ตามรอย "พระมหาชนก"

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย Falkman, 15 กรกฎาคม 2010.

  1. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ขอยืนยันว่ามีอยู่จริง คนที่มาทำหน้าที่นี้ หลายอย่างได้ถูกเตรียมไว้หมดแล้ว สำหรับคนบุญ เมื่อถึงเวลาจะรู้เอง ไม่จำเป็นต้องแสวงหา ไม่จำเป็นต้องใคร่รู้ ไม่มีประโยชน์ เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม ธรรมะจะจัดสรรให้เอง สำหรับคนบุญที่เหลือรอดจากภัยพิบัติครั้งที่1และ2 ล้วนมีหน้าที่ ที่ต้องช่วยฟื้นฟูต้นมะม่วง ๙ วิธี หรืออาจจะเปรียบเทียบได้ว่านี่คือการสร้างมนุษย์ให้มีจิตใจที่ดีมีคุณธรรมที่สูงขึ้น หรือนี่คือบททดสอบของคนบุญที่เอาชีวิตเป็นเดิมพันอย่างนั้นหรือ...<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ผู้มีจิตเมตตา เปิดโฉมหน้า แต่ไม่ปรากฏตัว บางครั้งปรากฏตัว คนธรรมดาไม่รู้จัก บางครั้งรู้จักชื่อ รู้จักหน้าแต่ไม่รู้จักที่ <o:p></o:p>
    ดังสาส์นสำคัญจากหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่มีผู้รู้เมตตาแจ้งเตือนมา ข้าพเจ้าได้พิจารณาแล้วเห็นเช่นนั้น...
    <o:p> </o:p>
    อิติสุคะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปะฐะวีคงคา พระภูมิมะเทวา ขะมามิหัง’<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    สายบุญเหมือนสายน้ำซึ่งมีหลายสาย ซึ่งหล่อเลี้ยงชีวิตแต่ละชีวิตให้เติบโตในพื้นที่ที่ต่างกัน จริตที่ต่างกัน ตามกำลังบุญกำลังความเชื่อ กำลังศรัทธาที่ต่างกัน เมื่อถึงเวลาจะต้องมารวมกันเป็นแม่น้ำสายหลัก เป็นแม่น้ำสายบุญสายคุณธรรม ซึ่งจะหล่อหลอมเป็นเนื้อเดียวกันที่งดงามยิ่ง ความเมตตา ความเคารพนอบน้อมซึ่งกันและกันจะปรากฏในหมู่ชน ก่อเกิดเป็นวัฒนธรรมที่ดีที่งดงามเลิศ ท่านกำลังมองหาบุคคลผู้ซึ่งจะมาทำหน้าที่ๆสำคัญยิ่งต่อต้นมะม่วง แต่ต้องเป็นผู้ที่มีบุญ เป็นผู้ที่เชื่อ ผู้ที่ศรัทธา ผู้ที่เคารพนอบน้อมต่อพระรัตนตรัยเป็นที่สุด ต้องเป็นผู้ที่เสียสละถวายตัวและใจเป็นข้ารับใช้องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นผู้ว่านอนสอนง่าย เป็นผู้ที่มีความรอบรู้เข้าใจเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆที่แปรเปลี่ยนไปในปัจจุบันและในอนาคต เป็นผู้ที่มีอายุระหว่าง 35-45 ทุกอย่างมีมาแต่เหตุ ผลจึงเป็นเช่นนั้น เป็นผู้ที่ปิดทองหลังพระ คำๆนี้เมื่อเอ๋ยขึ้นมาก็จะนึกถึง สมเด็จจิตรลดา สมเด็จจิตรลดานั้นเป็นทรงสามเหลี่ยม มีผู้รู้บางท่านบอกว่าเป็นสามเหลี่ยมปิรามิดหรือ พลังปิรามิด พระสมเด็จจิตรลดา ก็เป็นสามเหลี่ยมปิรามิดที่มีพลังเช่นเดียวกันครับ ผมก็แลเห็นเหมือนผู้รู้ว่ามีพลังปิระมิดจริงๆ เพราะเชื่ออย่างนั้น หรือเหมือนกับภาพปริศนาธรรมที่เห็น ผมก็แลเห็นเหมือนผู้รู้ว่ามีพลังปิระมิดจริงๆ เพราะเชื่ออย่างนั้น หรือเหมือนกับภาพปริศนาธรรมที่เห็น พระสมเด็จจิตรลดา ก็เป็นสามเหลี่ยมปิรามิดที่มีพลังเช่นเดียวกันครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ผู้ที่เกี่ยวข้องถูกแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ถึงแผนการคัดทั้งมนุษย์และวิญญาณ ตลอดจนเหตุการณ์ต่างๆมากมายในอนาคตที่ดีและไม่ดีดังคำทำนายต่างๆที่มีมากมายในปัจจุบัน ที่มีผู้รู้แต่ละท่าน ล้วนมีหน้าที่แจ้งข่าวแจ้งเตือนมนุษย์ให้เร่งรีบทำบุญ สะสมความดีให้กับตัวเองและครอบครัว ให้รู้จักการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ โดยผ่านสายบุญของแต่ละท่านที่ได้สร้างสะสมบุญร่วมกันมา ถ้าเป็นพระก็อาจจะเรียกว่าพระคู่บุญคู่บารมีกันก็อาจจะพอเรียกได้ ที่เห็นในภาพ ล้วนเป็นผู้ทรงอภิญญาทั้งสิ้น หลายชาติ หลายศาสนา ตามระดับชั้น ลดหลั่งกันไป แต่ละท่านล้วนมีลูกศิษย์ลูกหาตามสายบุญสายธรรมที่งดงาม มีภูมิรู้ภูมิธรรมทั้งสิ้น เช่น บทกลอนฝากเตือนภัยพิบัติโลก แจ้งไว้แก่หลวงปู่ภารตะฤาษี(บัวขาว) ผู้ประพันธ์ คุณฐิติศักดิ์ ฐิติพงศ์ทัพพ์ ดังคลิปวีดีโอที่ท่านผู้นี้แจ้งไป นี้ก็อีกสายบุญหนึ่ง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ผู้ที่รับหน้าที่คัดมนุษย์โดยตรง รับผิดชอบโดยตรง ปฏิบัติโดยตรง จะเป็นผู้ตัดสินใจกำหนดวันเวลาเอง ว่าจะให้เลื่อนเข้าเลื่อนออกเกิดก่อน เกิดหลัง แต่ต้องเกิดแน่นอน ในจังหวะและเวลาที่เหมาะสมในการคัดคนและอื่นๆที่กล่าวมาข้างต้น ซึ่งหน้าที่ใครหน้าที่มัน ทุกท่านต่างทำหน้าที่ของตัวเอง ท่านทั้งหลายมีความรู้สึกไหมว่า ท่านอยู่อย่างไม่ปลอดภัย ต้องตื่นรู้หาข้อมูลตลอดเวลา ต้องคอยระวังว่ามันจะเกิดกับตัวเรา ครอบครัวเรา พี่น้องเรา เมื่อไหร่... จะต้องเตรียมตัวอย่างไร จะไปอยู่ไหนถึงจะรอดปลอดภัย หรือว่าบางท่านอาจจะมองว่าไม่เห็นมีอะไรเลย ทุกอย่างก็เห็นเป็นปกติ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. สิริพล

    สิริพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    136
    ค่าพลัง:
    +336

    สาธุ โมทนาและเป็นกำลังใจให้ผู้ปิดทองหลังพระทุกท่าน
     
  4. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ธรรมะกำลังจัดสรรให้คนบุญได้มีโอกาสที่ดีหลายๆอย่างในการช่วยฟื้นฟูต้นมะม่วง ๙ วิธี แต่มีข้อแม้ ท่านต้องเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งจิตและใจเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคศิวิไล คือ จตุรบาท แต่กว่าจะถึงปี ๒๕๖๔ ปีที่ดีที่สุด มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  5. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ธรรมะกำลังจัดสรรให้คนบุญได้มีโอกาสที่ดีหลายๆอย่างในการช่วยฟื้นฟูต้นมะม่วง ๙ วิธี แต่มีข้อแม้ ท่านต้องเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งจิตและใจเพื่อก้าวเข้าสู่ยุคศิวิไล คือ จตุรบาท แต่กว่าจะถึงปี ๒๕๖๔ ปีที่ดีที่สุด มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ดูภาพ สคส. ๒๕๔๖ ครับ upload รูป ไม่ขึ้นครับ
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p><?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"> <v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=Picture_x0020_1 style="VISIBILITY: visible; WIDTH: 261.75pt; HEIGHT: 328.5pt" alt="Photobucket" o:button="t" type="#_x0000_t75" o:spid="_x0000_i1025"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\ADMINI~1\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image001.jpg" o:title="Photobucket"></v:imagedata></v:shape></o:p>
     
  6. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    กำลังช่วยพิจารณาพระมหาชนกให้อีกแรงนะครับ อาจจะช้าหน่อยครับ คือผมอาจจะมองแบบองค์รวมก่อนนะครับ เริ่มตั้งแต่ต้น คือเหตุ จนถึงปลายคือผล วาง schedule ก่อนนะครับแล้วค่อยเจาะกินเนื้อในแต่ละเหตุการณ์แต่ละช่วงเวลาครับ จะได้พิจารณาตามได้ง่าย ถ้าเราพิจารณาถูก มันจะง่ายมากครับ
     
  7. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446
    ขอบพระคุณทุกท่าน เป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านค่ะ
     
  8. CopperOxide

    CopperOxide เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +289


    "ต้นมะม่วง" ในพระมหาชนก คำสอนของพ่อผ่านงานวรรณกรรม

    จากเรื่องราวของต้นไม้ที่ทรงปลูกไว้ เพื่อให้ปวงชนชาวไทยได้รับรู้ถึงความสำคัญของต้นไม้แล้วนั้น
    พ่อหลวงของเรายังได้ปลูกต้นไม้แห่งความคิดให้ไว้กับประชาชนขาวไทยอีกด้วยดังจะเห็นได้จาก
    เรื่อง
    ของ "ต้นมะม่วง"ที่ปรากฏอยู่ในหนังสือพระราชนิพนธ์ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิ
    เรื่อง "พระมหาชนก"
    โดย เนื้อหาในเรื่องนั้นได้กล่าวถึงตอนที่ พระมหาชนกเสด็จทอดพระเนตร
    พระราชอุทยานในกรุงมิถิลา
    ซึ่งทางเข้าสวนหลวงมีต้นมะม่วงอยู่สองต้นต้นหนึ่งมีผลดกอีกต้นหนึ่งไม่มีผล
    และพระองค์ก็ได้ทรงลิ้ม
    รสมะม่วงอันโอชาแล้วเสด็จกลับเยี่ยมอุทยานครั้นเมื่อเสด็จกลับออกจากสวนหลวง
    ทรงทอดพระเนตรเห็น
    ต้นมะม่วงที่มีผลรสดีต้นนั้นถูกเหล่าข้าราชบริพารดึงทึ้งเก็บลูกมะม่วงกินจนโค่นลง
    ส่วนต้นที่ไม่มีลูกก็ยังคง
    ตั้งอยู่ตระหง่านอยู่เช่นเดิมซึ่งจากเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า

    "สิ่งใดดีมีคุณภาพจะเป็นเป้าหมายของการยื้อแย่งและจะเป็นอันตรายในท่ามกลางผู้ที่ขาดปัญญา"

    ซึ่งในหลวงทรงหยิบยกมาเป็นคำสอน
    เพื่อให้คนไทยทุกคนได้นำไปใช้เป็นคติสอนใจในการดำเนินชีวิต
    และเรื่องราวของต้นมะม่วงไม่ได้มีแต่ในแง่ของงานวรรณกรรมที่พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์เท่านั้น
    ยังมีเรื่องราวของต้นมะม่วงที่มีความน่าสนใจ ในแง่ที่ว่าพระองค์ทรงให้ความสำคัญและสนพระทัยกับ
    เรื่องราวเล็กๆน้อยๆ อย่างเรื่องของ

    "ต้นมะม่วง" ที่ปลูกอยู่ที่ "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร" (วัดโพธิ์)

    สำหรับ เรื่องราวของต้นมะม่วงนี้กล่าวกันว่าเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวครั้งยังทรงพระเยาว์
    พระองค์ทรงเสด็จมาที่วัดโพธิ์แล้วมีต้นมะม่วงต้นหนึ่งปลูกอยู่และครั้นเมื่อพระองค์เจริญพระชันษาขึ้น
    พระองค์ได้เสด็จกลับมาที่วัดโพธิ์อีกครั้งแล้วทรงทอดพระเนตรไม่เห็นต้นมะม่วงต้นดังกล่าวพระองค์ทรง
    ตรัสถามถึงต้นมะม่วงต้นนั้นซึ่งเป็นที่น่าเสียดายว่าต้นมะม่วงต้นนั้นทางวัดได้ตัดโค่นทิ้งไปแล้ว

    พอหลังจากที่พระองค์ทรงได้ถามถึงต้นมะม่วงในครั้งนั้นทางวัดจึงได้ทำการปลูกต้นมะม่วงต้นใหม่ขึ้นมา
    ณ บริเวณเดิมที่พระองค์ทรงตรัสถามถึง ซึ่งทุกวันนี้ต้นไม้มะม่วงต้นนั้นก็ได้เจริญเติบโตแผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงา
    และความร่มรื่นอยู่ภายในวัดโพธิ์ ตรงบริเวณหน้าวิหารพระพุทธไสยาสน์ และกลายเป็นต้นไม้ที่
    ให้ความร่มเย็น
    เป็นที่นั่งพักผ่อนแก่นักท่องเที่ยวที่ มาเที่ยวภายในวัดโพธิ์ได้เป็นอย่างดี


    ที่มา : ทำดีเพื่อพ่อและแทนคุณแผ่นดิน (Facebook)

    "โพธิยาลัยอันเป็นนามของฤษีดัดตนที่วัดพระเชตุพนในเทวมหานคร(... กรุงเทพ-มหานคร...?) เมืองสุวรรณภูมิ"


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2012
  9. CopperOxide

    CopperOxide เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +289
    คราหนึ่งเมื่อครั้น ศาตราจารย์ปรีชา เถาทอง ผู้วาดภาพประกอบลงในพระราชนิพนธ์พระมหาชนก ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
    พระองค์ท่านทรงมีพระกระแสรับสั่งใจความว่า

