เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย พี เสาวภา, 7 เมษายน 2008.

  1. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    จะเอาไปมอบให้ท่า่น พีั เสาวภา ดำเนินการ เพราะว่้่าช่วงนี้ภารกิจ ล้นมือเหลือเกิน[www.marateebook.com]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2011
  2. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    เดี๋ยวจารย์ ช้างจะเอาพระมาให้ เดี๋ยวผมจะส่งให้เลย

    ส่วนเงิน รอไว้ก่อน ผมไม่เอา...แหะๆ

    เดี๋ยวผมจะติดต่อหลวงพี่อำนาจ เมื่อได้เบอร์บัญชี ให้โอนกันเอง ผมเอาแต่บุญ เงินผมไม่รับบริหารให้ครับ ต้องส่งเองจ้า
     
  3. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269
    ตอนมืดๆเจอกันน่ะครับ
     
  4. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,075
    ค่าพลัง:
    +22,243
    ภัยธรรมชาติหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สามารถเตรียมตัวเตรียมใจ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้บ้าง มีผู้รู้นักวิชาการให้คำแนะนำสำหรับปฏิบัติไว้มาก

    ส่วนมนุษยภัย นอกจากการทำบุญ ไหว้พระสวดมนต์ปฏิบัติธรรมแล้ว มีวิธีอื่นที่จะเตรียมตัวเตรียมใจ ผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ไหม ขอคำแนะนำด้วย ขอบคุณครับ
     
  5. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    ข้าพเจ้าถาม เหรียญพระนิพพาน ๓ เนื้อ เนื้อใดดีที่สุด หลวงปู่บุญศรี ตอบ

