WarRoom - อาสาสมัครเตรียมการเฝ้าระวังประสานงานเตรียมพร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ปี 2013

<TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=1 width=500><TBODY><TR vAlign=top><TD> </TD><TD> </TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 1 : ​

</TD><TD> ประเทศไทยตอนบนมีเมฆมากเนื่องจากลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบนประกอบกับมีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนเข้ามาปกคลุมภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนฟ้าคะนองกระจายกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 2 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมกลางโดยมีฝนฟ้าคะนองปกคลุมทางตอนล่างของภาคและตามบริเวณอ่าวไทยตอนบน</TD></TR><TR vAlign=center bgColor=#eeeeee><TD width=94>

กลุ่มเมฆที่ 3 : ​

</TD><TD> กลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคใต้โดยมีฝนปกคลุมทางตอนล่างของภาคและตามบริเวณชายฝั่งอ่าวไทย</TD></TR></TBODY></TABLE>

B5 - War Room Falkman

 

กรุแตก! ขุดพบ 'พระเครื่องสมัยสุโขทัย' กลางทุ่งนากว่า 500 องค์

วันที่ 05/04/2555 04:23





ตื่นกรุพระแตกกลางทุ่งนา กว่า 500 องค์ เซียนพระลงความเห็นเป็น "พระเนื้อดินสมัยสุโขทัย" ขณะที่เจ้าของที่นาเผยฝันเห็นพระสงฆ์ชรารูปหนึ่งบอกว่า มีพระเครื่องสมัยสุโขทัย จำนวนมากฝังอยู่ที่นาของตนให้นำขึ้นมาเพื่อบูชา และขอให้ช่วยสร้างวัด สร้างหอระฆังให้ด้วย...

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 4 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณกลางทุ่งนา เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ของนายสอน ยิ้มมา อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 37 ม.7 ต.ดงเดือย อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย หลังทราบว่า มีการขุดพบพระเครื่องเนื้อดินเผาจำนวนมาก เมื่อไปถึงพบว่ามีชาวบ้านกว่า 100 คน และรถแบคโฮกำลังขุดดินบริเวณผืนนาขึ้นมา

จากการสอบถาม นายสอน เล่าว่า ที่ดินดังกล่าวตนได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ หลายชั่วอายุคน และไม่เคยรู้มาก่อนว่าจะมีพระเครื่องฝังดินอยู่ จนกระทั่งก่อนหน้านี้ เมื่อกลางดึกวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ฝันว่ามีพระสงฆ์ชรารูปหนึ่ง มาหาตนที่บ้าน บอกว่า มีพระเครื่องสมัยสุโขทัย จำนวนมากฝังอยู่ที่นาของตนให้นำขึ้นมาเพื่อบูชา และขอให้ช่วยสร้างวัด สร้างหอระฆัง ให้ด้วย ตนจึงนำความฝันไปเล่าให้กับ พระสวน จิตตสังวโร เจ้าอาวาสวัดใหม่ดอนสำโรง ซึ่งเป็นวัดประจำหมู่บ้านฟัง ปรากฏว่า พระสวน ก็ฝันในทำนองเดียวกัน สร้างความประหลาดใจเป็นอย่างมาก จึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการวัดเพื่อทำการขุดพิสูจน์ เนื่องจากว่า บริเวณที่ดินดังกล่าว ในสมัยก่อนเคยเป็นวัดร้าง มาแต่ครั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี
หลังจากประชุมคณะกรรมการแล้ว จึงได้ว่าจ้างรถแบคโฮมาขุด เริ่มจากการขอขมาและขออนุญาตด้วยการบวงสรวงบริเวณโคกปลวกใหญ่ใต้ต้นมะขามกลางทุ่งนา เมื่อขุดลงไปลึกประมาณ 2 เมตร ก็กระทบกับโอ่งโบราณ 5 ใบ บรรจุพระสุโขทัยพิมพ์โบราณหลายพิมพ์ เช่น พระร่วงหลังรางปืน พระปางลีลา พระนางพญา พระถ้ำหีบ กว่า 500 องค์ ซึ่งเมื่อข่าวแพร่สะพัดออกไป ได้มีชาวบ้านมายืนดูการขุด บางรายก็ลงมือเอาจอบ เสียม ขุดหาพระเครื่องอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีเซียนพระจำนวนหนึ่ง เข้ามาขอดูพระเครื่องดังกล่าว ลงความเห็นว่า น่าจะเป็นพระเนื้อดินสมัยสุโขทัย ซึ่งทางนายสอน เจ้าของที่นาได้มอบให้ พระสวน จิตตสังวโร เจ้าอาวาสวัดใหม่ดอนสำโรง ต.ดงเดือย อ.กงไกรลาศ และคณะกรรมการ นำพระเครื่องทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่วัด เพื่อเตรียมนำออกให้บูชา หารายได้สร้างหอระฆัง และซื้อที่ขยายวัดต่อไป.

