พระคำข้าว พระหางหมาก สมบัติพ่อให้ และอื่น ๆ เพื่องานบุญ และสาธารณประโยชน์ กระทู้ที่ 5

มีเพื่อน ๆ น้อง ๆ หลายท่าน โทร.ถามความเห็น ว่า สงครามจะเกิด ปีไหน
ผมก็บอกว่า เท่าที่รับฟังมา อ่านมา องค์หลวงพ่อไม่ได้ระบุว่า จะเกิดปีไหน
ในเมื่อ ไม่พบว่า องค์หลวงพ่อฯ พูดว่าจะเกิดปีไหน.. หากเราพูดยืนยันไป

ก็จะกลายเป็น "เก่ง" เกิน ท่านไป

เก่งเกินท่าน ท่านสอนให้ไปพระนิพพาน..
เราเก่งกว่า ก็จะทะลุ ลงนรก ไปง่าย ๆ ใช่ไหมครับ

ผมก็ให้ความเห็นไปในทำนองว่า.. เท่าที่รู้มา..
องค์หลวงพ่อฯ ไม่ได้บอกว่าจะเกิดปีไหน....

แต่ที่ชัดเจน แน่ ๆ 100 %
ผมนั่งรับฟัง ด้วยตนเอง ที่ "บ้านสายลม" เมื่อปี 2535
(เรื่องนี้ เคยเห็น เคยฟังว่า มี วิดีโอ บันทึก ไว้ด้วย)
องค์หลวงพ่อฯ พูด เรื่อง "พระคำข้าว" ในทำนองว่า....
อีกไม่เกิน 20 ปี องค์ละเป็นแสน (เป็นแสน.. ไม่ใช่ 1 แสน)

เราก็มาพิจารณาดูว่า..
ขณะนี้ จากปี 2535 ผ่านมา 19 ปี
ที่วัดยังมี พระคำข้าว มีให้บูชา องค์ละ 1,600 บาท
หากไม่มีพุทธานุภาพ ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน
ใครที่ไหนจะบูชา องค์ละเป็นแสน

ก็ลองใคร่ครวญดูได้ ใช่ไหมครับ....

จากข้อความที่ปรารภว่า....

........................................................................................................................................................

ผมฯ ก็ไม่ได้ยืนยัน นะครับ ว่าจะเกิดไหม จะเกิดปีไหน..

เพราะเรื่องใดที่องค์หลวงพ่อฯ ไม่ได้พูดไว้
แล้วมาบอกว่า ท่านฯ พูด.. ก็จะเป็นเป็นเรื่องของ กรรมอันเลว

จากข้อความที่ผม แสดงไว้ที่ โพส # 1701, 1702, 1703 ของ....
http://palungjit.org/threads/พระคำข้าว-พระหางหมาก-สมบัติพ่อให้-และอื่น-ๆ-เพื่องานบุญ-และสาธารณประโยชน์-กระทู้ที่-5-a.232436/page-86

ผมฯ ได้แสดง ไว้ชัดเจน ว่า....

ก็ไม่ได้บอกว่า จะต้องเชื่อ
แต่ก็อาจจะเป็น ข้อสะกิด ข้อระแวด ระวัง เตือนใจ เตือนภัย ตระเตรียมกันไว้บ้าง
เผื่อว่า.. จะเป็นประโยชน์ กับพวกเราได้บ้าง เท่านั้นเอง ครับ
ที่จะเตรียมหนทาง เตรียมการ แก้ไข ปกป้อง ป้องกัน
ทั้งในเรื่องอาหารการกิน และเภทภัยที่จะมีมาหลายรูปแบบ

หากไม่เกิดเภทภัย ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ไม่ต้องเผชิญ กรรมอันใหญ่หลวงนัก
และ เป็นเพราะว่า.. ผม ก็จำมาผิดเอง.. ไม่เกี่ยวข้องกับครูบาอาจารย์
เพราะว่า ครูบาอาจารย์ ท่านฯ ก็ไม่ได้บอกให้มาพูดในทำนองนี้

นั่นก็คือ.. สัญญาไม่ดี ความจำไม่ดี
ผมผิดเอง ที่จำมาผิด ๆ เอง ครับ

..................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->

 

ในเมื่อ....
อีกไม่เกิน 20 ปี องค์ละเป็นแสน (เป็นแสน.. ไม่ใช่ 1 แสน)

ก็มีคำถามว่า แล้ว จะนำ พระคำข้าว มาให้เช่าบูชาทำไม

ข้อนี้ข้อตอบอย่างไม่ค่อยจะอาย ว่า..

(ผมฯ ไม่ได้มี อาชีวะ เป็นรายเดือน (เงินเดือน) หาเช้า กินเช้า)
(ก็ยังดีกว่า ที่ไม่ต้องไปรอกิน ตอนค่ำ อยู่บ้างเล็กน้อย ที่ไม่ต้องอดข้ามไป 2 มื้อ)
(แต่ก็ต้องหาให้ได้ครบ 3 มื้อ ในแต่ละวัน ใช่ไหม.... ก็ไม่เห็นว่า จะดีกระไรเลย)

1. ต่อชีวิต หากไม่นำออกมาให้เช่าบูชา ก็คงต้องตายก่อนถึงปีหน้า ปีต่อ ๆ ไป
2. ต่อบุญบารมี กว่าจะถึงพระนิพพานได้.. ก้ไม่รู้ว่า ต้องบำเพ็ญอีกนานเพียงใด
3. เป็นมือ เป็นเท้า ขององค์หลวงพ่อฯ ที่สามารถกระจาย "สมบัติของพ่อฯ"
ไปให้ ลูกหลาน ของท่านฯ (ไม่ใช่ลูกหลาน ใครเขาจะศรัทธา ใช่ไหม)
ข้อที่ 3 นี้.. คิดเอาเอง คิดแบบว่า.. เห็นแก่ตัว.. คิดเข้าข้างตัวเอง.. ครับ

พูดไปแล้ว จะก่อให้เกิดเป็น "ประโยชน์" ได้บ้างไหม.. ก็ไม่รู้เหมือนกัน ครับ

.....................................................................................................................................................

