[[***2013***]] = โลกเปลี่ยนเป็นมิติ5 ??? หรือ โลกยังเหมือนเดิม ???

ถ้าจะเอาเรื่องนั้นจริงๆ มันก็แค่......ให้สติกำจัดอวิชชาออกไปให้หมด.......ง่ายๆ

 

นี่ถึงจะสมกับที่เป็นลูกศิษย์ของพระพุทธเจ้าครับ
พระองค์มีจิตใจดีงามสูงส่ง สอนแต่ให้คนเป็นผู้มีเมตตา
ลดอัตตาตัวตนลง..แต่พวกเรา..ผมหมายถึงพวกเราทุกๆคนจริงๆ

ลองย้อนกลับไปดูกระทู้นี้ตั้งแต่ต้นจนจบสิครับ
รวมถึงดูชื่อกระทู้ และ ดูลึกลงไปถึงที่ใจและเจตนาของคนตั้งกระทู้ดูสิครับ
และดูลึกลงไปที่ใจของตัวผมเอง ตัวเฉียวฟง และคนอื่นๆด้วยทุกๆคนสิครับ
ว่าพวกเราเป็นอย่างไรกันบ้าง ตอนนี้ระดับความสั่นสะเทือนของใจพวกเรา
เป็นบวกหรือลบ สูงหรือต่ำ เป็นกุศลหรือเป็นอกุศล มากกว่ากัน

บางคนอาจจะอยากจะหลอกคนอื่นต่อไปอยู่
แต่เชื่อเถอะว่าท่านหลอกตัวเองไม่ได้หรอกครับ

การทะเลาะเบาะแว้งกัน มีหรือที่คู่ทะเลาะ จะไม่สรรหาคำมาว่ากัน
หรือมาแย้งกัน หรือ อย่างน้อยก็เสาะหาช่องทางมาตำหนิกันหละ อะไรแบบนั้นเป็นต้น

ความยึดมั่นในอัตตาตัวตน พวกเรายังมีกันทุกๆคนนั่นแหละครับ
เน้นว่าทุกๆคน แน่นอนว่าไม่ยกเว้นตัวผมเองด้วย
เพราะว่าตราบใดที่เรายังไม่ถึงอรหันต์ ตราบนั้นเราก้ยังมีอัตตาตัวตนอยู่

พวกเราหลายคน ก็เป็นศิษย์มีครูบาอาจารย์ ลองคิดดูหน่อยสิว่า
ครูบาอารย์ของเรา จะภาคภูมิใจในสิ่งที่พวกเรากำลังกระทำกันอยู่นี้ไหม
พากันปฏิบัติไปทำไมธรรมะหนะ พากันนั่งสมาธิไปทำไม
ถ้ายังจะมีแต่การ "เพ่งโทษ" คนอื่นอยู่ มองเห็นแต่ความชั่วของคนอื่นอยู่
ส่วนของตัวเองหนะ ดีเลิศไปซะทุกอย่าง
และอีกครั้งหนึ่ง นี่ก็หมายถึงทุกคนด้วยครับ

และลองถามใจตัวเองดูเถอะว่า เราจะเถียงเขาไปจนถึงเมื่อไหร่
เราอยากได้อะไรจากการเถียงกับเขาในครั้งนี้

ถ้าคำตอบคือ เราอยากจะอธิบายให้เขาเข้าใจ ในสิ่งที่เขายังไม่เข้าใจในตัวเรา
นั่นหนะ ผมว่า ยังไงก็ไม่เข้าใจได้ภายในระยะเวลาอันสั้นนี้หรอกนะครับ
เพราะว่า ผมพูดหลายครั้งแล้วว่า ผมยังไม่เห็นการโต้เถียงกันในกระทู้ไหนเลย
ที่จบลงด้วยการที่มีฝ่ายหนึ่งออกมายอมรับว่า โอ..พระเจ้าช่วย
ที่แท้ของคุณก็ถูกต้องดีงามนี่เอง ส่วนความคิด/ความเชื่อของฉันนั้นมันไม่ถูกต้อง
เพราะฉะนั้น จากนี้ไป ฉันจะคิดและเชื่อตามคุณดีกว่า

ไม่เคยปรากฎครับ มีแต่จะเอาความชั่วที่แต่ละคนมีอยู่ กองสูงเท่าภูเขา
ออกมาอวดกัน ออกมาแบ่งกันดู ให้คนอื่นๆได้ดูด้วย
นั่นเหรอคือความก้าวหน้าของ ผลการปฏิบัติธรรมของพวกเรา
ยิ่งปฏิบัติมาก ก็ยิ่งจับผิดคนอื่นมาก ก็ยิ่งเที่ยวด่าคนอื่นไปทั่ว
ก็ยิ่มมีอัตตาตัวตนมากขึ้นอย่างนั้นเหรอ ..ผมหมายถึงตัวเองด้วยนะครับ
เพราะว่าที่พิมพ์อยู่นี่ ก็เพื่อเตือนสติตัวเองด้วย..เป็นหลักเลยทีเดียว

