สัมมาสมาธิ แตกต่างกับ สมาธิทั่วไปอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 6 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    "เสียอะไรเสียได้ แต่อย่าเสียดายความรู้สึก" ทั้งฝ่ายอิฏฐารมณ์ และอนิษฐารมณ์

    จึงเป็นไปเพื่อความสละ เพราะพิจารณาเห็นคุณและโทษในอารมณ์ดังกล่าว

    เพื่อความไม่เป็นภัย เราจึงเป็นผู้ให้อภัยได้ทุกเมื่อ กับความรู้สึกอารมณ์เวทนานั้นปรากฏ

    นั่นเพราะเราฟังธรรมแต่ภายใน ด้วยความมีสติสัมปชัญญะ
    ต่อผัสสะที่มากระทบทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

    ดังนี้ ผมจึงบอกว่า การฟังธรรม และการให้ ว่าเป็นขั้นของภาวนามยปัญญา ^^
     
  2. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    วันนี้ดูจะสนใจลำดับปัญญา

    จัดให้ครับ เมาท์ไม่ดี จึงไม่สามารถก๊อปยาวๆมาแสดงได้ ^^

    พระไตรปิฏกเล่มที่ ๓๕ - พระอภิธรรมปิฎกเล่มที่ ๒
     
  3. หม้อหุงข้าว..!

    หม้อหุงข้าว..! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +1,072
    ขอบคุณครับ

    "อายโกศล" กับ "อปายโกศล" สิ่งไหนเป็นสัมมาวายามะ สิ่งไหนเป็นมิจฉาวายามะ

    หรือทั้งสองเป็นทั้งสัมมาวายามะ หรือไม่ได้เป็นทั้ง สัมมาวายามะ และมิจฉาวายามะ
     
  4. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80

    "อายโกศล" กับ "อปายโกศล"

    อายโกศล เป็น สัมมาวายามะ

    อปายโกศล เป็น มิจฉาวายามะ


    ทั้งสองเป็นส่วนกุศล และส่วนอกุศล

    เกิดจากสัมมาทิฏฐิ และมิจฉาทิฏฐิ เป็นประธาน
     
  5. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    งืมๆ ทีนี้ เมื่อเคยสดับในธรรมที่เป็นไปในสัมมาทิฏฐิแล้ว

    ถามว่า หากยังไม่ลงมือทำตาม ก็ยังไม่เป็นสัมมาทิฏฐิใช่ไหม

    หากกำลังลงมือทำตาม คำสอนที่เป็นไปในสัมมาทิฏฐิแล้ว
    อันนี้เรียกว่า ได้สัมมาทิฏฐิหรือยัง
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ให้พิจารณาเรื่องต่อไปนี้ก่อน
    เอาง่ายๆ สัมมาอาชีโว สัมมากัมมันตะ สัมมาวายามะ

    เอาแค่สามอย่างนี้ื แม้ไม่เคยฟังพระศาสดามาก่อน คนทุกคนมีสิทธิ์ ทำได้ไหม
     
  7. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    [​IMG]




