NEW ! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ.. GRAND NATURE ..

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Little Duck, 25 กุมภาพันธ์ 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768
    พวกเธอมาที่โลกนี้ก็เพื่อที่จะมาทำงาน
    เพราะฉะนั้นพวกเธอจึงควรหมั่นเพียรขยันทำงานอยู่เสมอ
    คนเกียจคร้านเป็นคนที่ไม่ต่างจากคนที่ตายไปแล้ว
    พวกเธอมาที่โลกนี้เพื่อมามีชีวิตบนโลกไม่ใช่มาเพื่อที่จะตายทั้งเป็น...
    โลกใบนี้คือเวทีสำหรับการเคลื่อนไหวของกรรมทุกคน
    จึงควรจะทำงานอย่างกระตือรือร้น
    ..นะจ้ะ ..

    (f)(f)(f)(f)(f)
     
  2. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768
  3. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768
  4. Lastquarter

    Lastquarter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +272
    Rise to Cosmic
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=yggxbW8zj6M]SUGIZO - RISE TO COSMIC DANCE - Synchronicity - YouTube[/ame]
     
  5. AUNKZERI

    AUNKZERI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +49

    (f)(f)(f)(f)(f)(f)(f)
     
  6. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    see u tommorrow
    ตอน ทำด้วยใจ
    HAVE A NICE DAY

    :VOyimmyimmyimm
     
  7. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
  8. AUNKZERI

    AUNKZERI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +49
    ติดตามฮะ ตอนอยู่ที่ใจ :love:

    ;aa57
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กันยายน 2011
  9. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768
    Give Me Your Heart ..

    [​IMG]
    (f)(f)
     
  10. Little Mermaid

    Little Mermaid เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +1,768
    เธอ ที่รัก ในโลกปัจจุบันนี้ การได้พบครูที่แท้นั้น เป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน เพราะในโลกที่เต็มไปด้วยความปลิ้นปล้อน หลอกลวงตลบตะแลงเช่นปัจจุบันนี้ "ครูที่แท้" จำเป็นต้องปลีกตัว เร้นกาย มุ่งหน้าฝึกฝนตัวเอง คี่ยวกรำตัวเองอย่างเดียวเท่านั้น เนื่องจากคุณค่าที่มีอยู่ในตัวครูเช่นนี้ หาได้เป็นคุณค่าที่มี "มูลค่าตลาด" แต่ประการใดไม่

    จริงอยู่หรอก ที่ยังมี "ครูที่แท้" อยู่เป็นจำนวนไม่น้อยในโลกนี้ แต่การได้พบพวกท่าน และได้ร่ำเรียนวิชาจากพวกท่าน นับว่าเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญยิ่งนัก


    ในเมื่อตัวเธอดำรงอยู่ในยุคที่ยากจะพานพบ "ครูที่แท้" ได้โดยง่ายเช่นนี้แล้ว ตัวเธอสมควรจะทำประการใดดี?


    ก่อนอื่น เธอต้องเชื่อมั่นในตัวเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เชื่อมั่นใน "พุทธภาวะ" หรือ "จิตเดิม" (อาตมัน) ที่ ดำรงอยู่อย่างแน่นอนภายในตัวของเธอ เพราะเมื่อเธอมีความเชื่อมั่นเช่นนี้แล้ว ต่อให้คนอื่นหรือสังคมมองเธอในแง่ลบเพียงใด หรือมองว่าเธอเป็นคนเพี้ยนก็ตาม ตัวเธอก็จะหามีความหวั่นไหวไม่ และเมื่อเธอได้ฝึกฝนพัฒนาตนเองมาจนถึงระดับหนึ่งแล้ว เธอก็จะพบว่า "ครูที่แท้จริง" หาได้ดำรงอยู่เฉพาะคนที่สอนเธอเท่านั้นไม่ แต่ "ครูที่แท้" ก็คือ ตัวจักรวาลนั่นเอง นั่นคือ ทุก ๆ สิ่งในจักรวาลสามารถเป็นครูให้เธอได้
    ต้นไม้ ย่อมสามารถเป็นครูให้เธอได้ เพราะมันให้ร่มเงาอันร่มเย็นแก่คนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคนผู้นั้นคิดจะตัดต้นไม้ หรือปลูกต้นไม้ก็ตาม มิหนำซ้ำต้นไม้ยังออกดอกออกผลให้แก่ผู้คนทั้งปวงด้วยต้นไม้จึงเป็นครูผู้สอนจิตใจที่เสมอภาคให้แก่เธอ


