แนะนำพระดี มีพลังมหัศจรรย์ อาถรรพ์หนุนชีวิต อิทธิฤทธิ์มหาศาล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย หนุ่มเมืองแกลง, 15 พฤษภาคม 2010.

  1. มะบอม

    มะบอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +5,352
    นอกจากนี้แล้ววันนี้ผมก็ยังได้นำเหรียญหลวงพ่อกวย เนื้อโลหะผสมที่เป็นของกรรมการจำนวนหนึ่ง แจกให้แม่บ้านที่บ้านไปกันคนละเหรียญ คนเหล่านี้ทำบุญบริสุทธิ์จริงและทำบุญกันค่อนข้างหนัก เมื่อก่อนเคยให้พระหลวงปู่หมุนรุ่นแรกๆและพระอื่นๆไปอีกหลายครั้ง เห็นว่าพวกเขานำพวงมาลัยมาบูชาไม่ขาดสาย และยังคงกราบไหว้อยู่ทุกๆคืนนอนก่อน เดินไปทีไรเห็นอยู่ตลอด สมควรแก่การให้ทานเป็นอย่างยิ่ง
     
  2. พุทธิวงษ์

    พุทธิวงษ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,200
    ค่าพลัง:
    +7,879
    ขออนุโมทนากับทุกท่านและพี่หนุ่มครับ สู้ๆครับพี่ถ้าพี่จะทำแล้ว ก็จะสำเร็จแน่นอนครับผมเชื่อและเอาใจช่วยงานบุญครั้งใหญ่นี้กับทุกท่านด้วยนะครับ:cool:
     
  3. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    รบกวนท่านใด เก็บวีธีเพิ่มจำนวนสีผึ้งที่พี่หนุ่มให้ไว้ มาโพสอีกรอบด้วยครับ
    ผมเปิดหาจนตาเป็นลายสก๊อต ยังหาไม่เจอเลย จำได้แค่เค้าๆ เอง
    ขอบคุณล่วงหน้าเลย.....ขอบคุณคร้าบบบบ !!!
     
  4. มะบอม

    มะบอม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,255
    ค่าพลัง:
    +5,352
    รบกวนขอชื่อที่อยู่ด้วยครับ
     
  5. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    ขอนำเสนอประวัติพระเกจิอาจารย์ที่ได้ประสานติดต่อขอเมตตาท่านปลุกเสกพระให้นะครับ
    ชีวประวัติ

    หลวงพ่ออุดม อุตตมปัญโญ (พระครูวิชัยกิจจารักษ์) เจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม
    ตำบลกะมัง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


    [​IMG]
    [​IMG]
    เด็กชายอุดม ลัดดา เกิดเมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2479 ปี ชวด ที่แพ ตำบลไผ่ลิง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นบุตรคนโตของคุณพ่อบัว ลัดดา คุณแม่ชั้น ลัดดา มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 5 คน ตามลำดับดังนี้
    คนแรก หลวงพ่ออุดม อุตตมปัญโญ (พระครูวิชัย กิจจารักษ์)
    คนที่ 2 นางปราณี พงษ์สุวรรณ์
    คนที่ 3 ว่าที่ร้อยตรีสุนทร ลัดดา
    คนที่ 4 นางปรีดา เดียวตระกูลวัฒน์
    คนที่ 5 นายวิชัย ลัดดา


    เริ่มการศึกษา

    เมื่อ อายุเข้าสู่วัยเรียน ได้ศึกษาเล่าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัติพระญาติการาม จากนั้นติดตามคุณพ่อ คุณแม่ไปอยู่อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่วัดอุโลม มีพระอาจารย์เยื้อนเป็นครูใหญ่
    จาก นั้นติดตามคุณพ่อ คุณแม่มาอยู่อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กลับมาเรียนที่โรงเรียนพระญาติการามอีก มีครูเทียม ประเสริฐ เป็นครูใหญ่ จนจบชั้นประถมปีที่ 4 เข้าเรียนต่อมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 - มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนสุนทรวิทยา มีครูสุทัศน์ (เสมอใจ) สัมผวผล เป็นครูใหญ่
    เมื่อ จบมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไปสอบเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนท่าไม้ท่าวาสุกรี (วิทยาลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบัน) เรียนอยู่ได้ประมาณ 5 เดือนเกิดเจ็บป่วยรักษาอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น จึงขอลาพักการเรียน 7 วันแล้วจะกลับมาเรียนใหม่


    เข้าสู่ร่มกาสวพัสตร์

    หลัง จากลารักษาสุขภาพ อายุครบ 15 ปี คุณแม่ไปบนหลวงพ่อโต (พระพุทธไตรรัตนนายก วัดพนัญเชิง) ว่าถ้าหายป่วยอาการที่ไม่ทราบสาเหตุจะบวชเณรถวาย 7 วัน หลังจากนั้นก็หายป่วยเด็ดขาด
    คุณแม่จึงนำเด็กชายอุดม ลัดดา เข้าบรรพชาเป็นสามเณรกับท่านพระครูศีลกิตตคุณ (หลวงพ่ออั้น) วัดพระญาติการาม เมื่อ วันที่ 6 สิงหาคม 2494 เมื่อบรรพชาแล้วโยมแม่จึงนำสามเณรอุดมมาฝากให้อยู่กับพระอาจารย์ต่วน วัดกล้วย อำเภอพระนครศรีอยุธยา
    เมื่อบรรพชาครบ 7 วัน สามเณรอุดม มีความมุ่งมั่น มีจิตศรัทธาในพระบวรพุทธศาสนา ไม่คิดกลับไปเรียนด้านวิชาสามัญ โยมแม่จึงตัดสินใจให้ลาออกจากโรงเรียนช่างไม้ท่าวาสุกรี สามเณรอุดม จึงหันมาเอาดีด้านธรรมะ โดยได้ศึกษาหาความรู้ ศึกษาเล่าเรียน ตั้งใจบำเพ็ญบุญกุศล ไหว้พระ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ภาวนา อยู่เป็นนิจ


    การศึกษาทางธรรม

    พ.ศ. 2494 (อายุ 15 ปี) เรียนกัมมัฏฐาน กับท่านอาจารย์จาบ สุวรรณ สำนักเรียนกัมมัฏฐาน วัดประดู่ทรงธรรม (ซึ่งมีศักดิ์เป็นตาแท้ๆ ของสามเณรอุดม ลัดดา)
    พ.ศ. 2495 (อายุ 16 ปี) เรียนนักธรรมตรี ที่สำนักเรียนวัดสุวรรณดาราราม สอบได้นักธรรมตรี ในสนามหลวง
    พ.ศ.2496 (อายุ 17 ปี) เรียนนักธรรมโท ที่สำนักเรียนวัดสุวรรณดาราราม สอบได้นักธรรมโท ในสนามหลวง
    พ.ศ. 2499 (อายุ 20 ปี) เรียนนักธรรมชั้นเอก ที่สำนักเรียนวัดสุวรรณดาราราม สอบได้นักธรรมชั้นเอก ในสนามหลวง
    เมื่ออายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ สามเณรอุดม ลัดดา ด้วยจิตที่แน่วแน่มั่นคง ตัดสินใจสละความสุข ความสนุกสนาน บอกโยมพ่อ โยมแม่ ขออุปสมบทตามรอยพระพุทธองค์ โดยมี
    •หลวงพ่อพระครูศีลกิตติคุณ (หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม) เป็นพระอุปัชฌาย์
    •พระอธิการทองคำ ปิยกโร วัดพิชัยสงคราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์
    •พระอาจารย์เฉลิม เขมทัสสี วัดพระญาติการาม เป็นพระอนุสาวนาจารย์
    เมื่อ วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2499 เวลา 16.05 น. ได้รับฉายา “อุตตมปัญโญ” แปลว่าผู้อุดมไปด้วยสติปัญญา จำพรรษาวัดกล้วย ตำบลกระมัง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
    ครั้นถึงปลายปี พ.ศ. 2502 คณะกรรมการวัดพิชัยสงคราม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้กราบอาราธนานิมนต์จำพรรษา วัดพิชัยสงคราม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2502 โดยได้รับความเมตตาจากพระอธิการทองคำ ปิยกโร เจ้าอาวาสวัดพิชัยสงคราม
    จน ถึงวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2509 พระอธิการทองคำ ปิยกโร ได้ลาสิกขาบท คณะกรรมการวัดพิชัยสงครามจึงมีมติให้พระอุดม อุตตมปัญโญ รับหน้าที่ปกครองสงฆ์ วัดพิชัยสงคราม ต่อมาภายหลังได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดพิชัยสงคราม สืบมาจนถึงปัจจุบัน


    ด้านการปกครอง

    15 กรกฎาคม พ.ศ.2509
    - รักษาการแทนเจ้าอาวาส วัดพิชัยสงคราม
    24 กันยายน พ.ศ. 2511
    - ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดพิชัยสงคราม ได้รับสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญบัตรชั้นโท ได้รับพระราชทินนาม “พระครูวิชัยกิจจารักษ์”


    ด้านการศึกษา

    พ.ศ. 2509 -2550
    - เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมและคุมสอบธรรมศึกษา
    - สอนธรรมนวกภูมิ คุมสอบและตรวจข้อสอบธรรมนวกภูมิ
    พ.ศ. 2538 – ปัจจุบัน
    - ตั้งทุนและสนับสนุนพระภิกษุ-สามเณร ในการศึกษาธรรมนอกภูมิและธรรมศึกษาตลอดมา
    พ.ศ. 2548 – ปัจจุบัน
    - สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม เปิดสอนนักธรรมชั้นตรี และนักธรรมชั้นโท


    ด้านงานเผยแพร่พระพุทธศาสนา

    พ.ศ. 2534 – ปัจจุบัน
    - ตั้งหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล และเป็นประธานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล
    - ให้ความรู้ ให้ธรรมะแก่เยาวชน ประชาชนทุกวันธรรมสาวนะ วันพระ และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
    - ให้คำปรึกษาเยาวชน ประชาชนทั่วไป


