ไม่รู้ว่ามีใครเห็น Planet X หรือยัง?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 21.12.2012=11, 17 สิงหาคม 2010.

  1. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post3954252 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>24-10-2010, 10:07 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#11 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3954252", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,288
    พลังการให้คะแนน: 5067 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3954252 class=alt1><!-- google_ad_section_start --><TABLE id=post3954018 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>วันนี้, 09:17 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#22231 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3954018", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 10,236
    Groans: 1
    Groaned at 467 Times in 322 Posts
    ได้ให้อนุโมทนา: 209
    ได้รับอนุโมทนา 68,021 ครั้ง ใน 9,633 โพส
    พลังการให้คะแนน: 4824 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]




    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3954018 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** ชาวมายาน่ารัก ****

    ขุดมาอ่านอีกที

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "


    ปฏิทินของชาวมายาเริ่มที่ปี 3112 ก่อนคริสตกาล และจะสิ้นสุดที่ปี ค.ศ. 2012<!-- google_ad_section_end -->

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ wellrider [​IMG]
    ปฏิทินมายา




    [​IMG]


    วันสุดท้ายของปฏิทินของชาวมายา ว่ากันที่ตัวปฏิทินก่อนว่าทำไมมันจึงสำคัญและมีคนสนใจมันมากนัก...

    ชาวมายา ผู้อาศัยอยู่ในดินแดนยูคาทาน ในเม็กซิโกและกัวเตมาลาในราวศตวรรษที่ 3-16 ก่อนคริสตกาล นับเป็นอีกชนชาติหนึ่งที่มีความก้าวหน้าล้ำยุคจนนักวิชาการต่างๆ พากันส่ายหน้าปวดหัวด้วยความแปลกใจเป็นอันมาก
    กล่าวคือ ชาวมายามีความเป็นเลิศทางด้านการคำนวณและดาราศาสตร์


    สิ่งที่ชาวมายาคิดค้นได้ก็คือ ปฏิทินและการคำนวณบางประการที่ไม่น่าเชื่อว่า ชนเผ่าโบราณอันลึกลับนี้ จะสามารถทำได้โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์สมัยใหม่อย่าพวกเราเข้าไปช่วยแม้แต่น้อย ปฏิทินของชาวมายาใช้ในระยะวงโคจร 5000 ปี และวงโคจรที่ใกล้กับปัจจุบันมากที่สุด จะจบลงในวันที่ 24 ธันวาคม ปี พ.ศ.2554 (ซึ่งตามความเชื่อของชาวมายาก็คือ พระเจ้า ของพวกเขาจะเสด็จกลับลงมายังโลกนี้อีกครั้ง ก่อนพูดถึงเรื่องอื่นต่อไป อยากให้ทุกคนทำความเข้าใจกับระบบตัวเลขและแนวคิดของชาวมายากันนิดนึงก่อน เริ่มกันที่เลข 20 อันเป็นเลขที่ชาวมายาเค้าถือกันว่าเป็นเลขศักดิ์สิทธิ์ คนโบราณพวกนี้มีแนวคิดทางตัวเลขที่น่าสนใจมาก กล่าวคือ มนุษย์ในปัจจุบันนิยมใช้เลขฐานสิบเป็นหลัก โดยยืนพื้นอยู่บนนิ้วมือทั้งสิบ แต่ชาวมายากลับแตกต่างกันไปเพราะพวกเขารวมนิ้วเท้าอีกสิบเข้าไปด้วยเป็นเลข ฐาน 20 พอดิบพอดี ลองมาดูสัญลักษณ์ของชาวมายาที่นับจาก 0-20 กันดีไหม? เลขศูนย์ถูกแทนด้วยสัญลักษณ์วงกลม เลขหนึ่งด้วยหนึ่งจุด เลขสองแทนด้วยจุดตามแนวนอน เลขสามด้วยจุดสามจุด เลขห้าแทนด้วยเส้นแนวขวาง เลขหกแทนด้วยจุดหนึ่งจุดเหนือเส้นแนวขวางและเป็นแบบนั้นไปตามลำดับ เลขสิบเก้าแทนด้วยจุดสี่เหลี่ยมเหนือเส้นแนวขวางสามเส้นที่ซ้อนกันขึ้นไป เลขยี่สิบแทนด้วยสัญลักษณ์คล้ายวงกลมที่มีจุดจุดหนึ่งอยู่ด้านบน

    [​IMG]

    ความสัมพันธ์อีกประการของปฏิทินของชาวมายาก็คือ หนึ่งอุยนัลหรือเดือนของพวกเขามีอยู่ 20 คิน หรือ 20วัน :)

    อาณาจักรมายาเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่มาแต่ครั้งโบราณ ปัจจุบันอยู่ในพื้นที่ประเทศกัวเตมาลา ครั้งหนึ่งอาณาจักรนี้เคยคึกคักรุ่งเรืองเป็นที่สุด เมืองใหญ่ๆเช่น ติกัลหรือพาเลงกอมีประชากรร่วมแสน เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้เรื่องคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ และเป็นเมืองที่มีอิทธิพลทางการค้าเป็นอย่างมาก แต่ด้วยเหตุผลกลใดหาใครทราบ เมืองยุคแรกของชาวมายาเช่นติกัลก็ได้เริ่มเสื่อมสลายทีละน้อยในช่วง ค.ศ. 200-900 นักโบราณคดีรู้สึก ประหลาดใจมากกับหลักฐานที่ว่า ด้วยเหตุผลบางประการชาวมายาได้ละทิ้งเมืองอันรุ่งเรืองของพวกเขาในช่วงเวลา นั้น หยุดชะงักอารยธรรมที่กำลังเติบโตทั้งหลายทั้งมวลคล้ายๆกับว่าจู่ๆพวกเขาหมด กำลังใจในชีวิตกันไปแล้ว

    บางคนอาจนึกถึงการเข้ามาของชาวยุโรปว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้อารยธรรมมายาล่ม สลายไป มันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะ เพราะชาวยุโรปเข้ามายังโลกใหม่เมื่อราวๆศตวรรษที่ 17 ตอนนั้นอารยธรรมมายาเสื่อมสลายลงเกือบหมดแล้วเหลือเพียงชนพื้นเมืองกลุ่ม เล็กๆ กระจัดกระจายอยู่ทั่วคาบสมุทรยูคาทานกับเม็กซิโกตอนใต้เท่านั้น

    มีอะไรบางอย่างที่ทำให้ชาวมายาหยุดความก้าวหน้าทางอารยธรรมลง เหมือนชนชาติที่เสียแรงกระตุ้น เพราะจู่ๆพวกเขาก็หยุดชะงักเอาเฉยๆหลังจากรุ่งเรืองด้วยอารยธรรมอันน่าพิศวง สุดขีดมาหลายศตวรรษ อะไรที่ทำให้พวกเขาเป็นแบบนั้น?

    เนื่องจากเป็นเคสที่น่าสนใจจึงมีทฤษฎีว่าด้วยการล่มสลายของอารยธรรมมายาขึ้น มาเพียบ นักวิชาการบางคนเชื่อว่าเกิดจากการที่ทาสกับประชาชนลุกขึ้นมาโค่นล้มชนชั้น ปกครองผู้เผด็จการ แต่ไม่น่าเป็นไปได้ครับ เพราะอารยธรรมที่รุ่งเรืองขนาดนั้น สังคมที่แข็งแกร่งขนาดนั้นไม่น่าจะมาพังพาบง่ายๆกับอีเรื่องไม่เป็นเรื่อง แค่นี้ แถมไม่มีหลักฐานอะไรชี้ชัดเอาเสียเลยว่ามีการแข็งข้อแข็งเมืองเกิดขึ้นใน นครรัฐของชาวมายา การจะเข้าใจอารยธรรมมายาได้อย่างถ่องแถ้นั้นเราต้องเอาใจเราเข้าไปจับใจของ ชาวมายาเสียก่อน

    [​IMG]


    เลิกคิดแบบมนุษย์ปัจจุบัน เลิกยึดติดกับความรุ่งเรืองทางวัตถุแบบ อารยธรรมตะวันตก

    ในสายตาของมนุษย์สมัยใหม่ชาวมายาไม่ได้ต่างอะไรไปเลยจากมนุษย์ถ้ำสมัยหิน ไม่มีอะไรมากไปกว่าการสร้างปิระมิดด้วยศิลาอย่างไร้เหตุผล ไม่มีเทคโนโลยีด้านสกัดแร่หรือถลุงโลหะ ไม่มีอาวุธมากกว่ามีดและหอก

    นักวิชาการหลายคนมองชาวมายาเป็นอัจฉริยะผู้ไร้สติ คือทั้งๆที่พวกเขาเชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ และสถาปัตยกรรมอันไร้เทียมทาน
    แต่กลับไม่ได้นำมาสร้างสรรค์หรือแผ่ขยายอารยธรรมแต่ประการใดเลย
    นักวิชาการไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมอารยธรรมที่ฟันฝ่าอุปสรรคมาจนรุ่งเรือง ได้ขนาดนั้นจู่ๆกลับเสื่อมสลายลง อัจฉริยะทางดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์ชาวมายาหายหัวไปไหนหมด

    พวกเขาส่งผ่านมรดกอะไรให้แก่ชนรุ่นหลังบ้าง ทำไมจึงทิ้งเมืองใหญ่อันโอฬารอย่าง ติกัล อักซมัล พาเลงกอ และชิตเซนอิซาเอาไว้ หลงเหลือแต่เพียงซากปรักหักพังอยู่กลางป่าดงดิบในกัวเตมาลา แล้วก็วาดภาพแกะสลัก ทำเส้นสายด้วยรหัสภาษาที่ไม่มีใครอ่านออกเอาไว้ ทิ้งให้นักโบราณคดีรุ่นหลังตีอกชกหัวกุมขมับปิ้มจะบ้าทำไม...