 

.......................................................................................................................................................

จาก อ้างอิง..
ผมก็ไม่ทราบ ไม่เคยรับฟัง ไม่เคยได้อ่าน มาก่อน (เป็นไปตามวาระ)
ในเรื่องที่องค์หลวงพ่อฯ พูดว่า....

หลังน้ำท่วมใหญ่ ๓ ปี ต่างประเทศจะตีกัน ต่างประเทศจะรบราฆ่าฟันกัน

หากเรื่องนี้ องค์หลวงพ่อฯ ท่านพูดไว้ที่ไหน
ผมฯ ก็เชื่อว่า ย่อมจะเป็นไปอย่างนั้นและครับ

แต่ที่พอพิจารณาได้ว่า..
องค์หลวงพ่อฯ ละสังขาร ปี 2535
จากนั้นมา ปี 2538 / 2549 / 2554
ก็จัดได้ว่า.. ท่วมหนัก ท่วมใหญ่ ได้ไหมครับ นี่...
ก็ไม่ทราบเหมือนกัน ใช่ไหมครับ

.......................................................................................................................................................

 

วันที่ 31 ธันวาคม 2554
เวลา 23.59 น. (2)

จักเป็นวันที่จะขออนุญาต ปิดรายการ ทุกรายการ
ตาม กระทู้ ที่ 5 แห่งนี้ ทั้งหมด ทุกรายการ
โดยไม่มีข้อแม้ใด ๆ

ยกเว้น
พวกเรา ที่ลงชื่อ จองไว้แล้ว ก่อนวัน เวลา ที่แจ้งด้านบนนี้
ซึ่งอาจจะจำเป็นที่ต้อง โอนเงินค่าเช่าบูชา ในต้นเดือนมกราคม 2555

จึงขอเรียนมาเพื่อทราบ โดยทั่วกัน

...........................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

รายการแบบนี้ยังมีอีกไหมครับ

 

0909-11 พระคำข้าว พิมพ์ พระบาทขีด - จุดใต้ฐาน
...............
ขอจองครับ โอนเงินแล้วจะบอกอีกครั้งนะครับ

 

....................................................................................................................................................

รับทราบ และ ลงบันทึกการจอง
ลงในโพสที่เกี่ยวข้อง ให้แล้ว ครับ

http://palungjit.org/threads/พระคำข้าว-พระหางหมาก-สมบัติพ่อให้-และอื่น-ๆ-เพื่องานบุญ-และสาธารณประโยชน์-กระทู้ที่-5-a.232436/page-77

....................................................................................................................................................

 

..............................................................................................................

เดี๋ยวมีเวลา จะถ่ายภาพให้ชม ครับ เจ้าสัว

..............................................................................................................

 

1024-06 พระคำข้าว


1024-07 พระคำข้าว

1024-08 พระคำข้าว


ไม่รู้ยังไง แต่ขอจองไว้ก่อนเลยครับ

 

ได้รับ PM จาก พี่ piaprakhueng ข้อความว่า....

สมเด็จองค์ปฐม

ด้านหน้า เป็นรูป สมเด็จองค์ปฐม
ด้านหลัง เป็นรูป หลวงพ่อ
สร้างปี 2532

รุ่นนี้สร้าง ประมาณ 500 องค์ หายากมาก
สร้างแจกพระวัดท่าซุง

ด้านบนจะเขียนเป็นแนวโค้ง ภาษาบาลี
อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ นะโมพุทธายะ

ด้านหลังจะเขียน พุท ธะ สัง มิ

..................................................................................................................................

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ m16
0909-11 พระคำข้าว พิมพ์ พระบาทขีด - จุดใต้ฐาน
...............
ขอจองครับ โอนเงินแล้วจะบอกอีกครั้งนะครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>
วันนี้ได้โอนเงินไปให้แล้วนะครับ จำนวน 2,050 บาท รายละเอียดการโอน (หมายเลขอ้างอิง) ดังนี้.-
23/12/2554 SDCO TUB 065-1-45053-5 นาย มหาหินทร์ มีเนตร์ขำ **********2,050.00 CR 530309 935-53001
***************2,080.00 FEE2 30.00/30.00 C

................................​

ส่วนวัตถุมงมคลให้ส่งตามที่อยู่นี้นะครับ

ส.อ.โชคทวี บุญช่วย
กองกำลังเทพสตรี ค่ายเทพสตรีศรีสุนทร
ต.กะปาง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช 80310​

 

...................................................................................

ส่งให้ บ่ายนี้ เลยครับ

...................................................................................

