ใครเสีย ใครได้ จากกระแสภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย วิมลสิริ, 14 มิถุนายน 2012.

  1. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    ครับ ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา เตือนๆกันบ้าง
    แต่บางทีอยากบอกอยากเตือน อยากชี้ประเด็นบางอย่างก็ทำไม่ได้ คงต้องปล่อยไป อย่างโบราณว่า น้ำเชี่ยวอย่าเอาเรือไปขวาง คนกำลังฝันดีอย่าไปปลุก อะไรประมาณนั้น

    ที่จขกท.บอกอยากให้กระทู้นี้เป็นเวทีกลางในการแลกเปลี่ยนจะได้ไม่รบกวนกระทู้อื่น ผมก็ไม่รู้จะทำได้มากน้อยแค่ไหน เพราะก็ไม่เข้าใจเรื่องเกณฑ์การพิจารณาของ mod สักเท่าไหร่ (เคยตั้งกระทู้วิเคราะห์ขึ้นมา นั่งพิมพ์ทั้งคืนอดหลับอดนอนกลับอยู่ได้ไม่ถึงวันโดนลบไปเฉยๆ ไม่รู้ผิดกฎข้อไหนด้วยซ้ำ แต่ยังไงก็เคารพการตัดสินใจของ mod นะ เป็นสิทธิของผู้ดูแล) เลยไม่รู้ว่ากรอบการสนทนาควรเป็นอย่างไร เอาเป็นว่าถ้าอยากคุยประเด็นที่เสี่ยงจะกระทบกับใคร หรือเป็นประเด็นที่อ่อนไหว เสี่ยงต่อการเข้าใจผิดได้ ก็คงต้องคุยหลังไมค์จะดีกว่า

    ปล. ยุคนี้เป็นยุคข่าวสารข้อมูล ผมก็อดห่วงเรื่องการแยกแยะข่าวสารไม่ได้จริงๆ เพราะการจะใช้วิจารณญาณส่วนตนมาพิจารณาอาจไม่เพียงพอ ต้องสร้างภูมิคุ้มกันทางปัญญาร่วมกัน ก็หวังว่าคนที่ตกเป็นเหยื่อจะเป็นเพียงคนกลุ่มน้อย และไม่ได้มีผลกระทบอะไรรุนแรง(เท่าที่เห็นก็เหมือนอ่านกันเล่นๆมากกว่า คงไม่ถึงขั้นจิตตกฆ่าตัวตาย หรือกลายเป็นกระแสรุนแรงกระทบกับการท่องเที่ยวอะไรหรอกมั้ง หรือใครมีข้อมูลเรื่องผลกระทบจากคำทำนายในไทยจะแลกเปลี่ยนก็ดีเหมือนกัน)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มิถุนายน 2012
  2. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    เห็นด้วยอย่างยิ่งครับผม
    เรื่องคำเตือนที่น่าเชื่อถือ
    ไม่ใช่คำเตือนที่สักแต่เตือน
    มีสมาชิกหลาย ๆ ท่าน ที่ออกมาเตือนแนวประชด
    แนวสนุกสนานเฮฮาตามประสาท่านนั้น ๆ
    ตรงนี้น่าเป็นห่วงครับ...ห่วงเรื่องกรรมที่เขาจะได้รับ
    เพราะคำเตือนเล่น ๆ ฮา ๆ ของเขาเหล่านั้น
    ส่งผลกระทบต่อคนไม่น้อยเลย


    ส่วนการเตือนภัยที่ผมว่า เตือนสักพันครั้ง
    แม้นส่วนใหญ่จะพลาดหรือไม่เกิด
    แต่หากเกิดจริง แค่ครั้งเดียว ผมยังถือว่าคุ้ม
    ยกตัวอย่างเช่น ท่าน ดร.สมิท เตือนเรื่องสึนามิ
    คนไม่เชื่อ ด่าว่าบ้าบอ ไร้สาระบ้าง
    พอเกิดขึ้นจริง จึงกลับมานึกถึงท่าน
    พอท่านเตือนอีก ก็ตื่นเต้น ตื่นตูม เตรียมพร้อมรับอย่างจริงจัง
    พอไม่เกิด ท่านก็โดนด่าอีก

