เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

นาโตยันไม่แทรกแซงลิเบีย หลังถูกหาเป็นหุ่นเชิดมะกันเข้ายึดขุมน้ำมัน

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2554 00:33 น.




นายแอนเดอร์ส ฟอกห์ ราสมุสเซน เลขาธิการนาโต


เอเอฟพี - นาโต ไม่มีแผนเข้าแทรกแซงเหตุความไม่สงบในลิเบียและไม่ได้รับคำร้องขอให้ทำแบบนั้นด้วย จากคำยืนยันของนายแอนเดอร์ส ฟอกห์ ราสมุสเซน เลขาธิการนาโตที่เปิดเผยหลังการหารือในยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี(24) หลังจากถูกกล่าวหาจากอดีตผู้นำคิวบา สหรัฐฯกำลังใช้นาโตเป็นฉากบังหน้าเข้าควบคุมผลประโยชน์ทางพลังงาน

"ผมอยากขอย้ำว่านาโตไม่มีแผนเข้าแทรกแซงและเราเองก็ไม่ได้รับการร้องขอใดๆ" ราสมุส กล่าวหลังจากพบปะกับประธานาธิบดีวิคตอร์ ยานูโควิช แห่งยูเครน "ไม่ว่ากรณีไหน ปฎิบัติการใดๆควรอยู่บนพื้นฐานอาณัติของสหประชาชาติ" เขากล่าว

ก่อนหน้านี้ ฟิเดล คาสโตร อดีตประธานาธิบดีคิวบา กล่าวอ้างเมื่อวันอังคาร(22) ว่าสหรัฐฯ กำลังมีคำสั่งให้นาโตเข้ารุกรานลิเบียเพื่อควบคุมผลประโยชน์ทางน้ำมันของวอชิงตัน

คาสโตร กล่าวอ้างในบทความที่เขียนลงในหนังสือพิมพ์ของรัฐว่าวอชิงตัน จะไม่มีรีรอต่อการออกคำสั่งให้นาโตเข้าบุกรุกชาติผู้มั่งคั่งทางพลังงานแห่งนี้และบอกว่าบางทีมันอาจเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันข้างหน้านี้เลยก็เป็นได้

เวลานี้ทั้งสหรัฐฯและสหภาพยุโรป กำลังพิจารณามาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อรัฐบาลลิเบียของประธานาธิบดี มูอัมมาร์ กัดดาฟี แต่ยังไม่มีเครื่องบ่งชี้อย่างเป็นทางการว่าพวกเขาอาจใช้กำลังทางทหาร

โรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากลำบากที่วอชิงตันจะกำหนดเขตห้ามบินเหนือลิเบียเพื่อยับยั้งปฏิบัติการใช้เครื่องบินรบโจมตีผู้ชุมนุมต่อต้านกัดดาฟี อย่างไรก็ตามเขาบอกว่าเขตห้ามบินดังกล่าวสามารถบังคับใช้ได้โดยฝรั่งเศสและอิตาลี ซึ่งมีอำนาจเพียงพอในพื้นที่

Around the World - Manager Online -

 

ผู้ประท้วงลิเบียยึดเมืองตะวันตกเพิ่ม 'โอบามา'เร้านานาชาติต้าน'กัดดาฟี'

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กุมภาพันธ์ 2554 22:30 น.



ผู้ประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟีของลิเบีย ได้รุกคืบจนยึดเมืองทางภาคตะวันตกได้เพิ่มอีกหลายเมือง จากที่สามารถควบคุมเมืองสำคัญในตะวันออกอย่างเบงกาซีและโตบรูกไปแล้วก่อนหน้านี้


เอเจนซี/เอเอฟพี - ประธานาธิบดีมูอัมมาร์ กัดดาฟีของลิเบีย ซึ่งยังคงยื้อปราบปรามผู้ประท้วงด้วยอาวุธสงครามอย่างบ้าคลั่ง กำลังสูญเสียอำนาจการปกครองประเทศอันยาวนานกว่า 4 ทศวรรษลงทุกขณะ เมื่อกลุ่มนักรบ ทหารแปรพักตร์และผู้ประท้วงต่อต้านระบอบ ได้รุกคืบจนยึดเมืองทางภาคตะวันตกได้เพิ่มอีกหลายเมือง จากที่สามารถควบคุมเมืองสำคัญในตะวันออกอย่างเบงกาซีและโตบรูกไปแล้วก่อนหน้านี้ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐฯ ได้แถลงประณามเหตุการณ์สังหารหมู่พลเรือนอย่างโหดเหี้ยมของกัดดาฟีเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดี (24) พร้อมกันนี้ยังรบเร้าให้นานาชาติรวมพลังกันต่อต้านกัดดาฟีอย่างแข็งกร้าว

จากเหตุที่นายทหารชั้นนายพลและสหายคนสนิทของกัดดาฟีหลายคนซึ่งเคยต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับเขามาตั้งแต่ครั้งก่อรัฐประหารปี 1969 ได้แปรพักตร์ไปเข้าร่วมกับกลุ่มต่อต้านระบอบ ก็ทำให้กลุ่มฝ่ายค้านกัดดาฟีทวีกำลังเข้มแข็งมากขึ้น จนกระทั่งสามารถยึดครองเมืองชายฝั่งด้านตะวันออกเอาไว้ได้อย่างราบคาบตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี (24) ไล่ตั้งแต่แนวตะเข็บชายแดนติดกับอียิปต์ตลอดลงมาจนถึงเมืองโตบรูก และเบงกาซี โดยที่นักข่าวภาคสนามหลายคนรายงานว่า กลุ่มโค่นล้มระบอบซึ่งส่วนใหญ่ติดอาวุธเวลานี้ได้ประจำการอยู่ตลอดเส้นทางหลวงซึ่งโอบขนานไปกับชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

นอกจากนี้ กลุ่มฝ่ายค้าน ยังได้รุกคืบยึดเมืองมิสราตา ทางภาคตะวันตกของประเทศ อันเป็นเมืองซึ่งตั้งอยู่ห่างจากกรุงตริโปลี 200 กิโลเมตร จนสำเร็จอีกด้วย โดยในคำแถลงซึ่งกลุ่มนักกฎหมายและผู้พิพากษาร่วมกันเขียนขึ้นนั้น ระบุไว้ว่า เจ้าหน้าที่ทหาร “ผู้ซื่อสัตย์” ได้ช่วยเหลือพวกเราในการกำจัดสมุนของระบอบกดขี่ให้พ้นไป

พวกทหารแปรพักตร์ยังได้ยึดครองเมืองจูอะเราะห์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกรุงตริโปลีราว 120 กิโลเมตรอีกด้วย ทั้งนี้จากการเปิดเผยของคนงานก่อสร้างชาวอียิปต์ซึ่งหลบหนีเข้าไปในตูนิเซีย

