เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ฮือฮา! ผลสำรวจเด็กออสเตรเลียพูดภาษาอาหรับเป็นภาษาที่ 2 รองจากอังกฤษ
มุสลิมไทยดอทคอม : 16 เมย. 54 12:30:53
สำนักข่าวมุสลิมไทย ฮือฮา! ผลสำรวจเด็กออสเตรเลียพูดภาษาอาหรับเป็นภาษาที่ 2 รองจากอังกฤษ
ซิดนี่ย์ – มีการเปิดเผยผลวิจัยในประเทศออสเตรเลีย ว่า ภาษาอาหรับเป็นภาษาที่ใช้กันแพร่หลายในหมู่เยาวชนออสซี่รองจากภาษาอังกฤษ โดยมีจำนวน 1 ใน 8 ของผู้ที่ใช้ภาษาต่างๆ

หน่วยงานรัฐบาล ชื่อ Australia Early Development Index ได้สำรวจเด็กๆ จำนวน 260,000 คนที่เข้าโรงเรียนในปีแรก พบว่า ร้อยละ 18 ของจำนวนนี้พูดภาษาอื่นๆ ด้วยนอกจากภาษาอังกฤษ

หนุ่มสาวเยาวชนรุ่นใหม่ของออสเตรเลีย​

ตามรายงานผลวิจัยดังกล่าว เด็กจำนวน 5,565 คน พูดภาษาอาหรับที่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 11.8 ของเด็กที่พูดภาษาอื่นนอกจากภาษาอังกฤษ ที่น่าสนใจคือ ไม่มีประเทศอาหรับใดๆ ติดโผ 15 ประเทศแรกที่เป็นสถานที่เกิดของเด็กๆ เหล่านี้​

ที่รองลงมาจากภาษาอาหรับคือ ภาษาเวียดนาม คิดเป็นร้อยละ 8.4 ตามมาด้วยกรีก ภาษาจีน ฮินดี จำนวนต่ำกว่า ร้อยละ 5.0 ในแต่ละภาษา
15 ประเทศที่เป็นสถานที่เกิดของเด็กๆ นำโดย ออสเตรเลีย อังกฤษ นิวซีแลนด์ อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีจำนวนลดหลั่นกันลงมา ตามด้วย ฟิลิปปินส์ จีน แอฟริกาใต้ เกาหลีเหนือ และ ศรีลังกา

เด็กเชื้อสายอะบอริจิ้นมีจำนวนร้อยละ 4.8 ของประชากรวัยเด็กในออสเตรเลีย และ 1 ใน 5 ของเด็กอะบอริจิ้นยังคงพูดภาษาท้องถิ่นที่บ้าน แต่เป็นภาษาที่มีการผสมผสานของภาษาดั้งเดิมกับภาษาอังกฤษ

รายงานยังเปิดเผยว่า ในจำนวนนี้มีเด็กไม่ถึงร้อยคนที่พูดเพียงภาษาท้องถิ่นของตัวเองภาษาเดียว

ชาวออสเตรเลียเป็นประชากรกลุ่มหนึ่งที่มีวัฒนธรรม และภาษาพูดที่หลากหลายมากที่สุดในโลก ตามรายงานการสำรวจเด็กๆ ในวัยดังกล่าวของ AEDI - www.muslimthai.com

 

โรงแรมสุดหรู่จองทำเลทอง รอบมักกะฮ์ คนจนอย่าหวังพัก
มุสลิมไทยดอทคอม : 16 เมย. 54 12:04:44

สำนักข่าวมุสลิมไทย โรงแรมสุดหรู่จองทำเลทอง รอบมักกะฮ์ คนจนอย่าหวังพัก​

ฮาดี ฮิลาล ฝ่ายการตลาดของ อับราจ อัล-บัยอิต (Abraj al-Bait) ซึ่งเป็นกลุ่มโรงแรมหรู แฟลต และห้างสรรพสินค้าที่มาสร้างอยู่รอบนอกของมักกะฮฺ เปิดเผยในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัส (14/04) ว่า ตลาดโรงแรมระดับบนต้องการมาเปิดกิจการในมักกะฮฺ เพราะเล็งเห็นแล้วว่า กิจการจะได้ผลกำไรจากมุสลิมจำนวนมากที่มาประกอบพิธีฮัจญ์ และอุมเราะฮฺที่นี่ครั้งหนึ่งในชีวิต และมักกะฮฺจะไม่มีวันร้างผู้คน เพราะพิธีฮัจญ์สามารถทำได้แห่งเดียวที่มักกะฮฺ

เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีผู้มาแสวงบุญ 2.5 ล้านคน
<TABLE border=0><TBODY><TR><TD>

หมู่อาคารอับราจ ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นหอนาฬิกาที่สูงที่สุดในโลก ประกอบด้วยที่พักอาศัย 15,000 ยูนิต และพื้นที่ 70,000 ตารางเมตรสำหรับร้านค้าปลีก ที่ตกแต่งอย่างหรูหราพร้อมความสะดวกสบาย อาทิ มีหัวหน้าพนักงานบริการประจำตลอด 24 ชั่วโมง และลูกค้าทุกคนจะได้ช๊อกโกแลตมูลค่า 270 ดอลล่าร์​

โรงแรมฮิลตันมักกะฮ์ ด้านที่เห็นวิวมัสยิดฮะรอม

ภาพโรงแรมหรู่ ใกล้มัสยิด​

หลังจากที่ซาอุดี้ตกลงใจจะส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หน่วยงานนานาชาติเกี่ยวกับการลงทุนได้ทำนายว่า ภายในปี พ.ศ. 2558 ซาอุดี้อาระเบียจะมีห้องพักในโรงแรมถึง 343,000 ห้อง เพิ่มจากจำนวนในปีนี้ซึ่งมีอยู่เพียง 250,000 ห้อง ส่วนนักท่องเที่ยวจะเพิ่มเฉลี่ยร้อยละ 6 ต่อปี จนถึงปี 2558

โรงแรมในเครือโรงแรมหรูทั่วโลกเข้ามาเปิดในซาอุดี้ครั้งแรกในปี พ.ศ. 2552 หลังจากนั้นมักกะฮฺกลายเป็นที่รวมของที่พักชื่อหรูๆ อาทิ แรฟเฟิ่ล โฮเทล & รีสอร์ท กลุ่มโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล และสตาร์วู้ดโฮเทล & รีสอร์ท เป็นต้น

มุสตาฟา ดัมบลัต ผู้จัดการฝ่ายขายบริษัททัวร์ฮัจญ์ และอุมเราะฮฺ ในดูไบ กล่าวว่า สาเหตุที่มีแต่โรงแรมระดับหรูใน และรอบๆ มักกะฮฺ เพราะที่ดินมีราคาแพง ดังนั้น เฉพาะบริษัทที่ทำตลาดบนเท่านั้นจึงมีทุนมากพอจะทำได้ เนื่องจากเป็นที่ไว้วางใจของสปอนเซ่อร์ และกลุ่มราชวงศ์ที่ร่วมลงทุน​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

นอกจากนั้น โรงแรมหรูๆ รอบมัสยิดฮะรอมยังเป็นที่นิยมเพราะอยู่ใกล้ และสะดวก โดยเฉพาะสำหรับผู้แสวงบุญที่ค่อนข้างสูงอายุ
ตัวเลขรายงานโดย Asharqia Chamber ระบุว่า ภาษีจากการท่องเที่ยวของซาอุดี้ในปี พ.ศ. 2553 สูงถึง 66 พันล้านซาอุดี้รียัล (17.6 พันล้านดอลล่าร์) และยังมีการคาดหมายว่า รายได้จากการท่องเที่ยวจะสูงเกิน 232 พันล้านซาอุดี้รียัล (61 พันล้านดอลล่าร์) ภายในอีก 10 ปีข้างหน้า-www.muslimthai.com
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

การทําสวนยางพารา รายได้อื้อ ทุนมาเลย์-สิงคโปร์ แห่กว้านซื้อสวนยาง สู้ราคาไม่อั้นยึดครองทำเลทอง4จังหวัดชายแดนใต้
มุสลิมไทยดอทคอม : วันนี้** 13:38:09