    ดังนั้น คนที่หวังดี นำสิ่งต่าง ๆ มาเตือนภัย
    ควรมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้
    ข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์ ความน่าจะเป็น
    หรือข้อมูลจากครูบาอาจารย์ จากพระอริยสงฆ์
    หรือข้อมูลจากบุคคลที่น่าเชื่อถือ
    นำเสนอในแนวกลาง ๆ ไม่สุดโต่งจนเกินไปนัก
    แล้วให้ผู้รับข่าวสารนำไปพิจารณาเอง
    และสุดท้ายผู้บริโภคทั้งหลายนี่แหละ
    ที่จะเลือกใช้วิจารณญาณในการรับชม รับฟัง
    ใช้สติ ใช้ปัญญาในการบริโภคคำเตือนภัยนั้น ๆ

    ขอบคุณทุกท่านที่แชร์ความคิดเห็น
    นำเสนอข้อมูลครับ
     
  3. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    มีน้องที่ผมรู้จักคนหนึ่ง
    บอกกับผมว่า กรุงเทพฯ จะเป็นปกติอีก 3 เดือน
    หลังจาก 3 เดือน ไม่น่าอยู่ (พูดประมาณนี้ครับ)
    เขาค่อนข้างมีสัมผัสพิเศษ
    ผมจึงนำมาบอกเล่าต่อ

    อย่าพึ่งเชื่อนะครับ เพราะผมเองก็ยังไม่ถึงกับเชื่อ
    แค่รับฟังเพื่อประกอบการพิจารณาเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
    จึงอยากแบ่งปันให้หลายท่านที่สนใจรับทราบร่วมกันครับ
     
  4. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    - ที่บอกว่าอย่าเพิ่งเชื่อนี่หมายถึงยังไงครับ
    ไม่น่าเชื่อ หรือเชื่อแต่ยังไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องย้ายไปไหน
    - สำหรับผม ข้อมูลแค่นั้นคงไม่ได้ช่วยอะไรนัก (น่าจะลองถามรายละเอียดถึงสิ่งที่เค้ารับรู้มาหน่อยก็ได้ว่าคือยังไงกันแน่) แต่ถ้าให้คาดเดาตามสถานการณ์ปัจจุบัน คาดว่าน่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการเมืองที่อาจรุนแรง ประท้วงชุมนุมได้ หรืออาจเป็นเรื่องน้ำท่วม เพราะรัฐบาลยังไม่ได้หาแนวทางป้องกัน มัวแต่ช่วยทักษิณ แต่ก็คงต้องดูข้อมูลพวกแนวโน้มปริมาณน้ำฝน หรือพายุที่จะเกิดขึ้น หวังว่าคงไม่มาติดๆกันหลายลูกแบบปีก่อนนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2012
  5. llilliilliiill

    llilliilliiill เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    589
    ค่าพลัง:
    +2,741
    ปัญหาก็อยู่ที่จิตใจคนนี่แหล่ะครับ

    จะเตือนร้อยครั้งพันครั้ง ถ้ามันไม่เกิด ยังไงก็ไม่เกิด
    ถ้าจะเกิด บางทีไม่มีใครเตือน มันก็เกิดได้

    ผู้นำสาร ควรให้ข้อมูลต่างๆเชิงวิเคราะห์ก็พอครับ ที่เหลือให้ผู้รับข่าวสารไปพิจารณากันเอาเอง

    การมองโลกในแง่ร้าย การคิดไปเองว่า เราตายแน่ โลกถึงการล่มสลาย จะหาทางออกกันยังไง ฯลฯ... คนทุกข์ร้อนก็คือตัวเราเอง

    ถึงคราวต้องตาย ยังไงเราก็ตาย แค่ตายช้า กับตายเร็ว เข้าใจว่าที่คนกลัวกันอยู่ทุกวันนี้คือ ตายทรมาน กลัวความเจ็บปวด แต่สำหรับคนมีสติและจิตที่ดีแล้ว ไม่ว่าตายรูปแบบไหนก็สามารถละซึ่งความเจ็บปวดลงได้

    สุดท้าย... ก็อยู่ที่ผู้รับข่าวสารและผู้เสพข้อมูล ว่าสมควรเชื่อในสิ่งไหน เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาคงช่วยให้เขาเหล่านั้นพิจารณาและตัดสินใจได้ว่าข้อมูลที่ได้รับนั้นน่าเชื่อถือเพียงใด