    ด้านสาธารณูปการ

    พ.ศ. 2510
    - เทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กรอบอุโบสถ
    - สร้างใบเสมารอบอุโบสถ
    - ทาสีอุโบสถ ติดดาวฝ้าเพดาน
    พ.ศ. 2511
    - ถมดินทำถนนเข้าวัด
    - ถมดินหลังศาลาการเปรียญ
    พ.ศ. 2512
    - ปลูกกุฏิใหม่ 1 หลัง 4 ห้อง
    พ.ศ. 2513
    - สร้างฌาปนสถาน (เมรุเผาศพ)
    พ.ศ. 2514
    - เทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กรอบฌาปนสถาน (เมรุเผาศพ)
    - สร้างสุขา 8 ห้อง (ข้างหอระฆัง)
    พ.ศ. 2515
    - สร้างกุฏิใหม่ 1 หลัง 4 ห้อง
    พ.ศ. 2516
    - สร้างกุฏิใหม่ 1 หลัง
    พ.ศ. 2517 – 2518
    - สร้างศาลาเอนกประสงค์ 1 หลัง
    พ.ศ. 2519 – 2521
    - สร้างกุฏิ 2 หลัง พร้อมบูรณปฏิสังขรณ์กุฏิเก่า
    - สร้างศาลาสวดหน้าไฟ 1 หลัง
    พ.ศ. 2522
    - สร้างกุฏิ 2 ชั้น 1 หลัง (กุฏิเจ้าอาวาส)
    พ.ศ. 2524
    - สร้างหอสมุด 1 หลัง
    - เทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก เชื่อมต่อหมู่กุฏิ กุฏิเจ้าอาวาส หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ
    พ.ศ. 2526
    - สร้างหอสวดมนต์ 1 หลัง
    - สร้างหอพระ 1 หลัง
    พ.ศ. 2528
    - ปูกระเบื้องหน้าฌาปนสถาน (เมรุเผาศพ)
    พ.ศ. 2529
    - สร้างหอฉันและห้องรับแขก
    พ.ศ. 2530
    - ปรับปรุงทัศนียภาพรอบๆวัด
    พ.ศ. 2531
    - สร้างเขื่อนคอนกรีตยาว 120 เมตร
    พ.ศ. 2532
    - ทำแนวรั้วบนสันเขื่อนรูปใบเสมา ยาว 120 เมตร
    พ.ศ. 2533
    - สร้างศาลาการเปรียญคอนกรีตเสริมเหล็กคู่กับศาลาการเปรียญหลังเดิม
    พ.ศ. 2534
    -บูรณปฏิสังขรณ์ศาลาการเปรียญหลังเดิม
    พ.ศ. 2535
    - ปรับปรุงกุฏิทุกกุฏิ (ปูกระเบื้องหน้ากุฏิทุกกุฏิ)
    พ.ศ. 2536
    - ปูกระเบื้องระเบียง กุฏิเจ้าอาวาส หอสวดมนต์
    พ.ศ. 2537
    - เทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กลานวัด
    พ.ศ. 2539
    - สร้างตำหนักสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และจัดภูมิทัศน์รอบๆตำหนัก
    พ.ศ. 2540
    - ปรับปรุงทัศนียภาพรอบๆวัด
    พ.ศ.2545
    - ปูกระเบื้องรอบอุโบสถ
    พ.ศ. 2546
    - สร้างศาลารอยพระพุทธบาทจำลอง พระประจำวัน
    พ.ศ.2547
    - แกะสลักบานประตู หน้าต่าง ลงลายทอง อุโบสถ
    พ.ศ. 2548
    - กรุผนังอุโบสถใต้บานหน้าต่างด้วยไม้แดงรางลิ้น ใส่ลายเฟื้อง
    พ.ศ. 2549
    - สร้างโรงเรียนพระปริยัติธรรม 2 ชั้น 1 หลัง
    - สร้างห้องสุขา ชาย-หญิง รวม 10 ห้อง
    พ.ศ. 2550
    - เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง ด้านหน้าผจญมาญ ด้านหลังไตรภูมิ ด้านข้างเทพชุมนุมพร้อมพัดยศ ผนังอุโบสถเขียนภาพพระราชประวัติสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตั้งแต่พระราช สมภพจนถึงขั้นขึ้นครองราชย์สมบัติ รวม 10 ภาพ
    พ.ศ. 2551
    - สร้างศาลาเกียรติคุณ 1 หลัง
    พ.ศ. 2552
    - สร้างศาลาอเนกประสงค์ 1 หลัง
    - ทำรั้วคอนกรีต ซุ้มพระรอบอุโบสถ 5 ชั้น
    - ทาสีซุ้มพระ 9 ชั้น
    - ทำฟุตบาททางเท้าหลัง สันเขื่อน ยาว 120 เมตร

    ธรรมะจากตะกรุดสาลิกา และการใช้ปริศนาธรรมเพื่อเจริญพระกรรมฐาน
    (ทวนปริศนาธรรม สาลิกาอยู่เป็นคู่ ตัวหนึ่งอยู่ ตัวหนึ่งไป ? ถูกไหมครับ)
    อ่า นั่นแหละ ตัวหนึ่งอยู่ ตัวหนึ่งไป ลมพุทธ หายใจเข้า โธลมออก
    พุทโธ พุทโธ พุทโธ ภาวนาพุทธ หายใขเข้า โธออก
    พุทโธ พุทโธนี้ถ้าหากเป็นวิปัสสนาญาณหมายถึงว่า ภาวนาจนกระทั่งจิตรวมนิ่งแล้ว
    มัน จะเกิดนิมิต เรียกว่าอุคหนิมิต จะเป็นอะไรก็แล้วแต่ เกิดขึ้น ในเมื่อเกิดขึ้นให้กำหนดว่า นี้เกิดแล้ว นี่เกิดเสร็จเรียบร้อย ไอ้ที่เกิดขึ้นนี้แหละ มันจะหายไป จะเคลื่อนหายไป แล้วกำหนดว่านี้ดับ เกิดดับ เกิดดับ นี้เข้าสู่วิปัสสนา
    (นี่ก็ย้อนเข้าสู่ร่างกายเรา) เหมือนกัน เปรียบเหมือนกัน
    (หลวงพ่อทำกี่ปีจึงมั่นใจ) โอ้ หลายปีคุณหมอ
    (มั่นใจอย่างไร) เราก็เชื่อแน่ว่า เอ่อ เราก็เป็นอย่างนี้
    (ถึง10 ปีไหม) กว่า อาตมาเรียนมาตั้งแต่สมัยอยู่เป็นเณร กรรมฐานนี้นะ เรียนกับตา (อาจารย์จาบ)
    ไม่ได้เรียน(กับหลวงพ่อต่วน)
    (อาจารย์จาบสอนเรื่องพระเครื่อง-วัตถุมงคล ?) ไม่ได้สอน สอนกรรมฐานอย่างเดียว ได้เรียนกรรมฐานอย่างเดียว
    (กับวิชารักษาโรคกระดูกหัก) อ่านั่นแหละ
    (อาจารย์จาบ รักษากระดูกหัก ประสานทันทีไหม) อ่า ทันทีเลย


    บทส่งท้าย ที่หลวงพ่อฝากถึงพวกเรา

    ข้อ สำคัญ หนึ่ง ถ้าเราเป็นนักปฏิบัติ ขอให้ตั้งในศีลในธรรม ตั้งอกตั้งใจปฏิบัตินะ หนึ่งมีศีล สองมีสมาธิ สามปัญญาเกิด ก่อนอื่นรักษาศีลก่อน
    (วันละชั่วโมงได้ไหม ?) ก็ได้ หนึ่งศีล เมื่อมีศีลแล้ว สมาธิเกิด พอสมาธิเกิด ปัญญาเกิด ตามขั้นตอน
    (ข้อแนะนำในทางโลก) ในทางโลก อย่างน้อยมีศีลไว้
    (ถ้ามีวัตถุมงคลหลวงพ่อ ปลุกด้วยอะไรดี ?) มันดีเหมือนกันคุณหมอ ให้ระลึกนึกถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไว้
    (ถ้าท่องยาก พุทโธคำเดียวได้ไหม ?) ได้ พุทโธ ธัมโม สังโฆ แค่นี้
    (แม้แต่มหาระงับยากๆ พุทโธคำเดียว ?) ได้ แล้วเราก็ตั้งจิตอธิษฐาน

    การขึ้นพระกรรมฐาน
    ถวายดอกไม้ธูปเทียนกับหลวงพ่อ แล้วหลวงพ่อแนะนำดังนี้

    วิธีการเจริญพระกรรมฐาน
    ก่อน อื่นหลังจากเราทำวัตรสวดมนต์เรียบร้อยแล้วนะ ก็เริ่มนั่งพระกรรมฐาน เอามือขวาทับมือซ้ายเท้าขวาทับเท้าซ้าย ตั้งตัวให้ตรง เสร็จเรียบร้อยแล้ว อาราธนาองค์แห่งพระกรรมฐานคือ
    อุกาสะ ข้าพเจ้าขออาราธนาปิติเจ้าทั้ง 5 คือขุทกาปิติ ขณิกาปิติ โอกันติกาปิติ ผรณาปิติ อุเพงคาปิติ จงมาบังเกิดในกายทวาร มโนทวาร แห่งข้าพจ้าผู้เข้านั่งพระกรรมฐานในกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    อุกาสะ ข้าพเจ้าขออาราธนาพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสังฆเจ้า จงมาบังเกิดในกายทวาร จักขุทวาร มโนทวาร แห่งข้าพเจ้าผู้เข้านั่งพระกรรมฐานในกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
    คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรมเจ้า คุณพระสังฆเจ้า คุณศีล คุณทาน คุณกาลภาวนา ที่ข้าพเจ้าได้สร้างสมอบรมมา หมื่นชาติ แสนชาติ และในปัจจุบันชาตินี้ก็ดี ขอให้ข้าพเจ้าได้สำเร็จมรรคผลในกาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    จะใช้พุทธหายใจเข้า โธออก พุทโธ หรือจะใช้สัมมาอรหังก็ได้ ได้ทั้ง 2 อย่าง
    (กำหนดใจที่ไหน) อยู่ปลายจมูก พุทโธ พุทโธ พุทโธ
    (มาพบหลวงพ่อไม่ได้ สมาทานกับพระพุทธรูปได้ไหม ?) ได้
    ภาวนาพุทโธ พุทโธ หรือจะใช้สัมมาอรหังก็ได้ แล้วแต่เราจะคัดสรรเอา
    นี้ถ้าหากว่าจิตมันยังแกว่ง ยังไม่สงบ ให้เพ่งพระพุทธรูปเป็นอารมณ์
    ให้ลืมตาเพ่งพระพุทธรูป แล้วก็หลับตาภาวนา จนกระทั่งพระพุทธรูปปรากฏในตาใน จิตจะได้เป็นสมาธิ

