จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

แดนแห่งการเตือนจิต

ผมสงสารจิตคนที่ยังอ่อนอยู่ จิตที่ยังไม่ค่อยจะเข้าใจตนเอง ยังไม่เข้าใจโลกกันดี

เห็นมีข่าวไม่ดีกันทุกวัน นอกจากสื่อแล้ว
เดี๋ยวนี้บางคนต้องติดเวปพลังจิตแจกันเลย คอยจ้องดูว่า ใครจะเอาเรื่องอะไรที่นำเสนอมาแล้ว บวกกับความคิด ความฟุ้งซ่านของตนเองอยู่
เหมือนคนกลัวผี แล้วยิ่งมีคนเล่าแต่เรื่องผีๆกรอกหู้เราฟังทุกวี่ ทุกวัน อย่างนี้ประสาทจะกินไหม๊?
หรือเหมือนคนเป็นแผลเป็นอยู่แล้ว ก็ยิ่งมีคนไปสกิดแผลให้มันเปิดกว้างขึ้นไปอีก
เช่น ยิ่งคนที่รักตัว กลัวตายอยู่ด้วยแล้ว ก็ยิ่งทวีคูณ คือกลัวตายหนักเข้าไปกันอีก อย่างนี้เรียกว่าตายกันทั้งเป็นกันไหม๊?

แทนที่เราจะเอาเวลามาสร้างบุญ หรือทำจิตเกาะพระ
อันนี้ต้องมานั่งเสียเวลา บุญก็ไม่ได้ เพราะเราไม่ไปสร้างเอากันเอง
มานั่งรอลุ้นกันว่า เมื่อไหร่ เมื่อไหร่ภัยพิบัติจะมากัน
อยู่อย่างนี้ จิตเกาะแต่อบายภูมิกัน พวกเราตัวรู้กันบ้างไหม๊?
แต่ถ้าเป็นบุคคลที่แยกแยะได้ก็ดีไป รอดตัวไป
แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีปัญญา หรือคิดเองไม่เป็นก็ต้องว่าไปตามคนอื่นเขาไป
เชื่อกันตามกัน ที่เชื่ออยู่นั้น ก็ยังไม่รู้ว่ามันผิด มันถูกเลย
เพราะเราไม่ค่อยมีสติปัญญากันน่ะ

อันนี้ไม่ได้มาตำหนิกันนะ เตือนให้รู้กัน จงใช้สติปัญญากันให้มาก
สติปัญญาสร้างกันได้โดยการเจริญสติภาวนา
หรือทำจิตเกาะพระกัน นี่แหล่ะ!

 

กระทู้อื่นเขาได้แค่เตือนภัยกันนะ
เผลอๆเตือนไม่รับผิดชอบกันด้วย เตือนเสร็จแล้วก็แล้วกันไป
ไม่มีใครมาสนใจจิตใจกันนะ
ไม่เหมือนกระทู้นี้นะ

ช่วยเตือนจิตใจกันด้วย และช่วยยกจิตกันด้ย
โดยเฉพาะให้กำลังใจกันไป อันนี้ดีมากๆ
เพราะยามนี้ เวลานี้ พวกเราจะต้องช่วยเหลือกัน
คิดต่างได้ แต่อย่าแตกแยกก็พอ
เพราะต่างคน ต่างมา ต่างพ่อ ต่างแม่กัน ก็ต่างนิสัยใจคอเป็นเรื่องธรรมดา
ขอแต่เพียง อย่าให้กายตนเองไปเบียดเบียนคนอื่น หรืออย่าให้ใจเราไปทำร้าย หรือล่วงเกินตนเองและผู้อื่น คือความคิดร้าย หรือคิดในแง่ลบเกินไป

เรามาช่วยกันสอดส่องดูแลกันนะ ในฐานะที่เราเกิดมาเป็นมนุษย์ร่วมชาติ ร่วมภพเดียว
ขอให้พวกเรารักคนอื่น เหมือนเช่นรักตนเองนะครับ

ขอบพระคุณ

 

เอ๊า! สำหรับคนอื่นๆ ออกมาพูดกันก็ได้นะ
อย่าอ่านอย่างเดียว อย่าให้ผมออกมาพูดคนเดียว

กระทู้อื่นออกมาช่วยกันเตือน เรื่องภัยพิบัิติจากธรรมชาติกัน
แต่กระทู้นี้ จะมาช่วยกันเตือน เรื่องภัยพิบัติภายในจิตของคนเรา