    พระองค์ไม่ได้ให้ประชาชนมองท่านเป็นตัวแทนของพระมหาชนก แต่ที่พระองค์ท่านทรงพระราชนิพนธ์พระมหาชนกนั้นเพื่อหวังว่า ประชาชนไทยทุกคนเป็นอย่างเช่นพระมหาชนก

    ซึ่งล่าสุด ส.ค.ส พระราชทาน ประจำปี 2555 นั้น พระองค์ท่านทรงหยิบยกวลีในพระราชนิพนธ์พระมหาชนก มอบให้แก่ประชาชนทุกคนได้ไตร่ตรองพิจารณา นำไปใช้

    "ถึงจะมองไม่เห็นฝั่ง เราก็ต้องพยายามว่ายอยู่ท่ามกลางมหาสมุทร โภคะทั้งหลายมิได้สำเร็จด้วยเพียงคิดเท่านั้น"



    หมายเหตุ : e-book เกี่ยวกับ เศรษฐกิจพอเพียง

    http://www.nesdb.go.th/Default.aspx?tabid=326
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 มกราคม 2012
  10. apichart ww2

    apichart ww2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +439
    ศิลปินสมัครเล่นไขปริศนา “ดาวินชี” บนภาพวาด “โมนาลิซ่า”
    ป้ายกำกับ:จิตรกร, ฝรั่งเศส, ศิลปะ, อิตาลี, เลโอนาร์โด ดา วินชี, โมนาลิซ่า
    0
    [​IMG]
    ศิลปินสมัครเล่นในกรุงนิวยอร์กช็อควงการศิลปะทั่วโลก หลังค้นพบรูปสัตว์ชนิดต่างๆ ซ่อนอยู่ในภาพวาด “โมนาลิซ่า” ของจิตรกรชื่อดังก้องโลก “เลโอนาร์โด ดา วินชี” เป็นครั้งแรกในรอบ 500 ปี
    นายรอน พิชชีริลโล่ จิตรกรมือสมัครเล่น วัย 37 ปี ประกาศความสำเร็จหลังพบภาพหัวสิงโต, ลิง และควายป่า ซ่อนอยู่ในภาพวาด “โมนาลิซ่า” ของจิตรกรเอก นักวิทยาศาสตร์ นักปราชญ์ และสุดยอดอัจฉริยะ ”เลโอนาร์โด ดา วินชี” ซึ่งก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีใครสังเกตเห็นมาก่อน
    [​IMG]
    นายพิชชีริลโล่ ซึ่งเป็นทั้งนักวาดภาพสีน้ำมัน และกราฟฟิกดีไซเนอร์ ที่กรุงนิวยอร์ก ค้นพบภาพสัตว์ดังกล่าวขณะทำงานวิจัยเกี่ยวกับผลงานศิลปะ และเมื่อเขาตะแคงดูภาพวาด “โมนาลิซ่า” เพื่อค้นหามุมมองใหม่ๆ ก็ทำให้พบภาพปริศนาที่ซ่อนอยู่ในภาพวาดชื่อดัง โดยเริ่มจากภาพหัวสิงโต จากนั้นก็เจอภาพหัวควายป่า และลิง ตามลำดับ
    [​IMG][​IMG][​IMG]
    หลังพบภาพสัตว์ดังกล่าวแล้ว เขาก็ใช้เวลา 2 เดือนในการอ่านข้อความต่างๆ ที่เขียนขึ้นโดย ”เลโอนาร์โด ดาวินชี” เมื่ออ่านเจอเนื้อหาที่ดาวินชีเขียนในเชิงเปรียบเทียบระหว่างคุณธรรมและความอิจฉาริษยา โดยเฉพาะคำบรรยายถึงผู้หญิงที่ชื่อ “เอ็นวี่” (ซึ่งเป็นตัวแทนของความอิจฉาริษยา) ทำให้เขาค้นพบว่า แท้จริงแล้วภาพวาดโมนาลิซ่าก็คือ “เอ็นวี่” นั่นเอง (คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าที่ผ่านมา “ดาวินชี” ไม่เคยกล่าวถึงถึงภาพวาด “โมนาลิซ่า” เลย ทั้งๆ เขาเขียนบันทึกถึงสิ่งต่างๆ มากกว่า 7 พันหน้า)
    นายพิชชีริลโล่ หยิบยกข้อความที่ “ดาวินชี” เขียนถึง ”เอ็นวี่” ใจความว่า “มอบหนังเสือดาวให้เธอ เพราะสัตว์ชนิดนี้ใช้กลลวงฆ่าสิงโตด้วยความอิจฉาริษยา” โดยอธิบายว่าประโยคนี้คือข้อความที่ดาวินชีบอกเป็นนัยๆ ถึงภาพหัวสิงโตที่ซ่อนอยู่บริเวณใบหน้าด้านขวาของโมนาลิซ่า
    [​IMG]
    หลังตีความตามทฤษฎีดังกล่าว เขาก็พบภาพงูที่มือด้านซ้ายของโมนาลิซ่า ซึ่งดาวินชีเขียนบันทึกถึงเอ็นวี่เอาไว้ว่า “ให้แจกันในมือที่เต็มไปด้วยดอกไม้และสัตว์มีพิษแก่เธอ “ ส่วนมือข้างขวาที่วางในลักษณะแปลกๆ นายพิชชีริลโล่ ตีความว่ามาจากประโยค “เอ็นวี่ ต้องสื่อด้วยมือที่เคลื่อนไหวในลักษณะไม่นบนอบต่อสวรรค์ เพราะถ้าทำได้ เธอจะใช้ความแข็งแกร่งของเธอต่อต้านพระเจ้า”
    [​IMG]
    เมื่อมองจากมุมนี้จะเห็นว่ามือขวาของโมนาลิซ่ามีขนาดใหญ่มาก
    ส่วนแสงเงารอบดวงตาและจมูกที่มีลักษณะเป็นรูปต้นปาล์ม นายพิชชีริลโล่อธิบายว่าสอดคล้องกับประโยค “ให้เธอเห็นดวงตาที่บาดเจ็บจากกิ่งปาล์มและกิ่งโอลีฟ ตลอดจนใบหูที่บาดเจ็บจากกิ่งลอเรลและไมร์เทิล เพื่อแสดงให้เห็นว่าชัยชนะและความจริงเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับเธอ”
    [​IMG]
    ภาพถูกแรเงาเพิ่ม เพื่อให้เห็นรูปต้นปาล์มชัดขึ้น
    เมื่ออ่านถึงประโยคที่ว่า “ควรมีสายฟ้ามากมายฟาดออกมาจากตัวเธอ เพื่อแสดงให้เห็นถึงอำนาจของปิศาจร้าย” นายพิชชีริลโล่ ก็พบภาพสายฟ้าฟาดปรากฏอยู่บริเวณรอยย่นที่แขนเสื้อของโมนาลิซ่าด้วยเช่นกัน
    [​IMG]
    เขากล่าวว่า มันเป็นมากกว่่าความบังเอิญที่พบภาพดังกล่าวหลังอ่านข้อความเกี่ยวกับ “เอ็นวี่” ที่เขียนโดยดาวินชี แต่สิ่งที่เขาค้นพบยังไม่หมดแค่นั้น เขากล่าวว่าถ้าอ่านข้อความของดาวินชีแล้วกวาดสายตามองภาพโมนาลิซ่าเป็นเส้นตรงในแนวนอน ก็จะพบว่ามีความสอดคล้องระหว่างคำบรรยาย “เอ็นวี่” และ “โมนาลิซ่า”
    เช่นประโยคที่ว่า “ให้หัวใจของเธอถูกกัดกินโดยงูพิษตัวอ้วนพี” เมื่อเขามองไปที่หน้าอกโมนาลิซ่าแล้วกวาดตามองเป็นเส้นตรงในแนวนอน ก็พบว่ามีภาพงูปรากฏอยู่ที่ด้านหลังหน้าอกของเธอ (อกด้านซ้ายของโมนาลิซ่าหรือด้านขวามือของภาพมีรูปงูขดอยู่ ส่วนอีกด้านมองเผินๆ เหมือนเป็นรูปงูหรือจระเข้อ้าปากเตรียมขย้ำหัวใจ โดยมีเลือดนองอยู่ใต้ปาก) ซึ่งที่ผ่านมา คนส่วนใหญ่มักมุ่งประเด็นในการไขปริศนาไปที่ภาพวิวและสะพานบริเวณด้านหลังว่าเป็นที่ใดกันแน่
    [​IMG]
    ภาพโมนาลิซ่าที่ดาวินชีวาดเอาไว้เมื่อปี ค.ศ. 1519 (พ.ศ.2062)
    คลิกที่รูปเพื่อดูภาพขยาย
    เขายังบอกด้วยว่าถ้ามองภาพโมนาลิซ่าในลักษณะกลับหัวให้ดีๆ ก็จะพบว่าดาวินชีจงใจไฮไลท์แสงเงาเป็นรูปเครื่องหมายคำถาม (?) ให้เห็นอย่างชัดเจน เหมือนจะเป็นการท้าทายให้ไขปริศนาที่ซุกซ่อนอยู่ในภาพ
    [​IMG]
    นอกจากภาพโมนาลิซ่าแล้ว นายพิชชีริลโล่ ยังพบภาพสัตว์ปริศนาในลักษณะดังกล่าวบนภาพวาดอื่นๆ ของดาวินชี ตลอดจนจิตรกรคนอื่นๆ ในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ (ยุคเรอเนสซองซ์) เช่น ราฟาเอล และติเตียน ด้วยเช่นกัน
    ตัวอย่างภาพวาด “Pastoral Concert” ของติเตียน ที่นายรอน พิชชีริลโล่ พบภาพหัวสิงโต ลิง ช้าง และหัวม้า (หรือล่อ) ซ่อนอยู่:
    [​IMG]
    [​IMG]
    ทั้งนี้ นายพิชชีริลโล่ ได้เผยเคล็ดลับในการค้นหาภาพปรืศนาที่ซุกซ่อนอยู่ในผลงานศิลปะว่า ให้ลองมองหาทีละจุดโดยจินตนาการว่าตัวเองกำลังยืนอยู่ตรงหน้าลายเส้นรูปไข่ (ซึ่งจะกลายเป็นรูปวงกลมเมื่อยืนมองจากด้านซ้ายและขวาของภาพ) หรือพูดง่ายๆ ก็คือให้ค่อยๆ พิจารณาภาพทีละจุดโดยมองให้เป็นรูปวงรีนั่นเอง
    [​IMG]
    ภาพวาดตัวเองของ เลโอนาร์โด ดาวินชี
    [​IMG]
    ภาพร่าง “เอ็นวี่” (ซ้าย) โดย เลโอนาร์โด ดาวินชี
    หมายเหตุ: ชื่อภาพ ‘โมนาลิซา” ถูกตั้งขึ้นโดย จอร์โจ วาซารี ศิลปินและนักชีวประวัติชาวอิตาลี หลังจากดาวินชีเสียชีวิตไปแล้วถึง 31 ปี เขาระบุว่าผู้ที่อยู่ในภาพ คือ ลีซา เกอราร์ดีนี ภรรยาของขุนนางนักธุรกิจไหมผู้มั่งคั่ง ชาวเมืองฟลอเรนซ์นามว่า ฟรานเชสโก เดล โจกอนโด คำว่า โมนา” (Mona) ในภาษาอิตาลี ก็คือคำว่า มาดอนนา (madonna) คุณผู้หญิง (my lady) หรือ มาดาม (Madam) ในภาษาอังกฤษ ดังนั้น ชื่อ “โมนาลิซ่า” จึงแปลว่า “มาดาม ลิซา” นั่นเอง
    ปัจจุบันภาพ “โมนาลิซ่า” อยู่ในความครอบครองของรัฐบาลฝรั่งเศส โดยถูกเก็บรักษาอย่างดีในตู้กระจกปรับอากาศกันกระสุน ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Musée du Louvre) ในกรุงปารีส
    ปล.เพื่อเป็นแนวทางอีกมิติในการตีความ
     