    สมาธิขั้นอุปจาระก็ดี ขั้นสมถะก็ดี เป็นสิ่งจำเป็นที่นักภาวนาจะต้องรีบเร่งเอาให้ได้ เมื่อเรามีสมาธิขั้นอุปจาระ หรือขั้นอัปปนา ได้ขื่อว่าเรามีสมาธิที่ดำเนินเข้าไปสู่ การทำจิตของตนเองให้เป็นพุทธะ ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ในตอนนี้จิตเป็นตัวของตัวเองโดยเด็ดขาดอัตตา ทีปะ มีตนเป็นเกราะคือเป็นที่ยึด อัตตะ สะระณา มีตนเป็นที่พึ่ง อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ มีตนเป็นที่พึ่งของตนนี่ถึงแล้ว อัตตาหิ อัตตะโน นาโถ ตนเป็นที่พึ่งของตนมันอยู่ที่ตรงนี้ ในตอนแรก เราพยายามทำจิตของเราให้เป็นที่พึ่งของตนให้ได้เสียก่อน ในเมื่อจิตมีสมาธิ จิตมีความเป็นที่พึ่งของตนได้โดยเด็ดขาด แม้ว่าจิตนั้นจะมีแต่ความสงบ นิ่ง อยู่เรื่อย ๆ ก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องไปเดือดเนื้อร้อนใจ ไม่ต้องไปนึกว่า เมื่อไรจิตมันจะเกิดวิปัสสนา เมื่อไรจะเกิดภูมิความรู้ เมื่อไรจะได้ฌาน เมื่อมีสมาธิมันก็มีฌานจิตสงบลงเป็นอุปจารสมาธิ มีภาวนาอยู่ก็มีวิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา ก็ได้ฌานที่ ๑ แล้ว เมื่อจิตหยุดภาวนา จิตนิ่ง สว่างไสว มีปีติ มีสุข มีความเป็นหนึ่ง ก็ได้ขื่อว่าฌานที่ ๒ เมื่อปีติหายไปมีแต่สุขกับเอกัคคตา ก็ได้ฌานที่ ๓ เมื่อสุขหายไปเพราะกายหายไปหมดแล้วมีแต่เอกัคคตากับอุเบกขาจิตก็ได้ฌานที่ ๔ นี่ภาวนาได้ฌานแล้วจะไปเดือดเนื้อร้อนใจอะไรกันในเมื่อเรามีสมาธิก็มีฌาน ในเมื่อมีฌาน ญาณมันก็มีขึ้นมาเอง เมื่อมีญาณมันก็มีปัญญา เมื่อญาณแก่กล้าก็บันดาลให้จิตเกิดภูมิความรู้ขึ้นมา ภูมิความรู้ที่เกิดกับจิตก็คือความคิดนั่นเอง ความคิดที่มันผุดขึ้นมา ๆ ผุดขึ้นมาเป็นเรื่องของธรรม บางทีมันก็ผุดขึ้นมาว่า อ้อ! กายของเรามันก็เป็นอย่างนี้หนอ มันมีแต่ของปฏิกูลน่าเกลียด โสโครกสกปรก มีแต่ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา อันนี้ปัญญามันบังเกิดขึ้นมาเพราะมีญาณ<O:p</O:p



    ในเมื่อปัญญามันบังเกิดขึ้นมาอย่างนี้ เรามีสติสัมปชัญญะตามรู้ปัญญาที่มันเกิดขึ้น ไอ้เจ้าปัญญานี่ มันก็ไปของมันเรื่อยไป ไอ้ตัวสติก็ตามรู้ของมันเรื่อยไป ควบคุมกำกับกันไปอยู่ จิต อารมณ์ สติ ไม่พรากจากกัน นั่นคือจิตได้ภูมิวิปัสสนาขึ้นมาแล้ว เมื่อเป็นเช่นนั้นเรื่องอะไรที่เราจะไปกลัวว่าจิตมันจะติดสมถะ ไม่มีทางถ้าหากว่าจิตมันจะไปติดสมถะกันจริง ๆ ครูบาอาจารย์ท่านก็ไม่สอน แต่ถ้าจิตจะติดสมถะ ติดสมาธิในขั้นฌานก็ดีนี่ ดีกว่ามันไม่ได้อะไรเลย! ถ้ามันได้แต่ความคิดโดยความตั้งใจภูมิปัญญาความรู้ไม่เกิดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ถ้าไม่คิดก็ไม่มีความรู้เมื่อตั้งใจคิดจึงเกิดความรู้อันนี้มันเป็นสติปัญญาธรรมดา แต่ถ้าอยู่ ๆ มันคิดของมันขึ้นมาเอง ปรุงขึ้นมาเอง เป็นเรื่องของธรรม ปรุงขึ้นมาแล้วก็มีปีติ มีความสุขควบคู่กันไป มีความสงบควบคู่กันไป<O:p</O:p



    จิตมีความคิดอยู่สงบได้อย่างไร มันสงบอยู่กับหน้าที่ที่มันพิจารณาอารมณ์อยู่ในปัจจุบันนั้น มันไม่เอาเรื่องอื่นเข้ามาแทรกมาแซง ธรรมะที่เกิดขึ้นมา ผุด ๆ ขึ้นมา สติก็รู้ รู้อยู่ที่จุดที่มันผุดขึ้นมานั่น แล้วมันไม่ได้แส่ไปทางอื่น กำหนดรู้อารมณ์จิตตลอดเวลา นี่คือความสงบจิตในขั้นวิปัสสนา


