ด่านซ้าย-พระธาตุศรีสองรัก-วัดเนรมิตวิปัสสนา-ผีตาโขน

๒ ก.ค.ไปเช้า-เย็นกลับ ด่านซ้าย งานผีตาโขน
รถทัวร์ออกจากหมอชิต ๒ ก.ค. ๐๐ น. ๖ นาที ช้ากว่ากำหนดเดิม(๔ ทุ่ม ของ ๑ ก.ค.)เดินทางถีงด่านซ้าย ๗ โมงเช้าวันที่ ๒ ก.ค.
กำหนดการงานผีตาโขนมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยแต่ก็เริ่มเวลา ๙ โมงครึ่งจนถึงแค่เที่ยง
ตอนเช้าผมมีเวลาเหลือ ๒ ชั่วโมงครี่งก่อนงานและตอนบ่ายมีเวลาเหลือก่อนรถทัวร์ออก หลายชั่วโมง
ก็เดินเล่นรอบๆด่านซ้าย ๑-๒ กิโลเมตร
ตอนเช้าเริ่มที่พระธาตุศรีสองรัก ครับ
ตอนบ่ายเดินวัดเนรมิตวิปัสสนา

 

ที่ผมไปเที่ยวมาก็เอามาให้ดูเป็น Sample แบบ สารบัญเรื่องครับ




พระธาตุศรีสองรัก







พระประธานปางเรือนแก้วในโบสถ์วัดเนรมิตวิปัสสนา










ตัวจริงของผีตาโขน









รูพญานาคที่วัดโพนชัย ศูนย์กลางผีตาโขน

 

ไปทำบุญมาครับ
เอาบุญและพร จากพระธาตุศรีสองรัก มาฝากทุกๆท่านครับ

 

เริ่องราวพระธาตุศรีสองรักครับ
ผมนำมาจากกระทู้ในเว็บบ์พลังจิตที่เคยมีผู้โพสต์ไว้แล้วนะครับ
เพื่อป้องกันกฎหมายที่เกี่ยวกับ Internet
................................................................................
<table class="tborder" style="border-bottom-width: 0px;" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="tcat" width="100%">
</td> <td style="cursor: pointer;" class="vbmenu_control" id="threadtools" nowrap="nowrap">
</td> <td style="cursor: pointer;" class="vbmenu_control" id="threadrating" nowrap="nowrap">
</td><td style="cursor: pointer;" class="vbmenu_control" id="displaymodes" nowrap="nowrap">
</td></tr></tbody></table>

<table id="post3033379" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 0px 1px 1px; border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); -moz-border-top-colors: none; -moz-border-right-colors: none; -moz-border-bottom-colors: none; -moz-border-left-colors: none; -moz-border-image: none;">
</td> <td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; -moz-border-top-colors: none; -moz-border-right-colors: none; -moz-border-bottom-colors: none; -moz-border-left-colors: none; -moz-border-image: none;" align="right">
</td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-left: 1px solid rgb(255, 255, 255); -moz-border-top-colors: none; -moz-border-right-colors: none; -moz-border-bottom-colors: none; -moz-border-left-colors: none; -moz-border-image: none; border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175"> PaLungJit.com > ทั่วไป > ท่องเที่ยว - อาหารการกิน "พระธาตุศรีสองรัก" เขตปลอดสีแดง


03-03-2010, 05:33 PM
vacharaphol
สมาชิก

</td></tr></tbody></table>
<table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ปิ่น บุตรี</td><td class="date" align="left" valign="baseline">3 มีนาคม 2553 16:43 น.</td></tr></tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="center">
</td></tr></tbody></table> โดย : ปิ่น บุตรี
เลย เป็นจังหวัดที่ผมไปไม่ถึงสักที เพราะไปทีไร“เลย”ทู้กที

แต่ถึงกระนั้นเวลาไปเลย ส่วนใหญ่ผมจะไปแวะกินไก่ย่างที่วิเชียรบุรี ก่อนไปต่อในเส้นทางเพชรบูรณ์-หล่มสัก-หล่มเก่า แล้วเข้าเขตจังหวัดเลยที่ ด่านซ้าย อำเภอที่มีประเพณีผีตาโขนอันลือลั่น

และเกือบทุกครั้งที่มาด่านซ้ายสิ่งหนึ่งที่ผมมักไม่พลาดก็คือการไปแวะกราบสักการะ“พระธาตุศรีสองรัก”ที่ วัดพระธาตุศรีสองรัก เสริมสิริมงคล ส่วนถ้าทริปไหนมีเวลาเหลือเฟือผมจะเที่ยวควบ 2 วัดไปเลย คือวัดพระธาตุศรีสองรักและวัดเนรมิตวิปัสสนา(หัวนายูง)ที่อยู่ใกล้ๆกัน