    นำพระเหรียญพระนิพพาน ไปมอบให้ท่่าน พี เสาวภา ๒ ชุด เป็นของน้่องโจ ๑ ชุด และน้อง plamp256 ๑ ชุด พร้อมของแถมอย่างสาสม อีกหลายอย่าง เดิมเหรียญนี้ แช่น้ำมนต์ และอัญเชิญหลวงปู่บุญศรี ปรุกเสก หลายรอบ หลายครั้ง นำออกมาจาก ขันน้ำมนต์ ก็บรรจุใส่ถุงพลาสติก ถุงพลาสติกที่ใส่ จึงเป็นของเดิมแต่หลวงปู่ยังมีชีวิต กาลเวลาผ่านไป ทำให้น้ำมนต์แห้งเกราะเนื้่อพระ เป็นคราบขาว ไม่ควรขัดออก อนุลักษณ์เอาไว้ก็เป็นการดี พระรุ่้นนี้ มี ๓ เนื้อ เนื้อเงินสร้างตามจำนวนสั่งจอง สร้างประมาณ ๑๕๐ เหรียญ เป็นเหรียญกรรมการ ตอบแทนผู้ร่วมสร้าง เขื่อน และแพโบสถ์น้ำ เหรียญพระนิพพานสร้างประมาณ ๒๘๕ เหรียญ ใช้มวลสารหลายอย่าง โดยเฉพาะที่สำคัญ เนื้อแร่โคตรเศรษฐี ของแม่ชีประทุม โชติอนันต์ ต้องให้ท่าน เสี่ย ท. มาบรรยาย เนื้อแร่โคตรเศรษฐี นี้ให้เช่าทำบุญ ๒,๐๐๐ บาท และเนื้อสุดท้าย เป็นทองเหลืองสร้างประมาณ ๒,๐๐๐ เหรียญ สร้างขึ้นมา ปี ๒๕๓๙ ปัจจุบันก็ ผ่านมา ๑๖ ปี เนื้อทองเหลืองสำหรับให้หลวงปู่บุญศรี แจกตามอัธยาศัย
    ประสบการณ์ที่มหัศจรรย์ เหรียญพระนิพพานรุ่นนี้ การหลอมข้าพเจ้าทำกัน ๓ คน มี อ.โกศล กิจเจริญ และเสี่ย ท. สถานที่บ้านของเสี่ย ท.แถว แยะพระราม ๙ อสมท. การทำก็ทำด้วยเจตนาที่ดี และรู้เท่าไม่ถึงกาล กล่าวคือ พวกเรานำเอา แร่โคตรเศรษฐี ตะกรุด หลวงพ่อจง หลวงพ่อสด ตะกั่ว และเครื่องรางของเกจิอาจารย์ดัง ๆ ทั้งหลาย มีใครบ้างต้องให้ เสีย ท. มาเล่า เพราะเป็นของเสีย ท.ทั้งหมดอุปกรณ์หลอมก็มี กระทะที่ใช้ทอดไข่ ตาหลิว และเตาถ่านหุงข้าวธรรมดา พัดคอยพัดไม่ให้ถ่านดับ พวกเราเอามวลสาร ทั้งทองเหลือง ตะกั่ว โลหะต่าง ๆ ใส่กระทะ ส่วน อ.โกศล กิจเจริญ มีหน้าที่ทำพิธีบวงสรวงพระอัญเชิญเทพ เทวดา และหลวงปู่บุญศรี มาร่วมพิธี ประมาณ ๑ ชั่วโมง ที่ทำการเคี่ยวโลหะ โดยข้าพเจ้ามีหน้าที่ ไส่ถ่านและคอยพัดไฟให้แรง อ.โกศล ก็เข้าสมาธิไป ประมาณ ๑ ชั่วโมงก็เดือดทั้งกระทะ ปัญหาคือเราจะเทใส่อะไร ข้าพเจ้าเข้าไปใสครัวของเสี่ย ท.
    เห็นจานข้าวสังกะสี เคลือบสีขาว จึงหยิบออกมา ๑๐ ใบ เรายกกระทำเทใส่จาน ได้เจ็ดจาน ทิ้งเอาไว้สักพัก ก็เย็น แข็งตัว มวลสารทั้งหมดจึงเป็นรูปจาน จากนั้นนำไปโรงงานเพื่อรีดและปั้มเป็นพระ เมื่อไปถึงโรงงาน คนงานถามเราว่าพวกเราหลอมกันอย่างไร เราก็บอกตรง ๆ ว่า หลอมในกระทะเตาถ่าน คนงานบอกว่ารีดไม่ได้หรอก เพราะหลอมด้วยความร้อนไม่เพียงพอ จะทำให้แตก เสียหาย ข้าพเจ้าไม่ทราบจะทำอย่างไร บังเอิญเหลือบไปเห็นรูปพระปิยะมหาราช รัชกาลที่ ๕ จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานบอกกล่าว ขอบารมีท่านอย่างให้แตก และเสียหาย เพราะต้องการนำไปเป็นทุนในการสร้างแพโบสถ์น้ำ เมื่อคนงานนำไปรีด และทดลองปั้มดูปรากฏว่า ไม่แตก คนงานจึงได้ถามว่า ทำไมไม่สร้างเนื้อทองคำสัก ๑๐ เหรียญ เป็นประเดิม ข้าพเจ้าบอกว่าไม่มีทุน คนงานก็เลยเริ่มเดินเครื่องจาก เนื้อเงินก่อน หมดจากเนื้อเงินก็เป็นเนื้อแร่ โคตรเศรษฐี และเนื้อทองเหลือง ฉะนั้นความคมชัด เนื้อเงินและเนื้อแร่โคตรเศรษฐี จะชัดเจนกว่า ราคาให้เช่าเมื่อ ๑๖ ปีที่แล้ว เนื้อเงิน และเนื้อแร่โคตรเศรษฐี ราคา ๒,๐๐๐ บาท เนื้อทองเหลือง บางส่วนนำให้เช่า องค์ละ ๑๐๐ บาท บางส่วนถวายหลวงปู่แจก ตามอัธยาศัย จุดประสงค์ในการสร้าง หาเงินสร้างเขื่อนหน้าวัดป้องกันกระแสรน้ำเซาะตลิ่ง สร้างเขื่อนเสร็จก็สร้างแพโบสถ์น้ำ สร้างแพเสร็จก็มาสร้าง ศาลาการเปรียญ สองชั้นฝั่งตรงข้ามกับกุฎิหลังใหม่ สร้างศาการเปรียญเสร็จก็หาเงินซื้อที่ดินของวัดที่ถูกบุกรุกเอากลับมาเป็นของวัด หมดไปหลายแสนเหมือนกัน ซื้อที่ดินเสร็จก็ และหลวงปู่สั่งให้สร้างพระใหญ่ หน้าตัก ๒๐ เมตร สูงจากพื้น ๑๕ เมตร สองชั้น ชั้นล่างเป็นอาคาร ชั้นบนเป็นที่ตั้งพระใหญ่ แต่ไม่สำเร็จ ไม่ใช้ไม่มีเงิน ไม่มีกำลัง แต่พวกเสียผลประโยชน์ ข้ดขวางตลอด แม้แต่หลวงปู่สั่งให้เปลี่ยนหลังคาจากสังกระสี เป็นกระเบื้อง ยังถูกพระที่วัดหลวงปู่มาขัดขวาง หาว่าเราทำไม ไม่ถามชาวบ้านเสียก่อน หลวงปู่สั่งให้ทำ พระลูกวัดบอกว่าไม่ได้ให้ มันก็ตลก กรรมใคร ก็กรรมมัน เหรียญพระนิพพานวางจำหน่าย ที่วัด ได้ไม่เกิน ๓ เดือนก็หมด และราคาก็ขยับไป ๕,๐๐๐ บาท
    ในช่วงที่หลวงปู่ยังอยู่ หลังจากหลวงปู่ละสังขารแล้ว ราคาก็อยู่ที่ ๑๐,๐๐๐ บาท ถึง ๑๕,๐๐๐ บาท เชื่อว่าราคา ๑๐,๐๐๐ บาท ต่อไปจะหาไม่ได้อีกแล้ว โดยเฉพาะเหรียญเงิน เดินหามาตามตลาดพระโดยเฉพาะพันธ์ทิพย์ งามวงศ์วาน หามา ๕ ปี ยังไม่เคยพบเนื้อเงินสักเหรียญไม่ทราบหายไปไหนหมด
    ข้าพเจ้าเคยลองถามท่านว่า เหรียญพระนิพพาน ๓ เนื้อนี้ เนื้ออะไรดีที่หลวงปู่คิดว่าดีที่สุด ท่านบอกว่า “เนื้อเงิน มีเนื้อเงิน เงินไม่ขาดมือ”[www.marateebook.com]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2011
  6. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    หลวงปู่แหวน ดอยแม่ปั๋ง เคยกล่าวว่า "เมื่อป่าถูกทำลาย สัตว์ป่าหาที่เกิดในป่าไม่ได้ ก็พากันมาเกิดในเมือง" ท่านอื่ิน อาจมีคำแนะนำที่ดีกว่าข้าพเจ้า สำหรับข้าพเจ้าเป็นการเล่าสู่กันฟัง โดยฟังมาจากพระธุดงค์ ท่านกล่าวว่า ได้รับการเตือนมาจากพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบให้เตรียมตัว ็เลยมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อจะได้เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมอพยพหรือหาที่อยู่ตามบ้านนอก ตามที่โบราณกล่าวเอาไว้ "คนดีจะหลบหนีเข้าป่า" หมายถึง คนเมืองอพยพหลบหนีออกไปอยู่นอกเมือง ไม่มีที่ใดทีุ่ึคุณยืนอยู่แล้วจะปลอดภัย ในเมืองหลวง กับเหตุการณ์ที่จะเกิด "หลังสิ้นในหลวง" ต่างฝ่าย ต่างก็มีกองกำลังของตนเอง มีแฟนคลับ เป็นของตนเอง ให้การสนับสนุน การอุ้่มฆ่า การวางระเบิด การลอบสังหาร การซุ่มยิงจากที่ลับ "จับใครไม่ได้ กฏหมายบอกว่าต้องมีัประจักษ์พยาน" นอกจากฝ่ายการเมืองแล้ว ยังมีกองกำลังพวก นอกศาสนาเข้ามาผสมโรง ในขณะที่ฝ่ายการเมือง การทหาร แบ่งฝ่าย แยกฝ่าย ฝ่ายการเมืองก็เก็บฝ่ายตรงกันข้าม ฝ่ายนอกศาสนาก็จ้องทำลายพระพุทธศาสนา ฮุบเอาประเทศไทย โดยมีฐานสำคัญ ๓ จว.ชายแดนใต้ และชานเมืองกรุงเทพฯ เป็นฐานของกองกำลัง พวกนอกศาสนาบางกลุ่มใช้เงินจากนอกประเทศ บางกลุ่มใช้เงินจากการค้ายาเสพติด มาสนับสนุน สร้างกองกำลัง หาหญิงไทยพุทธไปเป็นเมีย แล้วให้เปลี่ยนศาสนาปรนเปรอจากเงินค้ายาเสพติด นำเงินจากการค้ายาเสพติดไปกว้านซื้อที่ดิน ตามจังหวัดต่าง ๆ ทุกซอก ทุกมุม เพื่อขยายอาณาจักร พระธุดงค์ท่านกล่าวแล้วท่านก็ไปตามทางของท่าน ข้าพเจ้าก็ไปตามทางของข้าพเจ้า[www.marateebook.com]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2011
  7. todtoe