B5 - War Room Falkman

 

เรือบรรทุกสินค้าที่ล่มในนิวซีแลนด์ เมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งลอยคออยู่หลายเดือนในที่สุดก็จมลงใต้ทะเลแล้วเมื่อวานนี้(4เม.ย.)



เรือบรรทุกสินค้า"เรน่า" สัญชาติ ไลบีเรีย มีน้ำหนัก 47,230 ตันเกิดล่ม ห่างจากชายฝั่งทอรังกาของนิวซีแลนด์ไป 22 กิโลเมตรเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และหักเป็นสองท่อนเมื่อวันที่ 9 มกราคมปีนี้ หลังจากลอยคอมาหลายเดือน บริเวณประการังแอสโตรเลป แต่จากการบินสำรวจทางอากาศครั้งล่าสุดพบว่า ส่วนท้ายของเรือหายไปแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะจมลงไปใต้ทะเล เนื่องจากคลื่นแรงที่พัดกระทบกับเรือทำให้โครงสร้างของเรือสึกกร่อน

ด้านสถานีโทรทัศน์ของนิวซีแลนด์ รายงานว่า การจมลงของเรือเรน่าจะส่งผลให้มีซากปรักหักพังใต้ทะเลมากขึ้นและมีน้ำมันไหลลงไปในทะเลเล็กน้อย นิวซีแลนด์ได้จัดหน่วยกู้ภัยระดับชาติขึ้นในเดือนมกราคม เพื่อรับผิดชอบดูแลซากเรือเรน่า เนื่องจากเกรงว่าการจมลงของเรือจะทำให้มีน้ำมันไหลลงสู่ทะเล

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=oV8_c2LxNRE&feature=player_embedded]เรือจมลงใต้ทะเลในนิวซีแลนด์ - YouTube[/ame]

B5 - War Room Falkman
<CUFON style="WIDTH: 444px; HEIGHT: 32px" class="cufon cufon-vml" alt="จมลงใต้ทะเลแล้ว!เรือสินค้าที่เกยปะการังในนิวซีแลนด์ "><CUFONCANVAS style="HEIGHT: 33px; TOP: 3px; LEFT: -13px">

 

วิทยุชุมชนนครพนม60แห่งงดออกอากาศกระทันหัน

นครพนมรับมือพายุถล่มตื่นก้อนเมฆใหญ่ดำทะมึนท้องฟ้าสถานีวิทยุชุมชนกว่า 60 สถานีปิดสถานี หวั่นฟ้าผ่าเครื่องพัง
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 5 เมษายน 2555 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครพนมว่า ประชาชนต่างหวาดวิตกและเตรียมพร้อมรับมือพายุลมแรงฟ้าผ่าหลังเกิดก้อนเมฆดำทะมึนแผ่ปกคลุมเต็มท้องฟ้า ทำให้ดูมืดมิดน่ากลัว โดยเฉพาะในเขตอำเภอเมืองมองเห็นอย่างเด่นชัด ต่อมาไม่นานก็เกิดฝนตกและฟ้าคะนองขณะที่สถานีวิทยุชุมชนทั่วจังหวัดนครพนมนับ 60 คลื่นต้องยุติการออกอากาศอย่างเร่งด่วนทันที ป้องกันฟ้าผ่ากระแสไฟวิ่งเข้าเครื่องส่ง
นายนัฐพล ศรีพิมพ์ ประธานชมรมวิทยุชุมชนนครพนม กล่าวว่า สาเหตุที่สถานีวิทยุชุมชนต้องปิดเครื่องส่งเพื่อป้องกันความเสียงหายโดยเฉพาะฟ้าคะนองจำเป็นต้องตัดระบบไฟทั้งหมดตั้งแต่ถอดสายอากาศสายโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตทุกอย่าง เมื่อฟ้าร้องฟ้าผ่าใกล้สถานีกระแสไฟจะวิ่งเข้าเครื่องส่งซึ่งมาตามสายอากาศสถานีวิทยุจะทำให้เครื่องส่งเสียหาย เพราะการซ่อมแต่ละครั้งจะเป็นมากตั้งห้าหมื่นถึงแสนบาท





