ใครมีวิธีทำให้คนที่เค้าไม่เชื่อเรื่องผีสามารถเห็น หรือสัมผัสกับสิ่งลี้ลับได้บ้าง

คือรู้จักกับคนคนนึงเขาไม่เชื่อเรื่องผี ไม่เชื่อศาสนาใดๆทั้งสิ้น รีนาฯอยากให้เค้าหันมาเชื่อศำสั่งสอนของพระพุทธเจ้านะคะ อยากทราบใครมีวิธีเฮี้ยนๆแนะนำบ้าง ช่วยแนะนำหน่อย

 

ให้เขาได้ลองปฏบัติ ท้าเขาไปเลยครับ ศาสนาเรา ไม่สอนให้เชื่ออย่างคนโง่ครับ

หากเขาไม่เชื่อก็ท้าให้ลองปฏิบัติดูสักระดับนึงอะครับ

คำสอนพระศาสดา หมดจด บริสุทธิ์แล้วครับ ลองให้เขาได้มาศึกษา ท้าเขามาลองพิสูจน์ นั่งสมาธิ เจริญภาวนา เจริญสติ ดูครับ

ส่วนตัวผม ไม่แนะนำให้ไป ทดลอง ท้าทาย เรื่องผีสางอะไรนะครับ มันไม่นำพา นะครับผม^^

รออ่านข้อแนะนำท่านอื่นครับ

 

ลองเอาธรรมะที่ผมลงไว้ไปให้เขารับทราบดูสิครับ แนะนำให้เขาได้รู้ ธรรมะของพระพุทธองค์มีความพิเศษที่ลึกซึ้ง หลากหลาย และมีความเหมาะสมกับจริตของแต่ละคน รวมทั้งมีอีกหลายประการที่ไม่สามารถจะอธิบายในที่นี้ได้ครับ ในส่วนที่เกี่ยวกับเรื่องหลังความตายนั้น ผมมีวิธีที่สามารถแนะนำได้ แต่...อันตราย ครับ

 

ตัวรีนาฯเองเคยเจอผีมาหลายครั้งเหมือนกัน แต่สำหรับเพื่อนของรีนาคนนี้หัวดื้อมากคะ อยากให้เขาเห็นจริงๆเพราะเวลาที่เขาจะได้เชื่อศาสนาอาจไม่มากแล้ว ดังนั่นเป็นไงเป็นกัน อยากพิสูจน์ให้เขาเห็น ตัวเขาจะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรและเลิกกังวลกับการกลัวว่าตัวเองจะตายวันนี้พรุ่งนี้และเสียดายความสุขทางโลกที่ยังไม่อิ่มของเขา

 

คนที่มีจริตที่หัวดื้อหัวรั้นนี่ คุณต้องใช้ความพยายามอย่างมาก แต่ขอถามอย่างเดียวคุณทำเพื่อพระพุทธศาสนาจริงรึเปล่า ? เพราะจริง ๆ แล้ว คนที่ไม่เชื่อในเรื่อง "ผี" ก็นับถือพระพุทธศาสนาได้อย่างสบาย ๆ เพราะ "ธรรม" ของพระพุทธองค์เข้าไปได้ มีตัวอย่างหลายคนที่มีความคิดทางวิทยาศาสตร์มาก แต่ก็นับถือพระพุทธศาสนามากด้วย เช่น คุณทันตแพทย์สม สุจีรา เป็นต้น

 

คนมองเห็นคน ชีวิตก็วุ่นวายพออยู่แล้ว
คนมองเห็นผี เพิ่มเรื่องให้ชีวิตเข้าไปอีก วุ่นวายไปกันใหญ่ เสียเวลาทำมาหากิน

เสียเวลาดูระคร ช่องสาม !!

 

สมัครคนอวดผี สิรับรองดังแน่นอน ล่าท้าผี จะได้ไม่เสียเวลาดูช่องสาม มาดูรายการช่อง 7 แทน เฮ่อๆ

 

เรื่องแบบนี้ให้เชื่อยากสำหรับคนที่ไม่เชื่อรู้จักคำว่าบุญทำกรรมแต่งมั้ยคะเดี๋ยวพอถึงเวลาที่เขาพบกับเรื่องเลวร้ายที่สุดในชีวิตธรรมชาติของคนจะวิ่งเข้าหาที่พึ่งเองค่อยเป็นค่อยไปค่ะ

 