  11. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะเข้าใจคำว่าคุณธรรม คุณธรรมจะเกิดได้จริง ก็ต้องได้ฐานที่แข็งแรง มั่นคง ทุกคนต้องอดทน ในการเป็นผู้ถูกกระทำ คุณธรรมจะเกิดขึ้นได้ ทุกคนล้วนต้องแลกด้วยชีวิต คำๆนี้กำลังจะถูกพิสูจน์ถึงความจริงระหว่าง ทรัพย์สินเงินทอง กับ ชีวิต อะไรจะมีค่ามากกว่ากัน เมื่อวันนั้นมาถึง ท่านทั้งหลายจะเป็นผู้เลือกเอง จะเป็นผู้ที่ตัดสินใจเอง ใครจะตัดสินใจยังไงก็ช่าง... สุดท้าย คุณธรรมจะต้องเกิด เป็นคุณธรรมที่มีชีวิต และมีพลัง <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    เมื่อถึงวันเวลาที่เหมาะสม จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชียวหวาดเสียวใจ ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลั่งฝนครามลั่นครืนจะยืนได้ จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชใหม่แห่งประชา คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ <o:p></o:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    หลังจากนั้น เสาแห่งคุณธรรมที่เปรียบเสมือนเสาเข็มของประเทศจะถูกตอกและฝังลึกลงไปในใจกลางแผ่นดิน ซึ่งจะเป็นรากฐานที่แข็งแรงและมั่นคงของประเทศต่อไป นี้คือบ้านปิระมิด บ้านที่มีพลังชีวิต พลังแห่งคุณงามความดี นี้เป็นหลักการบริหารราชการแผ่นดินที่ถูกต้องดีงาม สมกับเป็นยุคของชาวศิวิไลซ์<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    เมื่อเรามองดูเหตุการณ์ในปัจจุบัน(มกราคม ปี 2555)นี้ แล้วมองย้อนดูอดีต เราจะเห็นความผิดปกติคือเราๆท่านๆกำลังเดินผิดทาง ผิดทางอย่างไร ผมจะขอพิจารณาด้วยปัญญาธรรมอันน้อยนิดให้ทุกท่านได้ทราบดังนี้<o:p></o:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. CopperOxide

    CopperOxide เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +289
    ขออนุญาตนอกเรื่องครับ โดยความคิดเห็นส่วนบุคคล