พายุฤดูร้อนถล่มอ.แม่แจ่มเชียงใหม่ เสียหาย 400 หลัง

เชียงใหม่ -พายุฤดูร้อนถล่มบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม-แม่อาย เสียหายกว่า 400 หลังคา ด้านอุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เตือนช่วงนี้ภาคเหนือจะได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน ต่อเนื่องไปจนถึง 7 เมษายน
นายพงษ์พีระ ชูชื่น ปลัดอาวุธโส อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้(4 เมษายน) เวลา 16.30 น. ในพื้นที่อำเภอแม่แแจ่มได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตก ส่งผลให้4 ตำบลของอำเภอแม่แจ่ม ประกอบด้วย ตำบลท่าผา ตำบลช่างเคิ้ง ตำบลแม่นาจร และตำบลกองแขก ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะตำบลท่าผา มีลูกเห็บหนา 60 เซนติเมตร ตกในพื้นที่ ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง โดยขณะนี้ทางอำเภออยู่ระหว่างหารสำรวจความเสียหายที่แท้จริง นอกจากนี้ยังพบมีพื้นที่ปลูกหอมแดงของเกษตรกรในพื้นที่ได้รับความเสียหายประมาณ 100 ไร่ เบื้องต้นทางอำเภอได้ประสานทางท้องถิ่นสำรวจความเสียหาย และให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
ด้านนายคมสัน สุวรรณอัมพา หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากทางท้องถิ่นแล้ว ว่าในพื้นที่อำเภอแม่แจ่มได้รับผลกระทบจากวาตภัย มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 400 หลังคาเรือน ครอบคลุม 5 หมู่บ้าน 4 ตำบล ซึ่งทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้มอบหมายให้ทางเทศบาลตำบลท่าผา เป็นผู้ดำเนินการสำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น และหากงบประมาณไม่เพียงพอให้ทำหนังสือมายังอำเภอ เพื่อของงบประมาณทดลองราชการของทางจังหวัดให้การช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้ยังพบว่าในพื้นที่อำเภอแม่อาย ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ความเสียหายอยู่ระหว่างการสำรวจ
ขณะนี้ ทางศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้ออกประกาศเตือนพื้นที่ภาคเหนือให้ระมัดระวังพายุฤดูร้อน ในวันนี้ -7 เมษายน เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางระลอกใหม่ จากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย และทะเลจีนใต้ ประกอบกับในระยะนี้ มีคลื่นกระแสลมตะวันตกเคลื่อนผ่านภาคเหนือ ทำให้ภาคเหนือมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในบางพื้นที่ พร้อมฝากเตือนไปยังประชาชนทุกพื้นที่ให้ช่วยกันอนุรักษ์ต้นไม้ และพื้นป่าด้วย เพื่อให้ธรรมชาติช่วยรักษาสมดุล ลดผลกระทบที่เกิดจากภัยธรรมชาติ


ไฟไหม้เสาไฟส่องสว่างริมทางพิษณุโลก

เวลา 21.20 น.วันที่ 4 เมษายน ศูนย์วิทยุ 191 พิษณุโลก รับแจ้งจากประชาชนหน้าร้านขายข้าวแกง ถนนสนามบิต ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่ามีเหตุไฟรุกไหม้เสาไฟฟ้าส่องสว่างริมถนน จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลนครพิษณุโลก และเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคพิษณุโลก ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าจุดที่ไฟลุกไหม้ เป็นเสาไฟส่องสว่างริมถนนสนามบิน หน้าร้านข้าวแกง ปากทางเข้าวัดหนองบัว ตรงข้ามร้านอาหารดานัง เจ้าของร้านขายข้าวแกงและลูกค้าที่มานั่งรับประทานข้าวอยู่ข้างเสาไฟดังกล่าวต่างแตกตื่น ลุกหนีออกจากจุดต้นเพลิง
สำหรับจุดที่ไฟลุกไหม้เสาไฟส่องสว่างริมทางนั้น อยู่ที่โคนเสาที่มีช่องสำหรับเปิดปิด เมื่อเจ้าหน้าที่ไฟฟ้ามาถึง ได้ตรวจสอบและพบกลุ่มควันลุกไหม้ออกมาจากจุดดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้พบจุดต้นเพลิงเป็นม้วนกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ม้วนแล้งซุกอยู่ในเสาไฟฟ้า เมื่อนำออกมา ไฟยังลุกไหม้หนังสือพิมพ์ดังกล่าว โดยคาดว่าจะเกิดกระแสไฟฟ้าช็อต แล้วลุกไหม้ติดกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ยัดอยู่ในเสาไฟส่องสว่าง
เจ้าของร้านขายข้าวแกง เปิดเผยว่า เคยมีเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า มาซ่อมแซมเสาไฟส่องสว่างดังกล่าวเมื่อหลายเดือนก่อน และขอหนังสือพิมพ์ของตนไปหนึ่งฉบับ ก็มาซ่อมแซม แล้วปิดไว้ โดยใช้เชือกฟางมัดรอบโคนเสา จากนั้นเรื่อยมา ไฟต้นนี้ก็ติดบ้าง สว่างมาก ช่วงเกิดเหตุ ขณะตนอยู่ในร้าน มีลูกค้านั่งรับประทานอาหารอยู่ที่โต๊ะติดกับเสาไฟ เกิดไฟลุกพรึบออกมาจากโคนเสา ต่างตกใจลุกหนีออกมา เกรงจะเกิดอันตราย และโทรศัพท์แจ้ง 191