 

ยอดแห่งจักรพรรดิของ พระคำข้าว คือ รุ่นนิยมสุด

พระเดชพระคุณองค์หลวงพ่อฯ กล่าวไว้ในทำนอง ว่า..
"องค์เดียว แลกบ้าน แลกรถ"
(ราคาบูชาองค์ละ 10 บาท สมัยองค์หลวงพ่อฯ ปี 2533)
(10 บาท แลกบ้าน.. ใครจะเชื่อใครจะศรัทธา มหาสมบัติ ที่พ่อมอบให้)
(องค์หลวงพ่อฯ ท่านจะกล่าวเสมอ ๆ ว่า เป็น.. พุทธานุภาพ)

"องค์เดียว แลกบ้าน แลกรถ"
จิต ก็หวนคิดถึง รุ่นนี้ เลยครับ
(แต่ก็ไม่ใช่ว่า จะต้องเป็นรุ่นนี้ เท่านั้น นะครับ)
เพราะว่า รุ่นนี้ จะมี ผิวพรรณ ความสวยงามขององค์พระ
นับว่า เป็นศาสตร์ เป็นศิลป์ มองดูแล้วชื่นใจ เป็นพุทธานุสสติ ได้ดีมาก

มาอธิบาย ความในใจ ความชื่นใจ หลังจาก มีผู้จองไว้แล้ว..
ไม่ได้เจตนาโพส เพื่อกระตุ้น หรือปั่นราคาหรือ เพื่อยุยง ส่งเสริม ให้เช่าบูชา ด้วยประการใด ๆ นะครับ

......................................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

อยากบูชาพระคำข้าวอีกครับ

 

รบกวนพี่มหาหิน
ผมอยากบูชาพระคำข้าว บัวจุด หรือบัวหลายจุดก็ได้ ให้คนในครอบครัวสัก 3องค์ ถ้ายังพอมีแบ่งให่บูชา ช่วยลงให้ผมสัก 3องค์ครับ หรือแจ้งที่เมลล์
duangchaaem@yahoo.com ขอบคุณครับ

 

ขอแสดงความยินดี ยิ่ง

และ ขอน้อมโมทนาด้วย เพราะว่า ส่วนหนึ่งของปัจจัย
ผมฯ นำเข้าร่วมในบุญต่าง ๆ ที่ได้กระทำ และที่จะบังเกิด ณ เบื้องหน้า
ตราบเท่าที่กระผม จะมีโอกาสได้สานก่อสืบไป

ขอผลบุญ ผลอานิสงส์ พึงบังเกิด พึงปรากฎกับท่าน
อย่างเสมอเหมือน และยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเถิด

มหาหินทร์ฯ

..................................................................................................................................................................................

 

.

"บุคคลผู้เข้าถึงพระรัตนตรัย ย่<WBR>อมจะไม่สลาย คือ ​

จะต้องไม่พินาศไปด้<WBR>วยอำนาจของโลก ซึ่งเต็มไปด้วยความแปรปรวน"​

ปีใหม่ ก็จะคืบคลานเข้<WBR>ามาถึง ก็เป็นอันวาชีวิตของเราก็ล่<WBR>วงเข้ามาอีก ๑ ปี ปีใหม่ ที่เคลื่อนเข้ามาเรา ก็<WBR>จะแก่เข้าไปอีก ชีวิตของเราก็จะเดินเข้<WBR>าไปหาความดับ เพราะธรรมดาของชีวิตเมื่อมี<WBR>ความเกิดขึ้นในเบื้องต้น และก็มีความเปลี่ยนแปลงไป ในท่าม<WBR>กลาง และมีการตายแตกทำลายพันธุ์<WBR>ไปในที่สุด

นี่เป็นกฎธรรมดา ของสิ่งมีชีวิ<WBR>ตที่เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้<WBR>พ้นได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ.ศ. ๒๕๑๙ ที่จะเข้ามาถึงจัดว่าเป็น พ.ศ. ที่มีความวิกฤติที่สุดของชีวิ<WBR>ตประเทศไทยในยุคนี้ เพราะว่าตกอยู่ในเขตที่มีความวิ<WBR>กฤตอย่างหนัก ความแปรปรวนเป็นไปของโลก ของชีวิตมนุษย์

อันนี้ ก็ถือว่าเป็นปกติธรรมดา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้<WBR>าตรัสว่า โลก มีอันจะต้องฉิบหายไปในที่สุด ไม่มีอะไรทรงตัว ทีนี้สำหรับเราเหล่าพุทธบริษั<WBR>ทในฐานะที่ท่านทั้งหลาย เป็นพุทธมามกะ คือนับถือพระพุทธเจ้าเป็นสำคัญ พระบาลีกล่าวว่า บุคคลผู้เข้าถึงพระรัตนตรัยย่<WBR>อมจะไม่สลาย คือ จะต้องไม่พินาศไปด้<WBR>วยอำนาจของโลกซึ่งเต็มไปด้<WBR>วยความแปรปรวน

ทั้งนี้ ก็เพราะว่าองค์สมเด็<WBR>จพระทรงธรรม์บรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้ว่า สิ้นเวลา ๒,๕๐๐ ปีเศษ สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ทรงมีพระพุ<WBR>ทธฎีกาตรัสแก่พระอานนท์ ว่า

"อานันทะ ดูก่อน อานนท์ เมื่อพระพุทธศาสนาล่วงไป ๒,๕๐๐ ปีเศษ คือ หลังจากกึ่งพุทธกาล ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี คือ พ.ศ. ๒๔๘๕ เป็นต้นมา โลกจะเต็มไปด้วยความวิกฤต ไฟจะตกจากอากาศ ไฟจะลุกในอากาศ ฝนเหล็กจะตกจากอากาศ บรรดาคนจะมีความทุกข์ยากล้<WBR>มตายเป็นอันมาก และองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้<WBR>าก็ทรงกล่าวต่อไปอีกว่า