    ภาพเขียนสีน้ำมันของ เลโอนารโด ดาวินซี มักโดดเด่นที่ "นิ้วมือ"
    และ สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรลืมคือ ดาวินซี เป็นจิตรกรและวิศวกรนักออกแบบในตัวเอง นอกจากพิเคราะห์เชิง"สัญลักษณ์"แล้ว "เรขาคณิต" ก็เป็นเรื่องที่จำเป็น
    (แถมต้องเข้าใจเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ช่วงที่ดาวินซีเขียนภาพนั้นๆ ว่ามีสิ่งใดซุกซ่อนหรือต้องการสื่อสารไว้ในใจหรือไม่)

    โดยส่วนตัวเห็นว่า
    การตีความภาพจิตรกรรมของตะวันตกสำหรับคนเอเชีย เป็นเรื่องยาก ถ้าไม่ได้สนใจใคร่รู้อย่างจริงจัง เพราะ รากเหง้าและความเข้าใจขนบธรรมเนียมวัฒนธรรม รวมถึงแนวคิดตะวันออก-ตะวันตก แตกต่างกัน
    แต่ถ้าตีความภาพวาดในแถบเอเชียด้วยกันเอง อย่างเช่น ภาพเขียนเชิงปรัชญาเซน คนเอเชียกลับมองเห็นตีความได้ลึกซึ้งเข้าใจกว่า
    ทำให้นึกถึงเพลงคลาสสิคเพลงหนึ่ง "คนบ้านเดียวกัน " ของ บีโธเฟน เอ้ย! ไม่ใช่ ไผ่ พงศธร "คนบ้านเดียวกัน แค่มองตากันก็เข้าใจอยู่" :)
     
  14. apichart ww2

    apichart ww2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +439
    ขอบคุณครับเป็นกำลังใจทุกท่านครับ...คอยอ่านและเป็นกำลังใจตลอดครับ
     