    ที่มา..เข้าถึงพระไตรลักษณ์ โดย พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)<O:p</O:p
    <!-- google_ad_section_end -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2012
  8. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ลองดูว่าทุกคนมีสิทธิ์ทำได้หรือไม่

    เพราะว่า

    มิจฉาอาชีโว
    มิจฉากัมมันตะ
    มิจฉาวายามะ

    ก็มีอยู่

    หากไม่ได้สดับรับฟัง ในส่วนที่เป็นสัมมา
    จะแยกออกได้ไหม ว่า นั่นเป็นสัมมาหรือมิจฉา

    แล้วการประกอบในส่วนที่เป็นไปในทางสัมมาจะเจริญได้อย่างไร


    ยกตัวอย่างเช่น

    มิจฉาอาชีโวที่เป็นการเก็บสะสม พอกพูน กุศลก็มีอยู่
    มิจฉาอาชีโวที่เป็นการสะสม พอกพูน อกุศล ก็มีอยู่
     
  9. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นั่นพูดแบบ คนไม่ปฏิบัติ จะเอาแต่ตำราแต่อย่างเดียวเที่ยวไปอธิบายให้มันยาก ว่าจะต้องเกิดจิตแบบนั้นเกิดจิตแบบนี้ เวลาเอาไปสังเกตุจริงไม่รู้
    อีกอย่างหนึ่ง ที่ว่าคนไม่ศึกษาปริยัติ นั่นก็ทึกทักไปเอง คนที่เขาศึกษาปริยัติ จนตกผลึกทางความคิดแล้วกลั่นกรองมาเป็นภาษาปฏิบัติก็มีมากมาย ยกตัวอย่างเช่น ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง นี่เป็นตัวอย่างของผู้รู้ที่ตกผลึกทางความรู้ นี่พูดให้ฟังจะได้ไม่นึกว่าตนเองรู้ไปเสียทั้งหมด แล้วไปหยิบคำพูดแต่ทฤษฎีมาพูดมากล่าว ในทำนองอยากอวดว่าตนรู้มาก

    เรื่องสมาธิเป็นกลาง นี่ก็เหมือนกัน ถ้าอวิชชายังอยู่ สมาธิมันเป็นสมุทัยทั้งดุ้น
    การไปพูดถึงคนลักทรัพย์ว่ามีสมาธิเหมือนกัน จึงเป็นคำพูดที่ห่างจากการปฏิบัติไปแล้ว
    ควรจะกล่าวถึงนักปฏิบัติว่า สังเกตุสมาธิของตนอย่างไร เพราะคนมีกุศลตั้งมั่น ก็ตั้งจิตไว้ผิดได้

    นี่จึงว่า คนโง่มักจะมองว่าผู้อื่นรู้ไม่เท่าตน
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    นี่แสดงว่าไม่เข้าใจ ธรรมชาติ ก็กล่าวไปแล้วว่าธรรมชาตินั้นมีอยู่ จะแยกออกหรือแยกไม่ออก ก็อีกเรื่องหนึ่ง แย้งอะไรไม่เข้าท่า
     
  11. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    อย่างที่กล่าวไป ปัญญามีหลายระดับ

    คำว่าลงมือทำ หมายถึง สัมมาที่เหลือทั้ง ๗ จะถูกต้องด้วยหรือไม่ ถูกไหม

    พึงทราบว่า สัมมาทิฏฐิเป็นปัจจัยให้ มรรคทั้ง๗เกิด

    สัมมาทิฏฐิเป็นประธาน

    มันยากตรงที่ รู้ได้ไงว่าเป็นสัมมาทิฏฐิมากกว่า ^^
     
  12. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ประโยคเด็ด สำนักเจ็ดประหลาดกังหน้ำ วันนี้

    " นี่จึงว่า คนโง่มักจะมองว่าผู้อื่นรู้ไม่เท่าตน "
     
  13. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ถ้าเอา ฌานโลกีย์ ไปรักษาสุขภาพ หรือนำไปช่วยคน
    จัดเป็นมิจฉาหรือสัมมา
    มีสติ มีปัญญา ในขณะสมาธินั้นไหม เพราะรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่

    ไม่ผิดศีล
    ไม่หลง
    แต่อาจจะมีจุดมุ่งหมายทางโลก

    ทำไมพุทธภูมิต้องมีกำลังฌาน ในการรู้ยิ่ง(ทางสมมุติ)

