ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ดินไหว6.1 ริกเตอร์เขย่าอาร์เจนฯไร้เสียหาย


06 มีนาคม 2555

สื่อต่างประเทศรายงาน เมื่อเวลา 04.46 น. ของวันที่ 5 มี.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 6.1 ริกเตอร์ ซึ่งจุดศูนย์กลางอยู่ห่างจาก เมืองซานติอาโก้ เดล เอสเตโร่ ของ อาร์เจนติน่า ประมาณ 69 กม. ที่ความลึกจากระดับพื้นดิน 550 กม. โดยเบื้องต้น สื่อเผยว่า ยังไม่มีรายงานความเสียหาย หรือ ผู้บาดเจ็บ แต่อย่างใด รวมถึงไม่มีประกาศเตือนสึนามิ

 

เขย่าขวัญกันทุกวัน

 

คุณเป็นคนประเภทไหน?​

​

ในหนังสือ "การแก้ปัญหาแบบ QC" ที่คะทซึยะ โฮโซนิ ชาวญี่ปุ่นเขียน (แปลโดย วีรพงษ์ เฉลิมจิรัตน์) ได้แบ่งประเภทของคนในการแก้ไขปัญหาไว้ 4 ประเภท คือ

1. ชอบปฏิเสธตัวเอง
คนกลุ่มนี้จะขาดความมั่นใจ มองโลกในแง่ลบ คิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ เวลาเจอปัญหาจะรน บางครั้งถึงขั้นสติแตก ตั้งสติไม่ได้
การแก้ไขต้องเสริมสร้างความมั่นใจด้วยการลงมือปฏิบัติให้มาก และต้องปรับเปลี่ยนทัศนคติใหม่ ฝึกให้เป็นคนไม่กลัวความล้มเหลว ผิดแล้วรีบแก้ไข

2. ชอบผลักความรับผิดชอบ
คนกลุ่มนี้สร้างปัญหาให้กับคนอื่นได้มากพอสมควร เพราะพวกเขาไม่ยอมรับความผิดพลาดของตนเองเลย กลับกันมักจะคอยจับผิด และตำหนิบุคคลอื่นอยู่เสมอ คนประเภทนี้กล่าวโทษได้ทุกอย่างที่ขวางหน้า ยกเว้นตนเอง นอกจากนี้คนประเภทนี้ยังคอยเกาะติดสถานการณ์ต่างๆ เพื่อที่จะรับรู้ความผิดพลาดของคนอื่นก่อนใครๆ แล้วเข้าไปวุ่นวาย ทั้งที่งานตัวเองยังไม่เรียบร้อยดี
การแก้ไขคนประเภทนี้จะยากมากเพราะเขาไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นใครเลย ต้องพยายามชี้ให้เห็นความจริง และผู้บริหารระดับสูงกว่าควรจะเข้ามีส่วนในการแก้ไขปัญหา การพูดคุยกับคนกลุ่มนี้ต้องเน้นแบบตรงไปตรงมา มีเหตุผลอย่างชัดเจน และที่สำคัญอย่าลืมหลักฐานประกอบเอาแบบดิ้นไม่หลุด

3. ชอบหลบปัญหา
คนกลุ่มนี้เป็นนักหลบปัญหาแบบ *นกกระจอกเทศ* พอมีปัญหาจะวิ่งหนีปัญหาก่อน ถ้าจวนตัวก็เอาหัวมุดลงพื้นทราย โดยไม่รับรู้ปัญหาใดๆ บุคคลในกลุ่มนี้มีมากในสังคม แต่มักจะหลบซ่อนตัวไม่เปิดเผย และมักจะทิ้งให้ปัญหาคลี่คลายเอง บางครั้งอาจจะเลวร้ายกว่าเดิมก็ได้ นอกจากนี้ยังมีความเชื่อมั่นว่าระบบเดิมดีอยู่แล้ว และตั้งหน้าตั้งตาทำตามกฎอยู่ร่ำไป โดยไม่คิดที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอะไรเลย
การแก้ไขต้องฝึกให้เป็นคนกล้าเผชิญปัญหา ฝึกการแก้ไขปัญหาทีละเปาะ

4. ชอบผจญปัญหา
คนกลุ่มนี้เป็นบุคคลที่หายาก และเป็นคนที่กระตือรือร้นในการแก้ไขปัญหา เมื่อแก้ไขเรียบร้อยแล้วก็ค้นหาปัญหาต่อไป และจะมีความภาคภูมิใจเมื่อแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ คนประเภทนี้มักจะคิดอยู่เสมอว่าเวลาจะทำอะไรต้องให้เป็นที่หนึ่งให้ได้ และพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีที่สุด
ถึงแม้ว่าเป็นสิ่งที่ดีแต่ก็ยังต้องระวังคือ ความมั่นใจที่เกินร้อย อาจจะเป็นอุปสรรคในการแก้ไขปัญหาได้ ด้วยที่เป็นคนเก่ง กระตือรือร้น และประสบการณ์สูง อาจจะไม่ค่อยเชื่อฟัง เหตุผลคนอื่น เผลอๆ จะมองคนอื่นด้อยกว่าตนเอง