"ทุนมาเลย์-สิงคโปร์"แห่กว้านซื้อสวนยาง สู้ราคาไม่อั้นยึดครองทำเลทอง4จังหวัดชายแดนใต้
ทุนมาเลย์-สิงคโปร์รุกหนัก แห่กว้านซื้อสวนยางพารา ยึดกุมพื้นที่เป้าหมายหลัก 4 จังหวัดแนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย พร้อมกำเงินสดสู้ราคาไม่ยั้งไร่ละ 150,000-200,000 บาท ด้าน สกย.สงขลาระบุใช้เป็นฐานการผลิตและสำรองวัตถุดิบ ขณะที่เหตุการณ์ความไม่สงบทุบราคาสวนยางในยะลา ปัตตานี นราธิวาส ลดเหลือแค่ 4-5 หมื่นบาท/ไร่


เจ้าของสวนยางพาราที่จังหวัดสงขลาเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่องตั้งปี 2553 จนถึงปัจจุบัน ทำให้ธุรกิจการทำสวนยางพารามีความเคลื่อนไหวคึกคักมากขึ้น โดยพบว่า มีกลุ่มทุนจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์เข้ามากว้านซื้อสวนยางพาราจำนวนมาก พื้นที่เป้าหมายหลักคือในเขตพื้นที่อำเภอติดกับแนวพรม แดนไทย-มาเลเซีย ครอบคลุม 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส โดยใช้ชื่อเป็น กลุ่ม และใช้ชื่อของบุคคลในพื้นที่ที่เป็นเจ้าของสวน พร้อมกับดูแลและรับจ้างกรีดยางให้ด้วย





"เมื่อเร็ว ๆ นี้กลุ่มทุนจากร้านอาหารในรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย ได้เข้ามาซื้อสวนยางในพื้นที่จังหวัดสงขลาไปแล้ว ประมาณ 40 ไร่ ราคา 6 ล้านบาท หรือตกไร่ละประมาณ 150,000 บาท และทราบว่ายังเหลือเงินอีก 4 ล้านบาทที่กำลังเจรจาซื้อสวนยางเพิ่มอีก"

เจ้าของสวนยางรายนี้ยังกล่าวอีกว่า พื้นที่เป้าหมายที่กลุ่มทุนมาเลเซียต้องการซื้อมากในจังหวัดสงขลา คืออำเภอนาทวี จะนะ เทพา และสะบ้าย้อย ส่วนอำเภออื่น ๆ ไม่ต้องการเพราะราคาสูง ส่วนที่จังหวัดปัตตานี ได้แก่ อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดยะลา ได้แก่ อำเภอยะหา กาบัง บันนังสตา ธารโต และเบตง จังหวัดนราธิวาส ได้แก่ อำเภอสุคิริน ศรีสาคร จะแนะ และอำเภอแว้ง ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว หนาแน่นด้วยสวนยางพารา

นายประสิทธิ์ เมฆสุวรรณ สมาชิกสภาที่ปรึกษาเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (สสต.) ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เปิดเผยว่า การเข้ามากว้านซื้อที่ดิน ตึกแถว สวนผลไม้ สวนยางพาราในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยกลุ่มทุนชาวมุสลิมทั้งในพื้นที่ และจากประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ เริ่มมาประมาณ 5 ปีแล้ว แต่มีความต้องการมากตั้งแต่ปี 2553 จนถึงขณะนี้

สอดคล้องกับนายสุนันท์ นวลพรหมสกุล หัวหน้าสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยางอำเภอสะเดา สำนักงาน สกย.เขต 2 จังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า การเข้ามาซื้อที่ดินในพื้นที่จังหวัดแนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย มีจำนวนหลายกลุ่ม ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนชาวมาเลเซีย และสิงคโปร์ โดยตั้งกลุ่มเป็นบริษัท หรือมีตัวแทนเป็นผู้ซื้อในไทย ทั้งนี้เพื่อเป็นฐานการผลิตป้อนเข้าสู่โรงงานอุตสาหกรรมของกลุ่มตนเอง รวมทั้งยังเป็นการสำรองวัตถุดิบและประกันความเสี่ยงด้วย

