บอกเล่าเก้าสิบเอ็ด...ประสบการณ์เรื่องเล่า

ด้วยหน้าที่การงานทำให้แขวนพระเครื่องหรือเครื่องประดับอะไรพร้อมๆกัน ไม่ค่อยได้เท่าไหร่ (ไม่ใช้ดารา หรือนางแบบนะคะ อิ อิ)
ประกอบกับเป็นคนที่ระคายเคืองง่าย เหน็บก็ยังรู้สึกเจ็บ
เลยไม่ค่อยได้ใช้ลูกอมเลยค่ะ มีใครพอทราบไหมค่ะ ถ้าหากเราไม่ค่อยได้ใช้ พรายทั้งหลายจะยังอยู่กับเราไหมค่ะ หรือว่าจะยังมีอิทธฤทธิ์เหมือนเดิมหรือเปล่า แต่มีสวดมนต์ทำสมาธิและแผ่บุญกุศลไปให้พวกเค้าทุกวัน

 

พรายไม่ไปไหนหรอกครับพี่......เว้นแต่เค้าได้ไปอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้น
ยิ่งเราทำบุญให้มากยิ่งดีคครับ บุญจากสมาธิเป็นบุญที่ใหญ่มากๆ
ยิ่งเราหมั่นทำบุญบ่อย จะเห็นความแตกต่างๆ ได้แน่นอน ผมว่ายิ่งมีฤทธิ์เยอะด้วยซ้ำ
หากเขาจะไปจริงๆ คงจะต้องมาบอกแก่เราไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ของบางสิ่งจริงๆ ก็ไม่ต้องห้อยต้องแขวน เพียงระลึกถึงก็เพียงพอ

 

ขอบคุณค่ะน้าต๋อย นี่เป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้บูชาลูกอมประเภทพราย กลัวทำไม่ถูกและกลัวพวกเค้าน้อยใจ
คำตอบของน้าต๋อยทำให้มั่นใจมากขึ้นค่ะ
คุณหนุ่มบอกให้ถวายน้ำ ก็มีทำบ้าง แต่ก็มีลืมบางทีก็หลายวันเปลี่ยนที..เดี๋ยวจะพยายามทำให้ได้ทุกวันค่ะ

 

ลูกสาวพี่นี่ไม่เบาเหมือนกันนะครับ....55
หากมีเวลาก้ขอเชิญชวนครับ หวังว่าพอใกล้วันคงจะเป็น 80/20 หรือ 100 ไปเลย
แต่จากสกลนครมาสระบุรีนี่ ระยะทางก็ไม่ใช่ย่อย เกรงว่าจะลำบาก
ส่วนท่านเชกูวาร่า ขวัญใจบ้านดอน ก็อยู่ถึงสุโขทัยนู่น.... ก็ไกลไม่แพ้กัน
ถ้ามาได้จริงๆ ก็จะดีไม่น้อย ผมไม่ได้อยากให้งานวันนั้น...ดูยิ่งใหญ่ แต่ผมอยากให้ท่าน
ที่มาจากทางไกลมาแล้ว....รู้สึกว่ามาแล้วคุ้มค่าทุกนาที ยิ่งกว่าดูทีวีสีช่อง 3

 

ของผมยังไม่แน่ใจครับพี่ในคิวเดือนพฤษภา คิดว่าจะไปแน่ๆ ก็วันสุดท้ายของพิธีเสกวันที่ 23 ตุลา ที่วัดหนองสะเดา เพราะจะได้ช่วยงานหลวงพ่อด้วยครับพี่ ในวันที่ 21 สิงหาก็คิดว่าจะไปไหว้ครูอาจารย์ประคองไปลงเข็มทองอีก เดินทางแต่ละครั้งก็ต้องใช้ปัจจัยหลายอยู่ เลยต้องคำนวนดูก่อนครับว่าจะพอมีกำลังไหวไหม

 

