NEW ! NEW AGE PLUS+ พลังงานใหม่ พลังงานอิสระ.. GRAND NATURE ..

<table id="post4907427" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> วันนี้, 05:53 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #2163 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> วสุธรรม
สมาชิก



วันที่สมัคร: Nov 2008
สถานที่: บ้านคนธรรมดา
อายุ: 48
ข้อความ: 1,844
พลังการให้คะแนน: 637


</td> <td class="alt1" id="td_post_4907427" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> ขออนุโมทนาทุกๆท่านครับ
WE ARE THE WORLD

<table class="tborder" style="margin:10px 0" cellpadding="6" cellspacing="1"> <thead> <tr> <td class="tcat" colspan="2" style="text-align:center"> [ame="http://www.youtube.com/watch?v=M9BNoNFKCBI"]‪USA for Africa - We are the World‬‏ - YouTube[/ame] </td> </tr> </thead> <tbody> <tr> <td class="panelsurround" align="center">
</td> </tr> </tbody> </table>​

__________________
</td></tr></tbody></table>

WE ARE THE WORLD = 23+5+1+18+5+20+8+5+23+15+18+12+4 = 157 = OG = OPENING GRAND

157 = 1+5+7 = 13 = AC =AIR CONDITION
15+7 = 22 = V

ขอขอบคุณข้อมูลคุณวสุธรรม ผู้ซึ่งมาเติมเต็มพลังงานอันเป็นข้อมูลสำคัญ และเป็นผู้ถือกุญแจสำคัญอีกท่านหนึ่ง WE ARE THE WORLD =157 = OG = OPENING GRAND และ 13 =AC = AIR CONDITION ผลลัพธ์สุดท้าย คือ 15+7 = 22 = VICTORY โปรดสังเกตุหมายเลข 44 และ 637 = 6+3+7 = 16 = PLUS 63+7 = 70 = GRAND และ 6+37 = 43 = DATA CONFIRM ซึ่งยืนยันข้อมูลทั้งหมด เมื่อนำความหมายมารวมกันจึง จึงแปลความหมายได้ว่า เป็นปรากฎการณ์อันดีของชาวโลก ในการรวมพลังกันเพื่อการปรับสภาพยกระดับพลังงานใหม่ อันเป็นหนทางในดำรงอยู่ในโลกใหม่ โปรดสังเกตุผลลัพธ์ของ 22 เท่ากับวันที่โพสต์ คือ 22 = VICTORY , 7 = GRAND , 2554 = PLUS

NEW ! NEW AGE พลังงานใหม่

 

สะดุดโพสนี้จัง ดูแล้วบรรยายไม่ได้
รู้แต่ว่าได้พลังงานใหม่อย่างล้นหลาม

 

MY SOUL IS NOW ONE WITH THE UNIVERSE


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=bM75g7Y7MSA]‪VAMPS - MY FIRST LAST [PV]‬&rlm; - YouTube[/ame]

 

*** ผ่านมา ๔ ยุค *****



พระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ และ นิทานพระยากาเผือก

คือเรื่องการกำเนิดพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ในภัทรกัลป์ (กัป)
โดยเกิดจากไข่กาเผือก ๕ ฟอง ซึ่งพลัดกันไป
และมี ไก่ นาค เต่า โค และสิงห์ นำไปเลี้ยง

พระพุทธเจ้าทั้ง ๕ พระองค์นั้นคือ

๑ ไก่ ........ นำไข่ไปฟักออกมาเป็น .... พระกกุสันธะ
๒ นาค ...... นำไข่ไปฟักออกมาเป็น .... พระโกนาคมน์
๓ เต่า ....... นำไข่ไปฟักออกมาเป็น .... พระกัสสป
๔ โค ......... นำไข่ไปฟักออกมาเป็น .... พระสมณโคดม
๕ สิงห์ ...... นำไข่ไปฟักออกมาเป็น .... พระศรีอาริยเมตไตร

อ่านต่อ : http://www.dek-d.com/board/view.php?id=1014321

 

*** ขึ้นยุคใหม่ ****




- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
เพราะรักมีสัจจะ

 

<TABLE id=post979435 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>14-02-2008, 01:15 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#48 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_979435", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Jul 2006
ข้อความ: 11,844
พลังการให้คะแนน: 5128



</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_979435 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->*** เปลี่ยนยุค ****<!-- google_ad_section_end -->

</CENTER>
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->*** โลก ****

โลก มีอายุยาวนานกว่าที่คิดมาก
โลก พัฒนาเกิดอารยธรรมและล่มสลายเป็นยุคๆ

โลก ดำรงอยู่บน "หลักสัจจะธรรม"
คือ ผลการกระทำไม่สูญสลาย เป็นตัวกระทำที่ติดไปกับผู้กระทำ
และมีผลย้อนกลับมาตอบแทน