ดิฉันทำเพื่อเค้าคะ อยากให้เค้าเห็นทางสว่าง เหมือนทำนองคนบางคนป่วยใกล้ตายแต่ไม่เชื่อเรื่อง ศาสนา เรื่องโลกหลังความตายก็เลยแทนที่รู้ตัวเองใกล้ตายควรจะเข้าวัดกลับเสียดายความสุขที่ใช้ไม่เต็มที่เลย ยิ่งดื่มเหล้า ทำอะไรที่อยากทำหนักเข้าไปอีกเพราะคิดว่าตายไปก็จบกัน ไม่ได้มาดื่ม มาเที่ยว เลยเอาให้คุ้มก่อนตาย ทำบาปหนักเข้าไปอีก อันนี้รีนาเห็นมาเยอะ โดยเฉพาะชาวต่างปะเทศคนแก่ผู้ชายบางคนป่วยเป็นพากินสันใกล้ตาย แทนจะทำบุญก็กลับ กินเหล้ากินเบียร์ ออฟสาวที่ขายบริการในอินเตอร์เน็ตมาทำอะไรกันที่บ้าน ทั้งดูหนังอย่างว่าไม่อายลูกหลาน พอดีคนคนนี้เป็นญาติของเพื่อนรักรีนาฯ.... เลยอยากให้เขาเห็นความจริง แต่เขาก็เถียงว่าจะเชื่อก็ต่อเมื่อเห็นผีจะจะหรือเห็นเรื่องลึกลับอภินิหารต่อหน้าต่ตาเขาจึงจะเชื่อ

 

ครับ..นั่นเป็นอีกประเด็นหนึ่ง เพราะคุณอาจจะมีเจตนาดีต่อเขา แต่ทำไมคุณถึงอยากจะช่วยเขาละครับ เพราะคนประเภทนี้บาปกรรมจะส่งผลเองในไม่ช้า ไม่ว่าเขาจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม ! แม้มันอาจจะสายเกินไปแล้ว...เมื่อเขาตายลงกรรมที่ผิดศิลจะส่งผลหนัก ไม่มีใครช่วยเขาได้ นอกจากพระอรหันต์....ขออภัยที่อาจจะถามยุ่มย่ามมากไป

 

อืม.. ถ้ากิเลสหนัก เกรงว่าอยู่ๆเอาของละเอียดให้ จิตมันยังหยาบ ให้ไปเหมือนเททองใส่ชามก้นรั่ว ไม่สามารถจะรับได้

ก็แนะนำอย่างแรก สิ่งที่คนเรามันกลัวที่สุดคือกลัวตาย กลัวเจ็บ กลัวทุกข์ เพราะงั้น ต้องให้เจอสามกองนี้เต็มๆแบบถึงกึ๋น แบบกระทบใจแล้วเกิดเห็นความไม่แน่นอนในชีวิตก่อน แล้วจากนั้นจิตจะค่อยๆโน้มเข้าหาธรรมเอง


วิธีเห็นผีที่เค้าว่าแทบจะไม่ผิดพลาดนะคะ น้ำตาหมาดำไปแปะเปลือกตาค่ะ แต่ถ้าทำแล้วขอให้เตรียมหาทางแก้ไว้ด้วยนะคะ ของต่ำอย่างแรง เคยฟังเรื่องเล่าว่า มีคนอุตริไปทำจริง ต้องไปหาหลวงพ่อให้ปัดรังควาญกันเลยทีเดียวไม่งั้นเห็นตลอดเวลา

แต่จริงๆไม่แนะนำ เพราะกลัวแทนที่จะเกรงและละอาย แต่เป็นบ้าไปก่อนก็อาจเป็นไปได้ เพราะงั้นเหลือแค่กฏแห่งกรรม เรื่องนี้ต้องรอเวลาเอง และคุณ จขกท. ต้องวางอุเบกขาค่ะ เรื่องธรรม เป็นเรื่องที่ใครทำคนนั้นได้ เราไปยัดเยียดให้กันไม่ได้หรอก

 

ตอนนี้ดึกแล้วขอพักผ่อนก่อนนะครับ

 

เขาเป็นผู้มีพระคุณนะคะจะเปรียบดังพ่ออีกคนก็ไม่ปาน

 