และอีกอย่างหนึ่งที่ผมคิดได้ก็คือ อย่างเจ้า HLC นี่
ก็ในเมื่อเขาเป็นคนอย่างนั้นอยู่แล้ว คือเขาเที่ยวไปด่าคนโน้นคนนี้
ในกระทู้ของใครต่อใครมากมายเป็นปกติของเขาอยู่แล้ว
แล้วก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลยด้วย เพราะเขาทำแบบนั้นมาหลายปีแล้ว
แล้วผมจะไปเป็นเดือดเป็นร้อนทำไม เพราะเดือดร้อนไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้
เพราะว่านั่นหนะคือตัวตนที่แท้จริงของเขา เรามิอาจแก้ได้ และก็ไม่มีสิทธิ์ด้วย

และอีกอย่างหนึ่ง ถ้ากล้าพูดว่าตัวเองเป็นผู้ปฏิบัติธรรมคนหนึ่งแล้วหละก็
ผมก็ควรจะรู้ว่า ทุกข์หนะมันอยู่ที่ไหน..อยู่ที่นาย HLC หรือว่า
อยู่ที่ "ในใจ" ของตัวเองนี้กันแน่..และดังนั้น ถ้าจะแก้ มันต้องแก้ที่ไหนหละ?

สรุปว่า..ใครเขาจะคิดอย่างไรกับเรา เขาจะเข้าใจผิดเข้าใจถูกอะไร
นั่นก็เรื่องของเขา เพราะว่าแต่ละคน ย่อมมีวิถีทางของตัวเอง
เขาได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราทำ ก็ดีสำหรับตัวเขาเองไป
แต่ถ้าไม่ได้ประโยชน์ กลับได้โทษ นั่นก็คือสิ่งที่เขาเลือกเอาเองอีกเช่นกัน

ไม่มีใครในโลกนี้หรอก ที่คิดว่า สิ่งที่ตัวเองกำลังทำอย่างดีที่สุดอยู่นี้ คือสิ่งที่ผิด
อันนี้หมายถึงทั้งตัวผมเอง ทั้งเฉียวฟง ทั้ง HLC และทั้ง จขกท ด้วยนะครับ
เพราะว่าในมุมมองเขาตัวผม/ตัวพวกเขาเองแล้ว ไม่มีใครคิดว่าตัวเองกำลังทำผิดอยู่หรอก

อ้าว..แล้วทำไมมันถึงไม่เหมือนกันหละ เราควรจะมีมาตรฐานมาวัดถูกผิดหน่อยดีไหม?

นั่นก็เปล่าประโยชน์อีกนั่นแหละครับ เพราะว่าความจริงมันมีหลายระดับ
สมมุติบัญญัติ ที่แต่ละคนยึดติดอยู่มันก็มีหลายระดับ และไม่เหมือนกันด้วย
แว่นตาที่แต่ละคนใส่อยุ่ ก็คนละสีด้วย เพราะฉะนั้นแล้ว ทุกคนจึงมองเห็นโลกคนละสีกัน

คิดว่า..สำหรับผม..นี่น่าจะเป็นบทสนทนาครั้งสุดท้ายสำหรับกลุ่มคนกลุ่มนี้แล้วหละครับ
ไม่ว่าพวกท่านจะทำอะไรต่อไปหรือไม่ก็ตาม
เพราะว่านี่..ก็ทำให้ครูบาอาจารย์อับอายขายหน้ามามากพอแล้ว
รวมถึง..ผมคิดว่า..สิ่งที่ผมควรทำ..ผมก็ได้ทำหมดแล้วด้วยหละครับ

ขอให้โชคดีทุกท่านครับ และขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปทุกๆท่านด้วยนะครับ
อะไรก็ตามแต่ที่ผมได้ล่วงเกินท่านทั้งหลายไป ไม่ว่าจะเป็นคุณเฉียวฟง
คุณ จขกท และคุณ HLC ด้วย ผมต้องขอกราบขอขมาลาโทษ ขออโหสิกรรม ด้วยใจจริง
เอาไว้ ณ.ที่นี้ด้วยนะครับ

และหากแม้มีสิ่งใดก็ตาม ที่พวกท่านได้ล่วงเกินกระผมไว้ ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม
ผมก็ขอยกโทษ และให้อภัยในทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งหมด ทั้งปวง ด้วยใจจริงเช่นเดียวกันครับ
เพื่อที่พวกเราจะได้ไม่ต้องมีเวรมีกรรม เกี่ยวข้องกันอีกในภายภาคหน้า

Chayutt
..........................................................................