ส่วนสถานการณ์ที่กรุงตริโปลี ซึ่งแทบจะถูกปิดตายโดยที่สื่อต่างชาติไม่สามารถเข้าไปได้ ก็มีชาวบ้านเล่าว่าได้ยินเสียงปืนดังกึกก้องในเขตชานเมืองด้านตะวันออกในช่วงคืนวันพุธ (23) โดยที่ในเช้าวันถัดมา (24) ถนนหลายสายในเมืองหลวงล้วนอยู่ในสภาพรกร้างไร้ผู้คน ขณะเดียวกันชาวบ้านบางคนก็เล่าว่า กลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาลจำนวนหนึ่งได้ชุมนุมกันในบริเวณจัตุรัสกรีน แต่กระนั้นบาทหลวงผู้หนึ่งในตริโปลี ระบุว่า สถานการณ์ทั่วไปในเมืองหลวงแห่งนี้นับว่าสงบลงกว่าเมื่อช่วงหลายวันที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม กลุ่มมวลชนในเมืองทางภาคตะวันออกที่เวลานี้อยู่ในความควบคุมของพวกเขา ก็ได้ออกมาประกาศว่า จะจัดการชุมนุมครั้งใหญ่ในกรุงตริโปลีในวันพฤหัสบดี (24) “จุดหมายปลายทางของเราคือที่ตริโปลี” ผู้ประท้วงรายหนึ่งกล่าว “หากตริโปลีปลดปล่อยตนเองเป็นอิสระไม่ได้”

ขณะที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศคอเรด คออิม ของลิเบีย ระบุว่า กลุ่มอัลกออิดะห์สาขาแอฟริกาเหนือซึ่งได้ออกคำแถลงให้การสนับสนุนการลุกฮือโค่นระบอบกัดดาฟีก่อนหน้านี้ ได้จัดตั้งที่ทำการอิสลามมิกขึ้นในเมืองเดระนอ ซึ่งอยู่ระหว่างเมืองโตบรูกกับเบงกาซี โดยที่มีอดีตนักโทษเรือนจำกวนเตนาโมคอยบัญชาการอยู่ อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านละแวกนั้นปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวโดยระบุว่า รัฐบาลลิเบียพยายามจะขู่ให้ยุโรปหวาดกลัวไปเท่านั้น

ด้านประธานาธิบดีโอบามา ออกมาแถลงประณามพฤติการณ์สังหารโหดพลเรือนของระบอบกัดดาฟีว่าเป็น สิ่งที่ “อุกอาจ” และ “ยอมรับไม่ได้” นอกจากนี้โอบามา ยังโน้มน้าวให้ชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ รวมพลังเป็นหนึ่งเพื่อร่วมกันต่อต้านกัดดาฟี พร้อมกับประกาศว่าจะระดมมาตรการตอบโต้ต่างๆ เพื่อหยุดยั้งเหตุนองเลือดให้จงให้

“นี่เป็นสิ่งจำเป็นที่ชาติต่างๆ และประชาชนทุกหมู่เหล่าบนโลกใบนี้จะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกัน” ผู้นำทำเนียบขาว แนะ

"ความเจ็บปวด และการก่อเหตุนองเลือดเป็นพฤติการณ์ที่รุนแรง และเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ ความรุนแรงเช่นนี้จักต้องยุติลง" เขาบอก ท่าทีอันแข็งกร้าวของโอบามาคราวนี้มีขึ้นหลังจากที่เขาในฐานะของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกที่กระชับความสัมพันธ์กับกัดดาฟี ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่าไม่ยอมแสดงจุดยืนอะไรก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ชี้แจงในภายหลังว่า สหรัฐฯ ต้องการให้แน่ใจว่าชาวอเมริกันทั้งหมดในลิเบียจะอพยพออกมาได้อย่างปลอดภัยเสียก่อน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ชี้ว่า ทางเลือกของสหรัฐฯ ที่จะเข้าไปแทรกแซงเหตุนองเลือดในลิเบียนั้นมีค่อนข้างจำกัด และต่างจากสถานการณ์ในอียิปต์ และบาห์เรนอย่างสิ้นเชิง ซึ่งวอชิงตันสามารถใช้อิทธิพลทางการเมืองในการกดดันทั้งสองประเทศได้ในฐานะที่เป็นชาติพันธมิตรอันยาวนาน และเป็นผู้ที่ให้การสนับสนุนด้านการเงินแก่ประเทศเหล่านี้มาโดยตลอด

ทั้งนี้สถานการณ์ความไม่สงบในลิเบียยังคงน่าหวาดวิตก โดยรัฐมนตรีการต่างประเทศฟรังโก แฟรตตินีของอิตาลี ระบุว่า ตอนนี้เขาเกรงว่าจะมีประชาชนลิเบียจำนวนถึง 300,000 คนกำลังพยายามหนีตายออกจากประเทศซึ่งเวลานี้เจิ่งนองไปด้วยเลือด มาพำนักในแผ่นดินยุโรป จากที่ก่อนหน้านี้โฆษกองค์การสหประชาชาติ มาร์ติน เนเซียร์กี ระบุว่า มีประชาชนราว 5,000 คนได้มาลี้ภัยยังแนวพรมแดนติดกับตูนิเซียและอีก 15,000 คน พำนักอยู่บริเวณชายแดนติดกับอียิปต์

ส่วนพลเมืองอังกฤษผู้ซึ่งเดินทางออกนอกลิเบียมาถึงท่าอากาศยานแกตวิคในลอนดอนด้วยเครื่องบินเหมาลำของรัฐบาลอังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดี (24) ระบุว่า บ้านเมืองลิเบียในตอนนี้มีสภาพราวกับเป็น “นรก” เลยก็ไม่ปาน

Around the World - Manager Online -

 

ธปท.ลงทุนหยวน200ล. "หม่อมเต่า" แนะเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรอง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2554 00:37 น.

บอร์ดแบงก์ชาติอนุมัติวงเงิน 200 ล้านหยวน นำสินทรัพย์ของแบงก์ชาติไปลงทุนในตราสารหนี้จีน พร้อมเปิดสำนักตัวแทนที่ปักกิ่งในเดือน ส.ค.นี้ หวังเพิ่มช่องการค้าและการลงทุนกับทางการจีนเพิ่มขึ้น "หม่อมเต่า" เผยอยากเห็นผู้ว่าฯ เปิดช่องทางนำทุนสำรองลงทุนผลตอบแทนที่สูงขึ้น แนะเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองให้มากกว่า 3%

ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือบอร์ดแบงก์ชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้บอร์ดแบงก์ชาติได้อนุมัติให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สามารถนำสินทรัพย์ของ ธปท.ที่ไม่ใช่ส่วนของเงินสำรองทางการระหว่างประเทศไปลงทุนตราสารหนี้ของทางการจีนได้ในวงเงิน 200 ล้านหยวน ซึ่งตราสารหนี้ดังกล่าวจะต้องที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ทางการจีนเท่านั้น

ปัจจุบัน ทางการจีนต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนในภูมิภาคนี้ ซึ่งขณะนี้ไทยเริ่มต้นติดต่อผ่านช่องทางการค้าและระบบคมนาคมกับทางการจีนไปบ้างแล้ว ถือว่าไทยก็เป็นประเทศที่มีการติดต่อกับจีนค่อนข้างมาก จึงมองว่าอีกไม่นานสกุลเงินหยวนจะมีบทบาทมากขึ้นที่จะเป็นสกุลเงินที่ได้รับการยอมรับในทั่วโลก ดังนั้น ในเดือน ส.ค.นี้ ธปท.จะจัดตั้งสำนักงานตัวแทน ณ สาขาปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อเป็นฝ่ายที่ช่วยประสานงานให้แก่ไทยและจีนในการติดต่อได้ง่ายขึ้น

