ธรรมะ Newclear คิดว่าอยู่กับปัจจุบัน ก็ล้าหลังวนอยู่กับอดีตแล้ว

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 21 มีนาคม 2011.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    บางท่านฝึกจิตให้อยู่กับปัจจุบันขณะเนืองๆ
    ทว่า พวกเขากำลังหลงอยู่กับอดีตต่างหาก
    พวกเขาคิดว่าการที่อยู่กับลมหายใจก็ดี มีสติ
    ระลึกอยู่เนืองๆ ก็ดี นั่นคือ ปัจจุบันแล้ว


    ทว่า นั่นคือ "ความหลงอย่างยิ่งประการหนึ่ง"
    คือ หลงติดภาวะที่ตนรับรู้ทางอาตนะว่าเป็นปัจจุบัน
    ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว มันไม่ใช่เลย อายตนะของเรารับรู้
    ได้แต่อดีตเท่านั้นเอง ????
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    สิ่งที่เรารับรู้ทางอายตนะทางกาย ล้วนเป็นอดีตไปแล้วทั้งสิ้น


    ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้เลย ที่เราจะดูสิ่งใดๆ แล้วเห็นปัจจุบันของมัน
    ได้ยินเสียงใดๆ แล้วได้ยินเสียงปัจจุบันของมัน เพราะมันเป็นอดีตไปแล้ว


    คงสงสัยละสิ ว่าทำไม ผมจึงกล่าวว่าสิ่งที่ท่านรับรู้ ล้วนเป็นอดีต ไม่มีปัจจุบันเลย?
    ง่ายที่สุดคือ "ทุกสิ่งต้องใช้เวลาในการเดินทาง" เสียงที่หูคุณได้ยิน ก็ต้องใช้เวลา
    เดินทางมายังหูคุณ กว่ามันจะถึง มันก็ใช้เวลา สิ่งที่คุณได้ยิน จึงกลายเป็นอดีตไป
    แล้ว ภาพที่คุณเห็นก็เช่นกัน ต้องใช้เวลาเดินทางกว่าจะถึงตาของคุณ ดังนั้น มันจึง
    ล้วนเป็น "มายาภาพ" ในอดีตเท่านั้น


    เราไม่มีทางเร็วเท่าทันปัจจุบันได้ด้วยการนั่งรอให้รูปมากระทบอาตนะเราได้เลย
    ท่านคงจำสมการ E = MC2 ได้ดี และทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอสไตน์เรื่องการ
    เดินทางของแสง ทีนี้ท่านน่าจะกระจ่างได้แล้วว่าสิ่งที่ท่านเห็น


    "มันไม่เป็นความจริงในปัจจุบันเลยแม้แต่อย่างเดียว"
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เมื่อมีกระแสจิตที่เหนือกาลเวลา ท่านจึงรับรู้ปัจจุบันขณะได้อย่างแท้จริง


    ธรรมะเป็น "อกาลิโก" เมื่อใดที่จิตของท่าน ยังไม่อาจอยู่เหนือการเวลา, เหนือเหตุผล
    ท่านก็จะไม่อาจเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมนั้นได้ ถ้าท่านสามารถเดินทางได้เร็วกว่าแสง ท่าน
    จะเห็นแสงที่วิ่งไป ซึ่งเป็นแสงปัจจุบันขณะที่กำลังเดินทางอยู่ นั่น ท่านจึงเห็นปัจจุบันได้
    จิตของมนุษย์เมื่อบำเพ็ญถึงขั้นหนึ่ง จะเหนือกาลเวลาได้ (อกาลิโก) เมื่อนั้น ท่านจึงเห็น
    อดีต, ปัจจุบัน, อนาคต ที่แท้จริงได้ อย่างไม่ถูกเวลาบิดเบือนไป
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ธรรมะนิวเคลียร์ ระเบิดกระแสจิตฉับพลัน เร็วล้ำเหนือกาลเวลา


    กาลเวลาหลอกลวงเรา ทุกสิ่งที่ต้องเดินทางล้วนต้องใช้เวลา ไม่ว่าจะเป็น
    แสง, สี, เสียง ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็น "รูป" ที่เดินทางเข้ามากระทบอายตนะ
    ของเรา ซึ่งล้วนต้องใช้ "เวลา" ดังนั้น การที่เรารับรู้สิ่งเหล่านี้ แล้วคิดว่า
    "สิ่งใดที่เรารู้ปัจจุบัน ย่อมต้องเป็นปัจจุบัน" นั้น กลายเป็นความผิดพลาด
    อย่างยิ่ง เพราะมันเป็นอดีตไปแล้ว มันต้องเดินทางมา แม้จะใช้เวลาเพียง
    เสี้ยววินาทีก็ตาม แต่ถ้าจิตของท่านไม่เร็ว, ไม่ละเอียดเท่า ก็จะถูกภาพลวง
    ตาของกาลเวลาหลอกทันที