    ภูเขา ก็ย่อมเป็นครูของเธอได้ เพราะไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก ไม่ว่าร้อนหรือหนาว ไม่ว่าลมจะพัดหรือไม่พัด ภูเขาก็ยังคงหนักแน่นมั่นคงไม่เสื่อมคลาย ภูเขาจึงเป็นครูผู้สอนให้เธอ อย่าไปวิตกกังวลกับอุปสรรคใด ๆ จนเกินเหตุ


    นก เป็นสัตว์ที่ไม่เคยกลัดกลุ้มเกี่ยวกับเรื่องราวของวันพรุ่งนี้ มันดำรงชีวิตอยู่อย่างพอใจกับอาหารที่มันหาได้ในขณะนั้น นกจึงสามารถเป็นครูของเธอได้ เพราะมันสอนให้เธออย่าไปมัววิตกกังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง

    เพราะฉะนั้น ผู้ใดก็ตามที่สามารถเข้าถึง "ความจริง" จากธรรมชาติในเรื่องนี้ได้ ผู้นั้น ย่อมสามารถค้นพบ "ครูที่แท้" ได้ในทุกหนทุกแห่ง ""

    (f)(f)(f)
     
  11. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ขอบคุณ..ครูที่แท้จริง
     
  12. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ขอกล่าวสวัสดี "ครู" ทุกท่าน เพราะทุกท่านล้วนคือ "ครู" ของข้าพเจ้า มันเป็นสิ่งทีดีจริง ๆ ที่ชีวิตของข้าพเจ้าได้เจอ "ครู" มากมายแวดล้อมข้าพเจ้าอยู่ ณ ขณะนี้ สิ่งนี้นับว่าเป็นโอกาสดีของชีวิตของข้าพเจ้าเลยทีเดียว และข้าพเจ้าถือเป็น "ปาฏิหารย์" สำหรับชีวิตของข้าพเจ้ามาก ๆ เพราะถ้าปราศจาก "ครู" ทุก ๆ ท่านแล้ว ชีวิตของข้าพเจ้าอาจยังเดินมาไม่ถึงจุดนี้ ถึงแม้เส้นทางยังอีกยาวไกล แต่ข้าพเจ้าก็ยังมั่นใจว่าจะยังมี "ครู" คอยชี้แนะแนวทางให้แก่ข้าพเจ้าอย่างแน่นอน

    ข้อแตกต่างระหว่าง 2 ขั้ว
    ทำด้วยใจ

    ในเมื่อเรารู้ถึงการมาเป็นคู่ ของการปรากฏของสรรพสิ่งในโลกแห่งปรากฏการณ์ ฉะนั้น การทำด้วยใจจึงปรากฏเป็น 2 ขั้วเช่นกัน คือ

    การทำด้วยใจที่ไร้อิสระ (โดยมีพื้นฐานอารมณ์จากความเชื่อ)
    การทำด้วยใจที่เป็นอิสระ (โดยมีพื้นฐานอารมณ์จากความจริง)


    การทำด้วยใจที่ไร้อิสระ (โดยมีพื้นฐานอารมณ์จากความเชื่อ) คือ การกระทำที่ถูกกำหนดด้วยอารมณ์อันมีพื้นฐานมาจากความเชื่อ ซึ่งสามารถสร้างความพอใจ หรือ ความไม่พอใจ / ความถูกใจ หรือ ความไม่ถูกใจ ให้กับ "จิต" ซึ่งยังคงตกเป็นทาสหรือยังอยู่ในอำนาจของความเป็นคู่ โดยมีพื้นฐาน หรือ ถูกกำหนดจากความเชื่อส่วนบุคคลทั้งหลายที่ถูกสร้างขึ้น

    อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดที่มีพื้นฐานมาจากความเชื่อเหล่านี้เป็นได้ทั้ง สุข และ ทุกข์ที่เกิดจากความพอใจ และ ความไม่พอใจ ที่มีพื้นฐานมาจากความเชื่อส่วนบุคคลทั้งสิ้น

    แม้เป็นอารมณ์สุข ที่เกิดจากความพอใจก็อยู่ได้ไม่นาน
    แม้เป็นอารมณ์ทุกข์ ที่เกิดจากความไม่พอใจก็อยู่ได้ไม่นาน