    จากข้อมูลที่ศึกษามา หากผมเป็นหมอดู ผมกล้าฟันธงเลยว่า ในปีนี้ประเทศไทยจะไม่มีเหตุการณ์ภัยธรรมชาติขนาดใหญ่ขนาดที่มีคนตายเกินพันคนในคราวเดียวแน่นอน สิ้นปีมาดูผลครับ ไม่มีเลื่อน100% ขอให้ทุกคนสบายใจกันได้และนำเวลาไปดำเนินชีวิตโดยปกติ คิดดี ทำดี มองโลกในแง่ดี ช่วยกันพัฒนาชาติบ้านเมือง

    ปีหน้าว่ากันใหม่ โอกาสมีคนตายหลักล้านคนจากภัยธรรมชาติ มีไม่ถึง 1%
     
  6. วิมลสิริ

    วิมลสิริ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +72
    เรื่องกระแสภัยพิบัติ น้ำท่วมกรุงเทพฯ ครั้งใหญ่ จนตึกถล่ม เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินจำนวนมหาศาล ถ้าลองคิดให้มาก ๆ กลัวแต่เป็นการปล่อยกระแสของพวกนายทุน เพราะที่ดินกรุงเทพฯราคาเเพง ปั่นกระแสให้คนกรุงเทพฯกลัว จนขายที่ ขายบ้าน ราคาถูก ๆ ย้ายไปตั้งหลักปักฐานอยู่ต่างจังหวัด

    แต่อาจเป็นแค่คนคิดมากไปนะคะ
     
  7. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    สวัสดีทุกท่าน วันนี้ เราจะเปิดเผยความจริงบางอย่าง เกี่ยวกับการเผยแพร่ข่าวภัยพิบัติ ของคนบางกลุ่มในเวปนี้ คนพวกนี้เป็นกลุ่มเดียวกันทั่งหมด คือกลุ่มเขา...... พวกนี้คิดว่าตัวเองติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ ซึ่งจริงๆแล้ว ไม่ใช่ แต่สิ่งที่ส่งพลังงานสีดำมาฝังที่ร่างกาย หรือฝังชิพ ของคนที่เข้ากลุ่ม ซี่งอาจมีบางคนรู้เท่าไม่ถึงกาล นั้นเป็นมารอยู่ในมิติที่ห้า พญามารต้องการจะเป็นใหญ่ในสามโลกจึงใช้ให้สมุนมาเผยแพร่ข่าวภัยพิบัติ เพื่อสร้างกระแสพลังงานลบ เพื่อที่จะใช้กระแสพลังงานลบนี้สร้างร่างกายหยาบขึ้นในมิติที่สาม ก็คือโลกของเรานี่แระ วิธีป้องกันก็คือ ให้อ่านข่าวภัยพิบัติ แล้ววาง อย่าคิดต่อ จะไม่เกิดกระแสจิตไปสร้างร่างกายของพญามาร และช่วยกันสวด บทพระจักรพรรดิ์ ทุกวัน มารก็จะถอยออกไป ภัยพิบัติก็จะเบาบางลง หรืออาจไม่เกิดขึ้นเลย จากเพื่อนคนหนึ่ง
     
  8. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949

    พุทธานุสติ
    ธรรมานุสติ
    สังฆานุสติ
    พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
    ชนะทุกอย่างครับ
    สวดมนต์ นั่งสมาธิ เจริญสติไว้ให้มากครับ
     
  9. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ แต่มีแค่ บทสวดพระจักรพรรดิ์ เท่านั้นที่จะป้องกัน และแก้ไขเรื่องนี้ได้ เราเห็นคนที่ไปนั่งสมาธิ สวดมนต์ และเจริญสติแบบคุณ โดนฝังชิพจากมารฝ่ายมืด กันทั่งนั้นเลย ตื่นได้แล้วครับ
     