    มาแตกประเด็นหรือเปล่า (แต่ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายอะไร)
    ขอให้เจริญในธรรมทุกท่านค่ะ
     
  14. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เพิ่มเติมใน บริบท
    ที่ส่งเสริมความเข้าใจในสมาธิ
    ที่หลวงปู่พุธ ฐานิโย ท่านเทศน์ไว้

    ถอดเทป*******

    ทีนี้ การกำหนดจิต ภาวนานี่ ส่วนใหญ่
    เราจะไปสำคัญหมั่นหมายอยู่ตรงที่ว่า
    ต้องทำจิตให้สงบนิ่งเป็นสมาธิ เสมอไป

    สมาธิ มันมีอยู่สองอย่าง
    อย่างหนึ่ง สมาธิ สงบนิ่งว่าง นิ่ง เหมือนดวงไฟที่
    เหมือนไฟเทียนที่อยู่ในโต๊ะ
    ลมพัดไม่ถูกมันได้ แสงไฟมันก็นิ่ง
    อันนี้เรียกว่า สมาธินิ่ง

    ทีนี้ สมาธิอันหนึ่งมันไม่นิ่ง
    จิตมันไปคิดอยู่กับเรื่องราวต่างๆ
    แต่มันคิดด้วยอาการแห่งความสงบ
    มี สติ สัมปชัญญะ ตามรู้พร้อม อยู่ทุกขณะจิต
    อันนี้ก็คือ สมาธิ

    ในเมื่อจิต มีความคิดอยู่
    ได้ชื่อว่าจิตสงบเป็นสมาธิได้อย่างไร
    อ้าว สมมุติว่า ใครมี สติ สัมปชัญญะ รู้พร้อมอยู่ที่จิต
    คนเค้าด่ามา รับรู้ แต่จิตไม่หวั่นไหว
    เพราะการกระทบนั้น นิ่ง สะบาย
    ไม่โกรธ ไม่หงุดหงิด จิตสงบหรือเปล่า

    ในเมื่อตาเรามองเห็น สิ่งต่างๆ แต่จิต ไม่หวั่นไหวตามสิ่งนั้นๆ

    เช่น

    อย่างเห็นเค้าเดินไปวิ่งไป ไม่อยากวิ่งอยากเดินกับเค้า
    จิตของเราอยู่ในสภาพปกติ แม้แต่เท้า ก็ไม่ก้าวตามเค้า
    จิตสงบหรือเปล่า

    เพราะฉะนั้น

    คำว่า จิตสงบเนี๊ยะ สงบอย่างไม่มีความคิด

    อีกอย่างหนึ่ง

    สงบอย่างมีความคิดแต่ไม่มีความยินดียินร้าย
    จิตเป็นกลางโดยเที่ยงธรรม

    บางทีเนี๊ยะ อารมณ์มันว๊าวุ่นอยู่ตลอดเวลา
    แต่จิตดวงนี้ มันจะไปนิ่ง สว่างไสว
    อยู่ในท่ามกลางแห่งสิ่งแวดล้อม
    เป็นไปได้หรือเปล่า ถ้าใครยังไม่เป็นก็รับฟังเอาไว้

    อย่าปฏิเสธ

    ทุกสิ่งในโลกนี้ ที่เค้าพูดกัน คุยกัน
    ที่มีชื่อ ระบุ ถึง ว่าสิ่งอย่างนั้นเป็นอย่างนั้น อย่างนั้น อย่างนั้น
    ในเมื่อเราศึกษายังไม่ถึง อย่าไปปฏิเสธ ว่ามันเป็นไปไม่ได้
    เรา้ต้องรับฟังเอาไว้แล้วพยายาม พยายามพิศูจน์ให้มันรู้ข้อเท็จจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2012
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ถูกต้องแล้วนั่นแหละ พิจารณาดีๆ
     
  16. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846

    เอ๋า ก็อย่างที่เจ้หลงก็บอกไงว่า เป็นสุตะ
    เป็นสัมมาทิฏฐิในเรื่องของสุตะ

    ปัญญามันมี 3ขั้น ถูกแล้ว

    ก็หากได้ฟังธรรมที่เป็นไปในการเข้าไปแจ้งในสัมมาทิฏฐิ
    อันนี้ไงเป็นสุตะในเบื้องต้น สัมมาทิฏฐิในเบื้องต้น