จากคนทั้ง 4 ประเภทในการแก้ไขปัญหา นี่เป็นการแยกแยะเพื่อให้เราได้รู้ว่าคนแต่ละกลุ่มเป็นอย่างไร เป็นแนวทางสำหรับการแก้ไขปัญหาต่อไป สำหรับการแก้ไขปัญหาต่างๆ จะสำเร็จได้ก็ต้องจากวิธีคิด วิธีแยกแยะสาเหตุ และลงมือปฏิบัติเพื่อแก้ไขปัญหา โดยต้องมีจิตสำนึกต่อการแก้ไขและพัฒนาระบบวิธีต่างๆ ต้องมีการสร้างให้เหมาะสมกับแต่ละสถานที่ แต่ละองค์กร และที่สำคัญที่สุดผู้บริหารระดับสูงจะเป็นกลไกหลักในการกำหนดนโยบาย แนวทาง แนวคิดในการแก้ไขปัญหา ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว ระดับล่างแก้ไขไป ระดับบนสร้างปัญหาไป คงสนุกพิลึก เพราะบางครั้งปัญหาที่เกิดเป็นแบบไม่ตั้งใจให้เกิด คนก่อปัญหากลับไม่รู้ตัวเสียด้วยสิ...

ที่มา http://www.oknation.net/blog/konto/2010/06/09/entry-4

 

ใฝ่ร้อนจะนอนเย็น ใฝ่เย็นจะเข็ญใจ !!!​

​

 

ฝันเห็นน้ำท่วมหนัก ติดต่อกัน3ครั้ง แต่ไม่รู้ว่าน้ำมาจากไหน

 

<TABLE id=post5811442 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal" class=thead>วันนี้, 10:41 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #5000 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5811442", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Jul 2006
ข้อความ: 12,492
พลังการให้คะแนน: 5221


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_5811442 class=alt1><!-- message --><!-- google_ad_section_start -->*** เสียงเตือนจากโลกุตตระ ****

อย่าลืมสัจจะ อย่าลืมสัจจะ อย่าลืมสัจจะ
สัจจะนั้นลืมไม่ได้ ถ้าลืม...ก็วิบัติ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
"ใฝ่ร้อนจะนอนเย็น ใฝ่เย็นจะดิ้นกระแดวกระแดวตาย"

 

ป้าหาบ แม่ค้า5 บาท ขายกับข้าว 30 กว่าปี ไม่เคยขึ้นราคา
Mthainews: คุณป้าบุญยัง พิมพ์รัตน์ ป้าหาบ คนต้นเรื่องรายการคนค้นคน ออกอากาศวันที่ 6 มีนาคม เป็นตัวอย่างของแม่ค้าในยุคปัจจุบันที่ไม่น่าเชื่อว่ายังหลงเหลืออยู่ ด้วยภาวะเศรษฐกิจ ข้าวของราคาแพง แต่ป้าหาบ ก็ยังคงยืนหยัดขายกับข้าวในราคาเพียง 5 บาท มานานกว่า 30 ปี
จริงๆแล้ว ป้าหาบ เป็นชื่อของลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาอุดหนุนตั้งให้ แต่ชื่อจริงๆของป้า มีชื่อว่า ป้าแดง ผู้ที่รอนแรมจากภาคอีสานมาทำงานในเมืองกรุง ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 33 แยก 3 โดยยึดอาชีพนี้มากว่า 30 ปี แล้ว ไม่ว่าจะเศรษฐกิจขาขึ้นหรือขาลง ก็ยังขายในราคาเดียว ทั้งต้มเห็ด ฟักทอง แกงส้มสายบัว ส้มตำ ซุปหน่อไม้ โดยที่มีการใช้เครื่องปรุงและส่วนประกอบไม่ต่างจากแม่ค้าคนอื่น บางครั้งให้เครื่องมากกว่าเจ้าอื่น อีกทั้งคุณภาพยังอยู่ครบ
ป้าแดงเล่าว่าขายอาหาร 5 บาทมาตั้งแต่ประมาณปี 2521 ตอนนั้น 5 บาทถือว่าราคาปกติ จนปัจจุบันลูกค้าบอกให้ขึ้นราคาได้แล้ว แต่ป้าคิดว่าถ้าขึ้นราคาก็ต้องมานั่งทอนเงินลำบาก จึงขายราคา 5 บาท
“ของมันไม่ได้แพงตลอดมีขึ้นมีลง เราก็เลยไม่ขึ้นตาม บางอย่างมันก็ไม่ได้แพงทุกอย่าง ผักอันไหนแพงเกินเราก็เลี่ยงไม่ใช้ ก็อยู่ได้มาจนป่านนี้ รู้ว่าไม่ขาดทุนก็พอ มีเงินเหลือ พอขึ้นราคาใจมันหดหู่ เพราะเกรงใจลูกค้ามีแต่หน้าซ้ำๆ ลูกค้าคนเดิมๆ ต่างคนก็ต่างเห็นใจกัน บางคนเงินเดือนเขาก็น้อย ไหนจะเช่าบ้าน ให้ลูกให้แม่เขา แล้วมานึกถึงตัวเอง เลยเข้าใจเขาถึงความลำบาก กว่าจะหาเงินมาได้ “
ป้าแดง พักอยู่ในห้องขนาดเล็กๆ ใช้พื้นที่หน้าห้องทำครัวทำกับข้าว ที่จะตื่นขึ้นมาเพื่อทำกับข้าวไปขายทุกๆเช้า อุปกรณ์ต่างๆ ยืนยันได้ว่าใช้มานานหลายปี เพราะใช้งานทุกวัน