เหตุที่ไปด่านซ้ายแล้วต้องแวะสักการะพระธาตุศรีสองรักเกือบทุกทีไป เพราะพระธาตุองค์นี้มีความน่าสนใจยิ่ง ทั้งความศักดิ์สิทธิ์ ความสำคัญ ประวัติความเป็นมา และตัวสถาปัตยกรรม ซึ่งเมื่อเดินเข้าเขตวัดจะเห็นเส้นทางทอดยาวนำสู่องค์พระธาตุ สองข้างทางประดับเรียงรายไปด้วยเสาสูงประมาณเหนือเอวนิดๆบนหัวเสามีพานพุ่ม ทองเหลืองประดับ จำลองแบบมาจากต้นผึ้งที่ใช้ในพิธีบูชาสมโภชพระธาตุศรีสองรักนั่นเอง


จากนั้นทางเดินจะนำไปสู่บันไดทางขึ้นเนินประดิษฐานองค์พระธาตุ ซึ่งด้านขวามือจะเป็นอุทยานการศึกษา พิพิธภัณฑ์(ท้องถิ่น)พระธาตุศรีสองรัก ภายในมีสิ่งน่าสนใจ อาทิ พระพุทธรูป ข้าวของเครื่องใช้ ไม้กลายเป็นหิน ลูกปัด เป็นต้น แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าคนไม่ค่อยเข้าไปชมในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้เลย มักจะเดินเลยผ่านไป ทั้งขาขึ้นไปไหว้พระธาตุ หรือขากลับจากไหว้พระธาตุ เรียกว่าคนสนใจน้อยกว่าร้านขายของที่ระลึกตรงหน้าทางเดินเสียอีก

ถัดจากช่วงนี้ไปเป็นบันไดทางขึ้น มีซุ้มประตูสีขาวเด่นตั้งตระหง่านรอรับผู้ขึ้น-ลง บนบันไดที่แบ่งแยกทางขึ้น-ลงชัดเจน 2 ฟากของราวบันไดมีพญานาครูปร่างแปลก เป็นนาคหัวแหลมไม่มีหงอน บริเวณส่วนหัวประดับไปด้วยกระจกหลากสีสัน ไม่มีเครื่องทรง ลักษณะกำลังเลื้อยแข็งๆอ้าปากทักทายผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย ใครจะขึ้นไปไหว้พระธาตุกรุณาอ่านข้อห้าม-คำเตือนของทางวัดให้ดี แล้วจึงค่อยเดินขึ้นไปไหว้องค์พระธาตุที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนเนินเขาริม ลำน้ำหมัน


รอบบริเวณองค์พระธาตุร่มรื่นไปด้วยต้นลั่นทมหรือลีลาวดีที่หากไปถูกช่วงถูก จังหวะ ลั่นทมจะออกดอกสีขาวนวลส่งกลิ่นหอมเย็นเป็นที่ชื่นใจนัก ส่วนบริเวณด้านหน้าองค์พระธาตุเป็นมณฑปพระธาตุ ภายในมีพระพุทธรูปนาคปรกอันเก่าแก่ให้สักการะบูชา รวมถึงยังเป็นที่สำหรับปิดทองบูชาองค์พระธาตุด้วย(ห้ามผู้หญิงขึ้น)

แล้วถัดไปอีกไม่กี่ก้าวก็เป็นองค์พระธาตุศรีสองรักสีขาวตั้งเด่นเป็นสง่าที่ ไม่เพียงเป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตใจของชาวอำเภอด่านซ้ายและ จังหวัดเลยเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเคารพศรัทธาของชาวลาวที่อยู่อีกฟากฝั่งของลำน้ำเหืองอีกด้วย ซึ่งเรื่องนี้สืบเนื่องมาจากตำนานการสร้างพระธาตุที่ระบุว่า

พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2103 สมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือกันระหว่างพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุง ศรีอยุธยา(ไทย)และพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชแห่งอาณาจักรล้านช้าง(ลาว) เนื่องจากยุคนั้นกรุงศรีอยุธยาถูกพม่ารุกรานบ่อยครั้ง กษัตริย์ทั้งสองพระองค์จึงเห็นว่าควรจับมือกันเพื่อความมั่นคง จึงได้กระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน พร้อมได้ร่วมกันสร้างเจดีย์ขึ้นถวายมีพระนามว่า“พระธาตุศรีสองรัก”เป็นดัง สักขีพยานแห่งสัจจะไมตรี และความรักความผูกพันที่มีต่อกันของสองอาณาจักร(ไทย-ลาว)สืบไป