**แนะเพิ่มสัดส่วนทองคำมากกว่า 3%
บอร์ดแบงก์ชาติยังได้ให้นโยบาย ธปท.ควรเพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองทางการระหว่างประเทศให้มากกว่า 3% จากปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 2% เพราะช่วงที่ผ่านมองว่าการสะสมทองคำมากเกินไปอาจมีข้อเสียที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือดอกผลมากนัก แต่หากสะสมทรัพย์สินอื่นจะสามารถนำไปลงทุนให้เกิดดอกผลมากยิ่งกว่า

“ธปท.เริ่มมีแนวคิดจะทยอยนำทองคำที่ฝากไว้ในต่างประเทศกลับมาไว้ในไทยและช่วง 1-2 ปีนี้ก็เริ่มนำกลับมาอย่างน้อยให้ได้เกือบครึ่งหนึ่งก่อน ซึ่งปัจจุบันทองคำที่ฝากไว้ในต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วนถึง 70%ของทองคำทั้งหมดในทุนสำรองทางการระหว่างประเทศ”

อนึ่ง รายงานเงินสำรองระหว่างประเทศล่าสุด ณ วันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา พบว่า ไทยมีเงินสำรองระหว่างประเทศทั้งสิ้น 174,478.39 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีฐานะสัญญาซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าอีก 18,455 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในส่วนของทุนสำรองฯ ประกอบด้วย ทองคำ 4,387.14 ล้านเหรียญสหรัฐ สิทธิพิเศษถอนเงิน 1,510.62 ล้านเหรียญสหรัฐ สินทรัพย์ส่งสมทบกองทุนเงินระหว่างประเทศ 436.82 ล้านเหรียญสหรัฐ และสินทรัพย์ต่างประเทศ 168,143.79 ล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะนี้ ธปท.นำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศไปใช้ลงทุนค่อนข้างจำกัด โดยในกฎหมายกำหนดให้นำทุนสำรองไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงสูง โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลของประเทศต่างๆ ซึ่งอาจจะได้ผลตอบแทนกลับมาน้อย เพราะพันธบัตรประเทศเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นของประเทศที่มีปัญหาเศรษฐกิจ ทำให้อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ ขณะที่ต่างชาติเข้ามาลงทุนในหุ้นไทย ซึ่งที่ผ่านมามีผลตอบแทนขึ้นไปถึง 20-25% จึงอยากให้ผู้ว่าการธปท.คนปัจจุบันทบทวนกฎเกณฑ์เรื่องนี้เพิ่มเติม

ขณะเดียวกันแม้ ธปท.จะผ่อนคลายกฎระเบียบให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น แต่เป็นเรื่องยากที่ให้นักลงทุนเอกชนไทยไปลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งส่วนหนึ่งติดเรื่องศักยภาพ ทำได้มีแค่บริษัทขนาดใหญ่เท่านั้น ขณะที่ธนาคารพาณิชย์ไทยก็ไม่ต้องการลงทุนในรูปเงินตราต่างประเทศมากนัก จึงมองว่าภาครัฐเองก็ควรหันไปลงทุนในต่างประเทศดีกว่า เพราะหากไม่ดำเนินการเช่นนี้เมื่อไทยขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ทำให้ต้นทุนแพงขึ้นได้และอาจมีผลให้ต่างชาติดึงเงินทุนกลับคืนไป หรือหากให้คนไทยกู้ต่อไปก็จะมีต้นทุนสูงขึ้นอีก

Stock Markets - Manager Online -

 

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554 01:00
<DD class=columnist-name>กาแฟดำ </DD>ไฉนคำว่า ‘ceasefire’ จึงหายไปจากแถลงการณ์?

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ใครที่ติดตามเกมการต่อรองเรื่องไทย-กัมพูชา ต้องสังเกตเรื่องการใช้ศัพท์แสงทางการทูต จึงจะเข้าใจว่าเบื้องลึกของเรื่องนี้เป็นอย่างไร

และใครต่อรองอะไรเพื่อเป้าหมายอย่างไร
ผมบอกไว้เมื่อวานในคอลัมน์นี้ว่า ผลการ “ประนีประนอม” กัน ณ ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนที่กรุงจาการ์ตา ที่มีแถลงการณ์ออกมาว่าอินโดนีเซีย ในฐานะประธานปีนี้จะส่ง “คณะผู้สังเกตการณ์” (ไม่ติดอาวุธ) มาประจำที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งละ 15 คนนั้น เป็นเพียงเรื่อง “พักยก” เท่านั้น
เพราะผมเชื่อว่ากัมพูชายังจะเดินเรื่องต่อ และกำลังวางแผนจะเสนอเรื่องข้อพิพาทกับประเทศไทย กลับไปยังศาลโลก เพื่อให้ตีความว่านอกจากตัวปราสาทพระวิหารแล้ว ที่ดินรอบๆ อีก 4.6 ตารางกิโลเมตร จะเป็นของเขาด้วยหรือไม่?
ไทยยืนยันว่าคำตัดสินของศาลเมื่อปี 2505 นั้น ให้กัมพูชาเฉพาะตัวปราสาท และประเทศไทยก็ยังสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ยอมรับคำตัดสินนั้นด้วยซ้ำไป
แต่ กัมพูชา ยืนยันว่าคำตัดสินของศาลสามารถตีความได้ว่าบริเวณรอบๆ นั้น ควรจะเป็นของตนด้วย
กลายเป็นประเด็นพิพาทมาถึงวันนี้...และ นายกฯ ฮุนเซน ก็พยายามเล่นเกมทั้งปลอบเพื่อลากเรื่องนี้เข้าสู่เวทีสากลให้ตนได้ประโยชน์
ประเด็นที่จะต้องสังเกตในแถลงการณ์ของอาเซียน ก็คือ ไม่มีการใช้คำว่า “ceasefire” เลย ไม่ว่าจะในเอกสารทางการหรือถ้อยคำที่ให้สัมภาษณ์ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
นักข่าวถามรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดฯ มาร์ตี้ นาตาเลกาวา ในฐานะเป็น “คนกลางไกล่เกลี่ย” ว่าทำไมไม่ใช้คำว่า ceasefire ทั้งๆ ที่ มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ระบุชัดว่าให้ไทยกับกัมพูชาไปหาทางร่วมกับอาเซียน ในการทำให้เกิด “permanent ceasefire” หรือ “หยุดยิงถาวร”
รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดฯ หลบเลี่ยงไปตอบว่า “It is what it is. A ceasefire is a ceasefire, as long as things are quiet.”
อ่านอย่างนี้แล้วผมก็ตีความได้เพียงว่า พอเริ่มต้นจะไปพบกันที่เมืองหลวงของอินโดฯ ก็มีการกระซิบกระซาบกันแล้วว่าอย่าได้ใช้คำว่า “ceasefire” เพราะจะเป็นคำที่ละเอียดอ่อนทางการเมือง
เนื่องเพราะหากใช้คำว่า “หยุดยิง” ก็เท่ากับยอมรับว่ามี “สงคราม” ซึ่งจะเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าการ “ปะทะตรงชายแดน”
ความแตกต่างระหว่างคำว่า “สงคราม” กับ “ปะทะ” (war กับ skirmishes) นั้นมีนัยที่สำคัญสำหรับการเมืองในประเทศของไทยและเขมร อีกทั้งยังจะทำให้อาเซียนตกอยู่ในฐานะลำบากมากยิ่งขึ้น ในการเล่นบทเป็นคนกลางของข้อพิพาทนี้
นายกฯ ฮุนเซน เคยเรียกมันว่า “สงคราม” เพราะต้องการจะดึงเรื่องไปสหประชาชาติ
นายกฯ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ของไทยเรียกมันว่า “การปะทะ” เพื่อให้เห็นเป็นเรื่อง “ทวิภาคี” และแม้จะไปพบกันที่สหประชาชาติและอาเซียนแล้ว ไทยก็ยังพยายามจะเรียกมันว่า “ทวิภาคี” เพื่อไม่ให้ประเด็นบานปลาย กลายเป็นเรื่องระหว่างประเทศ
คำตอบของรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดฯ ในประเด็นนี้จริงอ้อมแอ้มว่า “หยุดยิงก็คือหยุดยิง ถ้ามันเงียบก็คือหยุดยิง”
คล้ายๆ กับจะบอกว่าจะเรียกอะไรก็ไม่สำคัญ ขอให้หยุดการแลกเปลี่ยนกระสุนกันและกันเป็นใช้ได้
แต่เบื้องหลังของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนนั้น คือ การวิ่งเต้นกันตั้งแต่ต้นว่าจะไม่ใช้คำว่า “ceasefire” เพราะมันจะกระทบหลายฝ่าย
ปัญหาอยู่ที่ว่าเมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศอินโดฯ รายงานกลับไปที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ จะอธิบายอย่างไร ว่าได้ทำตามมติให้ไทยกับกัมพูชาหาทางบรรลุข้อตกลงว่าด้วย “permanent ceasefire” หรือ “หยุดยิงถาวร” ได้หรือไม่ อย่างไร?
กลเกมแห่งการทูตนั้น บางทีก็สลับซับซ้อนกว่าการปะทะกัน ด้วยอาวุธมากมายหลายเท่านัก