เริ่มแรกป้าแดงเริ่มต้นค้าขาย ภายในห้องแห่งนี้ ส่วนลูกอยู่ต่างจังหวัด ทั้ง 3 คน โดยค้าขายส่งเงินให้ลูกเรียนหนังสือ ด้วยแรงงานของแม่ค้าข้าวแกงถุงละ 5 บาท ด้วยความขยัน ค้าขายทุกวัน จนกระทั่งปัจจุบันลูกทั้งสามคนโต และสามารถดูแลแม่ได้ และลูกไม่อยากให้แม่ ค้าขายอีกต่อไป
อย่างไรก็ดี ป้าแดงบอกว่าไม่อยากอยู่เฉยๆ หยุดขายไม่ได้ เลยต้องขายต่อไป เรามีก็หา ไม่มีก็หา จึงไม่ขัดสนเรื่องเงิน เราต้องขยันและประหยัด เกิดมาไม่เคยติดหนี้ใคร ไม่มีก็ไม่ใช้ ไม่มีก็ไม่เอา อยากได้อะไรก็ต้องเก็บหอมรอมริบ ไม่ต้องดิ้นรน มีแบบพอเพียงตามกำลังตัวเรา

แม้ว่าป้าแดงจะไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง แต่ก็ไม่เคยยากจน โดยเฉพาะน้ำใจที่มีให้กับคนอื่น ความมีน้ำใจของป้าแดง ทำให้เจ้าของบ้านที่ให้ป้าหาบขายของไม่เคยคิดค่าเช่ามานานกว่า 30 ปี เพราะป้ามักจะเอาของหวาน ข้าวสาร มาให้โดยไม่คิดเงิน
ป้าลูกค้า ที่มาอุดหนุนเล่าว่า ทุกครั้งที่มาอุดหนุนเค้า จะไม่ซื้อ 5 บาท จะซื้อ 10 บาท เพราะสงสาร แล้วจะซื้อน้ำอ้อย โอเลี้ยง เป็บซี่มาฝาก เพราะดูไม่ได้ สงสาร อยากให้ 5 บาท นี่ซุปก็เต็มถุง ข้าวเหนียวก็เต็ม ส้มตำก็เต็มถุง ถูกมาก เป็นการชดเชยกันไป

“อุดหนุนมานานจนผูกผัน แกกลับบ้าน แกจะไปเอาข้าวใหม่มาให้ต้มข้าวต้ม บางทีก็เอามะขามหวานจากร้อยเอ็ดมาให้ แล้วแกพยายามตามหาบ้าน ถามคนเรื่อยๆจนเจอ แกบอกเจอบ้านแล้วไม่กลัวละ จะเอามาให้ประจำ จนเกิดการประทับใจ แกพูดดี ไม่เอากำไร”
ป้าแดง กล่าวตอนท้ายว่า ภูมิใจว่าเราไม่ต้องไปติดหนี้ติดสิน ขายไปสบายๆ ขายหมดทุกวัน ไม่เดือดร้อนอะไร ดีใจที่ได้เห็นลูกค้าหน้าเก่าๆมาอุดหนุน เกื้อกูลกันไป นี่คือความสุขอย่างหนึ่งของป้า ที่ขายเพียง 5 บาท โดยไม่คิดจะร่ำรวยเงินทอง เพียงแค่มีความสุข ไม่เดือดร้อนก็เพียงพอแล้ว
<IFRAME height=315 src="http://www.youtube.com/embed/YKBc1HMOAV4" frameBorder=0 width=420></IFRAME>
Mthai News