 

สุดทึ่ง ปรากฎการณ์ธรรมชาติ เนรมิตน้ำทะเลเกาะ"มัลดีฟส์"ใสกว่า"ทางช้างเผือก(ชมคลิป)

วันที่ 05 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 14:00:59 น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 5 เม.ย.ว่า เกิดเหตุการณ์ชวนทึ่ง เมื่อปรากฎการณ์ธรรมชาติได้ทำให้น้ำทะเลของเกาะ"มัลดีฟส์"เป็นสีน้ำเงินครามสุดใสสะอาด และสดใสเหนือกว่า"ทางช้างเผือก"เมื่อเปรียบเทียบกัน โดยปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดจากแพลงตอนใต้ทะเลมีปฎิกิริยากับอ๊อกซิเจนและผลิตแสงอันสุกใสเหนือกว่าทางช้างเผือก โดยปรากฎการณ์นี้ยากจะเกิดขึ้นบริเวณใกล้ชายหาด และได้ถูกบันทึกไว้โดยช่างภาพรายหนึ่งซึ่งได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวเกาะสวรรค์แห่งนี้ ซึ่งเขากล่าวว่า ภาพนี้บันทึกในคืนที่ไร้แสงจันทร์

ด้านผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งชี้ว่า ปรากฎการณ์ดังกล่าวเกิดจากกลไกสิ่งมีชีวิตปล่อยแสงน้ำเงินที่เกิดจากปฎิกิริยาทางเคมีภายในเซลล์ของมัน และเมื่อเซลล์นับพันล้านๆเซลล์รวมตัวกัน จากคลื่นที่ซัดมารวมกัน ก็จะได้ภาพเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ปรากฎการณ์นี้จะเห็นได้เฉพาะจากระยะไกลเมื่อยามที่เรือก่อปฎิกิริยาเคลื่อนไหวต่อท้องทะเล



[ame="http://www.youtube.com/watch?v=9HcQlQlKt2w"]Red Tide - Bioluminescent San Diego, 2011 - YouTube[/ame]

 

มือถือจีน บึ้มคาอกหนุ่มใหญ่ โชคดีไม่ได้รับอันตราย



หนังสือพิมพ์ M2F รายงานสกู๊ปพิเศษ เมื่อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ MTM ซึ่งนายธนิต พงศ์ดี อายุ 55 ปี นักธุรกิจชาวกรุงเทพฯ ซื้่อมาจากห้างมาบุญครองเกิดระเบิดขึ้นขณะอยู่ในกระเป๋าเสื้อ เกิดการฉีกขาดและไฟไหม้ลามไปยังเสื้อ ระหว่างทานอาหารกลางวันอยู่ที่ศูนย์อาหารของห้างเซ็นทรัลเวิร์ลด
ทั้งนี้ นายธนิตเล่าว่า ตนซื้อมือถือเครื่องนี้มาในราคาเพียง 3,000 บาท เพราะมีราคาถูก และสามารถใส่ซิมได้ถึง 3 ซิม อีกทั้งบริษัทตัวแทนจำหน่ายก็มีหลักแหล่งชัดเจน และตลอดเวลา 1 ปีที่ใช้โทรศัพท์มืถือเครื่องนี้ก็ไม่เคยมีปัญหาใดๆ คืนก่อนเกิดเหตุตนก็ยังชาร์จแบตเตอรี่ตามปกติ ซึ่งถือว่าตนโชคดีมากที่ไม่ได้รับอันตรายใดๆ และกำลังคิดว่าอยากดำเนินคดีกับบริษัท
อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์ M2F ได้ติดต่อไปยังบริษัทผู้จำหน่ายและนำเข้าจากโรงงานผลิตที่อยู่ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน โดยมีนางผิง ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ช่วยฝ่ายบุคคล กล่าวว่าอยากคุยกับผู้เสียหาย เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่โทรศัพท์ระเบิด ซึ่งนางผิงคาดว่า ผู้เสียหายอาจเปลี่ยนไปใช้แบตเตอรี่ยี่ห้ออื่น หรืออาจเกิดจากการนำโทรศัพท์ไปโดนแดดนานๆ ทำให้แบตเตอรี่ร้อนจนระเบิด
Mthai News

 