    ขอบคุณ คุณหมอแดง ที่ได้โพสต์ไว้ในบอร์ดคนรักมีดนะครับ

     
  6. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    <table cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr class="tr1"><th class="r_one" id="td_19" style="padding:0px;border:0;overflow:hidden" height="100%" valign="top">

    [​IMG]

    หลวงพ่อสอนเรื่องการจับพลังพระพุทธคุณ


    วันหนึ่งมีคุณครูท่านหนึ่งนำพระกริ่งหลวงพ่อเทียมมาให้หลวงพ่อดู
    หลวงพ่อจับและพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า มีพุทธคุณเหมือนกัน แต่อ่อน

    แล้วท่านก็สอนว่า พุทธคุณในบางองค์เสื่อมได้ หากไม่อยากให้เสื่อม
    หลังสวดมนต์เย็น ให้นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    แล้วเป่าไปที่วัตถุมงคล
    พุทโธ เป่า ธรรมโม เป่า สังโฆ เป่า

    เรียนถามท่านว่า จับพลังพุทธคุณทำยังไง

    ท่านว่าท่องคาถา ทำใจนิ่ง จับที่องค์พระ

    บางครั้งเย็นถึงกระดูก ร้อน หรือมีลักษณะต่างๆ
    เย็นก็หมายถึงเมตตา

    ถามท่านว่าถ้ามีไสยศาสตร์บรรจุอยู่ จะเข้าตัวท่านไหม
    ท่านบอกว่าไม่ และไม่กลัวด้วย

    ท่านไม่ได้บอกว่าภาวนาด้วยคาถาอะไร

    เราก็มาพิจารณา หลวงพ่อสอนเราแต่พุทโธ

    ก็ทำใจนิ่งภาวนาพุทโธในใจ
    ฝึกไม่ถึงชั่วโมง ก็จับพลังพุทธคุณได้

    ให้เป็นความรู้สึกก็ได้ หรือเป็นการอธิษฐานถามแต่ละจุดก็ได้
    เช่น ลาภ เมตตา แคล้วคลาด คุ้มครอง ป้องกัน คงกะพัน มหาอุด ชาตรี ตัดอุปฆาตกรรม
    และแก้วสารพัดนึก (อธิษฐานขอได้ทุกอย่าง)

    ถ้าฝึกคล่องตัวแล้ว
    ใจนิ่งโดยไม่ภาวนา ก็จับได้แล้ว

    หรือหากใช้ทิพจักขุญาณ (ที่เพื่อนชอบแซวว่า สแกนเนอร์) เพื่อตรวจดู

    ก็ตั้งภาพกสินให้ทรงตัวจนใสสว่างเป็นประกายพฤกษ์ก่อน
    แล้วมองเข้าไปในวัตถุมงคลนั้น

    โดยมากวัตถุมงคลที่พระอรหันต์ท่านทำ
    จะเห็นเป็นดวงสว่างจ้าเหมือนพระอาทิตย์เวลาเที่ยง แต่เย็นตา มีรัศมีประพฤกษ์ออก
    จนบางครั้งตัวเราเหมือนถูกดูดเข้าไปในแกนกลาง
    เพราะพลังสุดจะประมาณขอบเขตได้

    (ซึ่งที่ทราบมา ท่านเหล่านี้จะไม่ใช้กำลังใจตัวเองเสกพระ
    แต่จะอาราธนาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ พรหม เทวดาทั้งหมด มาช่วยเสก)

    แต่หากผู้เสกใช้กำลังตัวเอง จะเห็นเป็นสว่างมากน้อยต่างกัน ตามกำลังสมาธิ
    บางครั้งก็สว่างเหมือนแค่พระอาทิตย์จะตกดิน คือฟ้าหลัว
    บางครั้งก็มืด แล้วแต่กำลังใจของท่านที่ทำของนั้น

    มาคิดอีกที สงสัยหลวงพ่อเห็นเราชอบ
    ก็เลยให้อุบายเราฝึกสมาธิภาวนาแน่เลย

    นีคงเป็นกุศโลบายที่ยิ่งใหญ่โดยมีพื้นฐานจากวัตุมงคลที่ท่านสร้างให้ลูกหลาน

    ท่านที่สนใจ ลองเอาไปฝึกดูบ้างนะครับ ไม่สงวน



    ขอบคุณบทความจาก

    http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=9814

    </th> </tr> <tr class="tr1 r_one"> <th style="vertical-align:bottom;border:0;padding:0px;padding-top:30px;">
    </th></tr></tbody></table>
     
  7. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    [​IMG]

    หลวงพ่อดูดวง

    เมื่อปี 2546 เคยใช้สแกนเนอร์ตรวจสอบตัวเอง พบเรื่องน่ากลัวว่าชีวิตจะไม่รอด
    ตอนนั้นสแกนเนอร์ยังเป็นสนิม ใช้ไม่คล่อง
    นำความเรียนหลวงพ่อ
    ท่านขีดเขียนบนกระดาษหนังสือพิมพ์ แล้วพูดว่าไม่ตายหรอก
    แค่เนี้ยะ จริงๆ ไม่เห็นดูอะไรให้ต่อเลย
    ท่านเมตตาทำบังสกุลตายและเป็นให้

    มกราคม 2547 ป่วยมาก
    นอน รพ เป็นเดือน ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต
    ขณะอยู่ รพ ได้คุยกับท่านทางโทรศัพท์
    ท่านให้กำลังใจและแนะให้แผ่เมตตา
    ออกจาก รพ ก็ไปกราบท่านอีกครั้ง แล้วเราก็หายหัวไปเลย 5 ปี


    เมื่อ ปลาย 2548
    มีโอกาสได้พบโหรท่านหนึ่งที่ดูด้านลายมือ และการคำนวณ ได้คุยกันเป็นชั่วโมง
    ทราบว่าจบ ป 4 แต่ลูกค้ามีตั้งแต่รากหญ้าถึงระดับสูงมากๆๆๆ
    ก็มานั่งคิดว่า เราจบปริญญาเอก 2 ใบ จะสู้ ป 4 ไม่ได้เชียวหรือ
    แต่ก็ไม่ได้ตัดสินใจเรียนกับท่านนั้น

    สั่งซื้อหนังสือดูลายมือมา 3 หมื่นบาท เลือกมาจากกองนั้นได้แค่ 1 เล่มเอง
    โทรไปคุยด้วย เอ้อคนเขียนยังไม่ตายแฮะ
    ท่านรับเป็นศิษย์ ท่านก็จบ ป 4
    เราก็ศึกษาจากหนังสือนั้นเอง ข้องใจก็ไปถาม
    แล้วฝึกซ้อมโดยลงสนามจริง
    เพราะที่ทำงานมีคนเข้าออกวันละเป็นพัน
    ลองผิดลองถูกจนคล่อง ไม่ได้ดูเอาเงิน แต่ท้าทายดี
    อาจารย์ฝากคนมาบอกว่าดูเอาเงินเป็นอาชีพได้แล้วนะ
    แต่เราคิดว่างานที่ทำ ดีอยู่แล้ว

    เมื่อกรกฎาคม 2551
    ตรวจชีพจรหลวงพ่อ หงายมือท่าน
    เรดาห์ทำงานอย่างรวดเร็ว
    ต้องการดูว่ามือพระอรหันต์เป็นอย่างไร
    แต่แปลกอารมณ์ท่านเย็นมาก ทั้งที่เราเห็นรูปมือท่านเป็นคนใจร้อนมาก
    ท่านว่าใช่ ท่านเป็นคนใจร้อน

    หากมีโอกาสก็จะขอถ่ายรูปมือท่านมาให้ชม
    เพราะได้เห็นข้อมูลหลายอย่าง

    เคยเรียนถามท่านว่าหลวงพ่อดูดวงชะตาด้วยอะไร
    ท่านว่าคำนวณจากปฏิทินร้อยปี วางตัวเลข แล้วทายตามทศชาติ
    ถามท่านว่า หลวงพ่อใช้ทิพยจักขุญาณร่วมด้วยใช่ไหม
    ท่านว่าใช่

    วานนี้มีคนมาก มาขอดูดวง
    ทั้งหมดที่นับได้ตอนที่เราอยู่ด้วย คือ 5 คน 10 ดวง 2 ชั่งโมงเต็ม
    คือถามท่านทั้งเรื่องตัวเองและเรื่องสามีด้วย
    ท่านก็นั่งคำนวณไป สังเกตว่าอะไรก็ตาม มักทายคลุมทีละ 12 ปี

    เวลาที่โยมถาม

    เราก็ดูตามด้วย ใช้ทั้งสแกนเนอร์ และอธิษฐานถามจากพุทธคุณในตะกรุดของขวัญด้วย

    ถ้าใช้สแกนเนอร์ ต้องตั้งกสินตั้งแต่ไก่โห่ นานกว่าวินาทีก็ถือว่าช้าเกินไป
    ที่ดีใจมากก็คือ เราแอบดูคำตอบก่อน แล้วฟังคำตอบจากหลวงพ่อ
    คำตอบที่ได้ตรงกับที่ท่านพูด ต่างแตที่เราเห็นรายละเอียดมากกว่าที่ท่านพูด
    ท่านคงเห็นมากเหมือนเรา แต่พูดเท่าที่พระจะพูดได้

    ท่านที่สงสัยว่าอธิษฐานถามตะกรุดของขวัญ ทำอย่างไร
    ต้องตั้งอารมณ์เข้าอุปจารสมาธิ
    (ทำบ่อยก็คล่องเอง)
    คือเมื่อต้องการทราบอะไรว่า ใช่หรือไม่ใช่ ดีหรือร้าย
    ถ้ามีตามนั้น ขอพุทธคุณจงคลุมตั้งแต่ศีรษะลงไป
    แล้งสังเกตดูถ้านิ่ง ก็ไม่ใช่ แล้วแต่อธิษฐาน
    ดีมากก็แรง อะไรทำนองนี้ หรือแย่มากน้อย ก็ดูตามพลังงานที่มาคลุม


    ท่านสมาชิกชุมชนคนรักหลวงพ่อครับ
    ฝึกเองดีกว่านะครับ


    ที่เขียนนี้มิใช่หวังให้ท่านไปรบกวนหลวงพ่อ ให้ดูดวงให้
    เพียงแต่ให้ท่านทราบว่าหลวงพ่อเชี่ยวชาญในศาสตร์หลายแขนง


