สัพเพเหระกับพระเครื่องเรื่องของขลัง

น่าสงสารประเทศน่ะครับ เขาอาศัยช่วงที่เราแตกแยก พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการโจมตีเราจากวงนอก ผลพวกที่เกิดขึ้นจะเกิดที่ภายใน เพราะจะทำให้คนไทยยิ่งแตกแยกมากขึ้น เป็นวิธีการที่แยบยล คนไทยน่าจะตั้งสติ และสามัคคีกันมากกว่านี้

 

วันนี้เป็นเเห่งความรัก (แม้ว่าจะเป็นของฝรั่งก็ตาม) ขอส่งความรักให้กับทุกคนครับ ที่สำคัญ...อย่าลืมทำอะไรสักอย่<WBR>างเพื่อคนที่เรารักด้วยนะครับ โดยเฉพาะพ่อแม่ญาติพี่น้องครูบาอาจารย์เพื่อนพ้องผู้ร่วมงาน

ให้ความรักและรอยยิ้มกับทุกคน ลดความเกลียดความโกรธที่ทำให้จิตใจเราขุ่นมัว มนุษย์เราก็จะมีแต่ความสุขอิ่มเอมใจ

Happy Valentine's Day ครับ

ขอบคุณสำหรับข้อคิดดีๆจากคุณ hello ด้วยครับ ^_^

 

วันมาฆบูชา

ขอเชิญทุกท่านมาปฏิบัติดี บำเพ็ญบุญต่างๆ ในวันมาฆบูชากันครับ

มาฆบูชา เป็นวันสำคัญของพระพุทธศาสนาวันหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า เป็นวันเกิดพระธรรม ถือว่าเป็นวันที่ พระพุทธเจ้า ได้ประกาศ หลักธรรม คำสั่งสอนของพระองค์ เพื่อให้พระอรหันต์ทั้งหลาย ที่มาประชุมกันในวันนั้น นำไปเผยแผ่

วัน"มาฆบูชา" เป็นวันบูชาพิเศษที่ต้องทำในวันเพ็ญเดือนมาฆะ หรือในวันที่พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ ( ซึ่งโดยปกติทำกันในกลางเดือน ๓ แต่ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ เดือนแปดสองแปด ก็เลื่อนไปกลางเดือน ๔ )

ถือกันว่าเป็นวันสำคัญ เพราะวันนี้ เป็นวันคล้ายกับ วันประชุมกันเป็นพิเศษ แห่งพระอรหันตสาวก โดยมิได้มีการนัดหมาย ซึ่งเรียกว่า วันจาตุรงคสันนิบาต ซึ่งได้มีขึ้น ณ บริเวณเวฬุวันมหาวิหาร (วัดป่าไผ่หรือวัดไผ่ล้อม) เมืองราชคฤห์ แคว้นมคธ หลังจากที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้เป็นเวลานับได้ ๙ เดือน

วันนี้เอง ที่พระพุทธองค์แสดง "โอวาทปาฎิโมกข์" ซึ่งถือกันว่า เป็นหลักคำสอนที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา

จาตุรงคสันนิบาต คือ การประชุมพร้อมด้วยองค์ ๔ คือ
๑. วันนั้น เป็นวันมาฆปูรณมี คือวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำกลางเดือนมาฆะ จึงเรียกว่า มาฆบูชา
๒. พระภิกษุ ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย (สาเหตุของการชุมนุม)
๓. พระภิกษุทั้งหมดล้วนเป็นพระอรหันต์ ประเภทฉฬภิญญา คือ ได้อภิญญา ๖
๔. พระภิกษุ เหล่านั้น ทั้งหมด ได้รับการอุปสมบทจากพระพุทธเจ้าโดยตรง (เอหิภิกฺขุอุปสมฺปทา)

ที่มา :

 

สามวันของช่วงมาฆบูชา ได้เข้าไปวัดประดู่ในทรงธรรม ทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือ แล้วเลยไปอีกนิดกราบหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พบท่านเจ้าคุณวิโรจน์เลยได้สนทนากับท่านอยู่นาน ท่านได้เล่าเรื่องของท่านกับหลวงปู่โต๊ะหลายๆเรื่องเลย มาวัดประดู่แล้วรำลึกถึงสมัยเด็กๆที่พ่อเคยพามา