  15. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ข้าพเจ้าก็เหมือนท่านผู้รู้หลายๆท่านที่ต้องหยุดคิดพิจารณา เพราะยิ่งพัฒนาไปตามกลุ่มทุนนิยมยิ่งพบเจอแต่ทางตัน ทำให้เกิดปัญหาต่างๆตามมามากหลาย... แก้อย่างไรก็แก้ไม่ตก ยิ่งแก้ก็ยิ่งยุ่ง โลกเราก็วุ่นวายเสื่อมโทรมลงไปตามสภาพที่เราๆท่านๆเห็นกันอยู่และรู้ๆกันอยู่ ในปัจจุบัน ได้เกิดวิกฤติช้อนวิกฤติ ยากที่จะแก้ไขได้ ทางด้านการอนุรักษ์เราๆท่านๆก็หลงลืมกันไปว่า เมื่อสมัยก่อนประมาณ 40-50ปีที่แล้วมา เรากินอยู่กันอย่างไร ในยุคนั้นผมมองว่าทรัพยากรธรรมชาติ บริสุทธิ์ สะอาด จิตใจคนก็งดงาม ยิ่งนานวัน... ความงดงามต่างๆเหล่านั้น ยิ่งเริ่มจืดจางลง ลดน้อยถ่อยลงไปทุกวันๆ จนเราลืมคิดว่ายังมีอยู่นะ <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    โลกทั้งโลกก็เกิดการขาดสมดุล ใจมนุษย์ทั้งโลกก็เกิดการขาดศีลดุล เช่นเดียวกันกับตราชั่ง สมมติว่า<o:p></o:p>
    ตราชั่งอันนี้มีความสามารถรับน้ำหนักได้100% เปรียบเสมือนโลกก็ย่อมมีขีดจำกัดเช่นเดียวกัน การพัฒนา ก็เปรียบเสมือนคน ที่มีมากขึ้นทุกวัน แต่คนที่จะพัฒนานั้นมีมากกว่าการอนุรักษ์ จนเป็นเหตุให้น้ำหนักของการพัฒนามากขึ้น ต่ำลง มากขึ้น ต่ำลงอีก และมากขึ้นอีก ส่วนทางด้านคนที่จะอนุรักษ์ มีน้อยลง สูงขึ้น น้อยลงอีก สูงขึ้นอีก ณ.จุดนี้คนก็ยังไม่คิด ก็ยังคงพัฒนากันต่อไป มีผลให้แขนตราชั่งเอียง และส่งผลต่อไปให้แกนกลางของตราชั่งเอียง จุดนี้ทำให้เกิดความเค้น และความเครียดขึ้นมา เมื่อมีความไม่สมดุลเกิดมากขึ้น มันก็กำลังจะพลิกกลับหรืออื่นๆ เพื่อรักษาสมดุลก่อนที่ตัวมันจะพัง ท่านทั้งหลายคงพอที่จะเข้าใจแล้วว่าผลที่ได้รับต่อไปจะเป็นเช่นไรข้าพเจ้าขอพิจารณาเปรียบเทียบดังนี้...<o:p></o:p>
    โลกเราทุกวันนี้ก็ก้มหัวลงมาทางด้านขวามือ คือตามเข็มนาฬิกา ที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่าแกนโลกเอียง ประมาณนี้<o:p></o:p>
    การพัฒนาของมนุษย์เรา ทุกวันนี้ก็ก้มหัวลงมาทางด้านขวามือ คือตามเข็มนาฬิกาเช่นเดียวกัน<o:p></o:p>
    ใจของมนุษย์เราทุกวันนี้ก็ก้มหัวลงมาทางด้านขวามือ คือตามเข็มนาฬิกาเช่นเดียวกัน<o:p></o:p>
    เมื่อ ทิศทางเดียวกันเช่นนี้ เหตุและผลเป็นเช่นนี้แล้ว มันย่อมต้องมีการปรับสภาพตัวของมันเองเป็นธรรมดาเพื่อให้เกิดการสมดุล ก่อนที่ตัวมันจะผิดรูป พังลง หรือเสียหายไปมากกว่านี้<o:p></o:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ถ้าจะพิจารณาในทางวิชาการที่พิสูจน์เป็นวิทยาศาสตร์ได้ดังนี้ และขอขอบคุณข้อมูลดีๆจากฟิสิกส์ราชมงคล<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    รูปที่ 2.4 เส้นโค้งความเค้น-ความเครียด (Stress-Strain Curve) แบบมีจุดคราก (Yield Point)<o:p></o:p>
    การทดสอบแรงดึง (Tension Test)
    วิธีการทดสอบนั้น เราจะนำตัวอย่างที่จะทดสอบมาดึงอย่างช้า ๆ แล้วบันทึกค่าของความเค้นและความเครียดที่เกิดขึ้นไว้ แล้วมาพลอตเป็นเส้นโค้งดังรูปที่ 2.4 ขนาดและรูปร่างของชิ้นทดสอบมีต่าง ๆ กัน ขึ้นอยู่กับชนิดของวัสดุนั้น ๆ มาตรฐานต่าง ๆ ของการทดสอบ เช่น มาตรฐานของ ASTM (American Society of Testing and Materials), BS (British Standards), JIS (Japanese Industrial Standards) หรือแม้แต่ มอก. (มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมไทย) ได้กำหนดขนาดและรูปร่างของชิ้นทดสอบไว้ ทั้งนี้เพื่อให้ผลของการทดสอบเชื่อถือได้ พร้อมกับกำหนดความเร็วในการเพิ่มแรงกระทำเอาไว้ด้วย
    จากการศึกษาเส้นโค้งความเค้น-ความเครียด เราพบว่า เมื่อเราเริ่มดึงชิ้นทดสอบอย่างช้า ๆ ชิ้นทดสอบจะค่อย ๆ ยืดออก จนถึงจุดจุดหนึ่ง (จุด A) ซึ่งในช่วงนี้ความสัมพันธ์ระหว่างความเค้น-ความเครียดจะเป็นสัดส่วนคงที่ ทำให้เราได้กราฟที่เป็นเส้นตรง ตามกฎของฮุค (Hook's law) ซึ่งกล่าวว่าความเค้นเป็นสัดส่วนโดยตรงกับความเครียด จุด A นี้ เรียกว่าพิกัดสัดส่วน (Proportional Limit) และภายใต้พิกัดสัดส่วนนี้ วัสดุจะแสดงพฤติกรรมการคืนรูปแบบอิลาสติก (Elastic Behavior) นั่นคือเมื่อปล่อยแรงกระทำ ชิ้นทดสอบจะกลับไปมีขนาดเท่าเดิม
    เมื่อเราเพิ่มแรงกระทำต่อไปจนเกินพิกัดสัดส่วน เส้นกราฟจะค่อย ๆ โค้งออกจากเส้นตรง วัสดุหลายชนิดจะยังคงแสดงพฤติกรรมการคืนรูปได้อีกเล็กน้อยจนถึงจุด ๆ หนึ่ง (จุด B) เรียกว่า พิกัดยืดหยุ่น (Elastic limit) ซึ่งจุดนี้จะเป็นจุดกำหนดว่าความเค้นสูงสุดที่จะไม่ทำให้เกิดการแปรรูปถาวร (Permanent Deformation or Offset) กับวัสดุนั้น เมื่อผ่านจุดนี้ไปแล้ววัสดุจะมีการเปลี่ยนรูปอย่างถาวร (Plastic Deformation) ลักษณะการเริ่มต้นของความเครียดแบบพลาสติกนี้เปลี่ยนแปลงไปตามชนิดของวัสดุในโลหะหลายชนิด เช่น พวกเหล็กกล้าคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Steel) จะเกิดการเปลี่ยนรูปอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการเพิ่มความเค้น (บางครั้งอาจจะลดลงก็มี) ที่จุด C ซึ่งเป็นจุดที่เกิดการเปลี่ยนรูปแบบพลาสติก จุด C นี้เรียกว่าจุดคราก (Yield Point) และค่าของความเค้นที่จุดนี้เรียกว่า ความเค้นจุดคราก (Yield Stress) หรือ Yield Strength ค่า Yield Strength นี้มีประโยชน์กับวิศวกรมาก เพราะเป็นจุดแบ่งระหว่างพฤติกรรมการคืนรูปกับพฤติกรรมการคงรูป และในกรณีของโลหะจะเป็นค่าความแข็งแรงสูงสุดที่เราคงใช้ประโยชน์ได้โดยไม่เกิดการเสียหาย