พระธาตุศรีสองรัก มีความพิเศษเพราะเป็นอุเทสิกเจดีย์ ที่หมายถึงเจดีย์ที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับพระศาสนาโดยไม่กำหนดว่าต้อง เก็บรักษาสิ่งใด แต่ก็มีหลายคนเชื่อว่ากษัตริย์ทั้งสองพระองค์น่าจะนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาทิ พระพุทธรูป พระธรรมคัมภีร์บรรจุไว้ตามความเชื่อในศาสนาพุทธ

นอกจากนี้ยังมีตำนานความเชื่อว่า พระธาตุศรีสองรักมี“นายมั่นนายคง”ยอม อุทิศชีวิตเป็นข้าคอยเฝ้าไปชั่วนิรันดร์ และตำนานเรื่องเจ้าพ่อกวน-เจ้าแม่นางเทียมว่า เป็นวิญญาณของชาย-หญิงที่ถูกกีดกันในความรักและมาเสียชีวิตลงที่พระธาตุแห่ง นี้ ซึ่งทั้งคู่หนีเข้าไปในอุโมงค์ตอนก่อสร้างองค์พระธาตุ แต่ว่าช่างไม่รู้จึงได้ก่อสร้างปิดอุโมงค์จนทั้งสองเสียชีวิตกลายเป็นวิญญาณ ที่คอยเฝ้าปกปักรักษาองค์พระธาตุศรีสองรักมาจนถึงทุกวันนี้

จากตำนานมาถึงรูปแบบทางสถาปัตยกรรมขององค์พระธาตุกันบ้าง พระธาตุองค์นี้เป็นศิลปกรรมแบบล้านช้าง ก่ออิฐถือปูน สูงประมาณ 30 เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมไม้สิบสอง องค์ระฆังเป็นทรง“บัวเหลี่ยม” สัณฐานคล้ายกับพระธาตุพนม แต่ว่ามีลักษณะอวบป้อมกว่า



ทุกๆปี ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 (วันเพ็ญวิสาขบูชา)ชาวอำเภอด่านซ้ายจะจัดงานสมโภชพระธาตุศรีสองรักขึ้น โดยชาวบ้านจะพร้อมใจกันนำ“ต้นผึ้ง”หรือ“ต้นดอกเผิ่ง”(ในภาษา อีสาน) ทำจากโครงไม้ไผ่ทรงสามเหลี่ยมหรือทรงปราสาท กรุรอบด้วยลวดลายการแทงหยวก ประดับด้วยดอกผึ้งที่ทำจากแผ่นเทียนกลมๆบางๆ นำไปตากแดดก่อนจับเป็นกลีบ ตกแต่งเป็นต้นผึ้ง มีดอกบานไม่รู้โรยหรือขมิ้นหั่นเล็กๆติดตรงกลางแทนเกสรดอกไม้ แล้วจึงนำมาบูชาถวายแด่องค์พระธาตุ ซึ่งแต่ละปีจะมีชาวด่านซ้ายและชาวเลยมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตามในวันที่ผมไปพระธาตุศรีสองรักหนล่าสุดนั้นไม่ใช่วันวิสาขบูชา แต่ก็มีโอกาสได้เห็นต้นผึ้งวางถวายองค์พระธาตุอยู่เป็นจำนวนมาก นั่นจึงทำให้ผมฉงนใจเดินไปถามคุณลุงผู้ดูแลพระธาตุว่า “ต้นผึ้งเหล่านี้มาได้อย่างไร?”

“อ๋อ มีคนเขานำมาแก้บนนะ ที่นี่เขาเชื่อกันว่า ใครที่มาขอพรองค์พระธาตุแล้วบนด้วยต้นผึ้ง มักจะสมหวัง”คุณลุงอธิบาย


นอกจากความเชื่อเรื่องต้นผึ้งแล้ว พระธาตุศรีสองรักมีข้อห้ามบางประการเขียนติดไว้ตรงบันไดทางขึ้น คือ ห้ามกางร่ม ห้ามนำอาหาร-ขนม ห้ามสวมรองเท้า ขึ้นไปสักการะบูชา รวมถึงมีข้อห้ามสำคัญอันมาจากความเชื่อสำคัญ นั่นก็คือ ห้ามแต่งกายด้วยชุดสีแดง ห้ามนำสิ่งของที่มีสีแดง ดอกไม้แดง ขึ้นไปบูชา เพราะพระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อความรักสมัครสมาน เพื่อสัจจะไมตรี แต่สีแดงเป็นสีของเลือดและความรุนแรง สมควรที่คนไปไหว้พระธาตุศรีสองรักจำเป็นต้องปฏิตามอย่างเคร่งครัด ไม่ควรลบหลู่แต่อย่างใด