คนเราไม่เห็นทุกข์ไม่เห็นธรรม เขาอาจจะไม่มีฐานบุญมาแต่ภพภูมิก่อน จึงมีอวิชชา(ความไม่รู้)มาก ถ้าอยากช่วยเขาจริง ลองกรวดน้ำแผ่บุญกุศลให้บรรพบุรุษ เทวดาผู้รักษา และเจ้ากรรมนายเวรของเขาดูค่ะ

------------------------
บุญกุศลใดๆที่เกิดขึ้นกับลูก ลูกขอให้บิดามารดามีส่วนได้รับเสมอ

 

เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากเลยครับเรื่องพวกนี้ อยากจะให้เขาเชื่อต้องฝึกปฎิบัติด้วยตนเองจนรู้แจ้งแหละ
อย่างน้อยก็ควรจะเชื่อว่า GOD นั้นมีจริงแท้แน่นอนครับ

 

ก่อนอื่นขอให้คุณแยกแยะสักนิดนะครับ...ที่ว่าเขามีพระคุณนะ ก็สมควรหรอกที่จะเข้าไปช่วยเหลือ แต่ทั้งนี้คุณต้องทราบถึงขีดความสามารถของตนเองด้วย และอีกอย่างก็ต้องทราบถึงต้นทุนบุญกรรมของผู้ที่คุณจะเข้าไปช่วยด้วยเช่นกัน บางทีถ้าเราทราบว่าทั้งสองอย่างนั้นไม่น่าจะเกื้อหนุนให้เกิดความช่วยเหลือได้ ก็ต้องวางอุเบกขา อย่างไรก็ดีขอให้คุณนับถือในพระพุทธศาสนาอย่างจริงใจ ผลดีจะตกถึงตัวคุณและผู้ที่คุณต้องการจะช่วยเหลือเองครับ

จำไว้อย่างนะครับ ทุกอย่างอยู่ที่การกระทำของตนเอง (กรรม) ไม่มีใครมาบงการหรือมีอิทธิพลเหนือคุณได้ ไม่ว่าจะเป็น GOD ไหน ๆ

 

บ้านผมมีผีน้องเขยผมที่ตายมา 10 กว่าปีแล้ว สิงสถิตย์อยู่ หลอกคนในบ้านโดยเฉพาะหลานคนหนึ่ง กดคอบ้าง เป็นเงามืดบ้าง นั่งบังพัดลมยังได้.....

อยากพิสูจน์ไหมล่ะ สงกรานต์นี้จะไปทำบุญให้เขา ไม่ไล่ ไม่ปัดรังควาญ แต่จะทำให้เขาได้ไปเกิดใหม่.....เขาไม่ทำร้ายใคร แต่ถ้ารุ่มร่ามก็ปรากฎให้เห็น กลางวันนี้แหละ ผมอยู่ต่างจังหวัด เพิ่งไ้ด้ข่าวว่าตอนนี้มันเริ่มแกล้งหลานบ่อยขึ้น

แล้วจะมาส่งข่าวให้ใหม่ จะทดลองเอาวีดีโอไปถ่ายด้วย เผื่อฟลุ๊ค ให้คนที่ไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม ได้เห็น เผื่อจะเ้ปลี่ยนใจบ้าง......จะลองดูนะ.

 

ไปบอกให้เค้าลองฉี่ใส่ศาลพระภูมิดูครับ ไม่เกิน 7 วัน เดียวเค้าจะได้เชื่อเองครับ
และเลือกศาลที่เป็นพระพรมด้วย รับรอง เจอแร่ๆ

 

ในทางกลับกัน ก็อาจจะมีคนคนอยู่บางจำพวกมั้งที่เขาเชื่อในพระพุทธเจ้า เชื่อในพระธรรม พระสงฆ์ เชื่อว่าผีวิญญาณมีจริง ตายแล้วเกิดใหม่ชาติหน้ามีจริง แต่ก็ไม่ได้เคยเห็นผีหรือวิญญาณ

หรือคนที่เคยเห็นผีเห็นวิญญาณแต่ก็ไม่ได้ศึกษาหรือสนใจในพุทธศาสนาก็มี หรือนับถือศานาอื่นอยู่ก็มีเยอะแยะ