 

ขอบคุณ ครับ ที่ แสดง ความรู้ ความ เข้า ใจ มิติ ที่ 5 ใน ความ เข้า ใจ ที่

ท่าน ได้ กล่าว ไว้ ใน สาร์น ต่าง ๆ .... (จะ เอา ไป สอบ ถาม ... ต่อ ไป)

ผู้ อื่น ก่ จะ เข้า ใจ ตาม สาร์น


จาก ที่ ท่าน เล่า มา บาง เรื่อง ผม ก่ ประ จักษ์ เช่น ท่าน เหมือน กัน

ใน ตำรา โบราณ หรือ ใน ไตรปิฏก มี บาง สิ่ง ที่ ระบุ ไว้ มาก มาย แต่

เกิน ความ จำ เป็น ที่ จะ ต้อง รู้ และ มัน ไม่ ใช่ ความ รู้ เพื่อ หลุด พ้น

ทำดี ละชั่ว และ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์

ก่ ถึง ว่า มาก มาย อย่าง ที่ สุด แล้ว ส่วน อื่นๆ กะ จะ ให้ มัน รู้ เสีย

ทุก อย่าง ใน องค์ ประกอบ ของ จิต เลย .... อย่าง นี้ เรียกว่า

ขั้น บ้า แล้ว

ทำ ดี : อะไร ทำ ดี ก่ ดู เอา อะไร ดี

ละชั่ว : ก่ ดู สิ ว่า ชั่ว คือ แบบ ไหน ดู ง่าย จะ ตาย เช่น ด่า ผู้ อื่น ว่า .....

แบบ นี้ ชั่ว มั๊ย เพราะ สิ่ง นี้ เกิด ขึ้น อยู่ กับ ใจ ตน ...คือ ไม่ รักษา ใจ ตน

ผู้ อื่น อาจ มี ผล กระทบ ได้

ทำจิตใจ ให้ บริสุทธิ์ : เป็น กระบวน การ ชำระ กรรมบาป และ

การ วาง ทุก สิ่ง แม้น บาป และ บุญ (อุปมาให้เข้าใจโดยย่อ)

จะ เอา อะไร อีก ล่ะ นอก จาก นี้ แค่ 3 คำ ไม่ พอ หรือ ....

ที่ ท่าน ชยุต กล่าว มิติ ต่าง ก่ เห็น ด้วย ครับ เพราะ แตก ต่าง กัน

จึง ต่าง กัน .... จะ แตก ต่าง ด้วย อะไร ก่ สุด แล้ว แต่ เงื่อน ไข

ของ ความ ต่าง กัน

จะ ยก ตัว อย่าง เช่น ใคร ก่ ตาม ที่ ยัง ทำ ดี เพื่อ บุญ

หรือ ยัง มัว เมา กับ การ ทำ บาป เช่น การ เบียด เบียน ผู้ อื่น ทั้ง กาย

วาจา และ ใจ (เพื่อกระทบ) แบบ นี้ คือ บุคคล ที่ ยัง สัมผัส อยู่

กับ บุญ และ บาป .... นั่น คือ ยัง อยู่ ใน กระบวน วัฏฏ หรือ วังวน

ของ มิติ แห่ง บุญ และ บาป

มิติ แห่ง บุญ และ บาป เป็น เรื่อง ที่ ไม่ ได้ ก้าว พ้น ออก จาก เรื่อง

เดิม ๆ หรือ เรียก ว่า ไม่ ไป สู่ มิติ อื่น ๆ

ดังนั้น การ จะ อยู่ มิติ ไหน นี่ อยู่ ที่ ตัว ตน ใคร คือ ผู้ ที่ สัมผัส เป็น ประจำ

สัมผัส บุญ และ บาป ก่ ยัง คง วน อยู่ ใน มิติ บุญ และ บาป ต่อ ไป

ไม่ ได้ ไป ไหน ดอก ครับ

ไม่ แน่ น่ะ ครับ ท่าน ชยุต สัมผัส กับ มิติ ที่ ท่าน รู้ จัก มาก ๆ

ไม่ ได้ วน อยู่ กับ บุญ และ บาป อาจ จะ ได้ ไป มิติ พิเศษ อื่น ก่ ได้...

หาก ท่าน ชยุต ทำ เรื่อง ที่ สัมผัส กับ บาป มาก เรียก ว่า สื่อ กับ บาป

มาก ก่ จะ มี พวก ที่ เป็น สื่อ บาป มา วน เวียน อยู่ ใกล้ ๆ และ เป็น ครู

ช่วย สอน แต่ สิ่ง บาป ให้ กับ คุณ ชยุต (ขออภัย ที่ต้องเอยนาม)

ใคร อยาก ลอง ว่า จริง หรือ ไม่ จริง ก่ ทำ ได้ ครับ อัน นี้ ไม่ ห่วง ความ รู้ .....

แต่ ถ้า คุณ ชยุต ยัง ทำ บุญ ท่าน ก่ จะ มี สื่อ บุญ มา วน เวียน อยู่ ใกล้ ๆ

และ จะ ชัก นำ ไป ยัง มิติ ที่ อยู่ ใน กลุ่ม เดียว กับ บุญ ที่ คุณ ชยุต ทำ ไว้

ใคร มี กำลัง แรง มาก กว่า กัน ก่ ไป มิติ นั้น ๆ ล่ะ ท่าน ชยุต

สิ่ง ที่ ท่าน เขียน เตือน หรือ ยก มา ก่ ไม่ ใช่ สิ่ง เหลว ไหล หาก พิจารณา

ให้ ดี จัก สามารถ อธิบาย สอด คล้อง ความ เชื่อ เก่า ๆ ได้ ดี ครับ ...