ผมมีเรื่องเล่า...พรายมงคล(กรุณาใช้วิจารณญาน เป็นความเชื่อส่วนตัวครับ).
เมื่อคืนตื่นขึ้นมาดูฟุตบอลแมนยู-ชาลเก้ ฟุตบอลจบก็สวดมนต์ต่อสักครู่ และเตรียมลูกอมทุกลูกใส่กระเป๋าเพื่อเตรียมไว้จะนำไปใส่บาตรตอนเช้าปกติจะนำไปด้วยเกือบทุกครั้ง(ใส่บาตรตี5ทุกวัน) แต่ขณะนั้นเวลาประมาณ ตี4กว่าๆ หน่อยก็เลยเข้าห้องงีบอีกนิดโดยตั้งนาฬิกาปลุกตอนตี5 ช่วงนอนหลับเคลิ้มๆ มีคนมาดึงแขนและขา ข้างละคนยกขึ้น ในใจก็บอกว่าจะนอนๆ อย่าเพิ่งรบกวน ชั่วครู่ก็ปกติครับ และได้ยินนาฬิกาปลุกพอดี...ไม่รู้พวกพรายทั้งหลายปลุกให้ตื่นไปใสบาตรหรือปล่าวน๊า....ย้ำ(กรุณาใช้วิจารณญาน เป็นความเชื่อส่วนตัวครับ).

 

ขอบคุณมากครับ สำหรับประสบการณ์
มีหลายท่านที่ประสบกับเรื่องแปลกๆ แต่เป็นเรื่องที่รับรู้ได้เฉพาะตน
จึงไม่ค่อยกล้ามาเล่าให้เราได้ฟังกัน....ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาครับ
เรารับรู้....คนอื่นไม่รู้กับ...เขาก็ว่าเราบ้า....ผมเลยหายสงสัยว่า
คนที่มองเห็นอะไรแปลกๆ.....ทำไมชอบอยู่เฉยๆ ไม่ยอมบอกใคร

 

โชคดีนะคะ ที่มีโอกาสได้ทำบุญตักบาตรประจำ อนุโมทนาสาูธุค่ะ
นกเองก็เคยมีประสบการณ์มีผู้หญิงสาวๆ สวยๆ ประมาณสี่ห้าคนมาปลุกช่วงที่มีการวิ่งลูกอมในกระทู้คุณหนุ่มค่ะ
บางทีสิ่งที่เจอก็ไม่กล้าเล่าให้ใครฟังเพราะกลัวเค้าหาว่าเพ้อเจ้อค่ะ..
นกว่าเมื่อเค้าได้รับบุญกับเราเค้าก็คงค่อยช่วยเหลือช่วยเตือนเรามั้งค่ะ.....
เหมือนกับคำที่ว่าทุกสิ่งที่เราทำ ดินฟ้า อากาศ และ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ รับรู้

 

ขออนุญาตน้าต๋อยเอาบทความนี้มาฝากเพื่อนๆ นะคะ
.........................................................

อานิสงส์ของการสวดมนต์ อำนาจเวทมนต์คาถา คุณไสย์ใดๆ มิอาจทำอันตรายได้ โดยสมเด็จโต<!-- google_ad_section_end -->
<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->

<SCRIPT type=text/javascript>setImgWidth();</SCRIPT> ​

วันนี้เอาเรื่องของ สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี มาฝากครับลองอ่านกันดูนะครับ


..... อาตมา (สมเด็จโต) ได้เห็นอานิสงส์ของการสวดมนต์ด้วยตัวอาตมาเองในสมัยที่อาตมาได้ออกเดินธุดงค์ในป่าเป็นเวลา 15 ปีโดยอาศัยอยู่ในเขตดงพญาไฟซึ่งเป็นเขตที่อยู่ใกล้ชายแดนของประเทศเขมรในสมัยนั้นเต็มไปด้วยสิงสาราสัตว์ และภูตผีวิญญาณตลอดจนชาวบ้าน
ที่มีเวทมนต์คาถาและเล่นคุณไสยกันอยู่อย่างมากมาย...

ในอาณาบริเวณชายแดนแห่งประเทศสยามในตอนนั้นอาตมาได้เดินธุดงค์แต่เพียงลำพังในช่วงนั้นอาตมามิได้ศึกษาในพระเวทมนต์คาถาอาคมใดเลย
นอกจากคำว่า......


พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ<O</O
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ<O</O
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ซึ่งมีความหมายว่า ข้าพเจ้าขอยึดมั่น พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งพระธรรมเป็นที่พึ่ง พระสงฆ์เป็นที่พึ่งอาตมาไปที่แห่งหนตำบลใดก็จะกล่าวเพียงคำนี้ตลอดเวลาของจิตใจอันเป็นที่พึ่งของอาตมาอาตมาเดินทางเข้าสู่หมู่บ้านชายแดนแห่งประเทศสยาม ในดงพญาไฟขณะนั้นในหมู่บ้านมีชาวบ้านอาศัยอยู่เพียงเล็กน้อยอาตมาจึงได้ปักกลดอยู่ที่ท้ายหมู่บ้าน มีชาวบ้านนำอาหารมาถวายตามกำลังที่เขาจะพอทำได้เมื่อเห็นมีพระภิกษุมาปักกลดในที่แห่งนั้นอาตมาอาศัยอยู่ที่นั้นเป็นระยะเวลาหลายปี .....

และ ณ ที่แห่งนั้นอาตมาจึงได้พบคุณวิเศษแห่งการสวดมนต์มีชาวบ้านผู้หนึ่งได้เข้ามาสนทนากับอาตมาหลังจากได้ถวายอาหารแล้วชาวบ้านผู้นั้นอาตมาทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายผล นายผลได้เล่าให้อาตมาฟังว่า เขาเป็นผู้ฝึกเวทย์มนต์คาถาอาคม เล่าเรียนจนมีญาณแก่กล้าและมักจะทดสอบเวทย์มนต์คาถาอาคมแก่พระภิกษุสงฆ์ที่เดินทางมาปักกลด ณ บริเวณนี้เป็นประจำ

เขาเล่าให้อาตมาฟังว่าเขาได้ส่งอำนาจคุณไสยเข้ามาทำร้ายอาตมาทุกคืนแต่ไม่ได้หวังทำรายเป็นบาปเป็นกรรมถึงตาย เพียงแต่ต้องการทดสอบดูว่าภิกษุรูปนั้น จะมีวิชาอาคมแก่กล้า สามารถที่จะต่อสู้กับคุณไสยเขาได้ หรือไม่นายผลก็ได้ทำคุณไสยใส่อาตมาถึง 7 วัน เต็มๆไม่ว่าจะเป็นการปล่อยควายธนูหรือปล่อยหนังควาย ปล่อยตะขาบตลอดจนภูติพรายเข้ามาทำร้ายอาตมา แต่ปรากฏสิ่งที่ปล่อยมาก็ไม่สามารถเข้ามาทำร้ายอาตมาได้เลย
วันนี้จึงได้มากราบเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนวิชาความรู้กับอาตมาอาตมาจึงได้บอกว่าตัวอาตมาเองไม่ได้ศึกษาพระเวทย์มนต์คาถาหรือคุณไสยใดนายผลก็ไม่ยอมเชื่อหาว่าอาตมาโกหกถ้าหากไม่มีของดีแล้วไซร้ไฉนอำนาจคุณไสยดำที่เขาส่งมาจึงกลับมายังเขาซึ่งเป็นผู้กระทำไม่

สามารถทำร้ายอาตมาได้อาตมาก็พยายามชี้แจงให้เขารู้ว่าอาตมาไม่มีวิชาเหล่านี้จริง ๆ ทำให้ผลสงสัยยิ่งนักว่าเหตุใดอาตมาจึงไม่ได้รับภัยอันตรายจากอำนาจเวทมนต์คุณไสยดำที่เขาส่งมาทำร้ายได้อาตมาได้บอกกล่าวแก่เขาว่า เมื่ออาตมาจะนอน อาตมาก็จะสวดแต่คำว่า พุทธัง

สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คุจฉามิ จนจิตมีความสงบนิ่งแล้วจึงได้แผ่ส่วนกุศลไปให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายจงอย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลยอย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลยอย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย และอาตมาก็จำวัดนอนเป็นปกติ

