ร่วมใช้ปัญญาธรรมรับ..อัฐิ ผงอังคาร เกศา ((ประกาศผลอย่างเป็นทางการ))หน้า 9

การแจกรอบนี้เป็นครั้งสุดท้ายของผมแล้วขอแจกรอบนี้เป็นรอบสุดท้ายครับ..หวังว่าทุกท่านจะสมปราถนากันครับ มาดูกติกากัน.....
ให้ท่านเขียนความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวท่าน 5-10 บรรทัด เป็นอย่างต่ำ..ในหัวข้อเรื่อง...​

1. กรรมฐาน มี 40 กอง ท่านชอบเพราะอะไร? มีวิธีปฏิบัติในชีวิตประจำวันของท่านอย่างไร?
2.ท่านมีจริตใด(เท่าที่รู้ตัว) และนำกรรมฐานกองไหนไปแก้ไข มีวิธีปฏิบัติในชีวิตประจำวันของท่านอย่างไร?
3.ครูบาอาจารย์ที่ท่านนับถือและนำหลักธรรมของท่านมาปฏิบัติ
4.ชื่อพระธาตุ+เกศาที่ท่านต้องการ 1 ยูสเซอร์ต่อ 1 รายการ


Ex…ตัวอย่าง........
1. ผมชอบอาปานนุสติฯ และพุทธานุสสติ ครับอาปานก็คือการกำหนดลมหายใจเข้าออกและพุทธานุสติเป็นการระลึกคุณพระพุทธเจ้า ในชีวิตประจำวัน..วิธีปฏิบัติก็คือ....ระหว่างทำงานก็........หลังกลับจากทำงานก็....ทำให้ผม ฯลฯ(5-10 บรรทัด)
2. ผมมีโทสจริตครับจึงนำกรรมฐานกอง....มาปฏิบัติ.....วิธีคือ...............ทำให้ผม(5-10 บรรทัด)
3. ครับผมขอรับพระธาตุ ล ปมั่น ครับ ฯลฯ.
4. ผมนับถือพระราชพรหมยาน(ฤาษีลิงดำ) ฯลฯ

ปิดรับผลงาน 13 กุมภา ประกาศผล 14-15 กุมภาฯ ครับ
ห้ามCopy จากทางเน็ตครับ จับได้ตัดสิทธิ์ทันที แล้วจะขึ้น Black List ยูสเซอร์ของท่านในการแจกครั้งต่อๆไป(ถ้าแจกต่อ)

1 รายการต่อหนึ่งยูสเซอร์ ครับ
1.พระธาตุเจ้าแม่กวนอิม 1 รายการ
2.พระธาตุ ลป. ทวด (พระธาตุเสด็จ) 1 รายการ
3..พระธาตุ ลป.มั่น ภูริทัตโต (พระธาตุเสด็จ) 1 รายการ
4..จีวร ลป บุดดา ถาวรโร 1 รายการ
5..พระธาตุ ลป.คำดี ประภาโส 1 รายการ
6..พระธาตุลป.ครูบาคำ สังวโร 1 รายการ
7..หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน 1 รายการ (วรรณะไข่ปลา)
8..ปฐวีธาตุ ลป คำพันธ์ 1 รายการ
9.จีวร ลป แผ้ว นครปฐม 1 รายการ
10..ชานหมาก ลป ศรี มหาวีโร 1 รายการ
11.ผงอังคาร ลป. มหาอมร เขมจิตโต 1 รายการ (ศิษย์ ลป ชา หายากมาก)
12..อังคารธาตุ ลป เขี่ยม โสรโย 1 รายการ
13..ผงอังคาร ลป. สอ พันธุโล 1 รายการ
14..เกศา ลป เลี่ยม ฐิติธัมโม 1 รายการ (เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพงองค์ปัจจุบัน)
15..เกศาพระอาจารย์อนันต์ วัดมาบจันทร์ ระยอง 1 รายการ (เจ้าอาวาสวัดมาบจันทร์สาขาวัดป่าพง)
รายการเพิ่มพิเศษโดยน้องพี่ๆ
16.สังฆาฏิหลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง อุดรธานี 1 รายการ
17.ผงอังคารลวงปู่ทูล ขิปปัญโญ 1 รายการ
18.พระธาตุลป ขาว อนาลโย 1 รายการ
19.ผงอังคารหลวงปู่ชา สุภัทโท 1 รายการ
20.เกศา หลวงปู่ลี ถาวโร 1 รายการ
21.ผงอังคารหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท 1 รายการ
22.อัฐิหลวงปู่บัวไข วัดสันติสังฆาราม สกลนคร 1 รายการ
23.เกศา + ชานหมากหลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม ขอนแก่น 1 รายการ
24..เกศา + เศษจีวร หลวงปู่วิชัย เขมิโย วัดถ้ำผาจม เชียงราย 1 รายการ
25.เกศาหลวงปู่สิงห์ทอง ปภากโร วันป่าสุนทราราม ยโสธร 1 รายการ
26.เกศาหลวงปู่ สังข์ สังกิจโจ วัดป่าอาจารย์ตื้อ เชียงใหม่ 1 รายการ
27.ผงอังคารครูบาจันทร์แก้ว คันธสีโล 1 รายการ