䩹

 

วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554 01:00
อันเนื่องมาจากเรื่องเมืองอาหรับ

โดย : ดร.ไสว บุญมา

เหตุการณ์ในโลกอาหรับในช่วงนี้ถูกตีความหมายไปต่างๆ นานา ในฐานะที่ได้เคยไปเห็นหลายประเทศในกลุ่มนั้น

และข้อสังเกตบางอย่างในบางประเทศมาเล่า

ประเทศที่คงเป็นที่รู้จักกันมากที่สุดของคนไทย ได้แก่ อียิปต์ เนื่องจากอารยธรรมเก่าแก่ที่มีวัตถุและสิ่งก่อสร้างโบราณอันโดดเด่น จนเป็นแหล่งท่องเที่ยวแนวหน้าของโลกอาหรับ จริงอยู่อียิปต์มีสิ่งน่าศึกษาโดยเฉพาะด้านความก้าวหน้าของศาสตร์ต่างๆ ที่ทำให้อียิปต์โบราณรุ่งเรือง แต่เรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยกว่ากันได้แก่สภาพปัจจุบันโดยเฉพาะทาง ด้านความสมดุลระหว่างทรัพยากรธรรมชาติกับจำนวนคน

ผู้เข้าไปดูภูมิประเทศของอียิปต์ทางอินเทอร์เน็ตจะเห็นว่าเกือบทั้งประเทศเป็นสีน้ำตาล ยกเว้นสามเหลี่ยมสีเขียวขนาดเล็กตรงปากแม่น้ำไนล์ ทั้งนี้ เพราะอียิปต์เป็นทะเลทรายเกือบทั้งหมดและมีน้ำจืดพอเพาะปลูกได้เฉพาะรอบๆ แม่น้ำไนล์เท่านั้น ปากแม่น้ำไนล์แตกออกเป็นหลายแฉก จึงเป็นพื้นที่สีเขียวที่มองเห็นได้จากภาพถ่ายทางอากาศ

การมีน้ำเพียงจำกัดทำให้อียิปต์ผลิตอาหารได้ไม่พอแก่ความต้องการของประชาชน ซึ่งส่วนหนึ่งยากจนและขาดที่อยู่อาศัย จนต้องใช้สุสานเป็นแหล่งหลับนอน อียิปต์ต้องนำเข้าอาหารจำนวนมากเนื่องจากมีประชากรเกือบ 80 ล้านคน แต่ละปีรัฐบาลอียิปต์ต้องใช้งบประมาณมหาศาลสนับสนุนการนำเข้าข้าวสาลีที่ใช้ทำขนมปัง รัฐบาลไม่ทำเช่นนั้นก็ไม่ได้เพราะทุกครั้งที่ขนมปังขึ้นราคา ประชาชนจะออกมาประท้วงอย่างรุนแรง

การใช้งบประมาณมหาศาลหมดไปกับการสนับสนุนราคาอาหาร ยังผลให้รัฐบาลมีงบประมาณสำหรับการลงทุนเพียงจำกัด การพัฒนาจึงเชื่องช้าและเศรษฐกิจขยายตัวได้ในอัตราต่ำ ทำให้ปัญหาความยากจนยิ่งเรื้อรัง หากถามชาวอียิปต์ว่าเมื่อเป็นเช่นนี้ทำไมจึงไม่มีการควบคุมการขยายตัวของประชากร ซึ่งยังเกิดในอัตราสูงกว่าปีละ 1.7% พวกเขามักตอบว่าพระเจ้าทำให้พวกเขาเกิดมา พระเจ้าย่อมหาทางดูแลพวกเขาได้ การตอบทำนองนี้มีทั้งในอียิปต์และในประเทศอาหรับอื่นๆ มันทำให้ยากที่จะพูดคุยกันต่อไปเกี่ยวกับนโยบายในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากรอันแสนจำกัด หรือการแก้ปัญหาความยากจน

การมองชีวิตว่าอยู่ในมือของพระเจ้ามีข้อดีที่ทำให้ชาวอาหรับอดทนต่อสภาพความยากจน ความเหลื่อมล้ำและความไม่เป็นธรรมในสังคมได้ อย่างไรก็ตาม ในยุคนี้พวกเขาคงมีความอดทนน้อยลง หรืออดทนต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว จึงลุกฮือขึ้นมากดดันให้รัฐบาลลาออก แต่การลาออกของรัฐบาลเป็นเพียงการลดความเดือดพล่านของอารมณ์เพียงชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากปัญหาพื้นฐานจำพวกความไม่สมดุลของทรัพยากร ความเหลื่อมล้ำ ความไม่เป็นธรรมและความยากจนยังคงเดิม

