นิทาน เรื่อง "พญานาค"

เรื่องของเรื่องก็คือ มิกไม่ค่อยชอบอธิฐานอ่ะ กราบพระ 3 ครั้ง ก็นั่งสมาธิเลย
(ยกเว้นวันพระที่สวดมนต์ก่อนนั่งสมาธิอ่ะ)

 

ขอบคุณคะ เราไม่เคยมีวัตถุมงคลพระอาจารย์ฝั้นเลยคะ ปกติจะแขวนหลวงปู่ทวดองค์เล็กๆ ที่หาซื้อจากร้านเครื่องประดับแขวนติดตัวตลอด เด๋วคงต้องหาวัตถุมงคลของพระอาจารย์ฝั้นมาติดตัวบ้างคะ

ตอนเด็กๆ เคยฝันถึงพระสงฆ์ ในฝันบอกว่าท่านคือพุทธทาสภิกขุ
พอโตขึ้น ก็เคยฝันถึงพระสงฆ์อีก ในฝันก็บอกว่าท่านคือหลวงพ่อฤษีลิงดำ
ทั้งๆที่ไม่เคยรู้ประวัติท่านมาก่อน ก็แปลกดีที่ชอบฝันเห็นพระสงฆ์ คะ

 

สบายดีค่ะพี่รั้งมีนิทานมาเล่าให้ฟังไหมคะอยากฟังนิทานค่ะ
พักนี้ท่านประธานฝันวาบหวิวบ่อยๆแหมเขินจังเวลาอ่าน
เวปคนเข้าเยอะแน่เลยบางทีเข้ายากมากๆ

 

มิกกี้ การอธิษฐานเนี่ยเค้าให้อธิษฐานในฌาน ทำสมาธิให้ถึงฌานเป็นลำดับๆ ไป ฌาน4 เนี่ย ต้องกำหนดละกายสังขาร ลมหายใจละเอียดจนไม่รู้สึกว่าหายใจ หูดับ ไม่รับรู้สภาวะภายนอก ไม่มีกาย ไม่มีลม (แต่ความจริงยังมีอยู่)

 

คุณ kulthida
ขอบคุณนะคะ ที่ชมว่าสวย จริงๆไม่สวยนะคะ แต่ก็ดีใจที่่ชม ค่ะ

คือ พลอยไม่ได้เปิดแค่เวป พลังจิต นะคะ
ถ้าลองเปิดใน face book หรือว่า อื่นๆ ก็มี ค่ะ
พลอยเล่นเน็ตมานาน ถ้ามีใครเอารูปไปทำ ไร คงหาได้ไม่ยาก ค่ะ

แต่เวปที่เป็นบอร์ด คุยกันแบบนี้เพิ่งเคยเข้า เลยใช้ไม่ค่อยเป็น ถ้าเป็นพวก โปรแกรมอื่น มีเยอะเลย ค่ะ

แต่ตอนแรกที่ไม่โชว์รูปเนี่ย เพราะว่าพลอยใช้ ipad แล้วมันใส่ไม่ได้ค่ะ ติดโปรแกรม flash ตอนนี้เปิดโดย PC เลยใส่ไว้ค่ะ

แต่ไหนๆ ก็เป็นห่วงแล้ว พลอยจะไม่ให้เสียน้ำใจ ขอไปแก้รูปก่อนนะคะ แป๊บหนึ่งค่ะ

 

เมื่อคืนฝันเห็น "ใครบางคน" ในกระทู้นี้ พวกเราสนทนากันด้วยเรื่องบางเรื่อง
ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่า "เขา/เธอ" นั้นเป็นใคร เพราะภาพ Avatar ไม่สะดุดตา
เท่าไหร่ แต่สักแป๊ป ชื่อของ "เขา/เธอ" ก็โผล่ขึ้นมา ถึงได้รู้ว่า...อ้อ...นี่เอง ^^

มิกกี้ เฉลยได้หรือยังจ๊ะ?