    ปัญหามันมีอยู่ว่า หากเราไม่ทำตาม ที่ได้ฟังมานั้น
    สัมมาทิฏฐิในลำดับต่อไปจะเกิดได้ไหม

    ส่วนที่จะสรุป สุดส่วน ว่ารู้แจ้ง ว่านี่ สัมมาทิฏฐิ จากที่ได้ยินได้ฟังมา
    และลงมือทำตามมันปรากฎผลให้ชัดเจนแล้ว
    นี่คือ สัมมาทิฏฐิที่พระพุทธเจ้าสอน
    อันนี้ก็อยู่ใน ภาวนามยปัญญาที่ชัดแล้ว
    เพราะแจ้งแล้วใน สัมมาทิฏฐิ
    ก็จะตรงกับคำที่เจ้หลงบอกว่า รู้ได้ไงว่าเป็นสัมมาทิฏฐิ
    ก็ คือว่า ต้องแจ้งด้วยตัวเอง ยืนยันด้วยตัวเองได้
     
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ไม่แย้งหรอกครับ สำหรับที่ว่า ธรรมชาตินั้นมีอยู่

    แต่ผู้ที่ไม่ผ่านการฟังในสิ่งที่มีอยู่
    จะเอาธรรมชาตินั้นที่มีอยู่ออกมาใช้ได้อย่างไร

    ไม่เป็นไปในการนำออก แต่เป็นไปในทางสะสม
    เหมือนหาแต่เงินเก็บไว้ แต่ไม่เคยได้ใช้เงินเลย

    รวยเหมือนจน สู้ จนแต่รวยไม่ได้
    เพราะ ได้ใช้เงิน
     
  18. <Q>

    <Q> Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2011
    โพสต์:
    1,907
    ค่าพลัง:
    +80
    ไม่เอาสิ เราไม่รีบรวบรัดคุยส่วนผล พวกนี้รู้หมดแล้ว

    ก็อุตส่าห์ลงให้กระชับ โดยชี้ที่ทางภาวนาอย่างไรเป็นมิจฉาทิฏฐิ อย่างไรเป็นสัมมาทิฏฐิ

    อะไรเกิด อะไรดับกันตอนไหน นี้น่าสนใจกว่า
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แปลกแต่จริง

    อันนี้ ไม่ได้เสวนากับผู้ถูกอ้างอิงนะ แต่ ยกมาเพื่อให้คนทั่วไปลองสังเกตุ
    ว่า ช่วงนี้มีอะไรแปลกๆ ผมเรียกว่า "รายการปิดบัญชี"

    อย่างเคสของ คนนี้ ก็เข้าข่าย อกตัญญูต่อแผ่นดินเริ่มมีอาการสำแดง
    แล่นไป ซึ่งก็ชัดว่า เป็นเวรกรรมแน่ๆ

    แล้วการอกตัญญูต่อ ต้นธาตุแผ่นดินเกิด ก็ไม่ต้องพิจารณามากว่า กรรม
    ใดกำลังจะมาถึงโดยไม่รู้ตัว

    เคสก่อนหน้า ก็อีก คล้ายๆกลับมา อยู่ดีๆ ก็มา พลาดเรื่อง ง่ายๆ

    เรื่อง การดูถูกสมาธิ ทั้งๆที่ คนๆนั้นก็พูดเออออกับ สมาธิมาตลอด
    แต่อยู่ดีๆกลับผลิก พูดเป็นตรงข้าม

    ก็เรียกว่า เกิดสิ่งที่เรียกว่า กรรมตามมาทันแล้ว !!

    * * * *

    สุดท้ายนี้ กระทู้นี้จะเป็นกระทู้ "นำรถตูดโด่งพ้นน้องน้ำ" ได้หรือไม่

    ก็ติดตามกันต่อไป

    แต่ กระทู้นี้ มันเกิดขึ้นมาเพราะว่า รถมันจมน้ำมีแต่ตูดที่พ้นน้ำ
    เลยต้อง เอาอีกส่วนให้พ้นน้ำให้ได้ ก็เท่านั้นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2012
  20. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    อ๋อ จะให้ พูดในส่วนการนำออก( วิปัสนาธุระ) อ่อ ดีครับดี ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...