อียิปต์ยังดีที่มีแม่น้ำไนล์ไหลผ่าน เยเมนเป็นทะเลทรายทั้งประเทศ ไม่มีแม่น้ำและทะเลสาบ มีเฉพาะพื้นที่สีเขียวจำพวกโอเอซิสเป็นหย่อมๆ เท่านั้น เยเมนจึงผลิตอาหารได้ไม่พอและมีคนจนในอัตราสูงกว่าอียิปต์มาก ทั้งที่มีรายได้และแหล่งน้ำเพียงจำกัด ชายชาวเยเมนใช้เงินจำนวนมากซื้อใบ "คัต" มาเคี้ยวกันทุกบ่าย ใบคัตเป็นยาเสพติดชนิดหนึ่ง ตามวัฒนธรรมเยเมน ตอนบ่ายพวกผู้ชายจะซื้อหาใบคัตมาร่วมวงเคี้ยวและคุยกัน คนมีเงินมากจะซื้อใบคัตคุณภาพสูงที่ได้จากการใช้น้ำรดมากๆ จนเกิดยอดอ่อนยาวๆ ผลของการเคี้ยวใบคัต คือ ทำให้น้ำดื่มมีรสหวานและทำให้ไม่ง่วงนอน

หลังจากน้ำมันปิโตรเลียมขึ้นราคาแบบก้าวกระโดดนำไปสู่การลงทุนขนานใหญ่ในซาอุดีอาระเบีย ชาวเยเมนจำนวนมากอพยพไปทำงานในที่นั่น ค่าแรงที่ชาวเยเมนส่งกลับบ้านนำไปสู่การขยายตัวของการบริโภคอย่างรวดเร็ว รวมทั้งการบริโภคใบคัตคุณภาพดีด้วย ความต้องการใบคัตชนิดนั้นนำไปสู่การลงทุนซื้อเครื่องเจาะบ่อและเครื่องสูบน้ำแรงม้าสูงมาสูบน้ำจากขุมน้ำใต้ดิน ซึ่งสะสมน้ำมาเป็นเวลานับล้านปีขึ้นมาทำไร่ใบคัตกันอย่างกว้างขวาง เพียงไม่นานขุมน้ำใต้ดินเหล่านั้นก็เริ่มเหือดแห้ง ขุมน้ำจำพวกนั้นไม่เคยเหือดแห้งมาก่อน เพราะชาวเยเมนใช้เฉพาะแรงคนขุดบ่อทำให้ขุดได้ไม่ลึกนักจนกระทั่งมาถึงสมัยปัจจุบัน

ในระยะหลังๆ นี้ ชาวเยเมนไม่มีรายได้จำนวนมาก จากการไปทำงานในซาอุดีอาระเบียเพราะถูกขับไล่ให้กลับบ้านเมื่อรัฐบาลขัดแย้งกัน แต่ผลเสียหายจากการสูบน้ำขึ้นมาใช้ปลูกใบคัตคุณภาพดียังคงมีอยู่ และจะมีต่อไปเมื่อน้ำดื่มน้ำใช้ขาดแคลนยิ่งขึ้น เพราะประชากรเยเมนยังขยายตัวในอัตรากว่า 3% ต่อปี

ซาอุดีอาระเบียก็ขาดน้ำไม่ต่างกับเยเมนและเคยใช้น้ำแบบสุรุ่ยสุร่ายในสมัยหนึ่ง โดยการสูบจากขุมใต้ดินขึ้นมาปลูกข้าวในทะเลทราย ตอนนี้ไม่มีการทำนาแบบไร้สติเช่นนั้นแล้ว เพราะน้ำในบางขุมแห้งหายไปหมด ซาอุดีอาระเบียโชคดีที่มีเงินจากการขายน้ำมันจำนวนมหาศาล จึงสามารถลงทุนกลั่นน้ำทะเลมาดื่มและใช้ได้ อย่างไรก็ตาม ชาวซาอุดีอาระเบียมักพูดคล้ายชาวอาหรับในหลายประเทศ ว่า ถ้าเลือกได้พวกเขาขอมีน้ำเช่นเมืองไทยแทนการมีน้ำมัน ทั้งนี้ เพราะบรรพบุรุษของพวกเขาอยู่มาได้นับพันปีโดยไม่รู้ว่ามีน้ำมันอยู่ด้วยซ้ำ แต่หากขาดน้ำ ไม่กี่วันพวกเขาก็ตาย

การดูสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศอาหรับ ทำให้นึกถึงความโชคดีของเมืองไทย ทั้งในด้านการมีทรัพยากรหลากหลายโดยเฉพาะน้ำและดินฟ้าอากาศเหมาะแก่การปลูกพืชอาหารตลอดปีและการไม่มีการต่อต้านการคุมกำเนิด อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความโชคดีนี้ มีเหตุปัจจัยหลายอย่างที่ยับยั้งเมืองไทยมิให้พัฒนาก้าวหน้าได้เร็วกว่าอียิปต์มากนัก คนไทยส่วนใหญ่คงมองเห็นเหตุปัจจัยเหล่านั้นแล้ว ฉะนั้น ปัญหาไม่น่าจะอยู่ที่การไม่รู้ หากอยู่ที่การไม่ร่วมมือกันทำอะไรที่จะกำจัดอุปสรรคให้หมดไปมากกว่า

 

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 16:54
ประท้วงน้ำมันแพง

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


แท็กซี่ในเกาหลีใต้หลายร้อยคันจอดรถประท้วงรัฐบาลที่ประกาศขึ้นราคาน้ำมันและก๊าซแอลพีจี พร้อมทั้งเรียกร้องให้ลดราคาพลังงานทั้งสองประเภท

 

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 16:51

ถึงบ้านแล้ว

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



ชาวตุรกีในลิเบียเดินทางกลับถึงบ้านด้วยความปลอดภัยทางเรือ หวั่นตกเป็นเหยื่อเหตุรุนแรงทางการเมืองในลิเบีย

 

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 16:34
ชาวจีนกลุ่มแรกอพยพออกจากลิเบีย

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



ชาวจีนกลุ่มแรกอพยพออกจากลิเบีย ท่ามกลางสถานการณ์รุนแรงและปะทะรายวันระหว่างกองกำลังรัฐบาลและผู้ชุมนุมประท้วง

 

ฮูโก ชาเบซ “ชมเปราะ” ลิเบียไม่เป็นทาสใคร-ระบุสงครามกลางเมืองปะทุแล้ว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2554 13:06 น.