 

​

 

​

หลวงปู่สอ พันธฺโล วัดป่าหนองแสง จ.ยโสธร คู่บารมีหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์​

http://audio.palungjit.org/redirect...lungjit.org/attachment.php?attachmentid=43033

http://audio.palungjit.org/redirect...lungjit.org/attachment.php?attachmentid=43047

ที่มา:
Buddhism Audio

ชาวคณะจิตบุญ จิตเกาะพระ ขอนอบน้อม ขอกราบนมัสการหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ และหลวงปู่สอ พันธุโล ด้วยเศียรเกล้าฯ

เชิญท่านอ่าน และฟังประวัติของหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ และหลวงปู่สอฯ
มีประวัติที่น่าสนใจมาก เพราะหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์เป็นพระศักดิ์สิทธิ์ และเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง และท่านเป็นพระอริยเจ้า ท่านเป็นพระสุปฎิปันโน
(พระปฎิบัติดี ปฎิบัติชอบ)

เมื่อภัยพิบัติมาพวกเราอย่าไปอิจฉาชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดป่าหนองแสง อ.เมือง จ.ยโสธร กันนะ เพราะที่นั่นเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ปลอยภัย
เพราะมีพระพุทธรูปชื่อ หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์ เป็นพระมีตำนานเก่าแก่ มีพระอินทร์เป็นผู้ดูแล และมีพญานาค สังเกตดูด้านหลังองค์พระกันนะครับ
จะเห็นพญานาคเจ็ดเศียร

หรือ ที่กทม.ก็มีอยู่ที่ บ้านเรือนไทย ลาดพร้าว 57/1 เลยตลาดโชคชัย 4 ไป 1 ป้ายรถเมล์พอดี...

ปล.ทั้งสองที่นี้ผมเคยไปมาแล้ว แต่ตอนนี้ผมบุญไม่พอ ก็เลยพลาดได้พบท่าน ถึงสองครั้ง สองครา
(ใครลองภาวนาพระพุทธรูปนี้ดูกันนะ หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์นั้นศักดิ์สิทธิ์จริงๆ และชอบมาเตือนสำหรับท่านที่ชอบทำสมาธิด้วย เห็นท่านว่าในเทปเสียงนะ)

 

ท่านชายใหญ่ครับ ท่านพี่นี่รู้ทุกอย่างจริงๆ ผมก้อเตรียมสื่อการสอนอยู่ครับ เป็นอันรุ้กันในหมุ่จิตบุญ ผมว่าทุกท่านทำอยุ่แหละ แต่ยังไม่ได้เอามาสอดประสานกัน เมื่อถึงเวลา พี่คอยดูสิ อลังการงานช้างแมมมอท อิอิ

ทุกท่านที่อ่าน อาจจะงง คุยอะไรกันพวกนี้ ต่อไปท่านจะเข้าใจกระจ่างแจ้ง
ฝากเอาไว้ ไม่ว่าจะเกิดภัยพิบัติหรือไม่ เวลาของเราเหลือน้อยลงทุกที ถึงเวลาหรือยังที่จะสลัดพันธนาการที่เป็นเปลือก มันรุงรัง มันหนักหรือไม่ ท่านจะต้องอยู่กับสิ่งที่เป็นภาพลวงไปอีกนานแค่ไหน เราหนีความตาย หนีกฎไตรลักษณ์ไม่ได้
ท่านก้อทราบดีใช่ไหม เราหนีความสุข ความทุกข์ สมหวัง ผิดหวัง นินทา คำชม ได้หรือไม่
แล้วสิ่งเหล่านี้อยู่ที่ไหน มาจากไหน เราจะทำอย่างไรเมื่อเกิดภาวะเช่นนี้ ถ้าจิตของเราไม่ดีพอ ท่านจะรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้แค่ไหน ลองตอบตัวเองดู ไม่ใช่เอาคำพูดดราม่านะ นี่ของจิง ถ้าไม่เตรียมพร้อมจริงๆ เอาไม่อยู่นะครับ ผมเตือนท่านแล้ว
อยากหนีไหม ง่ายนิดเดียว...จิตเกาพระไง
ถ้าอยากรู้ว่าทำไม ถึงกล้าเขียนให้อ่าน
มาทำสิครับ แล้วจะรู้
ผมท้าให้ลอง
สวัสดีครับ

 