    เราคงตอบคำถามนี้ไม่ได้ตราบใดที่ไม่ขจัดปัญหาบางประการออกไปเสียก่อน ปัญหาที่ว่านี้ไม่ได้อยู่ที่ชาวมายา แต่อยู่ที่ทฤษฎีของพวกเรา อยู่ที่วิธีวัดความสำเร็จที่มนุษย์ปัจจุบันใช้กับชาวมายานั่นแหละ หลายศตวรรษที่ผ่านมาจนถึทุกวันนี้

    พวกเราวัดความรุ่งเรืองทางอารยธรรมของมนุษยชาติด้วยไม้บรรทัดที่ถือมาตั้ง แต่สมัยเรเนอซองส์ ทุกอย่างตั้งอยู่บนพื้นฐานของเทคโนโลยีทางวัตถุ นวัตกรรมใหม่ๆอันจะนำเอาความเจริญทางวัตถุมาให้มนุษย์

    ตั้งแต่ยุคเครื่องจักรไอน้ำจนถึงกระสวยอวกาศ ตั้งแต่ยุคหัวธนูจนถึงขีปนาวุธนิวเคลียร์ ตั้งแต่ยุคหลอดสูญญากาศจนถึงซิลิกอนชิป ชาวมายาล้าหลังจริงๆหากจะมองในแง่นั้น ทฤษฎีต่อไปนี้อาจจะบ้าหลุดโลกสำหรับพวกคุณ แต่ปฏิทินของชาวมายาเป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่าง เวลาและตัวเลข ภาพด้านล่างเป็นตัวแทนวันในแต่ละเดือนของพวกเขา ซึ่งในบางครั้งจะถูกผนวกเข้ากับสัญลักษณ์ที่เรียกว่าโซลคินอันเป็นแกนตัวเลข 13 ตัว ถูกออกแบบให้อยู่ในลักษณะของแกนสอดประสาน เพื่อให้ได้มาซึ่งการประสานกันระหว่างจิตใจและแกแล็คซี่

    [​IMG]


    แกนตัวเลขสอดประสานเพื่อให้ได้มาซึ่งการสอดประสานกันของแกแล็คซี่ นักวิชาการน้อยคนนักที่จะเข้าใจเรื่องนี้ และผู้ที่เข้าใจก็ยากที่จะทำใจรับมันได้เนื่องจากค่อนข้างหลุดโลกเอาการอยู่

    แนวคิดนี้ขัดแย้งกับทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของ ปรากฏการณ์ทางกายภาพ ที่นักโบราณคดีงงเป็นไก่ตาแตกกับอารยธรรมมายาเนื่องจากว่าพวกเขายากที่จะทำ ใจมองข้ามแนวคิดแบบวิทยาศาสตร์
    หันไปมองแนวคิดทางจิตใจแบบชาวมายาได้ เพราะการมองแต่หลักฐานทางวัตถุนี่แหละ จึงทำให้นักโบราณคดีหลายคนไม่สามารถหาคำตอบได้ว่า ทำไมชาวมายาจึงพัฒนานครรัฐได้อย่างยิ่งใหญ่ สร้างสถาปัตยกรรมโอฬาริกได้มากมาย แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าพวกเขาจะประยุกต์นำความรู้นี้ไปใช้ และพัฒนาอารยธรรมของพวกเขาไปในรูปแบบอารยธรรมของชาวตะวันตกอย่างที่ควรจะทำ เช่น การยกระดับความเป็นอยู่ พัฒนาเรื่องการขนส่ง การสื่อสาร อาวุธยุทโธปกรณ์

    ซึ่งแน่นอนว่า ด้วยความก้าวหน้าขนาดคำนวณปฏิทินได้เป็นล้านๆปี รอบรู้เรื่องวงโคจรของดาวพระเคราะห์ต่างๆจนถึงขั้นคำนวณปฏิทินของดาวศุกร์ และดวงจันทร์ได้อย่างชาวมายานั้น การจะสร้างอารยธรรมให้ก้าวทันปัจจุบันเห็นจะไม่ใช่เรื่องยาก เพียงกินเวลาไม่กี่ร้อยปีเท่านั้นดีไม่ดีชาวมายาอาจครองยุโรปและเอเชีย จนถึงขั้นมีนครรัฐมายาแทนสหรัฐอเมริกาจอมเกเรอย่างทุกวันนี้ก็เป็นได้ เป็นไปได้ลองย้อนดูอารยธรรมของเราสิ เมื่อ 400 ปีก่อนเรามีเทคโนโลยีทางการแพทย์ เทคโนโลยีการสื่อสารแค่ขี้ปะติ๋วเท่านั้น แล้วดูตอนนี้สิ สี่ศตวรรษหรือหนึ่งแบ็กทันต่อมา เราพัฒนามาถึงไหนกันแล้วครับ เมื่อร้อยปีก่อนเรายังเคาะโทรเลขก๊อกแก๊กกันอยู่ แต่ตอนนี้เราถึงขั้นสื่อสารแบบไร้สายได้มีโอกาสมา "เธอวางก่อนดิ... ดิ ดิ ดิ..." อย่างง่ายๆราวปาฏิหารย์

    [​IMG]


    พวกเราสามารถสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในรอบ 100 ปีได้มากกว่าที่เคยทำได้ในรอบ 1000 ปีเสียด้วยซ้ำ แล้วชาวมายาล่ะครับเขาทำอะไร เขาไม่ได้ทำอะไรกับความรู้อันสูงส่งของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

    พวกเขาเป็นต้นแบบของนักการเมืองไทยในการถอยหลังลงคลอง ชาวมายาย้อนกลับไปสู่สังคมแบบพริมิทีฟเอามากๆ โดยเฉพาะตั้งแต่ประมาณ ค.ศ.83 ชาวมายาก็ได้เจริญลงๆ จนกระทั่งถึง ค.ศ. 900 หรือสิ้นสุดแบ็กทันที่ 10
    อารยธรรมอันมหัศจรรย์สมชื่อมายานี้ก็ได้ถึงการเสื่อมสลายลงอย่างสมบูรณ์ คิดแล้วก็น่าเศร้า? แบ็กทันคืออะไรอย่างนั้น?

    แบ็กทันเป็นมาตรวัดเวลาของชาวมายา กินเวลาราว 395 ปีของมนุษย์ปัจจุบัน แนวคิดนี้ค่อนข้างซับซ้อนแต่เชื่อว่าชาว Myth น่าจะทำความเข้าใจได้ไม่ยากเท่าไหร่

    แนวคิดนี้มีอยู่ว่า ชาวมายามีวัตถุประสงค์ในการอยู่บนโลกที่แตกต่างออกไป
    พูดง่ายๆคือมีหลักฐานมากพอที่จะชี้ให้เห็นว่าชาวมายามีหน้าที่วางตำแหน่งโลก และระบบสุริยะ ให้สอดคล้องกับประชาคมแกแล็กซี่ที่ใหญ่กว่า โดยได้รับบัญชาจากเทพเจ้าของพวกเขาซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นนักบินอวกาศ แห่งโบราณยุค พูดง่ายๆก็คืออาคันตุกะจากดาวดวงอื่นนั่นล่ะ

    ภารกิจหลักของชาวมายามีอะไรบ้างนั้นพวกเรายังไม่มีหลักฐานที่แน่ชัด เดาได้เพียงแต่ว่าเมื่อถึงประมาณ ค.ศ.830 หรือสิ้นสุดแบ็กทันที่เก้าชาวมายาก็ได้จากไป บางคนยังหลงเหลือทายาทไว้ที่นี่ในฐานะผู้พิทักษ์หรือการ์เดี้ยน
    ทิ้งรหัสของพวกเขาเอาไว้อันได้แก่โซลคินแกนตัวเลขประสานของชาวมายา
    เพื่อให้ได้มาซึ่งการสอดประสานแห่งห้วงจักรวาล

    [​IMG]

    เนื่องจากนี่เป็นเพียงข้อสมมติฐานของนักเขียนบางคนเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องเชื่อตามนะ อันว่าสิ่งที่ชาวมายาทิ้งไว้นั้นเป็นเรื่องท้าทายวงการวิทยาศาสตร์อย่างหนัก เราจำเป็นต้องวางแนวคิดยึดติดวัตถุในรูปแบบเดิมเอาไว้เสียก่อน แล้วลองมามองจักรวาลอย่างที่ชาวมายาเขามองกัน ยกตัวอย่างปฏิทินของชาวมายากันสักเล็กน้อย เช่นเดียวกับพวกเราครับ ชาวมายาวัดขนาดของเวลาจากเล็กไปสู่ใหญ่ จากวินาทีเป็นนาที ชั่วโมง วัน เดือน ฯลฯ อารยธรรมตะวันตกวัดเวลาตามปฏิทินเกรเกอเรียนซึ่งกินเวลา 365 วัน/ปี อันเป็นคาบเวลาที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ถัดจากปีเราก็มายืนอยู่บนเลขฐาน 10 นั่นคือ 10 ปีต่อ 1 ทศวรรษ, 10 ทศวรรษต่อ 1 ศตวรรษ, 10 ศตวรรษต่อ 1 สหัสวรรษ บลา บลา บลา...

    แต่ปฏิทินของชาวมายานั้นแตกต่างออกไปเพราะตั้งอยู่บนค่าของเลข 20 เป็นหลัก 1 คินจะแทนค่าแทน 1 วัน นับตามแบบของเราคือโลกหมุนรอบตัวเองครบ 1 รอบ อุยนัลแทนค่า 1 เดือนประกอบด้วย 20 คิน

    ส่วนปีของมายาแทนด้วนทันอันประกอบด้วย 18 อุยนัลหรือ 360 คิน(ใกล้เคียงกับ 365 วันของพวกเรามากทีเดียว) 1 คาทันของชาวมายาเทียบได้กับทศวรรษของพวกเราเพียงแต่ยาวกว่า 2 เท่า เพราะระบบเลขของพวกเขาคือฐาน 20

    ดังนั้น 1 คาทันจะมีความยาวประมาณ 19.5 ปี สำหรับ 1 แบ็กทันจะยาว 20 คาทันหรือประมาณ 394.5 ปี

    จุดเริ่มการสร้างสรรค์ของชาวมายาตามบันทึกของพวกเขาซึ่งบันทึกเวลาได้เที่ยงตรงมากนั้นจะอยู่ประมาณ 3116

    ปีก่อน ค.ศ. วงจรนี้จะกินเวลา 13 แบ็กทันของพวกเขาหรือ 5129 ปีของพวกเรา แบ็กทันที่เก้าสิ้นสุดลงราวปี ค.ศ. 830

    ดังนั้นจุดสิ้นสุดของแบ็กทันที่ 13 จึงน่าจะอยู่ที่ ค.ศ. 2012 โดยประมาณ ทีนี้ก็มาถึงประเด็นสำคัญล่ะว่า หนึ่งวงจรของชาวมายานั้นมีความสำคัญอย่างไร
    และนี่คือปฏิทินเทียบระหว่างปฏิทินของเรากับวงจรของชาวมายา รอบแบ็กทัน ปฏิทินมายา ปฏิทินเกรเกอเรียน เหตุการณ์สำคัญ

    1 1.0.0.0.0 3116-2734 BC จุดเริ่มต้น
    2 2.0.0.0.0 2734-2339 BC ยุคปิระมิด
    3 3.0.0.0.0 2339-1944 BC ยุคล้อ
    4 4.0.0.0.0 1944-1550 BC อารยธรรมอียิปต์
    5 5.0.0.0.0 1550-1155 BC อารยธรรมบ้านเชียง
    6 6.0.0.0.0 1155 - 761 BC สงครามม้า
    7 7.0.0.0.0 761-366 BC ยุคปรัชญา
    8 8.0.0.0.0 366 BC - ค.ศ. 28 ยุคเมสไซอาห์
    9 9.0.0.0.0 ค.ศ. 28-422 อาณาจักรโรมัน
    10 10.0.0.0.0 ค.ศ. 422-817 มายา
    11 11.0.0.0.0 ค.ศ. 817-1211 สงครามครูเสด
    12 12.0.0.0.0 ค.ศ. 1211-1606 ยุคล่าอาณานิคม
    13 13.0.0.0.0 ค.ศ. 1606-2012~ ยุคอุตสาหกรรมใหม่