    ดังนั้น จิตของท่านจึงต้องเร็วและละเอียดเหนือกาลเวลาในฉับพลัน ฉับพลัน
    เท่านั้น จึงพ้นเหนือกาลเวลา เพราะถ้าไม่ฉับพลัน เพียงพริบตา เพียงเสี้ยวนาที
    ก็ตกเป็น "ทาสของกาลเวลา" แล้ว นั่นจึงไม่ใช่ "อกาลิโก" ไม่ใช่ธรรมแท้จริง
     
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    สิ่งที่เห็นได้ชัด คือ ผลจากอดีตที่อำพรางปัจจุบันเอาไว้


    สิ่งที่เราได้รับ, เสวยอยู่ ล้วนเป็นผลจากอดีตทั้งสิ้น เป็น "พลังงานกรรม"
    ที่เราทำไว้แต่ในอดีตที่โคจรย้อนกลับเข้ามาหาคอกเดิมของมัน ให้เราได้
    เสวยผลบุญ, ผลกรรมนั้น สิ่งนี้เป็นเปลือกหุ้ม "ปัจจุบันที่แท้จริง" เอาไว้
    ทำให้เราไม่เห็น "ตัวตนที่แท้จริงในปัจจุบันของเรา" เช่น ในบางคนที่ไม่มี
    บารมีเลย แต่ผลบุญกำลังสนองอยู่ อาจดูเปลือกนอกคล้ายคนที่มีบารมีมาก
    ได้ ในขณะที่คนที่มีบารมีมาก แต่ตกเคราะห์กรรมอยู่ กรรมนั้นอำพรางบารมี
    เขาไว้ ทำให้คนมองไม่เห็น ไม่อาจทะลุผ่าน "กำแพงเวลา" ไปเห็นแก่นในได้


    เมื่อเรากำลัง "กินบุญเก่า" ที่ร่อยหรออยู่นี้ เราจะมีบารมีพอเอาตัวรอดจากกรรม
    ที่จะโหมเข้ามาหาเราในอนาคตได้หรือไม่, เพียงใดกัน?
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ธรรมะ Newclear ใหม่ๆ ใสๆ สะใจโจ๋


    ไม่มีดี ไม่มีชั่ว ไม่มีถูก ไม่มีผิด มีแต่ธรรม
    ธรรมชาติมันเป็นเช่นนั้นเอง ไม่มีปรุงแต่ง
    ให้มันเป็นอะไร ดีหรือชั่ว ถูกหรือผิดอย่างไร
    ใสๆ ตรงไปตรงมา ดุจ ดรุณีแรกแย้มใบไม้แรกผลิ
    เปลือยเปล่า ไร้มารยา ไม่มีมลทิน ฉับพลันทันที
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    พระถังซำจั๋งเวอร์ชั่นญี่ปุ่น "ไร้ตำรา"


    พระถังซำจั๋งเวอร์ชั่นจีน มีการอัญเชิญคัมภีร์ไตรปิฎกมาจากอินเดีย
    ท่านทำตกลงน้ำ แล้วจึงคัดลอกใหม่ "จนตาบอด" แต่ก็ไม่เห็นธรรม
    เพราะ "ยึดตำรา" ดังนี้ กิจไม่สำเร็จ จึงต้องทำใหม่ ที่ประเทศญี่ปุ่น
    พระถังซำจั๋งเวอร์ชั่นญี่ปุ่น ไปอัญเชิญพระคัมภีร์ที่ทิเบต ทว่า ถูกลามะ
    บอกให้ "กลั่นตัวเองเป็นคัมภีร์" ถูกกักตัวอดอาหาร ซึ่งเป็นการบำเพ็ญ
    เพื่อการบรรลุธรรมนั่นเอง และแล้วก็ได้รับคัมภีร์มาในที่สุด ทว่า คัมภีร์
    นั้น "กลับว่างเปล่า" ไร้ตัวอักษรใดๆ ทันใดนั้นท่านก็บรรลุฉับพลัน หลุด
    พ้นจากการยึดมั่นถือมั่นในตำราใดๆ


    ด้วย "อไทวตธรรม" นั่นเอง
     
  8. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    เวลาเดินไปข้างหน้า ไม่ได้เดินถอยหลัง
    เห็นปัจจุบันแล้วยึดไว้ สิ่งนั้นย่อมเป็นอดีต
    เห็นปัจจุบันแล้วปล่อยวาง สิ่งนั้นย่อมไม่ใช่อดีต
     
  9. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    ธรรมปฏิรูป กับ ธรรมหลุดพ้นจากตำรา จะแยกกันได้อย่างไร?
     
  10. puttro

    puttro Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +66

    อนุโมทนาสาธุค่ะ.......
     