เมื่อคำตัดสินในวันที่ 15 กพ 55(วันพระ) ออกมาแล้ว ผมส่ง PM ไปแจ้งที่อยู่ในการจัดส่งซองมารับครับ คำตัดสินของคณะกรรมการถือเป็นที่สิ้นสุด....
ของสิ่งมงคลของพ่อแม่ครูอาจารย์ ที่นำมาแจกครั้งนี้ บางองค์ผมอาจจะแบ่งได้ เพียงเล็กน้อยอย่างพระเกศาอาจจะไม่กี่เส้น ส่วนอัฐิธาตุ ก็อาจจะได้เพียงไม่กี่องค์ครับเป็นเพียงชิ้นเล็กๆ เป็นเพราะว่าผมนั้นมีน้อยมาก แต่ผมอยากให้ได้กันทุกๆคนครับแต่ๆ..เมื่อท่านผู้รับไปปฏิบัติดีปฏิบัติชอบพระธาตุหรือเกศาก็มีการขยายองค์หรือเสด็จเพิ่มได้ครับ..ผงอังคารก็แปรเป็นพระธาตุได้..แล้วแต่ผู้ครอบครองครับ..ขอให้ทุกท่านโชคดี

!!คำเตือนอ่านกติกาให้ชัดเจนแล้วจึงค่อยโพส!!***ผู้แจกสามารถเปลี่ยนแปลงรายการการแจกได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า​

 

**ขอขอบคุณ ของมงคลที่นำมามอบให้ นำมาจากพระอาจารย์(สงวนนาม) จากวัดป่าทางจังหวัดอุดร)พี่เออาร์ พี่แก๊ส พี่ตั้ม พี่ริน พี่หมอวีระ น้องเอกเฮียเครียด น้องฝน น้องนพดล ขออนุโมทนามา ณ ที่นี้ ครับ

​

 

กรรมฐาน 40 วิธี
แบ่งออกเป็น 7 หมวด ดังนี้
หมวดกสิน ๑๐
เป็นการทำสมาธิด้วยวิธีการเพ่ง
๑. ปฐวีกสิน เพ่งธาตุดิน
๒. อาโปกสิณ เพ่งธาตุน้ำ
๓. เตโชกสิณ เพ่งไฟ
๔. วาโยกสิน เพ่งลม
๕. นีลกสิน เพ่งสีเขียว
๖. ปีตกสิน เพ่งสีเหลือง
๗. โลหิตกสิณ เพ่งสีแดง
๘. โอฑาตกสิณ เพ่งสีขาว
๙. อาโลกกสิณ เพ่งแสงสว่าง
๑๐. อากาศกสิณ เพ่งอากาศ


หมวดอสุภกรรมฐาน ๑๐
เป็นการตั้งอารมณ์ไว้ให้เห็นว่า ไม่มีอะไรสวยงดงาม มีแต่สิ่งสกปรกโสโครก น่าเกลียด

๑๑. อุทธุมาตกอสุภ ร่างกายของคนและสัตว์ที่ตายไปแล้ว นับแต่วันตายเป็นต้นไป มีร่างกายบวมขึ้น พองไปด้วยลม ขึ้นอืด
๑๒. วินีลกอสุภ วีนีลกะ แปลว่า สีเขียว
เป็นร่างกายที่มีสีเขียว สีแดง สีขาว คละปนระคนกัน คือ มีสีแดงในที่มีเนื้อมาก มีสีขาวในที่มีน้ำเหลืองน้ำหนองมาก มีสีเขียวในที่มีผ้าคลุมไว้ ฉะนั้นตามร่างกายของผู้ตาย จึงมีสีเขียวมาก
๑๓. วิปุพพกอสุภกรรมฐาน เป็นซากศพที่มีน้ำเหลืองไหลอยู่เป็นปกติ
๑๔. วิฉิททกอสุภ คือซากศพที่มีร่างกายขาดเป็นสองท่อนในท่ามกลางกาย
๑๕. วิกขายิตกอสุภ เป็นร่างกายของซากศพที่ถูกยื้อแย่งกัดกิน

๑๖. วิกขิตตกอสุภ เป็นซากศพที่ถูกทอดทิ้งไว้จนส่วนต่าง ๆ กระจัดกระจาย มีมือ แขน ขา ศีรษะ กระจัดพลัดพรากออกไปคนละทาง
๑๗. หตวิกขิตตกอสุภ คือ ซากศพที่ถูกสับฟันเป็นท่อนน้อยและท่อนใหญ่
๑๘. โลหิตกอสุภ คือ ซากศพที่มีเลือดไหลออกเป็นปกติ
๑๙. ปุฬุวกอสุภ คือ ซากศพที่เต็มไปด้วยตัวหนอนคลานกินอยู่
๒๐. อัฏฐิกอสุภ คือ ซากศพที่มีแต่กระดูก


อนุสสติกรรมฐาน ๑๐
อนุสสติ แปลว่า ตามระลึกถึง เมื่อเลือกปฏิบัติให้พอเหมาะแก่จริต จะได้ผลเป็นสมาธิมีอารมณ์ ตั้งมั่นได้รวดเร็ว