    วัสดุหลายชนิดเช่น อะลูมิเนียม ทองแดง จะไม่แสดงจุดครากอย่างชัดเจน แต่เราก็มีวิธีที่จะหาได้โดยกำหนดความเครียดที่ 0.10 - 0.20% ของความยาวกำหนดเดิม (Original Gage Length) แล้วลากเส้นขนานกับกราฟช่วงแรกไปจนตัดเส้นกราฟที่โค้งไปทางด้านขวา ดังรูปที่ 2.5 ค่าความเค้นที่จุดตัดนี้จะนำมาใช้แทนค่าความเค้นจุดครากได้ ความเค้นที่จุดนี้บางครั้งเรียกว่า ความเค้นพิสูจน์ (Proof Stress) หรือความเค้น 0.1 หรือ 0.2% offset ดังแสดงในรูปที่ 2.5<o:p></o:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    เมื่อคนบุญได้มีอำนาจ ได้มีโอกาสสร้างชาติ ได้รับโอกาสที่จะมีชีวิตให้อยู่ต่อ เพื่อให้ทำความดีต่อ ท่านคิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น...<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    เมื่อเราได้ใจคนที่มีคุณธรรมดีแล้วพร้อมแล้ว เราก็จะได้คนที่ดีมีคุณธรรมมาบริหารบ้านเมือง บริหารราชการแผ่นดิน เช่นเดียวกัน หลักเมืองแห่งใหม่ที่มีแต่คนบุญเป็นผู้สร้างชาติ ก็จะเปลี่ยนศักราชใหม่นั้นเป็นเวลา 9.00น.ชีวิตใหม่ ก็จะมีอายุยืน หรือนี่อาจจะเป็นเวลาเริ่มงานที่เหมาะสมต่อไปก็เป็นไปได้...<o:p></o:p>
    ผู้บริหารคนนี้จะต้องบริหารราชการแผ่นดินอย่างเป็นธรรม เหมือนตราชั่ง คือไม่ให้บริหารให้ก้าวหน้าเกินไป(พัฒนา)หรือล้าหลัง(อนุรักษ์)เกินควร เหมือนที่ผ่านๆมา บริหารแบบมีภูมิคุ้มกัน โดยให้เน้นทางด้านให้การศึกษาเป็นหลัก รัฐมีหน้าที่ส่งเสริมให้คนมีความรู้คู่คุณธรรม(ยิ่งสูงยิ่งต้องมีคุณธรรมสูง กรุณาดูdetail หลังจากที่ได้พิจารณาสัญญาลักษณ์ปริศนาธรรมแล้ว) เมื่อศึกษาในระดับที่แต่ละคนพอใจแล้วก็มีแนวทางเลือกคือ หนึ่ง รับราชการ แต่แบ่งออกเป็น 2 กระทรวงหลักคือ กระทรวงพัฒนา และกระทรวงอนุรักษ์ ส่วนกระทรวงที่มีมากมายจะไปอยู่กระทรวงไหนก็ไปว่ากัน ดังนั้นก็ต้องไปทำ Organization(ตรงนี้ต้องไปคุยในรายละเอียด มิใช่ว่าข้าพเจ้าพูดอย่างนี้ต้องทำตามอย่านี้ไม่ใช่เสมอไปครับ ทุกคนต้องไปทำการบ้าน ต้องไปศึกษาต้นมะม่วงให้เข้าใจก่อนครับตามที่ในหลวงท่านทรงชี้แนะนำมา โปรดอย่าเชื่อผม ผมอาจจะพิจารณาผิดก็ได้ครับ เราต้องเข้าใจหลักการให้เหมือนกันก่อนๆที่จะเดินไปด้วยกันในแนวทางเดียวกัน) เพื่อให้ออกมาเป็นรูปธรรม ตรงนี้อาจจะต้องช่วยกันพิจารณา ส่วนภาคเอกชนท่านอาจจะนำหลักการนี้ไปใช้ก็ได้ไม่ว่ากัน ดังนั้นภาคเอกชนก็ต้องมีคอกคือรัฐก็ต้องเข้าไปดูแลผลประโยชน์ทั้งหมดเหมือนเดิมเพียงแต่เพิ่ม-ลด-หน้าที่-การตัดสินใจในแต่ละระดับให้มันเหมาะสมกับยุคสมัยนั้นๆ คือตรงนี้ที่ผมมองจริงๆแล้วมันก็ไม่มีอะไรซับซ้อน มันก็เหมือนต้นมะม่วงนั่นเองต้องเข้าใจว่า รากมีหน้าที่อะไร ลำต้นมีหน้าที่อะไร กิ่งมีหน้าที่อะไร ใบมีหน้าที่อะไร ดอกมีหน้าที่อะไร ผลมีหน้าที่อะไร อื่นๆ เราจะบำรุงรักษาอย่างไร เราจะเก็บเกี่ยวเมื่อไหร่ เมื่อมะม่วงออกผลแล้วจะให้ใครกิน เหมือนแขนที่กางออกทั้งสองข้าง ได้มาก็ส่งกลับให้ไปสู่ประชาชน ส่วนหนึ่งก็เก็บไว้บริหารประเทศ เหมือนนิ้วโป้งที่แตะบนนิ้วกลาง ก็จะต้องเก็บไว้พัฒนาประเทศต่อไป นิ้วอื่นที่ไม่ถูกนิ้วโป้งแตะก็เหมือนน้ำไหลไปสู่ประชาชนผลประโยชน์กลับไปสู่ประชาชน เมื่อผู้นำผู้บริหารประเทศมีใจเป็นธรรมเช่นนี้แล้ว ก็จะสามารถรวบรวมเลือดเนื้อผองไทยเพื่อสร้างชาติให้เจริญรุ่งเรืองได้ เมื่อคนในชาติเป็นคนดีย่อมพูดง่าย เข้าใจอะไรง่ายๆ เพราะความถูกต้อง ดีงามทำให้มันง่ายเองไปในตัว โดยไม่ต้องอธิบายอะไรมาก หรือต้องพูดมาก เมื่อผู้บริหารราชการแผ่นดินกับประชาชนเข้าใจกันดีแล้ว ไว้เนื้อเชื่อใจกันดีแล้ว ความสามัคคีก็จะเกิดขึ้นในหมู่ชนเอง ดังนั้นการบริหารราชการแผ่นดินก็จะง่าย...<o:p></o:p>
    ผู้บริหารราชการแผ่นดินจะต้องใช้ วิธีฟื้นฟูต้นมะม่วง ๙ วิธี ดังนี้<o:p></o:p>
    ๑. เพาะเม็ดมะม่วง<o:p></o:p>
    ๒. ถนอมราก<o:p></o:p>
    ๓. ปักชำกิ่ง<o:p></o:p>
    ๔. เสียบยอด<o:p></o:p>
    ๕. ต่อตา<o:p></o:p>
    ๖. ทาบกิ่ง<o:p></o:p>
    ๗. ตอนกิ่งให้ออกราก<o:p></o:p>
    ๘. รมควันต้นที่ไม่มีลูก<o:p></o:p>
    ๙. ทำ ทำชีวาณูสงเคราะห์’<o:p></o:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ทั้ง ๙ ข้อนี้ ทำเพื่อที่จะฟื้นฟูให้ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน มั่นคงสถาพรยิ่งๆขึ้นไป ความมั่นคงในที่นี้ของผมคือ อาหาร มิใช่ทรัพย์สินเงินทอง อาหารต้องไม่แพง มีคุณภาพที่ดี ตลอดจนสาธารณูประโภคต่างๆ ที่มีความจำเป็นต้องกินต้องใช้กันทุกวัน สำหรับคนไทย คนต่างชาติต่างภาษาว่ากันอีกเรื่องอีกราคาหนึ่ง นโยบายของรัฐในปัจจุบันต้องเปลี่ยนจากระบบทุนที่นิยมสามานย์ ไปเป็นการอนุรักษ์และพัฒนาภาคเกษตรกรรมแทน แต่ก็ไม่ปฏิเสธภาคอุตสาหกรรม(จุดนี้มีทางออกขอให้เข้าใจในแนวทางนี้ก่อนครับ) ตามที่คุณหนุมาน ผู้นำสารได้ชี้แนะไว้คือ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    ๑.เปลี่ยนประเทศผู้ลงในไทยเป็นประเทศผู้ซื้อ<o:p></o:p>
    ๒.เปลี่ยนลูกจ้างแรงงานไทย ให้เป็นผู้ผลิต<o:p></o:p>
    ๓.เปลี่ยนอุตสาหกรรมเป็นเกษตรกรรม<o:p></o:p>
    ๔.เปลี่ยนการใช้สารเคมีเป็นสมุนไพรธรรมชาติ<o:p></o:p>
    ๕.เปลี่ยนประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอาหารและยาของโลก<o:p></o:p>
    ทั้ง๕ข้อนี้อาจจะเพิ่ม หรือลดได้ ในอนาคตเพื่อให้ทุกคนเห็นฟ้องต้องกันในแนวทางนี้ก่อน งดงามแล้วครับ ท่านหนุมาน ผู้น้อยขอนอบน้อมด้วยความเคารพ<o:p></o:p>
    ครับเมื่อนโยบายประเทศชัดเจน หลักการบริหารราชการแผ่นดินชัดเจน ดังนั้นในการวาง Organization มันก็จะง่ายและชัดเจนมากขึ้นครับ เพราะพิจารณาไปในแนวทางเดียวกันครับ<o:p></o:p>
    เราต้องยกเลิกระบบทุนนิยมสามานย์ครับ มันสอนให้เราพึ่งตนเองไม่ได้ กลายเป็นคนไร้ความสามารถ มีปัญหาอะไรก็คิดไม่เป็น ต้องไปพึ่งพาระบบที่เอาเปรียบตลอด ระบบที่เห็นแก่ตัวไร้จิตไร้ใจของความเป็นมนุษย์ทุกประการ พัฒนาคนให้เก่ง มีความสามารถแต่เอาเปรียบเห็นแก่ตัว กดขี่ให้ยอมจำนนทุกประการ ดังคำนิยามของปราชญ์เดินดิน ที่ชื่อ โจนจันใด คือ กลัว โง่ จน นั่นเองครับ <o:p></o:p>
    พระมหากษัตริย์ก็ส่งเสริมประชาชน ประชาชนก็ส่งเสริมพระมหากษัตริย์ หรือราชประชาสมาสัยนั่นเอง”<o:p></o:p>