มูอัมมาร์ กัดดาฟี กับ ฮูโก ชาเบซ ผู้นำลิเบีย-เวนซุเอลา สหายร่วมอุดมการณ์ผู้ต่อต้านจักรวรรดิอเมริกัน





เอเอฟพี - ประธานาธิบดีฮูโก ชาเบซ แห่งเวเนซุเอลา ออกตัวสรรเสริญ “ความเป็นไท” ของลิเบียวานนี้ (24) พร้อมทั้งแสดงทัศนะว่า มูอัมมาร์ กัดดาฟี กำลังเผชิญหน้ากับสงครามกลางเมือง

“ลิเบีย และความเป็นไทแห่งลิเบีย จงเจริญ! กัดดาฟีกำลังเจอสงครามกลางเมือง!” ผู้นำเวเนซุเอลาระบุผ่านทางทวิตเตอร์ นับเป็นการแสดงความเห็นครั้งแรก หลังเหตุความรุนแรงปะทุขึ้นในลิเบียตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์

ฮูโก ชาเบซ เป็นพันธมิตรสำคัญของ พ.อ.กัดดาฟี ในภูมิภาคละตินอเมริกา โดยผู้นำทั้งสองมักออกคำแถลงประณาม “ลัทธิจักรวรรดินิยม” ของสหรัฐฯ อยู่เสมอ และมีการเดินทางเยือนประเทศของกันและกันในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ความสัมพันธ์ระหว่างชาเบซ กับ กัดดาฟี แน่นแฟ้นมาก จนกระทั่งมีข่าวลือเมื่อวันจันทร์ (21) ว่า เขาหนีออกจากลิเบียไปยังกรุงคาราซัส เมื่อหลวงของเวเนซุเอลาแล้ว ซึ่งมีการออกมาปฏิเสธในเวลาต่อมา

ประธานาธิบดีชาเบซเพิ่งเดินทางเยือนลิเบียเมื่อเดือนตุลาคม 2010 และได้ติดต่อพูดคุยกับ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ตลอดเวลาที่ประชาชนอียิปต์ลุกฮือประท้วง จนนำมาซึ่งการประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีของ ฮอสนี มูบารัค เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ หลังจากครองอำนาจมายาวนาน 3 ทศวรรษ ทางการเวเนซุเอลาแถลง

รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลา นิโกลัส มาดูโร แถลงต่อสมัชชาแห่งชาติคาราซัส ว่า เวเนซุเอลาไม่ยอมรับการใช้ความรุนแรงในลิเบีย ทว่าสำทับถึงประโยชน์จากการศึกษาเหตุประท้วงดังกล่าว

“ขณะนี้ กำลังมีการสร้างเงื่อนไข เพื่อรุกรานลิเบีย และวัตถุประสงค์หลักของการรุกรานนั้น คือ การยึดเอาน้ำมันของลิเบีย” รัฐมนตรีมาดูโรกล่าว

รัฐบาลชาติตะวันตกได้เรียกร้องมาตรการลงโทษการละเมิดสิทธิในลิเบีย แต่ “ทำไมไม่เรียกร้องมาตรการลงโทษเดียวกันกับ ผู้ที่ทิ้งระเบิดใส่พลเรือนผู้บริสุทธิ์ในอิรัก หรือ อัฟกานิสถานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน” รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลาร้องถาม “บุคคลเหล่านั้นเป็นฆาตกรดีๆ นี่เอง”

ในภูมิภาคละตินอเมริกา มีเพียงประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา ของนิการากัวที่แสดงตัวอย่างเปิดเผยว่า สนับสนุน มูอัมมาร์ กัดดาฟี ทว่า พรรคลิเบรัล ปาร์ตี พรรคแกนนำฝ่ายค้านของนิการากัว ได้ออกคำแถลงเมื่อไม่นานมานี้ เรียกร้อง “การตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลทรราชฆ่าล้างเผ่าพันธ์ประชาชนของกัดดาฟี”



ประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา แห่งนิการากัว อีกหนึ่งผู้นำชาติสังคมนิยมที่ยังคงสนับสนุนกัดดาฟี

Around the World - Manager Online -

 

ไอ้กัน ลงมาเล่นด้วย กัดดาฟี คงมีชะตากรรมเดียวกันกับซัดดัม ผมหละสงสารกัดดาฟี่จริง ๆ เกลียดไอ้กันมาก เกลียดเพิ่มขิ้นทุกวัน ทำตังเป็น จ้าวโลก(จ้าวโลกจริง ๆ ) เพิ่มขิ้นทุกวัน

 

เราสงสารประชาชนมากกว่า เจ็บตายทั้งขึ้นทั้งล่อง
พวกมีปืนมีอำนาจก็แย่งชิงผลประโยชน์ให้พวกพ้องของตัวเอง
บางพวกมักใหญ่ใฝ่สูงจ้องหาประโยชน์จากคนอื่นๆ ก็อาศัยคนอื่นเป็นเครื่องมือ
เราได้แต่เอาใจช่วยประชาชนให้เจอผู้นำที่ดีที่จะช่วยพวกเขาให้อยู่มีกิน
อย่าได้เจอพวกหลอกลวงที่เอาแต่ประโยชน์ส่วนตนเลย
พวกเราก็ใจเย็นๆละกัน อ่านข่าวแล้วก็พิจารณาผลดีผลร้ายเก็บไว้เตือนใจ
ตัวเราเอง อย่าหลงเป็นเหยื่อใคร อย่าหลงเป็นเครื่องมือให้ใคร
ประเทศเราเอง ก็มีคลื่นใต้น้ำ เราก็ดูเรื่องของประเทศคนอื่นไว้เป็นบทเรียน
โลกมันเปลี่ยนไปแล้ว ข่าวสารมันถึงกันหมด ความลับไม่มีในโลก
ใครทำอะไรไม่ดีเอาไว้ ก็จะรู้ถึงกันหมด

 

เกินคาด! ไร่นาแดนมังกรหลายล้านไร่ พืชผล 10 กว่าล้านตัน ปนเปื้อนพิษโลหะหนัก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กุมภาพันธ์ 2554 14:10 น.



ชาวนาจีนยืนพักริมทุ่งนา ระหว่างหุบเขาที่มีทิวทัศน์งดงามของมณฑลหูหนาน ขณะนี้พื้นที่การเกษตรและพืชผลของจีนปนเปื้อนสารพิษจากโลหะหนักเกินที่ทางการคาดการณ์ไว้ (ภาพเอเยนซี)


เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - สารพิษโลหะหนักปนเปื้อนพื้นที่และพืชผลเกษตรบนแดนมังกร สร้างความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพของชาวจีน เป็นปัญหาใหญ่ที่เพิกเฉยไม่ได้อีกต่อไป ซึ่งสื่อทางการเผย (22 ก.พ.) ว่า พื้นที่การเกษตรหลายล้านไร่ กอปรกับพืชพันธุ์ธัญญาหารอีกกว่า 12 ล้านตันปนเปื้อนสารพิษจากโลหะหนัก

อีโคโนมิกส์ วีคลี นิตยสารภายใต้การดูแลของสำนักข่าวพีเพิลเดลีของจีน เปิดเผยผลทดสอบอันน่าตะลึงล่าสุดเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านสาธารณสุขของเมล็ดข้าวบนแผ่นดินจีนในฉบับล่าสุด (21 ก.พ.) ถือเป็นข่าวที่น่าตกใจในรอบสัปดาห์ ที่สะท้อนแนวโน้มความไม่ปลอดภัยในการบริโภคของจีน

นอกจากนั้น นิตยสารเซนจูรี วีคลี เผยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นาข้าวในจีนปนเปื้อนสารพิษจากโลหะหนักถึงร้อยละ 10 เช่น สารแคดเมียมที่ก่อมะเร็ง ขณะที่นิตยสารไชน่า อีโคโนมิกส์ วีคลี อ้างผลวิจัยของสำนักวิชาการวิทยาศาสตร์ของจีน ว่า ปัญหาสารพิษจากโลหะหนักได้แพร่ระบาดสร้างความเสียหายต่อแหล่งปลูกข้าวในพื้นที่มณฑลทางตอนใต้และตะวันตกเฉียงใต้ ได้แก่ อวิ๋นหนาน (ยูนนาน) หูหนาน ก่วงตง (กวางตุ้ง) และก่วงซี และอ้างว่าจะส่งผลกระทบต่อคนจีนอย่างหนัก