    todtoe Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +30
    สวัสดีครับ ท่านพี่ๆ ทุกท่าน ในห้องนี้ อนุญาติฝากตัวเป็นน้องคนใหม่ของห้องด้วยนะครับ
    อยากจะบอกว่า กว่าจะได้ทักทายพี่ๆ ต้องอ่านจากต้นจนจบใช้เวลาเกือบเดือน เลยที่เดียว ทีสนใจมาอ่านเจอ เพราะ ตื่นเต้นที่มีพี่ๆหลายคนๆ รู้จัก กับ หลวงปู่บุญศรีเป็นอย่างดี จึงทำให้ผม อยากจะอ่านเรืองราวของพี่ๆตลอด ขอบคุณมากนะครับ ที่นำข้อมูลมาเผยแพร่ ในส่วนตัวผมเอง นี่ นับถือ และ รักหลวงปู่สุดใจขาดดิ้นเลยที่เดียว ได้พบกับหลวงปู่บุญศรี ช่วงปี 40 ท่านทำให้ เด็กวัยรุ่นเลวๆพยศคนหนึ่งจากที่ไม่เข้าวัด ไม่รู้จักทำบุญ ต้องหันหน้ามาเข้าวัดทำบุญ เพราัะมีหลวงปู่เป็นองค์ปฐมเลยทีเดียว สาเหตุที่ทำให้ได้พบหลวงปู่เป็นครั้งแรก เพราะเพื่อนในกลุ่มที่สนิทกัน ได้จะไปบวชอยู่กับหลวงปู่ฯที่วัดใหม่ฯ ผมจึงไปร่วมงานด้วย ตอนนั้น คิดว่าก็คงเป็นเหมือนไปงานบวชเพื่อนธรรมดา พระสงฆ์ก็คงเหมือนพระในเมือง ทั่วไป(อันนี้เป็นความเลวของผมนะครับ เพราะไม่เข้าวัดเข้าวาเลย) แต่พอลงจากรถ ตรงลาดจอดรถ ใกล้ๆศาลากลางเปรียญปูน ก็พวกน้าๆของเพื่อนก็พาไปกราบหลวงปู่บนกุฎิชั้นสอง ตอนนั้นคนที่มากราบหลวงปู่เยอะมาก ครั้งแรกที่ได้พบหลวงปู่ นี่ จากที่ลิงทะโมนตัวหนึ่ง กลับต้องนิ่งเงียบ ขึ้นมาทันที รู้สึกถึงความสงบ และ ความเย็นทั่วห้องเลย พอคณะอื่นหลักไป คณะของผมก็เข้าไปกราบ หลวงปู่ท่านก็เมตตามากมายมหาศาล เรียกผมและกลุ่มเพื่อนเข้าไป แล้วให้ก้มลงท่านใช้ปากกาเขียนลง หัวพวกผมให้และเปา ตั้งแต่ตอนนั้นทำให้ความรู้สึกผม รักและเคราพหลวงปู่ทันทีเลย พอหลังจาก หลวงปู่ลงศรีษะให้เสร็จ ท่านก็บอกให้ไปนอนเล่นที่ แพท่านน้ำ รอ เตรียมงานเพื่อนจะบวช วันนั้น ซึ่งตอนนั้น โบสถ์แพกลางน้ำ กำลัง เริ่มทำแต่ยังไม่เสร็จ ยังไม่มีฝาข้าง และยังมีแพเล็กๆ ติดกับต้นโพธิ์ริมน้ำอยู่ พวกผมจึงเดินไปที่ท่าน้ำ เพียงสองคนกับเพื่อนที่ไม่ไ่ด้บวช ไปนอนเล่น บนแพ ที่จะเป็นโบสถ์ในกาลข้างหน้า นั่งเล่นนอนเล่นไปซะพักก็ หลับ สบาย ในระัหว่างหลับนี่แหละครับ ได้ยินเสียงสวดมนต์ตลอดเลย เบาๆเย็นๆตื่นขึ้นมาดูก็ไมไ่ด้ิยินไม่มีพระอยุ่ใกล้ๆเลย ก็ไม่เอะใจอะไร ก็นอนต่อไปเรือยๆ จนตื่นก็ได้เวลา พาเพื่อนไปเข้าโบสถ์วัดใกล้ๆโดยมีหลวงปู่บุญศรีน้ำไปบวชพระ วันนั้นสององค์ ท่านให้ พระลูกวัด เป็นผู้ขับรถให้ท่านเป็นรถวอลโว่ น่าจะสีแดงนะครับ ที่จอดใต้ศาลาที่เคยเก็บโลงแก้วของหลวงปู่ นั้นเป็นครั้งแรกที่ทำให้ผมรู้จักและรักหลวงปู่มาก หลังจากวันนั้นนั้นก็ คงเหมือนกับพี่ๆหลายๆท่านคือ ไปกราบท่านเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ไม่บ่อยมากนัก เฉี่ยน เดือนละสองครั้ง เพราะยังเป็นนักศึกษากันอยู่เลย เบี้ยน้อยหอยอยู่ครับ ทุกวันนี้ก็ยังน้อย
    หลังจากนั้น ก่อนจะไปวัดท่าซุงก็จะแวะมากราบหลวงปู่บุญศรีก่อนเสมอ พอได้กราบ แล้วก็จะไปวัดท่าซุงและขากลับก็จะแวะมากราบหลวงปู่บุญศรีอีก ก่อนที่จะกลับ กทม. ก็แวะเข้าไปในตาคลี สนทนากับ ปู่โทนก่อน กลับ กทม.ทุกครั้งที่ มากราบหลวงปู่บุญศรีและไหว้พระทำบุญ ที่วัดท่าซุงครับ
    @ส่วนที่ พี่พี (ขออนุญาติเรียกพี่นะครับ)เคยเล่าในห้องนี่ว่า ช่วงที่ทำการปลุกเสกพระที่แพโบสถ์น้ำ มีพระเจ้าอาวาสมาจากสำนังสงฆ์ โคคำโคกทม ที่หลวงปู่บุญศรี ท่านให้ช่วยสวดด้วย น่ะครับ ถ้าผมจำไม่ผิด ท่านชื่อพระอาจาร์ย ดุลย์ ครับ มีศักดิ์ เป็นหลานของหลวงปู่อิง ครับ เด๋วต้องของตัวไปกินข้าวก่อนนะครับ ตามอ่านมาจนหน้ามืด แล้วจะมาเล่าให้ฟังว่า อาจาร์ดุลย์ รู้จักกับหลวงปู่บุญศรีได้ยังไงนะครับ ถ้าๆพี่สนใจ ขอบคุณและฝากตัวด้วยนะครับ
     