ทุกสิ่งที่เกิดมา จึงต้องอยู่บนสัจจะธรรม
เมื่อเกิดเป็น มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ ล้วนมีจิตวิญญาณ

เมื่อตายไป แต่กิเลสนิสัยยังไม่หมดสิ้นจากจิตใจ
ผลการกระทำ คือตัวกระทำ จึงจัดสรรให้มาเกิดเป็นสังขารใหม่

ศาสนศาสตร์ แก่นสารของศาสนามีหนึ่งเดียว
คือใช้ความจริง เป็นการเรียนรู้ "หลักสัจจะธรรม"
หลักในธรรมชาติ ที่เที่ยงแท้แน่นอน

การตั้งใจทำความดี ตั้งใจลดกิเลสนิสัย
จึงมีผลให้เกิดการกระทำใหม่ในชีวิตของตนเอง
และ เกิดเป็นตัวกระทำที่ไม่สูญสลาย ติดตัวตลอดไปกับจิตวิญญาณของผู้กระทำ

มนุษย์ สามารถพิจารณาได้ จึงเลือกทำดีทำชั่วได้
มนุษย์ ต่างจากสัตว์และต้นไม้ ที่ต้องชดใช้รับผลกรรมด้วยสังขารและสันดาน
มนุษย์เท่านั้น จึงมีโอกาสหลุดพ้นจากการเกิดใหม่ได้ ด้วยการกระทำของตนเอง

ศาสนาที่นำพาให้สัตว์หลุดพ้น จะคอยสอนให้ฝึกฝนจิตใจตนเอง ให้ลดกิเลสนิสัยด้วยสัจจะ
คือ สัญญาใจตนเองว่าจะทำสิ่งที่ดี ในช่วงกำหนดเวลาที่ชัดเจน

มนุษย์ ผู้ที่ทำได้จริง ตามสัญญาใจตนเอง
จึงเป็น ผู้มีศักยภาพเหนือมนุษย์และสัตว์ทั่วไป
เพราะ มีตัวกระทำที่คอยช่วยเหลือ บอกเตือนตนเองให้ทำสิ่งที่ควรทำ ไม่ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ
จึงเกิดเป็นปฏิหาริย์ รอดพ้นจากผลการกระทำในอดีตได้ ในวันที่กรรมปรากฏ

สิ่งที่กล่าวมา คือเรื่องราวของโลกุตตระธรรม
เป็นธรรมเหนือโลก เพื่อนำพาให้สัตว์หลุดพ้นจากความทุกข์ จากการเกิดใหม่

โลกุตตระ คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นำพาให้มนุษย์ผู้จะทำหน้าที่ศาสดาทุกยุค
ได้พบหลักสัจจะธรรม และพบสัจจะเป็นคำสั่งสอน

ฉะนั้น การสิ้นยุคแต่ละครั้ง คือ การสิ้นยุคอารยธรรมที่เต็มไปด้วยกิเลสนิสัยที่สะสมกันมานาน
มีผลการกระทำไม่ดีมาก จึงเกิดการปรับตัวของธรรมชาติ คือ โลก ดินฟ้าอากาศ
เพื่อคัดสรรให้เหลือเพียงผู้ที่มีผลการกระทำความดีติดตัว
เป็นการคัดเลือกผู้ที่มีความเชื่อตามหลักสัจจะธรรม คนเห็นประโยชน์ของสัจจะ
ให้เข้าสู่ยุคต่อไปที่อุดมสมบูรณ์ หลังการปรับตัวของโลกเรียบร้อยแล้ว

โลกจึงหมุนเวียนสับเปลี่ยนเป็นยุคๆ มาแสนนาน
สำหรับผู้ที่มีความคิดขัดกับหลักสัจจะธรรม ไม่มีความเมตตา โหดร้าย
จิตวิญญาณจะถูกส่งไปอยู่ใต้โลกที่มืดมิด ไม่เห็นแสงเดือน แสงตะวัน ไปนานแสนนาน
จนกว่าโลกจะเปลี่ยนยุค เปลือกโลกปรับตัวครั้งใหญ่ในครั้งต่อไป
จึงจะมีโอกาสได้ผุดขึ้นมาเกิดใหม่เริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ ในสังขารใหม่เป็นมนุษย์ สัตว์ ต้นไม้อีกครั้ง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE id=post1293424 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>20-06-2008, 02:28 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#77 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1293424", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Jul 2006
ข้อความ: 11,845
พลังการให้คะแนน: 5128





</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_1293424 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** กาลสิ้นยุค ****

เมื่อถึงเวลา
ศาสนาหนึ่ง...หมดไป
อีก ศาสนาหนึ่ง....พบว่า แท้จริงแล้วที่กราบอยู่คืออีกศาสนาหนึ่ง