อานันทะ ดูก่อน อานนท์ ความวิกฤตคือความร้<WBR>ายแรงของโลกก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะมีความร้ายแรงก็จริงแหล่ แต่ทว่ายังไม่ร้ายแรงเท่าหลังกึ<WBR>่งพุทธกาล อันนี้องค์สมเด็จพระพิชิ<WBR>ตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้<WBR>าตรัสว่า

ดูก่อน อานนท์ ยักษ์หินที่ถูกสาปจะลุกขึ้<WBR>นอาละวาด ยักษ์นอกพุทธศาสนา จะรบรา ฆ่าฟั<WBR>น ล้มตายกันฝ่ายละครึ่ง จึงจะหยุ<WBR>ดยั้ง สมณะชีพราหม์จะล้มตาย แต่ว่าประเทศที่นับถือพระพุ<WBR>ทธศาสนาจะมีภัยอันนี้เหมือนกัน แต่ทว่าไม่ร้ายแรงนัก ไม่ถึงกับพินาศ

นี่เป็นคำพยากรณ์ขององค์สมเด็<WBR>จพระบรมโลกนาถศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้าทรงพยากรณ์ไว้"

ทีนี้ คำพยากรณ์ขององค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้าปรากฎเป็นความจริง คือตั้งแต่ปี ๒๔๘๕ สงครามโลกครั้งที่ ๒ ก็เกิดขึ้น เมื่อสงครามสงบแล้ว ความวิกฤติของโลกยังไม่สงบ มีการรบราฆ่าฟันเป็นปกติ ระยะนี้เป็นระยะหลังกึ่งพุทธกาล มีสมณะชีพราหมณ์ทั้งหลายล้<WBR>มตายเป็นอันมาก คำพยากรณขององค์สมเด็จพระผู้มี<WBR>พระภาคเจ้าจึงตรงตามความเป็นจริ<WBR>ง อีกข้อหนึ่งที่องค์สมเด็จพระผู้<WBR>มีพระภาคเจ้ากล่าวว่า ประเทศที่นับถือพระพุ<WBR>ทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกันแต่ไม่<WBR>ร้ายแรงนัก

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเทศไทย
ก็ถือกันว่าเป็นประเทศที่<WBR>ทรงพระพุทธศาสนา

ถ้าเราจะพิจารณากันตามความเป็<WBR>นจริง จะเห็นว่า ประเทศที่นับถือพระพุ<WBR>ทธศาสนา ทั้งหมด ไม่มีปร ะเทศใดที่ทรงคำสั่งสอนขององค์<WBR>สมเด็จพระบรมสุคตบรมศาสดาสัมมา<WBR>สัมพุทธเจ้าไว้ได้ครบถ้วนเช่<WBR>นประเทศไทย ในประเทศไทยเรามีทั้งพระสูตร พระวินัย ปรมัตถ์ คือพระอภิธรรม

สำหรับประเทศอื่น เช่น ประเทศพม่า โดยมากจะไม่เคร่งครัดในเรื่<WBR>องของพระวินัย โทษในเรื่องพระวินัยเขาไม่เคร่<WBR>งครัด เพราะถือว่าไม่สำคัญ จะนิยม แต่ในเฉพาะด้านของปรมัตถ์ คือ อภิธรรมเท่านั้น ตามบาลีว่า

"พระสูตร คือประเทศไทย พระวินัย คือ มอญ อภิธรรม คือ พม่า"

หมายความว่า ในประเทศไทย เรานิ<WBR>ยมพระสูตร แต่ว่าเรามีพระวินัย และพระอภิ<WBR>ธรรมครบถ้วน

สำหรับวินัยมอญ ก็มายถึงว่<WBR>าประเทศมอญเขาเคร่งครัดในพระวิ<WBR>นัยแบบชาวมอญ

สำหรับพม่า นั้น ยกพระสูตรทิ้งไป พระวินัยทิ้งไป เหลือพระอภิธรรม

เราก็จะเห็นว่า ในประเทศไทย ยั<WBR>งคงทรงไว้ได้ทั้ง ๓ ประการ
คือ พระสูตร พระวินัย และพระอภิธรรม ทั้ง ๓ ประการ

เมื่อเราพิจารณาตามกระแสพระสั<WBR>ทธรรมเทศนาขององค์สมเด็จพระพุ<WBR>ทธญาณ ท่านทรงพยากรณ์กั<WBR>บพระอานนท์แล้ว

จะเห็นว่าประเทศไทยเรา คงพระวินั<WBR>ย คือ เคารพองค์สมเด็จพระจอมไตรไว้<WBR>ตามพระพุทธพยากรณ์

จึงถือว่า ประเทศไทย อยู่<WBR>ในเขตคำพยากรณ์ที่พระพุทธเจ้า ทรงพยากรณ์ คือ อาจจะต้องไม่สลายไป ในการนับถือองค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาที่มีพระบาลี<WBR>ว่า

"พุทโธ อัปปมาโณ" คือว่า คุณของพระพุทธเจ้าหาประมาณมิได้<WBR> การเคารพในพระธรรมว่า ธัมโม อัปปมาโณ การเคารพในพระธรรมว่าหาประมาณมิ<WBR>ได้ หรือ คุณของพระธรรมหาประมาณไม่ได้ สังโฆ อัปปมาโณ คุณของพระอริยสงฆ์หาประมาณมิได้

การเคารพในคุณพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สามารถจะยังชีวิตและความสุ<WBR>ขของเราให้คงอยู่ได้ปลอดภั<WBR>ยจากอันตราย

ดูตัวอย่าง เมื่อองค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้ายังทรงชีวิตอยู่ในขณะนั้น องค์สมเด็จพระบรมครูเสด็จประทั<WBR>บอยู่ที่พระเวฬุวันมหาวิหาร

ในขณะนั้น ปรากฎว่าพระเจ้าพิมพิ<WBR>สารบรมกษัตริย์ถูกพระยาชมภูบดี<WBR>รุกราน เหาะขึ้นมาในอากาศเห็<WBR>นยอดปราสาทของพระเจ้าพิมพิสาร บรมกษัตริย์มีความสวยสดงดงามยิ่<WBR>งกว่า ความริษยาก็เกิดขึ้น จึงได้ลงมาจากอากาศมายืนอยู่<WBR>บนยอดปราสาท ชักพระขรรค์อันประจำพระองค์ขึ้<WBR>นฟันยอดปราสาท

ความจริง พระขรรค์นี้ แม้แต่เหล็กท่อนใหญ่ ๆ กระทบแล้วไม่หนักนักก็จะขาดไปทั<WBR>นที แต่อาศัยที่พระเจ้าพิมพิสารมี<WBR>ความเคารพในองค์สมเด็จพระมหามุ<WBR>นี คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นไตรสรณาคมน์ ทั้ง ๓ ประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระองค์ เป็<WBR>น พระโสดาบัน ด้วยอำนาจของพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ จึงป้องกัน แทนที่ยอดปราสาทจะขาด พระขรรค์ของพระยาชมภู ก็บิ่<WBR>นทำลายไป

พระยาชมภูมีความเจ็บใจ จึงได้ยกเท้าขึ้นกระทื<WBR>บยอดปราสาทก็เป็นเหตุให้เหล็<WBR>กยอดปราสาททิ่มทะลุรองเท้<WBR>าไปโดนเท้าบาดเจ็บ ถึงกับมีความโกรธมาก จึงเหาะกลั<WBR>บประเทศของพระองค์ และก็ใช้วิชชุศรไปร้อยพระกรรณ คือ ร้อยหูของพระเจ้าพิมพิสารบรมกษั<WBR>ตริย์ คือมีศรเป็นกรณีพิเศษ เมื่อศรเข้ามาประกาศว่า เราจะร้อยหูของพระเจ้าพิมพิ<WBR>สารบรมกษัตริย์

พระเจ้าพิมพิสาร ได้ทราบแล้ว ได้ยินแล้ว เห็นแล้ว ก็มีความกลัว จึงเสด็จไปเฝ้าองค์พระประทีปแก้<WBR>วบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ในที่สุดบารมีของพระรัตนตรัยมี<WBR>พระพุทธเจ้าทรงเป็นประมุขก็ระงั<WBR>บอันตรายนั้นเสียได้

ในที่สุด บังคับให้พระยาชมภูบดี<WBR>เข้ามาเฝ้าสมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดา ได้ฟังพระธรรมเทศนามีความเลื่<WBR>อมใสอุปสมบทในพระพุทธศาสนา และก็ได้สำเร็จพระอรหัตผล เป็นอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา

แสดงว่า ที่พระเจ้าพิมพิสารบรมกษัตริย์<WBR>พระบาทท้าวเธอพ้นจากอันตรายได้<WBR>เพราะอาศัยคุณพระรัตนตรัยเป็<WBR>นสำคัญ ในฐานะที่พระองค์เข้าถึงความเป็<WBR>นพระโสดาบัน มีความมั่นคงในคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มีศีลห้าเป็นสมุจเฉท คือ รักษาศีลห้าเป็นปกติ

ฉะนั้น วันนี้ เป็นวันที่สุดของปี ๒๕๑๘ ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เข้ามาถึง ก็เป็นปีที่เต็มไปด้วยความวิ<WBR>กฤตของประเทศไทย ฉะนั้น บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย พระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา จงอย่าประมาทในชีวิต จงทรงจิตของท่านให้มีควมมั่<WBR>นคงในคุณพระรัตนตรัยทั้ง ๓ ประการ คือ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ปฏิบัติจิตให้ตรงต่อเฉพาะพระพุ<WBR>ทธองค์ว่าที่องค์สมเด็<WBR>จพระบรมโลกนาถทรงสั่งสอนไว้ เราทำอย่างไรที่ว่าทรงความดี<WBR>ตามที่องค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้าท่านทรงกล่าวให้พวกเราทุ<WBR>กคนเป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ทุกสิ<WBR>กขาบท คือ

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภิกษุ และสามเณร มีความจำเป็นจะต้องทรงสิกขาบททั<WBR>้งหมดให้ครบถ้วนบริบูรณ์

สำหรับฆราวาสก็มีความจำเป็นอยู่<WBR>เหมือนกัน แต่ทว่าบางท่านก็สามารถรักษาสิ<WBR>กขาบทให้ครบถ้วนได้ เพราะความจำเป็นในชีวิต