"การเข้ามาซื้อสวนยางหรือที่ดินเพื่อปลูกยางพาราแนวพรมแดนไทย-มาเลเซีย เพราะอยู่ใกล้กับฐานการผลิต มีด่านเข้า-ออกไปยังประเทศมาเลเซียหลายด่าน เช่นที่จังหวัดสงขลามีถึง 3 ด่าน หรือที่ด่านประกอบ อำเภอนาทวี ก็จะอยู่ใกล้กับ 3 จังหวัด คือ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส"

นายสุนันท์ยังกล่าวอีกว่า การซื้อขายสวนยางพาราที่อยู่ติดกับถนนสายหลักของจังหวัดสงขลา ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 300,000 บาท/ไร่ หากอยู่ในซอยราคา 250,000 บาท/ไร่ ส่วนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส ราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 40,000-50,000 บาท/ไร่ ซึ่งปัจจัยที่ทำให้ราคาสวนยางถูกลงเพราะเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

นายสนิท ภิวัฒนกุล เจ้าของสวนยางพาราในพื้นที่จังหวัดพัทลุง กล่าวว่า ขณะนี้สวนยางพาราในจังหวัดพัทลุง ราคาประมาณ 200,000-220,000 บาท/ไร่ แต่เจ้าของสวนยางส่วนใหญ่ไม่มีการขายเพราะต้องการเก็บไว้เลี้ยงชีพ เนื่องจากราคายางดีมาตลอด หรือหากขายไปแล้วก็ไปหาซื้อสวนยางใหม่ได้ยากและมีราคาแพงขึ้นกว่าเดิมอีก

นสพ.ประชาชาติ

 

ร้านอาหารอังกฤษต้องปฏิเสธเจ้าชายวิลเลียมเพราะไม่พร้อมบริการ
มุสลิมไทยดอทคอม : 15 เมย. 54 11:15:09
สำนักข่าว AP รายงานว่า มีแต่คนอยากจะเข้าใกล้เจ้าชายวิลเลียม องค์รัชทายาทลำดับที่ 2แห่งราชบัลลังก์อังกฤษ แต่ว่าที่กษัตริย์แห่งอังกฤษในอนาคต กลับหาโต๊ะเสวยพระกระยาหารค่ำไม่ได้เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเจ้าชายวิลเลียมแลกลุ่มพระสหายจากฐานทัพอากาศในเมืองแองเจิลเซย์ ในนอร์ธ เวลส์ ต้องทรงออกจากร้านอาหารซีครอฟต์ เนื่องจากพนักงานต้อนรับของร้าน ระบุว่า ทางร้านไม่สะดวกพอที่จะรับรองเจ้าชายและพระสหายได้
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=5 width=599 border=0><TBODY><TR><TD><DD>
<DD>เลน ไรท์ ผู้บังคับฝูงบินซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของเจ้าชายวิลเลียม เปิดเผยว่า เจ้าชายและพระสหายมากกว่า 20 คน ได้เข้าไปที่ร้านซีครอฟต์ ในหมู่บ้านเทรดดูร์ เบย์ ซึ่งอยู่ใกล้กับฐานทัพอากาศ ที่เจ้าชายวิลเลียมทรงปฏิบัติภารกิจเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและกู้ภัย และเป็นร้านอาหารที่เจ้าชายวิลเลียมทรงโปรด แต่ต้องทรงผิดหวัง เพราะเชฟคนหนึ่งของร้านเกิดลาป่วย ทำให้ทางร้านไม่สามารถให้รับมือกับกลุ่มลูกค้าที่มีจำนวนมากขนาดนี้ได้
<DD>แต่สถานการณ์ได้รับการแก้ไข เมื่อพนักงานของร้านซีครอฟต์ ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังโรงแรมเทรดดูร์ เบย์ ที่อยู่ใกล้เคียง และสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าชายและพระสหายได้ซึ่งพนักงานของร้านซี ครอฟต์ ต้องพยายามทำให้ทางโรงแรมเชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง เพราะตอนแรก ทางโรงแรมเทรดดูร์ เบย์ คิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น และพนักงานของร้านซีครอฟต์ ต้องพยายามโทรกลับไป 3 ถึง 4 ครั้ง เพื่อยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง
<DD>ลูกค้าของร้านซีครอฟต์คนหนึ่ง ให้ความเห็นว่า เป็นเรื่องที่สมควรแล้วที่เจ้าชายวิลเลียมทรงไปร้านอื่น เพราะจะเป็นการไม่เหมาะสม ถ้าทรงได้รับการปฏิบัติแตกต่างจากลูกค้าคนอื่น แต่วิศวกรหญิงประจำฐานทัพที่ออร์ลันโด รัฐฟลอริด้า ของสหรัฐ ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ โดยบอกว่า ถ้าเป็นที่สหรัฐ และประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า เกิดอยากรับประทานอาหารที่ร้านไหนร้านนั้นก็ต้องเคลียร์พื้นที่ เพื่อให้เขาได้มีโต๊ะนั่งรับประทานอาหารจนได้
</DD></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วิกฤต มุสลิมโคโซโวสับสนเรื่องศาสนา เชื่อพระแม่รักษาเด็กได้
มุสลิมไทยดอทคอม : 12 เมย. 54 8:18:52
สำนักข่าวมุสลิมไทย หวั่นมุสลิมโคโซโวสับสนเรื่องศาสนา
สำนักข่าวเอเอฟพี – ศาสนสถานคริสต์ออร์โธด๊อกซ์ของชาวเซิร์บในโคโซโว แหวกขนบธรรมเนียมโดยสอนภาษาอัลบาเนียให้แก่แม่ชีในโบสถ์ ทั้งนี้เพื่อให้แม่ชีสามารถสื่อสารกับชาวบ้านมุสลิมที่มาอธิษฐานกับรูปปั้น “พระแม่มารีผู้พิสุทธิ์” ได้