  8. gim

    gim เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,398
    กราบ กราบ กราบ หลวงปู่บุญศรี หลวงพ่อทรง ครับ
    สวัสดีครับทุกๆท่าน<!-- google_ad_section_end -->
     
  9. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    โมทนาด้วยครับท่าน ยินดีที่รู้่จัก ลูกหลานหลวงปู่้บุญศรี อินทวัณโณ เหมือนกัน โลกจะได้รู้ว่าพวกเรามิได้เสกสรร ปั้นแต่งให้มันเกินความเป็นจริง แต่เราได้นำเอาความเป็นจริงในประวัติศาสตร์ ครั้งหนึ่งในชีวิต มาเล่าสู่กันฟัง ข้าพเจ้ายังเชื่อว่าผู้ัมีประสพการร์อย่างท่าน ยังมีอยู่อีกจำนวนมากแต่ยังไม่้เปิดเผยตัว เช่นเดียวกับข้าพเจ้าก็เพิ่งจะเข้ามาที่นี่ ได้ ๔ เดือนเท่านั้น เห็นว่าพอจะมีช่องทางที่จะสอดแทรกธรรมมะ และันำเอาคำสั่งสอน ของครูบาอาจารย์ ให้กับผู้ที่ได้ยินได้ฟัง นำไปพิจารณาถ้าเห็นว่าดี ถูก และควร ก็นำไปปฏบัติ อีกทั้งเป็นการยืนยันว่าพระอภิญญานั้่นมีจริง พระอริยะเจ้านั้นมีจริง และพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบนั้นมีจริง และพระพุทธศาสนา ไม่มีคำว่าเสื่อม ไม่มีวันที่จะเสื่อม จนกว่าพระศรีอาริยเมตตรัย จะลงมารับช่วงต่อ [www.marateebook.com]
     
  10. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    :cool:
    ท่าน อ.พี ครับ ได้เบอร์บัญชี แล้ว กรุณาโชว์ ในกระทู้ ด้วยนะครับ กระผม จะขอร่วมทำบุญด้วย อ่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2011
  11. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    :cool:
    กระผมก็ ทำ ตาม ท่าน อ.พี สอนน่ะหละครับ อิอิ;20
     
  12. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    :cool:
    โมทนา สาธุ ด้วยครับ
    ลูกๆหลาน หลวงปู่ มาแล้ว
    อย่าลืมมาเล่า ต่อ นะครับ :cool:
     