    เพราะทั้งสุข และ ทุกข์ ที่เกิดจากอารมณ์อันมีพื้นฐานจากความเชื่ออันกอรปไปด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ นั้น (ของคู่) ย่อมหมุนวนเปลี่ยนแปลงไปอยู่อย่างนี้ไม่มีที่สิ้นสุด (INFINITY)ตามความพอใจ และ ความไม่พอใจของตนที่สามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดวันเวลาตามความเชื่อส่วนบุคคล ณ ขณะนั้น


    ส่วนการทำด้วยใจที่อิสระ (โดยมีพื้นฐานอารมณ์จากความจริง) นั่นคือ การกระทำด้วยจิตที่เป็นอิสระ(free)จากการเป็นทาสของอารมณ์ที่ยังคงติดอยู่กับความเป็นคู่ ไม่อยู่ใต้อำนาจ หรือ การบังคับของความเชื่อที่เป็นปัจจัยพื้นฐานในการก่อให้เกิดอารมณ์พอใจหรือ ไม่พอใจ /ถูกใจ หรือ ไม่ถูกใจ)

    เพราะผู้ที่เข้าใจถึงความจริงของธรรมชาติของจักวาล ย่อมจะต้องเข้าใจถึงการมาเป็นคู่ของทุกสรรพสิ่งที่ต่างมีไว้เพื่อเรียนรู้ถึงซึ่งกันและกันในการทำความเข้าใจ และเกิดปัญญาเห็นถึง “ความรักอันปราศจากเงื่อนไข” อันเป็นคุณสมบัติที่แท้จริงของธรรมชาติของจักรวาล หรือ ธรรมชาติของจิตวิญญาณ

    อารมณ์จากการเกิดปัญญาที่แท้จริง ย่อมเปรียบได้กับความสุขที่แท้จริง เพราะ สวรรค์ที่แท้จริง คือ ความสุขที่เกิดจากการเกิดปัญญาที่เข้าใจในธรรมชาติของสรรพสิ่งทั้งปวงอันเต็มไปด้วยความรัก ความเมตตา (อันปราศจากเงื่อนไข) ที่มีให้ทุกสรรพสิ่งอย่างเท่าเทียมกัน

    ความสุขที่เกิดจากการเกิดปัญญาที่เข้าใจในธรรมชาติของสรรพสิ่งทั้งปวงเปรียบได้กับความร่าเริงเบิกบาน อันเป็นพื้นฐานของจิตวิญญาณที่เต็มไปด้วย "ความรู้"

    เพราะปัญญา คือ ความรู้ อันเป็นแก่นแท้ของจิตวิญญาณ
    ดังนั้น ผู้รู้ที่แท้จริง จึงคือ "จิตวิญญาณ"

    ในโลกแห่งปรากฏการณ์ มนุษย์ไม่สามารถปราศจาก “อารมณ์”
    เพราะมนุษย์ที่ปราศจากอารมณ์ย่อมไม่ต่างจาก “หุ่นเชิด”

    แต่มนุษย์ควรเรียนรู้ที่จะใช้อารมณ์ "ร่าเริงเบิกบาน" อันเกิดจากการมี “ปัญญาที่แท้จริง" ในการมองเห็นถึงธรรมชาติความเป็นจริง จนสามารถมีชัยชนะ (victory)เหนือสิ่งที่มีเงื่อนไขทั้งปวง (อารมณ์ที่มีเงื่อนไขจาก “ความเชื่อ”)

    การมีชัยชนะ (victory)เหนือสิ่งที่มีเงื่อนไขทั้งปวง (ของคู่ทั้งหลาย) ย่อมสามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยการมี ความอดทดอดกลั้น การเสียสละ การให้อภัย ซึ่งทั้งหมดคือ ความเมตตา หรือ ความรักอันปราศจากเงื่อนไข

    และ การมีสติสัมปชัญญะรู้เท่าทันการทำงานของจิต (การทำสมาธิเจริญมหาสติปัฐฐาน) จนสามารถหยุดวงจรของการปรุงแต่งอารมณ์ต่าง ๆ

    เป้าหมายของกายภาพและจิตวิญญาณ คือ เป้าหมายเดียวกัน

    เป้าหมายหลักของจิตวิญญาณ (ภาวะทางจินตภาพ) ในการมาปรากฏในโลกแห่งปรากฏการณ์ คือ การเรียนรู้ถึงความรักอันปราศจากเงื่อนไข หรือ การขึ้นอยู่เหนือของคู่ หรือ เงื่อนไขต่างในโลกแห่งปรากฏการณ์