หุหุ ทำไมข้าเจ้าต้องเกิดมาในยุคคอมพิวเตอร์ ฮ่วย ....แต้งกิ้ว น้องรัก

 

กราบสมเด็จพ่อ และสวัสดีค่ะพี่เพ็ญ pukกับคุณป๋อมเป็นคนละคนค่ะ พี่เพ็ญค่ะเมื่อคืนก่อนนั่งสมาธิจะมึนหัวเล็กน้อย ระหว่างนั่งมึนมากขึ้น พอนั่งเสร็จเป็นหนักเลยค่ะลุกไม่ขึ้นต้องคลานไปปิดไฟและคลานขึ้นเตียงนอน มาตอนเช้านึกภาพพระๆเปลี่ยนไปเองเป็นภาพพระวิสุทธิเทพ ชัดเจนขึ้นมาก และอาการมึนหัวก็น้อยลง ระหว่างนั่งสมาธิมีอาการมึนหัวหนูต้องทำอย่างไรค่ะรบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

หญิงกลางโพสต์แล้วก็นึกขึ้นได้ว่าหมอนัดตรวจขา
ชะแว้บออกไป นึกว่าแป๊บเดียว
ที่ไหนได้คนไข้เพียบ

เมื่อก่อนถ้ารอนานขนาดนี้ หน้าจะหงิก โมโห โกรธา
คนรอบข้างจะพลอยโดนหางเลขไปด้วย

แต่เดี๋ยวนี้ นั่งจับภาพพระไปเรื่อย ๆ ใจสบาย
ถึงคิวเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
เจอหน้าหมอแล้วก็ยิ่งเย็น ท่านอารมณ์ดี มีเมตตามาก
ไม่ธรรมดา! (หรือเปล่า)

พี่เพ็ญรู้ดี ว่าหญิงกลางโดนไปหนึ่งดอกแล้ว
เอามะพร้าวห้าวไปขายสวน

 

จิตเราสอบผ่าน หรือไม่ผ่าน
มาทดสอบกัน

เมื่อเราปฎิบัติมาระยะสมควรกันแล้ว เราพอจะมีวิธีเช็คว่าจิตของตนนั้น
สอบผ่าน หรือไม่ผ่าน อย่างไร

เราสามารถเช็คกันได้ง่ายนิดเดียว ก็คือ ในปัจจุบันขณะที่มีสิ่งมากระทบจิตของตนนั้น ว่าเรารู้สึกกันอย่างไร
หรือจิตใจของตนนั้นไหวตาม หรือไม่ไหวตาม หรือไหวมากน้อยเพียงไร
โดยวัดจากอารมณ์ หรือความรู้สึกของรัก โลภ โกรธ หลง โดยเฉพาะความไม่พอใจ หรือความโกรธ อันนี้เราจะเห็นได้ชัดเจนกว่ากิเลสตัวอื่นๆ)

1.ตอบว่า รู้สึกเฉยๆ หรือไม่ได้ไหวตาม(ต้องไม่ตอบเข้าข้างตนเองนะ ให้ตอบตามความรู้สึกของเราเองจริงๆ) นั่นก็แสดงว่า สอบผ่าน
สำหรับคนที่สอบผ่าน จึงค่อยๆละกิเลสละเอียดขึ้นไปเรื่อยๆ ปลดเปลื้องพันธการจากจิตทีละเล็ก ทีละน้อย เดี๋ยวก็หมดไปสักวันเอง (คงมีสักวันๆ ของคุณลินดานั่น)

2.ตอบว่า ยังไหวตาม หรือยังวิ่งตามกิเลสกันอยู่เลย
อันนี้ถือว่า สอบไม่ผ่าน

วิธีแก้ไขง่ายที่สุด ก็คือ จะต้องสร้างสติกันให้เยอะๆ หรือทำบ่อยๆ
เพราะสติแค่ระงับกิเลส(หยาบ)ได้ชั่วคราว เท่านั้น

 

ให้เอาจิตเกาะพระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ฯลฯ
หลายคนบอกว่า ไม่มีเวลา

ในหนึ่งวันมันก็มี 24 ชั่วโมงอยู่ทุกวัน
ไม่มีเวลา หรือว่าจัดสรรเวลาไม่เป็น
ไม่มีเวลา หรือว่าไม่สนใจจะทำ
ไม่มีเวลา หรือหาข้ออ้าง
ไม่มีเวลา หรือไม่ให้ความสำคัญ
ไม่มีเวลา หรือจมอยู่กับอดีต
ไม่มีเวลา หรือเพ้อฝันอยู่กับอนาคต
ไม่มีเวลา ก็เชิญเวียน ว่าย ตาย เกิด กันต่อไป