  13. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    :cool:
    อ่าน ตาม ท่าน อ.ช้าง เล่ามา นี่
    ถ้า.... หลังจากสิ้นนายหลวง
    แล้ว ประเทศไทยเราคง จะเข้า สู่กลียุค จริงๆนะนี่
    แล้วพวกเรานี่ จะอยู่กัน อย่างไรล่ะครับ ไม่อยากคิดเลยครับ:'(
     
  14. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    น้ำท่วม ไฟไหม้ แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด เกิดทอร์นาโด
    ยังเติบโตฟื้นฟูกลับมาได้ ไทฆ่าไทย บรรลัยกัลป์ ห้ำหั่นไม่คณามือ ถืออภิสิทธิ์ ปลิดชีวิตผู้อื่น ให้สะอื้น ใจสลาย วอดวายทั้งแผ่นดิน ฤาจะสิ้น “ชาติไท”
    ขอบารมี พระศรีอาริยะเมตตรัย ประทานพระเมตตาให้ไทย และคนไท พ้นจากทุกข์ภัย เร็วไวด้วยเทอญ
    [www.marateebook.com]
     
  15. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
     
  16. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    อยู่อย่างไรใน "กาลียุค"

    ในปัจจุบันของเรา โบราณของเขา เขาเรียกว่า “เป็นกลียุค” ขอเตือนพวกท่านอย่าตกอยู่ในความประมาท ปี 2554 อาจเป็นแค่เตือนเท่านั้น ปี 2555 อาจจะของจริง (เว้นแต่มีการต่อรอง) อย่าเสียเวลามาทะเลาะกันเลยว่าใครผิดใครถูก ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียน กลับมาทบทวนกันอีกครั้งว่า คราวนี้ 2554 เรายังเตรียมพร้อมได้มากน้อยแค่ไหน ยังขาดอะไร ยังบกพร่องอะไร คราวหน้าปีหน้า 2555 เราจะเตรียมการณ์อย่างไร และภัยวิบัติยังคงเป็นเรื่องของน้ำ อยู่หรือไม่ ถ้าเป็นเรื่องของ “น้ำ” ก็ถือเป็นเรื่องของโชค ถือว่าดี น้ำลดยังมีเหลือ ถ้าเป็น “ไฟ” เผาผลาญสิ้นไม่มีชิ้นดี เหลือแต่ซาก ถ้าเป็น “ดิน” แผ่นดินไหว สั่นสะเทือน พินาศย่อยยับ ก็มีตัวอย่างให้เห็น เหลือแต่ซากอีก ไม่มีชิ้นดีอีก นำมาใช้ประโยชน์อีกไม่ได้ กว่าจะฟื้นตัวยาวนาน แต่เสียหายน้อยกว่าไฟ ถ้าเป็นลม ก็มีตัวอย่างให้เห็น พายุ ทอร์นาโด ก็ถล่มทะลาย แต่ยังเหลือซาก ใช้ประโยชน์ไม่ได้อีกเหมือนกัน จะเป็นรูปแบบไหน แบบใด อันนี้เป็นเรื่องสำคัญ “ฟ้าเป็นผู้กำหนด“ ถามตัวท่านเองก่อนว่า จะยอมจำนวนโดยไม่สู้ หรือจะสู้โดยไม่ยอมจำนน ถ้าจะสู้ต้องคิดเตรียมการณ์ เอาปัจจุบันเป็นบทเรียน มองปัญหาก็ต้องมองกันตอนนี้ เอาตอนที่ยังมีปัญหา เอาตอนที่น้ำยังท่วมให้เห็น เอาตอนลำบาก คนไทยลืมง่าย ปัญหาปัจจุบันที่พบตามข่าวสาร เอาที่นึกได้ดังนี้
    ๑.ที่พักอยู่อาศัยไม่ได้ ทางแก้ ต้องหาที่พักสำรองที่ ๒ อย่าหวังเป็นผู้พักพิง และต้องเตรียมการณ์ ตามข้อ ๓- ข้อ ๙ เช่นเดียวกัน
    ๒.ที่พักต่ำเกินไป ทางแก้ ต้องหาที่สำรองที่สูง หรือไปจังหวัดอื่น
    และต้องเตรียมการณ์ ตามข้อ ๓- ข้อ ๙ เช่นเดียวกัน
    ๓.ขาดน้ำสะอาด อาหาร ทางแก้ ต้องเตรียมสำรอง อยู่ให้ได้ ๖๐ วัน
    ๔.ขาดแสงสว่าง ทางแก้ เตรียมตะเกียงน้ำมันก๊าซ ไม้ขีด ไฟฉาย แก๊สหุงต้ม
    ๕.อาหารเป็นพิษ เจ็บป่วย เตรียมยาธาตุน้ำขาว สามัญประจำบ้าน
    ๖.เครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์สื่อสารในครอบครัว ทางแก้ติดต่อกันให้ได้ ไปด้วยกันทั้งครอบครัว อย่าแยกกัน
    ๗.ถ้ามีรถ เติมน้ำมันให้เต็มถังอยู่เสมอ อย่าหวังน้ำบ่อหน้า
    ๘.มุ้ง ถุงนอน อุปกรณ์กันฝน เครื่องนุ่งหุ่ม ให้เพียงพอในครอบครัว
    ๙.เตรียมอาวุธ หรืออุปกรณ์ป้องกันตัว
    ๑๐.ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ข้อสำคัญ อย่าประมาท พร้อมที่จะทำตามแผน ที่วางเอาไว้ [www.marateebook.com]
     
  17. todtoe

    todtoe Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +30
    ต่อ พระอาจาร์ยจาก สำนังสงฆ์ โคคำโคกทม (หลวงปู่อิง )กับ หลวงปู่บุญศรี