    เราร่างกายดีๆ ดูตามตามท่าน ยังเหนื่อยมากๆเลย
    ดู 10 ดวง อย่างต่อเนื่อง 2 ชั่วโมง ต้องถือว่าหนักเอาการ

    บางที่พบท่านต้องดูสภาพร่างกายของหลวงพ่อด้วย

    ส่วนมากจะถามแต่เรื่องทางโลก หรือดีอยู่แล้วก็มาเช็คดวงบ้าง

    เท่าที่เคยเห็นมา ใครสนทนาธรรม ท่านจะพอใจมาก อารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด


    โดยความเห็นส่วนตัว
    ถ้าหากชีวิตของท่านราบเรียบดี


    เมื่อไปที่วัด
    ทำบุญกับหลวงพ่อ รักษาศีลวันละ 1-2 ชั่วโมง ภาวนาคาถาตะกรุดของขวัญ
    ถ้าตรวจพุทธคุณได้ สมาธิจะต้องอยู่ในระดับตั้งแต่อุปจารสมาธิ
    ถ้าถึงฌาณ 1 ตายไปก็เป็นพรหม เป็นผลดีกับตัวท่านเอง
    พบหลวงพ่อ ขอพรจากหลวงพ่อ
    อย่างนี้ท่านจะได้ทั้งพรและได้ทั้งบุญ
    ครบทั้งทาน ศีล และภาวนา
    เบาแรงหลวงพ่อท่านมากๆด้วย



    คนดวงไม่ดี

    ท่านจะแนะนำให้สวดมนต์ ทำสมาธิ
    ถ้าใจฟุ้งซ่านให้หาลูกประคำมานับพุทโธ
    ถ้าฟุ้งซ่านเกินไปจะนอนไม่หลับ เครียด ปวดหัว และปวดกระเพาะได้
    จะไม่แนะนำให้ไปสะเดาะเคราะห์ เสียเงินทอง



    กรรมฐานแก้กรรมได้จริงไหม

    สงสัยเเพราะได้ดูทางทีวีหลายช่อง
    ถามหลวงพ่อดีกว่า
    ท่านว่ากรรมฐานแก้กรรมได้จริง หมั่นทำเข้านะ
    แก้ได้ทั้งเวรและกรรมหรือเปล่าครับ ท่านว่าใช่
    ถ้าเขายังอาฆาตอยู่อีก จะแก้ได้ไหมครับ
    ท่านว่ายังไงเขาก็ต้องยอม

    ลองนึกถึงองค์คุลีมาร ฆ่าคนเป็นร้อย เป็นพระอรหันต์เข้านิพพานได้ กรรมตามไม่ทันอีก



    ของเล่นเด็กก็เป็นสังฆทานได้

    วานนี้ไปถวายสังฆทานด้วยชุดสัฆทานปกติ
    และมีรถบังคับวิทยุเด็กเล่นใหม่เอี่ยมไปด้วย 1 คัน
    เรียนท่านว่าสแกนเนอร์ตรวจพบว่าผีเด็กอยากได้
    การทำบุญก็อยากที่จะให้ได้เต็มตามวัตถุประสงค์ของผู้รับ
    ท่านสนับสนุนว่า ดี หมั่นบริจาคไว้ ต่อไปถ้าเขาช่วยอะไรเราได้ เขาก็จะช่วย
    ส่วนของเล่นเด็ก ท่านก็จะบริจาคให้ต่อไป



    สมรภูมิรบ วัดพิชัย

    วานนี้เรียนหลวงพ่อว่าเคยใช้ทิพยจักขุญาณดูบริเวณลานวัด
    เห็นคนที่ตายแล้วมีมากมาย
    บางคนเป็นคนบาดเจ็บมีรอยมีดดาบ มีคนประคองรักษาอยู่ที่พื้น หน้าตาเหมือนคนเสียเลือดมาก ไม่น่ารอด
    มีคนหุงหาอาหาร แสดงว่ายังไม่รู้ตัวว่าตาย
    มีคนที่ตายแล้วในสมัยปัจจุบันก็มีมาก เดินซ้อนกันไปมา
    (แต่ไม่เห็นเหมือนผีในหนังที่น่ากลัว หน้าตาก็เหมือนคนเรานี่แหละ)
    พออุทิศกุศลให้ 3 ครั้ง เขาเหล่านั้น ก็จากไปอยู่ตามภพภูมิตนเอง

    ที่น่าแปลกมี 1 ท่าน ใส่ชุดแม่ทัพนายกอง เครื่องแบบสีดำ ยืนหันหลังให้
    พลังงานที่ออกจากตัวท่าน เป็นพลังงานที่สว่างจ้าคล้ายพระอรหันต์
    ท่านรับบุญได้แต่ทำไมไม่ไป
    พอหันหลังมาก็หน้าตาเหมือนรูปปั้นที่ทำไว้ในศาลริมเขื่อน มีหนวดด้วย
    ท่านว่า ที่มาให้เห็นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า เมื่อมีคนมาไหว้ ท่านรับรู้
    ถามท่านว่าอยู่ถาวรหรือไม่
    ท่านบอกว่าว่าด้วยอารมณ์เป็นทิพย์ อยู่ที่ไหนก็รับรู้ได้

    หลวงพ่อฟังแล้วหัวเราะ นิ่งไปพักหนึ่ง
    (ตอนนั้น คิดว่าสแกนเนอร์ช็อตหรือมั่ว ตาฝาดแน่ๆ)

    แล้วหลวงพ่อก็เล่าว่าเดิมวัดวัดพิชัย เป็นสมรภูมิรบ
    ทหารพม่าเข้ายึดที่วัด และวัดข้างเคียงไปหมด
    พระเจ้าตากท่านเข้ามา ก็มีการต่อสู้กัน
    คนที่ตายทั้งไทย พม่า ก็เอาไปทิ้งที่แนวที่ทำเขื่อนไว้
    พระเจ้าตากเข้ามาพักที่นี่ 1 คืน แล้วก็ออกไป
    หลวงพ่อจึงได้ปั้นรูปพระเจ้าตากไว้เป็นอนุสรณ์ให้คนกราบไหว้

    (ฟังแล้วโล่งอก สแกนเนอร์ยังทำงานดีอยู่)



    หลวงพ่อแนะนำเรื่องทิศ

    วานนี้ท่านไปฉันเพลที่บ้านโยมท่านหนึ่ง
    โยมมาที่วัดด้วย

    ท่านแนะนำว่าให้เปลี่ยนทิศนอน
    อย่าหันหัวไปทางทิศตะวันตก เพราะเราเป็นคนเป็น จะหันหัวไปทางทิศคนตายไม่ได้

    เส้นทางเดินที่เปิดประตูเข้ามา อย่าไปนอนขวาง
    เพราะเป็นทางที่ผีเดินผ่านไปมา
    ตรงนี้ท่านที่สงสัย ต้องถามหลวงพ่ออีกครั้ง
    ท่านไม่ได้วาดแผนที่ให้ดู แต่คิดว่าน่าจะเป็นทาง 3 แพร่ง


    ไม่ควรหันหน้าพระพุทธรูปไปทางทิศตะวันตก
    หันไปทางเหนือ ตะวันออก และทิศไต้ได้

    (หลวงพ่อวัดท่าซุงเคยบอกว่า หลวงพ่อปานไม่แนะให้หันไปทางไต้ และตก เพราะเงินจะไม่เหลือ
    เอาเป็นว่า เรางด 2 ทิศ แล้วกัน)

    หลวงพ่อเล่าต่อว่า ยกเว้นพระพุทธรูปในพระอุโบสถ
    จะหันไปที่แม่นำ

    เพราะสมัยก่อนคนเดินทางหรือค้าขายทางเรือ
    ผ่านหน้าวัด ก็จะยกมือไหว้พระประธาน
    ถ้ายึดตามทิศ ก็เท่ากับไหว้หลังพระ

    ขอบคุณบทความดีๆจาก
     
  8. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    [​IMG]

    นายทุนเข้าวัด

    สืบเนื่องจากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
    เรดาห์ตรวจพบนายทุนสร้างพระพร้อมบุกวัด หรือบุกแล้วก็ไม่รู้
    พวกนี้แปลก สร้างแล้วก็อาศัยศิษย์สายตรงหลวงพ่อเชียร์ที่แฝงตาม webpage คอยเชียร์
    ใช้กำลังคน 1 คน ก็ทำงานได้ กรุงศรีอยุธยาแตกก็เพราะไส้ศึกนี่แหละ
    บ้างก็เกริ่นนำเป็นผู้สร้างประวัติเก่าดี บ้างก็ว่าจองกันแล้วเป็นจำนวนมาก
    บ้างก็ว่ามวลสารดี ชนวนการสร้างดี

    จริงๆแล้วหากท่านสามารถตรวจพุทธคุณได้ พระที่ออกมาจะดีหรือไม่
    อยู่ที่วัตถุประสงค์ดี ผู้สร้างบริสุทธิ์ มวลสารใช้ได้ และผู้ปลุกเสกบริสุทธิ์
    เศษดินก้อนเดียวก็เป็นดาว และขลังได้ แม้ไม่มีชนวนมวลสารเยี่ยม
    พิรอดแขนรุ่นแรกของหลวงพ่อทำจากผ้าคลุมศพ ยังขลังเป็นที่สุดได้เลย
    พระที่ผู้เขียนแขวนองค์กลาง ก็เป็นพระเก๊ ที่ซื้อจากตลาดเจ้าพรหม 100 บาท
    มีพุทธลักษณะสวยงามมาก ไม่ได้หล่อจากดินไทย เป็นดินเกาหลีหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
    หลวงพ่อเสกให้ ตรวจพบพลังงานแรงมาก รัศมีสว่างจ้าด้วยซ้ำไป

    ตื่นแต่เช้าไปวัด วัตถุประสงค์คือจะได้คุยกับหลวงพ่อเรื่องนี้ได้ตามลำพัง

    รายงานท่านถึงผลงานที่เขียนลงใน ชุมชนคนรักมีด ท่านรับทราบและหัวเราะ
    หลังถามไถ่อาการโรคและตรวจร่างกายหลวงพ่อแล้ว