    เป้าหมายหลักของมนุษย์ (ภาวะทางกายภาพ)หรือ หน้าที่ของมนุษย์ คือ การประพฤติ เพื่อการเป็นอิสระจากการเป็นทาสของอารมณ์อันอยู่ภายใต้ความเชื่อ เพราะเมื่อมนุษย์ไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์อันเกิดจากความพอใจ และ ไม่พอใจ ทางประสาทสัมผัสทั้งห้า (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัสภายนอก) มนุษย์ย่อมเกิดความเมตตาปรานี (ความรักอันปราศจากเงื่อนไข) ต่อ กัน และ กัน เพราะไม่ตกอยู่ภายใต้เงื่อนไขอันเกิดจากความเชื่อนั่นเอง

    เราทั้งหลายต่างก็ยังไม่พ้นขีดอันตรายในอันทีจะต้องตกอยู่ภายใต้วงล้อแห่งกาลเวลา (CIRCLE) หรือ วัฏฏสังสาร ตราบใดที่เรายังปราศจากการประพฤติ หรือ ปฏิบัติจนเกิดเป็น ความเคยชิน หรือ นิสัย

    เมื่อใด ที่เราสามารถประพฤติปฏิบัติ จนเกิดเป็นความเคยชิน หรือ นิสัย เมื่อนั้นทุกกิจกรรมที่ปรากฏในชีวิตของเราย่อมต้องเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ

    เมื่อใดที่เราเรียนรู้ที่กลมกลืนกับธรรมชาติ กับโลกที่มีทั้งดีและไม่ดีโดยปราศจากการตำหนิ กล่าวโทษ หรือปราศจากความต้องการที่จะเข้าไปเปลี่ยนโลกตามความพอใจ หรือ ไม่พอใจของเรา เมื่อนั้นความร่าเริงเบิกบาน ย่อมปรากฏขึ้นอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ๆของโลก จนโลกสามารถที่กลายเป็นสวรรค์บนดินได้อย่างแท้จริง เพราะตามกฏแล้ว อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดย่อมสร้างสรรค์ปรากฏการณ์ต่าง ๆให้กับโลกตามพื้นฐานของอารมณ์นั้น ๆ


    อารมณ์ร่าเริงเบิกบานจากจิตที่เป็นอิสระ ย่อมสามารถสร้างสรรค์วันดี ๆให้เกิดขึ้นกับโลกได้อย่างแท้จริง (HAVE A NICE DAY)

    จินตวดี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กันยายน 2011
  13. AUNKZERI

    AUNKZERI Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +49
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=ZdWy1_azabw&feature=related]บี้ The Star - คิดถึง (ข้ามเวลาหารัก) - YouTube[/ame]
     
  14. มหิศวระ

    มหิศวระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    130
    ค่าพลัง:
    +8
    (ความรักอันปราศจากเงื่อนไข)
    เราจะหาได้จากที่ไหนครับ หากเราสร้างแล้ว เรามีแล้ว
    คนที่จะรับไม่มีเราจะทำเช่นไรให้เขารับ
    (ความรักอันปราศจากเงื่อนไข)
     
  15. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    สวรรค์ หรือ นรก คือ ความละเอียดอ่อนของจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ในขณะจิตนั้น ๆ

    ดังนั้นทั้งสวรรค์ และ นรก คือ ภาวะจิตล้วน ๆ หรือ คือ สภาวะอารมณ์ของจิตวิญญาณ ในขณะจิตนั้น

    จิตวิญญาณ คือ ความรู้ ความทรงจำ ของทุกชาติภพรวมกัน ดังนั้นปัจจุบันขณะของมนุษย์ คือ จุดตัดที่ ภาวะทางกายภาพ และ จิตวิญญาณตัดกัน หรือ จุดที่ ความรู้ ความทรงจำของทุกชาติภพ (จิตวิญญาณ) ก่อให้เกิดผลทางกายภาพ

    ดังนั้นปัจจุบันขณะ คือ จุดที่ ผลลัพธ์ของทุกการกระทำทั้งอดีต และอนาคต ให้ผล

    อดีต ปัจจุบัน และ อนาคตเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งหมดโดยสถิตย์อยู่คนละคลื่นความถี่ ทุกเส้นทางต่างดำเนินไปพร้อมกันทั้งหมด อีกทั้งแต่ละคลื่นความถี่อันเปรียบเสมือนชาติภพที่แตกต่างกันนั้น ต่างก็มีเส้นทางความเป็นไปได้ที่เปรียบเสมือนเงาของแต่ละชาติภพอีกนับอนันต์อีกด้วย