๒๑. พุทธานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
๒๒. ธัมมานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงคุณพระธรรมเป็นอารมณ์
๒๓. สังฆานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงคุณพระสงฆ์เป็นอารมณ์
๒๔. สีลานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงคุณศีลเป็นอารมณ์
๒๕. จาคานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงผลของการบริจาคเป็นอารมณ์
๒๖. เทวตานุสสติเป็นกรรมฐาน ระลึกถึงความดีของเทวดาเป็นอารมณ์
๒๗. มรณานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงความตายเป็นอารมณ์
๒๘. กายคตานุสสติกรรมฐาน เหมาะแก่ผู้ที่หนักไปในจาคะจริต
๒๙. อานาปานานุสสติกรรมฐาน เหมาะแก่ผู้ที่หนักไปในโมหะ และวิตกจริต
๓๐. อุปสมานุสสติกรรมฐาน ระลึกความสุขในพระนิพพานเป็นอารมณ์


หมวดอาหาเรปฏิกูลสัญญา
๓๑. อาหาเรปฏิกูลสัญญา เพ่งอาหารให้เห็นเป็นของน่าเกลียด บริโภคเพื่อบำรุงร่างกาย ไม่บริโภคเพื่อสนองกิเลส
หมวดจตุธาตุววัฏฐาน
๓๒. จตุธาตุววัฏฐาน ๔ พิจารณาร่างกายประกอบด้วยธาตุ ๔ ดิน น้ำ ลม ไฟ

หมวดพรหมวิหาร ๔
พรหมวิหาร แปลว่า ธรรมเป็นที่อยู่ของพรหม พรหมแปลว่าประเสริฐ
พรหมวิหาร ๔ จึงแปลว่า คุณธรรม ๔ ประการ ที่ทำให้ผู้ประพฤติปฏิบัติเป็นผู้ประเสริฐ ได้แก่
๓๓. เมตตา คุมอารมณ์ไว้ตลอดวัน ให้มีความรัก อันเนื่องด้วยความปรารถนาดี ไม่มีอารมณ์เนื่องด้วยกามารมณ์ เมตตาสงเคราะห์ผู้อื่นให้พ้นทุกข์
๓๔. กรุณา ความสงสารปรานี มีประสงค์จะสงเคราะห์แก่ทั้งคนและสัตว์
๓๕. มุทิตา มีจิตชื่นบาน พลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี ไม่มีจิตริษยาเจือปน
๓๖. อุเบกขา มีอารมณ์เป็นกลางวางเฉย

หมวดอรูปฌาณ ๔
เป็นการปล่อยอารมณ์ ไม่ยึดถืออะไร มีผลทำให้จิตว่าง มีอารมณ์เป็นสุขประณีต ในฌานที่ได้ ผู้จะเจริญอรูปฌาณ ๔ ต้องเจริญฌานในกสินให้ได้ฌาณ ๔ เสียก่อน แล้วจึงเจริญอรูปฌาณจนจิตเป็นอุเบกขารมณ์
๓๗. อากาสานัญจายตนะ ถือ อากาศเป็นอารมณ์ จนวงอากาศเกิดเป็นนิมิตย่อใหญ่เล็กได้ ทรงจิตรักษาอากาศไว้ กำหนดใจว่าอากาศหาที่สุดมิได้ จนจิตเป็นอุเบกขารมณ์
๓๘. วิญญาณัญจายตนะ กำหนดวิญญาณหาที่สุดมิได้ ทิ้งอากาศและรูปทั้งหมด ต้องการจิตเท่านั้น จนจิตเป็นอุเบกขารมณ์
๓๙. อากิญจัญญายตนะ กำหนดความไม่มีอะไรเลย อากาศไม่มี วิญญาณก็ไม่มี ถ้ามีอะไรสักหน่อยหนึ่งก็เป็นเหตุของภยันตราย ไม่ยึดถืออะไรจนจิตตั้งเป็นอุเบกขารมณ์
๔๐. เนวสัญญานาสัญญายตนะ ทำความรู้สึกตัวเสมอว่า ทั้งที่มีสัญญาอยู่ก็ทำเหมือนไม่มี ไม่รับอารมณ์ใด ๆ จะหนาว ร้อนก็รู้แต่ไม่ดิ้นรนกระวนกระวาย ปล่อยตามเรื่อง เปลื้องความสนใจใด ๆ ออกจนสิ้น จนจิตเป็นอุเบกขารมณ์

 

จริต แปลว่า จิตท่องเที่ยว สถานที่จิตท่องเที่ยวหรืออารมณ์เป็นที่ชอบท่องเที่ยวของ
จิตนั้น สมเด็จพระผู้มีพระภาคทรงประมวลไว้เป็น ๖ ประการด้วยกัน คือ ​