ตอนเที่ยงอำลาออกมาวัดประดู่ในทรงธรรมอีกครั้งเพื่อมาทานก๋วยเตี๋ยวต้มยำเจ๊แตน รสจัดโดยไม่ต้องปรุงเลยครับ ^_^

 

ช่วยเล่าเรื่องหลวงปู่โต๊ะให้ฟังกันบ้างสิครับ
จะได้เป็นประสบการณ์ต่อๆกันไปครับ
ขอบคูรครับ

 

ได้ครับ ท่านเจ้าคุณหลวงพ่อวิโรจน์ได้เล่าไว้หลายเรื่อง

ขณะที่หลวงปู่โต๊ะยังอยู่ มีคนมากมายขออนุญาติสร้างรูปเหมือนเท่าองค์จริงหลวงปู่ตลอดเวลา แต่หลวงปู่บอกว่า รอให้ฉันตายก่อนค่อยสร้างก็ได้ เมื่อหลวงปู่โต๊ะละสังขาร หลวงพ่อวิโรจน์ซึ่งตอนนั้นเหมือนขาดที่พึ่ง

ขณะที่มีพิธีพระราชทานสวดศพ หลวงพ่อวิโรจน์ได้เข้ามากราบเท้าหลวงปู่ เมื่อศีรษะหลวงพ่อวิโรจน์สัมผัสเท้าหลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อวิโรจน์เกิดปิติน้ำตาไหลและเกิดอาการเย็นวาบตั้งแต่ศีรษะจนเท้า และท่านได้กราบอธิษฐานขอบารมีหลวงปู่จัดสร้างรูปเหมือนเท่าองค์จริงให้สำเร็จโดยเร็ว

หลวงพ่อวิโรจน์ท่านได้ร่างฎีกาเกี่ยวกับการสร้างรูปเหมือนเท่าองค์จริงหลวงปู่โต๊ะ และวันที่ในหลวงเสด็จมางานสวดหลวงปู่โต๊ะแล้วเสด็จผ่านหลวงพ่อวิโรจน์ หลวงพ่อรีบยื่นฎีกาให้ในหลวง ท่านทรงรับไว้ แต่ยังไม่ได้ทอดพระเนตรหรือตรัสอะไร

หลังจากนั้นอีกสองวันมีเจ้าหน้าที่มาติดต่อท่านว่าในหลวงทรงพระราชทานอนุญาติให้สร้างและจะเสด็จเททองหล่อในวันท้ายๆของงานศพหลวงปู่ (ผมจำไม่ได้ว่าวันไหน)

หลวงพ่อวิโรน์ดีใจมาก รีบดำเนินการต่างๆเพื่อให้เสร็จภายใน 7 วัน และวันที่ 8 ในหลวงทรงเสด็จเททองหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริงหลวงปู่ และ รูปเหมือนนี้ได้ตั้งอยู่บนศาลาหลวงปู่โต๊ะจนทุกวันนี้ เพราะบารมีหลวงปู่โต๊ะ งานครั้งนี้ถึงสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว

 

ต่อๆๆ นะครับ

เมื่อสิบกว่าปีก่อนหลวงพ่อวิโรจน์มีอาการป่วย ปวดท้องเป็นอย่างมากไปหาหมอหลายโรงพยาบาลแล้วก็ไม่หาย
ทั้งให้ยา ฉีดยา นอนโรงพยาบาล อย่างไรก็ไม่หาย ปวดทรมาณหลายเดือน

จนในที่สุดหลวงพ่อเดินมาที่ศาลาประดิษฐานรุปหล่อหลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อวิโรจน์จึงคิดว่ามีแต่หลวงปู่โต๊ะเท่านั้นที่เป็นที่พึ่ง
จึงได้นำดอกบัวมาใส่ในถังน้ำมนต์แล้วสวดภาวนาขอให้หลวงปู่โต๊ะช่วยให้หายจากอาการปวดท้องเรื้อรังนี้ได้