​

มุสลิมจำนวนมากทั่วโคโซโวเดินทางมาเยือนโบสถ์โซโคลิก้า เนื่องจากมีความเชื่อว่ารูปปั้นพระแม่มารีกับพระเยซู ช่วยรักษาเด็กที่หูหนวกและเป็นใบ้ รวมทั้งให้ลูกกับคู่สมรสที่มีลูกยาก

เมื่อมีมุสลิมมาถามว่าจะอธิษฐานอย่างไร มาตี มาการ์รีจา หัวหน้าศาสนสถานวัย 67 ปีเล่าว่า เธอได้บอกให้พวกเขาขอพรด้วยภาษาที่เขาใช้ และด้วยวิธีที่ได้รับการสอนมา รวมทั้งยังอนุญาตให้กล่าวคำสรรเสริญอัลเลาะฮฺในโบสถ์ได้ด้วย

โบสถ์โซโคลิก้า ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหินภูเขาไฟเหนือเมืองมิโตรวิก้า ซึ่งเป็นเมืองที่มีทั้งชาวเซิร์บที่นับถือคริสต์นิกายออร์โธด๊อกซ์ และชาวมุสลิมอัลบาเนีย แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง 2 กลุ่มในโคโซโวค่อนข้างตึงเครียด ตัวโบสถ์โซโคลิก้าอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านมุสลิมโบเลอติน และชาวบ้านเหล่านี้มักจะมาเป็นแขกประจำของโบสถ์ด้วย

มาการ์รีจา ในชุดแม่ชี และผ้าคลุมผมสีดำกล่าวว่า โบสถ์เปิดประตูต้อนรับชาวบ้านเสมอ หากชาวบ้านคิดว่ารูปปั้นศักดิ์สิทธิ์นี้จะช่วยพวกเขาได้ และนี่คือเหตุผลหลักที่ต้องให้แม่ชีเรียนภาษาอัลบาเนีย แม้จะยากและแตกต่างจากภาษาเซอร์เบียอย่างมากมายก็ตาม