หลังจากมีการขยายตัวของโรงงานถลุงแร่และผลิตถ่านหิน ทำให้หลายหมู่บ้านในบริเวณใกล้โรงงานเหล่านั้น ได้รับขนานนามว่า “หมู่บ้านมะเร็ง” ไปตาม ๆ กัน

สถิติจากกระทรวงทรัพยากรแผ่นดินจีนระบุว่า ข้าวปนเปื้อนฯเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนอย่างมาก โดยความเสียหายฯจากข้าวปนเปื้อนฯที่สามารถเลี้ยงคนได้มากกว่า 40 ล้านคน มีมูลค่าถึง 20,000 ล้านหยวน (ประมาณ 93,000 ล้านบาท)

สำนักข่าวซินหวา ยกคำกล่าวของ ซุน เหวินเซิ่ง อดีตรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรแผ่นดิน ว่า ปัญหาที่ดินที่มีสารพิษอยู่ในระดับที่น่าตกใจ จากพื้นที่การเกษตรจีน 750 ล้านไร่ ปนเปื้อนสารพิษจากการถลุงแร่โลหะหนักและอื่น ๆไปแล้วร้อยละ 10 หรือประมาณ 75 ล้านไร่ ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นถ้อยแถลงของรัฐมนตรีฯ หรือการค้นพบนักวิจัย ก็เป็นเครื่องยืนยันแน่ชัดว่า การปนเปื้อนสารพิษในอาหารของจีนอยู่ในขั้นสาหัสแล้ว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ระดับมณฑลบางคนไม่เห็นด้วยกับนักวิทยาศาสตร์ และมองว่าการเปิดเผยผลวิจัยฯ จะทำให้เกิดความตื่นกลัวเกินไป

สารพิษจากโลหะหนักได้แพร่กระจายออกไปตามน้ำฝน ทั้งในมณฑลหูหนาน ส่านซี เจียงซู ซานตง และก่วงตง และได้กลายเป็นข่าวอื้อฉาวใหญ่เมื่อไม่กี่เดือนมานี้

เดือนที่ผ่านมา เด็กกว่า 200 คนในมณฑลอานฮุย อายุระหว่าง 9 เดือน ถึง 16 ขวบ ได้รับสารพิษตะกั่วจากโรงงาน สถิติทางการระบุว่า ในปีที่แล้ว มีกรณีการแพร่กระจายสารตะกั่วปนเปื้อนอย่างน้อย 9 ครั้ง และมีข่าวอื้อฉาวสารพิษโลหะหนักอีก 12 ครั้งในปี 2552

ปัญหาพื้นดินปนเปื้อนไม่เพียงแต่คุกคามความปลอดภัยด้านอาหารของจีน แต่ยังก่อให้เกิดความไม่พอใจจนอาจกลายเป็นปมปัญหาใหม่ที่กระตุ้นความไม่สงบได้ เนื่องด้วยการประท้วงหลายครั้งก็ได้ยกเรื่องสารพิษจากโลหะหนักมาโจมตีรัฐบาลด้วย

กระทั่งนายกเวิน จยาเป่าของจีน และ โจว เซิงเสียน รัฐมนตรีกระทรวงสิ่งแวดล้อม ก็ยอมรับว่า ปัญหาสารพิษจากโลหะหนักเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่แย่สุดที่จีนประสบ และลั่นสัญญาว่าจะเริ่มกระบวนการแก้ไข

แต่ผู้เชี่ยวชาญ และนักสิ่งแวดล้อม ได้แสดงความผิดหวังที่รัฐบาลไม่ค่อยตระหนักหรือมีมาตรการในเรื่องนี้

กระทรวงสิ่งแวดล้อมจีนเผยทางเว็บไซต์สัปดาห์นี้ว่า มณฑลที่มีปัญหาหนักที่สุด 14 มณฑล ได้ขึ้นบัญชีเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสารพิษโลหะหนัก และจะดำเนินการตามแผนแก้ปัญหามลภาวะ 5 ปี ซึ่งแผนดังกล่าวได้รับอนุมัติจากการประชุมคณะมุขมนตรีที่ผ่านมา แต่ทว่าแผนฯ ก็ไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ระบุเพียงว่า “แผนดังกล่าวเป็นความลับของชาติ”

China - Manager Online -

 

Putin: North Africa must be allowed determine its own future

<EMBED height=390 type=application/x-shockwave-flash width=640 src=http://www.youtube.com/v/G1ncFfnkEDM?version=3 allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true">

RussiaToday | 24 ก.พ. 2011 |
The continuing crisis in North Africa has highlighted the need for Russia and the EU to coordinate their efforts in terms of foreign policy and economy. That's according to Prime Minister Vladimir Putin who addressed the media following a meeting with the European Commission President, Jose Manuel Barroso.




วิกฤตอย่างต่อเนื่องในแอฟริกาเหนือได้เน้นความจำเป็นในการรัสเซียและสหภาพยุโรปในการประสานงานความพยายามของพวกเขาในแง่ของนโยบายต่างประเทศและเศรษฐกิจ ตามที่นายกรัฐมนตรี Vladimir Putin ผู้ที่ส่งสื่อต่อไปนี้การประชุมร่วมกับประธานคณะกรรมาธิการยุโรป, Jose Manuel Barroso

 

Civil war fears as Gaddafi opens hunt on protesters, vows bloodshed

<EMBED height=390 type=application/x-shockwave-flash width=640 src=http://www.youtube.com/v/5DeA9HxWvKo?version=3 allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true">

RussiaToday | 24 ก.พ. 2011 |
To Libya now, where areas still under the control of Colonel Gaddafi are shrinking all the time. Protesters have reportedly taken over the east of the country. The capital, Tripoli remains heavily guarded by pro-Gaddafi forces with tanks deployed around it. The leader has called on thousands of mercenaries to defend his bastion, as he's faced with more defections from his own regime. The revolt has now entered its tenth day. The overall death toll has been difficult to determine. Conflicting reports put the number between 300 and a thousand.