ฉะนั้น ขอให้ตั้งสัจธรรมไว้ว่า ถ้าศีลข้อใดก็ดีใน ๕ ข้อนี้ เราจะทรงไว้ได้ตลอดชีวิต จะไม่ละเมิด ให้ตั้งจิตถึงองค์สมเด็จพระสั<WBR>มมาสัมพุทธเจ้าว่า ในชีวิตของเรานี่ สิกขาบทใดสิกขาบทหนึ่ง หรือสองสิ<WBR>กขาบท ก็ตามที

ซึ่งไม่เกินวิสัยเราจะทรงไว้ให้<WBR>ครบถ้วน ไม่ยอมให้มัวหมอง

สำหรับท่านผู้ใดสามารถจะทรงสิ<WBR>กขาบททั้ง ๕ ประการได้ หรือ ๘ ประการได้ก็ยิ่งดี อย่างนี้ได้ชื่อว่ามี<WBR>ความเคารพในองค์สมเด็จพระชินสี<WBR>ห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ในการปฏิบัติ กาย วาจา ใจ และสำหรับกำลังใจนั้นมีความสำคั<WBR>ญ บรรดาพุทธบริษัททุกท่<WBR>านทรงความดี คือ นึกถึงบารมีขององค์สมเด็จพระสั<WBR>มมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ให้มีจิตยึด พระพุทธคุณ ไว้เป็<WBR>นสำคัญ

การนึกถึงพระพุทธคุณทำอย่างไร
ว่ากันมากไป ก็ไม่ถนัด อิติปิ โส ภควา ฯ จนจบก็ไม่ไหว

ฉะนั้น โบราณาจารย์ จึงกำหนดไว้ว่า บุ<WBR>คคลใดผู้ใดมีความนึกถึงบารมี<WBR>ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้า ก็ให้ภาวนาว่า “พุทโธ” ใช้คำว่า "พุทโธ" ให้เป็นปกติ

ภาวนาไว้ ทุกวัน ทุกคืน ตลอดเวลา และการที่จะภาวนาไปได้ตลอดเวลา และการที่เราจะภาวนาไปได้ตลอดวั<WBR>นตลอดคืน ก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ เพราะจิตย่อมมีภาระนึกคิดอย่<WBR>างโน้นคิดอย่างนี้ บางทีก็ต้องสนทนาปราศรัย ในการที่จะนึกทุกวันทุกเวลาเป็<WBR>นไปไม่ได้ แล้วทำอย่างไรจึงจะไม่ขาด

พระโบราณาจารย์ที่มีความฉลาด ได้<WBR>สั่งสอนไว้ว่า

ถึงเวลาก่อนหลับ ให้บรรดาพุทธบริ<WBR>ษัท กำหนดใจนนึกถึงคุณของสมเด็<WBR>จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอารมณ์<WBR> จะกำหนดการเข้าออกของลมหายใจว่า "พุทโธ" เวลาหายใจเข้านึกว่า "พุธ" เวลาหายใจออกนึกว่า "โธ" อย่างนี้เป็นความดี หรือ นึกถึงคุณความดีของสมเด็จพระสั<WBR>มมาสัมพุทธเจ้า

และก็เป็นการป้องกันภัยอันตราย เวลาที่ท่านทั้งหลายภาวนาว่า "พุทโธ"
อมน้ำลายไว้ในปาก ภาวนาไว้จนขึ้นใจ ในจิตมีความสุข ค่อยกลืนน้ำลายลงไป

อย่างนี้คุณพระรัตนตรัยมีพระพุ<WBR>ทธเจ้าเป็นต้น จะคุ้มครองสรรพอันตรายแก่พุ<WBR>ทธบริษัทได้

และ เวลาตื่นขึ้นมาใหม่ ๆ และก่อนหลับทุกวัน ทำแบบนี้เป็นปกติ เวลาที่ยังตื่นอยู่ ถ้าคิดขึ้นมาได้เมื่อไรก็<WBR>ทำใจให้นึกถึงความดีขององค์ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า "พุทโธ" เป็นปกติ อย่างนี้จิตของบรรดาท่านพุทธบริ<WBR>ษัท ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึง พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะได้ ทั้ง ๓ ประการ

แล้วการนึกถึงความดีของ สมเด็<WBR>จพระพิชิตมาร
ก็ได้ชื่อว่าเข้าถึ<WBR>งความดีทั้ง ๓ ประการครบถ้วน คือ
พระพุทธเจ้า จะเป็นพระพุทธเจ้<WBR>าได้ ก็ต้องอาศัย พระธรรม
เมื่อทรงธรรมแล้ว พระองค์ก็บรรลุ<WBR>อภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระพุ<WBR>ทธเจ้า
ธรรมะ ของพระพุทธองค์ ที่<WBR>เราจะพบได้ ก็อาศัยบรรดาพระอริ<WBR>ยสงฆ์ทั้งหลาย ประชุมสังคายนากัน ร้<WBR>อยกรองเอาไว้ จึงได้ตกทอดถึงพวกเรา

ฉะนั้น การนึกถึงความดีขององค์สมเด็<WBR>จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จึงชื่อว่<WBR>า เข้าถึงความดีครบไตรสรณาคมน์ ทั<WBR>้ง ๓ ประการ

