ข่าวดี ของพวกเรา "พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ"

continue

continue

 

continue

continue

 

ขอลงมั่งจิ...

 

continue

continue

 

เคล็ดวิชาจากน้องนาคามูระ

การตัดดินสอที่พวกเราทำก็เพื่อเสริมสร้างความหนักแน่น เด็ดเดี่ยว แน่วแน่ มั่นคง เปรียบได้กับเอกคัตตารมณ์
<DIR>เพื่อใช้ในการตัดกิเลสนั้นเอง

เป็นส่วนหนึ่งในการปฎิบัติธรรมขั้นสูงต่อไป ^^
</DIR>

 

ดูต่อเลยจ้า...

 

พยายามจะส่งภาพมาอีกครับ...อืดๆๆๆ

 

ไปเรื่อยๆจ้า...

 

สามัคคี...คือพลัง...(ตามหา UFO)

 

สุดท้ายก็...

ลาที...มิใช่..ลาจาก....

 

ภาพแห่งความประทับใจ

ขณะที่ท่านเจ้าภาพ และพวกเราเหล่านักพลังจิตได้ ร่วมกันถวายมหาสังฆทานนั้น...

ดวงจิตองค์เสด็จพ่อจตุคามรามเทพ ท่านได้มาอนุโมทนา และเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศล ของพวกเราด้วยครับ...

จึงขอกราบขอบพระคุณ...องค์เสด็จพ่อเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้สงเคราะห์ อนุเคราะห์ปวงข้าพระพุทธเจ้า...พระพุทธเจ้าข้า

 

รอดู UFO พี่พรหม...คับ

 

ขอแก้ครับพี่Mead..หลวงปู่ดู่ครับผม

เรื่องของคุณอาธนิตย์ก็น่าสนใจดีครับ ยืนแอบฟังเขาคุยกันอยู่ห่าง....มันอดไม่ได้เลยเดินเข้าไปฟังใกลัๆ เห็นคุณอาธนิตย์พูดว่าในงานนี้อาเขาก็เห็นมีผู้ถูกติดตั้งอุปกรณ์เหมือนกัน แต่ไม่บอกว่าเป็นใคร

 

ก็นับเป็นนิมิตรหมายที่ดีในการ สร้างบารมีของพวกเรา ชาวเวบพลังจิตที่ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองดูแล อยู่เสมอครับ

ขออนุญาติ ลงเรื่องราวที่เป็นสิ่งอัศจรรย์ทั้งหมดที่ปรากฏขึ้นในงานวันนั้นครับ

-เริ่มต้นตั้งแต่ การเสนอของสถาบันTRISAR ที่จะสอนพวกเรานั้น ตอนนั้น ผมเอง ขี่จักรยานไปเอามวลสารจากวัดระฆังไปให้น้องโบโก้ สร้างพระ ระหว่างทางจึงนึกยังไงไม่ทราบ แวะที่สถาบัน ก็บังเอิญพบ อ.ศิวพรพอดี (ซึ่งปกติการเจอ อ.ที่นี่ยากมากเพราะอ.มีงานประจำเป็นข้าราชการระดับสูงของ กระทรวงไอซีที) วันนั้นก็ได้แต่แนะนำเวบไซท์พลังจิตให้อ.ท่านได้ทราบ และแจ้ง อ. เรื่องงานที่พวกเราได้ทำกัน เรื่องช่วยคนจากภัยพิบัติ ระหว่างนั้น พระท่านได้บอกว่าต่อไป อ.จะมาสอนให้ฟรี เราก็ยังเฉยๆ ไม่มีทีท่าอะไร รอดู จู่ๆทางสถาบันก็ติดต่อมาที่ผมว่า อ.และสถาบันจะสอนให้ฟรีจริงๆ ก็นับเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจและเป็นความโชคดีของพวกเรา