นายผล เมื่อได้ฟังดังนั้น จึงได้บอกแก่อาตมาว่า ข้าแต่ท่านอาจารย์ก็เช่นนั้น ข้าพเจ้าขอร้องให้ท่านในวันนี้ ก่อนที่ท่านจะจำวัดจงหยดการสวดมนต์สัก 1 คืนได้หรือไม่ข้าพเจ้าต้องการจะพิสูจน์ว่าการสวดมนต์ของท่านเช่นนี้จะเป็นเกราะคุ้มครองภัยท่านหรือเป็นเพราะอำนาจเวทมนต์คาถาในภูตผีปิศาจของข้าพเจ้าเสื่อมกันแน่ ข้าพเจ้าของรับรองว่าจะไม่ทำอันตรายแก่ท่านอาจารย์อย่างเด็ดขาดเพียงแต่ต้องการที่จะทดสอบให้ความรู้แจ้งเห็นจริงว่าเกิดอะไรขึ้น

อาตมาก็ตกลงรับปากแก่นายผลว่า คืนนี้จะไม่ทำการสวดมนต์ นายผลจึงได้ลากลับไปครั้นถึงเวลาพลบค่ำอาตมาก็นอนโดยมิได้ทำการสวดมนต์ตามที่ได้ปฏิบัติเป็นปกติเมื่ออาตมานอนหลับไป อาตมารู้สึกตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เมื่อปรากฏว่าอาตมาได้ยินเสียง กุกกัก กุกกัก จะขึ้นมาจึงได้จุดเทียนและพบตะขาบใหญ่

ยาวเท่าขาของอาตมากำลังเลื้อยเข้ามาอยู่ใกล้ตัวของอาตมามาก อาตมารู้สึกตกใจถึงหน้าถอดสี และด้วยสัญชาติญาณจึ่งกล่าวคำสวดมนต์ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิธัมมัง สะระณังคัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ด้วยจิตยึดมั่นในพระพุทธองค์เป็นที่พึ่งเป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้ เสียงกุกกักและตะขาบที่อยู่ข้างหน้าก็อันตรธานหายไปจากนั้นอาตมาจึงได้จำวัดนอนเป็นปกติ

ในวันรุ่งขึ้น นายผลก็มาหาอาตมาและได้กล่าวว่า เมื่อคืนนี้ข้าพเจ้าได้ปล่อยตะขาบเข้าไปในกลดที่ท่านพักนัก
อยู่อาตมาบอกว่า อาตมาได้ตื่นมาและตกใจ จึงได้สวดมนต์ภาวนาตะขาบตัวนั้น ก็อันตรธานหายไป นายผลจึงได้ยกมือพนมขึ้น แล้วกล่าวว่า บัดนี้ข้าพเจ้าเชื่อแล้วว่า อำนาจเวทมนต์คาถา และคุณไสยใดๆ ของ
ข้าพเจ้ามิอาจทำร้ายท่านได้ ก็เพราะอำนาจแก่การสวดมนต์ภาวนาของท่านเป็นเกราะคุ้มครองภัยอัตรายต่างๆ ได้<!-- google_ad_section_end --> ที่อาตมา (สมเด็จโต) ได้เล่าให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ได้ฟังกัน เพื่อให้เป็น
อานิสงส์ของการสวดมนต์ว่า เหล่าพรหมเทพได้มาฟัง การสวดมนต์จริงดังที่อาตมาได้เทศน์ไว้ เพราะถ้าไม่ใช่เหล่าพวกพรหมเทพแล้วไซร้ก็คงไม่สามารถที่จะขับไล่สิ่งที่เกิดจากอำนาจคุณไสย ที่นายผลส่งมา
เล่นงานอาตมาได้อย่างแน่นอน ท่านเจ้าพระยา และ อุบาสก อุบาสิกา
ในที่นั้น เมื่อได้ฟังคำเทศนาแล้วต่างก็ยก มือขึ้นสาธุว่า อานิสงส์ของการ
สวดมนต์ช่างมีคุณค่าสูงส่งยิ่งนัก<!-- google_ad_section_end -->

 

เห็นด้วยกับน้าต๋อยเรื่องบุญจากสมาธิครับ คุณนกไม่ต้องน้อยใจที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ทำบุญตักบาตรเป็นประจำ
คนที่เมืองไทยเองในกทม. ก็มีแค่ส่วนน้อยที่ได้ทำบุญตักบาตรเป็นประจำครับ ผมเองก็ทำแค่บางครั้งเท่านั้นครับ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่แผ่กุศลให้ดวงจิตทั้งหลายครับ

