแจกในวาระที่หลวงพ่อมีอายุครบ 73 ปี ลักษณะเป็นเหรียญรูปไข่หูในตัว หลวงพ่อผลครึ่งองค์ใบหน้าตรง ห่มจีวรลดไหล่เห็นริ้วจีวร 5 เส้น พาดสังฆาฏิมีหนังสือโค้งตามขอบเหรียญ ขอบบนว่า วัดดักคะนน อ.เมือง จ.ชัยนาท ส่วนขอบล่างมีอักษรไทยว่า พระครูธรรมจักรชโยดม (ผล) ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ มะอะอุ (ยันต์ครูที่หลวงพ่ออยู่ใช้ลงหลังเหรียญรุ่นแรกของท่าน)
    พ.ศ.2532 สร้างเหรียญรุ่น 4 โดยการนำบล๊อกเหรียญรุ่นแรกด้านหน้ามาใช้ปั๊มใหม่ และแกะบล๊อกด้านหลังเหรียญใหม่ให้เป็นรูปท้าวเวสสุวรรณ เพราะสร้างในครั้งที่ทางวัดดักคะนน ทำพิธีสวดภาณยักษ์ รุ่นนี้บูชาติดตัวเพื่อกันคุณผี-คุณไสย และป้องกันภูตผีปีศาจดีมาก
    <table style="table-layout: fixed;" border="0" width="100%"> <tbody><tr> <td colspan="2" class="smalltext" width="100%">
    </td> </tr><tr> </tr></tbody> </table>

    </td></tr> </tbody> </table> ขอขอบคุณที่มาและข้อมูลอย่างสูงครับ

    พระสมเด็จพุทธกวักหลวงพ่อผล เลี่ยมพร้อมบูชา


    ปิดรายการ
    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2013
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    เหรียญที่ระลึกเททองหล่อพระประทาน วัดโคกเมรุ

    พิธีใหญ่สายใต้ หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล พระอาจารย์นำ ดอนศาลา พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง

    และสายเขาอ้อ พิธีดี วาระมงคล

    ให้บูชา 500 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    (ปิดรายการ)

    [​IMG] [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2012
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,466
    ค่าพลัง:
    +21,326
    [​IMG]

    หลวงพ่อพาน วัดเฉลิมราษฎร์โปร่งกระสัง

    สำหรับท่านที่ชอบสายที่เขาว่าเหนียวๆ คงกระพัน

    เหรียญหลวงพ่อพาน วัดเฉลิมราษฎร์โปร่งกระสังปี2538 จ.ประจวบคีรีขันธ์


    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งEMS50บาทครับ

    [​IMG] [​IMG]
     
  20. charoen.b

    charoen.b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    5,726
    ค่าพลัง:
    +15,488
    พระผงรูปเหมือนหลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว

    แจ้งโอนครับ 29/07/2555 เวลา 12.09 น.ยอด 450.03 บาท
     

แชร์หน้านี้

Loading...