พิจิตต รัตตกุล

เตือนจับตาเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรีอย่างใกล้ชิด เสนอ 4ข้อเพื่อป้องกัน
ดร.พิจิตต รัตตกุล ในฐานะผู้อำนวยการบริหารศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย (ADPC) ได้กล่าวช่วงหนึ่งในการประชุมวิชาการการแพทย์ฉุกเฉินระดับชาติครั้งที่ 6 ในหัวข้อ “การแพทย์ฉุกเฉินไทย ฝ่าภัยพิบัติ 2012” ณ โรงแรมแกรนด์สุนีย์แกรนด์ จ.อุบลราชธานี ว่า
รอยเลื่อนที่มีอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมด 13จุด ขณะนี้พบว่ามีการเคลื่อนไหวผิดปกติ โดยเฉพาะรอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนแม่เมาะ ที่ในช่วง 2 ถึง 3 เดือนที่ผ่านมีการเคลื่อนไหวผิดปกติไปมาก ดังนั้นจึงอยากเตือนให้จังหวัดต่างๆ ที่อยู่บนรอยเลื่อนนี้ เช่นเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน กาญจนบุรี เฝ้าระวังอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ดร.พิจิตต ก็ได้เสนอ 4 ข้อ เพื่อให้เป็นภูมิคุ้มกันป้องกันภัยพิบัติต่างๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2012 คือ
1.ควรสร้างภูมิคุ้มกันให้คนในสังคมเข้มแข็ง ในเรื่องของการประเมินความเสี่ยง โดยในแต่ละหมู่บ้านจะต้องรู้ว่าตนเองจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัตอะไรบ้าง และจะต้องเตรียมการอย่างไร และการแพทย์ฉุกเฉินเองจะต้องเช้าไปจัดตั้งระบบเหล่านี้ให้เกิดขึ้น
2. จะต้องสร้างภูมิคุ้มกันในการช่วยเหลือแบบโต้ตอบเพราะที่ผ่านมาเมื่อเกิดภัยพิบัติ เราไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที ซึ่งสิ่งที่สำคัญจะต้องมีการสร้างชุมชนให้เป็นฐานให้ได้ พร้อมกันนี้ก็จะต้องมีการสร้างระบบการประสานงานให้เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ
3.จะต้องมีการสร้างองค์ความรู้ในระบบเตือนภัยให้เกิดขึ้นกับชุมชนท้องถิ่น จะต้องฝึกให้ชาวบ้านคาดการการพยากรณ์อากาศได้ เพราะเมื่อชาวบ้านมีความรู้ในเรื่องเหล่านี้เบื้องต้นก็จะสามารถเตรียมการในส่วนของตนเองได้ นอกจากนี้ระบบเตือนภัยก็จะต้องทำให้มีการเข้าถึงอย่างรวดเร็วแม่นยำ เพื่อทำให้การเตรียมการป้องกันภัยพิบัติเกิดขึ้นอย่างทันท่วงที
และ 4. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องรักษาถนนในการคมนาคมหลักไว้ให้ได้เพราะเมื่อถนนขาด เราก็ไม่สามารถช่วยเหลือใครได้ ซึ่งในเหตการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา สพฉ ดำเนินการได้อย่าสัมฤทธิ์ผล เพราะว่าได้รับความร่วมมือจากหลากหลายฝ่ายทั้งในส่วนของเรือและเฮลิคอปเตอร์ เป็นต้น



สึนามิญี่ปุ่น

นสพ.อาซาฮี ชิมบุนของญี่ปุ่น ได้เผยภาพรำลึกครบรอบ 1ปี เหตุการณ์แผ่นดินไหว และคลื่นสึนามิพัดถล่มเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ซึ่งเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 15,800 คน สูญหาย 3,300 คน สร้างความเสียหายให้กับประเทศญี่ปุ่นอย่างใหญ่หลวงในรอบ 56 ปีสึนามิ












Photo/asahi shimbun

 

<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> อุตุฯเตือนภัยพายุฤดูร้อน 8-11 มี.ค. ลมกระโชกแรงลูกเห็บตกบางพื้นที่ ภาคอีสาน- ตอ.- เหนือ- กลาง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศเตือนภัย"พายุฤดูร้อน "ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 08 มีนาคม 2555 ออกประกาศเมื่อเวลา 05.00 น.

ระบุว่าบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนได้แผ่ลงปกคลุมประเทศเวียดนาม
ตอนบนแล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ในวันนี้ (8 มี.ค.55)ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนโดยทั่วไป ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ซึ่งพายุฤดูร้อนนี้จะเริ่มบริเวณ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกก่อนในระยะแรก ส่วนภาคเหนือ และภาคกลาง จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป จึงขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระมัดระวังอันตรายจาก พายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 8-11 มีนาคม 2555 ไว้ด้วย


พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.