ส่วนวันเสาร์ที่ 21 พค.นี้ผมจะขอเข้าร่วมวงสนทนาที่วัดลพ.สุนทรด้วยคนนะครับ

 

แสดงว่าผมเหมือนอยู่ต่างประเทศเลย
ปีนึงผมได้ใส่บาตรกับเขาแค่ครั้งเดียว ก็คือ วันเกิดตัวเอง
ส่วนครั้งอื่นๆ ก็ตอนทำบุญหน่วย....ถ้าไม่ไปอาจจะโดนรับประทานเอา

สุดท้าย....ก็แล้วแต่ความสะดวกครับ คิดดี ทำดี พูดดี
ไม่เบียดเบียนใครนี่ก็มหาบุญชนิดหนึ่ง.....แต่ผมแนะนำให้
ปฏิบัติสมาธิเป็นประจำๆ ครับ หน้าจะสวยใสไร้สิว เหมือนไปทำโบทอกซ์
แบ๊ว...ยิ่งกว่ากินกลูตา ไทโอน ไม่เชื่อลองดูสิ ถึงไม่ได้อะไร
อย่างน้อยก็เกิดบุญ เกิดกุศล.....จริงมั้ยครับ

 

ตามที่เคยเกริ่นไว้เรื่องลูกปัดโบราณ
อาจจะไม่เกี่ยวกับหัวข้อกระทู้เลย....ก็ถือว่าอ่านเอาสนุกๆ กันครับ

รุ่นพี่ของผม บ้านพี่เขาอยู่ที่จังหวัดสระแก้ว
วันนึงเมื่อหลายปีก่อน แกกลับมาจากบ้านพร้อยสร้อยลูกปัดเส้นนึง
จะว่าไปก็เหมือนหนังผีไทยดีๆ นี่เอง หลังจากที่นำมาไว้ที่บ้านพักไม่นาน
แฟนรุ่นพี่ก็ฝันเห็นผู้หญิงตัวสูงใหญ่แบบคนสมัยโบราณบ่อยๆ ผมลืมแล้วว่าเค้าคุยอะไรกัน
แต่ชอตที่หนักที่สุดคือ แฟนรุ่นพี่นอนอยู่แล้วมองเห็นผู้หญิงคนนั้น.....นั่งเท้าแขนบนตัวรุ่นพี่ผม
คนธรรมดาๆ คนนึง เมื่อเห็นขนาดนั้นแล้วจะทำยังไง..........ใช่ครับ นอนต่อไป
เมื่อเจอเช่นนั้นภรรยาจึงให้สามีเอาสร้อยลูกปัดโบราณไปไว้ที่อื่น..

รุ่นพี่จึงนำสร้อยเส้นนี้ ไปให้ผู้หมวดรับช่วงต่อ
วันดีคืนดี....เพื่อนผู้หมวดมาสังสรรค์ที่บ้าน พอตึงๆ เข้าหน่อย
เพื่อนของหมวด.....แกจะเดินเข้าไปในห้องนอน
ทันใดนั้น.......ตัวแกก็กลิ้งออกมานอกห้องในทันที
แกบอกว่า......เหมือนมีใครถีบออกมา...(ถ้าแรงหน่อยเรียก....โดดถีบ)
ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ยังหาคำตอบกันไม่ได้ ว่าใครส่งแกออกมานอกห้อง
และก็เกิดเหตุการณ์ทำนองเดียวกัน....