    ... เป็นอันว่าเราเกือบครบรอบวงจรใหญ่ของชาวมายากันแล้ว โดยนับจากแบ็กทันแรกถึงแบ็กทันที่สิบสามตามเวลาปฏิทินของมนุษย์ยุคใหม่เรา
    ส่วนการอ่านปฏิทินตัวเลขของชาวมายานั้นให้อ่านแบบนี้ครับ ดูตัวเลขที่เรียกลำดับกัน 5 กลุ่ม แต่ละกลุ่มนั้นจะแทนช่วงลำดับเวลา ตามนี้

    แบ็กทัน, คาทัน, ทัน, อุยนัล, คิน
    คิน = 1 วัน
    อุยนัล = 20 คิน
    ทัน = 360 คิน
    คาทัน = 20 ทัน (7200 คิน)
    แบ็กทัน = 20 คาทัน (144000 คิน)

    จากนั้นก็คูณตัวเลขในแต่ละช่วงเวลาออกมาเพื่อให้ได้จำนวนวันจริงๆ

    แล้วเอาจำนวนวันจริงๆไปบวกจุดอ้างอิงของเราคือ 3116 BC. เราก็จะได้วันที่ตามปฏิทินสากลของเราแบบเท่ากันทุกประการ เป็นทฤษฎีที่หลุดโลกมาเลยใช่ไหมล่ะ ในข้อที่ว่าบรรพบุรุษของชาวมายาได้เดินทางจากห้วงอวกาศอันไกลโพ้นมาเยือนโลก พิภพของเรา เพื่อภารกิจในการสอดประสานระหว่างโลกมนุษย์กับแกแล็กซี่อื่น คุณอาจจะกำลังบริภาษอยู่ในใจว่าบ้าไปแล้วแน่ๆ
    มีหลักฐานหรือเปล่าว่าชาวมายาเดินทางมาจากดาวเคราะห์ดวงอื่น พวกเขามาที่โลกของเราได้ยังไง นั่งเรือมาเรอะ?

    หลักฐานการเดินทางล่ะมีไหม เอาล่ะ มีคำอยู่สองคำที่คุณต้องทำความรู้จักเอาไว้เสีย นั่นคือคำว่า ฮูแน็บ คู กับ คูซาน ซูอัม

    คำว่าฮูแน็บ คู หมายถึงผู้ให้การเคลื่อนไหวและมาตรวัดเดียว เป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่ที่ดำรงอยู่เหนือดวงอาทิตย์ เหนือแกนแกแล็กซี่ที่เป็นจุดกำเนิดของทุกสิ่งทุกอย่าง

    ส่วนคำหลังคือ คูซาน คูอัม ถนนสู่ท้องฟ้าที่นำไปสู่แกนแกแล็กซี่หรือฮูแน็บ คู ส่วนที่ตั้งของ ฮูแน็บ คู

    ตามแผนที่ดาราศาสตร์ปัจจุบันคือจุดระหว่างดาวฤกษ์สองดวงในกลุ่มดาวเซ็นทอร์ ใต้ มีระห่างจากโลกของเรา 139 ปีแสง จุดเชื่อมระหว่างโลกและดาวอันไกลโพ้นของชาวมายาดวงนี้ก็คือ คูซาน ซูอัม นั่นเอง

    [​IMG]

    เพ่งรูปนี้กันดีๆ ปากาล โวทาน ผู้นำชาวมายาผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
    อาณาจักรมายาคลาสสิคมีความรุ่งเรืองถึงขีดสุดในยุคการปกครองของเขา
    ปากาลตายในปี ค.ศ. 683 ภาพนี้คัดลอกมาจากภาพนูนแกะสลักบนฝาหินของเขาที่พบใน ค.ศ. 1952 ในอุโมงค์ฝังศพที่ตบแต่งไว้อย่างสวยงาม ในวิหารแห่งคำจารึก (Temple of inscriptions) ที่พาเลงกอในเชียพัส ประเทศเม็กซิโก นักคิดนักเขียนบางคนเรียกปากาลว่าผู้แทนแห่งแกแล็กซี่ ผู้อาศัยคูซาน ซูอัม เพื่อไปถึง ฮูแน็บ คู หลังจากที่ภารกิจของเขาลุล่วงไปแล้ว

    ...อ่านแล้วก็ขนลุกขนพองตามใช่ไหม ทีนี้ก็มาถึงประเด็นสำคัญอีกประเด็นว่าทำไมถึงเป็นชาวมายา ไม่ใช่อียิปต์ อินคา หรือ สุเมเรียนที่เป็นอารยชนที่ยิ่งใหญ่พอๆกัน บอกได้เพียงแต่ชาวมายาก็มีอิทธิพลไม่น้อยในอารยธรรมอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น คำว่ามายาเป็นคำศาสนาฮินดูหมายถึงต้นกำเนิดของจักรวาล

    ในภาษาสันสกฤตเป็นคำที่เกี่ยวโยงกับสภาพจิตใจ เวทย์มนตร์คาถาและแม่
    แม้แต่พระมารดาของพระพุทธองค์เองก็มีนามว่าสิริมหามายา ในภาษา อียิปต์คำว่ามาเย็ตหมายถึงระเบียบของจักรวาล ส่วนในตำนานกรีกดาวที่ส่องสว่างที่สุดในกลุ่มดาวลูกไก่และเป็นน้องคนสุดท้อง ก็มีนามว่ามายาขนิษฐาของเฮดีส


    บทความวันนี้ เป็นข้อมูลเก่าแก่ที่ถูกทิ้งไว้นับพันๆ ปีโดยไม่ มีคนสนใจ ข้อมูลที่มีส่วนหนึ่งพ้องจองกับความเห็นและการคาดการณ์ทาง ด้านวิทยาศาสตร์แห่งยุคใหม่ ที่กล่าวมาข้างบนนั้นอย่างน่าแปลกใจ แต่ส่วนหนึ่งจะเป็นประเด็นทางจิตวิญญาณ โดยเฉพาะการเปลี่ยนย้าย กระบวนทัศน์ของมนุษยชาติและสังคมอย่างน่าสนใจ แม้ว่าอีกส่วนใหญ่ของ ข้อมูลเก่าแก่ที่ว่านี้จะเป็นคำทำนาย (กินเวลายาวนานถึง 64 ล้านปีของอ นาคต) ที่อยู่นอกความรู้ความเข้าใจจนเกินไป จนเป็นเหตุให้ข้อมูลถูกโยน ทิ้งหรือเก็บไว้จนหลงลืมกันไปทั้งหมด กระทั่งมีการรื้อฟื้นนำมาศึกษาติดตาม กันใหม่เมื่อทศวรรษที่แล้วๆ มานี้เอง

    ข้อมูลส่วนหนึ่งที่น่าสนใจดังกล่าว จึงเป็นเรื่องที่นักศึกษาด้าน ความสัมพันธ์ของวิชาความรู้ต่างสาขาน่าจะลองอ่านดู จริงๆ แล้วข้อมูลทั้ง หมดที่จะนำมาเล่าต่อไปนี้ เป็นกรณีศึกษาของโครงการรายวิชาของสถาบัน ความสัมพันธ์ทางความรู้ที่คณะหนึ่งของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (California Insitute of Integral Studies) และกำลังเป็นประเด็นร้อนที่พูด กันมากในประเทศตะวันตกในเวลานี้ โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่เรียกกันว่ากลุ่ม นิวเอจ (newagers) และกลุ่มวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (Cultural Creatives or CC) ด้วย นั่นคือสภาพของความสะท้านสะเทือนระดับโลกที่จะเกิดขึ้น ในปี 2012 และหลังจากนั้น (the shock of 2012) ซึ่งก็เป็นช่วงเวลา เดียวกับช่วงเวลาของการเดินทางของจิตวิญญาณ สู่มิติของธรรมจิตธรรม วิญญาณ (spiritual dimension)

    [​IMG]

    ข้อมูลดังกล่าว ได้มีการบันทึกเอาไว้ในปฏิทินของชาวเผ่า มายาแห่งอเมริกากลาง (Maya Calendar) มาตั้งแต่ช่วงต้นๆ ของคริสตกาล ชาวมายาเป็นชนเผ่าพันธุ์หนึ่งที่อยู่บริเวณพื้นที่ของกัวเตมาลา และบริเวณที่ เผ่าเซียปาสของเม็กซิโกอาศัยในปัจจุบัน แต่ไม่มีใครรู้ที่มาของชาวมายาว่า มาจากไหน เพราะเป็นชนผิวขาวร่างสูงและจมูกโด่ง มีริมฝีปากบางที่เป็น ตรงกันข้ามกับเผ่าโอลเม็คที่เป็นชนเผ่าเก่าแก่ที่สุดของอเมริกากลาง เป็นตรง กันข้ามในทุกกรณีดังภาพวาดภาพปั้นที่หลงเหลือมาตั้งแต่ช่วงเวลาก่อนคริสต กาล (อารยธรรม La Venta อาจย้อนหลังไปถึง 800 ปีก่อนคริสตกาล) นักมนุษยศาสตร์และนักโบราณคดีบางคนคิดว่า ชาวมายามีที่มาจากชาวกรี กหรืออียิปต์ในยุคหลังๆ (Jonarthan Leonard ; Ancient America, Time- Life Book, 1968) และที่น่าแปลกอีกก็คือ อยู่ๆ ชาวมายาทั้งเผ่าพันธุ์ก็ สลายหายตัวไปโดยไร้ร่องรอยหรือหลักฐานทางวิชาการใดๆ หลงเหลือให้นัก โบราณคดีสืบเสาะได้เลย

    ปฏิทินของชาวมายานั้นเป็นผลของการคำนวณทางดาราศาสตร์ ที่แม่นยำที่สุดยิ่งกว่าปฏิทินใดๆ การคำนวณเหตุการณ์ทางดาราศาสตร์ตามที่ บันทึกไว้นั้น (ชาวมายามีปฏิทินหลักหนึ่งปฏิทิน และมีปฏิทินที่คำนวณ เหตุการณ์ทางดาราศาสตร์อีก 22 ปฏิทิน) ที่มีความแม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อ และยังไม่เคยปรากฏว่าผิดไปจากความจริง หรือแตกต่างไปจากการคำนวณ ของนักดาราศาสตร์ในเวลาปัจจุบันแม้แต่รายการเดียว ดังรายละเอียดบาง อย่างของปฏิทินของชาวมายาที่เอามาลงเพื่อให้ผู้อ่านสนใจจะได้พิจารณา และอาจติดตามต่อไปจากเอกสารอ้างอิงไว้ที่ท้ายของบทความนี้

    ชาวมายาสามารถคำนวณเวลาของการโคจรของดาวเคราะห์วิ่ง รอบดวงอาทิตย์ ที่ชาวมายารู้แต่แรกว่าเป็นแกนกลางของระบบสุริยะ ระบบที่เป็นเพียงส่วนน้อยส่วนหนึ่งของแขน (arm) หนึ่งของกาแล็กซีที่ชาว มายาบอกว่ามีแกนที่เป็นดวงอาทิตย์ศูนย์กลางอีกดวงหนึ่ง (sun alcione เป็นดาวฤกษ์ในกลุ่มไพลเอดส์) ปฏิทินของชาวมายาระบุว่า ดาวศุกร์ใช้เวลา เดินทางไปรอบดวงอาทิตย์ 584 วัน ซึ่งเท่ากับที่เป็นเวลาที่เรารู้กันทุกวันนี้ หรือบันทึกว่าโลกใช้เวลาเดินทางรอบดวงอาทิตย์หนึ่งรอบหรือหนึ่งปีเท่ากับ 365.2420 วัน ซึ่งตัวเลขที่แท้จริงทางดาราศาสตร์ปัจจุบันคือ 365.2422 วัน ปฏิทินของชาวมายายังระบุว่า ระบบสุริยะมีวัฏจักรของการเคลื่อนที่ไออยู่ใน ระนาบเดียวกัน (ecliptic) กับระนาบของแกนของแขนกาแล็กซีที่กล่าวมา ข้างต้นในทุกๆ 26,000 ปี โดยมีครึ่งหนึ่งของวัฏจักร จะมีวันที่เรียกว่า อะควิน็อกซ์ หรือวันที่มีเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนเปลี่ยนไป (เช่นวันที่ 23 กันยายน คือวันอะควิน็อกซ์ของฤดูใบไม้ผลิของปฏิทินของปัจจุบัน) ระบบสุริยะ (รวมทั้งโลกและดาวเคราะห์ทั้งหลาย) จะเข้าสู่ระนาบเช่นนั้นใน เดือนธันวาคม ปี 2012 นี้



    หลังจากปี 2012 มีสี่ประการที่จะเกิดขึ้นคือ..