๑. ราคจริต จิตท่องเที่ยวไปไปในอารมณ์ที่รักสวยรักงาม คือพอใจในรูปสวย เสียงเพราะ
กลิ่นหอม รสอร่อย สัมผัสนิ่มนวล รวมความว่าอารมณ์ที่ท่องเที่ยวไปในราคะ คือ ความกำหนัด
ยินดีนี้ บุคคลผู้เป็นเจ้าของจริต มีอารมณ์หนักไปในทางรักสวยรักงาม ชอบการมีระเบียบ สะอาด
ประณีต มีกิริยาท่าทางละมุนละไมนิ่มนวล เครื่องของใช้สะอาดเรียบร้อย บ้านเรือนจัดไว้อย่างมี
ระเบียบ พูดจาอ่อนหวาน เกลียดความเลอะเทอะสกปรก การแต่งกายก็ประณีต ไม่มีของใหม่ก็
ไม่เป็นไร แม้จะเก่าก็ต้องสะอาดเรียบร้อย ราคจริต มีอารมณ์จิตรักสวยรักงามเป็นสำคัญ อย่าตี
ความหมายว่า ราคจริต มีจิตมักมากในกามารมณ์ ถ้าเข้าใจอย่างนั้นพลาดถนัด
๒. โทสจริต มีอารมณ์มักโกรธเป็นเจ้าเรือน เป็นคนขี้โมโหโทโส อะไรนิดก็โกรธ อะไร
หน่อยก็โมโห เป็นคนบูชาความโกรธว่าเป็นของวิเศษ วันหนึ่งๆ ถ้าไม่ได้โกรธเคือง โมโหโทโส
ใครเสียบ้างแล้ว วันนั้นจะหาความสบายใจได้ยาก คนที่มีจริตหนักไปในโทสจริตนี้ แก่เร็ว พูด
เสียงดัง เดินแรง ทำงานหยาบ ไม่ใคร่ละเอียดถี่ถ้วน แต่งตัวไม่พิถีพิถัน เป็นคนใจเร็ว
๓. โมหจริต มีอารมณ์จิตลุ่มหลงในทรัพย์สมบัติ ชอบสะสมมากกว่าการจ่ายออก ไม่ว่า
อะไรเก็บดะ ผ้าขาดกระดาษเก่า ข้าวของตั้งแต่ใดก็ตาม มีค่าควรเก็บหรือไม่ก็ตามเก็บดะไม่เลือก
มีนิสัยเห็นแก่ตัว อยากได้ของของคนอื่น แต่ของตนไม่อยากให้ใคร ชอบเอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน
ไม่ชอบบริจาคทานการกุศล รวมความว่าเป็นคนชอบได้ ไม่ชอบให้
๔. วิตกจริต มีอารมณ์ชอบคิด ตัดสินใจไม่เด็ดขาด มีเรื่องที่จะต้องพิจารณานิดหน่อย
ก็ต้องคิดตรองอยู่อย่างนั้น ไม่กล้าตัดสิน คนประเภทนี้เป็นโรคประสาทมาก มีหน้าตาไม่ใคร่สดชื่น
ร่างกายแก่เกินวัย หาความสุขสบายใจได้ยาก
๕. สัทธาจริต มีจิตน้อมไปในความเชื่อเป็นอารมณ์ประจำใจ เชื่อโดยไร้เหตุไร้ผล พวกที่
ถูกหลอกลวงก็คนประเภทนี้ มีใครแนะนำอะไรตัดสินใจเชื่อโดยไม่ได้พิจารณา
๖. พุทธจริต เป็นคนเจ้าปัญญาเจ้าความคิด มีความฉลาดเฉลียว มีปฏิภาณไหวพริบดี
การคิดอ่านหรือการทรงจำก็ดีทุกอย่าง อารมณ์ของชาวโลกทั่วไป สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประมวลอารมณ์ว่า อยู่ในกฎ ๖
ประการตามที่กล่าวมาแล้วนี้ บางคนมีอารมณ์ทั้ง ๖ อย่างนี้ครบถ้วน บางรายก็มีไม่ครบ มีมากน้อย
ยิ่งหย่อนกว่ากันตามอำนาจวาสนาบารมีที่อบรมมาในการละในชาติที่เป็นอดีต อารมณ์ที่มีอยู่คล้าย
คลึงกัน แต่ความเข้มข้นรุนแรงไม่เสมอกัน ทั้งนี้ก็เพราะบารมีที่อบรมมาไม่เสมอกัน ใครมีบารมี
ที่มีอบรมมามาก บารมีในการละมีสูงอารมณ์จริตก็มีกำลังต่ำไม่รุนแรง ถ้าเป็นคนที่อบรมในการละ
มีน้อย อารมณ์จริตก็รุนแรง จริตมีอารมณ์อย่างเดียวกันแต่อาการไม่สม่ำเสมอกันดังกล่าวแล้ว

ประโยชน์ของการรู้อารมณ์จริต ​

นักปฏิบัติเพื่อฌานโลกีย์ หรือเพื่อมรรคผลนิพพานก็ตาม ควรรู้อาการของจริตที่จิต
ของตนคบหาสมาคมอยู่ เพราะการรู้อารมณ์จิตเป็นผลกำไรในการปฏิบัติเพื่อการละด้วยการ
เจริญสมาธิก็ตาม พิจารณาวิปัสสนาญาณก็ตาม ความสำคัญอยู่ที่การควบคุมความรู้สึกของ
อารมณ์ ถ้าขณะที่กำลังตั้งใจกำหนดจิตเพื่อเป็นสมาธิ หรือพิจารณาวิปัสสนาญาณอารมณ์จิต
เกิดฟุ้งซ่าน ไปปรารถนาความรักบ้าง ความโกรธบ้าง ผูกพันในทรัพย์สมบัติบ้าง วิตกกังวลถึง
เหตุการณ์ต่างๆ บ้าง เกิดอารมณ์สัทธาหวังในการสงเคราะห์ หรือมุ่งบำเพ็ญธรรมบ้าง เกิด
อารมณ์แจ่มใส น้อมไปในความเฉลียวฉลาดบ้าง เมื่อรู้ในอารมณ์อย่างนี้ ก็จะได้น้อมนำเอา
พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้มาประคับประคองใจให้เหมาะสมเพื่อผลในสมาธิ หรือ
หักล้างด้วยอารมณ์วิปัสสนาญาณเพื่อผลให้ได้ญาณสมาบัติ หรือมรรคผลนิพพาน พระธรรมที่
พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ เพื่อผลของสมาบัติ ท่านเรียกว่า "สมถกรรมฐาน" มีรวมทั้งหมด
๔๐ อย่างด้วยกัน ท่านแยกไว้เป็นหมวดเป็นกองดังนี้
อสุภกรรมฐาน ๑๐ อนุสสติกรรมฐาน ๑๐ กสิณ ๑๐ อาหาเรฏิกูลสัญญา ๑ จตุธาตุววัฏฐาน ๑
พรหมวิหาร ๔ อรูป ๔ รวมเป็น ๔๐ กองพอดี