การนึกถึงความดีขององค์สมเด็<WBR>จพระพิชิตมาร ใช้คำว่า "พุทโธ" เป็นปกติ
ถ้าหากว่ากล่าวโดยธรรม ถ้าเรามีอารมณ์อ่อน ที่ว่ามีอารมณ์จิตเข้าไม่ถึงฌาน เวลาตายแล้วก็ไปสู่สวรรค์เทวโลก มีชั้นดาวดึงส์ เป็นต้น ดูตัวอย่าง มัฏฐกุณฑลีเทพบุตร หรือ สุปติฏฐิตเทพบุตร เป็นต้น หรือ สาตะกีเทพธิดา นี่ใช้กำลังจิตมีศรัทธายังอ่อน นึกถึงความดีขององค์สมเด็จพระชิ<WBR>นวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าชั่<WBR>วเวลาเล็กน้อย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สุปติฏฐิ<WBR>ตเทพบุตร ทำความชั่วคือฆ่าสัตว์ตัดชีวิ<WBR>ตมาตลอดชีวิต เมื่อเวลาจะตายไม่กี่นาที จึงได้นึกถึงความดีขององค์สมเด็<WBR>จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้อาศัยนึกถึงความดีขององค์<WBR>สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้<WBR>า ในเวลานั้น จิตผ่องใส เวลาตาย แทนที่จะไปรับอกุ<WBR>ศลในอบายภูมิ กลับไปเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์<WBR>เทวโลก

ต่อมาเมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสั<WBR>มพุทธเจ้าได้ไปเทศน์โปรดพระพุ<WBR>ทธมารดา
สุปติฏฐิตเทพบุตร ได้ฟังอุณหิสวิ<WBR>ชัยสูตรจบลง ปรากฎว่าได้บรรลุพระโสดาบัน
บาปทั้งหลายที่ท่านทำไว้ ไม่มี<WBR>โอกาสจะให้ผล

นี่ การนึกถึงคุณความดีขององค์<WBR>สมเด็จพระทศพล มีผลต่อบรรดาท่<WBR>านพุทธบริษัท ถึงแม้ว่าเ ราจะทำบาปทำกรรม มากมายเพียงใดก็ตามที่ อาศั<WBR>ยความดีขององค์สมเด็จพระชินสีห์ <WBR>สามารถจะบำบัดให้เราพ้นไปจากภั<WBR>ยพิบัติ คือ พ้นจากอบายภูมิได้

ฉะนั้น ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้<WBR>งหลาย จงอย่าประมาทในชีวิต
คิดว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้<WBR>นไป ปีเก่าจะหมดไป ปีใหม่จะเข้ามาถึงเรา จงรักษาสั<WBR>จธรรม ทรงความดีเข้าไว้

คือ จะนึกถึงความดีขององค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่หยุดยั้ง

คือว่า ปี พ.ศ. ๒๕๑๙ เป็นปีที่จะเต็มไปด้วยวิกฤติ<WBR>การณ์อย่างที่สุด โดยวิธีที่เราจะใช้ในฐานะที่เป็<WBR>นมนุษย์ธรรมดาเพื่อความพ้นอั<WBR>นตราย

ดูตัวอย่าง พระเจ้าพิมพิ<WBR>สารบรมกษัตริย์ พระบาทท้าวเธอต้องถูกทำร้<WBR>ายจากพระยาชมพูบดี แต่อาศัยที่มีความเคารพในองค์<WBR>สมเด็จพระชินสีห์บรมศาส ดาอย่างมั่นคง

ในที่สุด อันตราย ก็ยุติลง ด้<WBR>วยอำนาจของพระพุทธเจ้า นี่ ในสมัยพระพุทธเจ้า

ถ้ามาในสมัยหลัง เมื่อสมัยที่พระมหากษัตริย์มี<WBR>อำนาจเป็นพิเศษ
ขณะนั้น ปรากฎว่าข้าราชบริพารของพระองค์<WBR>ท่าน หลายท่านที่อาตมา รู้จักเป็นกลุ่ม ๆ บุคคลกลุ่มใหญ่ มีความเคารพองค์<WBR>สมเด็จพระจอมไตรบรมศาส ดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นปกติ คือ

ในยามปกติ พวกเขาเหล่านั้นจะไม่<WBR>คล้องพระเครื่องอยู่ในตัว
เขาถือว่า จิตใจของเขาเข้าถึ<WBR>งพระอยู่เป็นปกติ

แต่ว่าภาวนาของบุคคลพวกนี้ ไม่<WBR>ขาด
พอตื่นขึ้นมาเช้าก็จับคำว่า "พุทโธ" อยู่เป็นปกติ
เวลายามว่าง เมื่อจิตว่างจากกิจอื่น ก็ใช้<WBR>คำภาวนาว่าพุทโธ
เวลาที่ไม่ลืม เกรงว่าจะลืม
เวลาเช้า เวลาที่จะไปไหน หรืออยู่บ้านก็<WBR>ตาม
เกรงว่าอันตรายจะมีต่อเขา เขาแนะนำ

นี่ อาตมา เคยได้รับทราบมาเอง
คือ ได้รับคำแนะนำจากคนผู้นั้<WBR>นจากปากเขาเอง บอกว่า
เวลาที่เราเกรงว่า จะเกิดอันตรายต่อร่างกาย ให้อมน้<WBR>ำลายไว้ในปาก
ภาวนาว่า พุทโธ ให้ขึ้นใจ เป็นการ เสกน้ำลาย แล้วกลืนลงไป ๓ ครั้ง
บุคคลประเภทนี้ แม้จะปะทะข้าศึกหนัก ศัตรูหนักเพียงใดก็ตาม
ก็มีการแคล้วคลาด