    หากแต่ละชาติภพเปรียบได้กับ 1 2 3 4 5 ......... infinity

    เส้นทางความเป็นไปได้ หรือ จุดตัดของจินตนาการที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะจิต ของแต่ละชาติภพก็เปรียบได้ เส้นทาง 1ก 1ข 1ค ........infinity

    จักรวาลอันเป็นไปได้จึงไร้จุดสิ้นสุดได้เพราะเหตุนี้

    เพราะทุกครั้งที่ท่านจำเป็นต้องตัดสินใจเลือกหรือมีจินตนาการที่แตกต่าง ท่านกำลังสร้างเส้นทางความเป็นไปได้ขึ้นทุกครั้ง

    ฉะนั้น เมื่อท่านฝันถึง ยุคศิวิไลซ์ อำนาจในปัจจุบันของท่านได้สร้างเส้นทางความเป็นไปได้ของ ยุคศิวิไลซ์ ไว้รอท่านแล้ว ตามกฏของจักรวาล

    ส่วนยุคศิวิไลซ์มันจะเป็นจริง หรือถูกดึงดูดมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงได้หรือไม่จึงขึ้นอยู่กับ แรงสั่นสะเทือน หรือ การจดจ่อของจิต ที่เกิดจากมนุษย์ทุกคน

    และผู้ทีจะปรากฏในยุคนี้จึงเป็นผู้ที่มี ความเชื่อ เกี่ยวกับ ยุคนี้เท่านั้น เพราะ ขั้วเดียวกันย่อมดึงดูดกันเท่านั้น หรือ สิ่งที่เหมือนกันย่อมดึงดูดกันและกัน

    แรงสั่นสะเทือนที่แปลงสภาวะพลังงานความคิด(จินตนาการ ความรู้สึกนึกคิดที่ถูกปล่อยออกไปจะมีสภาพเป็นคลื่นพลังงานในความว่าง) จะมากพอหรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับการจดจ่อของจิต หรือ สร้างได้ด้วย"ความศรัทธา"

    ความศรัทธา เกิดจาก ความเชื่อมั่น หรือ พลังของความเชื่อ ณ. ขณะนั้น

    เราจึงเห็นได้ว่า ความเชื่อ ก็ยังมี 2 ด้าน คือ ด้านร้าย และ ด้านดี

    การดำเนินอยู่บนทางสายกลาง คือ การรู้จักปรับใช้ ทั้งสองด้านของ "ของคู่" อย่างพอดี หรือ พอเพียง คือ รู้จักทั้งคุณ และ โทษของมัน และรู้จักใช้ ทั้งสองด้านให้เกิดประโยชน์ต่อโลก หรือ ส่วนรวมให้มากที่สุด (โดยการเข้าใจถึงความเป็นจริง ว่า ทำอะไร เกิดผลอย่างไร เมื่อมนุษย์เกิดความเข้าใจตรงกัน มองเห็นถึงความเป็นจริงของ "กฏแห่งจักรวาล" ว่าทำสิ่งใดเกิดผลสิ่งใด เมื่อนั้น มนุษย์ไม่จำเป็นต้องสร้างกฏระเบียบ หรือ ต้องการ การจัดระเบียบ เพราะ มนุษย์ที่เข้าใจกฏธรรมชาติย่อมจะมี "วินัย" ในตนเองโดยธรรมชาติ ส่วนเรื่องของวินัย จะเป็นเรื่องของ ผู้ที่ยังมีความไม่เข้าใจ หรือ เปรียบได้กับเด็กที่ยังคงต้องการความเชื่อ หรือ การปรุงแต่งทางความคิด นำทางก่อน)

    โลกแห่งศิวิไลซ์ หรือ "เจริญ" จึงมิได้ถึงการมีความ "เจิรญ" ด้านในด้านหนึ่งโดยเฉพาะ เพราะ "ความเจริญ" ก็ยังมีสองด้าน คือ ความเจริญทางด้านวัตถุ และ ความเจริญทางด้านจิตใจ

    มนุษย์จึงควรรู้จักพัฒนาจิตใจ ไปพร้อมกับการเจริญทางด้านวัตถุธาตุ มนุษย์ควรเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติ หรือ รู้จักใช้ธรรมชาติในทางสร้างสรรค์ มากกว่าทำลาย

    เมื่อใดที่มนุษย์รู้จักใช้ธรรมชาติทางด้านสร้างสรรค์ เมื่อนั้น ธรรมชาติจะคืนการสร้างสรรค์กลับคืนสู่มนุษย์เช่นกัน