ช่วงเกิดสงครามในโคโซโวระหว่างปี พ.ศ. 2541-42 ซึ่งผู้นำเซิร์บ นายสโลโบแดน มิโลเซวิค ต่อสู้กับกองกำลังชนกลุ่มน้อยมุสลิมอัลบาเนีย คอนแวนต์แม่ชีแห่งนี้พยายามแสดงตนว่าไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แม้จนปัจจุบันแม่ชีและชาวบ้านไม่คุยกันเรื่องการเมือง รวมทั้งประเด็นเปราะบางเกี่ยวกับกรณีที่โคโซโวประกาศอิสรภาพในปี พ.ศ. 2551

ชาวบ้านมุสลิมยังคงรำลึกถึงความกล้าหาญของแม่ชีมาการ์รีจา ซึ่งบุกบั่นฝ่าการสู้รบระหว่าง 2 ฝ่าย เพื่อช่วยพาหญิงชาวบ้านมุสลิมท้องแก่ไปคลอดลูกในโรงพยาบาลของชาวเซิร์บ นอกจากนั้น แม่ชียังเคยช่วยเหลือลูกชายของชาวมุสลิมในหมู่บ้าน ให้รอดพ้นจากกลุ่มเจ้าหน้าที่ชาวเซิร์บอีกด้วย - www.muslimthai.com

 

จน!!

เครียด!!

ฟัง LISTEN ++"

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/_gHTINl-12k?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/_gHTINl-12k?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

 

อ่านะ...โต๊ะ จาย หมด เรย...อิอิ

 

ยิ่งฟังยิ่งเครียด ยิ่งเครียดก็ยิ่งปวดหัว

 

อ่าว....เป็นงั้นไป เราฟังแล้ว หายเครียดเรย นะ

เหมือนได้ปลดปล่อยตัวตน ปล่อยพลังเต็มที่เลย น้องเค้าแสดงได้เก่งมาก

บิ๊วอารมณ์ได้เกิน 10 จากคะแนนเต็ม 10 เลยนะ ดูแล้วมีอินตามด้วยแฮะ

แต่ก็ แล้วใจคนดูอะนะ บางคนยิ่งดูยิ่งเครียด มันก็ ถูกของเค้าอีกแหละ

มันเป้นปัจจัตตัง จริตใครจริตมัน ชอบต่างกัน การตอบสนองต่อเหตุมันก็ต่างๆกันปาย

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/LPbzKgZHWHA?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/LPbzKgZHWHA?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

 

ไม่รับผลเลือกตั้ง “ไนจีเรีย” จลาจลนองเลือด

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 เมษายน 2554 03:27 น.




เอเอฟพี - มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากในเหตุจลาจลนองเลือดซึ่งปะทุขึ้นแถบตอนเหนือของไนจีเรียเมื่อวันจันทร์ (18) ตามหลังการประกาศผลเลือกตั้งประธานาธิบดีที่นายกูดลัค โจนาธาน ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย สะท้อนให้เห็นความแตกแยกรุนแรงในประเทศแห่งนี้

ผลคะแนนโหวตจากรัฐต่างๆ 36 รัฐของไนจีเรีย และในเมืองหลวงที่แถลงโดยคณะกรรมการเลือกตั้งพบว่านายโจนาธานเป็นฝ่ายเอาชนะคู่แข่งคนสำคัญนายมูฮัมมาดู บูฮารี อย่างขาดลอย 22 ล้านเสียงต่อ 12 ล้านเสียง

อย่างไรก็ตาม เหตุจลาจลได้ปะทุขึ้นหลังมีข้อกล่าวหาว่ามีการโกงการเลือกตั้งซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (16) ขณะที่ผลคะแนนโหวตก็เผยให้เห็นถึงความแตกแยกอย่างรุนแรงระหว่างผู้คนทางเหนือที่มีคนมุสลิมเป็นชนกลุ่มใหญ่และประชาชนทางใต้ของประเทศที่คนส่วนใหญ่นับถือคริสต์