ถ้ามีความดีเป็นที่สุดขนาดหนัก
ถ้ามีจิตทรงความดีขนาดกลาง เขาบอกว่า ยิงของเขาไม่ออก
ถ้าว่าทรงความดีขนาดเบา ใจยังเบาอยู่ ยังไม่เข้าถึงที่สุด ยิงไม่เข้า
เขาว่าอย่างนั้น ความจริงก็เป็นไปตามนั้น
เพราะเคยไปด้วยกัน เขาปลอดจากอันตรายจากสรรพาวุธทุ<WBR>กอย่าง

ฉะนั้น ขอบรรดาท่านพุทธบริษัท
จงอย่<WBR>าวางใจ จงอย่าประมาทในชีวิต
จงคิดว่าคุณของพระพุทธเจ้า คุณของพระธรรม คุณของพระสงฆ์
ทั้ง ๓ ประการ จะสามารถ ทรงเรา ให้มีชีวิตอยู่<WBR>ได้

นี่กล่าวโดยเฉพาะ ถ้าเราสิ้นอายุขัย
การนำถึงความดี ของ องค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้า
ก็จะทำให้เรา พ้นทุกข์

ฉะนั้น นับตั้งแต่นี้ต่อไป ตั้งใจไว้ว่า
จนกว่าจะสิ้นปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ที่เต็มไปด้วยความวิกฤตทุกทิ<WBR>ศของโลก
จะเต็มไปด้วยความ เร่าร้อน

เราจะยึดเอาคุณความดีขององค์<WBR>สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสั<WBR>มพุทธเจ้า
เข้าไว้เป็นประจำ คือ คำภาวนาว่า "พุทโธ พุทโธ" เป็นปกติ

ถ้าเป็นอย่างนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้<WBR>งหลาย จะมีความสุขในชีวิต
คือ จิตของท่านจะทรงสมาธิ
อำนาจบารมีของพระพุทธเจ้า จะทำจิ<WBR>ตใจของท่านให้เยือกเย็นมีความสุ<WBR>ข
อันตรายจะเกิดขึ้นกับท่านทั้<WBR>งหลาย ก็จะพ้นภัย
ด้วยอำนาจของพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ

แต่ถ้าชีวิตอายุขัยที่จะสิ้<WBR>นไปเมื่อไร
ความดีขององค์สมเด็<WBR>จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุ<WBR>ทธเจ้า
ก็จะบันดาลให้เราพ้<WBR>นอบายภูมิทั้ง ๔ ประการ
คือ ไม่เกิดเป็นสัตว์นรก เป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน
อย่างเลวที่สุด เราก็จะเป็นเทวดา
ถ้าจิตใจมีสมาธิแรงกล้า เราจะเข้าถึงการเป็นพรหม
ถ้าจิตของเราโดยนิยม ไม่ยึดในขั<WBR>นธ์ห้า หรือว่า รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา
จิตเรา เกาะ องค์สมเด็จพระสัมมาสั<WBR>มพุทธเจ้า ว่า
พระพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน เราจะไปที่นั่น เอาใจไว้ตรงนี้
คือ ยึดองค์สมเด็<WBR>จพระทรงธรรม์บรมศาสดานั่นเอง

ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว
พุทธบริษั<WBR>ททั้งหลาย ถ้าจะพ้นจากกิเลส
จะเข้าถึง พระนิพพาน ได้

เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย
สำหรับปีเก่าจะสิ้นไป ปีใหม่จะเข้ามา
ขออำนาจพุทธบารมีขององค์สมเด็<WBR>จพระชินสีห์บรมศาสดาสัม มาสัมพุทธเจ้าเป็นประธาน และพระธรรมคำสั่งสอนขององค์<WBR>สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสั<WBR>มมาสัมพุทธเจ้าพร้อมไปด้<WBR>วยพระอริยสงฆ์ทั้งหมดที่มี<WBR>ความเคารพในองค์สมเด็จพระบรมสุ<WBR>คตศาสดาสัมมาสัมพุทธเ จ้าเป็นที่สุด

จงปกปักรักษา บรรดาท่านพุทธบริษั<WBR>ททุกท่าน ให้มีความมั่นในคุ<WBR>ณพระรัตนตรัย
ขอให้ปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้<WBR>งหมด
ภัยใด ๆ ที่ปรากฎต่อโลกจงอย่ามีกับพุ<WBR>ทธบริษัท
ขอให้จิตใจของท่านพุทธบริษัท มี<WBR>ความปลอดโปร่ง
พ้นจากกิเลสเป็<WBR>นสมุจเฉทปทาน
เข้าถึงซึ่ง พระนิพพาน ได้ในชาติ<WBR>นี้ ฯ

ที่มา - หนังสือ กรรมฐาน ๔๐
(ขอน้อมโมทนา คุณTeerayutSPG ส่ง เมล์ มาให้)

................................................................................................................................................................................................<!-- google_ad_section_end -->

 

ยังจะเช่า ทันอยู่ไหมครับ

 

รับทราบครับ ท่านมหาเศรษฐี

 

หน้า 53 จาก Link นี้....
http://palungjit.org/threads/สมบัติพ่อให้-เฉพาะในส่วนของ-วัตถุมงคล.92446/page-3

อาจจะเสด็จมาเยี่ยม ในวันนี้ ก็เป็นได้.. หรือ ไม่แน่..<!-- google_ad_section_end -->


.............................................................................................................