    เมื่อใดที่มนุษย์รู้จักใช้ธรรมชาติทางด้านการทำลาย เมื่อนั้น ธรรมชาติจะคืนการทำลายกลับสู่มนุษย์เช่นกัน (ภัยพิบัติทั้งหลาย)

    เพราะ ทุกสรรพสิ่งที่ปรากฏขึ้นในโลกแห่งปรากฏการณ์ ย่อมสะท้อน "ภาวะจิต"ส่วนรวม ของมนุษย์ทั้งหมด

    โลกมนุษย์ จึง คือ โลกแห่งปรากฏการณ์ของจิต หรือ เวทีแสดงออกของจิตวิญญาณ

    การที่เราจะรู้ว่า ขณะนี้ ภาวะจิตรวม เป็นเช่นไร จึงดูได้ จากสภาพแวดล้อม หรือ ปรากฏการณ์ทั้งหลายที่ปรากฏขึ้นในโลก เพราะ โลกคือภาพสะท้อนของภาวะจิตรวม

    หากโลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยภัยพิบัติ และ ภาวะโลกร้อน การกลับไปแก้ปัญหาจึงสามารถกลับไปแก้ได้อย่างง่าย จาก ภาวะจิตของมนุษย์แต่ละคน

    ทุก ๆ ท่านมีส่วนในการร่วมสร้างโลก ดังนั้น ท่านจึงสามารถช่วยโลกได้เช่นกัน

    การที่เราสามารถจะสลายพลังความร้อน อันเกิด จากกิเลส ความขัดแย้งจากความเชื่อของ มนุษย์ได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยการทำสมาธิ

    จินตนาการ ความรู้สึก นึกคิดในแง่ลบ ที่เกิดขึ้นจากมนุษย์แต่ละคนในแต่ละวัน ล้วนไม่เคยสูญสลาย มันกลายเป็นพลังงานล่องลอยในอากาศ มันสร้างเส้นทางความเป็นไปได้ในอนาคตไว้รอพวกเราทั้งหลายไว้เช่นกัน

    อนาคตที่ถูกสร้างจาก จินตนาการ ความรู้สึก นึกคิดในแง่ลบ จะเป็นเช่นไร (ของมนุษย์ทุกคนรวมกัน)

    อนาคตที่ถูกสร้างจาก จินตนาการ ความรู้สึก นึกคิดในแง่บวก จะเป็นเช่นไร (ของมนุษย์ทุกคนรวมกัน)

    เรามีสิทธิเลือกเส้นทางความเป็นไปได้เหล่านี้จากจุดตัด คือ อำนาจปัจจุบันแห่งการจดจ่อในเส้นทาง นั้น ๆ

    เราทุกคนต่างก็ซึมซับพลังงานลบที่แทรกซึมอยู่ในบรรยากาศทุกวัน หรือ พบเจอกับปัญหาทั้งหลายในโลกอยู่ทุกวัน การที่เราจะเริ่มต้นการสร้างเส้นทางความเป็นไปได้แห่ง "ศิวิไลซ์" จึงสามารถทำได้ ด้วยการทำใจให้ร่าเริงเบิกบาน ถึงแม้ความร่าเริงเบิกบานช่วงแรก อาจดูเหมือนการปรุงแต่งที่ดูเหมือนสิ่งต้องห้ามสำหรับผู้ที่ไม่ปรารถนาโลก แต่การปรุงแต่งก็ยังมีสองด้าน คือ ด้านร้ายและด้านดี เราจึงควรรู้จักใช้ทั้งสองด้านให้เกิดประโยชน์แก่ เราให้มากที่สุด

    การรู้จักใช้ทั้งสองด้านอย่างพอดี นี่แหละคือ ทางสายกลาง

    การทำสมาธิแบบอานาปานสติ หรือ การจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนเกิดเป็นสมาธิ สามารถช่วยให้ใจที่วุ่นวาย มาตลอดทั้งวันคลายความรู้สึกอันเป็นลบได้ สามารถช่วยสลายกิเลสที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ณ. ขณะจิตนั้น ๆ ให้เบาบางลงได้ เราจึงควรนั่งสมาธิกันทุกวัน เพราะความสุขที่เกิดขึ้นจากการนั่งสมาธินั้น และ ความร่าเริงเบิกบานที่เราสร้างขึ้นในแต่ละวัน ล้วนไม่สูญสลาย แต่กลับไปบังเกิดในเส้นทางแห่งความเป็นไปได้ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยอารมณ์ที่เหมือนกันนั้น ๆ