 

จะรีบไปไหนกันจ๊ะ ท่านสุมนา นี่เพิ่งจะเที่ยงเองนะ ยังมีเวลาให้เล่นหนุกหนานอีกเยอะ อิอิ
แต่เราแปลกใจนิดนึง...ถ้าเราจะฝันถึงใครสักคนในกระทู้นี้ มันน่าจะเป็นคุณนุ๊กนะ
เพราะเราคุยกันประจำ ตั้งกะเช้ายันค่ำ แต่ไม่ยักกะใช่คุณนุ๊ก กลับเป็น....แทน ^^

 

อีกแระ จะกั๊กไว้ทำไมเนี่ย เดี๋ยวเค้าชักแง่กๆๆๆ นะ
นั่นแสดงว่าเราไม่ได้อยู่ในใจมิกกี้น่ะซิ
อย่าเปิดเผยตอนดึกๆ นะ ตอนนี้หนังตาก็ไม่ค่อยสามัคคีแล้วด้วย
มันเงียบเชียบเกินไป
ถ้าจะให้ดีบอกตอนนี้เลยดีกว่านะ จะได้หาเรื่องอื่นมาคุยต่อ

 

เออ.. แม่นาง เล่นชักกะเย่อแล้วนิ..^^

 

ก็ด่ะ...เดี่ยวจะหาว่าหญิงมั่นไม่แน่ (เกี่ยวกันมั้ยเนี่ย)...

เมื่อคืนฝันว่า กำลังสนทนาโต้ตอบกับใครบางคนอยู่ โดยผ่านตัวอักษร
คล้ายกับการเขียนเล่าในกระทู้เนี่ยแหละ (แต่จำรายละเอียดไม่ได้ว่าคุยไรกัน)

ภาพที่เห็นคือ ภาพ Avatar แต่มันไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เบลอๆ ไม่ค่อยสะดุดตา
พอคิดว่าเป็นใครน๊ะ? เท่านั้นแหละ..จู่ๆ ชื่อของน้องแหมบก็โผล่เด้งขึ้นมาตัวเป้งเลยอ่ะ ^^

(คล้ายๆ กับตอนที่ฝันถึงพี่ติงติง กับท่านหน่อนรคุณเลย)

 

[/QUOTE


.....................................................................................................................


คนนี้ ใช่น้องพลอยมั๊ยค่ะ..... JuZz Upson[/quote]

ว้ายย สวยขนาดนั้นไม่ใช่ค่ะ
ต้องหา ว่า ployupson หรือ ploy upson

แบบนี้เลยค่ะ ตรงๆ

 

ลึกๆ คิคอะไรรึเปล่าค่ะ น้องมิ๊ก....

 

จะมีอะรั้ย...ถ้าคุยกับน้องแหมบก็เรื่องชวนกันไปเที่ยวตามประสา
แล้ว "เขา" เนี่ยเป็นใครคะ์?

 

ที่เขียนว่า "เขา/เธอ" ที่เขียนใบ้ไปนั้น ก็แค่ไม่ให้ใครเดาได้ว่า เป็นผู้หญิง หรือ
ผู้ชายเท่านั้นแหละค่ะ...หาเรื่องหนุกๆ ทำเล่นไงคร้า อิอิ (งงชิมิร้า )

 

ช้าอ่ะ มิกกี้ เรามันวัยรุ่นใจร้อนซะด้วยซิ ขอนำเสนอเรื่องนี้แล้วกันนะ

การจูงจิต

การจูงจิตคืออะไร? การจูงจิตไม่ใช่การจูงใจ เพราะการจูงใจมักจะมีสิ่งตอบแทน แต่การจูงจิตจะคล้ายการสะกดจิตตัวเอง การสะกดจิตเป็นการเล่นกับจิตใต้สำนึก ไม่ว่าจะสะกดจิตตัวเองหรือคนอื่น คนที่ถูกสะกดจิตจะตอบสนองได้โดยไม่รู้สึกตัว เช่นคนทรงเจ้าเข้าวิญญาณก็ สะกดจิตตัวเองก่อนว่ามีอะไรๆ มาสิงร่างตน แล้วแสดงไปตามนั้นโดยไม่รู้สึกตัวเลย , จิตแพทย์สะกดจิตคนไข้ขณะทำการรักษา

การจูงจิตสามารถ กระทำได้โดยขณะที่รู้สึกตัว หลักง่ายๆคือการตอกย้ำกับจิตเอง หรือผู้อื่นซ้ำๆ บางที่อาจต้องมีการตอกย้ำกับร่างกายด้วย เพื่อแสดงสิ่งพิเศษต่างๆออกมาตามที่ต้องการ เช่น นักกีฬายกน้ำหนัก ก่อนยกร้องคำว่า “สู้เว้ย” แล้วยกน้ำหนัก100 กว่ากิโลกรัมขึ้นมาได้, นักคาราเต้ ร้องว่า “ย้าก” แล้วต่อยอิฐแข็งๆให้แตกกระจุยได้ และอื่นๆอีกมากมาย คนพวกนี้ใช้การจูงจิตทั้งนั้น