หากต้องการลิเบียขณะนี้ที่พื้นที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้พัน Gaddafi จะหดตัวตลอดเวลา ผู้ประท้วงได้นำรายงานไปทางตะวันออกของประเทศ เงินทุน, Tripoli ยังคงรักษาอย่างมากจากกองกำลัง Pro - Gaddafi มีถังติดตั้งอยู่รอบ ๆ ผู้นำได้เรียกร้องให้ทหารรับจ้างมากมายเพื่อปกป้องป้อมปราการของเขาที่เขาได้ประสบกับ defections เพิ่มเติมจากระบบการปกครองของเขาเอง กบฏได้ทำตอนนี้วันที่สิบของ เสียชีวิตโดยรวมได้รับยากที่จะพิจารณา รายงานที่ขัดแย้งกันระหว่างใส่หมายเลข 300 และพัน
ฟัง

 

'Gaddafi will fight on, 1000 dead in Libya just a beginning'

<EMBED height=390 type=application/x-shockwave-flash width=640 src=http://www.youtube.com/v/RsMQDdR0HoU?version=3 allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true">

RussiaToday | 23 ก.พ. 2011 |
Supporters of Libyan leader Colonel Gaddafi appear to be turning their back on him while the international community unites against the bloodshed. The country's Interior Minister has resigned and joined the anti-government protesters, after reports of 300 unarmed civilians being killed in Libya's second largest city - Benghazi. He accused Gaddafi of planning a wide-scale attack on his own country-men. The Italian Foreign Minister told reporters that more than one thousand Libyans may have been killed in just eight days. The UN Security Council demanded an end to the violence on Tuesday, while the Arab League suspended Libya. The French president has called for EU sanctions against the country. Nevertheless, Gaddafi vows to fight till the death and die a martyr in his homeland. In his first major speech since the unrest began, the leader urged supporters to attack the opposition, who he claimed were bribed, drugged and 'serving the devil.' RT talks with the former MI5 agent Annie Machon.
RT on Facebook: RT | Facebook
RT on Twitter: RT (RT_com) on Twitter


สนับสนุนการจัดงานของผู้นำ Colonel Gaddafi Libyan ปรากฏว่ามีการหันหลังของพวกเขาในเขาในขณะที่ชุมชนระหว่างประเทศ unites กับการนองเลือด ประเทศของกระทรวงมหาดไทยได้ลาออกและเข้าร่วมการชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลหลังจากรายงานของ 300 พลเรือนปราศจากอาวุธถูกฆ่าตายในเมืองใหญ่อันดับสองของลิเบีย -- Benghazi เขากล่าวหาว่า Gaddafi ของการวางแผนการโจมตีกว้างขนาดที่คนของเขาประเทศของตนเอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอิตาลีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ามากกว่าหนึ่งพัน Libyans อาจจะถูกฆ่าตายในเวลาเพียงแปดวัน คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเรียกร้องให้เกิดความรุนแรงในวันอังคารที่ในขณะที่อาหรับลีกระงับลิเบีย ประธานาธิบดีฝรั่งเศสได้เรียกร้องให้มีการลงโทษกับประเทศในสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตาม Gaddafi คำสัตย์สาบานที่จะต่อสู้จนตายและผู้ได้รับทุกข์ทรมานตายในบ้านเกิดของเขา ในการปราศรัยใหญ่ครั้งแรกของเขาเริ่มตั้งแต่ความไม่สงบซึ่งเป็นผู้นำกระตุ้นให้ผู้สนับสนุนมาโจมตีฝ่ายตรงข้ามที่เขาอ้างว่ามี bribed, มึนเมาและ'การแสดงมาร.' พูดถึง RT กับ MI5 ตัวแทนอดีต Annie Machon

 

Action amateur video of Libya street gun fight in Benghazi

<EMBED height=390 type=application/x-shockwave-flash width=640 src=http://www.youtube.com/v/cTB84L-odQo?version=3 allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true">

RussiaToday | 24 ก.พ. 2011 |
In Libya, areas still under the control of Colonel Gaddafi are shrinking all the time. Protesters have reportedly taken over the east of the country. The capital, Tripoli remains heavily guarded by pro-Gaddafi forces with tanks deployed around it. The leader has called on thousands of mercenaries to defend his bastion, as he's faced with more defections from his own regime. The revolt has now entered its tenth day. The overall death toll has been difficult to determine. Conflicting reports put the number between 300 and a thousand.


ในลิเบียพื้นที่ยังอยู่ภายใต้การควบคุมของ Colonel Gaddafi จะหดตัวตลอดเวลา ผู้ประท้วงได้นำรายงานไปทางตะวันออกของประเทศ เงินทุน, Tripoli ยังคงรักษาอย่างมากจากกองกำลัง Pro - Gaddafi มีถังติดตั้งอยู่รอบ ๆ ผู้นำได้เรียกร้องให้ทหารรับจ้างมากมายเพื่อปกป้องป้อมปราการของเขาที่เขาได้ประสบกับ defections เพิ่มเติมจากระบบการปกครองของเขาเอง กบฏได้ทำตอนนี้วันที่สิบของ เสียชีวิตโดยรวมได้รับยากที่จะพิจารณา รายงานที่ขัดแย้งกันระหว่างใส่หมายเลข 300 และพัน

 

Muammar Al-Gaddafi speech | February 22, 2011

<EMBED height=390 type=application/x-shockwave-flash width=640 src=http://www.youtube.com/v/juyEkVYiUbk?version=3 allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true">

stasirec | 22 ก.พ. 2011 |
Libyan leader Muammar Gaddafi February 22, 2011
"I will not leave the country. I will die as a martyr."



ผู้นำลิเบีย Muammar Gaddafi 22 กุมภาพันธ์ 2011

"ผมจะไม่ออกจากประเทศ. ผมจะตายเป็นผู้ได้รับทุกข์ทรมาน."

 

'Europe not ready for more Muslim migrants, time to intervene militarily in Libya'

<EMBED height=390 type=application/x-shockwave-flash width=640 src=http://www.youtube.com/v/rqGvm4koOPs?version=3 allowScriptAccess="always" allowfullscreen="true">

RussiaToday | 23 ก.พ. 2011 |
Professor of Middle East Policy Studies - Dr Rosemary Hollis - joins RT London to give her perspective on the possible consequences of the ongoing crisis in Libya.
RT on Facebook: RT | Facebook
RT on Twitter: RT (RT_com) on Twitter



ศาสตราจารย์ตะวันออกกลางนโยบายการศึกษา -- ดร. โรสแมรี่ Hollis -- RT ร่วมกรุงลอนดอนเพื่อให้มุมมองของเธอในผลลัพธ์ที่เป็นไปอย่างต่อเนื่องของวิกฤตในลิเบีย

 

แงๆๆ อยากรู้มากค่ะ แต่ฟังไม่ออก :'(

 

อีตากัดดาฟี้
บ้าไปแล้ว เงินหนา บ้าอำนาจ อำมหิต ไม่หมูเหมือนมูบารัคดอก แกมีแบ๊คแข็งแกร่งหนุนหลัง
แกจ้างทหารอาชีพจากหลายประเทศ ด้วยค่าแรงแพงกว่านายกเมืองไทยอีก
งานนี้ ไม่มีเลิก
ถ้ายุโรป หรืออีตาโอบาม้าเข้ามายุ่ง
เข้าตากรรมการ อิสลามคงรวมตัวกันลุยไอ้กัน อิหร่านประกาศแล้วนะ
ให้มุสลิมรวมตัวกันสู้ไอ้กันอีก


โอ้ โลกเรานี้หนอ
เป็นไปตามคำทำนายของนอสฯจริงๆเลย

ภัยสงครามกับภัยพิบัติ
ภัยสองสีสามสีอีกต่างหาก

เมืองไทย เด็กไทยหายไปหกคน ไม่มีข่าวเลย
คนไทย 20000 คนอีกต่างหาก
มัวแต่ประท้วง ทวงไรกันไม่รู้