ถ้าอยากให้เขาเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็น่าจะลองหาคำสอนอะไรซักอย่าง ไปอ่านให้เขาฟัง แล้วให้เขาลองคิดตามด้วยว่า สิ่งต่างๆที่เคยผ่านๆมาทั้งหมดในชีวิตเขามันเป็นยังไง มันเป็นทุกข์มั้ย ? แล้วถ้าเขาต้องการที่จะแสวงหาความสุขต่อไป แล้วมันไม่ได้ดั่งใจขึ้นมา มันเป็นทุกข์อีกมั้ย อะไรทำนองนี้
ให้เขาเข้าถึงด้วยปัญญายังดีกว่าเข้าถึงเพราะความกลัว เพราะจากความกลัวเดี่ยวก็จะกลายเป็นการงมงาย ต้องกราบไหว้ออนวอน ต้องแขวนพระเผื่อที่จะกันนี้กันนั่น

 

ใครมีวิธีทำให้คนที่เค้าไม่เชื่อเรื่องผีสามารถเห็น หรือสัมผัสกับสิ่งลี้ลับได้บ้าง

ต้องฝึกทำจิตของผู้นั้นให้ละเอียดก่อน แล้วถึงจะสัมผัสกับ ผี หรือ วิญญาณได้!
ปัญหามันอยู่ที่ วิธีการที่จะฝึกจิตของผู้นั้นให้ละเอียด เขายอมรับ และมีศรัทธาในการปฎิบัติธรรมหรือไม่?

ถ้าไม่มี มันก็ยาก เพราะเหตุไร?
เพราะศรัทธา เป็นของเฉพาะตน ดังนั้นลำดับแรก ควรปลูกฝัง ศรัทธาให้เกิดมีในพระพุทธศาสนาก่อน!....ครูบาอาจารย์เป็นกัลยาณมิตรที่สำคัญ ควรแนะนำหรือพาไปยังสถานที่อันเหมาะสม เช่น วัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรี เป็นต้น

หากตั้งใจจริงๆแล้ว ย่อมจะเห็นผลได้ด้วยตนเอง ไม่มากก็น้อย
(เป็นสิ่งที่ปฎิบัติได้ และให้ผลได้ไม่จำกัดกาล)
อุปมาเปรียบเหมือนเชื้อโรคที่เรามองดูด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่ทำไม่เราถึงเชื่อและยอมรับว่า มันมีอยู่ นั้นเพราะเราอาศัย การศึกษา การสดับตรับฟัง การคิดพิจารณาเหตุผล การอาศัยเทคโนโลยี่ ฯลฯ จึงพิสูจน์ได้ว่าสิ่งเหล่านี้มันมีอยู่จริง ข้อนี้ฉันใด!

เรื่องจิต วิญญาณ ผีสาง เทวดา ก็เช่นเดียวกัน ฉันนั้น! หากอยากจะพิสูจน์ให้ตรงตามหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา ควรเริ่มจาก ธรรมะในหมวด
"อินทรีย์, พละ ๕" แปลว่า กำลัง หรือความเป็นใหญ่ในกิจของตน อันได้แก่
สัทธา ความ เชื่อ เช่น เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เชื่อกรรมและผลของกรรม เชื่อ ปัญญาในการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ฯลฯ
วิริยะ ความ เพียร เช่น บุคคลเมื่อมีความเชื่อว่าหว่านพืชเช่นไร ย่อมได้รับผลเช่นนั้น จึงเพียรพยายามสร้างหมั่นประกอบแต่ความดีเนื่องๆ มีการให้ทาน รักษาศีล เจริญจิตภาวนา เป็นต้น
สติ ความ ระลึกได้ เช่น สิ่งที่ทำ คำที่พูด ไม่ลืมหลง เลอะเลือน เป็นต้น
สมาธิ ความ ตั่งใจมั่น เช่น การเข้าถึงความสงบในเบื่องต้น (ในระดับนี้ก็จะเริ่มสัมผัส สิ่งเร้นลับ ได้บ้างแล้ว) จนถึงการเข้าฌาณทั้ง ๔ ได้ เป็นต้น
ปัญญา ความ รอบรู้ เช่นการพิจารณาใคร่ควรตรึกในธรรม(ธัมมวิจยะ)อันเป็นเหตุละซึ่งกิเลสมารมีการ ดู อ่าน ฟัง พูด คิดในเบื่องต้น จนถึงภาวนาเป็น อริปัญญาในที่สุด สิ้นสงสัยในธรรมทั้งปวง....

หากทำได้ตามนี้ นอกจากจะพิสูจน์ เรื่อง ผี สาง เทวดา ได้แล้วยังเป็นเหตุให้ พ้นทุกข์ห่างไกลจากกิเลสทั้งปวง ได้อีกด้วย

เจริญในรสธรรม