จากนั้นหลวงพ่อวิโรจน์ได้นำน้ำมนต์พร้อมดอกบัวมาฉัน
พอเช้าอีกวันอาการปวดท้องหายเป็นปลิดทิ้งและไม่มีอาการอีกเลยจนมาถึงทุกวันนี้

 

งานยุ่งๆครับผม เลยหายหน้าไปเกือบเดือน จะต้องเคลียร์งานให้เสร็จก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์
หนาวๆร้อนๆ ขอให้ร้อนก่อนเล่นน้ำกันนะ ไม่อยากเล่นสาดน้ำอุ่นน้ำร้อนกัน ^_^

 

งานบุญวัดขุนทิพย์

เมื่อวานนี้ 3 เมษา วัดขุนทิพย์ มีงานบุญใหญ่คือ สวดภาณยักษณ์, หล่อรุปเหมือนหลวงปู่โปร่งขนาด 29 นิ้ว รุปเหมือนบูชา 5และ9นิ้ว และ ปลุกเสกเหรียญหลวงปู่

ไปถึงงานก็ก่อน 10 โมงเช้า คนเริ่มทยอยกันมา ลานจอดรถมีเบ้าหล่อรูปเหมือน และทยอยนำโลหะชนวนต่างๆมาหลอมเข้าด้วยกัน แท่งโลหะจำนวนมากเป็นก้อนใหญ่ต้องใช้เวลาหลอมละลายนาน รอเวลาเทช่วงบ่าย

 

งานบุญวัดขุนทิพย์ (ช่วงสวดภาณยักษ์)

เริ่มแรกมีการสวดมนต์ สวดสะเดาะห์เคราะห์ต่างๆ และสวดภาพยักษ์ ผู้คนมากันเต็มไปหมด ต่างก็ผูกผ้ายันต์ท้าวเวสสุวรรณของตนเอง แล้วพระก็เริ่มสวด

ระหว่างการสวดภาณยักษ์ มีอาการของขึ้นกันหลายคน ทั้งนั่งสั่น ร้องไห้ ไหว้ไปมา ลุกขึ้นออกท่าทาง ลิง เสือ หลวงพ่อต้องนำน้ำมนต์มาพรมมาแตะที่หัว ก็สงบได้บ้าง พักนึงก็ของขึ้นอีก บางคนอาการแรง ทหารที่มาช่วยงาน4-5คนต้องออกแรงกดให้สงบ พอสวดจบทุกอย่างก็กลับสู่ปกติ

 

งานบุญวัดขุนทิพย์ (ช่วงกลางวัน)

ช่วงกลางวัน คือ หลังเพลไปแล้ว มีการเตรียมการปลุกเสก ช่วยกันยกเหรียญที่ปั๊มเสร็จแล้วมาวางไว้พันผ้าขาวและสายสิญจน์ จากนั้นมีพิธีพราหมณ์อ่านโองการต่างๆ และมีการสวดเจริญพระพุทธมนต์โดยรักษาการเจ้าคณะอำเภออุทัย วัดบ้านหีบ

 

คุณ Single Club เคยบูชาเบี้ยแก้วัดบางจาก นนทบุรี ผมบุชาของหลวงตาเปรื่อง (เคยถามท่านว่าเรียนจากใครท่านบอกว่าได้รับตำราจากลูกศิษยืคนหนึ่งที่เป้นลูกศิษยืของหลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว )ด้านในไม่ได้บรรจุปรอทแต่เป็นผงพระปิดตาของหลวงปู่เอี่ยม เป็นเบี้ยตัวเล็ก ถ้าไปที่วัดมีจุดบูชา 3 ที่ครับในโบสถ์ แล้วก็ศาลาบูรพาจารย์ แล้วก็ในกุฏิหลวงตาเปรื่อง แต่เท่าที่รู้ว่าท่านบอกว่าที่ให้บูชาด้านนอกไม่เหมือนของท่านที่ให้บูชา เดี๋ยวจะเอารูปมาให้ดูครับ ตอนที่แฟนท้องให้ใช้อยู่ ตอนบูชามาผมเอามาแค่ตัวเดียวให้หลวงตาจารให้อีกทีใช้เมจิกสีทอง... (รู้สึกตอนนี้หลวงตาจะไม่ได้อยู่ที่วัด เห็นว่าญาติพาไปรักษาตัวที่เชียงใหม่ นะครับ )