    ถึงแม้การจะไปพ้นโลก (วงล้อแห่งการเวลา หรือ วัฏฏสังสาร) จะต้องก้าวพ้นการติด สุข หรือ ทุกข์ หรือ ภพภูมิทั้งหลายที่ถูกสร้างขึ้นจาก จินตนาการ อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ก็ตาม

    แต่ในระหว่างการดำรงชีวิตอยู่บนโลก เราทุกคนสามารถที่จะใช้อีกด้านของ ความเชื่อ จินตนาการ อารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ในแง่ดีสร้างโลกที่สร้างสรรค์ให้แก่ มนุษย์ทั้งหลายบนโลก และยังสามารรถเปลี่ยนแปลง "โลก"ให้เป็นไปตามความสร้างสรรค์ที่เราต้องการได้

    ทุกอย่างล้วนมีสองด้านเสมอ การเปลี่ยนแปลงโลก จึงมีสองด้านเช่นกัน คือ
    การเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเอง
    การเปลี่ยนแปลงเพื่อส่วนรวม

    การเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเอง คือ การกระทำ เพื่อตนเอง คือ การเพิ่มอัตตา
    การเปลี่ยนแปลงเพื่อส่วนรวม คือ การกระทำ เพื่อส่วนรวม คือ การลดอัตตา

    การทำเพื่อส่วนรวม โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเอง นี่แหละที่เราเรียกว่า " ความรักอันปราศจากเงื่อนไข" ที่มีความรักให้กับทุกสรรพสิ่งโดยเท่าเทียมกัน (ให้กับสรรพสัตว์ทั้งหลายทุกเผ่าพันธ์โดยทัดเทียมกัน) ยุคศิวิไลซ์ที่ปรากฏ จึงขึ้นอยู่กับศรัทธา และ ความตั้งใจของทุกท่าน และหัวใจทุกดวงที่เต็มใจทำ โดยปราศจากเงื่อนไข และโดยปราศจากการหวังผลจากผู้ใด

    ขอฝันใฝ่ในฝัน อันเหลือเชื่อ
    ขอสู้ศึก ทุกเมื่อ ไม่หวั่นไหว
    ขอทนทุกข์ รุกโรม โหมกายใจ
    ขอฝ่าฟัน ผองภัย ด้วยใจทนง

    จะแน่วแน่ แก้ไข ในสิ่งผิด
    จะรักชาติ จนชีวิต เป็นผุยผง
    จะยอมตาย หมายให้ เกียรติธำรง
    จะปิดทอง หลังองค์ พระปฏิมา


    ด้วยรัก
    จินตวดี
     
  16. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    การเปลี่ยนแปลงเพื่อตัวเอง คือ เพิ่มอัตตา

    การเปลี่ยนแปลงเพื่อส่วนรวม คือ ลดอัตตา

    ชัดเจนครับ เข้าใจครับ กำลังปฎิบัติอยู่ครับ (อัตตาของผมกำลังตายวันตายคืน)
     
  17. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728

    การกลับมาของรหัส 666 (ขอขอบคุณท่านเจ้าของคีย์) เพราะ KEY นี้ คือ GRAND
     
  18. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ย้อนรอยวาระเดิม

    สวมมงกุฏให้สัตว์ร้าย (หนุมานผู้นำสาร)
    ความหมายของภาพสัตว์ร้ายสวมมงกุฏ
    <TABLE class=tborder id=post4173656 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->JINTAWADEE<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4173656", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Sep 2007
    ข้อความ: 1,195
    พลังการให้คะแนน: 429 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_4173656 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ หนุมาน ผู้นำสาร [​IMG]
    สวมมงกุฏ ให้สัตว์ร้าย

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    มงกุฏคือปัญญา

    ข้อความจาก LITTLE DUCK

    จักรวาลขยายตัวไม่สิ้นสุด คือสิ่งที่มนุษย์ได้รู้ ได้เห็นความเป็นจริงในหลายรูปแบบ แตกต่างกันไปตามรูปธรรมที่มองเห็น แต่แท้จริงแล้ว จักรวาลยังคงไว้ซึ่งพลังงานเท่านั้ <O:p</O:p

    พลังงานที่เกิดจากธรรมชาติ แลพลังงานมากมายที่มนุษย์ได้ขยายขอบเขต ด้วยตัวของมนุษย์เอง (พลังความคิดอันก่อให้เกิดสสาร) เหตุนี้เอง จึงมักเรียกว่า จักรวาลขยายตัวอย่างไม่จำกัด