เมื่อสิบกว่าปีก่อนนี้ สมัยที่ อ.สรพลยังสอนอยู่ที่สำนักเสริมศึกษา ในการสอนครั้งหนึ่ง เพื่อนผมที่อยู่ในเหตุการณ์(ตอนนี้เป็นพระ ชื่อ "ครูบาก้อง") ได้เล่าให้ฟังว่า ในช่วงที่อยู่ในสเตจของการตกภวังค์จนไม่รู้สึกตัว มีผู้อบรมท่านหนึ่ง เกิด ลุกมานั่งขัดสมาธิ และลอยผึงขึ้นมานั่งสมาธิบนโต๊ะ (โดยไม่ได้ยืนโดดหรือขยับขาออกจากท่าสมาธิ) แล้วบอกว่า ท่านคือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ แล้วบอกว่า ข้างบนเขาดูกันอยู่นานแล้ว ว่า พวกนี้มันทำอะไรกัน ฝึกอะไรกันอยู่ แล้วท่านก็บอกว่าดีแล้วให้ฝึกต่อไป ทำต่อไป เรื่องนี้บังเอิญผมก็ไม่ได้ขอให้ทางอ.เล่าให้ฟังด้วย

-เรื่องต่อไป ทางคุณ พุทธันดร ได้มาเปิดใจให้ฟังทีหลังว่า "ตอนแรกก็ไม่ได้คิดที่จะให้ ใช้บ้านสำหรับฝึกอบรมในกิจกรรมนี้หรอก แต่ปากพูดไปเอง " สรุปว่าเหตุการณ์พาไปครับ แต่ก็เป็นผลดีในการเสริมสร้างบารมีของท่านเจ้าของบ้านด้วยครับผม

-ในการที่มีการจัดการบวงสรวงนั้น ตอนแรกผมเกรงใจเจ้าของบ้าน แต่พระท่านสั่งให้ทำ เราเลยแอบจัดการกันไม่ให้เดือดร้อนเป็นธุระกับท่านเจ้าของบ้านนัก แล้วมาเฉลยกันในช่วงเช้า จึงไม่ได้มีในหมายกำหนดการ แต่คุณกิ๊กเองก็ทราบเรื่องนี้เพราะพระท่านได้บอกเช่นกัน

-ที่ตกลงกัน ผมเตรียมซีดี บวงสรวงมา ไรท์เอง พี่ZZ เอะใจเตรียมมาด้วยอีกชุด พอเช้าลองเปิด ซีดีของผมเปิดไม่ได้ ต้องเอาของ พี่ZZ เปิด เริ่มด้วยชุมนุมเทวดา จะต่อ ด้วยสมาทานพระกรรมฐาน เครื่องกลับไม่เล่นต่อ(เนื่องจากการอบรมนี้ไม่นับเป็นกรรมฐานตรงๆ นับเป็นวิชาทางจิตศาสตร์) ก็เลยต้องต่อเป็นการอัญเชิญเทพจตุคามโดยพี่ZZ นำ และผมนำสวดคาถาเงินล้าน และการอธิฐานจิต

สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจเกิดขึ้น ซึ่งอาจมีบางคนไม่ทราบ ก็คือ มีพี่ผู้หญิงท่านหนึ่ง อยู่คอนโดชั้นสี่ ชั้นห้า เป็นห้องแอร์ อยู่ๆ เกิดได้ยินเสียงสวดมนต์และมีกลิ่นธูป ลอยมาให้ได้กลิ่น ตัวเองขนลุกแล้วจิตบอกว่า ต้องมีคนทำบุญต้องไปทำบุญ ก็เลยเดินลงมาถามคนข้างล่าง และตัดสินใจมาถามยามที่หน้างาน และพอพวกเราไหว้เสร็จก็ได้มาคุยกับผมและคุณพุทธันดร ว่าทำอะไรกัน หลวงพ่อในรูปท่านชื่ออะไร ก็ตอบไปว่า ชื่อหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุง แล้วเลยเล่าเรื่องให้ฟัง ผมและคุณพุทธันดรก็เลยเชิญให้เข้ามาร่วม ในงานนี้ด้วย เพราะเราถือว่าเป็นแขกของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ท่านไปตามมา เธอก็ขอโอกาสเข้าไปกราบรูปหลวงพ่อฤาษีในโต๊ะบวงสรวง ด้วยความศรัทธา สิ่งที่ปรากฏกับหลายคนก็คือตลอดเวลาที่เธอเล่า ทุกคนที่ยืนฟังขนลุกแล้วลุกอีก แต่ไม่ได้เล่าให้ฟังกันทุกท่าน ก็ขอบันทึกเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วย

ส่วนเรื่องอื่น ที่เป็นเรื่องอัศจรรย์นั้น ก็มีเรื่องราวของพี่ZZ ที่ปรากฏกับเครื่องเล่นซีดี เรื่องลูกชมพู่หล่นตอนร่ายโองการ ขออนุญาตให้เจ้าตัวมาเล่าเอง ตอนนี้พี่ท่านกำลังมาแรงมากๆ ในการสร้างบารมี