ภาคเหนือ ทางตอนบนของภาคอากาศหนาวในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส ส่วนทางตอนล่างของภาคอากาศเย็นในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 16-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและลูกเห็บตก บางแห่งส่วนมากบริเวณจังหวัดบึงกาฬ หนองคาย นครพนม สกลนคร มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีหมอกบางในตอนเช้า และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก มีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วน และมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-36 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.



</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ปภ.ชี้เหนือแชมป์ภัยแล้งจากทั่วประเทศ21จังหวัด </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>วันนี้ ( 6 มี.ค.) นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า

ขณะนี้มีจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 21 จังหวัด 142 อำเภอ 931 ตำบล 8,922 หมู่บ้าน แยกเป็น ภาคเหนือ 11 จังหวัด ได้แก่ กำแพงเพชร ลำปาง ลำพูน สุโขทัย น่าน พะเยา พิษณุโลก แพร่ อุตรดิตถ์ เชียงราย และเชียงใหม่


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองคาย และหนองบัวลำภู ภาคกลาง 3 จังหวัด

ได้แก่ เพชรบุรี สุพรรณบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และตราด ทั้งนี้ ผู้ประสบภัยแล้งสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สำนักงาน ปภ.จังหวัด และศูนย์ ปภ.เขต 1 – 18 หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สารคดี...ครบรอบ 1 ปี...แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นครับ


http://palungjit.org/threads/%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5-megaquake-hour-that-shook-japan.329249/

 

ปฏิทินเฝ้าระวัง !!!

​

ZZ สมาชิก

ผมเชื่อข้อมูลของพระอาจารย์รัตน์...ครับ (DEC 2012 - FEB 2013)

 

พูดส่อเสียด (ปิสุณาวาจา) จะพาตัวท่านลงนรก !!!​

​

พระอาจารย์ชาญชัย อธิปญโญ ได้กล่าวเรื่อง "อกุศลกรรมบถ ๑๐" เอาไว้ในหนังสือชื่อ "กรรมใดใครก่อ" อัน "อกุศลกรรมบถ ๑๐" ประกอบด้วย กายกรรม ๓ วจีกรรม ๔ มโนกรรม ๓

ในบันทึกนี้ ผมให้ความสนใจไปที่ วจีกรรม ข้อ ๒ คือ พูดส่อเสียด (ปิสุณาวาจา) ซึ่งเป็นพฤติกรรมของมนุษย์ที่พบได้ในสถานที่ทำงานทุก ๆ แห่ง โดยบางครั้งมนุษย์หลายคนได้หลงลืมไปว่า คำพูดลักษณะนี้เป็นการทำร้ายผู้อื่น ถือเป็นบาปกรรมที่ต้องรับผล ดังที่พระอาจารย์ชาญชัย อธิปญโญ ได้นำเสนอไว้ในหน้า ๙๖ - ๙๗ ดังนี้

"...พูดส่อเสียด หรือ ปิสุณาวาจา หมายถึง เจตนาพูดส่อเสียดเหน็บแนม กระทบกระเทียบ ถากถาง เย้ยหยันให้ผู้อื่นได้รับความเสียใจ คับแค้นใจ ขุ่นเคือง โกรธ อับอาย มีความทุกข์

การพูดจาส่อเสียดมีอยู่ทั่วไปในทุกองค์กร และมีมากในหมู่สตรี คนพูดทำไปด้วยความเขลา หารู้ไม่ว่าการกระทำของตนเป็นการทำร้ายจิตใจของผู้อื่น และวิบากกรรมที่ได้ทำไปจะตามสนองอย่างแน่นอน

คนบางคนพูดส่อเสียดผู้อื่นจนเคยตัว กลายเป็นนิสัยไปและหลงภูมิใจว่า ตนมีคารมคมคายในการประชดประชันถากถางผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นเจ็บใจ ยิ่งได้รับแรงเชียร์จากเพื่อนรอบข้างก็ยิ่งได้ใจใหญ่ ใช้วาจาสร้างความบาดหมางชิงชังให้กับผู้ที่ถูกกระทบ

คำพูดส่อเสียดที่ทิ่มตำผู้อื่น ทำให้ผู้ถูกส่อเสียดบางคนถึงกับเสียคนเสียอนาคตไป เช่นบางคนมีปมด้อยด้านรูปร่างหรือด้านครอบครัว เมื่อถูกเพื่อนส่อเสียดล้อเลียนอยู่เป็นประจำ ยิ่งขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ตอกย้ำปมด้อยให้ฝังแน่นอยู่ในใจ ถึงกับเสียโอกาสเสียอนาคต เสียสุขภาพทั้งกายและจิต