    พลังงานอันไร้ขอบเขต คือ แสนยานุภาพของของมนุษย์ที่ส่งให้จักรวาลขยายตัว แต่แท้จริงแล้ว มนุษย์คือผู้สร้างทั้งสิ้น<O:p</O:p
    จักรวาล ทีมีอยู่มากมายต่างมุ่งหวังให้สิ่งมีชีวิตที่อยู่อาศัยในจักรวาลนั้น สร้างสรรค์ลังงานอันบริสุทธิ์ด้วยกันทั้งนั้น ไม่แม้แต่จักรวาลนี้<O:p</O:p

    สิ่งมีชีวิตทุกสิ่ง คือ ความสมดุลของจักรวาล หาใช่แต่มนุษย์เท่านั้นไม่ <O:p</O:p
    แต่มนุษย์คือผู้ที่ถูกเลือกทำหน้าที่
    </O:p
    หน้าที่ที่ต้องรับผิด และ รับชอบ ต่อการอยู่อาศัยร่วมกัน เพราะมนุษย์คือผู้ใช้ปัญญา (มีปัญญา)<O:p</O:p

    ปัญญา ที่ถูกบรรจุอยู่ในตัวตนของมนุษย์ ที่จำเป็นต้องถูกเรียกนำมาใช้ในทางสร้างสรรค์ อันก่อให้เกิดประโยชน์แก่สรรรพสิ่งทุก ๆสิ่ง

    ปัญญาบรรจุอยู่ในตัวมนุษย์แล้ว หากมนุษย์นำปัญญาร้าย (ความคิดในแง่ลบอันก่อให้เกิดผลทางด้านลบ) ไปใช้ สิ่งที่เกิดขึ้น คือ อะไร

    หากนำปัญญาร้าย (ความคิดในแง่ลบอันก่อให้เกิดผลทางด้านลบ) ไปใช้สิ่งที่เกิดขึ้น ดับวอดวาย <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    หากนำปัญญาดี (ความคิดในแง่บวก) ไปใช้สิ่งที่เกิดขึ้น โชติช่วงชัชวาล<O:p</O:p
    <O:p</O:p
    PROGRAMME = JF = JUSTIFY FUNCTION<O:p</O:p
    โปรแกรม คือ การประมวลผลที่ออกมาว่า เป็นอย่างไร

    โปรแกรมคือ กรรม หรือตัวกระทำ<O:p</O:p

    ตัวกระทำมีผลตอบแทนตัวกรทำไม่เคยตาย<O:p</O:p<O:p</O:p

    คอมพิวเตอร์ เกิดจากมนุษย์เป็นผู้สร้าง


    มนุษย์จึงคือสัตว์ร้าย มงกุฎ คือ ปัญญา
    ..

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


     
  19. JINTAWADEE

    JINTAWADEE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +4,728
    ทำซ้ำ WAIT AND SEE(kiss)(kiss)

    SEE U SOON IE IE
     
  20. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    Love Softwares

    ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Little Duck [​IMG]
    <TABLE id=post4169511 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px solid; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px; BORDER-TOP: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT-WEIGHT: normal" class=thead>[​IMG] เมื่อวานนี้, 03:51 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid" class=thead align=right>#1760 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: 1px solid" class=alt2 width=175>หนุมาน ผู้นำสาร
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 10,820
    พลังการให้คะแนน: 4990 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]






    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid" id=td_post_4169511 class=alt1>*** 666 ****

    COMPUTER
    มีตัวเครื่อง...มองเห็นด้วยตา
    มีโปรแกรม เป็นตัวอักษร เป็นตัวเลข....มองไม่เห็นด้วยตา
    ต้องคนมีความสามารถ...จึงจะเข้าถึง โปรแกรม มองเห็น เข้าใจได้

    สิ่งที่มองไม่เห็น....คือ ตัวกระทำ
    Computor จะดี จะชั่ว ...ก็อยู่ที่โปรแกรม
    คนสร้างโปรมแกรม ....ก็คือ มนุษย์

    Computer
    เครื่องหนึ่ง ไว้ใช้ฆ่าคน ฆ่าสัตว์โลก
    อีกเครื่องหนึ่ง ไว้เผยแพร่สัจจะธรรม โลกุตตระธรรม ศาสนศาสตร์หลุดพ้นทุกข์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "




    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    Love Softwares for Universe
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...