คน รุ่น ใหม่ ความ รู้ ใหม่ (นำเสนอแบบใหม่) แต่ ยัง เป็น ความ รู้ สากล

ได้ อยู่..... คน รุ่น เก่า อาจ จะ อ่าน แล้ว ไม่ เข้า ใจ ก่ ได้

ทำ บุญ ด้วย ใจ ปรารถนา บุญ ก่ ยัง ไม่ หลุด จาก มิติ แห่ง บุญ

ทำ บาป ด้วย การ ลื่น ไหล ไป ตาม อำนาจ แห่ง อมนุษย์ ต่ำ ทราม
ก่ จะ ยัง จะ ตก อยู่ ภาย ใต้ มิติ แห่ง ความ ชั่ว

การ ทำ ดี ทำ อย่าง ไร ทำ ดี เพราะ ดี
การ ละ ชั่ว ทำ อย่าง ไร ละ ชั่ว เพราะ ไม่ ดี

ดี หรือ ไม่ ดี คือ การ สัมผัส รู้ ว่า ดี หรือ ไม่ ดี

การ สัมผัส รู้ นี่ ล่ะ คือ ทาง ที่ จะ ก้าว ข้าม ผ่าน มิติ

ไป ดู เอา เอง .... สติ ไม่ ใช่ วิธี การ ก้าว ข้าม ผ่าน มิติ

เพราะ ลึก โดย แท้ คือ ใจ เป็น สำคัญ มาก คือ ใจ ยัง ดี อยู่

เมื่อ ใจ รู้ สึก ไม่ ดี คือ ไม่ ใช่ ไม่ ควร ทำ

ไม่ มี อะไร เลย สติ ก่ ไม่ ใช่ ..... อยู่ ที่ ใจ เท่า นั้น

สัมผัส รู้ ที่ ใจ .... เข้า ใจ ว่า คุณ ชยุต จะ รู้ แล้ว ว่า ตน เอง อยู่ มิติ ใด

-----------------------

หาก ผม จะ บอก ว่า มนุษย์ มี ขันธ์ มาก กว่า ขันธ์ 5 ล่ะ

จะ มี ใคร ที่ จะ ยอม รับ ความ เห็น ต่าง หรือ เปล่า

จะ มี ใคร ที่ จะ สัมผัส หลุด ออก จาก กรอบ หรือ เปล่า

และ ทำ ไม ตำรา โบราณ ต้อง มี เพียง 5 ขันธ์ ล่ะ...

แต่ ละ ขันธ์ หมาย ถึง อะไร

ใน ตำรา โบราณ ก่ อธิบาย ไม่ กระจ่าง

แล้ว อย่าง นี้ ยัง จะ กอด ตำรา กัน อยู่ อีก

เพราะ เพียง ว่า มี มหา บุรุษ ท่าน หนึ่ง บอก ไว้

และ ทำ ไม ไม่ พิสูจน์ ด้วย ตน เอง....

ธรรม ที่ ตน เอง แจ้ง ไม่ จำ เป็น ต้อง เหมือน กับ

มหา บุรุษ เอก เพราะ ต่าง มี มิติ สัมผัส ที่ แตก ต่าง ได้

คือ ท่าน ไม่ จำ เป็น ต้อง ไป มิติ แห่ง นิพพาน แต่ จะ ก้าว ข้าม ก่ ได้

ขอ เพียง ละ บุญ ละ บาป

คือ ละ การ ยึด ติด บุญ ละ บาป ชำระ จิตใจ ให้ บริสุทธ์ เป็น

ขั้น พื้น ฐาน .... ละ ยึด ติด ใน ตัว ตน หรือ สิ่ง ที่ มอง เห็น จาก

กาย เนื้อ (มิติที่ 3 หรือ 4 แล้วแต่จะเรียกกัน) เน้น ความ

รู้สึก สัมผัส ที่ เกิด จาก ใจ เป็น สำคัญ ก่ จะ ค่อย ๆ พัฒนา

เลื่อน ลำดับ (ตาม ที่ ท่าน ชยุต ว่า นั้น ก่ ได้ ) ได้ เอง

อย่าง รวด เร็ว

อ่าน บท ความ ก่ มา เทียบ เคียง

ไม่ จำ เป็น ต้อง เหมือน กัน เพราะ มิติ ตน เอง สัมผัส

อยู่ ต่าง เงื่อน ไข กัน ใน แต่ ละ คน ....