 

สวัสดียามค่ำมืด ดึกดื่นครับคุณเจต มาเปิดกระทู้ซะสุดยอดเลย


อยากร่วมรับด้วยนะครับ แต่ผมคงตอบคำถามไม่ได้อ่ะครับ ผมก็ได้แต่นั่งภาวนาปกติ ตามเวลาที่ว่างหรือสะดวกเท่านั้นครับ (ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยว่างเพราะเจ้าตัวน้อยซนเหลือเกิน 555) ขออนุโมทนากับคุณเจตและผู้ที่จะได้รับของมงคลทั้งหลายครับ......เป็นกำลังใจให้ครับ

ขอลงรายการที่อยากได้ไว้เล่นๆ นะครับ ลงให้ตัวผมเองสบายใจ 5555
จีวร หลวงปู่บุดดา ชานหมากหลวงปู่ศรี ปฐวีธาตุหลวงปู่คำพันธ์
ที่ลงนี้ไม่ได้หวังใดๆ นะครับคุณเจตไม่ต้องคิดมาก ว่าผมแอบขอทางอ้อมรึเปล่า 5555

 

555+คนแรกเดี๋ยวผมให้ 2 รายการแล้วกัน 55+ จีวร หลวงปู่บุดดา ชานหมากหลวงปู่ศรี ส่วนปฐวีธาตุมีองค์เดียวจริงๆ 55+ส่งซองมารับได้เลย..ถือว่าเปิดกะทู้..ว่างๆก้อมาดูแลกะทู้ให้บ้างแล้วกัน ขอแค่นี้..อิอิ

 

สวัสดียามดึกเห็นว่าจะลงกระทู้ดึกๆ(เอาจริงด้วย)
ใจดีจริงๆอยากร่วมสนุกแต่ไม่รู้จะตอบเช่นไรยังเป็นมือสมัครเล่นอยู่
อนุโมทนาในบุญกุศลครั้งนี้ครับคุณเจต
และยินดีกับทุกท่านที่ได้ของมงคลไปบูชา เจริญในธรรมทุกท่านครับ

 

พูดจริงทำจริงครับไม่งั้น บารมี 10 ทัศ ในด้านของสัจจจะบารมีจะพร่องเอาได้....ธรรมะและการปฏิบัติไม่มีอะไรยากครับอยู่ที่ความเพียร(วิริยะบารมี)เป็นสำคัญ..หายใจเข้าออกพุทโธ..กำหนดรู้..ได้แค่นี้ก็ตอบได้ทุกข้อแล้วครับขอให้ใช้ปัญญา..ในการอ่านและเขียน ...ผมได้นำบทความเรื่องกรรมฐาน 40 และจริต 6 มาเป็นไกด์ไลน์ให้แล้วแค่ตั้งใจอ่านและพิจารณาด้วยตัวปัญญาของตัวเรา..คำตอบก็ไม่มีอะไรที่ยากเกินไป..สำหรับปถุชนอย่างเราๆ..เจริญในธรรมครับ

 

ขออนุโมทนาสาธุ ขอร่วมด้วยครับ
เนื่องจากนอนไม่หลับตื่นมาตอนตี 2 และพิมพ์ไม่เก่ง 5-10 บรรทัด คงใช้เวลาถึงเช้า จึงขอตอบแบบสั้นนะครับ
1 ใช้กายคตานุสติกรรมฐาน
2 ผมมีราคะจริต ใช้อสุภกรรมฐานสู้
3 ขอรับพระธาตุองค์ใดก็ได้ แล้วแต่จะกรุณา
4 ผมนับถืออาจารย์ปราโมทย์ ปราโมชโชครับ
ท่านสอนดูจิต มีสติ รู้กายรู้ใจ ตามความเป็นจริง ด้วยใจที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง

 