อีกเรื่องหนึ่งได้แก่ เรื่องฝนที่ตกตอนกลางวัน พี่เม้าได้เล่าให้ฟังว่า ได้ทราบล่วงหน้าตั้งแต่ตอนก่อนไปว่า จะมีฝนตกแต่ไม่แรง และพวกเราจะช่วยกันแก้ไขปัญญาจนผ่านอุปสรรคกันไปได้

และก็ปรากฏว่าจริง มีฝนเริ่มตกปรอยๆลงมา (เทวดาพรมน้ำมนต์) พวกเรารีบเอาผ้าที่รองนั่งมากางออกเป็นที่บังฝนกัน แต่พอกันเสร็จฝนก็กลับหยุด พอมานั่งพิจารณากันดู ก็เป็นเรื่องแปลกที่ฝนที่ตกลงมานานพอสมควรนั้น พวกเราที่ถูกฝนกลับไม่มีใครเปียกกันเลยซักคน ไม่มีรอยหยดน้ำบนเสื้อกันแต่อย่างไร ก็มานึกถึง ฝนในสมัย พุทธกาลที่มีชื่อว่า ฝนโบกขรพรรษ ที่ใครปรารถนาให้เปียกก็เปียกใครปรารถนาให้ไม่เปียกก็ไม่เปียก คงเป็นเทวานุภาพที่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านเมตากับพวกเราครับ เพราะวันนั้นในหลายพื้นที่ฝนตกหนักครับ

 

อันที่จริงผมเคยพบคุณคนานันท์ กับคุณพุทธธันดรมาก่อนนะครับ ที่วัดท่าซุง ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นหลังจากเสร็จการธุดงค์ ประมาณ 2 หรือ 3 ปีที่แล้ว ขณะที่ท่านเจ้าอาวาสพาขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพวกเรากำลังนั่งรออยู่บริเวณมณฑปท่านท้าวมหาราช ที่จำได้เพราะว่าคุณคนานันท์ กำลังคุยกันเรื่อง MP3 เสียงธรรมของหลวงพ่อที่อยู่บน Web (ประมาณว่าคุยเสียงดัง) ทำให้ผมหูผึ่งเพราะอยากได้บ้าง แต่เกรงใจไม่กล้าถามว่า web ไหน แต่ในที่สุดก็หา Download จนได้ ... เป็นเรื่องแปลกที่ได้ร่วมกิจกรรมด้วยกันครับ

 

คุณ MOUNTAIN ครับ ลิงค์ไฟล์หนังนั้น มันลิงค์ไปยังเครื่องของคุณครับ มันก็เลยไม่ขึ้น ต้องอัพโหลดขึ้นมาก่อน ไฟล์นามสกุล asf ไม่แน่ใจว่าให้อัพโหลดขึ้นมาได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ก็คงต้องทำเป็น zip ไฟล์ แล้วให้คน download ไปดูกัน

ส่วนรูปนี้อยากรู้จังคับ ว่าตรงแถวๆ มุมซ้ายบนของรูปส่วนที่วงกลมไว้มันคืออะไร??

วันนั้น มีทั้งงานด่วน ทั้งงานเร่งเข้ามาพอดี ตอนแรกกะว่าตอนเช้าจะไปด้อมๆ มองๆ อะไรซักหน่อย แล้วตอนบ่ายก็ไปทำธุระ แต่มีงานเร่ง งานร้อนเข้ามาตอนเย็นวันเสาร์พอดี นั่งปั่นงานจนถึงตี 5 หมดแรงไปพอดีเลย

แต่ว่าหลังจากเสร็จธุระตอนบ่ายก็มีแอบไปดูสถานที่เกิดเหตุซักหน่อย ซึ่ง....มันก็ 6 โมงเย็นแล้วล่ะ ไปถึงก็อย่างที่คิดไว้ งานเลิกกันแล้ว(แล้วจะถ่อไปทำไมเนี่ย??) เดินเข้าไปลึกพอดูเลยนะเนี่ย ว่าแต่ซอยนั้นร้านอาหารเยอะเหมือนกันนะ คงเพราะมีหลายโรงแรมอยู่ในซอยนั้น