ชาวบ้านเปิดเผยว่า มีบ้านเรือนราษฎรหลายหลังถูกเผาที่เมืองซาเรีย ทางเหนือของประเทศ ในจำนวนนั้นรวมไปถึงบ้านพักของรองประธานาธิบดีนามาดี ซัมโบ นอกจากนี้กลุ่มม็อบยังก่อเหตุจุดไฟเผาทั้งเป็นสตรีชาวคริสต์รายหนึ่งในพื้นที่อื่นด้วย



รายงานระบุว่า กลุ่มม็อบได้ก่อความวุ่นวายในหลายรัฐ โดยบางส่วนใช้ไม้ทุบทำลายข้าวของและสุมไฟบนท้องถนนสายต่างๆ ขณะเดียวกัน โบสถ์หลายแห่งก็ตกเป็นเป้าหมายโจมตีและเรือนจำแห่งหนึ่งได้เกิดเหตุโกลาหลจนนักโทษหลายคนอาศัยสถานการณ์ชุลมุนหลบหนีออกมา

มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งในเมืองคาโน ระหว่างที่บ้านเรือนและร้านค้าถูกโจมตร ขณะที่เมืองกอมเบ ที่พักหลังหนึ่งถูกเผา ส่วนที่เมืองกาดูนา ฝูงชนผู้บ้าคลั่งก็ขัดขวางการเดินทางของประชาชนบนถนนหลวง

โฆษกศูนย์จัดการสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ ยืนยันว่า มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ต่างๆเหล่านั้นจริง แต่ปฏิเสธให้จะเปิดเผยถึงตัวเลขผู้เสียชีวิตสืบเนื่องจากเกรงว่าจะนำไปสู่การแก้แค้น

ตำรวจระบุว่าเหตุจลาจลมีต้นตอจากการปลุกปั่นของผู้ที่ไม่พอใจต่อผลการเลือกตั้ง พร้อมยืนยันว่าเรื่องเชื้อชาติและศาสนาไม่ใช่ชนวนของเหตุรุนแรงครั้งนี้ ขณะที่ทหารก็แสดงความคิดเห็นคล้ายๆ กัน และเตือนว่าพวกเขาพร้อมดำเนินการเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

Around the World - Manager Online -

 

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/fL6Rxe9BV_U?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/fL6Rxe9BV_U?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

ชอบ
Joseph Stiglitz slams US dollar
จาก: RTAmerica | 13 เม.ย. 2011 | 7,171 ครั้ง
Joseph Stiglitz is a Nobel Prize winning economist, Columbia University professor, and former Senior Vice President and Chief Economist of the World Bank. In a one-on-one interview at INET's Bretton Woods conference in New Hampshire he told RT why he thinks the US dollar as the reserve currency is hurting the entire world, how Federal Reserve have failed, and why inequality in the US may be reaching a tipping point that hurts the economy and society, with policymakers sending the US further in the wrong direction.

 

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/gu8OUWmBMCE?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/gu8OUWmBMCE?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

America loves debt!
จาก: RTAmerica | 13 เม.ย. 2011 | 2,588 ครั้ง
US President Barack Obama says America needs to be more fiscally responsible. Ironically, Mr. Obama is also calling for an increase in national debt ceiling. Currently, the country is more than 14-trillion dollars in debt. According to the congressional budget office, nearly 200-billion dollars of interest was paid out to public debt holders in 2010. With its own accounting is such disarray, many say America has lost legitimacy to lead the world on economic issues.

 

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/az0nycU_y3A?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/az0nycU_y3A?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

US debt growing
จาก: RTAmerica | 13 เม.ย. 2011 | 1,866 ครั้ง
President Obama is trying to restore US credibility at a time when the country's budget deficit has shot up close to 17% so far this year compared to last. He is now making the case of raising taxes on the rich and reducing health-care taxes. - just to name a few. But is it too little too late? Michael T. Snyder of Theeconomiccollapseblog.com explains.

 

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/az0nycU_y3A?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/az0nycU_y3A?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

US debt growing
จาก: RTAmerica | 13 เม.ย. 2011 | 1,866 ครั้ง
President Obama is trying to restore US credibility at a time when the country's budget deficit has shot up close to 17% so far this year compared to last. He is now making the case of raising taxes on the rich and reducing health-care taxes. - just to name a few. But is it too little too late? Michael T. Snyder of Theeconomiccollapseblog.com explains.