1. ผมชอบมรณานุสติครับเพราะเป็นกรรมฐานที่สามารถระลึกความตายเพราะว่าประสบการณ์ที่เกี่ยวกับมรณานุสติคือทำให้เป็นคนที่ไม่ประมาทในความตายและผมจะระลึกถึงความตาย โดยพยายามทำความดีอาจจะเป็นการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ไม่ให้มีความประมาทในชีวิตนั่นเอง
เพราะชีวิตเรานั้นน้อยนักการที่ระลึกถึงความตายก็เป็นสิ่งที่ไม่ทำให้ตนเองนั้นประมาทนั่นเอง ส่วนเมตตาภาวนานั้นก็ชอบเพราะเป็นกรรมฐานที่ให้ในการระงับความโกรธที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันได้มีอยู่วันหนึ่งมีคนมาขันรถตัดหน้าก็ไม่โกรธและแผ่เมตตาให้เขาโดยคิดว่าชาติก่อนนั้นเราอาจจะทำกับเขาไว้หรือใตรมาทำอะไรให้เราไม่พอใจอาจจะเป็นมานินทาเรามาตบมาตีเราก็แผ่เมตตาให้เขาการมีเมตตานั้นพูดไปแล้วผมนั้นจะใช้คู่กับอโหสิกรรมคืออภัยทานด้วยเมื่อเขาทำให้โกรธเราก็แผ่เมตตาให้เขาและก็อโหสิกรรมไปในตัวด้วยซึ่งได้บุญสองต่อเลยนะครับ
2. ผมมีโทสะจริตครับจึงนำกรรมฐานกอง เมตตาภาวนา มาปฏิบัติวิธีคือทำการเจริญเมตตาโดยเมื่อมีคนมานินทาผมก็ใช้หลักของเมตตาคืออย่างแรกผมคิดว่าผลของกรรมนั้นมันต้องมีวิบากคือเราอาจจะเคยทำเขาเอาไว้ก่อนแล้ววิธีแก้และให้ได้บุญก็คือให้อภัยทานคืออโหสิกรรมและไม่จองเวรจะได้ไม่มีเวรต่อกันอีกเป็นอภัยทานและมีความเมตตาโดยแผ่เมตตาให้กับบุคคลคนนั้นคือได้บุญทั้งสองอย่างเลยคืออภัยทานและเมตตาทำให้ผมคิดว่าอุปสรรคและผลกรรมบางอย่างอย่าท้อจงคิดว่าเป็นการดีแล้วที่ได้สร้างบารมีเพิ่มโดยเปลี่ยนจากกรรมที่ได้รับเป็นบุญอย่างที่ผมบอกมาซึ่งเป็นเทคนิคการทำบุญอย่างหนึ่งนั่นเอง
3. ครับผมขอรับพระธาตุ พระธาตุ ลป.คำดี ประภาโส ครับ
4. ผมนับถือหลวงพ่อจรัญ คือท่านจะใช้หลักของปัญญามาใช้ในการตัดสินคือใช้หลักของวิปัสสนากรรมฐานคือพยายามมีสติอยู่ตลอดคืออาจจะเป็นการกำหนดรู้ในการเดินอย่างมีสติหรือถ้าเจอเหตุการณ์ควรมีสติกำหนด เช่น ถ้าโกรธ ก็มีสติกำหนดรู้ว่าโกรธสักพักความโกรธก็หายไปเพราะ ความโกรธเป็นนาม คือรูปนามสามารถเกิดดับได้ และก็ใช้เมตตาภาวนาเสริมด้วยก็จะสามารถระงับความโกรธได้

 

1. ส่วนตัวแล้วแป๋มชอบพุทธานุสสติค่ะ พุทธานุสสติกรรมฐาน คือการระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์
จะขออนุญาตยกตัวอย่างว่าปัจจุบันนี้มีหลายคนหรือหลายครัวเรือน ที่ต้องการมีพระบรมสารีริกธาตุ
ไว้กราบไหว้บูชาที่บ้านของตนเอง แต่เชื่อว่าหลายคนก็มีไว้เพื่อสะสม พอมีพระบรมฯ ก็อยากได้พระธาตุสาวก
พอมีพระสาวก ก็อยากได้ของพ่อแม่ครูอาจารย์ ทั้งนี้เนื่องมาจากตัวกิเลสนั่นเอง จึงอยากให้ทุกๆคนหันมาคำนึงถึง
พุทธานุสสติ การระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า มากกว่าที่จะคำนึงถึงการสะสม เฉกเช่นเดียวกับเวลาที่เรา
กราบไหว้พระบรมฯ ให้เรากราบไหว้ เหมือนกับเรากำลังกราบไหว้พระพุทธเจ้าอยู่นั่นเอง
ไม่ใช่แค่เป็นการกราบไหว้ธาตุขันธ์ของท่าน และพร้อมปฎิบัติตนตามหลักคำสอนของท่าน
ซึ่งจะเป็นการระลึกถึงคุณของท่านอย่างแท้จริงค่ะ
2. จริตที่มีแน่ๆ คือมีโทสจริตค่ะ เพราะแต่ก่อนเป็นคนโมโหร้ายค่ะ โกรธง่ายแต่หายเร็ว อารมย์ขึ้นๆลงๆจนหลายคน
ไม่เข้าใจว่ากำลังคิดอะไรอยู่ จึงคิดว่าควรจะนำกรรมฐานกองสีลานุสสติกรรมฐาน ระลึกถึงคุณศีลเป็นอารมณ์
มาปฎิบัติ การระลึกถึงศิลขณะที่เรามีโทสะ จะทำให้เรารู้จักย้ำคิดย้ำทำมากยิ่งขึ้น เช่น ทำอย่างนี้แล้วจะไปทำร้าย
ความรู้สึกใครมั้ย ทำอย่างนี้แล้วเราจะไปเบียดเบียนใครรึป่าว หรือจะผิดศิลข้อนั้นๆที่เราตั้งใจจะรักษาไว้รึไม่
ศิล คือการรักษากายวาจาให้เรียบร้อยเป็นปกติ เมื่อกายวาจาใจเรียบร้อยเป็นปกติ โทสจริตก็ย่อมไม่บังเกิดแน่นอนค่ะ
3. ถ้ามีวาสนาแป๋มขอรับ พระธาตุ ลป.มั่น ค่ะ
4. แป๋มนับถือ หลวงปู่มั่น และ หลวงตามหาบัว ค่ะ และน้อมนำหลักคำสอนของท่านทั้งสองมาปฎิบัติ