    1.มนุษยชาติจะก้าวล่วงเทคโนโลยีที่เราใช้และรู้จักในขณะนี้ แทบทั้งหมด

    2.มนุษยชาติจะก้าวล่วงรูปแบบของเวลาและเงินในรูปที่ใช้กัน ในขณะนี้

    3.เราจะผ่านเข้าสู่มิติที่ห้าอันเป็นมิติจิตวิญญาณ - จากมิติที่สี่ - วิกฤติที่เจ็บปวด

    4.ระนาบของระบบสุริยะจะอยู่ในระนาบเดียวกับระนาบของ กาแล็กซี


    ปฏิทินมายาบอกด้วยว่า ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 1987 กระทั่งถึงช่วงปี 2012 เป็นช่วงเวลาระหว่างกลางของมิติที่ 4 สู่มิติที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงอันตราย เพราะเป็นช่วงที่จะมีความล่มสลายในทางธรรมชาติ และจิตวิญญาณของชาวโลกส่วนใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็จะมีการเปลี่ยน แปลงทางจิตวิญญาณของคนอีกส่วนหนึ่ง (apocalypse แปลว่าการเปิดเผยที่ หมายถึงวิวัฒนาการทางจิตอีกด้วย) น่าแปลกที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวของ เวลาจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของความถี่ของกระแสแม่เหล็กโลก ที่สะท้อนออกมาตามการหมุนรอบตัวเองของโลก (Schumann Resonance ที่เคยคงที่ที่ความถี่ 7.8 เฮิรตซ์ หรือรอบต่อวินาทีทุกวันนี้ได้สูงขึ้นเป็น 11.8 รอบต่อวินาที)

    โดยปฏิทินของชาวมายา มิติที่ 5 หรือหลังปี 2012 คือช่วงเวลาที่มนุษยชาติส่วนหนึ่ง จะมีวิวัฒนาการสู่แสงใสกระจ่าง (แปลกอีกที่ใช้คำว่า clear light เช่นเดียวกับในคัมภีร์พีระมิดของอียิปต์ และคัมภีร์มรณศาสตร์ของทิเบต ที่มีความหมายสู่จิตวิญญาณบริสุทธิ์)

    โศลกหลากหลายในอุปานิษัทบ่งบอกว่าพรหมันหรือปชาบดีที่เดียวดายไร้ความสุขโดย มายาจึงสร้าง "ลีลา" ที่ให้ความหลากหลายของจักรวาลแห่งกายปรากฏการณ์ขึ้นมาในภควัตคีตาที่อาจนับ ได้ว่าเป็นอุปนิษัทเล่มหนึ่ง ได้กล่าวถึงการสร้างจักรวาลและกาลเวลาในศาสนาพราหมณ์ว่า จักรวาลนั้นไม่มีการดับจึงไม่มีการเกิด (นะอันโต นะชาติ - BG XV) แต่ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ จึงมีแต่ความสั่นสะเทือน (vibration) ในทุกจุดทุกตำแหน่งตลอดเวลา (ศรีอรพินโธ) สำหรับเรื่องของสรรพสิ่งกับเวลานั้น "ในช่วงเริ่มของวันรูปพรหม (ภาพลักษณ์ของพรหมัณในจักรวาลแห่งปรากฏการณ์) สรรพสิ่งและปรากฏการณ์ทั้งหลายจะคลี่ขยายออกมาให้เห็น (manifested) จากองค์กรที่ปิดและซ่อนตัวเอง (unmanifested) และในช่วงเริ่มต้นของคืนสรรพสิ่งก็จะรวมตัวกลับไปสู่องค์กรเดิมนั้น" (BG. VIII และ IX) ส่วนเวลานั้นได้กล่าวถึงการสิ้นสุดเฉพาะโลกมนุษย์อาไว้ต่างหากโดยบอกว่า "หนึ่งปีของโลกมนุษย์ (360 วันกับคืน) เท่ากับหนึ่งวันและหนึ่งคืนของเทวดา...และเทวดานั้นมีอายุขัยเท่ากับหนึ่ง ยุค หรือ 12,000 ปีเทวดาซึ่งก็เป็นเพียงหนึ่งในพันของเวลาวันหนึ่ง (กลางวัน) ของรูปพรห์มเท่านั้น" รายละเอียดของกาลเวลาที่โลกแห่งชีวิตสิ้นสุดที่กล่าวไว้ในภควัตคีตาจะเป็น ดังนี้

    หนึ่งวันกับหนึ่งคืนของเทวดาเท่ากับหนึ่งปีของโลกมนุษย์
    หนึ่งปีเทวดา หรือ 360 วันเทวดาเท่ากับ 360 ปีของโลกมนุษย์
    หนึ่งยุค หรือ 12,000 ปีเทวดาจึงเท่ากับ 12,000x360 ปีของโลกมนุษย์
    หรือเท่ากับ 4,320,000 ปีของโลกมนุษย์
    1,000 ยุคของเทวดาเพียงเท่ากับหนึ่งวัน (กลางวัน) ของรูปพรหมหรือหนึ่งกัป
    หนึ่งกัปหรือหนึ่งกัลป์ของโลกมนุษย์เท่ากับ 1,000x4,320,000 เท่ากับ 4,320 ล้านปี
    ดังนั้น หนึ่งวันของพรหมคือหนึ่งกัป - เวลาที่โลกมนุษย์สิ้นสุดคือ 4,320 ล้านปี
    ในทางฟิสิกส์ดาราศาสตร์ โลกมนุษย์มีอายุประมาณ 4,500 ล้านปี

    [​IMG]

    เร็วๆ นี้ มีหนังสือสองเล่มที่พูดถึงชาวมายาแห่งอเมริกากลาง (เม็กซิโก-กัวเตมาลา) กับปฏิทินของชาวมายา ที่ผู้เขียนเคยเอามาเขียน (โลกหลัง 2012 สู่มิติที่ห้า) ประวัติศาสตร์คร่าวๆ ที่เราควรรู้ก็คือ เราไม่รู้ว่าเดิมทีชาวมายามาจากไหน แต่เชื่อว่าวัฒนธรรมเก่า "ยุคก่อนมายา" ที่มีวัฒนธรรมสืบเนื่องกับลาเวนด้ากว่า 800 ปีก่อนคริสตกาล หรืออาจก่อนหน้านั้นเช่นการค้นพบหลักฐานที่ชี้บ่งอารยธรรมสูงส่งที่เมืองอิ ซาปา (Izapa) ทางใต้ของเม็กซิโกย้อนหลังไปเป็นพันๆ ปีก่อนคริสตกาล เชื่อว่าความรู้เรื่องการคำนวณเวลาและดาราศาสตร์รวมทั้งปฏิทิน โดยเฉพาะศิลปกรรมและจิตกรรมมีมาแต่เวลานั้น ปฏิทินของชาวมายานั้น จริงๆ แล้วไม่ใช่เป็นเพียงการทำนายความล่มสลายของโลกที่เราทั่วไปคิดว่าไม่ควรให้ ความสนใจ แต่มีส่วนของข้อมูลที่ชี้ความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตและวิวัฒนาการของจิตกับ ดาราศาสตร์อย่างน่าทึ่ง ข้อมูลส่วนหนึ่งที่นับได้ว่าเป็นข้อมูลเร้นลับว่าด้วยชีวิตและจิตวิญญาณ เท่าๆ กับอีกส่วนที่เป็นวิทยาการ โดยเฉพาะดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์ว่าด้วยกาลเวลา โดยบันทึกเป็นรหัสในรูปของปฏิทิน ที่มี 22 ฉบับ (calendar) ที่มีความแม่นยำมาก แม้กระทั่งปัจจุบันและด้วยวิทยาการที่ก้าวหน้า กระนั้นผลของการคำนวณทางภูมิดาราศาสตร์ในปฏิทินต่างๆ เท่าที่ได้ถอดรหัสแปลออกมาแล้ว ปรากฏว่าไม่พบว่ามีการผิดพลาดระหว่างกันเลย เนื่องจากหนังสือทั้งสองเล่มให้ข้อมูลและการแปลข้อมูลไปในทางเดียวกัน ผู้เขียนจึงขอสรุปย่อของหนังสือทั้งสองเล่มในส่วนที่เกี่ยวกับการคาดการณ์ เรื่องของวิวัฒนาการของมนุษย์และจิตวิญญาณ กับประเด็นของความล่มสลายระดับโลกที่อาจจะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2012 โดยนำมารวมกัน หนังสือเล่มแรกเป็นหนังสือที่ขายดีมากๆ เขียนโดยบาบารา โคลว์ ที่เป็นนักมานุษยวิทยา (anthropology) ที่ตอนหลังมาเป็นโหรและคนทรง (Babara Clow : Catastrophobia ; The Truth Behind Earth Changes, 2002) มีนักคิดนักปราชญ์นักศาสนาเขียนชมมากมาย เป็นต้นว่า แมทธิว ฟอกซ์ (The Coming of Cosmic Christ) แอนดรูว์ คอลลินส์ (Gateway to Atlantis) ส่วนอีกเล่มหนึ่งเขียนโดยนักชีวโมเลกุลชาวสวีเดนที่ได้ศึกษาปฏิทินของชาว มายามาอย่างลึกซึ้งร่วมสิบปี (Carl Calleman : Solving The Greatest Mystery of Our Time, 2001)
    ประวัติศาสตร์เชื่อได้หรือเที่ยงตรงหรือไม่ขึ้นกับสามประเด็น คือหนึ่ง ข้อมูล สอง ผู้แปลพื้นฐานของผู้แปล และสาม ความสัมพันธ์ของสังคมในช่วงเวลานั้นๆ กับช่วงเวลาของการแปลข้อมูล ดังนั้น ประวัติของอดีตที่นานจริงๆ ที่การบันทึกโดยรหัสหรือสัญลักษณ์จึงมักแตกต่างกัน บางทีก็เป็นคนละเรื่องกันไปเลย สำหรับเรื่องของมายานั้น อาจสรุปได้ว่า ชาวมายาคำนวณเวลาไปตามการโคจรของดาวดวงอาทิตย์ โดยเฉพาะดวงจันทร์ที่เดินไปรอบโลก หนึ่งปีจึงมี 13 เดือน และเดือนละ 28 วัน เพียงแต่วันหนึ่งยาวกว่าเวลาปัจจุบันเล็กน้อย ทำให้วงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ของชาวมายาใช้เวลาเมื่อเทียบกับเวลาใน ปัจจุบันช้าไปเล็กน้อยด้วย คือ 365.2420 วัน ซึ่งผิดจากหนึ่งปีในปัจจุบันที่มี 365.2422 วัน ปฏิทินของชาวมายาเริ่มที่ปี 3112 ก่อนคริสตกาล และจะสิ้นสุดที่ปี ค.ศ. 2012 ซึ่งจากข้อมูลอาจแปลได้ว่า ชาวมายาพูดถึงอย่างจริงจังในเรื่องการสร้าง (creation) จิตวิญญาณ (sprituality) ชีวิตและวิวัฒนาการของจิตที่กำหนดไว้แล้วโดยมีเวลาเป็นตัวกำหนด เวลาที่เป็นสนามที่ให้ความสั่นสะเทือนมาสู่โลก - สู่สนามแม่เหล็กโลก - และก่อการเปลี่ยนแปลงนานา ช่วงเวลาของเดือนธันวาคม 2012 คือวันนั้น (การสั่นสะเทือนจากสนามแห่งเวลาของจักรวาลเป็นเรื่องของ "วิวัฒนาการของจิต" ความสั่นสะเทือนนั้นมาห่างๆ ราว 20 ปีต่อครั้งในตอนแรก และสู่คนจำนวนน้อยๆ ก่อน แต่ตั้งแต่หลังปี 1999 ความสั่นสะเทือนมีมาทุกๆ ช่วงหนึ่งปี และหลังปี 2011 จะมาทุกๆ 20 วัน แต่ละครั้งจะก่อการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพให้กับโลกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม ปฏิทินมายาเน้นที่จิตของมุนษย์ และเดือนธันวาคม 2012 คือวันนั้น ปฏิทินก็สิ้นสุดที่วันและเวลานั้น