นักเรียนบางคนไม่อยากไปโรงเรียนเพราะไปแล้วถูกเพื่อนล้อ กลายเป็นที่ขบขันของคนอื่น หรือทำให้ได้รับความอับอาย ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในตนเองเสียไป บุคลิกภาพเสียไป และการเรียนตกต่ำลง กลายเป็นคนเก็บตัว ไม่เข้ากับเพื่อน ขวัญและกำลังใจตกต่ำ

บางคนไม่อยากไปทำงานหรือต้องฝืนใจไปทำงาน ก่อนออกจากบ้านก็เครียด เพราะกลัวว่าตนต้องพบกับสายตาที่ดูหมิ่นดูแคลน เยาะเย้ย และจะต้องได้ยินคำพูดที่ส่อเสียด กระทบกระเทือนจากคนบางคน ทำให้มีทุกข์ใจถึงกับเป็นโรคเครียด โรคความดันโลหิต โรคท้องผูก ปวดศีรษะไมเกรน โรคกระเพาะอาหาร หรือโรคอื่น ๆ อันเนื่องมาจากความเครียด บางคนหาทางออกไม่ได้ถึงกับลาออกจากงาน บางคนคิดสั้นถึงฆ่าตัวตาย

ผู้เขียน (พระอาจารย์ชาญชัย อธิปญโญ) อยากจะขอร้องใครก็ตามที่มีนิสัยพูดส่อเสียดผู้อื่นให้หยุดการกระทำนั้นเสีย เพราะการใช้วาจาเป็นอาวุธทิ่มแทง ทำร้ายผู้อื่นอย่างเหี้ยมโหด ผลของการกระทำดังกล่าว เมื่อตายไปโอกาสจะไปเกิดในอบายภูมิมีสูงมาก หากเป็นเปรตจะมีปากวิปริตเช่นปากเน่า มีหนอนชอนไชอยู่ตลอดเวลา หากได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ก็จะถูกผู้อื่นพูดส่อเสียดให้เจ็บช้ำน้ำใจ หาความสุขมิได้..."

ที่มา http://www.gotoknow.org/blogs/posts/246916

 

ขอบคุณคุณ
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เกษม<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5815933", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ

ที่คอยเตือนสติบางคนที่ชอบพูดส่อเสียดไม่ให้ถลำลงนรกมากไปกว่านี้ ว่าแต่ใครพูดก็พิจารณาตัวเอง ดึงตัวเองกลับเถอะครับ ไม่คุ้มกันดอก

 

หนังชีวิต


สลด พ่อขับรถฝ่ากระแสน้ำ ถูกซัดจมหาย เสียชีวิตทั้งครอบครัว 4 ศพ <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>8 มีนาคม 2555 </TD><TD vAlign=middle align=left>



<TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เกิดเหตุชาวบ้านพื้นที่ อ.สะเดา ขับรถกระบะพร้อมครอบครัว ข้ามสะพานฝ่ากระแสน้ำที่เชี่ยวกราก เครื่องยนต์ดับรถถูกน้ำซัดจมหาย เจ้าหน้าที่กู้ภัย ชาวบ้านช่วยค้นหา นานกว่า 6 ชม.พบเสียชีวิตทั้งครอบครัว 4 ศพ

เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา ( 7 มี.ค.) ได้เกิดฝนตกอย่างหนักในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา และเกิดเหตุเศร้าสลดขึ้น เมื่อ นายหมาดอาสัน หมาดสา อายุ 33 ปี ได้ขับรถยนต์กระบะ ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่นดีแม็ก สีดำ ทะเบียน ผค 5561 สงขลา

โดยมี นางขนิษฐา หมาดสา อายุ 36 ปี ภรรยา พร้อมด้วยลูกชายอายุ 9 ปี และลูกสาว อายุ 5 ปี นั่งอยู่ภายในรถด้วย และได้ขับรถยนต์กระบะฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก เพื่อข้ามสะพานข้ามคลอง ระหว่าง บ้านต้นไทร - บ้านไร่ตก ม.6 ต.สำนักขาม อ.สะเดา กลับบ้านพักอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 1 กม.