 

"คุณ Single Club เคยบูชาเบี้ยแก้วัดบางจาก นนทบุรี ผมบุชาของหลวงตาเปรื่อง (เคยถามท่านว่าเรียนจากใครท่านบอกว่าได้รับตำราจากลูกศิษยืคนหนึ่งที่เป้นลูกศิษยืของหลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว )ด้านในไม่ได้บรรจุปรอทแต่เป็นผงพระปิดตาของหลวงปู่เอี่ยม เป็นเบี้ยตัวเล็ก ถ้าไปที่วัดมีจุดบูชา 3 ที่ครับในโบสถ์ แล้วก็ศาลาบูรพาจารย์ แล้วก็ในกุฏิหลวงตาเปรื่อง แต่เท่าที่รู้ว่าท่านบอกว่าที่ให้บูชาด้านนอกไม่เหมือนของท่านที่ให้บูชา เดี๋ยวจะเอารูปมาให้ดูครับ ตอนที่แฟนท้องให้ใช้อยู่ ตอนบูชามาผมเอามาแค่ตัวเดียวให้หลวงตาจารให้อีกทีใช้เมจิกสีทอง... (รู้สึกตอนนี้หลวงตาจะไม่ได้อยู่ที่วัด เห็นว่าญาติพาไปรักษาตัวที่เชียงใหม่ นะครับ )"

<!-- google_ad_section_end -->สวัสดีครับ คุณ Kang

ผมก็เช่าเบี้ยแก้จากหลวงพ่อเปรื่องโดยตรงเลยครับ ไปเดินดูที่จุดอื่นมาเหมือนกัน มีตะกรุดกับพระปิดตาแต่ไม่มีเบี้ยแก้ คิดว่าเบี้ยแก้มีแต่ที่กุฏิหลวงพ่อเปรื่องเท่านั้น ทางวัดไม่ได้สร้างก็ได้ ท่านสร้างเบี้ยไว้หลายแบบเลยครับทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ด้านหลังท่านทำไว้หลากหลายเลยครับ ปั๊มรูปพระปิดตา ฝังพระปิดตา ฝังฤาษี หรือหลังอูมเรียบๆ

 

งานบุญวัดขุนทิพย์ (บ่ายสามกว่าๆ)

ประมาณบ่ายสามกว่าๆ พระเกจิที่ได้รับนิมนต์ท่านทยอยกันมาถึงวัดขุนทิพย์ นายก อบต.ธนูและกรรมการวัดขุนทิพย์ให้การต้อนรับ

 

งานบุญวัดขุนทิพย์ (ช่วงปลุกเสก 4 โมงเย็น)

เมื่อมาถึงแต่ละรูปก็ได้รับเชิญขึ้นนั่งอธิษฐาน 4 มุม
1. หลวงพ่อรวย วัดตะโก
2. หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ
3. หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม
4. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม

แต่มุมของหลวงพ่อเอียด มีควันไฟและความร้อนจากเตาหลอมโลหะพัดไปตลอดเพราะอยู่ใกล้มาก ทางคณะผู้จัดงานจึงต้องย้ายจุดออกห่างออกไปอีกหน่อย

 

งานบุญวัดขุนทิพย์ (ช่วงปลุกเสกและเททองหล่อรูปเหมือน)

เริ่มทำการเททองหล่อรูปเหมือนขนาดหน้าตัก 29 นิ้วและรูปเหมือนบูชา ผู้คนได้เข้ามาล้อมรอบปะรำพิธี รอการปลุกเสกจนเสร็จสิ้น
หลวงพ่อเอียดได้มาโปรยข้าวตอกดอกไม้ไปยังเบ้าหล่อรูปเหมือน เป็นอันเสร็จพิธี

 

งานบุญวัดขุนทิพย์ (ช่วงเลิกงาน)