    [​IMG]

    คนทั่วไปส่วนไม่น้อยที่มองโลกไปติดกับวัตถุที่มีเงินเป็นปัจจัยและเป้าหมาย นักวิทยาศาสตร์ไม่ว่าสายไหนที่มองโลกไปติดที่เทคโนโลยี - ที่พยายามบอกคนที่ไม่รู้ว่าเป็นวิทยาศาสตร์ - ที่ก็มีเงินเป็นทั้งปัจจัยและเป้าหมาย ทั้งสองกลุ่มสองส่วน มักไม่ชอบหรือไม่ยอมอ่านเรื่องที่ว่าด้วยความพินาศโลกที่ผู้เขียนเอามาเขียน นี้ ซึ่งจริงๆ แล้วมันเป็นจังหวะที่เอื้อวิวัฒนาการทางจิต ไม่เห็นมีนักวิทยาศาสตร์ยุคใหม่คนไหนที่ไม่พูดว่าจิตคุมกายและอยู่เหนือสสาร ดังนั้นบทความทั้งสามบทความชี้บ่งความพินาศระดับโลกที่อาจไม่ยิ่งหย่อนไปจาก เมื่อ 65 ล้านปีก่อนมากนัก บทความสองบทความที่แล้วชี้บ่งเช่นนั้น ที่จริงปฏิทินมายาและบทความของวันนี้ก็พูดถึงความพินาศโลก เพียงแต่ไม่ระบุให้ชัด แต่สาเหตุก็อยู่ที่จิตจักรวาลหรือพระเจ้าก็สุดแท้แต่จะเรียก ปฏิทินพูดถึงจิตมนุษย์ที่ล้าหลังและสุดบอบช้ำจากกรณีแผ่นดินเปลือกโลกแยก เมื่อ 60,000 ปีก่อน - ช่วงที่มนุษย์นีอันเดอร์ธิงต้องสูญพันธุ์ไป - แต่ก็ทำให้เราที่เป็นโฮโมซาเปี้ยนส์


    เอกสารอ้างอิง :
    | ไทยโพสต์
    Mythland
    Bloggang.com : Tang_tpr :


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ปฏิทินของชาวมายาเริ่มที่ปี 3112 ก่อนคริสตกาล และจะสิ้นสุดที่ปี ค.ศ. 2012<!-- google_ad_section_end -->


    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2011
  2. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post2518444 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>19-10-2009, 07:26 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#9 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2518444", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,288
    พลังการให้คะแนน: 5067 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2518444 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** คิดเลข เรื่องศาสนา กับ 5000 ปี ****

    เมื่อ....
    กาลีศักราช ที่ 2411 ... เป็น อัญชันศักราช ที่ 1
    พระพุทธเจ้าประสูติ...กาลีศักราช ที่ 2478....อัญชันศักราช ที่ 68
    อีก 35 ปี....กาลีศักราช ที่ 2503...อัญชันศักราช ที่ 103 ....ตรัสรู้
    อีก 45 ปี...กาลีศักราช ที่ 2558....อัญชันศักราช ที่ 148 ....ปรินิพพาน...เป็นพุทธศักราช ที่ 1

    ครบรอบ 5000 ปี ตรงกับ กาลีศักราช ที่ 5001....พุทธศักราช ที่ 2444
    ต่อไปอีก 111 ปี กาลีศักราช ที่ 5112....พุทธศักราช ที่ 2555...คริสต์ศักราช ที่ 2012....จะตรงปฏิทินมายาโบราณสิ้นสุดพอดี

    จะอย่างไรก็ตาม ขอให้ทุกคนรักษาสัจจะไว้กับตน
    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2011
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post2518468 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>19-10-2009, 07:31 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#10 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2518468", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,288
    พลังการให้คะแนน: 5067 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_2518468 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** คำนวณ ****

    กาลีศักราช ที่ 5059...ตรง พุทธศักราช ที่ 2502
    คือ ช่วงกึ่งพุทธกาล....
    ความหมายของ... หลักสัจจะธรรม กับ สัจจะปฏิบัติ
    ยังไม่ได้ศึกษากันเลย
    เมื่อไม่รับสัจจะ โลกก็เริ่มปรับตัวเข้ายุคพระศีอารย์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post3954235 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>24-10-2010, 10:05 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#10 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3954235", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,288
    พลังการให้คะแนน: 5067 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3954235 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** ศึกประลัยกัลป์ ****

    เมื่อ...ต้นปี พ.ศ.2549
    ศึก-ประ-ลัย-ยา-กัล ใกล้ตัว....เหลือเพียง 1 คืบอรหันต์

    1 คืบ ของอรหันต์...เท่ากับ 6 ปี
    เพราะฉะนั้น จะมาถึงตัว ในปี พ.ศ.2555
    ตอนนี้ จึงเหลือเวลาไม่มาก
    ผู้รอดพ้น...คือ ผู้มีสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post4330838 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>02-02-2011, 10:12 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #111 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Falkman<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4330838", true); </SCRIPT>
    ทีมงานพลังจิตนานาชาติ

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 8,184
    พลังการให้คะแนน: 4735 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4330838 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->งานมาก แต่ก็สบายดี

    คอยดู เมื่อดาวเรียงตัวกัน 9 ดวง
    กรรม จะโหมเข้ามามาก


    คอยดู ฝนแปลกๆมีเกล็ดขาวๆ
    น้ำเหนือ จะท่วมเข้ามา


    คอยดู ดาวเลื่อนที่ทั้งท้องฟ้า
    ให้แจ้งเตือนกัน ทุกคน


    คอยดฟัง แผ่นดินเขมรมีอะไรแปลกผลุดขึ้นมา
    ให้รีบหนีเข้าไทย แผ่นดินเขมรจะต่ำลง ช้าไม่รอด


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  6. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post4330967 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>02-02-2011, 10:51 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#[​IMG]
    หรือว่าน้ำจากทางช้างเผือกที่<WBR>ฝากไว้ที่ไซบีเรีย คิอน้ำแข็งอาร์คติกซึ่งกำลั<WBR>งละลาย

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ไม่ใช่....
    แต่ เป็นน้ำแข็งที่มาใหม่ มาจากทางช้างเผือก
    ดวงอาทิตย์ กำลังสร้างกระแสลมในจักรวาล ลำเลียงน้ำมาโลก
    น้ำแข็งบางก้อน ใหญ่กว่าเทือเขาหิมาลัยหลายเท่า
    เมื่อผ่านบรรยากาศ ก็เสียดเสียง มองเห็นเป็นแสงไฟ
    ถ้าอยู่ในอวกาศ ก็จะมองเห็น เหมือนเพ็ชร

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    หนุมาน ผู้นำสาร
    23-08-2007, 04:41 PM


    *** สาเหตุระดับน้ำทะเลสูงรวดเร็ว ****

    นักวิทยาศาสตร์...ส่วนใหญ่ ไม่ทราบเหตุ ที่เร่งให้น้ำทะเลสูงขึ้นรวดเร็<WBR>ว
    ปรากฏการณ์ระดับน้ำทะเลสูงขึ้<WBR>นเร็ว....เป็นเพราะ การจัดสรรของสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ที่แต่ละศาสนา เรีบกต่างกันไป...เช่น
    พระเจ้า พระผู้เป็นเจ้า พระบิดา พระมารดา พระธรรมมารดา หรือ องค์เทพที่ดูแลต่างๆ ฯลฯ
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด คือ หนึ่งเดียวกัน...หมายถึง โลกุตตระ (พระไตรปิฎก)
    การจัดสรรน้ำ จากทางช้างเผือกมาสู่โลก...เพื่<WBR>อช่วยสัตว์โลก ช่วยทุกอย่างให้ดีขึ้น
    น้ำแข็ง จากทางช้างเผือกลอยมาตาม ลมจักรวาล...มาลงที่ไซบีเรีย
    มีหลายขาด ทั้งก้อนใหญ่ก้อนเล็ก
    เมื่อถึงชั้นบรรยากาศ...จะเสี<WBR>ยดสี เป็นละลอง
    ก้อนใหญ่ๆ ....จะเสียดสี มองเห็นเป็นปรากฏการณ์...<WBR>ฝนดาวตก ซึ่งไม่มีอันตรายต่อโลก
    ซึ่งเกิดขึ้นติดต่อกันมานาน หลายปีแล้ว
    หาก...ขึ้นไปมองในอวกาศ จะเห็นสะท้อนแสงเป็นทาง
    นักวิทยาศาสตร์ บางประเทศอาจจะเห็น...แต่ ไม่มีคำอธิบาย จึงไม่เปิดเผยข้อมูล
    หรือ อาจคิดว่า...มีเพียงเล็กน้อย
    หรือ เห็นแล้ว แต่ไม่คิดว่าเป็นน้ำ
    แต่...ปริมาณน้ำที่มาเพิ่ม โดยโลกุตตระจัดสรร...
    มีปริมาณมากเท่ากับ น้ำในโลกที่ขาดหายไป คือ ๑๖ ส่วน
    คือ ๑๖ เท่า ของน้ำที่มีอยู่ในโลกปัจจุบัน ก่อนหน้านี้