  10. อนิจฺจํ

    อนิจฺจํ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +2,949
    :cool:โชคดีผมครอบจักรวาลไว้ก่อน
    โดยสวดมนต์เริ่มจาก
    - สวดบูชาพระรัตนไตร
    - บทไตรสรณคมน์
    - สมาทานศีล
    - บทสรรเสริญ พระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
    - พุทธชัยมงคลคาถา
    - มหาการุณิโก
    - ชินบัญชร
    - ปิดท้ายด้วยสวดพระจักรพรรดิ์
    จากนั้นนั่งสมาธิ เจริญสติภาวนา อย่างน้อยวันล่ะ 1 ครั้ง
    แต่ส่วนใหญ่จะ 2 ครั้ง เช้า - เย็น
    แค่นี้คงไม่มีมารฝ่ายมืด หรือใครมาฝังชิพผมได้กระมัง :cool:
     
  11. วิมลสิริ

    วิมลสิริ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +72
    พูดซะน่ากลัวเลย แล้วดิฉันจะกล้าอ่านข่าวภัยพิบัติหรือเปล่าเนี่ย
     
  12. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    ขอรับรองว่า เรื่องที่เราโพสทุกเรื่องเป็นเรื่องจริงครับ มีหลายคนที่รู้เรื่องนี้ และช่วยกันเผยแพร่ความรู้ทั่งทางตรงและทางอ้อม พระพุทธเจ้าท่านจึงสอนไว้ว่าให้ใช้หลัก กาลามสูตร เพราะรู้ว่าในอนาคต จะมีมารจำแลงแปลงเป็นพระโพธิสัตว์ ชวนคนทำบุญแต่แอบฝังชิพพลังงานสีดำ ทำให้กลายเป็นทาสของฝ่ายมาร ในเวปนี้โดนฝังชิพจากมารจำแลง ไปเกือบครึ่งค่อนเวปแล้ว พวกนี้จะไม่รู้ตัวว่าทำอะไร จิตจะถูกควบคุมสั่งงานจากต่างมิติ ด้วยคลื่นความถี่ สังเกตุได้จากสีของพลังงานในตัว และไม่กล้าสบตาคน และใช้ของสูงมาบังตัวเองเพื่อไม่ให้คนอื่นสงสัย มีเพียง บทสวดพระจักรพรรดิ์และลูกแก้วจักรพรรดิ์ เท่านั้นที่จะสลายพลังงานลบสีดำนี้ได้ คนที่ถูกฝังชิพจากมารฝ่ายมืด ก็จะกลับมามีสติดังเดิม (อ้อ ลืมบอกไปว่าพลังงานลบสีดำนี้ สามารถถ่ายทอดทางหน้าเวป หรือทางเฟสบุ๊ค ได้ด้วย คนที่เข้ามาอ่านกระทู้ก็จะโดนพลังลบนี้ไหลสู่ตัว คนที่นั่งสมาธิได้อุปจารสมาธิ สามารถตรวจสอบพลังนี้ได้จุดประสงค์ของคนกลุ่มนี้ก็คือ ต้องการแพร่พลังงานลบไปสู่คนให้เยอะที่สุด เพื่อที่จะได้เหนี่ยวนำให้เกิดภัยพิบัติตามที่ต่างๆ และใช้กระแสจิตของผู้ที่จิตตก ไปสร้างร่างกายหยาบของพญามารที่จะเข้ามาในมิติที่สามนี้)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2012
  13. llilliilliiill

    llilliilliiill เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    589
    ค่าพลัง:
    +2,741
    เป็นความรู้ใหม่ที่แปลกครับ จริงหรือไม่จริง แล้วแต่จะคิดกันไป
    ส่วนตัว ใช้สติตัวเองเป็นที่ตั้ง ไม่ยึดติดกับใครหรืออะไร

    หลายๆท่านดูแล้วก็แค่ต้องการหาที่พึ่งทางใจจากภัยที่คาดว่าจะเกิดก็เท่านั้น
    บางที สำหรับบางคน การให้ผู้อื่นคิดให้ อาจจะดีกว่าคิดเอง ก็เป็นได้ครับ