ติดตามต่อตอนหน้า.....(เหมือนลุง modpong เลย)

 

<TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ รุ้งภูพาน
ผมไม่นึกฝันว่าจะได้ลูกอมหลวงพ่อทิม เป็นบุญจริงๆครับ วันนั้นผมขับรถจากที่ทำงาน(ลงเขา) ไปโอนเงินที่ธนาคารในตัวเมือง ไปกลับประมาณ80กิโล กลับมาเครื่องสแกนที่ทำงานเสียอีก ต้องลงไปใหม่ เกือบแจ้งทางกระทู้ไม่ทัน สุดยอดจริงๆ..
..นายกถามมาผมเลยต้องตอบ: คือว่าลูกผสมคนนี้(จีน-ไทย-ญวน-และก็ ลาว) เขาห้อยพระนาคปรกครับ องค์เล็กๆ เป็นพระมรดกจากคุณย่าเขา ผมสอบถามผู้รู้ว่าเป็นพระยุคไหน เขาบอกว่าหน้่าจะเป็น พระนาคปรกพิมาย เพราะได้มาจากโคราช ลูกสาวบอกว่าตั้งแต่ห้อยพระของคุณย่านี้ มีคนทักว่ามีคนแก่เป็นผู้หญิง เดินตามหลังบ่อยๆ แต่หันไปดูจะหายไป แต่แกไม่กลัว คิดว่าคุณย่ามาคุ้มครองครับ
มีเรื่องจะเล่าอีกครับฝากเตือนเด็กๆ. ลูกสาวเล่าว่า เมื่อเร็วๆนี้เพื่อนๆได้ชวนกันไปหาหมอดู ลูกสาวไปด้วย ไปกัน4คนผู้หญิงทั้งหมด มอเตอร์ไซค์2คัน เข้าไปทางซอย... ไปถึงท้ายซอยมีบ้านเดี่ยวอยู่หลังหนึ่ง มีผู้ชายหญิงอยู่3-4คน ไปถึงมีผู้หญิงกลางคนเรียกเก็บเงินก่อนเลยคนละ100บาท จากนั้นก็มีหมอดูเป็นผู้ชาย แก่แล้วทายทักเพื่อนเขาไปเลื่อยๆ สักพักหมอดูได้หันมาชี้หน้าลูกสาว แล้วพูดว่า มึงมีผัวมาแล้วใช่ไหม ลูกสาวตกใจบอกไม่มี..มึงอย่าโกหก..มึงกล้าดืมน้ำสาบานไหม...หมอดูถือขันน้ำยื่นให้. ลูกสาวเล่าว่าพวกชายหญิงข้างๆก็เดินเข้ามา เพื่อนๆก็หน้าซีด ลูกสาวก็เลยลุกขึ้นยืนแล้วพูดว่า บอกว่าไม่เคยมี แล้วจะบอกว่ามีได้ไงวะ.จากนั้นก็จะพากันกลับแต่พวกนั้นไม่ยอมให้กลับ ลูกสาวก็เลยยกโทรศัพท์ขึ้นมากดโทร แล้วพูดดังๆว่า ปาป๊ามารับเอ้หน่อย อยู่ตรงนี้..เขาทางซอยนี้...ด่วนเลยบอกพ่อโต้งให้พาลูกน้องมาด้วย. จากนั้นพวกเพื่อนก็พากันโทรวุ่นไปหมด จนพวกหมอดูวงแตก ไล่กลับแทบไม่ทัน...ลูกสาวเล่าแบบตลกๆ แต่ผบ.ทบ จะเป็นลม....
(ขอขอบคุณน้ำใจ น้าต๋อยมากครับ ผมยังไม่ลืมที่น้าต๋อยพูดว่า เหมือนกับเราเคยพบกันที่ใหนมาก่อน....)
</TD></TR></TBODY></TABLE>โชคดีนะครับ ที่ลูกของพี่ใจนักเลงไม่กลัวมัน ถ้าใจอ่อนยอมกินน้ำไปผมไม่รู้ว่าจะเป็นอะไร เพราะอาจจะเป็นยานอนหลับหรืออะไรผสมลงไปในนั้นก็อาจเป็นได้ ว่าแต่เห็นสวยๆอย่างนี้ก็ดุเอาเรื่องเหมือนกันนะครับพี่รุ้งภูพาน ไม่รู้ว่าความดุนี่เหมือนพี่รุ้งภูพานหรือเหมือนแฟนพี่ครับ ฮ่าๆๆ<!-- google_ad_section_end -->
__________________
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->โชคดีนะครับ ที่ลูกพี่ปลอดภัย ถ้าเหตุเกิดที่สุโขทัยโทรหาพี่โจได้เลยครับ พี่โจพร้อมลุย