 

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/xmTxV5UaIbU?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/xmTxV5UaIbU?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

Obama lied about Gaddafi's bloodbath?
จาก: RTAmerica | 18 เม.ย. 2011 | 1,764 ครั้ง
President Obama said that Gaddafi's regime was going to cause a bloodbath in Libya. Professor Alan J Kuperman of the University at Texas argues, however, that the president's claims were exaggerated and that the civil war should be over by now. One month after they intervened, NATO and the US have not put an end to a war that otherwise would have resolved itself.

 

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/F-UtR1ni1QA?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/F-UtR1ni1QA?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

US battles for influence over the airwaves
จาก: RTAmerica | 18 เม.ย. 2011 | 978 ครั้ง
The battle for influence over the international airwaves has opened a new front—in Washington. Just a decade ago, American and British outlets like CNN International and the BBC dominated the international broadcasting market. But media analysts say that today's multi-polar world is reflected in its multi-polar broadcasters—like France, China, Venezuela, Iran, Qatar and Russia. But this new media landscape has top officials in Washington worried that US broadcasters are losing influence around the world.

 

<object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/19hvKH-gYtU?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/19hvKH-gYtU?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="390"></object>

IMF-ing the world
จาก: RTAmerica | 18 เม.ย. 2011 | 306 ครั้ง
The International Monetary Fund and World Bank wrapped up their Spring meeting in Washington DC with fresh concern over a global financial crisis. But as the institutions proscribe solutions, critics argue it's those very policies that played a role in the meltdown to begin with.

 

k.กว้าน สอนผลิกวิกฤติเป็นโอกาส

วันนี้เสนอ ธาตุสีขาวในตำนาน จะทำให้คนไทยรวยกันทั่วหน้า

HTML:

<oops>++"</oops>

k.กว้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า

"แต่ชนชาวทอย จะต้องลงทุนซื้อกระติกมาเผื่อไว้ เพื่อที่จะได้ช้อนเก็บ
ได้เต็มที่ แล้ว รอเทขายทำกรรมไร"

 

ความเชื่อของผม น่าจะเกิดจากภาวะโลกร้อน จากการที่คนในโลกต่างก็ทำลายสิ่งแวดล้อมกันทั้งนั้น โดยเฉพาะฟอสซิล และยังตัดไม้ทำลายป่าจนโลกไม่สามารถดูดรับสารคาร์บอนและอื่น ๆ ได้หมด ยิ่งทำลายป่าไม้ ภาวะโลกและสิ่งแวดล้อมยิ่งแย่ และในที่สุดโลกก็จะเกิดภาวะขาดความสมดุล และจะต้องมีการปรับความสมดุลกันอย่างแน่นอน หากคนเรายังไม่มีจิตสำนึกอยู่กับธรรมชาติอย่างพอเพียง ยากนักที่มนุษย์จะรอดจากการปรับความสมดุลของโลกได้ และคงจะเหลือมนุษย์อีกไม่มากนัก แต่คิดว่ามนุษย์ที่มีความโลภไม่มีที่สิ้นสุด คงไม่ยินยอม และยังคงตักตวงและทำลายธรรมชาติอย่างไม่สิ้นสุด โดยเฉพาะระบบทุนนิยมสามานย์ที่สาวได้สาวเอาไม่มีที่สิ้นสุด เพราะความโลภของทุนนิยมโดยแท้ที่มีความต้องการไม่มีที่สิ้นสุด จึงทำให้โลกโดยรวมพังทะลายไปในที่สุด

 

เงินเฟ้อ เงิยเรอ สงสัย "อีลุมมีหน้ามาติ" ฟัง ปีรามิด

<object width="480" height="270"><param name="movie" value="http://www.dailymotion.com/swf/video/xbrjk4?theme=none"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowScriptAccess" value="always"></param><param name="wmode" value="transparent"></param><embed type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.dailymotion.com/swf/video/xbrjk4?theme=none" width="480" height="270" wmode="transparent" allowfullscreen="true" allowscriptaccess="always"></embed></object>