ก่อนลืมตาตื่น นึกถึงพระ
กิจกรรมระหว่างวัน ถ้าว่างก็นึกถึงพระบ้าง
ก่อนหลับตานอน นึกถึงพระ
จัดสรรเวลา ไม่ใช่ปล่อยไปตามยถากรรม

คนที่ไม่สำเร็จ คือคนที่หาเวลามิได้
ให้เป็นข้อคิด สติเตือนใจสำหรับผู้ที่อยากพ้นทุกข์เท่านั้นเอง

 

สมาธิ​

สมาธิคือ ความตั้งมั่นของจิต จิตแน่วแน่ จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่ง ไม่คิดฟุ้งซ่าน
แต่ศาสนาพุทธของพวกเราเน้น สัมมาสมาธิ
สัมมาสมาธิ หมายถึงการฝึกจิตให้เป็นสมาธิ ให้เป็นปัญญา
โดยการใช้ปัญญาพิจารณาในธรรมตามความเป็นจริงนั้นๆ
เพื่อความหลุดพ้น
มิใช่เพื่อไปสนองกิเลสตนเองขึ้นมาใหม่ หรือไปสร้างอัตตาขึ้นมากันใหม่
เช่น อวดฤทธิ์ อวดอภิญญา เป็นต้น

สมาธิอาจแบ่งได้เป็น 3 ระดับ
1.ขณิกสมาธิ คือสมาธิเพียงเล็กน้อย เป็นสมาธิเบื้องต้น (คนปกติทั่วๆไป)
2.อุปจารสมาธิ คือสมาธิเฉียดฌาน เป็นสมาธิกลาง
3.อัปปนาสมาธิ คือสมาธิลึก มีอารมณ์เป็นฌาน สมาธิตั้งมั่น แน่วแน่
สติกับจิตรวมตัวเป็นหนึ่งเดียว เป็นการทำสมาธิขั้นสูงสุด

สมาธิเป็นการระงับกิเลสขนาดกลาง อันได้แก่ นิวรณ์5 เป็นต้น
(สติ หรือศีล ระงับแค่กิเลสเบื้องต้น)
ศีล มีหน้าที่ตั้งจิต ส่วนสมาธิ มีหน้าที่รักษาจิต

สมาธิกับนิวรณ์5 จะอยู่ตรงข้ามกันเสมอ เหมือนสมาธิคือความสว่าง ส่วนนิวรณ์คือความมืด

นิวรณ์5 เกิดจากสัญญา(จำได้หมายรู้)และสังขาร(ความคิดปรุงแต่งจากจิตบางอย่าง)
แต่นิวรณ์เกิดขึ้นทางจิตอย่างเดียว
เพราะฉะนั้นแล้วถ้าจิตไปรับอะไรก็ตาม(จากอายตนะทั้ง6) ให้เราพิจารณาลงไตรลักษณ์กันให้หมด เพราะป้องกันจิตหลง

นิวรณ์5 คือธรรม หรือเครื่องกีดกั้นมิให้จิตเข้าถึงความดี มิให้จิตเป็นสมาธิ
เพราะฉะนั้นแล้ว นิวรณ์5 เป็นศัตรูกับสมาธิ หรือฌาน

ธรรมแก้กันกับนิวรณ์5 ก็คือ
1.กามฉันท์(ความพอใจรักใคร่ในอารมณ์ที่ชอบใจในรูป หรือความพอใจในกาม)
ต้องแก้ด้วยธรรม คือเจริญกายาคตาสติ(พิจารณาเห็นร่างกายให้เห็นเป็นปฏิกูล)
2.พยาบาท(คิดร้ายต่อผู่อื่น) ต้องแก้ด้วยธรรม คือเจริญพรหมวิหาร4
3.ถีนมิทธะ(ความง่วงเหงา หาวนอน จิตหดหู่ ขี้เกลียด ไม่กระตือรือร้น)
ต้องแก้ด้วยธรรม คือเจริญอนุสสติกรรมฐาน
4.อุทธัจจกุกกุจจะ(ความฟุ้งซ่าน หรือรำคาญใจ) ต้องแก้ด้วยธรรม คือเพ่งกสิณ หรือมรณานุสติกรรมฐาน
5.วิจิกิจฉา(ความลังเลสงสัย) ต้องแก้ด้วยธรรม คือเจริญธาตุกรรมฐาน เพื่อให้ได้รู้สภาวะธรรมตามความเป็นจริงนั้นๆ