เวลานั้น
คือ...โลกฟ้าใหม่
ศาสนศาสตร์ ....มีเพียงหนึ่ง
แก่นสาร และ การปฏิบัติ...คงเหมือนดั้งเดิม
คือ ....หลักสัจจะธรรม และ สัจจะ
เป็น... โลกุตตระธรรม นำพาสัตว์หลุดพ้นทุกข์

เป็นกำลังใจทุกท่าน ให้รอดพ้นสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล
- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->



</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

*** เขากระต่าย หนวดเต่า ****

<TABLE id=post4908905 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 11:22 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#25211 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->เกษม<!-- google_ad_section_end --> <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4908905", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิตพิเศษ



วันที่สมัคร: Nov 2004
ข้อความ: 7,260
พลังการให้คะแนน: 4830




</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4908905 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->"รามเกียรติ์"ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทย

​

​

​

ข้อมูลทั่วไป - เขาวงพระจันทร์

เขาวงพระจันทร์ บริเวณเชิงเขาจะเป็นที่ตั้งของวัดเขาวงพระจันทร์ จะมีทางบันไดขึ้นไปสู่ยอดเขาประมาณ 3,790 ชั้น ยอดเขานี้สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 650 เมตร ถ้าวัดจากเชิงเขาถึงยอดเขาโดยแนวบันไดจะยาว 1,680 เมตร ใช้เวลาเดินทางจากเชิงเขาถึงยอดเขาประมาณ 2 ชั่วโมง สองข้างทางจะเต็มไปด้วยป่าไม้ขึ้นสลับซับซ้อนเต็มไปหมด บางแห่งจะเป็นที่ลาด บางแห่งจะเป็นที่ชัน เมื่อขึ้นไปถึงยอดเขาวงพระจันทร์จะมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้ไกลสุดสายตา

ในหน้าเทศกาลเดือนสาม ประชาชนโดยเฉพาะชาวไทยเชื้อสายจีนทั้งใกล้และไกลจะหลั่งไหลกันมานมัสการรอยพระพุทธบาทและพระพุทธรูปบนยอดเขาแห่งนี้อย่างเนืองแน่นเป็นประจำทุกปี สิ่งก่อสร้างและรูปแบบของการแสดงความเคารพที่วัดนี้จึงค่อนข้างจะมีอิทธิพลจีนหรือฝ่ายมหายานอยู่มาก เขาวงพระจันทร์ได้ชื่อว่าเป็นเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดลพบุรี และเป็นภูเขาที่สร้างชื่อเสียงให้ผู้คนรู้จักเมืองลพบุรีมาช้านานแล้ว นอกจากนั้นภูเขานี้ยังเป็นที่มาแห่งตำนานเมืองเรื่องท้าวกกขนาก และเรื่องพระเจ้ากงจีน อีกด้วย

ประวัติท้าวกกขนาก

ครั้งนั้นมีอสูรตนหนึ่งชื่อ "ท้าวกกขนาก" ซึ่งเป็นเพื่อนกับปู่เจ้าเขาเขียว ยักษ์ตนนี้ตั้งตนเป็นใหญ่เที่ยวไล่จับมนุษย์กินเป็นอาหาร ร้อนถึงพระรามต้องลงมาปราบ พระองค์ทรงใช้เขากระต่ายมาทำเป็นคันศร ใช้หนวดเต่ามาขึงเป็นสายและใช้หญ้าปล้องทำเป็นลูกศรแผลงไปฆ่าท้าวกกขนาก ฤทธิ์ศรทำให้พญายักษ์กระเด็นจากกรุงลงกาในชมพูทวีปมาตกบริเวณเขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี แต่ยักษ์ตนนี้ยังไม่ตายเพียงแต่สลบไปเพราะฤทธิ์ศรของพระรามเท่านั้น พระรามจึงทรงสาปให้ศรดังกล่าวปักอกตรึงยักษ์ตรงนี้ไว้บนยอดเขาชั่วกัลป์ จะได้ไม่ไปทำอันตรายใครๆ ได้อีก

ศรที่ปักอกท้าวกกขนากนั้นจะคลายความแน่นลงทุกๆ สามปี และถ้าปล่อยให้ลูกศรหลุดจากอกได้เมื่อท้าวกกขนากก็จะกลับฟื้นคืนชีวิต ลุกขึ้นมาจับคนกินหมดทั้งเมือง นอกจากนี้ยังทรงสาปต่ออีกว่า เมื่อใดที่บุตรีของท้าวกกขนากซึ่งมีนามว่านางนงประจันต์ หรือนางพระจันทร์ นำใยบัวมาทอเป็นจีวรจนสำเร็จเป็นผืน เพื่อนำไปถวายแด่พระศรีอาริยะเมตไตรย ที่จะทรงเสด็จมาตรัสรู้ในกาลข้างหน้า ท้าวกกขนากจึงจะพ้นคำสาป ดังนั้นบุตรสาวของงท้าวกกขนาก จึงต้องอยู่คอยปรนนิบัติดูแลพระบิดา และพยายามทอจีวรด้วยใยบัว เพื่อให้เสร็จทันถวายพระศรีอาริยะเมตไตรย ที่เสด็จมาตรัสรู้ในอนาคตกาล

ที่มา http://www3.cdd.go.th/khoksamrong/page3.html<!-- google_ad_section_end -->


<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>







</FIELDSET>


</TD></TR></TBODY></TABLE>
- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

<TABLE id=post3960674 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead> 26-10-2010, 02:43 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #
เรื่องราวในรามเกียรติ์ เกิดขึ้น บนพื้นแผ่นดินไทย หรือ แผ่นดินอินเดีย?