วิธีการคือต้องคิดว่าตนทำสิ่งนั้นได้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่แค่คิดไม่อาจพอ ต้องฝึกฝนร่างกาย ต้องลงมือกระทำจริงๆ เป็นการตอกย้ำซ้ำสองทั้งร่างกายและจิตใจ ยิ่งความต้องการสิ่งพิเศษมากเท่าไหน ก็ต้องยิ่งจูงจิตแรงมากขึ้นๆเท่านั้น และการจูงจิตยังใช้กับคนอื่นได้ด้วย เช่น นักกีฬาที่มีเสียงเชียร์ มีโอกาสเล่นดีขึ้นกว่าปกติ , สามีมีงานสำคัญถ้าภรรยาบอกว่า “ชั้นเชื่อว่าคุณทำได้” โอกาสสำเร็จจะมีมากตามไปด้วย แม้แต่เพื่อนนักเรียนที่ตบหลัง ตบไหล่ไล่ให้เราไปจีบสาวก็ใช่

เราจะใช้การจูงจิตให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร นักเรียนนักศึกษาต้องใช้แน่นอน ตอกย้ำจิตว่าอ่านหนังสือเข้าไปแล้วร่างกายมันจะไปเอง , ขี้เหล้าขี้ยาขี้บุหรี่คิดเข้าไปเลยว่า เหล้าคือยาพิษ ยามันขม บุหรี่มันเหม็น พอของพวกนี้อยู่ใกล้ๆเราจะหนีมันเอง, เจอเจ้านายขี้บ่นหรือคนชอบนินทาให้คิดว่า หูไม่ได้ยิน เราก็จะไม่ได้ยิน

ตอนแรกๆ อาจไม่เห็นผลทันตาทันใจ แต่อย่างที่บอกว่าเป็นการจูงจิต (จูง=ลากเบาๆ) ต้องค่อยๆทำไปเรื่อยๆ ใช้เวลาหน่อย ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราต้องการ แต่ผลที่ได้จะคุ้มค่ากับการลองแน่นอน

 

พี่รั้งขา...นู๋ไม่ได้คิดอะไรจริงๆ เลยนะคะ ก่อนนอน ก็ไม่คิดฝันจะไปเที่ยวไหนเลย
แต่มันฝันได้ทุกคืนเลยอ่ะ สงสัยเพราะเที่ยวบ่อยมั้ง เลยไม่อ้วนสักที เพราะต้องใช้
พลังเยอะ อิอิ

 

พูดเรื่องเห็นภาพเนี่ยนะ...เรามีเรื่องเล่าอีกแระ (โม้เก่งจริงๆ เล้ยยยย อิอิ)

แม้เราจะเรียนหลายที่ในเวลาเดียวกัน แต่เชื่อป่าว ว่าเราไม่ใช่เด็กเรียนนะ
เพราะเราใช้สิทธิ์โดด (ร่ม) จนหมดโค้วต้าทุกวิชา เวลาสอบก็ไม่เคยอ่าน
หนังสือสอบ เวลาเรียนก็ไม่จดตามเพื่อน (เพราะจดไปเราก็ไม่อ่านอยู่ดี)

แต่วันไหนมีสอบ ระหว่างนั่งรถเมล์ เราก็จะแค่เปิดหนังสือผ่านๆ และเวลา
สอบเราจะนั่งปิดตา นึกถึงหน้าหนังสือแต่ละหน้า นึกถึงย่อหน้านั้น ย่อหน้านี้
แล้วเราก็สอบผ่านทุกที บางวิชา เรายังเคยซื้อตัวอย่างข้อสอบ อ่านพอผ่านตา
ในตอนเช้า เที่ยวเดียว รวดเดียว แล้วก็ไปสอบเลยอ่ะ อิอิ

(แต่ตอนนั่งปิดตาก็อายเหมือนกันนะ เลยต้องแกล้งก้มหน้าเอา ^^)

 

ฟังเพลงหวานๆ ช่วงบ่ายนะ
ที่สุดของหัวใจ : มาลีวัลย์ - YouTube

แถมให้อีกเพลงนะจ๊ะ ฟังเพลินๆ หลับสบายช่วงบ่ายจ้ะ
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=9lSowWYhtoc