แต่ แย้ง นี่ ก่ ดี เหมือน กัน น่ะ .... จะ ได้ ไข ก๊อก ความรู้

ของ แต่ ละ ท่าน ออก มา แสดง ให้ กระ จ่าง

 

เริ่มเบื่อ พวกแสงสว่างแล้วเรา
ไม่รู้ใครมาตั้งให้ว่าเป็นแสงสว่าง หรือ ตั้งกันเอาเอง
พวกแสงสว่าง ทำตัวเหนือกว่าวิเศษคนอื่น
คิดว่ารู้มากกว่าคนอื่น
ใครคิดต่างก็หาว่าเป็น พวกมืด และ ต้องทำลายให้หมดไป

ความรู้ก็เอามาจากที่อื่นๆ ไม่ได้มาจากตัวเองสักหน่อย ดีที่มีทักษะแปลอังกฤษเก่ง อ่านมากแปลมาก สะสมหลายปี
เลยเกิดปัญญา มาอวดรู้ มาโต้เถียง มาสอนคนอื่นไปทั่ว

เราอ่านตอนแรกตื่นเต้นดี แต่สักพัก
เราอ่านไปอ่านมาก็ไม่มีอะไรใหม่ เพียงแต่ ข้อความโลกมิติ สามารถอธิบายได้เป็นเหตุเป็นผล ด้วยหลักวิทยาศาตร์ กับคำศัพท์ใหม่เท่านั้นเอง

เรื่องเก่านำมาเล่าใหม่ อีกรูปแบบหนึ่ง
สิ่งเดียวกัน แต่อธิบายอีกมุมหนึ่งที่เข้าใจด้วยเหตุและผลมันก็เท่านั้นเอง ทำเป็นตื่นเต้นไปได้ ทำเป็นอวดรู้ไปได้
ทุกดวงจิตก็รู้กันหมดแล้วแหละ เพียงแต่บางดวงจิตหลงๆ ลืมๆ ก็เท่านั้นเอง

พวกแสงสว่างเอ๋ย !!!
อ่อนน้อม ถ่อมตนเสียบ้าง
ทุกดวงจิต คือพระเจ้า เหมือนพวกตน ทั้งนั้นแหละ
อย่าทำตัวเป็นมีความรู้มากกว่าคนอื่น ไปหน่อยเลย

พวกที่อยากเข้า โลกมิติ5 นี้น่าเป็นห่วงที่สุดเลย
อารมช่วงนี้มันรุนแรงปล่อยให้พวกเค้าสนุก ตื่นเต้นสักพัก
เดี่ยวก็เริ่มเบื่อกัน พอโลกเข้ามิติ5 (หากเป็นจริง)
อีกสักพัก พระเจ้า ก็บอกว่า ไปเล่นโลกมิติที่ 6 7 8 9 10... ไม่มีที่สิ้นสุด
แต่เรียกศัพท์สวยหรู เรียกว่าเลื่อนระดับขั้น
มันก็วนเวียนเลื่อนระดับกรงขังในโลกมายาอยู่นั้นแหละ

อยู่กับปัจจุบัน มีความสุขดีกว่าเรา
อ่านมากเริ่มมึนและปวดหัว สุดท้าย เพี้ยน
ความรู้เรามันน้อย เขียนก็ไม่เก่งเหมือนเขา
เราเข้าใจ ง่ายๆดีกว่า สบายใจดี

โลกมันจะเปลี่ยนเป็น มิติ5 (หากเป็นจริง)
มันก็ยังเป็นโลกมายา ของปลอมทั้งนั้น นะเราว่า

คิดได้แค่นี้ก็สุข สงบแล้วเรา
สุขสงบมันอยู่ข้างในใจเรา ไม่ต้องรอให้โลกสู่มิติ5 6 หรือ 7
สุขสงบที่นี้ ตอนนี้ เดี่ยวนี้ จบ เอวังด้วยประการฉะนี้...

 

เอ้า น่า เรา ก่ ไม่ ได้ อ่าน หมด

เพราะ โรค ขี้ เกียจ กำ เริบ

ท่าน ดี แล้ว ก่ ไม่ เป็น ไร

อาศัย ท่าน ชยุต สอน ชาว บ้าน ไป ดี กว่า น่า

ผม จะ ว่า น่ะ ....

เป้า ประสงค์ ของ การ ทำ นุ บำรุง ศาสนา เลี้ยง ดู พระ

ตักบาตร พระ

คือ ต้อง การ ให้ พระ ไป สอน ให้ ชาว บ้าน

อื่น ๆ ได้ ปฏิบัติ ดี งาม โลก จะ ได้ สงบ สุข

เหมือน กับ ที่ ท่าน เป็น ปัจจุบัน นี่ ล่ะ

พระ จัก สอน คน ให้ เป็น คน ดี โดย ทำ งาน

แทน ท่าน ...ผู้ ให้ อาหาร และ น้ำ ดื่ม



ไม่ บัง อาจ จะ เตือน ท่าน ดอก

แต่ ชวน ใน ท่าน คิด อีก มุม ครับ ท่าน

ทุก อย่าง มัน มี วาระ สมดุล ของ มัน

เอง

 

ใจสัมผัส รู้....... ดี หรือ ไม่ ดี

ใจ สั่น ระรั่ว หนัก ๆ อึดอัด คือ ไม่ ดี

ใจ สงบ นิ่ง สบาย คือ ดี

สัมผัส รู้ เท่า นี้ กาย เนื้อ ก่ ควร ตระ หนัก รู้ ว่า

ควร กระทำ หรือ ไม่
ควร พูด หรือ ไม่

ใจสั่น ผิด ปกติ รู้ ว่า ไม่ ดี แต่ ทำ .... แบบนี้ เรียกว่า การกระทำ ไม่ดี

สติ คือ อะไร ล่ะ ..... รู้ ปัจจุบัน .... และ ต้อง การ ให้ รู้ อะไร? เพื่อ อะไร?