    สวัสดีครับพี่ๆ ก่อนอื่นขอขอบคุณพี่ๆทุกท่านนะครับที่เมตตา ต้อนรับผม
    ขอเล่าต่อนะครับ อันนี้เป็นเรืองราวที่ผมประสบมากับตัวเองนะครับ ที่เกียวเนื่องกับ หลวงปู่ บุญศรี และ พระอาจาร์ดุลย์ แห่ง สำนักสงฆ์โคคำโคกทม ที่พี่ พีเสาวภาเล่าไปแล้วข้างต้นว่ามพระมาช่วยหลวงปู่บุญศรี สวดมนต์ในงานปลุกเสกแพโบสถ์น้ำนะเป็นใครนะ ผมเดาแบบมั่นใจเลยนะครับ ว่าเป้นใคร แต่พวกผมไม่ได้ไปร่วมงานวันปลุกเสกนะครับเพราะไม่ทราบ วันเวลาวันงานแต่จะเล่าเกี่ยวเนื่องกับ พระอาจาร์ยดุลย์กับ หลวงปู่บุญศรีที่พี่ พีเสาวภาสงสัยว่าเป้นท่านใด้มีชื่อเสียงว่าอย่างไร และ มีความสัมพันธ์ยังไงกับหลวงปู่นะครับ อันนี้ผมรู้มาจาก ปากของพระอาจาร์ยดุลย์เองนะครับ เล่าสู่กันฟัง คนอื่นที่ไม่เข้าใจก็ผ่านๆไปนะครับ ถึงซะว่าเป็นเรือง ต๊องๆของเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งนะครับ
    (และต้องกราบขอขมากับ หลวงปู่บุญศรี และ พระอาจาร์ยดุลย์ที่ผมนำมาเปิดเผยนะครับเล่าสู่กันฟังนะครับ)
    ในช่วงนึ่งผมกับกลุ่มเพื่อน ที่เริ่มสนใจในการไหว้พระทำบุญ หลังจากได้พบ หลวงปู่บุญศรีแล้ว ก็ยังมิยอมหยุดแสวงหาพระ ดีๆที่เราสามารถกราบไหว้แบบสบายใจ สนิทใจ แล้วถูกกับจริตของพวกเรา ก็คือพระแบบหลวงปู่บุญศรี เมตตาสุง แจกๆๆๆ และมีปฎิหาร อย่างเดียว และ ชอบให้ปริศณาธรรมให้พวกเราไปขบคิดกันตลอด ต่อนะครับ แฮะๆ
    มีอยู่ช่วงหนึ่งพวกผม รู้จัก กับพี่ที่ทำพระเครื่องให้กับ หลวงปู่อิง และหลวงปู่พรหมมา แห่งผาหินสวยนางคอย หลวงปู่พรหมมานีก็สุดยอดนะครับ เสกแผ่นทองๆหนาเปาใส่หน้าผากพวกผมได้โดยไม่ต้องแกะแผ่ทองเลย (ไม่แน่ใจนะครับเรียกอย่างนี้ถูกหรือ เปล่า)ต่อนะครับ พวกผม ก็ได้ตามพวกพี่เค้าี่ไปงาน ปลุกเสกพระ ที่ปราจีนบุรี ซึ่งในงานนั้นมีพระ มากันเยอะครับ ไม่ว่า จะเป็น หลวงปู่พูล วัดไผ่ล้อม หลวงปู่หงษ์ หลวงปู่เหมือน และหลวงปู่หมุน และอีกสามสี่องค์ ครับ ต่อครับ ก็นัดกันไปเจอที่บ้านพี่เค้า ซึ่งตอนนั้น พระอาจาร์ยดุลย์ ก็อยู่ที่บ้านพี่คนนั้น แล้ว ก็ถูกนิมนต์ไปปลุกเสกในนามสำนังสงฆ์ฯของหลวงปู่อิง พวกพี่ๆเค้าก็นิมนต์พระอาจาร์ยดุลย์ ให้มาขึ้น รถไปกับพวกผม ครับ โดยที่พระอาจาร์ยนั่งด้านหน้าพวกผมนั่งด้านหลัง เพื่อที่จะมุ่งหน้าไปที่งาน ปลุกเสก ระหว่างที่เดินทา่งเรา ก็พูดคุยสนทนาไป ตามภาษาวัยรุ่น ส่วนอาจาร์ยก้อ นั่งยิ้มๆไป แต่มีอยู่ช่วงหนึ่ง พระอาจาร์ยก็จ้อง ไปหน้ากระจกรถฝั่งที่ท่านนั่ง ซึงมี สติ๊กเกอร์ของหลวงปู่บุญศรีติดอยู่ และพระอาจาร์ยก็ ถามขึ้นมาว่า เป็นลูกศิษย์ หลวงตาเล็กหรือ พวกเราก็งงๆ นะครับ ว่าเอ๊ะ ท่านรู้จักหลวงปู่เราได้ไง อยู่ห่างกันคนละทางเลย แต่ก็ตอบไปว่า พวกผมไม่กล้าเป็นลุกศิษย์หลวงปู่หรอกครับ ศีลขาดเกือบทุกข้อ เพียงแต่พวกเรา รักและเคราพ หลวงปู่บุญศรีู่สุดใจก็เท่านั้น พระอาจร์ยดุลย์ ก็ ยิ้ม แล้วก็เงียบไป ผมก็เอาแหละซิ มาสะกิดให้เราอยากรู้ และท่านก็เงียบไป ก็เลย ร้อนครับ อยากรู้ว่า ท่านรู้จักหลวงปู่ได้ไง ทั้งๆที่หลวงปู่ เป็นพระเงียบ มีรู้จักไม่กี่ท่าน จากสายของ วัดท่าซุงและ แม่ชีปทุม (อันนี้เป้นความโง่ของผมคนเดียวนะครับที่คิดแบบนี้ เพราะไม่ค่อยรู้จัก พระองค์ไหนเลย พึ่เข้าวัด) หลังจากพระอาจร์ยดุลย์เงียบ ผมเลย เอ่ยปากถามท่าน ว่า หลวงพ่อ รู้จักหลวงปู่บุญศรีได้ยัไง ท่านก็เหมือนจะอำๆอึ่ง ให้เราลุ้น