 

โหพี่ภู สำหรับลูกพี่รุ้งภูพานนะครับ ถ้าเรื่องให้ช่วยแล้วไม่ต้องห่วง ไม่ว่าที่ไหน ถึงแม้พวกมันจะมีปืนผมก็ไม่กลัว พี่เชื่อไหม โทรมาหาได้ตลอด 24 ชั่วโมงเลยครับ แต่ผมรับแล้วผมจะบอกว่าผมอยู่กรุงเทพ ฮ่าๆๆ

 

ขอบคุณค่ะคุณหมอสำหรับกำลังใจ เข้ามาอ่านบทความจากพี่ๆ เพื่อนๆ นี่ได้ความรู้ดีมากเลยค่ะ ตั้งแต่เข้ามาพลังจิตได้เจ็ดแปดเดือน และ พยายามตั้งใจสวดมนต์ทำสมาธิ ยอมรับว่าหลายๆอย่างดีขึ้น
จิตใจมั่นคงดีมาก ไม่แกว่ง เมื่อก่อนสวดมนต์ประจำ แต่ไม่ค่อยทำสมาํธิเลยเพราะหลับตลอด ตอนนี้ติดแบบต้องทำคู่กันทุกวัน..โชคดีที่ค้นพบ...เกือบจะเหมือนโบราณท่านว่า "มาพบไม้งามเมื่อขวานบิ่น"

(ปล. เคยจิตตก ใจแกว่งเรื่องสุขภาพของสามี และ ความเจ็บไข้ได้ป่วยของบิดา)

จะพยายามทำให้ได้ประจำค่ะน้าต๋อย อยากหน้าอ่อนแบบไม่ต้องพึ่งโบท็อกช์แบบน้าต๋อยบ้าง

นึกถึงคำของครูบาอาจารย์คำว่า "บุญกุศลนั้นพึ่งได้จริง" ตอนนี้มีความรู้สึกว่าเริ่มพึ่งตนเองได้ในด้านจิตใจ... และ เมื่อเดือนที่แล้วก็มีน้องคนหนึ่งที่เป็นญาติกัน ขอให้เป็นที่พึ่งเพราะน้องเค้าอยากเลิกดื่มเหล้า เค้าขอแค่ว่าให้โทรไปคุยกับเค้าบ่อยๆ ช่วยเตือนสติเค้า และ ช่วยคุยกับเค้าในเรื่องการสวดมนต์ ทำสมาธิ ก็บอกน้องเค้าไปว่าไม่ได้เก่งอะไร พอที่จะสอนใครได้ แต่ถ้าอยากมีเพื่อนคุย ร่วมสนทนาและ เป็นกำลังใจก็จะทำให้

ผ่านมาเดือนเศษๆ แล้วน้องเค้าไม่แตะเหล้าเลย ตั้งหน้าสวดมนต์ไหว้พระ.....คงเป็นบุญของน้องเค้าที่คิดได้ และ นกก็ให้เหรียญลป.กวย เนื้อโลหะผสมน้องเค้าไปบูชา น้องเค้าดีใจมากๆ ดีใจแทบจะร้องไห้ที่ได้เหรียญนี้ไป
น้องเค้าก็ขอบคุณทุกครั้งที่นกโทรไป เค้าบอกชีวิตเค้าดีขึ้นมาก พี่น้องไม่ทับถมเค้าอีกแล้ว การงานก็ราบรื่นผู้คนให้ความนับถือ

สิ่งที่ดีใจเพราะน้องคนนี้กำลังจะเป็นพ่อคน เป็นช่วงจังหวะที่ดี ที่เค้าจะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และจะได้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ลูกๆ ต่อไป...