    เรื่องนี้ ข้าพระพุทธเจ้าไม่ได้แต่งเอง
    แต่ เป็นการบอกเล่าโดย โลกุตตระ
    โดยน้ำจะเพิ่มมากขึ้น....เกาะต่<WBR>างๆ จะจมเป็นล้านๆ เกาะ
    ประเทศไทยต้องเสียพื้นที่พื้นดิ<WBR>นไปบางส่วน ภาคใต้จะท่วม
    พื้นที่ติดทะเลชายฝั่งตะวันออก จะท่วมกลับไปเป็นทะเล เป็นธรรมชาติเช่นเดิม

    เรื่องนี้ จึงไม่ใช่นิยาย เรื่องที่นำมาโกหกหลอกลวงกันเล่<WBR>นๆ สนุกๆ
    แต่ ข้าพระพุทธเจ้านำมาบอกกล่าวเป็<WBR>นหลักฐานไว้ครั้งนี้
    เพื่อเป็นการเตือนให้คนไทย ผู้มีอำนาจบริหารประเทศ และมนุษย์ที่เชื่อทุกคน
    ได้เข้าใจในธรรมชาติ ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปในอี<WBR>กไม่นาน
    และ ได้เตรียมตัวให้พร้อม สำหรับโลกยุคที่จะมีน้ำเพิ่<WBR>มมากขึ้น

    โลกุตตระ (พระไตรปิฎก)
    ได้เคยเตือน ถึงสรรพภัยทั้งปวงหลังกึ่งพุ<WBR>ทธกาล
    โดยได้มอบ


    *** โลก ต่อไป ****

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์...กำลังจั<WBR>ดสรรให้โลก สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
    ด้วยการ...เพิ่ม เติม "น้ำ" ลงในโลก ตามสัดส่วนที่ขาดหายไป

    เหมือนโอ่งเลี้ยงปลา....ที่ปล่<WBR>อยให้น้ำแห้งขอด จนปลาค่อยๆ เป็นโรค ไม่สดชื่น ทยอยตาย
    เมื่อผู้ใจบุญเดินมาเห็น...ก็<WBR>ไปตักน้ำจากที่อื่นมาเต็มให้เต็<WBR>มโอ่ง....โลกของปลา จึงค่อยๆดีขึ้น

    -ถาม---น้ำ... ที่นำมาเติมให้กับโลกมาจากไหน ?
    -ตอบ---มาจากแหล่งน้ำในจักรวาล คือ ทางช้างเผือก

    -ถาม---นำน้ำมาจากทางช้างเผื<WBR>อกได้อย่างไร ?
    -ตอบ---น้ำที่ทางช้างเผือก อยู่ในรูปน้ำแข็ง จึงอาศัย กระแสลมจักรวาล นำพา พัดมาตามลม

    -ถาม---ทำไม น้ำแข็งจากทางช้างเผือกไม่<WBR>ตกทำลายพื้นโลก ?
    -ตอบ---น้ำแข็งบนทางช้างเผือก จากก้อนใหญ่เท่าภูเขา เทือกเขา จะเสียดสีมาเรื่อย จนก้อนเล็กลง และกลายเป็นเหตุการณ์ “ฝนดาวตก” ที่เห็นกัน โดยกำหนดจุดที่ลงมายังโลก คือ ไซบีเรีย

    -ถาม---น้ำเหล่านี้ มาถึงโลกนานหรือยัง ?
    -ตอบ---เป็นการทยอยส่งมาเรื่อย ส่งมาหลายปีแล้ว ประมาณได้สิบปี

    -ถาม---แล้วโลกจะเป็นอย่างไรต่<WBR>อไป ?
    -ตอบ---ฝน พายุจะเกิดมากขึ้น มากกว่าสถิติที่มนุษย์ยุ<WBR>คเราเคยบันทึกไว้ ที่ที่แห้งแล้งก็จะมีหิมะ ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นเหมื<WBR>อนในโลกยุคโบราณ น้ำจะแทรกเข้าไปในอนุภาคของทุ<WBR>กสรรพสิ่งบนโลก จะทำให้รหัสพันธุกรรมของทุกสิ่<WBR>งสมบูรณ์ยิ่ง เป็นเหมือนสิ่งวิเศษ เหมือนสวรรค์ โลกจึงเหมือนโลกยุคใหม่ เป็นยุคศิวิไลซ์ เป็นยุคพระศรีอารย์ที่ทุ<WBR>กศาสนารอคอยกัน แต่โลกต้องมีการปรับตัวนิดหน่อย ผู้ที่ไม่เชื่อในหลักสัจจะธรรม ทำตัวขวางกับสั<WBR>จจะธรรมในธรรมชาติ คนที่โหดร้าย คนที่เบียดเบียนมาก จะไปไม่รอดถึงโลกยุคต่อไป มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ จึงต้องเผชิญสรรพภัยทั้งปวงกึ่<WBR>งพุทธกาล ที่กำหนดไว้ เป็นเวลาของการพิ<WBR>พากษาผลการกระทำของทุกคน

    -ถาม---ใคร คือผู้จัดสรรให้โลกสมบูรณ์<WBR>ในกาลนี้ ?
    -ตอบ---โลกุตตระ คือ พระไตรปิฎก คือ พระธรรม คือ ผู้จัดสรรทุกสรรพสิ่งรอบคอบจั<WBR>กวาล

    -ถาม---แล้วท่านสอนอะไร บอกให้มนุษย์ทำตัวอย่างไร ?
    -ตอบ---องค์โลกุตตระธรรม สอนให้มนุษย์ปฏิบัติตนด้วย “สัจจะ” เป็นประจำ เพราะเป็นหนทางนำพาให้สัตว์หลุ<WBR>ดพ้น และสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุ<WBR>ทธกาลกำลังใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว
    ....... ที่สำคัญองค์โลกุตตระธรรม ได้มอบโองการถึงผู้มีอำนาจทุ<WBR>กประเทศ.......
    *** ให้อยู่ในความสงบ อย่าได้นำท้องฟ้ามาเป็นสนามรบ ****
    นี้คือโองการสวรรค์ .......หากฝ่าฝืน ฟ้าจะต่ำลงมา
    โลกจะระส่ำระสาย หาผู้ชนะผู้แพ้ไม่ได้ สูญเสียกันไปหมด

    - “ หนุมาน ผู้นำสาร “<!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2011
  7. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post3940361 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>21-10-2010, 07:28 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#5 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3940361", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,296
    พลังการให้คะแนน: 5068 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3940361 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** เลข ๗ ****

    เป็นสัญญลักษณ์โลกุตตระ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->





    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เลข 7 ตัวเลขแห่งเทพ http://palungjit.org/threads/เลข-7-ตัวเลขแห่งเทพ.263191/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2011
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** สารโปรดมวลมนุษย์ จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล ****

    ศาสนศาสตร์ในโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ แท้จริงแล้วมีเพียงหนึ่งเดียว....เพราะทุกชีวิตทุกดวงวิญญาณ จะต้องอยู่อาศัยบนโลกมนุษย์ด้วยหลักเดียวที่ปักไว้อย่างมั่นคง นิ่ง ไม่กระดุกกระดิก นั้นคือ “หลักสัจจะธรรม”.... ทุกดวงวิญญาณจะต้องเวียนว่ายตายเกิด เพื่อทำในสิ่งที่ยังไม่ได้ทำ และทำในสิ่งที่ยังทำไม่ได้....คือ การปลิด ปลด ลด เลิก นิสัยสันดานที่ไม่ดีของตนเองที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด....ทุกชีวิตในจักรวาล คือ มนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ ล้วนคือดวงวิญญาณ คือเพื่อนร่วมทุกข์ ร่วมสุข เป็นเพื่อนร่วมโลกที่ต้องอาศัยพึ่งพากันทั้งสิ้น...มนุษย์ คือ ผู้มีร่างกายที่สมบูรณ์ มีสติปัญญา รู้ดี รู้ชั่ว สามารถคิดและเลือกทำในสิ่งที่ต้องการได้...สัตว์และต้นไม้ คือ ผู้ที่เคยกระทำผิด เบียดเบียนชีวิต และร่างกายผู้อื่นทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์ จึงถูกพิจารณาลงโทษให้ดวงวิญญาณไปเกิดในร่างของสัตว์และต้นไม้ อยู่อาศัยหากินได้ด้วยความทุกข์ทรมานแสนยากลำบากยิ่ง...

    สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล จึงมีพระเมตตาให้ทุกดวงวิญญาณได้มีโอกาส มีหนทางพ้นทุกข์....ในแต่ละยุคสมัย จึงลงมาปรากฏกายบนโลกมนุษย์ เพื่อส่งมอบศาสนศาสตร์ คือ คำสั่งสอนในแต่ละศาสนา ให้มนุษย์ในแต่ละยุคได้นำไปปฏิบัติ....จนกว่าจะสามารถขจัดนิสัยสันดาน กิเลส ตัณหา ได้จนหมดสิ้น...ดวงวิญญาณของผู้ที่ทำได้ จึงไม่ต้องเกิดใหม่อีกครั้ง....แต่จะได้เดินทางไปยังดินแดนที่ไม่ตาย ไม่สูญสลาย มีแต่ความสุขที่แท้จริง ... นั้น คือดวงวิญญาณจะสามารถหลุดพ้นไปจากแรงดึงดูดของโลก ออกไปในอวกาศมุ่งสู่ภายในดวงอาทิตย์ที่แสนอบอุ่น คือ ดินแดนที่สุดของสรวงสวรรค์ เรียกว่า “แดนนิพพาน” ...เมื่อนั้นเราจึงจะรู้ได้เห็น สิ่งที่เราเคยกระทำมา ทุกย่างก้าวในอดีตทั้งหมด

    ศาสนาที่กำเนิดขึ้นบนโลกหลายยุคสมัย คือ คำสั่งสอน คำบัญชาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจักรวาล ที่ได้ส่งมอบให้มนุษย์ผู้หนึ่งที่เชื่อและศรัทธา ได้นำไปปฏิบัติและเผยแพร่ต่อไป....คำสั่งสอนในแต่ละยุคจึงเหมาะสมต่อสภาวะ สถานการณ์ในขณะนั้น....ศาสนาต่างๆ จึงเป็นคำสั่งสอนเพื่อให้มนุษย์มีเมตตา มีความรัก ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ช่วยให้เกิดความสงบสุขบนโลกมนุษย์....มีเพียง ศาสนาเดียว ที่เป็นคำสั่งสอนสูงสุดที่จะทำให้มนุษย์สามารถปฏิบัติตน จนหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด และมุ่งสู่ดินแดนที่สุดของสรวงสวรรค์ได้ ...คือ “พุทธศาสนา”... ดังนั้น ศาสนาพุทธจึงเป็นศาสนาหลักของโลก โดยมีศาสนาอื่นคอยช่วยสนับสนุนมนุษย์โลก ให้มาพบศาสนาพุทธในภายหลัง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