    หลวงพ่อย้ำถึง 2 ครั้ง ว่าให้ถามได้ และให้เขียนบันทึกได้

    สแกนเนอร์ของหลวงพ่อไวกว่าของผู้เขียนมาก
    ท่านพูดก่อนเลยว่า นายทุนเข้าวัด

    สาบานได้เรื่องที่จะเรียนถามท่าน แม้คุณพยาบาลที่ไปด้วยก็ไม่รู้มาก่อน

    ระหว่างการถาม คุณพยาบาลเข้ามาสะกิด ก็รู้ว่าเรายิงคำถามตรงมากๆ
    ท่านก็ย้ำ 2 ครั้งว่าถามได้ และอนุญาตให้เขียนบันทึกได้

    หลวงพ่อเล่าด้วยตัวท่านเองว่า นายทุน (สร้างพระ) เริ่มเข้ามาติดต่อที่วัด

    แต่ท่านก็จะดูว่าใครเป็นอย่างไร คือใช้เจโตปริยญาณ (ดูวาระน้ำจิต) ร่วมด้วย
    ท่านจะพิจารณาตัวบุคคลโดยละเอียด ไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยว
    ซึ่งหากมีเจ้าหน้าที่วัดวางตัวไม่เรียบร้อย หรือเกี่ยวข้องด้วย ท่านก็จะเรียกมาเตือน
    แม้ว่ขณะนี้จะยังไม่มีระเบียบปฏิบัติของวัดชัดเจนก็ตาม
    (คำถามลึกและละเอียดตรงกว่านี้ แต่คำตอบของหลวงพ่อสรุปเป็นอย่างนี้)

    ได้กราบเรียนท่านว่าสแกนเนอร์ตรวจพบว่าตั้งแต่ปี 2554

    งานหลวงพ่อจะเยอะกว่านี้อีกมาก ศรัทธาญาติโยมจะมาที่วัดเป็นจำนวนมาก

    ท่านฟังและยิ้มด้วยความเมตตา


    พวกท่านทั้งหลายครับ
    ทิพยจักขุญาณของหลวงพ่อแม่นยำนัก ยังไม่ได้ถาม ท่านก็พูดก่อน
    ทางเราก็โล่งอก เหตุเพราะเคารพรักท่านและรักวัดพิชัยสงคราม
    ท่านรับปากว่าถ้าผู้เขียนมาบวชก็รับ และชี้ให้นอนหน้าห้องน้ำ หน้าห้องกรรมฐาน
    ผู้เขียนก็อายุมากแล้ว อาจละสังขารก่อนหลวงพ่ออีก
    จึงอยากให้และได้เห็นวัดพิชัย เป็นวัดที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง



    ตะกรุดเก๊ระบาดหนัก ปลอมชนิดเผาขน

    ในเดือนที่ผ่านมา ได้รับรายงานจากผู้กองอรรถ
    นักแม่นปืนเหรียญเงินของกรมตำรวจ นำตะกรุด 3 กษัตริย์ และตะกรุดผ้ายันต์ดอกเล็กไปลองยิง
    ติดไว้ที่เป้าดำ ยิงในระยะห่าง 10 เมตร
    ผู้กองถนัดมือซ้าย แต่แขนซ้ายหัก จึงใช้มือขวายิง
    ผลของตะกรุด 3 กษัตริย์ ยิงเข้าเป้าดำทั้ง 7 นัด (ถ้าแขวนที่อก ก็คงเข้าทุกนัด)
    ตะกรุดผ้ายันต์ ยิงเข้าเป้าดำ 2 นัด นัดที่3 ตะกรุดเละ
    ที่มาของตะกรุดนี้ทราบว่าได้มาจากคนใกล้ชิด

    เมื่อข่าวนี้ออกไป ก็มีคนนำตะกรุด 4 มหา รุ่นก่อน และที่ตนเองได้มาภายหลัง
    คลี่ออกมาดูพบว่าลายมือไม่เหมือนกัน

    ได้เรียนหลวงพ่อทราบ ท่านว่ามีการปลอมมานานแล้วกว่า 5-6 ปีแล้ว
    ตอนนั้นยังเป็นตะกรุดโทนเดี่ยว เอากระดาษหุ้ม และทาสีดำทับ
    ผู้ซื้อเอามาคาดเอว จนกระดาษร่อนออก
    เอาไปใช้ ไม่ได้ผลก็มาเรียนท่านทราบ นำมาให้ดู ก็รู้ว่าหลวงพ่อไม่ได้ทำ
    ก่อนนี้ก็ปลอมเผาขน คือใกล้ๆหลวงพ่อนี้เองและท่านก็เคยเรียกมาเตือน

    ได้เสนอท่านว่าควรจะตอกโค๊ตเพื่อการอ้างอิงได้
    หลวงพ่อว่า ถ้าคนจะปลอม ทำยังไงก็ปลอม และเป็นความพอใจของผู้ซื้อด้วย

    ผู้เขียนก็กราบเรียนหลวงพ่อ ตามที่เคยพูดว่า ตะกรุดจะเสื่อมเมื่อคลี่ออก
    คนที่มีตะกรุดอยู่ อยากจะคลี่ออกเพื่อพิสูจน์ลายมือ จะแก้ไขให้ไม่เสื่อมได้ไหม
    หลวงพ่อว่าไม่ได้ อันนี้เป็นไปตามตำราของวัดประดู่
    ตอนม้วนก็ต้องกำกับด้วยคาถา และต้องนำมาปลุกเสกด้วยคาถาซ้ำอีกหลายครั้ง ให้มีพุทธคุณหลายด้าน
    เมื่อคลี่ออกแล้วนำมาให้หลวงพ่อม้วนใหม่ พลังก็กระจายออกมาแล้ว
    ถึงจะนำมาให้ท่องคาถาม้วนอีก ก็ไม่ขลังเหมือนเดิม
    (บางรายพิสดาร นำ 4 ดอก มาม้วนรวมเป็นดอกเดียว
    แล้วให้หลวงพ่อกำกับคาถาให้ใหม่ พุทธคุณจะเหลือถึงดอกหรือไม่ก็ไม่ทราบ)

    ได้ถามว่า ถ้านำตะกรุดมาให้หลวงพ่อตรวจดูจะทราบได้ว่าเป็นของแท้หรือไม่
    ท่านมองมาและบอกว่าคุณหมอก็ฝึกจิต ให้จับดูจะมีพลังวิ่งขึ้นมา
    แต่ถ้าของปลอม แล้วไปหย่อนในพิธีวัดอื่น มีพลังวิ่งเหมือนกัน
    ต้องอธิษฐานใหม่ว่าถ้าหลวงพ่อทำ ขอพลังงานจงวิ่งขึ้นมา
    ดูด้วยทิพยจักขุญาณก็ได้เช่นกัน เบาแรงดีด้วย

    ท่านที่เคารพทั้งหลายครับ ดูแลตัวท่านเองดีๆก็แล้วกัน
    การสั่งซื้อทางไปรษณีย์ ตาม web site หรือตามแผง โดยมีตราสติกเตอร์วัดติดที่ซอง ไม่ได้ประกันอะไร
    เพราะสติกเกอร์สั่งทำที่ไหนก็ได้ ทำเองที่บ้านยังได้
    ตะกรุดที่ถักเชือกไว้ ยิ่งปลอมง่าย ข้างในอาจไม่มีลายมือด้วย

    หลวงพี่โหน่งที่นั่งข้างหลวงพ่อบอกว่าที่ลพบุรี เอารูปหลวงพ่อขึ้นด้วย ทั้งที่ท่านไม่เกี่ยว
    สงสัยไม่แน่ใจคงต้องพึ่งบารมีหลวงพ่อ ถามท่านเองจะดีที่สุด

    ในภายหน้าการพิสูจน์ทราบยิ่งยาก หากคลี่ออกก็ต้องทิ้งอย่างเดียว
    ที่รับกับมือหลวงพ่อ ต้องเก็บไว้เป็นสมบัติครอบครัว
    และอาจเป็นหลักประกันเดียวที่มีอยู่
     
  9. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    [​IMG]


    กรรมฐานของหลวงพ่อท่านบอกว่าใช้อานาปานุสสติกรรมฐานร่วมกับการพิจารณากาย
    ฟังท่านแล้วไร้คำถามเลย แค่นี้หลวงพ่อก็เหมือนเทศน์ยันอรหันต์

    อานาปาเป็นกรรมฐานใหญ่และเป็นกรรมฐานกลาง ใช้ได้กับจิตในทุก จริต
    สามารถทรงได้ถึงฌาน 4 ผู้ที่คล่องจะบอกเวลาตายของตนเองได้
    ถ้าฉลาดใช้เป็นวิปัสสนาญาณ พิจารณาความไม่เที่ยงของลมหายใจได้
    ส่วนการพิจารณากายคือการตัดสักกายทิษฐิ
    ก็พิจารณาให้รู้ว่ามันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เ ราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีในเรา



    ตะกรุด 3 กษัตริย์

    ลงด้วยคาถา อิ สวา สุ




    ตะกรุด 16 ดอก

    ทั้งชนิดที่เป็นสร้อย หรือคาดเอว ลงด้วยคาถาเดียวกัน คือ คาถาพระเจ้า 16 พระองค์



    ตะกรุด 9 ดอก

    ลงด้วยนวหรคุณ


    หลังออกพรรษา
    จะมีตะกรุดออก โดยเฉพาะส่วนที่หมดจากพระอุโบสถแล้ว
    และตะกรุด 3 ดอก ยังไม่ได้กำหนดราคา



    ตะกรุดมหาระงับ

    ต้องตั้งเครื่องบูชาบายศรี หัวหมู ขนมต้มแดง ต้มขาว
    ใช้เวลาจานดอกละชั่วโมงครึ่ง
    ต้องบริกรรมคาถาตั้งแต่การตีเส้นและทุกอักขระรวมทั้งขณะที่ม้วน
    เมื่อเสร็จแล้วต้องเสกด้วยพระคาถาหลายบทตามจำนวนครั้งที่กำหนด
    อีกทั้งยังเสกรวมกับวัตถุมงคลอื่นด้วย

    มีประสบการณ์ที่นำเรียนหลวงพ่อทราบ เรื่องศัตรูเข้าโจมตี 4 ครั้ง ใน2 ครั้งหลัง ไม่เห็นตัว
    (ไม่ขอเล่าในที่นี้มาก เป็นความลับของหน่วยงาน)
    ยังไม่มีกำหนดทำอีกในขณะนี้ ต้องรอดูข่าวปลายปีอีกครั้ง
    แต่ที่แน่ๆ หมอต้องเช็คร่างกายก่อน ครั้งก่อนเสร็จก็เข้า รพ