เพื่อ ทำดี ละชั่ว ทำจิตใจให้ บริสุทธิ์ ใช่ หรือ เปล่า


หรือ ว่า ทำ เพื่อ รู้ กาย รู้ จิต แล้ว อย่างไร

รู้ กาย รู้ จิต แต่ ยัง ทำ ชั่ว ได้......

รู้ กาย รู้ จิต ทำดี หวังบุญ ได้......

มี สติ ก่ ทำ ชั่ว ได้ เพราะ รู้ ว่า ทำ ชั่ว รู้ ปัจจุบัน ว่า ทำ ชั่ว นี่ ก่ เรียก ว่า สติ

อยาก รู้ ต้อง รู้ ไป ให้ ถึง ใจ เลย

สติ คือ รู้ ใน สิ่งที่ทำ ขณะ ปัจจุบัน .....

ไอ่ ตี๊ใหญ่ มี สติดี แต่ ก่ ทำ ชั่ว ได้สำเร็จ แบบ นี้ ก่ เรียกว่า มีสติ เหมือน กัน



มี สติ ปัญญา เกิด ..... คำ นี้ ใคร ผู้ รู้ ช่วย ตอบ ที ใช่ หรือ ไม่

เคย ได้ ยิน

สติ ดี

สติ ไม่ ดี

ดังนั้น ไม่ ต้อง ไป เหมา ว่า การ เรียน เพื่อ มี สติ คือ คน ดี ทั้ง หมด

สติ มา ปัญญา เกิด จริง หรือ ไม่

 

เราไม่ได้ว่าใครนะ
ตอนแรกเราเริ่มเปิดใจกับความรู้ใหม่ๆ
แต่ประสบการครั้งแรกกับพวกแสงสว่าง ทำให้เรามีความรู้สึกไม่ดี เค้าตีความหมายเราผิด หรือ เราตีความหมายเค้าผิดเราไม่รู้
บางครั้งเรา งง โกรธ น้อยใจ
เราอาจคิดผิดก็ได้นะ แต่มันก็คือเราเป็นเช่นนั้น

แต่ดี่ยวนี้ คิดได้แล้ว
โลกมันจะแตก หรือ โลก มันเข้ามิติที่5 ช่างมัน
เริ่มปลงๆๆ แล้ว ขี้เกียจหาคำตอบเพิ่ม
กับคนความรู้มากแต่นิสัยแย่ๆ ไม่อยากรู้เสียดีกว่า

phudit999
อยากเขียนทำอะไรกัยกระทู้ก็ทำไปเราไม่ว่านะ
กระทู้เรามันไร้สาระนะ อิอิ

ครั้งแรกตั้งกระทู้ก็มีคนมาโพสต์เยอะก็แปลกใจ ตกใจเหมือนกัน
ก็สนุกดี ประสบการใหม่ เราขี้เกียจมาอ่าน บ่อยๆ
ต้องตอบ โต้เถียง โอ้ย ปวดหัว
มีงานต้องทำ

phudit999
อยากดำเนินต่อไปก็แล้วแต่นะ
เรา พอก่อน สายตามันมึนๆ นั่งหน้า คอมนานๆ

ร้อนๆไปเที่ยวทะเลดีกว่า อยู่กับธรรมชาติ สุขใจกว่าอยู่กับมนุษย
ไม่ต้องเถียงกับใคร ทะเล ต้นไม้ เถียงกัยเราไม่ได้ อิอิ

 

ไม่เคิ่ล กับเพื่อน ร้องเพลง วี อาร์ เดอะ เวิลด์ตั้งแต่ ปี27จนแกตายไปแล้ว...โซมาเลีย ซูดาน เอธิโอเปีย รวันด้า...สู้รบฆ่าฟัน..ก็ยังมีคนอดอาหารตาย ทารกเกิดมาป่่วยตาย.....จะเอาความเปลี่ยนแปลงในแง่ใหนล่ะ...ใครเป็นคนทำ

 

ดี ครับ อยู่ กับ ธรรม ชาติ

รับ พลัง จาก ธรรมชาติ ก่ อย่า ลืม ส่ง คืน ให้ ด้วย น่ะ ครับ

เด๋ว มัน จะ เป็น พิษ
-----------------------
ผม เด๋ว มา เด๋ว ไป ตาม โอกาส

นิสัย จะ ดี จะ แย่ ก่ เรื่อง ของ เขา ....