    พระวจนะของพระผู้เป็นเจ้า หมายถึง คำพูด คำบัญชาของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ พระเจ้า หรือ พระผู้เป็นเจ้าสูงสุดของทุกศาสนา ซึ่งแท้จริงแล้วคือ “โลกุตตระ” นั้นเอง

    โลกุตตระ หมายถึง “พระไตรปิฎก” ที่อุบัติเกิดขึ้นเป็นมนุษย์เหนือโลก บนโลกทุกๆ หมื่นปี กำเหนิดขึ้นมาในยามที่ศาสนศาสตร์กำลังจะวิบัติ มนุษย์นับถือศาสนาแต่ปากและกำลังจะทำลายล้างกันเอง จึงต้องอุบัติมาเพื่อสานต่อศาสนาจนครบอายุพุทธกาลที่ได้พยากรณ์ไว้ …โดยโลกุตตระ จะนำพาสั่งสอนให้บุรุษผู้หนึ่งที่เชื่อพระองค์ ได้บรรลุธรรมสูงสุด .... แล้วจึงเป้นหน้าที่ของบุรุษผู้นี้ที่จะต้องนำพาทุกดวงวิญญาณให้ได้พบกับ “หลักสัจจะธรรม” ได้รู้ “ความหมายของหลักสัจจะธรรม” ที่แท้จริง... เพื่อให้มนุษย์ได้ยำเกรง “ผลการกระทำของตนเอง” ว่าจะต้อง มีผลตอบแทนย้อนกลับมา...อย่างแน่นอน

    พระไตรปิฎก หมายถึง “คำสั่งสอนทั้งหมดของพระพุทธเจ้า” ศาสดาของพุทธศาสนาทุกพระองค์ ที่เคยอุบัติเกิดขึ้นมาแล้วบนโลกหลายยุคสมัย พระไตรปิฎกจึงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล เป็นคำบัญชา เป็นโองการสูงสุดที่มนุษย์จะต้องเชื่อและปฏิบัติตาม

    เหตุของวันสิ้นยุค หรือ เหตุของวันแห่งการพิพากษา คือ ผู้มีอำนาจของประเทศหนึ่งประเทศใดฝ่าฝืน ไม่เชื่อ ไม่ปฏิบัติตามโองการของพระเจ้าสูงสุดของแต่ละศาสนา ซึ่งหมายถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสากลโลกและจักรวาล นั่นคือ โองการของโลกุตตระ

    โองการของพระผู้เป็นเจ้าครั้งล่าสุด ซึ่งหมายถึง โองการของโลกุตตระ คือ พรโปรดมนุษย์ ที่ประกาศไว้ เมื่อ วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๐ มีเนื้อความว่าดังนี้

    ……. “ ถึง ผู้มีอำนาจทั้งหลายทั่วโลก เราขอประกาศไว้ว่า.......สถานที่นี้ เอาหลักธรรมของ โลกุตตระ มานำสัตว์ให้หลุดพ้น เพราะฉะนั้นผู้มีอำนาจทั้งหลาย ขอให้ตั้งอยู่ในความสงบ อย่าได้เอาท้องฟ้านี้ เป็นสนามรบ ถ้าฝ่าฝืน ประเทศใด ประเทศหนึ่งฝ่าฝืนโองการของ โลกุตตระ.......ฟ้าจะต่ำลงมา ”…….

    ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น หมายถึง ฟ้าจะต่ำลงมา...ยักษ์ที่ถูกสาปจะตื่นลุกขึ้นอาละวาด คือ เปลือกโลกทั้งหมดจะเคลื่อนตัวครั้งยิ่งใหญ่ โลกจะเสียสมดุลหมุนกวัดแกว่ง....มนุษย์บนโลกจะเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวเดือนไม่เคลื่อนที่ตามปกติ ไม่เป็นเส้นตรง … มนุษย์ในอวกาศ จะมองเห็นโลกหมุนพลิกกลับไปมา หักมุม... สงครามที่ฝ่าฝืนโองการของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บังอาจใช้ท้องฟ้าเป็นสนามรบ จะไม่มีฝ่ายใครเสียใครสูญ หาผู้ชนะไม่ได้.... แต่จะทำให้ โลกมนุษย์ “ระส่ำระสาย”... ประเทศที่โหดร้ายจะราบพณาสูญ หลายประเทศที่เป็นเกาะอยู่ติดหน้าผาที่ขอบเปลือกโลก จะจมหายในทะเล คลื่นยักษ์สูงเท่าฟ้าจะถาโถมใส่แผ่นดินและเกาะต่างๆ....เมืองและผู้คนที่ไม่เชื่อใน “สัจจะ” จะถูกกวาดหายไปสิ้น...แผ่นดินจะแยกออก พ่นไฟสีเขียวจากใต้พิภพมาเผ่าผลาญและสูบสิ่งที่ไร้สาระและมนุษย์ที่ไม่ถูกจัดสรรให้เข้ายุคศิวิไลซ์ จะหายจมลงใต้พื้นดิน...สายฟ้าที่ใหญ่กว่ามนุษย์เคยพบเห็นหลายร้อยหลาย พันเท่า จะฟาดลงกลางเมืองถิ่นของมนุษย์ที่จิตใจสกปรกหยาบช้า .... แผ่นดินจะระเบิดออก เพราะแรงจากพายุสายฟ้า ... พายุที่ยิ่งใหญ่จะก่อตัวติดๆ กัน ลูกแล้วลูกเล่า พัดทำลายความชั่วร้ายทุกอย่างจนหมดสิ้น...รวมทั้งความชั่วร้ายโหดร้ายในใจมนุษย์ชนิดขุดรากถอนโคน

    เรือของโนอาห์ เคยช่วยให้มนุษย์และสัตว์รอดจากภัยน้ำท่วมโลกในอดีต แต่ยุคปัจจุบัน สิ่งที่จะช่วยให้รอดพ้นจากสรรพภัยทั้งปวง คือ “สัจจะ” สัญญาใจของตนเอง คือ การตั้งใจจริง ที่จะทำความดีอยู่เป็นประจำทุกวัน วันละอย่าง วันละข้อ โดยกำหนดความชัดเจนที่จะทำให้กับตนเองด้วย “กำหนดเวลา” ที่จะสิ้นสุด ... จึงขอให้เชื่อว่า “สัจจะ มีผลตอบแทน” ... ผู้มีสัจจะ ผู้ทีเชื่อในสัจจะ คือ ผู้ที่ได้รับการคัดสรรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากโลกกุตตระ หรือพระผู้เป็นเจ้า จะได้รับการยกเว้นจากดินฟ้าอากาศ ให้อยู่รอดอย่างปฏิหาริย์…. เพื่อจะได้พบกับ “หลักสัจจะธรรม” และ “บุรุษผู้ที่ทำได้” ในยุคศิวิไลซ์ต่อไป

    หนุมาน ผู้นำสาร หมายถึง นามแฝง ของผู้นำสารจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล คือ ศาสนทูตของพระผู้เป็นเจ้าในยุคปัจจุบัน ก่อนที่มนุษย์โลกกำลังจะเผชิญกับสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล หรือ วันสิ้นยุค หรือ วันพิพากษา หรือ วันโลกาวินาศตามคัมภีร์ของแต่ละศาสนา

    สิ่งที่ใช้ยืนยันความจริงในสารที่ หนุมาน ผู้นำสาร ได้นำมาจากพระผู้เป็นเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดแห่งจักรวาล คือ พระพุทธรูปเก่าแก่หนึ่งเดียวของศาสนาศาสตร์ ที่ถูกปิดบังความจริงด้วยแท่งหินสีดำใหญ่ ที่ครอบไว้ ณ ใจกลางนครเมกกะ ซึ่งชาวมุสลิมทุกท่านมีความศรัทธากราบไหว้มายาวนาน กาลเวลานี้ คือเวลาเหมาะสมที่ความลับในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของโลกแห่งนี้จะถูกเปิดเผยต่อมวลมนุษย์ เพื่อความสันติสุขจะกลับคืนมาสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง ก่อนที่มนุษย์ผู้หนึ่งจะทำลายโอกาสของดวงวิญญาณที่จะมาเกิด...ด้วยการฝ่าฝืนโองการของสิ่งศักดิ์สิทธิ์.... “ อย่าได้เอาท้องฟ้านี้ เป็นสนามรบ ” !!!!!!!

    ในวันแห่งการพิพากษา The Day of Judgment วันที่พระเจ้ากลับมา วันแห่งการสิ้นยุค วันที่พระธรรมจะกลับมา “ให้ทุกคนระวังตัวให้ดี ...วันเวลาที่ใกล้เสด็จกลับมา จะได้ยินเสียงสงคราม ข่าวลือสงคราม ... จะต่อสู้สงครามกัน เกิดความกันดาร อดอยากทุกข์ยาก เกิดแผ่นดินไหวไปทั่ว ... เมื่อเห็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว น่าเกียจน่าชัง คือ คนไร้สัจจะ ที่ไม่เชื่อในโองการจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะก่อให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ ขอให้หนีไปดินแดนที่สูง เมืองใหญ่ที่มั่งคั่ง มีแต่การแย่งชิงผลประโยชน์เบียดเบียนกันจะอันตราย อย่ามัวชักช้า รีบหนีไปบ้านนอกคอกนา ไปถิ่นคนมั่นคงในศาสนา ภัยจะมาเร็ว โลกจะระส่ำระสาย ... การเสด็จมาของบุรุษผู้ทำได้ จะปรากฏ ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ !!!!!!!