เตือน พายุเข้าไทยเร็วกว่าปกติ เสี่ยงน้ำท่วมซ้ำ



ศาสตราจารย์ธนวัตน์ จารุพงษ์สกุล หัวหน้าหน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อเสนอสนเทศเชิงพื้นที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิเคราะห์แนวโน้มพายุที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกว่า ประเทศไทยอาจได้รับผลกระทบจากพายุมากขึ้นในปีนี้ เพราะขณะนี้เป็นปีที่ปรากฎการณ์ลานินญ่าอ่อนตัวลงกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะทำให้พายุก่อตัวได้ง่ายขึ้นในทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย

ทั้งนี้ สถิติชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงที่จะถูกพายุไต้ฝุ่น หรือ พายุโซนร้อน พัดกระหน่ำเข้าสู่ภาคเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานครโดยตรงอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2549 ขณะที่ภาคใต้ตอนบนก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน

ด้านสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตรให้ข้อมูลว่า แม้ขณะนี้พายุปาข่าจะอ่อนกำลังลงแล้ว แต่แบบจำลองของสถาบันแสดงให้เห็นว่าตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน บางส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกจะเริ่มมีฝนตก ซึ่งจะเป็นลักษณะฝนกระจาย แต่หลังจากนั้นประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลจากลมตะวันออกเฉียงเหนือ และลมจากมหาสมุทรอินเดียที่พัดเข้ามาสู่ประเทศไทย จึงจะทำให้มีฝนตกเกือบทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 4-8 เมษายน โดยอาจจะมีฝนตกหนักในจังหวัดที่เป็นสีแดง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคกลางบางส่วน
อย่างไรก็ตามนักวิชาการด้านภัยพิบัติเตือนว่าขณะนี้ไทยได้เข้าสู่ฤดูกาลพายุแล้ว ทั้งที่โดยปกติฤดูพายุที่เร็วที่สุดจะเริ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคม และพายุที่จะเกิดขึ้นต่อไปอาจส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมได้อีกในปีนี้
Mthai News

 

สาวเมืองผู้ดี แพ้เคสซิลิโคนไอโฟน หน้าคอบวมเป็นผื่นแดง



สาวเมืองผู้ดี แพ้เคสซิลิโคนไอโฟน หน้าคอบวมเป็นผื่นแดง
Mthainews: สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจนนี่ เทเลอร์ หญิงวัย 30 ปี จากนครลิเวอร์พูล อังกฤษ เกิดอาการแพ้เคสซิลิโคนหุ้มไอโฟน 4 โดยใบหน้าและลำคอ มีผื่นแดง และบวมขึ้น หลังจากที่ใช้ซิลิโคนรุ่น Griffin FlexGrip Punch ไปได้เพียง 1 สัปดาห์
โดยเมื่อแม่ของเธอมาเห็นอาการก็แทบจะจำลูกสาวไม่ได้ จึงเดินทางไปพบแพทย์ แต่ก็ได้ยาใช้ยาต้าน ฮีสตามีน ซึ่งเป็นยาแก้แพ้ แต่เช้าวันรุ่งขึ้น ปรากฎว่าใบหน้ากลับบวม และไม่สามารถลืมตาข้างขวาได้ อีกทั้งแทบจะไม่สามารถกลืนอาหารได้ จึงได้ไปที่โรงพยาบาล ที่ระบุว่าเธอแพ้สิ่งของหลายชนิด อาทิ ยีนส์ เหรียญ และที่จับประตู



เธอกล่าวว่า มันเป็นจุดเล็กๆ จำนวนมากผุดขึ้นเป็นผื่น บริเวณพื้นที่ที่ใช้โทรศัพท์แนบกับหู และบริเวณแก้ม หลังจากที่แพทย์อีกโรงพยาบาลหนึ่งตรวจที่ลำคอ ก็ระบุว่าหากมาช้ากว่านี้อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ซึ่งอาหารแพ้เกิดจากเคสซิลิโคนหุ้มไอโฟนที่ซื้อมาจากร้านค้าของทางแอฟเปิล
โดยเธอได้ติดต่อไปยังบริษัทแอปเปิล และบริษัทผลิตซิลิโคนดังกล่าว แต่ก็ไม่มีจดหมาย หรือโทรศัพท์ติดต่อกลับมาแต่อย่างใด
Mthai News

 

จีนเปิดสะพานแขวน ที่ยาวและสูงที่สุดในโลก (ภาพ)



MThai News : สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการจีนได้เปิดใช้สะพานแขวน Aizhai ซึ่งเริ่มสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 แล้วเสร็จเมื่อปลายปี 2554 ที่ผ่านมา ใช้ระยะเวลาในการสร้างนานเกือบ 5 ปี