    นำเรียนท่านว่ามีผู้นำไปปั่นราคาเป็น 8,000 บาท
    และอ้างว่าถักเชือกลงรักแล้ว

    ท่านทั้งหลาย ระวังตัวท่านเองและใช้วิจารณญาณด้วย
    จะโดนตะกั่วเปล่าม้วนก็ได้ ตะกั่วเปล่าขนาดนี้ ราคาแค่ 100 บาท
    และท่านอาจต้องแบกตะกั่วเปล่า และหนัก ไปทั้งชีวิต
    และตะกรุดท่านมีข้อห้ามมาก ห้ามด่าพ่อแม่ ทำผิดศีลธรรมและกฎหมาย ห้ามใส่ขณะมีเพศสัมพันธ์
    ถึงเป็นของแท้ ก็เสื่อม
    รอมือหนึ่งดีกว่านะครับ สบายใจด้วย


    ตะกรุดจักรพรรดิ

    หลวงพ่อเคยดำริที่จะสร้างเพื่อทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย
    ที่มีเกลื่อน นั้นไม่ใช่
    เป็นตะกรุดคู่บุญของพระมหากษัตริย์เท่านั้น
    มีพุทธคุณด้านเมตตา มหาอำนาจ และการปกครอง
    ไม่อนุโลมให้ครอบครองโดยบุคคลธรรมดา

    เราควรดีใจถ้าท่านสร้างเสร็จ เพราะตะกรุดคู่บุญนี้จะแผ่ความร่มเย็นมาสู่พวกเราทุกคนใต้ร่มพระบารมี

    ที่มีข่าวว่าท่านจะสร้างตะกรุดจักรพรรดิ ระวังเป็นเหยื่อมิจฉาชีพนะครับ





    [​IMG]


    การพุทธาภิเษกวัตถุมงคล

    ในตอนเช้าจะทำกรรมฐานประมาณชั่วโมงครึ่ง พร้อมเสกพระ
    ซึ่งจะบริกรรมพระคาถาในแต่ละหมวด เช่น คงกระพัน มหาอุด เป็นต้น
    เป็นการเสกรวมทั้งหมด
    ปิดท้ายด้วย พระคาถากันกันถอนและกันคัด
    คือไม่ให้เสื่อม ไม่ให้ใครมาถอน หรือคัดพุทธคุณออก เพื่อนำไสยศาสตร์เข้า

    ของเดิมที่ยังมีอยู่ก็เสกไปเรื่อย เช่นเหรียญ และพระสมเด็จ
    (น่าเก็บไหมครับ สมเด็จ ปี2511 เสก 40 ปี ยังไม่มีเก๊ด้วย ใครเก๊ก็ไม่คุ้ม)
    ในระหว่างวัน เช่นกลางวัน หรือเย็น ไม่แน่นักจะเสกกี่ครั้ง
    จะไม่เสกย่อย ถ้าทำต้องอย่างน้อยต้อง 1 ชั่วโมง


    การเสกย่อย

    เช่นเมื่อมีผู้นำพระหรือตะกรุดที่บูชามาแล้วมาให้เสกอีกครั้ง
    หลวงพ่อท่านจะยกมือพนมแล้วตั้งจิตอธิษฐาน
    อาราธนาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ขอจงทำวัตถุมงคลนี้ให้ศักดิ์สิทธิ์
    และมีพุทธคุณครอบคลุมทุกอย่าง
    ในบางครั้งก็จะเห็นพระพุทธรูปลอยมาร่วมพิธีบ้าง เป็นพระสงฆ์บ้าง
    (นี่คือการสัมภาษณ์ตรงประเด็น ไม่ตัดแต่งข้อมูล)

    ดังกล่าวข้างต้น หลวงพ่อเสกย่อยพระองค์กลางที่ผู้เขียนห้อยอยู่
    และวันนั้น ท่านเสกพระพุทธรูปเล็กที่เขาถวายร่วมกับสังฆทาน ขนาดประมาณสูง 3 นิ้วสีเงิน
    แค่ครั้งเดียวพลังงานแน่นมาก สว่างจ้ามีรัศมีประกายพฤกษ์
    พระพุทธรูปก็เป็นปูนพลาสเตอร์พ่นสีเงิน ไม่เกี่ยวกับมวลสารอะไรเลย
    หลวงพ่อบอกว่าเคยคิดที่จะขอให้พุทธคุณคงอยู่ถึง 5,000 ปี ตามอายุพระศาสนา
    เคยทำบ้างที่เสกวัตถุมงคลรุ่นเก่าที่คนบูชาไปแล้ว (เสกทางอากาศเลย)
    เพราะเกรงว่าเขาเอาไปแล้ว ทำตัวไม่ดีจะเสื่อม
    แต่ใครไม่มั่นใจ ก็นำมาขอให้อธิษฐานใหม่ได้


    การเบิกเนตรพระ

    ท่านว่าต้องเบิกทั้งตา หู จมูก ปาก มีคาถากำกับ
    ผู้เขียนจำไม่ได้


    การเป่ากระหม่อม

    หลวงพ่อเล่าด้วยสีหน้าจริงจังพร้อมทำมือประกอบการครอบ และพูดว่า จะครอบไว้ทั้งหมด
    ด้วยพระคาถามงกุฎพระเจ้า


    ท่านที่อยู่ในศาลริมเขื่อน

    ตามที่สแกนเนอร์ตรวจเรดาห์พบข่าวนายทุนกลางสัปดาห์ที่แล้ว
    กลางคืนก็ไหว้พระตามปกติ รำลึกถึงหลวงพ่อใหญ่ในโบสถ์
    มีนิมิตเห็นท่านที่อยู่ในศาลริมเขื่อนชักดาบออกจากฝัก
    ฟันคอคนหนึ่งที่ยืนหันหลังให้ผู้เขียน (ชักดาบและฟันในแนวขวาง)
    หัวหลุดและเลือดพุ่งออกเหมือนก๊อกน้ำ
    (ไม่ได้กลัวเพราะงานที่ทำ ก็เห็นเลือดเป็นปกติอยู่แล้ว)
    แต่ก็ทราบว่าวัดนี้ศักดิ์สิทฺธิ์ ท่านยังดูแลคุ้มครองดูแลอยู่

    ถามท่านว่าข้อหาอะไรครับ
    1. ....... แต่แปลโดยรวมว่า ยักยอก
    2. ทำชาวบ้านเสื่อมศรัทธาในสงฆ์

    คิดว่านิมิตรนี้แปลว่า คนนี้อาจโดนคนอุ้มไปอบรมระยะสั้น และนำมาส่งคืนก็ได้

    หลังจากลาหลวงพ่อลงมาที่ศาล
    เมื่อกราบท่านในศาลแล้ว
    ได้ยินเสียงมาว่า นึกว่าแกจะไม่เข้าหาฉันแล้ว
    คือหลายครั้งที่ไปวัด ผ่านหน้าศาล ไม่แวะ เพราะเวลากระชั้น
    มองดูมีไก่ที่คนนำมาแก้บนท่านหลายตัว บ้างก็เป็นดาบ
    คุณหนุ่ยที่ดูแล เล่าว่ามีคนเคยมาขอซื้อไก่ แต่ก็บอกขายไม่ได้
    หากมีมากก็นำไปประดับรอบวัด
    ส่วนดาบแก้บน ก็ลาแล้วไปไว้ในโบสถ์
    ปัจจุบันดาบนี้ก็ได้นำมาประดับที่ทหารหน้าศาลาพระเจ้าตาก


    [​IMG]


    หลวงพ่อติดตามข่าวบ้านเมือง

    ได้ขอหลวงพ่อแผ่เมตตาให้บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข
    ท่านว่าได้ทำอยู่แล้ว แต่ต้องหลายๆคนร่วมกันทำด้วย



    แก้ข่าวพิรอดแขน

    ตามที่เคยเขียนว่าทำจากผ้าคลุมศพ
    อาจารย์ผู้ถัก ท่านเป็นคนบอกว่าเป็นเช่นนั้นจริง

    มาพิจารณาจากคำพูดหลวงพ่อบอกว่า ทำจากผ้าบังสุกล

    แต่เมื่อคุยกับคุณหนุ่ย (สัปเหร่อประจำวัด)
    บอกเป็นผ้าบังสุกุลเป็น บังสุกุลตาย ไม่ใช่ผ้าคลุมศพ
    คนที่มาทำบังสุกุล ถือว่าไม่ใช่ผ้าที่ควรนำกลับ ก็เลยถวายวัดไว้
    ส่วนผ้าคลุมศพ ได้เผาไปพร้อมกับศพหมดแล้ว
    ท่านที่สนใจอยากได้ก็หมายตาได้เลย

    ขอบคุณ บทความของ หมอแดง - หมอเทวดา
    จาก
     
  10. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    [​IMG]


    [FONT=&quot]ประวัติหลวงพ่อคล้อย อโนโม วัดภูเขาทอง กับวิชาผูกหุ่นพยนต์ตาปะขาว[/FONT]
    [FONT=&quot] พระครูพิพิธวรกิจหรือ หลวงพ่อคล้อย อโนโม พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง วัดภูเขาทอง อ[/FONT].[FONT=&quot]ควนขนุน จ[/FONT].[FONT=&quot]พัทลุง ท่านเป็นศิษย์สายเขาอ้อสายตรงของแท้ โดยท่านเป็นหลานของ .” พระอาจารย์เอียดวัดดอนศาลา “ ซึ่งได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาสายเขาอ้ออย่างลึกซึ้งถึงแก่นแท้ของศาสตร์วิชา “ หลวงพ่อคล้อย “ เกิดเมื่อวันที่ [/FONT]9[FONT=&quot] ก[/FONT].[FONT=&quot]พ [/FONT]2472[FONT=&quot]ปัจจุบันอายุ[/FONT]80[FONT=&quot] ปี พรรษา [/FONT]58[FONT=&quot] นามเดิมว่า นายคล้อย ทองโอ่ โยมบิดา ชื่อ นายแสงโยมมารดา ชื่อ นางเอียด เกิดที่บ้านมะกอกเหนือ อ[/FONT].[FONT=&quot]ควนขนุน จ[/FONT].[FONT=&quot]พัทลุงอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ [/FONT]1 [FONT=&quot]มี[/FONT].[FONT=&quot]ค [/FONT]2493 [FONT=&quot]ที่ วัดควนปันตาราม โดยมี พระครูรัตนากิรัตเป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาเจิม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูกาชาต (บุญทองเขมทัตโต) วัดดอนศาลา เป็นพระอนุสาวนาจารย์[/FONT]
    [FONT=&quot] พ่อท่านคล้อยเป็นหลานของพ่อท่านเอียดจึงได้รับการถ่ายทอดตำราวิทยาคมสายเขา อ้อของพ่อท่านทองเฒ่า,พ่อท่านเอียด,พ่อท่านปาน,อย่างเต็มที่ผนวกกับความ ตั้งใจศึกษาสรรพศาสตร์อย่างเต็มที จึงทำให้พ่อท่านคล้อยเป็นผู้คงแก่เรียน และเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์รูปหนึ่ง[/FONT][FONT=&quot][/FONT]
     