    ต่างคน ต่างคิด ต่างจิต ต่างใจ
     
  14. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    ตรงนี้เห็นด้วย เป็นเพียงความเชื่อเฉพาะกลุ่ม คงเพราะชอบเรื่องมนุษย์ต่างดาวเหมือนกัน เวลาที่ชอบ/เชื่ออะไรมากๆก็ย่อมจะคิดอะไรเกี่ยวพันกับสิ่งนั้นไปหมด โดยเฉพาะถ้าเป็นสิ่งที่หาทางพิสูจน์ไม่ได้ อย่างถ้าเป็นชาวบ้านที่มีความเชื่อเรื่องกระสือมากๆ พอเห็นแสงอะไรแปลกๆก็จะคิดว่ากระสือไว้ก่อน แต่ถ้าแสงแบบเดียวกันมาเกิดในเมืองก็อาจคิดว่าเป็น UFO ไว้ก่อน ดังนั้น หากไม่ทราบข้อเท็จจริง ก็ควรจะมองความเป็นไปได้หลายๆอย่าง อย่าเพิ่งปักใจเชื่อว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใด (แต่ส่วนใหญ่เรามักจะเลือกเชื่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากว่าเพราะยังมีกิเลสตัณหาอยู่ จึงยังเชื่อในสิ่งที่อยากจะเชื่อ ยิ่งไปอยู่ในกลุ่มที่คิดไปในแนวเดียวกันมากๆก็ยิ่งเสริมความเชื่อเหล่านั้นให้มากขึ้น) คิดซะว่าเป็นเพียงสมมติฐาน อย่าเพิ่งเอามาเป็นทฤษฎีหากยังไม่ได้พิสูจน์ และก็ไม่ควรลังเลสงสัยไปเสียหมด ไม่กล้าจะยึดจะเชื่ออะไรเลยแบบนั้นก็คงไม่เหมาะ ตราบใดที่ยังไม่เป็นกฎตายตัวแบบคณิตศาสตร์ ทฤษฎีต่างๆก็ย่อมเปลี่ยนแปลงได้หากมีหลักฐานใหม่ๆที่ดีกว่ามารองรับ

    เอ่อ อันนี้ก็เป็นเพียงสมมติฐานหนึ่ง คำพูดยังขาดความน่าเชื่อถือนะครับ แม้คุณจะยืนยันว่าความคิดคุณเป็นจริง แต่น่าจะมีหลักฐาน ที่มาที่ไปของความคิดนั้นสนับสนุนด้วย เพราะดูแล้วเป็นความเห็นคุณเพียงคนเดียวมากกว่า (ว่าแต่ไปเห็นพลังงานสีดำเข้าร่างคนในกลุ่มนั้นได้ยังไงครับ รู้เหรอว่าคนในกลุ่มนั้นเป็นใคร บ้านอยู่ไหน) ในความเห็นผม คนที่ชอบพูดเรื่องส่งพลังงานเข้าร่าง ฝังชิพในสมองนี่ส่วนใหญ่จะเป็นอาการทางสมองอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดความคิดแบบหลงผิดหรือหวาดระแวงได้ บางคนบอกว่าตัวเองถูกฝังชิพในหัวทำให้เวลาคิดอะไรคนอื่นรอบข้างจะล่วงรู้ความคิดตนก็มี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2012
  15. llilliilliiill

    llilliilliiill เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    589
    ค่าพลัง:
    +2,741
    เห็นด้วยกับคุณตาดำดำครับ ผมเคยเจอใน กท. นึง ปักใจเชื่อไปแล้วว่าตัวเองพูดถูกแน่ๆ
    แต่พอมีคนหาหลักฐานมาได้ ผู้วิเศษบอกว่า "4เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง นับประสาอะไรกับมนุษย์ปุถุชน"

    จากนั้นก็เปลี่ยนประเด็นกันไป...

    แม๊ะ!!... เนียนแท้เหลา!
     