โดยสะพานดังกล่าวสร้างเชื่อมหุบเขา 2 จุด ในหุบเขา Dehang มณฑลเหอหนาน ด้วยระยะทาง 1,176 เมตร นับเป็นสะพานแขวนที่ยาวและตั้งอยู่บนจุดที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งสูงจากพื้นดิน 355 เมตร โดยสะพานมีช่องการจราจร 4 ช่องทาง จำกัดความเร็วที่ 80 กม./ชั่วโมง
Mthai News

 

เผยภาพถ่ายน่าอัศจรรย์ ทะเลหมอกกลางตึกระฟ้า เมืองดูไบ



เผยภาพถ่ายน่าอัศจรรย์ ทะเลหมอกกลางตึกระฟ้า เมืองดูไบ
สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่ภาพถ่ายสุดอัศจรรย์ของตึกระฟ้าที่เมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยทะเลหมอกยามพลบค่ำ ซึ่ง เอียน พาวล์ ช่างภาพวัย 36ปี ผู้บันทึกภาพตึกที่สูงที่สุด ถ่ายจากความสูงกว่า 2,700 ฟุต เห็นแสงจากตึก อพาร์ทเม้นท์ ที่พักอาศัย ฝ่ากลุ่มหมอกขึ้นมาจากเบื้องล่าง เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติที่วิจิตรตระการตาและพบเห็นไม่บ่อยครั้ง



ช่างภาพกล่าวว่า เส้นขอบฟ้าที่ดูไบเป็นอะไรที่อัศจรรย์มาก เหนือคำบรรยายใดๆ ผมติดตามพัฒนาการของเมืองแห่งนี้มานาน และร้อยละ 80 ของอาคารสูงที่สร้างในช่วง 8 ปีมานี้ล้วนแล้วแต่ผ่านสายตาของผม จนกระทั่งเดือนมีนาคม ก็เจออะไรที่ไม่คาดคิดและแค่ภายใน 15 นาที ก็เต็มไปด้วยทะเลหมอก
“ที่นี่จะมีหมอกแค่ปีละ 2 ครั้ง ในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล ด้วยความชื้นและอากาศเย็นในตอนเช้า หมอกจึงเริ่มปรากฏขึ้นมา ทำให้ผมนึกถึงดาวคอรัสซานท์ในหนังเรื่องสตาร์ วอร์ส ในแต่ละครั้งที่ผมเห็นหมอก พวกมันจะก่อตัวและสลายตัวต่างกันไป มันไม่เคยเหมือนเดิมเลย” เขากล่าว

 

สภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้หลายพื้นที่ภาคเหนือได้รับผลกระทบ

เจ้าหน้าที่นำสังกะสี กระเบื้อง ไม้ และอุปกรณ์ก่อสร้างไปมอบให้กับชาวบ้าน 34 หลังในอำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อนพัดถล่ม เมื่อวันที่ 31 มีนาคม จากการสำรวจยังพบว่าพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากพายุรวม 4 อำเภอ คือ วังทรายพูน สากเหล็ก โพธิ์ประทับช้าง และอำเภอเมือง บ้านเสียหายกว่า 200 หลัง ส่วนสถานการณ์ภัยแล้งหลายจังหวัดยังขยายวงกว้าง ล่าสุด ชาวนาตำบลบางเคียน อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ต้องสูบน้ำใต้ดินมาเลี้ยงต้นข้าว หลังน้ำลำคลองสาขาของแม่น้ำน่านแห้งขอด ขณะที่ทางจังหวัดประกาศให้พื้นที่ 3 อำเภอ จากทั้งหมด 15 อำเภอ เป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ง ขณะที่เกษตรกรบางคนในตำบลเจดีย์ชัย อำเภอปัว จังหวัดน่าน ออกจับจิ้งหรีดซึ่งกำลังระบาดกัดกินข้าวโพด สามารถสร้างรายได้เสริมให้กับครอบครัว และลดศัตรูพืชลงด้วย

 

กทม.พบถนนเจริญกรุงทรุดอีกสั่งด่วนเร่งซ่อมให้แล้วเสร็จคืนนี้

สำนักข่าวเนชั่น -- 5 เม.ย. -- กทม.พบถนนเจริญกรุงทรุดอีกสั่งด่วนเร่งซ่อมให้แล้วเสร็จคืนนี้ เตรียมปูพรมสแกนถนนเก่า-ใกล้แหล่งน้ำ 20 เส้นทั่วกรุง
<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เดินทางมาตรวจสอบถนนเจริญกรุงบริเวณหน้าโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เขตบางคอแหลม ภายหลังพบโพรงใต้ผิวถนนดังกล่าว<O></O>