  11. CheKuvara

    CheKuvara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,460
    ค่าพลัง:
    +19,341
    ประวัติ พ่อท่านนวล ปริสุทโธ วัดไสหร้า (วัดประดิษฐาราม) [​IMG]

    [​IMG]
    พ่อท่านนวล ปริสุทโธ วัดไสหร้า

    ประวัติและปฏิปทา หลวงพ่อนวล ปริสุทโธ
    วัดประดิษฐาราม (วัดไสหร้า) ต.บางรูป อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช


    ประวัติ หลวงพ่อนวล วัดไสหร้า(วัดประดิษฐาราม)
    ประวัติพ่อท่านนวล ปริสุทโธ วัดไสหร้า(วัดประดิษฐาราม)พระครูวิสุทธิบุญดิตถ์ หรือ “หลวงพ่อนวล ปริสุทโธ” หรือที่ชาวบ้านเรียกท่านว่า “พ่อท่านนวล” เป็นพระสุปฏิปันโนนักปฏิบัติกัมมัฏฐาน ที่เพียบพร้อมด้วยจริยวัตรอันงดงาม และเป็นพระบริสุทธิสงฆ์ที่ยึดหลักพระธรรมวินัยตามคำสอนในพระพุทธศาสนาอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติกิจของสงฆ์เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ ไม่เว้นแม้ยามเจ็บไข้ได้ป่วย จนเป็นที่เลื่องลือและเป็นที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสในหมู่ชาวบ้านญาติโยมแดนปักษ์ใต้เป็นอันมาก
    <ins style="display: inline-table; border: medium none; height: 90px; margin: 0pt; padding: 0pt; position: relative; visibility: visible; width: 160px;"></ins>
    พ่อท่านนวล มีนามเดิมว่า นวล เจริญรูป เกิดเมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๕ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๕ ค่ำ เดือน ๘ ปีจอ ณ บ้านไสหร้า หมู่ ๔ ต.ทุ่งสัง (หมู่ ๑ ต.บางรูป ในปัจจุบัน) อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายเกลื่อน และนิ่ม เจริญรูป มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด ๒ คน และมีพี่น้องร่วมบิดาแต่ต่างมารดา อีก ๔ คน
    หลวงพ่อนวล ปริสุทโธ”ปัจจุบันสิริอายุ ๘๓ พรรษา ๖๓ (เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๘) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส วัดประดิษฐาราม (วัดไสหร้า) บ้านไสหร้า ต.บางรูป อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ทำให้ชาว อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ต่างมีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่มีพ่อท่านนวล เป็นเนื้อนาบุญของชาวเมืองอย่างแท้จริง

    ด้านวัตถุมงคล พ่อท่านนวล ได้จัดสร้างพระเครื่องวัตถุมงคลไว้หลายรุ่นด้วยกัน อาทิ วัตถุมงคลรุ่นล่าสุด สร้างปี 2552 ผ่านพิธีปลุกเสกสมบูรณ์ พร้อมเปิดให้บูชา กำลังได้รับความนิยมในหมู่ลูกศิษย์ลูกหา รูปเหมือนพ่อท่านนวล ขนาดบูชาเนื้อโลหะหน้าตัก 5 นิ้ว รูปหล่อลอยองค์เบ้าทุบ และเหรียญพ่อท่านนวลเจริญโภคทรัพย์ เป็นต้น


    ๏ ชีวิตปฐมวัยและการศึกษาเบื้องต้นของ พ่อท่านนวล ปริสุทโธ วัดไสหร้า
    ชีวิตในวัยเด็ก พ่อท่านนวลเป็นคนชอบสนุกสนาน แต่ขี้อาย มีความประพฤติเรียบร้อย สมถะ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นที่รักของครอบครัวและเพื่อนฝูง เมื่ออายุได้ ๗ ขวบ ได้เข้าเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดมะเฟือง ต.นากะซะ อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๙

    ๏ การอุปสมบท
    พระครูวิสุทธิ์บุญดิตถ์ พ่อท่านนวล ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๕ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๗ ณ พัทธสีมาวัดภูเขาหลัก (วัดหลวงพ่อแดง พระเกจิอาจารย์ชื่อดังในสมัยก่อน) ต.ทุ่งสัง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยมีพระครูถาวรบุญรัตน์ วัดท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช เป็นพระอุปัชฌาย์

    ๏ งานด้านการศึกษาของ พ่อท่านนวล วัดไสหร้า
    ปี พ.ศ.๒๔๙๒ พ่อท่านนวล สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท ณ สำนักเรียนวัดประดิษฐาราม
    ปี พ.ศ.๒๔๗๓ พ่อท่านนวล เป็นครูสอนพระปริยัติธรรม
    ปี พ.ศ.๒๔๙๘ เป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง
    ปี พ.ศ.๒๕๐๓ หลวงพ่อนวล เป็นกรรมการศึกษาโรงเรียนวัดประดิษฐาราม
    ปี พ.ศ.๒๕๐๔ หลวงพ่อนวล รักษาการแทนสาธารณูปการ อ.ทุ่งใหญ่ และเป็นกรรมการการศึกษาประจำตำบลทุ่งสัง

    หลวงพ่อนวล กับงานด้านการอุปถัมภ์การศึกษา
    หลวงพ่อนวล ท่านได้เริ่มก่อตั้งโรงเรียนวัดประดิษฐาราม เมื่อ พ.ศ.๒๕๐๑ โดยได้บริจาคที่ดินของวัด ๑๒ ไร่ เป็นที่ตั้งโรงเรียน ต่อมาได้ก่อตั้งกองทุนพ่อท่านนวล ปริสุทโธ เพื่อเป็นทุนการศึกษาสำหรับเด็กนักเรียนที่เรียนดี ความประพฤติเรียบร้อย แต่มีฐานะยากจน หลายกองทุน และยังนำมาเป็นทุนการศึกษาให้กับพระภิกษุสามเณร ที่ศึกษาพระธรรมในสถาบันศาสนาทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด

    พระครูวิสุทธิ์บุญดิตถ์ หลวงพ่อนวล ปริสุทโธ และ งานด้านการพัฒนา
    หลวงพ่อนวล ท่านได้ดำเนินการก่อสร้างและพัฒนา หลวงพ่อนวล นำความเจริญมาสู่ชุมชนตลอดมาในทุกๆ ด้าน ด้วยความเมตตาของท่าน

    ๏ ลำดับงานปกครองและสมณศักดิ์ พ่อท่านนวล วัดไสหร้า
    ปี พ.ศ.๒๔๙๒ หลวงพ่อนวล ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดประดิษฐาราม (วัดไสหร้า) ตั้งแต่บัดนั้นมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้
    ปี พ.ศ.๒๕๐๘ พ่อท่านนวล ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลทุ่งสัง
    ปี พ.ศ.๒๕๐๕ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นครูสัญญาบัตรชั้นตรีที่ พระครูวิสุทธิบุญดิตถ์
    ปี พ.ศ.๒๕๑๘ หลวงพ่อนวล ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์
    ปี พ.ศ.๒๕๒๖ พ่อท่านนวล ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในพระราชทินนามเดิม

    [​IMG]
    การสร้างวัตถุมงคล พระเครื่องพ่อท่านนวล วัดไสหร้า
    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๓ ทางวัดได้จัดสร้างวัตถุมงคล"พ่อท่านนวล"รุ่นแรกขึ้น ซึ่งเป็นรุ่นที่มีประสบการณ์ เป็นที่ยอมรับของศิษยานุศิษย์ ที่ได้นำไปบูชาอย่างกว้างขวาง และเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๔๘ ทางวัดได้สร้างวัตถุมงคลรุ่นผูกพัทธสีมายกช่อฟ้าฝังลูกนิมิต สำหรับให้ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใสได้สักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยรับได้เฉพาะที่วัดเพียงแห่งเดียวเท่านั้น อีกทั้ง วัตถุมงคลที่โด่งดังยังมีรุ่นมหาโภคทรัพย์ ๗ รอบ เป็นต้น
    นอกจากนี้แล้ว พ่อท่านนวล วัดไสหร้า ท่านยังเป็นพระเกจิอาจารย์และเจ้าพิธีระดับแถวหน้า ที่ได้รับการยอมรับและคร่ำหวอดอยู่กับพิธีปลุกเสกจตุคามรามเทพอีกด้วย

    ๏ ปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงามของ หลวงพ่อนวล
    พ่อท่านนวล ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีปฏิปทาและศีลาจริยวัตรอันงดงาม ท่านค่อนข้างเงียบ พูดน้อย แต่ใจดีมีเมตตามาก คำพูดของท่านล้วนเป็นจริงตามที่ท่านพูดเสมอ จนทำให้ผู้ที่มีความเคารพศรัทธาท่าน ไม่กล้าทำอะไรที่นอกลู่นอกทาง และได้ขนานนามท่านว่า “พ่อท่านนวลวาจาสิทธิ์”
    ในแต่ละวันจะมีผู้คนที่เคารพศรัทธาเลื่อมใสได้เดินทางมากราบไหว้ ขอพรจากหลวงพ่อนวล ท่านไม่ขาดระยะ นอกจากนี้ท่านยังได้รับกิจนิมนต์ไปประกอบศาสนพิธีในต่างจังหวัดอยู่เสมอ รวมทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างประเทศ
    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๓ ทางประดิษฐาราม (วัดไสหร้า) ได้จัดสร้างวัตถุมงคล"พ่อท่านนวลรุ่นแรก"ขึ้น ซึ่งเป็นรุ่นที่มีประสบการณ์เป็นที่ยอมรับของศิษยานุศิษย์ ที่ได้นำไปบูชาอย่างกว้างขวาง
    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๘ ทางวัดกำลังก่อสร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่