  16. A-KiT

    A-KiT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +610
    ในบางเวปที่เค้ามีการซื้อของขายของกันก็จะเจอพวกมิจฉาชีพเยอะมากๆ มาหลอกลวงว่ามีของขาย พอโอนตังส์ก็เงียบปิดมือถือ จนผู้ดูแลต้องหาวิธีมาเพื่อลดปัญหาที่เกิดขึ้น เช่นคนขายถ่ายรูปคู่กับสินค้า และถือป้ายชื่อพร้อมเบอร์โทรศัพท์ ภาพคนขายต้องเป็นคนเดียวกันกับรูปที่ใช้ User name ปัญหาการโกงก็ลดน้อยลงมาก ในขณะที่เวปนี้ยังไม่ได้ควบคุมอะไรเลย อาจเป็นเพราะเวปนี้ไม่ได้ขายของ แต่ความเสียหายก็เกิดขึ้นได้หากผู้อ่านหลงเชื่อโดยไม่ได้ไตร่ตรองทั้งๆที่น่าตาคนโพสท์คำเตือนต่างๆก็ยังไม่เคยเห็น เสียงก็ยังไม่เคยได้ยิน ตามสูตรก็บอกว่าอย่างน้อยๆ ถือว่าไปเที่ยว แต่จริงๆมันจะไปสนุกอะไรถ้าไปอย่างหวาดระแวง น้ำมันก็หมด เงินก็หมด กลับแถมถูกหัวเราะเยาะอีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2012
  17. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    โห นี่คนในเวปนี้ไม่รู้เรื่องที่เราโพสจริงๆเหรอเนี้ย ขนาดมีคนเล่นของ เล่นคุณไสย ดูดพลัง ฝังชิพ กันในเวปนี้ พวกคุณยังไม่รู้เรื่องกันอีก แต่ดันมาถามหาหลักฐาน ก็สมควร ปล่อยให้มารทำร้ายคนกันต่อไปดีกว่ามั่ง และขอบอกว่าสิ่งที่เราโพสไม่ใช่เกิดจากจินตนาการ นี่คือเรื่องจริง ลองไปถามคนที่มีทิพยจักขุ หรือมีตาที่สาม ดูแล้วจะรู้ แต่อย่าไปถามพวกที่มีตา ของกลุ่ม เขา......... นะ เวลาของพวกท่านเหลือน้อยแล้ว ถ้าไม่รีบยกระดับจิต อย่าเพิงเชื่อเรา แต่ให้พวกคุณไปหาความจริงกันเอาเอง ขอให้โชคดี
     
  18. noway

    noway เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2012
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +3,969
    อืม....

    นอกจาก ประโยคสุดท้ายที่ว่า

    ขอให้โชคดี

    ไม่มีทางแก้ไขเลยหรือครับ

    หรือพอมีวิธีใด ที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้บ้าง ขอรับ
     
  19. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    ลองกลับไปอ่านกระทู้ที่เราโพส จะบอกวิธีป้องกันและแก้ไข เรื่องนี้ไว้แล้ว ถ้าคุณรู้จักเรา เวลาที่สนทนากับเราแค่เพียงหนึ่งนาทีก็มีค่ามากมายแล้วครับ แล้วคุณจะเกิดปัญญา ถ้ารู้จักทำตัวเป็นพหูสูตร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กรกฎาคม 2012
  20. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    - ช่วยอธิบายความหมายมิติที่ 5 หน่อยครับ (แค่มิติที่ 4 ผมก็ยังไม่รู้เลย - -" พระไตรปิฎกก็ไม่มี เป็นภพภูมิใดภพภูมิหนึ่งหรือไม่)
    - ชิพที่ฝังมีการทำงานยังไง ฝังเพื่ออะไร สร้างจากมิติที่ 5 หรือเป็นชิพคอมพิวเตอร์ทั่วไป
    - ใครเป็นคนเล่นของ ทำคุณไสย์ ทำไมไม่ไปจัดการคนผู้นั้น
    - คุณได้ทิพยจักขุญาณมายังไง มีญาณอย่างอื่นด้วยหรือไม่ มีอะไรพิสูจน์ได้บ้างว่าคุณมีญาณจริง ถ้าคิดว่าไม่สามารถพิสูจน์ได้ อย่างน้อยก็ควรพิสูจน์ว่าคุณไม่ได้มีอาการทางจิต ลองไปทดสอบสภาพจิตดูก็ได้ ถ้าปกติอย่างน้อยก็จะเพิ่มความน่าเชื่อถือขึ้นบ้าง

    ปล.
    - นี่เป็นอีกตัวอย่างของผู้ที่มีความคิดหลงผิด ซึ่งผู้เป็นจะไม่รู้ตัว เค้าเชื่อของเค้า แล้วก็ออกมาเตือนด้วยความหวังดี ไม่ได้ต้องการโกหกหลอกลวง แต่ผู้ที่รับข่าวสารมาจะแยกแยะได้หรือไม่เท่านั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กรกฎาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...