 

ไม่ติดสุขค่ะ ยังเฉยๆๆอยู่กับหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทั้งดีและไม่ดี เพราะทุกสิ่งล้วนอนิจจัง พยายามทำจิตเกาะพระไปเรื่อยๆๆค่ะ ขอบพระคุณที่ชี้นำนะค่ะ

 

ตกใจหมดเลยพี่เพ็ญ wittyนี่ชื่อเล่นผมทีคนญี่ปุ่นชอบเรียกเลยนะครับ
พี่นี่มาแอบรู้ได้ไง
สบายดีครับ พี่เพ็ญละครับ สงสัยตอนนี้ลูกศิษย์พันรอบตัวหลายรอบเลยใช่ไหมครับ
ดูแลขันธ์ด้วยนะครับ เป็นห่วง

 

สวัสดียามเย็นค่ะพี่ๆ ทุกท่าน...
พี่เพ็ญคะ... มีการบ้านที่ jitkohphra.com ๒ คนนะคะีที่รอพี่ๆ ไปตรวจ
(นั่นไง.. เป็นฝ่ายมาตามครู แทนลูกศิษย์ซะแล้ว)
ต้องขออภัยหากกำลังตรวจอยู่
แหะๆ

น้องฝากลูกเรือเกาะพี่เพ็ญไปอีกคนนะคะ
(น้องส่งรายละเอียดไปทางเมลพี่เพ็ญแล้วนะคะ)

​

 

ก็พี่เป็นหญิงใหญ่ของบ้านนี่นา..
เที่ยวนานไม่ได้นะคะ ฮ่าๆ..

 

แอบดู เค้าตามครู อิอิ

 

ท่านพี่ คุณครู Witty ก็ต้องไปตรวจการบ้านด้วยนะคะ
ฮ่าๆ..

 

เอ๊ะ..ใครไปไหนโหมดเนี๊ย ทำไมต้องปล่อยเราอยู่เดียวดายทุกทีเรยอ่ะ

 

เดี๋ยวจะพูดเรื่อง จิตหลง
พอดีจับสัญญาณได้
รอแป๊บนะ

กายทางโลกนี่มันยุ่งเจงๆ

วันนี้ทำไมจิตบุญทั้งหลาย ไม่มีธรรมะมาฝากกันเลย
อย่ามัวแต่ขำกันนะ
ลูกหลานเหลนของพระพุทธเจ้า ท่ารอกันอยู่

มาเลยนะ ธรรมวันละประโยค ท่านพ่อให้พวกเราฝึกประเทืองปัญญา
ทางโลกก็ยุ่งกันไป ปล่อยมัน จะไปสนใจอะไรกับมันมาก
เพราะสิ่งที่พวกคุณบอกว่า กำลังยุ่งๆกันอยู่นั้น
มันก็แค่ของชั่วคราว สมมุติกันเท่านั้น

ของจริงๆอยู่ที่นี่
ที่ในกาย ในจิตของเราต่างหาก

สติๆ อยู่ที่ไหนกันหมด
เดี๋ยวตายกันตอนนี้แล้วจะทำยังไง

อยากเป็นเหมือนสาวที่บอกให้เพื่อนไปขุดนำซากศพของเธอขึ้นมาให้หน่อยบ้างไหน(ข่าวที่จ.ชลบุรีนี้ไม่นาน)
ตายไปแล้วก็ยังหลงทาง นึกว่าร่างนี้ของตน จิตก็เลยวกวน เวียนไป เวียนมา แถวๆที่คนรู้จักกันเท่านั้น
เพราะจิตไม่มีพลัง หรือไม่มีพลังจิตที่จะไปจุติบนชั้นสวรรค์ ชั้นพรหมกันได้
เพราะคนไม่มีสติกัน

แต่ถ้าคนมีสติจะไม่มีฝักฝ่าย หรือฝ่ายใด ในโลกนี้ก็ไม่มีสีอยู่จริง
หลงสมมุติกันทั้งนั้น
ขขนาดตื่นนอน นอนแล้วก็ตื่น เปิดตากันแล้ว ตาก็เห็นกันชัด
แต่กลับมองไม่เห็นว่า จิตของตนเองหลง

หลง
หลง
และก็
หลง