แต่ ขอ ให้ เป็น คน ดี ของ โลก ก่ แล้ว กัน ....


ไม่ ดี กับ เรา แต่ ดี กับ โลก ....ดี มั๊ย

ไม่ ดี กับ เรา แต่ ดี กับ เพื่อน ๆ เรา .... ดี มั๊ย

ไม่ ดี กับ เรา ... เพราะ ธรรมชาติ สอน ให้ เรา ... ดี มั๊ย ให้ ล่ะ วาง ตัว ตน... นี่ ล่ะ ธรรมชาติ หาก เขา ไม่ ว่า เรา นี่ สิ

ธรรมชาติ ไม่ ดู แล เรา(ตัวท่าน) .... ดี หรือ ไม่

หาก เขา ตอบ รับ เรา ดี .... แล้ว เรา หลง ใน ตัว ตน ....ต่อ ไป ดี มั๊ย

ไม่ อยาก คุย ปวด หัว เวียน หัว .... ไป หา ธรรม ชาติ .... ดี มั๊ย

เห็น ไหม ธรรม ชาติ ให้ สมดุล แก่ ท่าน แล้ว .... นี่ ล่ะ

เขา เรียก ว่า เห็น ทุกข์ แล้ว จึง หา ธรรมชาติ... เลิกเถียง

ผิด กับ อีก คน ไม่เห็นทุกข์...ในตน .. เถียงยัน ป้าย...ก่ะเอา ให้ อยู่หมัด

....ลอง นึก ดู ว่า ใคร จะ อยู่ หมัด.....ถูก หมัด ตัวเอง น๊อค ก่อน ไม่ว่า

 

GOD ต้องการวิญญาณคนบาปไปเปิดประตูสู่โลกใหม่ โดยมีมิติที่ 5 เป็นเครื่องทดสอบแค่นั้นเอง ตอนนี้เท่าๆที่รู้ จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่
มีใครมั่งไม่เคยทำบาป มีแต่บาปมากรึบาปน้อยแค่นั้นเอง ขึ้นอยู่กับตบะของแต่ละคนด้วย

 

GOD เอ็งนี่เรื่องมาก เพ้อเจ้อ หมกมุ่น จังเลยว่ะ

มีปัญหาทางจิตแบบเอ็งรึเปล่า

(||)(||)(||)(||)(||)

 

ที่ท่านChayuttว่า...
"ไม่เหมือนนิยามของศีลแบบพุทธเรานะ
ที่ว่าคิดหนะไม่ผิดหรอก แต่ทำสิถึงจะผิดศีล"
....................................................

ไม่ค่อยมีความรู้เท่าไหร่ แต่ที่พุทธบอกว่า
กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม
พอจะเทียบเคียงได้มั้ยท่านๆ
ในกรรมบท 10 บอกไว้คลุมทีเดียว
...พุทธน่าจะดูดีขึ้นบ้างมั้ยท่าน
ทุกศาสนาน่าจะสอนให้ดี
หากคนศาสนาอื่น>>
ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ลักทรัพย์ ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่โกหก ไม่ติดสุราสิ่งมึนเมา(มัวเมา)
ก้อถือว่าไม่ผิดศีล5และถือว่าเป็นคนดีแบบไม่จำกัด..ไม่จำกัดศาสนาพอจะได้มั้ย..ท่านๆที่มีความรู้
Copy มา..


<TABLE border=1 cellSpacing=2 borderColor=#0000ff cellPadding=2 width="90%"><TBODY><TR><TD align=middle>
กรรมบถ 10

</TD></TR><TR><TD align=left>กรรมบถ 10 มีอะไรบ้าง กรรมบถ 10 ญาติโยมบางคนไม่เข้าใจ ยังไม่ทราบ ก็จะบอกให้ทราบ
กรรมบถ 10 ทางกายมี 3 คือ
1. ไม่ฆ่าสัตว์
2. ไม่ลักทรัพย์
3. ไม่ประพฤติผิดในกาม
ทางวาจา มี 4 คือ
1. ไม่พูดปด
2. ไม่พูดคำหยาบ
3. ไม่พูดส่อเสียดยุยงให้เขาแตกร้าวกัน ไม่นินทา
4. ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล
ทางใจ มี 3 คือ
1. ไม่คิดอยากได้ทรัพย์สมบัติของบุคคลอื่น โดยไม่ชอบธรรม
2. ไม่จองล้างจองผลาญใคร คือ ไม่พยาบาท ความโกรธยังมี
3. มีความเห็นถูกคือ สัมมาทิฏฐิ มีความเห็นตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่คัดค้าน
นี่ กรรมบถ 10 แบ่งไปตาม กาย วาจา ใจ ก็เอาสติเข้าไปควบคุมว่า ศีล 5 ก็ดี กรรมบถ 10 ก็ดี มีกี่สิกขาบท มีอะไรบ้าง คุมไว้ไม่ยอมลืม ใหม่ ๆ ก็ลืมบ้าง เป็นของธรรมดา
</TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- google_ad_section_end -->

 