 

เป็นกุศลมหาศาลที่ชี้ช่องทางให้เขากลับมาเป็นคนปกติได้ อนุโมทนาด้วยครับ

มีเพื่อนที่เคยทำงานด้วยกันแต่อายุมากกว่าพบกันทีไรก็ได้กลิ่นแต่บุหรี่หึ่งไปทั้งตัว
ผมเคยถามว่าสูบจัดแบบนี้ไม่กลัวบ้างหรือ เขาตอบว่าไม่กลัว เมื่อเร็วๆนี้ก็ต้องเข้า
โรงพยาบาลเพราะหายใจไม่ออก หมอตรวจพบว่าเป็นมะเร็งที่ปอดระยะสุดท้าย
ที่สุดก็กลับบ้านเก่าไปตามธรรมเนียม เพื่อนสมาชิกท่านใดที่ยังสูบบุหรี่อยู่ก็ขอให้
ลดละเลิกให้ได้เถิดครับ เลิกสูบบุหรี่ให้ได้แล้วจะรู้ถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้นหน้าตา
ราศรีจะสดใสเหมือนกับทำโบท็อกซ์แบบที่ท่านนายกต๋อยกล่าวอ้างมา

 

คาถาบทนี้เหมือนกับคาถาบูชาพระมงคลมหาลาภ

 

ผมเองตั้งแต่ได้แขวนพระสีวลีและลูกอมโป ชีวิตก็ดีขึ้นเรื่อยๆ เรื่องงานก็เริ่มมีรายได้เข้ามาพอ
เลี้ยงครอบครัวได้ แต่ตอนนี้แขวนลูกอมโปอย่างเดียว เพราะสามารถไปได้ทุกที่ไม่มีข้อห้าม
สำหรับพระสีวลีจะให้ ผบ แขวนสำหรับไว้ค้าขาย เรื่องโชคลาภยังไม่มี

 

สวัสดีครับพี่เดชา วันที่21คงได้พบพี่อีกครั้ง

 

ต้องขอบคุณคุณเดชาเรื่องหนังสือธรรมะด้วยค่ะ หนังสือที่ให้มานั้น นกอ่านจบ
และก็ส่งต่อให้น้องชายได้อ่าน น้องชายอ่านจบก็ส่งต่อไปที่ญาติคนนี้..เป็นประโยชน์ต่อหลายคนค่ะ

นอกเหนือจากให้เค้าตั้งสัจจะกับตนเอง และ หันมาสวดมนต์ไหว้พระแล้ว
กุศโลบายที่แนะนำน้องเค้าทำอาจจะผิดศีลห้า คือโกหกค่ะ
น้องเค้าตามเพื่อน เพื่อนเยอะ ประมาณว่าขัดเพื่อนไม่เป็น
ทำให้เสียงานเสียการที่เค้าทำแทนครอบครัว
เลยบอกน้องเค้าไปว่า ถ้าเรายังไม่แข็งพอ ไม่มั่นใจพอที่จะยื่นคำขาด ไม่เป็นตัวของตัวเอง ให้ใช้แบบที่นกเองเคยใช้คือ บอกไปว่าดื่มไม่ได้ ผิดโรค มีปัญหาสุขภาพอะไรก็ว่่าไป

น้องเค้าก็ถามว่าไม่ผิดศีลหรือพี่ที่โกหก ก็บอกว่าผิด แต่เราไม่ได้โกหกเพื่อที่จะ
เอาเปรียบใคร หรือ ลักขโมยของๆ ใคร ทำให้ใครเสียหาย ไม่มีอะไรสูญเสีย มีแต่จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น คนรอบข้างดีขึ้น ประหยัดตังค์ ประหยัดเวลา..ในภายภาคหน้าเพื่อนที่ดื่มนั้นแหละจะมาบอกว่าเราทำถูกที่หยุดดื่ม

นกเองก็ใช้วิธีนี้ตอนเข้าสังคมทำงานกรุงเทพ ใหม่ๆ เพราะถ้าจะบอกเหตุผลอื่น ธรรมะ ธรรโม บางคนก็จะเคืองเอา จริงๆ แล้วที่บ้านสั่งห้ามดื่มเด็ดขาด แต่ก็ไม่รู้ว่าจะหาวิธีไหนมาอ้าง เลยเอาสุขภาพมาอ้าง
มาอยู่ที่นี่คนส่วนมากก็ดื่มสาระพัด ดื่มกันจริงๆ จังๆ พอบอกว่าเราไม่ดื่มก็ไม่ค่อยมีใครถามต่อ ...ก็โชคดีไป