Travel - Manager Online


<table id="post3033379" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight: normal; border-width: 1px 1px 1px 0px; border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; -moz-border-top-colors: none; -moz-border-right-colors: none; -moz-border-bottom-colors: none; -moz-border-left-colors: none; -moz-border-image: none;" align="right">
</td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-left: 1px solid rgb(255, 255, 255); -moz-border-top-colors: none; -moz-border-right-colors: none; -moz-border-bottom-colors: none; -moz-border-left-colors: none; -moz-border-image: none; border-width: 0px 1px; border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255);" width="175">
</td> <td class="alt1" id="td_post_3033379" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);">
</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px; border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); -moz-border-top-colors: none; -moz-border-right-colors: none; -moz-border-bottom-colors: none; -moz-border-left-colors: none; -moz-border-image: none;">
</td> <td class="alt1" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px 0px; border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; -moz-border-top-colors: none; -moz-border-right-colors: none; -moz-border-bottom-colors: none; -moz-border-left-colors: none; -moz-border-image: none;" align="right">
</td></tr></tbody></table>

 

เดินขึ้นไปไหว้พระธาตุกันเลยครับ
สองข้างทางมีเสา หัวเสารูปต้นผึ้ง(สำหรับบูชาพระธาตุ)







หัวเสาสร้างตามแบบต้นผึ้ง

 

เดินต่อขึ้นไปครับ
เดี๋ยวขึ้นบันไดแล้วลอดซุ้มประตูสีขาวข้างบนโน้นเข้าไป











อุทยานการศึกษา อยู่ข้างทางเดิน
ผมไปถึงตอนเช้า อาคารยังไม่เปิด แต่ปกตินักท่องเที่ยวจะมีเวลาน้อยมักเดินผ่านขึ้นไปที่พระธาตุโดยตรง

 

ใครจะไปสักการะพระธาตุต้องดูข้อห้ามไว้หน่อยครับ

 

ขึ้นบันไดนาค Design แปลกตา
พญานาคที่นี่ไม่ได้ออกจากปากจรเข้เหมือนที่วัดอื่นๆ








ขึ้นบันได จะถึงแล้วครับ

 

ขึ้นมาข้างบนถึงโบสถ์แล้ว(น่าจะเรียกว่าโบสถ์เพราะมีใบเสมาเก่าตั้งอยู่ด้านนอก)
ยอดพระธาตุที่อยู่หลังโบสถ์เอียงออกมาทางซ้ายโผล่พ้นหลังคาโบสถ์
พระธาตุเอนด่านซ้าย คล้ายๆ หอเอนปิซ่า

 

จุดเทียนธูปสักการะพระธาตุตรงหน้าโบสถ์
ตรงกลางโบสถ์ด้านในมีประตูกระจกและถัดไปเป็นประตูไม้
หลังประตูไม้เป็นห้องเล็กๆสำหรับตั้งพระประธาน
จะเปิดเฉพาะวันพระ วันนี้ปิด ผมอดดู







คำบูชาพระธาตุ

 

ในสุดของโบสถ์
มองทะลุประตูกระจกเป็นประตูไม้บานใหญ่แกะสลักลายทอง โบราณดีครับ

 

ผู้เฒ่าผู้แก่ผู้ศรัทธามาสักการะไม่ขาดสาย
ใช้ต้นผึ้งเป็นเครื่องบูชาครับ(ไม้ไผ่ก้านกล้วยประกอบดอกไม้เทียนหรือชิ้นเทียนเล็กๆ)







ต้นผึ้ง

 

ออกไปเดินเวียน ๓ รอบ สักการะ พระธาตุครับ

พระธาตุเอียงเห็นกันชัดๆครับ แม้แต่องค์เล็กที่รั้วเค้ายังทำเอียงไปทางเดียวกัน








คนที่เฝ้าพระธาตุเค้าบอกว่าพระธาตุนี้ไม่มีเงาครับ(เงาสีเทา--เงาไม่มืดทึบ)
ผมว่าคนออกแบบสร้างสมัย ๔๐๐ กว่าปีที่แล้วมีความรู้เรื่องแสง--เงา เป็นอย่างดี
คือฐานกว้าง--มีแง่มุมสะท้อนแสงเพื่อลบเงาและก็ทาสีขาวลบเงาซ้ำอีก








ยอดพระธาตุครับ

 