     
  12. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    อนุโมทนาสาธุการด้วยครับ...ว่าแต่ข้อความและตะกรุดน่าสนใจ..สรุปว่าน่าสนใจทั้งหมดเลยครับ
     
  13. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624
    ผมขออนุโมทนาสาธุ กับพี่เชด้วยครับ พรุ่งนี้ผมมาอ่านต่อครับ
    และผมขอตัวพักผ่อนก่อนครับ ญาติธรรมทุกๆท่าน
     
  14. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748
    " หากใครมีสีผึ้งดีๆอยู่แล้ว เช่น ลพ.ทาบ ลป.ทิม ฯลฯ ลองเอามาทำให้งอกขึ้นดังนี้นะครับ
    หาซื้อสีผึ้งแท้จากร้านสังฆภัณฑ์ มาใหม่สักตลับหนึ่ง เอามาใส่ขวดแก้วหรือวัสดุทนไฟ เอาเทียนไขขาวหนัก1 บาท ลนที่ใต้ขวดสีผึ้งใหม่จนละลาย เอาสีผึ้งเก่าผสมลงไป กวนให้เข้ากันด้วยไม้ไผ่เล็กๆหรือก้านตอง อย่าใช้โลหะลงไปกวน จะได้สีผึ้งใหม่ที่ดีเช่นเดิมอีกมาก ใช้ได้ผลเหมือนเดิม
    สีผึ้งเก่าบางราย ทิ้งไว้นานๆจะมีราขึ้นเต็มตลับ หากทำวิธีนี้จะยังคงรักษาของดีไว้ได้ "


    ไปควานหามาจนเจอ...หน้า 741 เชียวนะท่าน
     
  15. ลูกน้ำเค็ม

    ลูกน้ำเค็ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,022
    ค่าพลัง:
    +14,548
    ขอบคุณครับน้าต๋อย น่าเสียดายผมไม่มีสีผึ้งดี ๆ เก่า ๆ เลย ถ้าน้าต๋อยทำงอกเงยขึ้นมาแล้ว รบกวนสักตลับใหญ่ ๆ นะครับ 555
     
  16. ครุฑา

    ครุฑา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +3,089
    ผมอ่านแล้วขอเป็นกำลังใจให้คุณหนุ่มและทีมงานที่ได้ช่วยเหลือวัดหลวงพ่อต่างๆด้วยดีเสียสละทั้งแรงกายและกำลังทรัพย์เป็นอันมากโดยไม่ย่อท้อ และอย่าไปฟังคำคนติฉินนินทาเลย
    ผมเห็นว่าเคยมีพี่อุดมเดชและหลายๆคนเคยเสนอไว้ว่าน่าจะลงโฆษณาเปิดรับจองในนิตยสารพระเครื่องบ้างหรืออะไรก็แล้วแต่ให้คนร่วมทำบุญกันมากๆ โดยเรามีเจตนาสุจริตไม่ได้นำเงินวัดไปใช้ส่วนตัว หากมีค่าใช้จ่ายบ้างก็หักค่าใช้จ่ายเรื่องคนรับจองค่าพิธีเงินทำบุญต่างๆ ฯลฯ ผมเห็นปัญหานี้เพราะตลาดเว็บพลังจิตอาจจะเล็กไม่เข้าถึงคนทั่วไปก็อยากให้โฆษณาบ้างเราทำจริงไม่มีใครว่า ถ้าได้ใบอนุญาตจากวัดก็นำมาบอกบุญได้ว่าได้รับอนุญาตและทำประโยชน์เพื่อศาสนาจริงน่าจะมีคนสนับสนุนมากขึ้นและต้องไม่ยอมให้นายทุนสร้างพระมาร่วมเข้าพิธีนี้ด้วยเดี๋ยวอ้างวัดเหมือนวัดหลวงพ่อนามสร้างเอาวัตถุมงคลไปร่วมพิธีของวัดทำให้คนสับสนแถมยังตู่กับคนทั่วไปว่าของวัดไม่ใช่เสียอีกไม่ละอายกับบาปเลยพวกอมนุษย์ทั้งหลาย
    ผมว่าพี่ๆน้องๆในเว็บท่านใดเข้าเว็บไหนก็นำ link ให้ทำบุญไปช่วยโฆษณาตามเว็บต่างๆ เช่นคนรักมีด อุดร 108 ฯลฯ หรือที่ทำงานใครสนใจได้ร่วมบุญเหมือนกับทำกฐินทอดผ้าป่าสายบุญช่วยกันตามกำลังกับวัด 2 วัดก็จะเป็นประโยชน์ เห็นคุณหนุ่มทำเหนื่อยร่วมกันก็ต้องมีคนช่วยๆกัน แต่พองานบุญขยายก็มีปัญหาเรื่องคนไม่พอ เงินจะไม่พอทำบุญที่ตั้งโครงการไว้หลายโครงการแต่ทรัพยากรมีจำกัดกำลังทรัพย์พวกเราก็ไม่มาก เราคงหนีความจริงไม่พ้นว่าหากต้องการทรัพย์มาทำนุบำรุงพระศาสนามากก็ต้องลงประชาสัมพันธ์งานบุญในที่ต่างๆให้มากขึ้นนะครับ อย่างที่บอกหากเป็นผ้าป่างานบุญเป็นสายต่างๆก็อาจมีคนช่วยมากขึ้น+โฆษณาประชาสัมพันธ์บ้างผมว่าน่าจะช่วยให้ผ่านพ้นงานบุญสำคัญๆเหล่านี้ไปได้
    อย่าหาว่าผมได้แต่พูดเลยนะครับ เอาความเห็นเล็กๆไว้สะท้อนความคิดพวกเราบ้างที่เห็นว่าคุณหนุ่มและทีมงานน้องๆทำเต็มที่ก็อยากให้วัดเสร็จสมดังตั้งใจกัน ผมจริงๆก็มีวัตถุมงคลอยู่พอควรไว้ให้ลูกๆหลานๆ เลยไม่ได้ตั้งใจเช่าใหม่มากมายเท่าใดนักเช่าแต่ที่พอสมควรพอดีอยู่ต่างประเทศด้วยเลยไม่ได้ร่วมบุญบ่อย
    ก็ฝากพวกพี่ๆน้องๆในเว็บช่วยกันประชาสัมพันธ์ในเว็บต่างๆลิงค์มาที่เว็บให้เช่าทำบุญของคุณหนุ่มและทีมงานพร้อมกระทู้ประสบการณ์ของคุณหนุ่มให้คนอ่านเขาเข้าใจคุณหนุ่มด้วยก็อาจช่วยได้โสตหนึ่ง การช่วยให้คนร่วมทำบุญบอกบุญร่วมกันเราก็พลอยได้บุญไปด้วยเหมือนการสร้างศาลาร่วมกันได้บุญมากเพราะตั้งใจบริสุทธิ์จริง
    เอาความเห็นเล็กๆ ไว้ให้พวกเราเชื่อมสะพานบุญแห่งนี้ไปในที่ต่างๆ ต่อไป ผมว่าคนที่มีกรรมอยู่บ้างแล้วได้ช่วยเผยแพร่ข่าวตรงนี้ก็จะได้บุญมาช่วยเกื้อหนุนลดทอนกรรมได้กรรมดีจากการสร้างศาลาหรือบำรุงวัด คนที่รู้จักญาติมิตรหรือคนมาทำบุญก็ได้บุญจากวัตถุมงคลดีๆ หากทำผ้าป่าได้สายบุญที่คนทำงานในบริษัทต่างๆก็อาจจะร่วมบุญกันให้งานนี้สำเร็จได้ หากผู้จัดการบริษัทต่างๆมาร่วมอุปถัมภ์รับหน้าต่างประตูพื้น เครื่องตกแต่ง เสา ลูกน้องๆและญาติมิตรก็จะพากันมาทำบุญมาก วัตถุมงคลก็จะถูกแจกจ่ายไปมีประสบการณ์คนก็จะมาทำบุญเรื่อยๆ หน้าวัดก็อาจจะโฆษณาทำบุญเฉพาะงานนี้ไม่ใช่งานอื่นๆ ผมไม่รู้เหมือนกันว่าคุณหนุ่มและทีมงานจะตกลงกันอย่างไรดีแต่เห็นว่างานผ้าป่าทำได้ตลอดปี หากมีการร่วมบุญกันก็จะทำให้งานสำเร็จโดยเร็ว พวกเราเอาใจช่วยทุกคนอยู่แล้ว ฝากบอกกันประชาสัมพันธ์เว็บและกระทู้บอกบุญนี้ไปด้วยก่อนแล้วกันครับ
    หากไม่มีใครรับความเห็นนี้ก็ไม่เป็นไร เป็นห่วงอยากให้งานสำเร็จแต่ถ้าท่านใดได้ช่วยเผยแพร่ให้มากที่สุดก็ขออนุโมทนาด้วยเพราะงานบุญใหญ่ๆย่อมมีอุปสรรคขวากหนามคนติฉินเสมอ แต่ถ้าเรานิ่งใช้ปัญญาแก้ไขปัญหางานบุญก็จะลุล่วงไปได้อย่างแน่นอนเอาใจช่วยอย่างเต็มที่โมทนาสาธุครับ
     
  17. ภูวดิท

    ภูวดิท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,050
    ค่าพลัง:
    +8,086
    เห็นว่า คุณ 15 ค่ำต่อสีผึ้งลพ.ทาบ ลป.ทิม และที่อื่นไว้เพียบ น้าต๋อยสนใจลองติดต่อดูนะ อิอิอิ
     
  18. น้าต๋อย เซมเบ้

    น้าต๋อย เซมเบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2009
    โพสต์:
    7,815
    ค่าพลัง:
    +58,748

    555 ความลับของทางราชการถูกเปิดเผยแล้ว.......
     
  19. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351

    ผมขอลัดคิวก่อนนะคร๊าบ.....
     
  20. tel

    tel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +435
    รู้ซึ้งความรู้สึกนี้เช่นกันครับ แต่ทั้งหมดสำเร็จได้ด้วยความตั้งใจครับ ขอเป็นกำลังใจให้ครับพี่หนุ่ม
     

แชร์หน้านี้

Loading...