แล้วท่านก็บอกว่า เคยนั่งสมาธิ แล้วเห้นนิมิตรว่าจู่ๆ ก็ เห็นพระแก่ๆองค์หนึ่งมาพูดคุยสอนเรืองปฎิบัติธรรม และก็ให้ไปหา ท่าน โดยที่ไม่บอกว่าอยู่ที่ไหน ชื่ออะไร หลังจากนั้น พระอาจาร์ยดุลย์ก็ ได้เสาะแสวงหาพระแก่องค์นั้นว่าเป็นใครอยู่ที่ไหน (ซึ่งในขณะนั้นนะครับผมคาดว่าหลวงปู่อิง ท่านก็จำวัดอยุ่ที่ สำนังสงฆ์ด้วยนะครับ แต่เรืองราวของท่านผมไม่ทราบมาก ท่านเป็นพระโบราณใจดี พูดน้อย กระแสเมตตาสูงอีกองค์ ) หลังจากพระอาจร์ยดุลย์ ตามหาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ แล้วท่านก็ตัดบทว่า จน มาพบหลวงปู่บุญศรีที่วัดใหม่ฯ ก็เข้าไปกราบ หลวงปู่บุญศรีู่แล้วบอกว่า ผมมาแล้วครับตามคำสั่งหลวงปู่ แต่หลวงปู่บุญศรีก้อยิ้มๆตามสไตร์ท่าน หลวงปู่บุญศรีก็บอกว่า เธอเป้นใครมายังไง ใครสั่งเธอ แล้วก็หัวเราะ หมายถึงพูดกับพระอาจาร์ยดุลย์นะครับ แล้วต่างคนก็เงียบๆเพราะมีแขกมากราบหลวงปู่อยู่ ครับ มีแค่นี้ล่ะครับที่ผมทราบเรืองราวระหว่าง หลวงปบุญศรี กับพระอาจาร์ยดุลย์ ที่อยู่กันแสนไกล แต่ จิตท่านหรืออาจจะมีกายเนื้อไปช่วยสอนธรรมให้พระอาจาร์ยดุลย์้ก็ได้ อันนี้พระอาจาร์ยไม่เล่าให้ฟังนะครับ
    ตั่งแต่ผมได้สัมผัสหลวงปบุญศรีู่ นี่มีเรืองราวแปลกๆเยอะมาก จนหลังกลายเป็นเรืองธรรมดาไปแล้วสำหรับกามากราบหลวงปู่ อาทิเช่น มากราบหลวงปู่บุญศรีท่านช่วยเจิมรถที่เพื่อนชื้อมาใหม่ พอจอดรถก็พบหลวงปู่นั่งอยู่ตรงระเบียงหน้ากุฎิใหม่ ก็ กราบท่าน และบอกจุดประสงค์ ว่าขอให้หลวงปู่เจิมรถให้ ท่านก็ เดินเข้าไปในกุฎิหยิบแปลก เจิมกับ สติ๊กเกอร์ ติดกระจก มาโดยให้พระผุ้ช่วยเป้นผู้ถือ ไม่แน่ใจว่าใช่หลวงพี่แอร์หรือป่าว นะครับ ท่านเชื่อมั้ย ครับ ในความคิดผม หลวงปู่บอกให้เปิดกระโปรงหน้ารถ และท่านก็ใช้นิ้วเปล่าๆ เจิมเครืองยนต์ให้ น่าแปลกนะครับท่านเจิมๆแบบสบายๆเลย ทั้งๆที่ตอนนั้น เครืองร้อน นี่ร้อนมาก ผมเอามือไปจับนิ้่วยังพอง กับ ท่านหลวงปู่บุญศรีนี่เจิมสบายๆเลย และ ก็พูดลอยๆว่า มิตซูบิชิอยู่สองสามครั้ง และก็ยิ้มๆพวกเราก็ ขำๆกัน ก็เป้นเรืองแปลกสำหรับผมกับหลวงปู่ครั้งแรกนะครับ แต่ พวกผมไม่รู้เป็น ไงนะครับ พอหลังจากหลวงปู่เจิมเสร็จ หรือเวลามากราบท่าน ท่านชอบบอกว่าให้ไปนั่งเล่น นอนเล่นที่แพโบสถ์น้ำก่อน ทุกครั้ง แล้วค่อยให้เข้ามาหาที่กุฎิ ทุกครั้ง ไป ไม่ทราบว่ามีพี่ๆท่านใด พอจะมีประสบการณ์กับแพโบสถ์น้ำ กับ ต้นโพธิ์คู่หน้า กุฎิหลวงปู่หรือป่าว ครับ และก็ แถวๆ หลังเมรุ หรือ ศาลเจ้าที่วัดอ่ะครับ
    @ เด่วคราวหน้า จะมาเรืองพวกกับแพโบสถ์น้ำ กับหลวงปู่บุญศรีนะครับ ไม่รู้พี่ๆจะเบื่อกันหรือเปล่า เพราะผมไม่มีข้อธรรมสาระเลย ถือซะว่าพี่ฟังน้องคนหนึ่งที่ตื่นเต้น ที่มีคนรู้จักหลวงปู่บุญศรีนะครับ (ผมไม่รู้จะมีใครว่าผมมั้ยว่ามาอวย เรื่องหลวงปู่บุญศรีหรือเปล่า แต่ผมขอรับรองว่าผมไม่ได้อยากจะอวย เรืองหลวงปู่นะครับ เพียงแค่อยากเล่าประสบการณ์ของผมเท่านั้น) และผมต้องขอโทษ พี่ทุกท่านที่นับถือหลวงปู่ทรง และหลวงปู่องค์อื่นด้วยนะครับ เพราะผมไม่มีบุญพอจะได้ไปกราบท่านเลยไม่ทราบเรื่องราว ในส่วนตัว ผมจะมีประสบการณ์กับหลวงปู่บุญศรี หลวงปู่วัดท่าซุง(ผมไำม่ทันท่านนะครับแต่ศึกษาจากหนังสือท่าน ชอบแนวท่านครับ) หลวงปู่กอง วัดสระมณฑล ยุดยา หลวงปู่อิง บุรีรัมย์ หลวงตากอไผ่ วัดสระมณฑล และ หลวงปู่ละมั้ย สวนป่าสมุนไพร่ครับ
     