มาแกะรอย จาก ตำนาน นิทาน ที่อาจไม่มีอ่านที่ อินเดียปัจจุบัน แต่สืบทอดอยู่ใน อินเดียโบราณซึ่งเป็นแผ่นดินไทยปัจจุบัน (อ่านแล้วอย่างงครับ เพราะในแผนที่โบราณ อินเดียมี ๒ ที่)

ตำนานนางกวัก
<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O></O>


<O></O>​

<O></O>
ครั้งนั้นมีอสูรตนหนึ่งชื่อ”ท้าวกกขนาก”ซึ่งเป็นเพื่อนกับปู่เจ้าเขาเขียว ยักษ์ตนนี้ตั้งตนเป็นใหญ่เที่ยวไล่จับมนุษย์กินเป็นอาหาร ร้อนถึงพระรามต้องลงมาปราบ พระองค์ทรงใช้เขากระต่ายมาทำเป็นคันศร ใช้หนวดเต่ามาขึงเป็นสายและใช้หญ้าปล้องทำเป็นลูกศรแผลงไปฆ่าท้าวกกขนาก ฤทธิ์ศรทำให้พญายักษ์กระเด็นจากกรุงลงกาในชมพูทวีปมาตกบริเวณเขาวงพระจันทร์ จังหวัดลพบุรี แต่ยักษ์ตนนี้ยังไม่ตายเพียงแต่สลบไปเพราะฤทธิ์ศรของพระรามเท่านั้น พระรามจึงทรงสาปให้ศรดังกล่าวปักอกตรึงยักษ์ตรงนี้ไว้บนยอดเขาชั่วกัลป์ จะได้ไม่ไปทำอันตรายใครๆ ได้ อีก ศรที่ปักอกท้าวกกขนากนั้นจะคลายความแน่นลงทุกๆ สามปี และถ้าปล่อยให้ลูกศรหลุดจากอกได้เมื่อท้าวกกขนากก็จะกลับฟื้นคืนชีวิต ลุกขึ้นมาจับคนกินหมดทั้งเมือง นอกจากนี้ยังทรงสาปต่ออีกว่า

เมื่อใดที่บุตรีของท้าวกกขนาก
ซึ่งมีนามว่า นางนงประจันต์ หรือนางพระจันทร์
นำใยบัวมาทอเป็นจีวรจนสำเร็จเป็นผืน
เพื่อนำไปถวายแด่พระศรีอาริยะเมตไตรย
ที่จะทรงเสด็จมาตรัสรู้ในกาลข้างหน้า
ท้าวกกขนากจึงจะพ้นคำสาป