แต่จากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวเมื่อรถถึงกลางสะพานเครื่องเกิดดับและน้ำได้ซัดรถกระบะไหลไปตามกระแสน้ำจมลงในคลองซึ่งระหว่างนั้นมีรถยนต์ และรถจักรยานรถจอดรอให้น้ำลดกว่า 30 คัน

หน่วยกู้ภัยเทศบาลสำนักขาม เทศบาลสะเดา และอาสาสมัครวิทยุเครื่องแดงศูนย์มั่นคง ได้นำเรือมาช่วยในการค้นหาด้วยความอยากลำบาก ใช้เวลากว่า 6 ชม. จึงพบรถยนต์กระบะ จมอยู่ในน้ำลักษณะหงายท้องหัวทิ่มลงในน้ำ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร

จึงได้ประสานรถแบคโฮมาทำการดึงรถกระบะขึ้นจากน้ำได้สำเร็จ และพบร่างทั้งครอบครัวเสียชีวิตพร้อมกัน4 ศพ อยู่ภายในรถยนต์กระบะ

ชาวบ้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่าขณะยืนอยู่ได้เห็นรถคันดังกล่าวขับมา และขับฝ่ากระแสน้ำไปโดยไม่ได้หยุดสอบถามใคร เมื่อไปถึงกลางสะพานที่มีน้ำไหลเชี่ยว เครื่องยนต์เกิดดับ ทำให้รถยนต์กระบะหมุน และถูกกระแสน้ำซัดหายไปต่อหน้าต่อตา


</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=25 vAlign=bottom width=102 align=right></TD><TD height=25 vAlign=bottom background=/images/TabGalleryUBG.gif align=center></TD><TD height=25 vAlign=bottom width=11 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=7 vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ede9e8><TABLE border=0 cellSpacing=8 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width="33%" align=center></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=top width="33%" align=center></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=top align=center></TD></TR><TR><TD vAlign=middle width="33%" align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=middle background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=middle width="33%" align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=middle background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=middle background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline width="33%" align=center></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=baseline width="33%" align=center></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=baseline align=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="33%" align=center></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=top width="33%" align=center></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=top align=center></TD></TR><TR><TD vAlign=middle width="33%" align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=middle background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=middle width="33%" align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=middle background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=bottom background=/images/a_up.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=bottom width=2 align=left></TD></TR><TR><TD vAlign=middle background=/images/a_L.gif width=2 align=right></TD><TD bgColor=#ffffff vAlign=middle align=center><TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=middle background=/images/a_R.gif width=2 align=right></TD></TR><TR><TD height=2 vAlign=top width=2 align=right></TD><TD height=2 vAlign=top background=/images/a_Dn.gif align=center></TD><TD height=2 vAlign=top width=2 align=left></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline width="33%" align=center></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=baseline width="33%" align=center></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=baseline align=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top width="33%" align=center></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=top width="33%" align=center></TD><TD vAlign=middle background=/images/linedot_vert2.gif width=4 align=center></TD><TD vAlign=top align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเกิดการระเบิดพลังงานร้อนระอุ 2 ครั้ง บนพื้นผิวของดวงอาทิตย์ ก่อให้เกิดการแผ่รังสีและพายุแม่เหล็กโลก ส่งผลกระทบต่อโลกรุนแรงสุดในรอบ 5 ปี
โดยพายุสุริยะครั้งนี้ จะพัดผ่านโลกในช่วงเช้าวันนี้(พฤหัสบดี) ตามเวลาในสหรัฐ หรือเวลาประมาณ 13.00 ถึง 17.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาสหรัฐฯ ได้ออกประกาศเตือนถึงคลื่นรบกวนครั้งนี้ ว่า รังสีที่แผ่ออกมาจากพายุสุริยะ จะไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ แต่อาจส่งผลรบกวนและทำให้เกิดการขัดข้องของเครือข่ายพลังงาน ระบบจีพีเอส ดาวเทียม และสายการบินต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณขั้วโลกหรือในประเทศที่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ดังนั้นเครื่องบินที่จะบินผ่านบริเวณดังกล่าวจึงควรเปลี่ยนเส้นทางการบิน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร
Mthai News




นางสาวมาร์กาเร็ตตา วาลสตรอม ทูตพิเศษว่าด้วยการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติขององค์การสหประชาชาติ (UN) กล่าวว่า หายนะภัยทางธรรมชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำท่วมในประเทศไทย แผ่นดินไหวกับสึนามิที่ญี่ปุ่น และแผ่นดินไหวในเมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์ ทีเกิดขึ้นในปี 2554 เป็นเหตุการณ์สำคัญทำต้นทุนความสูญเสียทางเศรษฐกิจทั่วโลกพุ่งสูงที่สุดในรอบ 7 ปี กว่า 11.4 ล้านล้านบาท
ทั้งนี้ แผ่นดินไหวกับสึนามิและเหตุโรงงานนิวเคลียร์ที่ฟูกูชิมาระเบิดทำให้เกิดความสูญเสียกว่า 6.3 ล้านล้านบาท ส่วนน้ำท่วมหนักในไทย ทำให้เกิดความเสียหายกว่า 1.2 ล้านล้านบาท
ขณะที่ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ได้คาดการณ์เหตุแผ่นดินไหวที่เมืองไครสต์เชิร์ชของนิวซีแลนด์เมื่อวันที่ 22 ก.พ.ปีที่แล้ว ทำให้เกิดความสูญเสียคิดเป็นมูลค่าราว 7.5 แสนล้านบาท
Mthai News