  18. rungaran

    rungaran เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    15,573
    ค่าพลัง:
    +57,321
    :cool:
    เป็น ประสพการณ์ที่น่าจดจำไปตลอดชีวิตเลยครับ และน่ายินดีมาก
    สำหรับผม แม้ไม่ทันได้พบหลวงปู่ แต่ก็เหมือน หลวงปู่อยู่ ใกล้ๆตัวตลอด
    แม้จะเป็นการทึกทักเอาเอง แต่กระผมก็สุขใจ แม้จะเลี้ยงจิตด้วยนิมิตอยู่ก็ตาม

    กราบ.....หลวงปู่ ทรง หลวงปู่ บุญศรี หลวงปู่ฤาษี หลวงปู่ อั้บ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  19. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,029
    แล้วมาเล่าให้้ฟังใหม่อีกนะ นะน้อง พี่รอฟังอยู่ ถ้าคะแนนเต็มร้อย พี่ให้ ๙๕ แล้วหลวงปู่อิง เป็นอย่่างไร อยู่ที่ไหน หรือ ละสังขารไปแล้ว พวกพี่เป็นนักล่าพระอภิญญา ตามล่าอยู่ ไกลแค่ไหนก็จะไป [www.marateebook.com]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2011
  20. พี เสาวภา

    พี เสาวภา ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    37,990
    ค่าพลัง:
    +146,269

    ผมน่าจะจำคณะคุณได้ และพระที่มาบวช จำได้ว่าบวชไม่นาน

    ส่วนวัดที่ไปบวช ที่จริงไม่ใกล้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นวัด สระเศรษฐี มีท่านเจ้าอาวาสชื่อ พระครู วิชาญ เป็นพระอุปัชฌาย์ ไปไกลถึงปากทางแล้วแยกลงใต้ไปอีกหน่อยจากทางหลวง พยุหะ อุทัยธานี

    ท่านพระครูองค์นี้มีเรื่องเล่า แม้จะมียศสูงกว่าหลวงปู่ และ เป็นพระอุปัชฌาย์ แต่เคารพหลวงปู่มาก และ พูดคุยกับหลวงปู่ ด้วยความนอบน้อม และเคารพหลวงปู่มาก ผมเคยไปงานบวชท่านหนึ่ง จำไม่ได้ว่าใคร หลวงปู่พาไปบวชกับท่านพระครู วิชาญ โดยหลวงปู่เป็นคู่สวด พระที่บวช น่าจะเป็นท่าน พรเทพ สหายของท่าน สันสิรี

    เรื่องพระครู องค์นี้ที่มีความเกี่ยวข้องกับหลวงปู่หลายเรื่อง ผมจะมาเล่าต่อไป ว่างๆน่ะครับ

    ปู่โทน ก่อนที่จะเสียชีวิต ผมก็ไปหา โดยมีลูกศิษย์สาย ตาคลี พาไป และได้ดู ดวงชะตากับปู่โทน หลำแพรด้วย ยังคิดถึงท่านอยู่ ตามรสนิยม ใครไปหาปู่โทน แสดงว่าชอบด้าน ปาฏิหารย์ อภิญญา เรื่องฤทธิ์ อภิญญา คอเดียวกัน ...แหะๆ

    เรื่องหลวงพ่อ ดุลย์ อยากฟังครับ ผมเจอท่านหลายครั้ง ไม่ทราบท่านเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าท่านยังแข็งแรงอยู่ จะเป็นกุญแจสำคัญอีกดอกหนึ่ง ที่ไขเรื่องราว ด้านที่ลึกลับของหลวงปู่บุญศรีออกมาได้อีกหลายแง่ครับ

    ยังมีพระอีกองค์ที่อยู่ที่ตาคลี เคยเป็นถึงเจ้าอาวาส แต่ลาออก ไปธุดงค์ ท่านนี้เคารพหลวงปู่บุญศรีมาก เคยมานั่งรอหลวงปู่ ตั้งแต่เช้าถึงเที่ยง ท่านนี้ก็มีกำลังสมาธิสูง ปลุกเสก พระและเครื่องรางได้ขลัง

    ขอชื่อเล่นครับ และ เข้ามาเล่าเรื่องหลวงปู่ต่อน่ะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤศจิกายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...