ดังนั้นบุตรสาวของงท้าวกกขนาก จึงต้องอยู่คอยปรนนิบัติดูแลพระบิดา
และพยายามทอจีวรด้วยใยบัว เพื่อให้เสร็จทันถวายพระศรีอาริยะเมตไตรย ที่เสด็จมาตรัสรู้ในอนาคตกาล
<O></O>
<O></O>
เมื่อบุตรสาวของท้าวกกขนากมาคอยปรนนิบัติพระบิดา และทอจีวรด้วยใยบัวอยู่ที่เขาพระสุเมรุนั้น ทำให้ฐานะความเป็นอยู่ของนางลำบากยากจนขัดสนยิ่งนัก ฝ่ายปู่เจ้าเขาเขียวหรือ ท้าวพนัสบดี ซึ่งเป็นเทพเจ้าชั้นจาตุมหาราชิกาภูมิ คือสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง มีตำแหน่งเป็น <O></O>
จ้าวแห่งป่าเขาลำเนาไพรทั้งปวงเมื่อทราบเรื่องจึงเกิดความสงสาร ได้ส่งแม่นางกวักบุตรสาวมาอยู่เป็นเพื่อน ด้วยบุญฤทธิ์ของนางกวัก จึงบันดาลให้พ่อค้าวานิชและผู้คน เกิดความเมตตาสงสาร พากับเอาทรัพย์สินเงินทอง พร้อมทั้งเครื่องอุปโภค บริโภคมาสู่ที่พักของบุตรีท้าวกกขนากเป็นจำนวนมาก ทำให้ความเป็นอยู่ของนางยักษ์มีความสมบูรณ์พูนสุขและเจริญด้วยลาภทั้งปวง
<O></O>
อีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ท้าวกกขนากหลุดพ้นจากอำนาจของศรของพระรามนั้นมาจากศรที่ปักอกท้าวกกขนากเองจะคลายความแน่นลงทุกๆ สามปี ด้วยความรอบคอบพระรามจึงทรงสั่งให้ไก่แก้วมาคอยเฝ้าท้าวกกขนากไว้ ถ้าเห็นศรเขยื้อนขึ้นเมื่อใด ให้ไก่แก้วขันขึ้นเป็นสัญญาณให้หนุมานได้ยิน หนุมานจะเหาะมาตอกศรกลับตรึงให้แน่นตามเดิม ตามตำนานยังเล่าอีกว่าขณะที่หนุมานตอกศรจะเกิดเป็นประกายไฟกระเด็นลุกไปเผาผลาญบ้านเรือนของชาวเมืองลพบุรี เชื่อกันว่าด้วยเหตุนี้เองจะทำให้เกิดไฟไหม้ ครั้งใหญ่ขึ้นในจังหวัดลพบุรีทุกๆ สามปี นอกจากนี้ศรพระรามที่ปักอกท้าวกกขนาก จะหลุดถอนออกได้โดยง่ายถ้าถูกราดด้วยน้ำส้มสายชู ทำให้ชาวเมืองลพบุรีในสมัยก่อนไม่มีใครกล้านำน้ำส้มสายชูเข้าเมืองเพราะเกรงว่าบุตรีของท้าวกกขนากจะแอบมาขอซื้อไปช่วยบิดาของนาง <O></O>
ลักษณะของแม่นางกวัก เป็นรูปศักดิ์สิทธิ์ที่แกะจากปลายจะงอยของงวงช้าง ซึ่งค่อนข้างหายากในปัจจุบันนี้ จะเห็นกันก็เป็นแต่เพียงรูปปั้นผู้หญิงนั่งพับเพียบ นุ่งซิ่น และห่มผ้าสไบเฉียงแบบคนโบราณ มือซ้ายวางข้างลำตัว หรือถือถุงเงิน มือขวายกขึ้นในลักษณะกวัก ปลายนิ้วงอเข้าหาลำตัว “การยกมือขึ้นในลักษณะกวัก ถ้ามือยกสูงระดับปาก มีความหมายว่า กินไม่หมด หากว่ามือที่กวักอยู่ต่ำกว่าระดับปาก เขาถือว่ากินไม่พอ


</TD></TR></TBODY></TABLE>
*** บุรุษผู้หนึ่ง ****

พระพุทธเจ้าองค์หนึ่งเสด็จมาโปรด
บอกให้บวช
ไปรับ บาตร ... ที่ ดวงอาทิตย์
ไปรับ จีวร .... ที่ เขาวงพระจันทร์
ไปรับ กาน้ำ ... ที่ ซับเหล็ก
จีวรเขาทอเสร็จพอดี

- " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=Om0436LRXCc&feature=related"]‪รามเกียรติ์ (Ramayana - trailer)‬‏ - YouTube[/ame]
OO มีพากษ์ไทยแล้ววด้วยย เอาภาพและเสียง มาแป๊ะให้ค่ะ
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=uqDm07Sgw6A&feature=player_embedded#at=416"]‪??????????? Animation 1/2‬&rlm; - YouTube[/ame]

 

THE SEA



(f)

 

NEW ENERGY !


(f)

 

อย่าได้เป็นห่วงจร๊าา... ผู้ช่วยเยอะ มารทำอะไรไม่ได้อยู่แล้ว
"จักรวาลหมุนอยู่แล้วในตัวของคุณ เพียงแต่พลังงานเก่าำกำลังขัดขวางมัน" ท่าจะจริง บางครั้งสู้จนประมาณว่า"ตายเป็นตาย ขอยอมตาย แต่ไม่ยอมแพ้"ประมาณนั้น

 

ชอบภาพนี้ มีความหมาย อัดพลังเต็มที่ "พลังงานใหม่" กำจัดพลังงานเก่าให้สิ้นซาก ตกเป็นทาสมันมานานแร่ะ พอกันที ถ้าไม่ละสันดานเก่า เกิดกี่ชาติก็เหมือนเดิม ขอบคุณท่านจข.ภาพ

 

ขอบคุณม๊ากๆค๊า จะชำระมันให้หมดไป สู้ตายจ๊จ๊า ^O^
ชอบทะเล มากๆค่ะ สดชื่นแจ่มใส ขอบคุณพี่ๆทุกคน
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=F5WYUILV330&feature=related]‪เพลงแนวทะเล - อันดา ฟ้าใส‬&rlm; - YouTube[/ame]

ู[ame="http://www.youtube.com/watch?v=-Qm8Py-syXA&feature=related"]‪Great Buddhist song‬&rlm; - YouTube[/ame]

 