 

ผู้มีปัญญามองเห็นในความจริงเท่านั้น พึงจะทำสัจจะให้มั่นคงสมบูรณ์

ผู้มีปัญญาเท่านั่น เมื่อกระทำสัจจะให้มั่นคงสมบูรณ์แล้ว พึงใช้สัจจะนั้นอธิษฐาน

ผู้มีปัญญาเท่านั้น จึงรู้จักใช้ "สัจจะยาธิษฐาน" ให้พึงบังเกิดผล

 

ความหมายก็คือ...เหตุการณ์ต่างๆเช่นแผ่นดินไหว...น้ำท่วม...ภัยธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นทุกขณะและทุกสถานที่ทัวโลก...ทำให้เราเห็น.....คิดบวกครับๆๆๆๆๆอย่าเอาอคติหรือความคิดของตนเองมาตัดสินความคิดของคนอื่นและวิพากย์วิจารณ์....นักปฏิบัติเฝ้ามองจิตของตนเองและปรับปรุงแก้ไข...อโหสิกรรมครับ(kiss)

 

ขอบคุณสำหรับข่าวสารที่มีประโยชน์....จิตสาธารณะขอคารวะครับ(f)

 

สำนักข่าวต่างประเทศ (8 มี.ค.) รายงานเหตุการณ์แปลกประหลาดของช่างภาพคนไทยที่สามารถจับภาพปรากฏการณ์บนท้องฟ้าเป็น ภาพคล้ายเทพ  

รายงานระบุว่า ภาพดังกล่าวเป็นของ นายอิศเรศ ช่อผกา อาชีพช่างภาพ อายุ 51 ปี  เขาสามารถถ่ายภาพบนท้องฟ้าเหนือวัดพระแก้วออกมาเป็นรูปคล้าย "เทพพญาครุฑ" ซึ่งปรากฏการณ์บนท้องฟ้าเกิดขึ้นเพียงแค่ 10 วินาทีเท่านั้น

ทั้งนี้ นายอิศเรศ เปิดเผยว่า ภาพอันน่าอัศจรรย์ที่เขาสามารถบันทึกได้นั้น เขาถ่ายได้ที่วัดพระแก้ว วันที่เขาเก็บภาพนี้ได้อากาศบนท้องฟ้ามีเมฆมากคล้ายกับฝนกำลังจะตก แต่จังหวะเดียวกันนั้นเองได้เกิดแสงอาทิตย์ได้ลอดผ่านมาซึ่งเกิดเพียงเสี้ยววินาที ทำให้เขาต้องหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพไว้ ซึ่งหลายคนที่ดูแล้วถึงกับตะลึงเพราะภาพนั้นปรากฏคล้าย เทพพญาครุฑ  

 

 

 

พายุสุริยะครั้งใหญ่มีผลกระทบต่อโลก


08 มีนาคม 2555

พายุสุริยะครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 5 ปีกำลังเคลื่อนตัวมายังโลก จะส่งผลให้มีการปล่อยอนุภาคประจุไฟฟ้าที่จะส่งผลให้กระแสไฟฟ้าขัดข้อง รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อระบบบอกพิกัดบนพื้นโลก (จีพีเอส) และทำให้เที่ยวบินต่างๆ ประสบปัญหาในการบิน จะเริ่มส่งผลกระทบต่อโลกในวันนี้

ด้าน รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ คาดการเกิดพายุสุริยะครั้งล่าสุด จะส่งผลกระทบรบกวนการสื่อสารดาวเทียม จีพีเอส โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม หรือธุรกรรมที่ใช้ดาวเทียม ส่วนผลกระทบต่อไทยจะน้อยมาก เพราะไทยอยู่แถบศูนย์สูตรซึ่งมีสนามแม่เหล็กป้องกันไว้ไม่ให้อนุภาคที่มีพลังงานสูงเข้ามาได้ง่าย จึงไม่ต้องวิตกกังวล จากการที่อนุภาคแม่เหล็กสามารถผ่านมาทางขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ได้ หลายประเทศอาจเตือนให้งดการบินผ่านขั้วโลกหรือเปลี่ยนเส้นทางการบินในช่วงเวลาดังกล่าว ชี้พายุสุริยะจะเกิดมากที่สุดในปีหน้าซึ่งครบรอบ 11 ปี แต่ไม่ต้องวิตกกังวล เพราะโลกมีทั้งสนามแม่เหล็กและชั้นบรรยากาศป้องกันไว้ และโอกาสที่พายุสุริยะจะทำอันตรายโดยตรงกับโลกน้อยมาก ในอดีตไม่เคยปรากฏเหตุที่ทำอันตรายต่อมนุษย์