ทุกอย่างเป็นธรรมดาเป็นธรรมชาติ
ทำไมคิดว่าเป็นของใหม่อะ..หรือว่า "เพิ่งรู้"
ทุกศาสนาสอนให้ดี
วิธีการอาจมากมายเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย
ศาสนาคือสิ่งที่นำพามนุษย์ให้เข้าถึงความดี
ถ้าลองเข้าให้ถึงแก่นแท้จริงของแต่ละศาสนาแล้ว
คงไม่ต้องมาโต้แย้ง พาดพิงว่าอันเก่าเค้าไม่ดี
อันใหม่ต่างหากที่ยังต้องพิสูจน์ให้คนที่เค้าสงสัยเห็นว่า
นี่คือของแท้..ไม่ใช่..ของดัดแปลง..

 

ขอบคุณและยินดีที่ได้รู้จักคุณ ann ค่ะ...เรามาเป็นกำลังใจให้ทุกท่านกันนะคะ...ความคิดต่างๆ ที่ทุกท่านมี ทุกท่านเป็น... ในช่วงหนึ่ง "เรา" ก็เป็นกันมาแล้ว เชื่อว่าวันหนึ่งทุกท่านก็จะผ่านจุดนี้ค่ะ...และความปราราถนาแห่งชีวิตเดียวกันคือ ความหลุดพ้น....ขอให้ทุกท่านในกระทู้นี้สมความปรารถนา....คุณชยุตตและทีมงานช่วยแปลสาส์นใหม่ๆ ต่อไปนะคะ...โดยเฉพาะของท่านลอร์ดเมตตาตรอน ท่านครายออน ฯลฯ....จะติดตามตลอดไปค่ะ .....

 

จริงๆ ผมติดต่อกับพวกในมิติที่ 5 ได้แล้ว แต่ไม่อยากบอกใครเดี๋ยวหาว่าบ้า

 

รู้ไว้ด้วยนะครับ...ว่ามันไม่มีความหมายกับท่าน แต่มันเป็นโค๊ตสำหรับพวกเราเหล่าเทพ คิดซะว่าอ่านผ่านตาไปละกันนะครับ อย่ามาว่ากันครับ พวกเราอัจฉริยะกว่าท่านมากมายนัก

 

ทดสอบ

เห็นรูปไหมเอ่ย

 

ท่านเอย ไม่สังเกตุกันบ้างหรือว่า คำตอบไหนที่ตอบเขาได้ เขาจะเลยผ่าน แล้วจ้องรอเอาแต่ประเด็นที่เค้าตั้งกรอบเอาไว้ให้เราหลงเข้าไปพันตูกับเขา จะต่อกรกับคนที่ตั้งใจเอากรอบความคิดที่ต่างกันมาเป็นประเด็นทำใม พูดให้ตายมันก็คนละกรอบคนละมิติ การทำให้ผู้อื่นดูด้อยกว่า เค้าเรียกว่า"ข่มเหงทางจิตวิญญาณ" เพียงเพื่อให้รู้ว่าตัวเองเก่งกว่า มันบอกได้ว่าต้องการการยอมรับ เลยจำเป็นต้องแสดงออกข่มทับผู้อื่นเพื่อให้ตัวเองดูดี หากเขาเข้าถึงในความเป็นสัจจะธรรม เค้าจะไม่ยกศาสนาพุทธมาเป็นโล่บัง แล้วเอาศาสนาพุทธไปข่มทับคนอื่น คนอื่นเค้าพูดเรื่องการยกระดับไปสู่มิติอื่น เค้าจะหลุดโลกสมมุติไปไหนมันก็เรื่องของเจตคติ และมโนทัศน์ หารู้ไม่ว่าตัวเองก็ติดอยู่ในโลกของสมมุติบัญญัติ และมโนทัศน์ในอีกมิติหนึ่งเหมือนกัน เอาอย่างนี้นะท่านทั้งหลาย ตอบข้าพเจ้าหน่อยเถอะ รูปที่ท่านเห็นนั่น ท่านเห็นอะไรกัน คิดว่าคงไม่มีใครมาตอบหรอก เพราะกลัวตอบผิด ก็เล่นรอแต่จะป่วนชาวบ้านเค้า

 

เห็นบัวบูชาค่ะfairy3

 

เห็นถูกแล้วจ๊ะแสนคำ แต่ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา จ๊ะ
ภาษาโบราณเค้าเรียกสถานะนี้ว่า "มะม่วงจำบ่ม"
รออีกสองสามล็อคอินปรมจารย์ ไม่มีความเห็นเลยหรือครับ เรียนเชิญนะครับ
เอาหน่อยน่านะปรมจารย์ ไม่มีอะไรผิดอะไรถูกหรอก ไม่เสียหน้าหรอกครับ
ไม่มี ม้าเลว สู้ม้าดี ม้าดีสู้ม้ากลาง ม้ากลางสู้ม้าเลว หรอกครับ
อย่าให้รอเก้อเน้อ ไม่อยากเป็นแม่สายบัว...เอิ๊กก ๆ