ู[ame="http://www.youtube.com/watch?v=gVBP5a_-yr4&feature=player_embedded#at=61"]‪Buddhist Meditation Music - Relax‬&rlm; - YouTube[/ame]

 

<table id="post4905821" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> 22-07-2011, 10:49 AM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #2150 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> หนุมาน ผู้นำสาร
สมาชิก

วันที่สมัคร: Jul 2006
ข้อความ: 11,900
พลังการให้คะแนน: 5134


</td> <td class="alt1" id="td_post_4905821" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> *** ดวงดาวแจ่มจำรัส ****



Gaspar
กัสสป
</td></tr></tbody></table>
<table id="post4860503" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> 09-07-2011, 04:53 PM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #2067 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> Little Mermaid
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jun 2008
ข้อความ: 601
พลังการให้คะแนน: 179


</td> <td class="alt1" id="td_post_4860503" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> <center>จิตวิญญาณจะเป็นอิสระ (โบกบินดั่ง "นก")

</center>
<hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1">




</td></tr></tbody></table>
22-07-2011 = 22/7/2554 = 22+7+2+5+5+4 = 45 = DE = DATA ENERGY
10:49 = 10+49 = 59 = EI = ENERGY INTELLEGENCE
#2150 = 21+50 = 71 = GA = GRAND AVAILABLE

Gaspar = 7+1+19+16+1+18 = 62 = FB = FREE BIRD
62 = 8 = HUMANITY

FREE = 6+18+5+5 = 34 =CD = CONECTING DATA
BIRD = 2+9+18+4 =33 = CC = CONCERN
34+33 = 67 = FUNCTION GRAND
67 = 13 = AC = AIR CONDITION

เมื่อดูความหมายของ Gaspar = 62 = FB= FREE BIRD อันหมายถึง จิตวิญญาณจะเป็นอิสระ โบยบินดังนก และยังหมายถึง มนุษยชาติ หากดูความหมายตามลำดัีบ FREE = 6+18+5+5 = 34 = CD =CONECTING DATA และ BIRD = 2+9+18+4 = 33 = CC = CONCERN

เมื่อนำความหมายของ FREE BIRD มารวมกัน จึงแปลความหมายได้ว่า การเชื่อมต่อข้อมูลมายังผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยการนำสิ่งที่มนุษยชาติพึงปฏิบัติคือ GRAND มาเป็นรูปแบบอันหมายถึง การปรับสภาพของมนุษยชาติ อันเหมือนเครื่องปรับอากาศ

จะเห็นได้ว่าหมายเลขกระทู้ และ ข้อมูลอ้างอิงของ คุณ Little Mermaid ซึ่งโพสต์ข้อความมาเมื่้อวันเปิดกระทู้แล้ว ซึ่งมีความหมายสนับสนุน ข้อมูลของคุณหนุมาน ซึ่งต่างเป็นผู้ถือกุญแจสำคัญในการปรับยกระดับพลังงานใหม่ โปรดสังเกตุวันที่ เวลา และหมายเลขกระทู้ของคุณหนุมาน จะเห็นได้ว่า วันที่ 22 = VICTORY , 7 = GRAND , 2554 = PLUS ซึ่งยืนยันและสนับสนุนกันอย่างเห็นได้ชัด

NEW ! NEW AGE พลังงานใหม่

 

*** ดวงดาว ก็คือ สัจจะ ****

ทั่วทั้งจักรวาล ก็ต้องสยบต่อสัจจะ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

โลกแห่ง J & B (ขาว และ ดำ)
มารขาว & มารดำ

ข้าพเจ้าจินตวดีขอขอบพระคุณ กุญแจหลักทุกท่าน ๆ แม้บางโพสต์จะปรากฏข้อความหรือคีย์สำคัญที่ถูก "ลบ" ไปเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่ตามกฏแล้ว ทุกความรู้สึกนึกคิด ลบไม่ได้ แต่สามารถทำให้สมดุลย์ได้ นี่คือ "กฏของจักรวาล"

ขอขอบพระคุณทุกโพสต์ ที่ถูกลบไปแล้วเช่นกัน แต่ทุกโพสต์ของท่าน คือ ข้อมูลสำคัญ สำหรับ NEW NEW AGE

ลบ(B) พบ ลบ (B) เป็น บวก (J) แน่นอน เพราะคิดเหมือนกัน มีความเชื่อคล้ายคลึงกัน แม้จะไม่ใช่ ความจริง อันเป็นสัจธรรม ย่อมมีความรู้สึก ดี ผลิต กระแสดี (J)

บวก (J) พบ บวก(J) เป็น บวก (J) แน่นอน เพราะคิดเหมือนกัน มีความเชื่อคล้ายคลึงกัน แม้จะไม่ใช่ ความจริง อันเป็นสัจธรรม ย่อมมีความรู้สึก ดี ผลิต กระแสดี (J)