(ขออนุโมทนาค่ะ หวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆพี่ๆสมาชิกไม่มากก็น้อยนะคะ^^")

*ขออภัยนะคะถ้ามีพิมพ์ตกหล่นเนื่องจากตื่นมากลางดึก และขอขอบคุณสำหรับไกด์ไลน์ค่ะ^^

 

อนุโมทนาท่านผู้มอบสิ่งอันเป็นมงคลด้วยครับกระผมยังคงปฏิบัติตามแนวทางคำสั่งสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ได้ยังไม่ดีพอจะเขียนขอไปก็หมือนจะหลอกตัวเพาะยังคงมีกิเลความโลภอยู่ไว้ดูจิตรตัวเองให้นิ่งก่อนท่านคงเสด็จมาเป็นกำลังใจในการปภิบัติต่อไป

 

เข้ามาเยี่ยมชม และอนุโมทนาบุญด้วยครับ หรือจะร่วมสนุกด้วยดีมั้ย?555+ ขอให้ทุกๆท่านที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้โชคดีๆๆๆครับ

 

ผมชอบอานาปานานุสสติกรรมฐาน ผมชอบเพราะว่าทำให้ผมมีสติมากขึ้นอารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันรู้สึกว่าไม่รุนแรงเหมือนเมื่อก่อนเช่นอารมณ์โกรธรู้สึกว่าเบาลงและจะหายเร็วขึ้นกว่าเมื่อก่อน ความเครียดลดลงชีวิตมีความสุขขึ้น
ในชีวิตประจำวันมีวิธีปฏิบัติคือพยามรู้ลมหายใจให้บ่อยที่สุด เมื่อว่างจากการทำงานพยามรู้ลมหายใจพยามไม่สนใจกิริยาหรือคำพูดของผู้อื่นยกเว้นเรื่องงานหรือสิ่งที่มีประโยชน์
พระอาจารย์ที่ผมชอบและนำหลักธรรมมาปฏิบัติคือ องค์หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง และองค์หลวงปู่ดู่วัดสะแก สอนให้มีศีลเป็นพื้นฐานให้เร่งรัดการปฏิบัติให้สนใจตนเองไม่ต้องสนใจจริยาผู้อื่นอย่ากล่าวโทษใครให้โทษตนเองที่ยังโง่หลงชอบการเวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนี้จึงต้องพบเจอทุกข์ เมื่อนำมาปฏิบัติดูรู้สึกว่าตนเองมีทุกข์ลดลงจากเคยกินเหล้าเกือบทุกวันก็เลิกกินรู้จักรักษาศีล 5 ใครทำอะไรให้ไม่พอใจก็ท่องไม่ถือช่างมัน เราอโหสิกรรมให้ เพราะหากเราโกรธเขาถ้าต้องตายในวันนี้คงไม่มีโอกาสได้อโหสิกรรมต่อกันรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะครับ
ผมขอรับพระธาตุ องค์หลวงปู่ทวดเพื่อบูชาครับ สุดท้ายนี้ขออนุโมทนาบุญกับพี่และท่านกัลยาณมิตรทุกท่านครับขอให้ทุกท่านมีความเจริญทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ

 

รับทราบ/ดีแล้วประสริฐ์แล้ว/อนุโมทนาในธรรมทานในครั้งนี้ครับ

 

รับทราบ/ดีแล้วประสริฐ์แล้ว/อนุโมทนาในธรรมทานในครั้งนี้ครับ

 