    ทำไมต้อง ๙วิธีนี้ สภาพบ้านเมืองเราเสียหายมากเกินที่จะพรรณณาได้ คนก็เช่นเดียวกัน เช่น ในเวลานั้นอาจะมีเด็กกำพร้ามากมายจากสงครามโลกครั้งที่ 3 หรืออาจจะเกิดจากภัยธรรมชาติ ภัยเศรษฐกิจ เป็นผลให้มีเหตุต้องแยกทางจากกัน ตายจากกัน หรืออื่นๆอีกมากมาย ส่วนที่จะต้องฟื้นฟูก็ต้องฟื้นฟูไป ส่วนที่ต้องบริหาร ก็ต้องจัดการไป แต่หลักการบริหารที่จะทำให้บ้านเมืองเจริญนั้น ต้องเริ่มจากฐาน ฐานของคนในชาติ คือต้องเข้าไปแบ่งเบาภาระจากผู้ปกครองโดยให้เริ่มจากเด็กก่อน คือตั้งแต่เด็กเกิดมาให้พยาบาลเข้าไปดูแลให้เด็กมีสุขภาพอนามัยที่ดีจนกระทั่งเข้าสู่ปฐมวัย เมื่อเด็กโตขึ้นก็ให้หมอเข้าไปดูแล นั้นก็หมายความว่าต้องดูแลเด็กให้พร้อมที่จะศึกษาเล่าเรียน การศึกษาที่ดีต้องเริ่มสอนสอดแทรกคุณธรรมเข้าไปตั้งแต่เล็กๆ เข้าไปดูแล เข้าไปให้โอกาส ข้าพเจ้าขอยกพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวกับการศึกษาของไทย <o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    ยังมีราษฎรอีกเป็นส่วนใหญ่ที่ขัดสนและพึ่งตนเองไม่ได้ความขัดสนของราษฎรดังกล่าว เกิดเพราะเขาไม่สามารถใช้กำลังความคิด กำลังแรง ตลอดจนทุนรอนของเขาให้เกิดประโยชน์เท่าที่ควรได้ ราษฎรของเราต้องการความช่วยเหลือ คือความช่วยเหลือที่จะทำให้เขาสามารถพึ่งตนเองได้ ยกฐานะขึ้นด้วยตนเองได้<o:p></o:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ครับในช่วงเวลานั้น เราอาจจะอยู่ในช่วงฟื้นฟูประเทศก็เป็นไปได้ ผมเห็นเช่นนั้น... เมื่อลูกหลานของเรามีการศึกษาที่ดีเป็นหลักแล้ว เชื่อมั่นว่าถ้าผู้บริหารราชการแผ่นดินบริหารจัดการตั้งแต่เด็กเล็กๆจนกระทั่งจบปริญญา โดยให้อยู่ในร่องในรอยแห่งคุณธรรมแล้ว ก็เชื่อมั่นได้ว่าผลผลิตที่ได้ก็จะได้กลับคืนสู่ท้องถิ่น คืนสู่ประชาชนอย่างทั่วถึง เพื่อจะได้นำความรู้ไปพัฒนาท้องถิ่นของตัวเอง เป็นผลให้ชุมชนเข็มแข็ง ครอบครัวก็อยู่พร้อมหน้ากัน มีปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ลูก พระสงฆ์อยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้นความเคารพนอบน้อมต่อผู้หรับผู้ใหญ่ก็จะดีงาม เป็นที่เชิดหน้าชูตาของประเทศไทยเราได้ต่อไป<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    อีกด้านหนึ่งผู้บริหารราชการแผ่นดินก็ต้องควบคุมดูแลข้าราชการให้อยู่ในกรอบ(กรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่อยู่ในช่วงเสาบ้าน) หมายความว่าไม่ให้ข้าราชการ ออกนอกลู่นอกทางเหมือนแต่ก่อน ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ต้องทำตัวให้มีเกียรติ ต้องอยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง ให้พร้อมที่จะอนุเคราะห์ ส่งเสริมให้ประชาชน ให้กินดีอยู่ดี นั่นก็หมายความว่า ถ้าประชาชน ไม่มีที่ทำกิน ก็ต้องจัดสรรให้มี ถ้าขาดน้ำก็ต้องจัดสรรให้มีน้ำกินน้ำใช้ให้เพียงพอ ถ้าขาดความรู้ก็ต้องอนุเคราะห์ส่งเสริม หมายความว่าอนุเคราะห์ช่วยเหลือให้เขาพึ่งตนเองได้อย่างเป็นธรรม เมื่อเขาพึ่งตนเองได้ผลที่ได้ประเทศชาติก็มั่นคงแข็งแรง เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วคนในชาติก็อยู่ดีมีสุข ปัญหาต่างๆก็ลดน้อยลงไปเอง ไม่ต้องเป็นภาระของรัฐบาลฝ่ายเดียว เมื่อประชาชนอยู่ดีมีสุขแล้ว การจัดเก็บภาษีต่างๆก็จะง่ายตามลำดับ ถ้าทำถูกต้องทุกอย่างจะง่าย ทุกคนในชาติจะไว้ใจเอง หรืออีกนัยหนึ่งข้าราชการกินเงินภาษีของประชาชน ท่านมีเงินเดือนใช้ตลอดทุกเดือนไม่ขาด แต่เกษตรกรและประชาชนทุกภาคส่วนนั้นเป็นผู้หาเงินเลี้ยงท่านทั้งหลาย ดังนั้นภาคการผลิตจึงมีปัญหามาก ในการทำมาหากิน การหาเงินไม่ได้เข้าสม่ำเสมอเหมือนข้าราชการที่มีเงินเข้าให้ทุกๆเดือน ไม่ขาด ประชาชนต้องพบเจออุปสรรคมากมาย เมื่อเป็นเช่นนี้ พ่อหลวงท่านทรงตระหนักเรื่องนี้เป็นอย่างดี <o:p></o:p>
    ในการบริหารราชการแผ่นดินนั้นพ่อหลวงท่านทรงทำตัวอย่างให้พวกเราเห็นแล้วก็คือ การเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา นั่นก็หมายความว่า ให้ข้าราชการของแผ่นดิน ส่วนหนึ่งออกไปดูแลราษฏร ของพระองค์ท่าน ว่าที่ท่านบริหารราชการแผ่นดินนั้น บริหารถูกต้องแล้ว ประชาชน กินดี อยู่ดี จริงๆ นั่นก็หมายความว่าข้าราชการส่วนหนึ่งต้องออกไปดูแลประชาชน คือภาคปฏิบัติ อีกส่วนหนึ่งอยู่ในหน่วยราชการ ดูแลประชาชนภาคทฤษฏี แล้วแต่ความชอบความถนัดของแต่ละท่าน เมื่อภาคประชาชนมีปัญหาก็สามารถประสานงานช่วยเหลือกันได้โดยง่าย ถ้าทำถูกต้องทุกอย่างจะง่ายมากครับ...<o:p></o:p>
    เมื่อเราทำเช่นนี้ได้ เราเดินตามรอยเท้าที่พ่อได้กรุยเปิดทางไว้ให้มากมายนับไม่ถ้วน เชื่อมั่นว่าเราจะเป็นมหาอำนาจ เราจะครองโลกได้ เราจะมีทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ที่ประเทศอื่นไม่มี ประเทศอื่นต้องมาง้อเรา ทำไมถึงพูดเช่นนั้น สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ใย ท่านบันทึกในสมุดข่อยผ่านทางหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ความว่า ....<o:p></o:p>
    ชาววิไล นี่ยังไม่ถึงรัชกาลที่ ๑๐ นะท่านญาติโยมทั้งหลาย พระมหากษัตริย์พระองค์นี้ทรงเปรื่องปราชญ์มาก เพราะว่ารัชกาลที่ ๙ วางพื้นฐานไว้ให้ทุกอย่าง วางพื้นฐานไว้หมด บ้านเมืองเราจะเจริญรุ่งเรืองเฟืองฟูมากในรัชสมัยที่ ๑๐ นี้เป็นชาววิไลกันเต็มที่ จะมีแต่ความมั่งคั่งสมบูรณ์ประชาชนร่ำรวย รัฐบาลก็ร่ำรวยจะพบทรัพยากรอันมีค่ามากมายมหาศาล ประเทศที่เคยรวยอยู่แล้วอาจจะต้องอายประเทศไทย ขอให้เราท่านมาคอยดูกันต่อไปว่าจะจริงไหม....<o:p></o:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. แก้มแดง

    แก้มแดง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    131
    ค่าพลัง:
    +794
    ภาพนี้ยังพิจารณาไม่จบนะครับ รอหน่อยนะครับ และยังมีต่อเนื่องอีกยาวครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...