ลบ (B)กับ บวก (J)เป็น บวก (J) สีดำ เมื่อ พบสีขาว พบแนวทางปฏิบัตอันงดงาม น่าเลื่อมใส ย่อมเกิดการเลื่อมใส อยากประพฤติ ปฏิบัติตาม ย่อมมีความรู้สึกดี ผลิตกระแสดี (J)

แต่เหตุไฉน บวก (J)เจอ ลบ (B)เป็น ลบ (B) เหตุใดสีขาว เมื่อพบสีดำ จึงเกิดความไม่ชอบใจ ไม่ถูกใจ ตำหนิติเตียนว่าเขา แต่ปราศจากการรู้เห็นว่า ตัวเองนั่นแหละ กำลังผลิต อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด อันเป็นลบขึ้นมา (B)

มนุษย์ปราศจากการรู้เห็นว่า การปราศจากความเข้าใจในธรรมชาติความเป็นจริงของความเป็นสีดำ (B) และ สีขาว (J) ที่จำเป็นต้องมีเพื่อความสมดุลย์ในการ "เรียนรู้ และ พัฒนา" ซึ่งทั้ง J และ B ต่างเป็นตัวการ (เหตุ) ในการสร้างชาติภพของมนุษย์นั่นเองตราบเท่าที่ ความเข้าใจยังไม่เกิดขึ้น

หากมนุษย์เรียก สิ่งที่ทำให้มนุษย์ติดอยู่กับ โลก และไม่สามารถก้าวผ่านจากโลก หรือ โลกแห่งปรากฏการณ์ หรือ โลกแห่ง "กิเลส" ว่า "มาร"

ทั้ง J และ B สมควรถูกเรียกว่า "มารขาว" และ "มารดำ"

เพราะทั้ง J และ B ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้มนุษย์เกิด "อัตตา" และยังทำให้มนุษย์ก้าวไม่พ้น และยังคงวนเวียนอยู่ในโลกต่อไป จนกว่า จะเกิดกระบวนการเปลี่ยนความเชื่อ ให้เป็นความรู้ หรือ เกิดความเข้าใจถึงแก่นแท้ว่า ความเชื่อของตนเองเท่านั้น ที่กำลังสร้าง "โลก" หรือ ชาติภพของตนเองขึ้นอย่างไม่สิ้นสุด

โลกแห่งปรากฏการณ์ จำเป็นต้องมี สีขาว หรือ สีดำ (หลัก ๆของ "ของคู่") เพื่อการเรียนรู้ เพื่อดุลยภาพของการเรียนรู้ทุกแง่มุม

ดังนั้น มนุษย์จึงจำเป็นต้องมีทั้ง J และ B ปรากฏพร้อมกัน

เมื่อ B (ดำ,ความชั่วร้าย ตามมุมมองความเชื่อของตน) เจอ J (ขาว,ความดีงาม ตามมุมมองความเชื่อของตน) เกิดความซาบซึ้ง เปลี่ยนความประพฤติกลายเป็น J (ขาว, ความดีงาม ตามมุมมอง ความเชื่อของตน)

แต่เมื่อตัวเองกลายเป็น J (ขาว,ความดีงาม ตามมุมมองความเชื่อของตน) เมื่อพบ B (ดำ,ความชั่วร้าย ตามมุมมองความเชื่อของตน) กลับลืมเลือนว่า ครั้งหนึ่ง "เธอก็เคยเป็นเช่นนั้น"( เธอลืมไปแล้ว) กลับกล่าวตำหนิติเตียนเขา ผลิตอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดอันเป็นลบ และเผลอใช้ "ความดีงามส่วนตน" ตัดสินผู้อื่น ด้วยความคิดและความเชื่อของตนเอง

ทั้งสองความเชื่อของ J และ B ทำให้มนุษย์ก้าวไม่พ้นคำว่า "อัตตา" ที่มนุษย์สร้างขึ้นมาตามความเชื่อ หรือ ภาวะมุมมองของตัวมนุษย์เอง

อัตตา หรือ ความเชื่อ สร้าง "โลกแห่งปรากฏการณ์"

โลกแห่งปรากฏการณ์ คือ โลกแห่งการเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้

โลกแห่งการเปลี่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้ คือ เปลี่ยนความเชื่อ ให้เป็นความจริง คือ เข้าใจถึงแก่นแท้ของธรรมชาติของจิตวิญญาณ ที่ไม่มีดำ มีขาว มีแต่ "การเรียนรู้ พัฒนา และ สร้างสรรค์ เท่านั้น


ถ้าอยากก้าวพ้นโลก ของปรากฏการณ์ มนุษย์จำเป็นต้องก้าวผ่าน ความเชื่อส่วนตัวที่ถูกสร้างขึ้นตามภาวะมุมมองเฉพาะของมนุษย์เอง

มนุษย์ เมื่อก้าวพ้น "สีดำ" เป็น "สีขาว" แต่ยังคงติดอยู่กับ "สีขาว" จนก้าวพ้นไม่ได้