1. โดยปกติผมเลือกที่จะเจริญพุทธานุสติ อานาปานสติ และพรหมวิหารอยู่เป็นประจำ ในโอกาสต่างๆ กันไปดังนี้ครับ ในระหว่างวันเช่นเวลารอรถ กำลังเดินทางนั่งในรถ หรือทุกครั้งที่ว่างจาการงานอื่นๆ เป็นเวลาสั้นๆ มักจะนึกพุทโธในใจไว้ โดยกำหนดสติมาจ่อที่พุทโธ และบริกรรมย้ำลงไปเรื่อยๆ หรือระหว่างเดินก็กำหนดพุทโธตามการก้าวเท้าครับ เพื่อที่จะพยายามรักษาสติไว้ให้ได้มากที่สุดในระหว่างวัน ไม่เผลอให้เกิดความคิดปรุงไปในอารมณ์ต่างๆ มากเกินไป อันทำให้รู้สึกฟุ้งซ่านรำคาญครับ
ส่วนในเวลาที่ว่างจากงานต่างๆ จริง มักเป็นเวลาดึกสงัดก่อนนอนเป็นต้น ซึ่งต้องการฝึกจิตให้เกิดสมาธิและความสงบจริงๆ ผมใช้อานาปานาสติโดยกำหนดดูลมหายใจเข้าออกเป็นหลัก และบริกรรมพุทโธกำกับลงไปด้วย ตามที่ครูบาอาจารย์ท่านพาทำครับ ส่วนเวลาที่จิตรู้สึกสบายและสงบพอสมควร อาจเป็นหลังจากการทำสมาธิด้วยอานาปานสติระยะหนึ่ง หรืออาจจะเป็นก่อนนอน หรือนั่งรถอยู่ก็ตามในบางครั้ง ผมมักจะเจริญพรหมวิหาร ซึ่งเป็นกรรมฐานที่ให้ความสุขสบายใจ เป็นอย่างยิ่งครับ นอกจากนี้ยังสังเกตว่ามักมีมรณสัญญาปรากฏขึ้นมาอยู่เป็นประจำ ทำให้รู้สึกสลดสังเวช ค่อยๆ ปลงและปล่อยวางจากความดีดความดิ้นความทะเยอทะยาน และเตือนตนเองให้ไม่ประมาทในการประกอบความเพียรครับ ทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะเจริญมรณานุสติเลย
2.ผมเป็นคนหนักไปทางวิตกจริต จึงต้องหมั่นเจริญพุทธานุสติ และอานาปานสติ พยายามรักษาใจไว้ให้สงบอยู่เป็นปกติ ไม่ให้เกิดความคิดปรุงต่างๆ มากจนเกินไปครับ
3.ผมศรัทธาพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่มหาบัวครับ ปฏิปทาอันเด็ดเดี่ยวขององค์ท่าน เป็นคติตัวอย่างอันดีแก่นักปฏิบัติ ให้พากเพียรไม่อ่อนแอท้อถอย คำสอนองค์ท่านในด้านการปฏิบัติภาวนาทุกขั้นทุกภูมิ ล้วนแต่เป็นแนวทางในการก้าวเดินด้านการปฏิบัติทั้งสิ้นครับ
4.ผมขอรับพระธาตุหลวงปู่คำดี ปภาโส วัดถ้ำผาปู่ครับ

 

แจกเพิ่ม อีก 1 รายการโดยน้องฝน ผู้ใจดีครับ สังฆาฏิหลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง อุดรธานี เป็นพระอริยเจ้าที่หลวงตามหาบัวให้การรับรองครับ อนุโมทนากับน้องฝนด้วยครับ

 

1. ผมชอบพุทธานุสติและอานาปานุสติ คือระลึกถึงพระพุทธเจ้าและกำหนดดูลมเป็นอารมณ์ เพราะว่าถูกจริตปฏิบัติได้ง่ายไว สติก้าวหน้าได้ไวมาก วิธีปฏิบัติของผมก็คือกำหนดดูลมพร้อมกำหนดภาวนาพุทโธ ผมจะปฏิบัติตลอดเวลา แม้แต่เวลากิน เดิน นั่ง นอน หรือแม้ถ่ายหนักถ่ายเบาผมก็จะกำหนดตลอดเวลา อีกอย่างพุทธานุสติคือระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าที่สั่งสอนนำพาสัตว์โลกออกสังสารวัฏ โดยไม่มีความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าเพื่อจะได้สั่งสอนฆ่ากิเลสของสัตว์โลก และอานาปานุสติ เป็นกรรมฐานที่ทุกคนปฏิบัติได้จริตไหนก็ปฏิบัติได้และให้ผลดีกับจิตใจ
2. โทสจริต จึงนำเอากสิณ มาปฏิบัติครับ วิธีที่ผมปฏิบัติโดยการเพ่งกสิณสีแดง เมื่อผมปฏิบัติได้ไม่นานผมก็มีอารมณ์โทสะลดน้อยลงพอควร เมื่อมีสิ่งใดที่มากระทบจิตใจให้เราเกิดโทสะ มันก็ปล่อยวาง และก็ไม่คิดที่จะอาฆาตพยาบาทตอบ
3. ขอรับพระธาตุ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโตครับ
4. ผมนับถือหลวงตามหาบัว และหลวงพ่อฤาษีลิงดำครับ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>

 

1. ผมชอบจตุธาตุววัฏฐาน ๔ คือพิจารณาร่างกายประกอบด้วยธาตุ ๔ คือดิน น้ำ ลม ไฟ ชอบเพราะได้ใช้สติพิจรณาดูธาตุดูขันธ์ว่ามันไม่ใช่ของเรา บังคับมันไม่ได้บางครั้งมันเกิดขึ้นมาเอง ได้พิจรณาแยกแยะส่วนต่างๆ ว่า นี้เป็นดิน นี้เป็น น้ำ ลม ไฟ พิจรณาแล้วจิตใจสบายปลอดโปร่งและไม่ค่อยยึดถือธาตุขันธ์สักเท่าไหร่
2. วิตกจริต ผมใช้อานาปานุสติมาปฏิบัติโดยการดูลมเข้า-ออก สั้น-ยาว ปฏิบัติได้แล้วเกิดผลก็คือ ตัดสินใจได้เฉียบขาดไวขึ้นไม่โลเลง่ายเหมือนแต่ก่อน และไม่ค่อยประสาทคิดมาก<O</O
3. ขอรับพระธาตุหลวงปู่มั่นครับ<O</O
4. หลวงตามหาบัวครับ<O</O