สถานะภาพของวัดพระธาตุสรีสองรักยังมีความสับสนว่าเป็นวัดหรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เพื่อประกอบพิธีกรรมของตระกูลหนึ่งในอำเภอด่านซ้าย
แต่สำหรับนักท่องเที่ยวก็คงไปไหว้ในลักษณะของวัดและพระธาตุตามแนวพุทธศาสนา
ดังนั้นที่พระธาตุนี้จึงมีรูปของผู้ใหญ่ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับพิธีต่างๆที่พระธาตุนี้หรือผู้นำประเพณีท้องถิ่นเพิ่มจากวัดทั่วๆไป

 

เสี่ยงเซียมซีที่โบสถ์แล้ว
ถ้าไม่อยากนำใบเซียมซีกลับบ้าน ก็เหน็บไว้ที่ต้นไม้ต้นนี้
ทุกวันนี้ใบเซียมซีแน่นแล้วก็เริ่มกระจายไปเหน็บที่ต้นอื่น






ไปต่อครับ
ความจริงตัวอำเภอด่านซ้ายอยู่ห่างไปอีก ๒ กิโลเมตร จากพระธาตุฯ

 

วัดเนรมิตวิปัสสนา
วัดนี้เน้นการประดับตกแต่งภายในสวยงามมากด้วยบารมีท่านเจ้าอาวาสท่านเดิม
ขณะอยู่ในโบสถ์ เวลามีคนเดินเข้ามา ผมได้ยินเสียง อุทานบ่อยมาก "โอ้โฮ! สวยจัง"
ไปด่านซ้ายก็อย่าพลาดครับเพราะอยู่ห่างจากพระธาตุศรีสองรักแค่กิโลเดียว(ผมเดินไป-กลับ)
ผมพยายามหาลอกข้อมูลจากเว็บบ์พลังจิตแต่พบว่าเป็นข้อความที่มาจากหมูหิน
งานนี้ผมต้องเขียนเรื่องประวัติย่อของเจ้าอาวาสขึ้นมาตาม จารึกของวัดและค้นเพิ่มอีกนิดหน่อย
เพื่อเป็นการให้เกียรติและประกาศให้สาธารณะรู้จักท่าน
............................................................................
ประวัติพระครูภาวณาวิสุทธิญาณ อดีตรองเจ้าคณะอำเภอด่านซ้าย เจ้าอาวาสวัดเนรมิตวิปัสสนา
นามเดิมชื่อ พันธ์ สุขเป็ง เกิดเมื่อ ๕ พ.ค. ๒๔๖๔ ที่บ้านหนองเหล็ก ตำบลหนองบัวทอง อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
บิดาชื่อ แก่น มารดาชื่อ บุญตา มีพี่น้อง ชาย๘คนหญิง๒คน ท่านเป็นบุตรคนที่ ๕
บวชเมื่อ ๙ พ.ค. ๒๔๘๗ อายุ ๒๓ ปี ณ วัดเหนือ อำเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์
ได้ฉายาว่า"หลวงพ่อมหาพันธ์ สีลวิสุทโธ"
เคยเรียนวิปัสสนาที่วัดเพลงวิปัสสนา(กรุงเทพฯ)สามารถนั่งสมาธิได้ ๗ วัน ๗ คืน
ท่านละสังขาร ๒๐ ก.ย. ๒๕๔๐
สังขารของท่านบรรจุในหีบทองตั้งในมณฑปข้างๆโบสถ์
วัตถุมงคลของท่านคือ ผ้าขาวชิ้นเล็กๆ ให้ลูกศิษย์(ชาวด่านซ้ายช่วยขยายความด้วยครับ)
นับถือกันว่าเป็นอริยะสงฆ์ ของชาวด่านซ้าย

 

ศาลาเชิงเขา ก่อนเดินขึ้นไปบนโบสถ์
เป็นที่ใช้รับแขกในสมัยก่อน








เดินผ่านพี่สิงห์ขึ้นไปดูครับ






บนศาลาที่หลวงพ่อเคยใช้
ปัจจุบันญาติโยมจะไปทำบุญที่โบสถ์(ห่างไป ๑๕๐ เมตร)กันหมด

 

ซุ้มประตูทางขึ้นจากที่จอดรถ เข้าตรงถึงโบสถ์
ตัวผมเดินมาจึงขึ้นทางด้านศาลาเดิมของหลวงพ่อ









มณฑปเก็บสรีระหลวงพ่อ--กลางภาพ
โบสถ์ด้านขวาของภาพ
ทั้งหมดใช้ศิลาแลงเป็นวัสดุสร้างภายนอก