นายธีระชน ให้สัมภาษณ์ภายหลังการตรวจสอบว่า ได้รับแจ้งว่าถนนเจริญกรุงเกิดการทรุดตัวจนลาดเอียง ซึ่งเจ้าหน้าที่จากสำนักการโยธา ได้นำเครื่องตรวจสภาพใต้พื้นดิน หรือ Ground Penetrating Radar (GPR) เข้าตรวจสอบ และพบโพรงอยู่ใต้ดิน หลังจากการเปิดฝ่าท่อระบายน้ำก็พบด้วยว่าท่อระบายน้ำใต้ดินไม่เชื่อมต่อโด อยู่ในลักษณะเกยกัน จึงทำให้เกิดโพรงขนาด 50 เซนติเมตร ทำให้ถนนค่อยๆทรุดตัวในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากจุดนี้เป็นถนนเสริมเหล็ก จึงไม่เกิดการทรุดลงมาอย่างถนนพระราม 4 นอกจากนี้ปลายสุดของถนนเจริญกรุงเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมีความเป็นไปได้ว่าน้ำอาจจะกัดเซาะดึงทรายให้ไหลลงไป อีกทั้งถนนเส้นนี้มีการก่อสร้างมานาน จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง <O></O>

นายธีระชน กล่าวต่อว่า เบื้องต้นวันนี้(5เม.ย.) จะปิดล้อมพื้นที่ ไม่ให้รถยนต์วิ่งผ่านเพื่อไม่ให้น้ำหนักกระทบกับส่วนที่ทรุดตัว จากนั้นในคืนนี้เจ้าหน้าที่จากสำนักการโยธาจะนำเครื่องมือหนักมาเปิดผิวจราจร เพื่อทำการซ่อมแซมท่อให้เชื่อมต่อกัน คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการซ่อมแซม อย่างไรก็ตามกทม.ยังคงสำรวจพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม อย่างถนนที่ก่อสร้างมานาน อยู่ใกล้คูคลอง แม่น้ำ ท่อสาธารณูปโภคต่างๆ และมีรอยร้าวอย่างกรณีนี้ เพื่อทำการซ่อมแซม ไม่ให้เกิดการทรุดตัวอีก <O></O>

ส่วนกรณีที่ทางเท้าถนนพระราม 3 ทรุด ซึ่งพบว่ามีการไหลของดิน เนื่องจากมีน้ำไหลออกมาจากท่อ แล้วชะล้างดินไปลงลำประโดง เมื่อดินไหลไปจึงก่อให้เกิดโพรง อีกทั้งกำแพงกันดินก็สร้างมานาน และไม่ได้สร้างมาเพื่อรองรับการต่อเติม ทั้งนี้เบื้องต้นจะมีการรื้อท่อร้อยสายที่ล้มลงมาออก เพื่อให้ลำรางสามารถระบายน้ำได้ตามปกติ และต่อไปนี้หากกทม.หรือหน่วยงานอื่น ๆ จะทำการซ่อมแซมท่อหรือผิวจราจร ต้องมีการหารือร่วมกัน และทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ<O></O>
แหล่งข่าวจากสำนักการโยธา เปิดเผยว่า สำนักการโยธา ได้มีการสำรวจถนนที่มีความเสี่ยงทรุดตัว อย่างถนนที่มีการก่อสร้างมานาน อยู่ใกล้แหล่งน้ำ มีรอยแตกร้าว จำนวน 20 สาย อาทิ ถนนพระราม 3 ถนนพระราม 4 ถนนพระราม 6 ถนนสาทร ถนนนราธิวาส เป็นต้น ซึ่งในระยะแรกจะมีการนำเครื่อง GPR สแกนใต้พื้นดินว่าเกิดโพรงจุดใดบ้าง และจะรีบซ่อมแซมทันที เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก จากนั้นจะตรวจสอบถนนสายอื่นเพิ่มเติมอีก<O></O>

พญ.สาวิตรี สุวิกรม เจ้าของคลินิกเวชกรรมแพทย์สาวิตรี กล่าวว่า ตนเป็นผู้แจ้งไปยังสำนักงานเขตว่าถนนหน้าคลินิกเกิดการทรุดตัว ซึ่งเป็นมานานแล้ว โดยทางเท้าหน้าคลินิกได้เกิดการทรุดตัวเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และเริ่มเห็นได้ชัดเมื่อปีที่แล้ว ตนได้แจ้งไปยังสำนักงานเขต 3 ครั้ง ซึ่งทางเขตได้เข้ามาซ่อมแซมให้ 2 ครั้ง ล่าสุดเมื่อเดือนที่แล้ว เจ้าหน้าที่จากเขตฯ ได้เข้ามาตรวจสอบและพบว่ามีโพรง จึงได้เปิดถนนบางส่วนแล้วนำหินคลุกและทรายมาเท ก่อนจะเทคอนกรีตทับ เพื่อซ่อมแซมให้ใช้สัญจรได้ อย่างไรก็ตาม ภายในบ้านก็เริ่มมีการทรุด โดยพบว่าพนังมีรอยแตกร้าว และพื้นเริ่มเทเอียง ตนจึงไม่แน่ใจว่าเกิดจากเหตุดังกล่าวด้วยหรือไม่