  11. YOMI_NK

    YOMI_NK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +91
    เพ้อเจ้อรึเปล่า....หาเหตุหาผลของคำสอนให้ดี คำสอนไม่ได้บอกว่าให้ยึดต้นกำเนิดของอายตนะภายนอกที่จะมากระทบอายตนะภายในว่าเป็นปัจจุบัน แต่ให้พิจารณาตรงที่อายตนะภายนอกมากระทบอายตนะภายในซึ่งถือได้ว่าเป็นปัจจุบันขณะ เช่น หูได้ยินเสีย หูเป็นอายตนะภายใน เสียงเป็นอายตนะภายนอก การที่เรากำหนดปัจจุบันขณะตรงหูของเราอย่างน้อยจิตก็ไม่ออกไปนอกกาย ไปก็ไปไม่มาก ไม่ทำให้จิตออกนอก ทำให้จิตรวมอยู่ได้ ไม่ส่ายไป
     
  12. จิ-โป

    จิ-โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,196
    เราไหลตามเวลาเพราะการมีตัวตน เมื่อเราละอัตตาตัวตนแล้ว
    ก็ไม่อยู่ในเงื่อนไขแห่งกาลเวลา ปัจจุบันจิตนับจากตรงนี้ เมื่ออยู่ใน
    สภาวะใร้ตัวตนคือเหนือกาลเวลาแรงผลักเท่ากับแรงดึง เมื่อเรานิ่งอยู่
    ไม่ไหลไปกับความเร็ว ก็เหมือนเราวิ่งหนีความเร็วนั้นด้วยความเร็วเท่ากัน
    จากจุดนี้ไม่มีคัมภีร์ใดๆจะบรรยายสภาวะจุดนี้ได้ เพียงแต่บอกทางมาตรงนี้
    เท่านั้นเอง จะบรรยายได้คือกระดาษเปล่าเท่านั้นที่บรรยายได้ใกล้เคียง

    พิจารณาตำราว่าตรงไหนคือเบื้องต้น ท่ามกลางและบั้นปลาย แยกส่วนออกมา
    จึงปฏิบัติได้ ธรรมส่วนบั้นปลายเอามาปฏิบัติเบื้องต้นผลคือความไม่รู้แจ้ง เมื่อ
    สูงสุดคือสู่สามัญแล้วไซร้ สามัญรู้แจ้งเท่าสูงสุดได้หรือ คัมภีร์ว่างเปล่าหากตกสู่สามัญ
    แล้วยังจะหาประโยชน์ใดได้แต่หากคัมภีร์ใร้อักษรอยู่ในมือผู้รู้ ความสว่างโพล่งย่อมเกิด
    ในฉับพลันมีประโยชน์สูงสุดนี่คือธรรมบั้นปลาย
     
  13. YOMI_NK

    YOMI_NK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +91
    ต่ออีกหน่อยนะคับ...พอดีติดธุระนิดหน่อย.....

    ในทางตรงกันข้ามถ้าเราเข้าใจว่าเราจะต้องรู้เท่าทันถึงต้นเหตุของอายตนะภายนอก คุณลองคิดดูซิ เหนื่อยนะ เอาตอนนี้เลยที่คุณนั่งอยู่มีเสียงอะไรบ้าง ต้นเหตุของเสียงมาจากไหน ตุ๊กแกเหรอ จิ้งจกเหรอ พัดลมเหรอ ยุงเหรอ อยู่ใกล้ ไกลแค่ไหน พอคุณไล่ไปถึงต้นกำเนิดเสียงภาพก็ขึ้นแล้ว จิตคุณอยู่โน่นแล้ว ตุ๊กแก จิ้งจก พัดลม ถ้าอยู่คนละทิศละ จิตคุณก็ต้องวิ่งสายไปสายมา ถ้ามีรถวิ่งผ่านหน้าบ้านอีกละ แล้วมันกี่คัน ต้องบอกให้ได้ด้วยมั๊ยว่ามันสีอะไร รถกระบะหรือเก๋ง เครื่องยนต์เท่าไหร่...แล้วเสียงที่วิ่งเข้ามาพร้อมกันละ จิตคุณจะไปพิณาตัวไหนก่อน ตายพอดี เอาที่มันมากระทบหูนะ เสียงหนอ เสียงหนอ ไม่เทียงหนอ แค่นั้นจิตก็ไม่ออกไปดูว่า นั่นจิิ้้้งจก นั่นตุ๊กแก สีอะไรหางขาดมั๊ย ก็แค่นั้น จิตก็พอสงบลงได้ ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ออกนอก

    อย่าไปตีธรรมะตามใจตัวเอง แต่ให้พิจารณาให้เห็นตาม เพราะทางที่ชัดเจนได้ชี้ไปแล้วนะคับ เบื้องต้นก็เท่านี้พอ.
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    สติฝึกได้ละเอียดต่างกัน


    พระสารีบุตรนับเม็ดฝนในหมื่นโลกธาตุได้ในฉับพลันเพราะอะไร?
    สติที่ยังตามหลังตำราอยู่ จะหลุดพ้นจากวัฏกะได้หรือ?
    สติที่ยังตามหลังกาย ยังตามหลังเวทนา หลังจิต หลังธรรม


    จะหลุดพ้นจากวงจรเกิดดับได้หรือ?
     

แชร์หน้านี้

Loading...