ทั้ง สีดำ (B) และ สีขาว (J) กลับกลายเป็น "มาร" ที่ทำให้ท่านทั้งหลายยังคงยึดติดอยู่กับโลก (ติดกับอัตตาตนเอง)

GRAND (สัจจะ หรือ ความจริง)

สิ่งสำคัญ (GRAND) คือ ท่านปราศจากการรู้เห็นว่า ทั้ง J และ B ที่แวดล้อมท่านอยู่ในโลกแห่งปรากฏการณ์ นั้น คือ "ตัวท่านเองทั้งสิ้น"

ข้าพเจ้าเคยกล่าวไว้แล้วว่า โลกนี้ ประกอบไปด้วยสรรพเสียงมากมาย และ วัตถุสิ่งของมากมายที่ท่านปราศจาก "การรู้เห็น"

"คลื่น" หรือ WAVE ก็มีมากมายที่ท่านปราศจากการรู้เห็น เหมือนกับท่านกำลังวิทยุ วิทยุประกอบไปด้วยคลื่นมากมาย แต่ละคลื่น หรือ มิติ ต่างก็มี "ความถี่" ที่แตกต่างกันไป

เราทุกคน ต่างก็กำลัง ดำรงอยู่ในโลก ที่มีคลื่นความถี่เฉพาะ การที่เรามองเห็นกันและกันได้ นั่นแสดงว่า เราอยู่ในคลื่นที่มีความถี่เหมือนกัน หรือ ตรงกัน พูดได้ว่า "ขณะนี้กำลังดำรงอยู่ในชาติภพเดียวกัน"

หากสมมุติว่า ปัจจุบัน A และ B อยู่ในคลื่นความถี่ที่ 100 A และ B เป็นเพื่อนกัน

A (B ,ความไม่ดี) เป็นคนขี้เหล้า เมายา ชอบการพนัน ขี้เกียจ และ ลักขโมย
B (J, ความดีงาม) เป็นคนทำมาหากิน ไม่ทานเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ขยัน

B ชอบด่าว่า และชอบพูดถึง A ว่าเป็นคนไม่ดี ในขณะที่ A ก็ชอบพูดถึง B ว่า ชอบทำตัวเองเป็นคนดี มีศีล มีธรรม

ทั้งสอง ปราศจากการรู้เห็นว่า ในอีกคลื่นหนึ่ง เช่น คลื่นที่ 101 ทั้ง ทั้ง A และ B ต่างก็กำลังปรากฏเป็นนักแสดงเช่นกัน แต่กำลังเล่นบทบาท สลับขั้วกันอยู่ ทั้งนี้ทุกอย่างถูกกำหนดให้ เกิดขึ้นเพื่อความสมดุลย์ในการเรียนรู้ หรือ กฏแห่งดุลยภาพ (JUSTICE)

ทุกคลื่น (ทุกเวลา , ชาติภพ) ทุกมิติ เกิดขึ้นพร้อมกันหมด โดยมีพื้นฐานอยู่บนความสมดุลย์ในการเรียนรู้

อุบัติเหตุ คือ เหตุการณ์ที่ปรากฏขึ้นเพื่อ การเรียนรู้

ทุกครั้งที่ท่านตัดสินอะไร จากภาวะมุมมองส่วนตัวของท่านที่เกิดจากความเชื่อ อันไม่ใช่ความจริง ในปัจจุบันขณะนั้น ท่านกำลังสร้างเส้นทาง ความเป็นไปได้ของชาติภพของท่านในเส้นทางตรงกันข้ามเพื่อการเรียนรู้ในแง่มุมที่กลับกัน และท่านทั้งหลายต่างก็สลับกันเรียนรู้ เป็นตัวตนในชาติภพต่าง ๆนี้ พร้อมกันหมด

เส้นทางของ อดีต ปัจจุบัน อนาคต เกิดขึ้นพร้อมกันหมดเป็นปัจจุบัน (เพียงแต่แตกต่างกันในคลื่นความถี่)

อดีต และ อนาคต แก้ไขได้ จาก ปัจจุบัน (จุดตัด)

เมื่อจิตวิญญาณทั้งหลาย เกิดความเข้าใจ และ เกิดการเรียนรู้ กระบวนการชาติภพใน "โลก" ก็สมบูรณ์

ทุกอย่าง ล้วนเป็น "ธรรมดา"
เราสามารถเรียนรู้ที่ก้าวพ้นโลกได้จาก "ธรรมดา"
เมื่อเราเข้าใจ "ความเป็นธรรมดา" เราจะปราศจาก มิตร และ ศํตรู

"ไม่มีมิตร (J) หรือ ศัตรู (B) ทุกคนล้วนเป็นเพื่อนเกิดแก่เจ็บตาย


ขอขอบพระคุณ


จินตวดี