<O>ขอบคุณข่าวจาก NNA NEWS</O>
<O></O>
<O></O>
<O>B5 - War Room Falkman</O>

 

ถ.เจริญกรุงทรุด!อีก

05 เมษายน 2555 เวลา 15:10 น. |





ถนนทรุดซ้ำซาก กทม.รุดตรวจ “เจริญกรุง” คาดน้ำเซาะเป็นโพรงใต้ดิน เล็งซ่อมถนนเก่า 20 สาย

นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งว่าถนนเจริญกรุง บริเวณหน้าโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เขตบางคอแหลม เกิดการทรุดตัว จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักการโยธา โดยได้นำเครื่องตรวจสภาพใต้พื้นดิน หรือ Ground Penetrating Radar (GPR) และพบโพรงใต้ดิน

นายธีระชน กล่าวว่า หลังเปิดฝาท่อระบายน้ำพบว่าท่อระบายน้ำใต้ดินไม่เชื่อมต่อกัน โดยอยู่ในลักษณะเกยกัน จึงทำให้เกิดโพรงขนาด 50 เซนติเมตร ส่งผลให้ถนนทรุดตัวในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากจุดนี้เป็นถนนเสริมเหล็ก จึงไม่เกิดการทรุดรุนแรงเหมือนถนนพระราม 4 นอกจากนี้บริเวณปลายสุดของถนนเจริญกรุงเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา จึงมีความเป็นไปได้ว่าน้ำอาจกัดเซาะและดึงทรายให้ไหลลงไป

นายธีระชน กล่าวว่า เบื้องต้นจะทำการปิดล้อมพื้นที่ไม่ให้รถยนต์วิ่งผ่าน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำหนักกระทบกับส่วนที่ทรุดตัว และในคืนนี้ กทม.จะเปิดผิวจราจรเพื่อซ่อมแซมท่อระบายน้ำให้เชื่อมต่อกัน คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน

อย่างไรก็ตาม กทม.จะสำรวจพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเพิ่มเติม เช่น ถนนที่ก่อสร้างมานาน อยู่ใกล้คูคลอง แม่น้ำ ท่อสาธารณูปโภคต่างๆ และมีรอยร้าว เพื่อทำการซ่อมแซมไม่ให้เกิดการทรุดตัวอีก

“ต่อไปนี้หาก กทม.หรือหน่วยงานอื่นๆ จะทำการซ่อมแซมท่อหรือผิวจราจร ต้องมีการหารือร่วมกัน และทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ” นายธีระชน กล่าว

ทั้งนี้ สำนักการโยธาได้ทำการสำรวจถนนที่เสี่ยงต่อการทรุดตัวจำนวน 20 สาย เช่น ถนนพระราม 3 ถนนพระราม 4 ถนนพระราม 6 ถนนสาทร ถนนนราธิวาส เป็นต้น โดยจะสแกนใต้พื้นดินว่าเกิดโพรงจุดใดบ้าง และจะรีบซ่อมแซมทันที ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก

ด้าน พญ.สาวิตรี สุวิกรม เจ้าของคลินิกเวชกรรมแพทย์สาวิตรี กล่าวว่า ตัวเองเป็นผู้แจ้งไปยังสำนักงานเขตบางคอแหลมว่าถนนหน้าคลินิกเกิดการทรุดตัว ซึ่งเป็นมานานแล้ว โดยทางเท้าหน้าคลินิกได้เกิดการทรุดตัวเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา และเริ่มเห็นได้ชัดเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทางเขตได้เข้ามาซ่อมแซมให้ 2 ครั้ง นอกจากนี้ภายในบ้านก็เริ่มมีการทรุด โดยพบว่าผนังมีรอยแตกร้าวและพื้นเริ่มเอียง จึงไม่แน่ใจว่าเกิดจากเหตุดังกล่าวด้วยหรือไม่

 

ภาพถ่ายสภาพพายุจาก Asia Satellite (Weather Channel)



ภาพถ่ายดาวเทียม AVN Color แสดงถึงความเร็วลมในบริเวณต่างๆ

 

ปริมาณน้ำฝนเมื่อวานนี้ 4 เม.ย. 55