หลังเสร็จสิ้นพิธีก็เป็นช่วงชุลมุนเพราะผู้คนได้ไปรุมล้อมแต่ละหลวงพ่อให้พรมน้ำมนต์ เป่ากระเป๋าหรือสิ่งมงคลต่างๆ แม้แต่สายสิญจน์ที่ท่านจับ,ดอกไม้ที่ประดับไว้ข้างหลวงพ่อก็ยังมีคนขอ พอหลวงพ่อหยิบยื่นให้แต่ละคนก็ดีใจมากๆ ผมโดนเคาะหัวทุกหลวงพ่อเลย เผื่อจะช่วยเคาะสนิมในหัวผมได้บ้าง ^_^

 

เพิ่งรู้ว่ามีหลายแบบ ตอนที่ผมไปบูชามีแบบเดียวเองสวยๆ ทั้งนั้น วันนี้เลยขอเอามาลงบ้างครับ มีไม่เยอะ 2-3 ตัวเองครับ

รูปที่ 1 เป็นเบี้ยแก้ของวัดบางจาก ที่บูชาจากในโบสถ์ครับ มาพร้อมใบคาถาและเงินขวัญถุง

รูปที่ 2 เป็นเบี้ยแก้ หลังปิดตา ที่บูชาจากหลวงตาเปรื่องแล้วให้ท่านช่วยจารให้อีก

รูปที่ 3 เบี้ยแก้ ของหลวงปู่นอง วัดวังสีทอง จ.สระแก้ว ท่านเป็นหลานของหลวงพ่อเดิมครับ ที่เห็นขาวๆตรงหน้าเบี้ย ให้หลวงปู่เจิมแป้งเสกเทวดาให้อีกครั้งแต่แป้งหลุดจะหมดแล้ว

รูปที่ 4 แหวนเบี้ยแก้ ออกวัดบางจากเมื่อปี 53 จำไม่ได้ว่าพิธีอะไร แต่มีหลวงปู่คำบุปลุกเสกด้วย ต้องจองแหวนไว้ล่วงหน้าประมาณ 2-3 เดือน กว่าจะได้รับ ผมจองไว้ 2 วง ยังไม่กล้าใส่กลัวรอยจารที่หัวเบี้ยจะหลุด ยังหาวิธีเคลือบหัวเบี้ยกันรอยจารหายไม่ได้เลยครับ .... อยากใส่มาก...

มีอยู่เท่านี้แหละครับหมดแล้ว กำลังหาเพิ่มอยู่... อ้อ...เกือบลืมอีก 1 ตัว ของหลวงปู่เจือได้จากพี่ที่รู้จักกัน แบ่งให้บูชา ตอนเอามาหลวงปู่ถาม
หลวงปู่เจือ ---- "จะเอาเบี้ยแก้ไปไหน"
พี่...----- "เอาไปให้น้องที่ กทม.บูชาครับ"
หลวงปู่เจือ----"บอกเค้าเก็บไว้ดีๆ นะต่อไปจะหายากมีราคายิ่งกว่าทองเสียอีก....."

พอดียังไม่ได้ถ่ายรูปไว้ พี่เค้าบอกเป็นเบี้ยที่ทำไว้รุ่นแรกๆของหลวงปู่เอาไว้แจกกรรมการหรือคนที่มาช่วยงาน (เท็จจริงประการใด ใครมีข้อมูลบอกได้นะครับ) ได้มาก็ 2-3 ปีแล้ว....ก่อนหลวงปู่ละสังขารครับ

 

ชอบใจก็ตรงแหวนเบี้ยแก้นี่แหละครับ แต่ระวังรอยจารหน่อย ถ้าเคลือบแล็คเกอร์จะช่วยได้หรือเปล่าไม่รู้สิครับ

 

ขออวยพระสงกรานต์ย้อนหลังหน่อยนะครับ พอดีไปเที่ยวสงกรานต์ที่ลาวมาอาทิตย์นึง กลับมาเปิดงานก็งานยุ่งๆ

ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลบันดาลให้เพื่อนๆเวปพลังจิตทุกคนมีแต่ความสุข ความเจริญ สงหวังในธรรมทุกประการเทอญ