    ……. ผู้ที่รู้แล้วไม่บอกต่อๆ กัน นับเป็นกรรมยิ่งนัก ... กรรมกำลังปรากฏชัดขึ้นเรื่อย
    ………………… โดย “ หนุมาน ผู้นำสาร ” ............................


    http://matiepoppy.multiply.com/journal/item/409

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2011
  10. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post4043200 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>15-11-2010, 08:16 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#1261 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->JINTAWADEE<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4043200", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Sep 2007
    ข้อความ: 1,155
    พลังการให้คะแนน: 419 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4043200 class=alt1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ หนุมาน ผู้นำสาร [​IMG]
    *** เลข ๗ ****

    เลข ๗คือ สัญญลักษณ์ของโลกุตตระ
    สิ่งที่โลกุตตระ ส่งมาให้...คือ "สัจจะ"
    โลกุตตระธรรม... นำพาสัตว์โลกหลุดพ้นทุกข์

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สัจจะ และ สัจจะ (รักข้ามขอบฟ้า)

    สัจจะ (นาม หรือ จิตวิญญาณ) GRAND สัจจะ คือ ความจริงตามธรรมชาติของดุลยภาพ เรียนรู้โดยการเปลี่ยนความเชื่อให้เป็นความรู้ เพื่อจุดมุ่งหมายกลับสู่ต้นกำเนิดพลังงาน สุญตา ผลคือ พ้นวงจร เกิด แก่ เจ็บ ตาย


    สัจจะ (รูป หรือ กายภาพ) GREAT สัจจะที่ทำไว้ภายใต้ภาวะทางกายภาพระหว่างชาติภพ คือ สัจจะอธิษฐานในการหมุนกงล้อพระธรรม เพื่อจุดมุ่งหมาย คือ นำพาสัตว์โลกหลุดพ้นทุกข์ ผล คือ พ้นวงจร เกิด แก่ เจ็บ ตาย

    สัจจะ (GREAT) + สัจจะ (GRAND) =ผลคือ พ้นวงจร เกิด แก่ เจ็บตาย (ขึ้นเหนือโลก = โลกุตตระ = 7 = GREAT & GRAND)

    รักข้ามขอบฟ้า ตามพันธะสัญญา (สัจจะ)

    ขอบฟ้า เหนืออาณาใดกั้น
    ใช่รักจะดั้น ยากกว่านกโบยบิน
    รักข้ามขอบฟ้า รักข้ามแผ่นดิน
    เมื่อความรักดิ้น ฟ้ายังสิ้นความกว้างไกล

    ขอบฟ้า ทิ้งโค้งมาคลุมคลอบ
    อ้าแขนรายรอบ โอบโลกไว้ภายใน
    เหมือนอ้อมกอดรัก แม้ได้โอบกอดใคร
    ชาติ ภาษา ไม่สำคัญเท่าใจตรงกัน

    หากมีใจ คนละดวง
    ต่างเก็บกันคนละทรวง
    ไม่ห่วง ถ้ามีสัมพันธ์

    ขอบฟ้า แม้จะคนละฟาก
    ห่างไกลกันมา แต่ก็ฟ้าเดียวกัน
    รักข้ามขอบฟ้า ข้ามผูกพัน
    ผูกใจรักมั่น สองดวงให้เป็นดวงเดียว

    JINTAWADEE

    <!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/.20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
     
  11. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post3096283 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>20-03-2010, 03:47 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#3 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3096283", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,296
    พลังการให้คะแนน: 5068 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_3096283 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ****

    สูงสุดรอบครอบจักรวาล....คือ โลกุตตระ
    ดินฟ้าอากาศ...คือ ปรางค์หนึ่งของโลกุตตระ
    เลข...๗....คือ สัญญลักษณ์ของโลกุตตระ
    ดวงจันทร์...อยู่เหนือโลก คือ สัญญลักษณ์
    ทุกวันขึ้น ๑๕ ค่ำ....โลกุตตระ ดูการกระทำของสัตว์โลก
    ดูแลศาสนศาสตร์โลก...เรื่อง สัจจะ คำสอน


    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    พระพรหม-พระแม่ธรณี 'สิ่งศักดิ์สิทธิ์' http://palungjit.org/threads/พระพรหม-พระแม่ธรณี-สิ่งศักดิ์สิทธิ์.231753/
     
  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post985759 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>17-02-2008, 09:08 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#42 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_985759", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,300
    พลังการให้คะแนน: 5069 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_985759 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** โลกุตตระ ****

    โลกุตตระอวตาร ทั้งหมด ๔๔๗ ปรางค์
    คือ กระจายกำลังเป็น ๔๔๗ ปรางค์
    เป็น ฐานยกกำลัง
    เป็น ผู้หญิง ๔๐ ปรางค์
    เป็น พระพุทธเจ้า ๕๒ ปรางค์ คือ เป็นตัวนำ เป็นสักขีพยานให้กับโลกุตตระ
    เป็น มนตรี ๔ ปรางค์ คือ เป็นที่ปรึกษา
    เป็น ธาตุ ๔ ปรางค์ คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นองค์ประกอบ เป็นพี่เลี้ยง

    พระองค์หนึ่ง มีกำลัง ยึดจริง ทำจริง เชื่อจริง ก็จะมีกำลัง ๔๔๗
    เป็นอำนาจต่อรองกับจักรวาล

    หัวหน้า สมเด็จพุทธาจารย์เฒ่า ....ทำหน้าที่ไปเยือนทุกถิ่น เพื่อโปรดสัตว์

    มนตรี เป็นตัวถ่ายเท เบี่ยงเบน...กรรมสามารถหมดไปได้

    หลักยืน ท่านส่งสัจจะมาให้....เชื่อว่าสัจจะมีผลตอบแทน
    นอกนั้นเป็นอภินิหารของโลกุตตระ ที่จะหักเห แสง เสียง กรรม
    ซึ่งปกติจะเป็นไปตามหลักธรรมชาติ

    สิ่งที่เราเห็น และไม่เห็น...ก็มี

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    มีคนหนึ่งเขาพูดถึงเราในทางที่ดี

    <TABLE id=post932702 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>22-01-2008, 03:47 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#41 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->stefa<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_932702", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Nov 2005
    ข้อความ: 1,362
    พลังการให้คะแนน: 339 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_932702 class=alt1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    คุณหนุมานผู้นำสาร
    นำข้อความมาบอกเล่าแจกแจงโดยใช้ ข้อความที่ดูเหมือนธรรมดามากๆ
    แต่ในความง่ายๆของความหมาย ที่ดูธรรมดาๆนี้
    แฝงไว้ซึ่งความนัยอันสำคัญที่สุด

    ตรึกตรองแล้วพิจารณาดูให้ดีๆ

    ใช้ความคิดแตกรายละเอียดต่างๆให้ครบทุกๆทาง ทุกๆแขนง

    แล้วคุณผู้อ่าน จะรักคุณหนุมาน มากๆ


    <!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    *** โลกุตตระ คือ **** http://palungjit.org/threads/***-โลกุตตระ-คือ-****.69318/page-3
     
  14. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post470450 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>30-01-2007, 09:50 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_470450", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 11,301
    พลังการให้คะแนน: 5069 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_470450 class=alt1><CENTER><!-- google_ad_section_start -->*** โลกุตตระ...คือ ****<!-- google_ad_section_end -->

    </CENTER>

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start --><SCRIPT type=text/javascript><!--google_ad_client = "ca-pub-2576485761337625";/* 336x280 */google_ad_slot = "0551074580";google_ad_width = 336;google_ad_height = 280;//--> </SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    *** โลกุตตระ คือ... ****

    องค์โลกุตตระ…….
    คือพระไตรปิฎก.......เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์
    คือผู้ที่อยู่เหนือโลก.......เหนือ หลักสัจจะธรรม
    คือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด.......รอบคอบจักรวาล
    คือมนุษย์เหนือโลก…….เมื่อปรากฏเป็นมนุษย์ ทุกหนึ่งหมื่นปี
    คือบรมาจารย์.......สั่งสอน พระพุทธเจ้าทุกพระองค์
    คือผู้ที่นำพา.......ให้มนุษย์ผู้ที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้พบ หลักสัจจะธรรม
    คือผู้ที่ส่งมอบ สัจจะ.......ให้กับผู้ที่ถูกกำหนดให้มีสติของพระพุทธเจ้าได้พิจารณา
    คือผู้อยู่เหนือชะตาลิขิต.......จึงไม่มีมนุษย์ผู้ใดล่วงรู้ ในการมา
    คือตัวอักษร.......หลังจากละสังขาร จากไป
    คือ พระไตรปิฎก.......หลักธรรมของโลกุตตระนำสัตว์ให้หลุดพ้น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "

    <!-- google_ad_section_end -->

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>http://palungjit.org/threads/***-โลกุตตระ-คือ-****.69318/
     
  15. mawmee

    mawmee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +622
    อยากให้ลุงโอลด์ช่วยอธิบายให้เคลียร์หน่อยค่ะถ้าไม่ลำบากเกินไป
     
  16. fernezzo

    fernezzo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +616
    จากหนัง i am number four ที่กำลังฉายในโรงขณะนี้ ...

    มนุษย์คนหนึ่งได้ถามเอเลี่ยนชาวมอกาดอเรียนก่อนที่จะโดนฆ่า ว่า : "แล้วพวกเราจะเป็นยังไงในแผนการจัดระเบียบโลกใหม่ของพวกคุณ!"

    จงเชื่อเถอะว่า New world order และกองทัพแห่ง Fallen angels น่ะ ของจริง!

    They walk among us !!


    ทีนี้มาลองดู UFO ที่ปรากฎขึ้นรอบๆบริเวณในขณ<wbr>ะที่ ทำการถ่ายทำหนังเรื่องน<wbr>ี้กัน อย่างโจ่งแจ้ง ที่สำคัญ UFO เหล่านี้ถูกถ่ายได้จากทางที<wbr>มงานที่กำลังถ่ายทำหนังเรื่<wbr>องนี้ไว้ได้พอดี มาดูกันครับ ว่า UFO ที่ถูกถ่ายได้ด้วยกล้องที่ร<wbr>าคา มากกว่า 100,000 $ นี้จะสุดเจ๋งแค่ไหน ไปดูกัน!!

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=eFfcM0zl43E&feature=player_embedded#at=107]YouTube - "I AM NUMBER FOUR" sneaked shots on location w/REAL ALIEN CRAFTS[/ame]
     
  17. fernezzo

    fernezzo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +616

    Knowing คือการถ่ายทอดจากฮอลลิวู้ด ในเรื่องคำพยากรณ์ในพระคำภีร์ไบเบิ้ลที่ว่าด้วยการทำลายล้างโลกครั้งต่อไปไม่ใช่ด้วยน้ำแต่เป็นเปลวไฟ ซึ่งก็คือปี 2012 ตอนที่ขั้วโลกสลับขั้วในช่วงพายุสุริยะนั่นเองครับ น้ำทะเลยังเดือด.. ทั้งหมดคือ New world order
    Indigo
     
  18. fernezzo

    fernezzo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +616
    ครับผม ชื่ออย่างเป็นทางการของมันก็คือ Sphere Within Sphere หรือ (Sfera Con Sfera) ครับ ถูกสร้างโดยศิลปินนามว่า Arnaldo Pomodoro ในปี ค.ศ. 1990 ตั้งอยู่ที่ Vatican Museums ครับ

    สำหรับข้อมูลปลีกย่อยตามนี้เลยครับ :

    Pomodoro's specialty is the casting of gigantic columns and/or globes. In this magnificent sculpture, the fractured surface of the outer sphere reveals a very complex inner sphere that represents the harsh difficulties that the modern world finds itself in at the end of the second millennium.


    สำหรับความจริงแล้วนาย Arnaldo Pomodoro คนนี้สร้างลูกโลกใบนี้ขึ้นมาตามใบสั่งของวาติกันครับ ลูกโลกใบนี้เปรียบเสมือน Death star / Nibiru และ Window of opunity ครับ อันว่า Window of opunity นี้เป็นประตูมิติที่ถูกเปิดและปิดด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงโดยพวก Reptile race ครับผม หากถามต่อไปว่า ทั่วจักรวาลนี้มีสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาจำนวนกี่เผ่าพันธุ์ กี่มากน้อยเพียงใด เรื่องนี้แม้แต่วาติกันเองก็ดูเหมือนจะไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัดนี้เหมือนกันกับพวกผม รู้แต่ว่าหากเอ่ยถึงเผ่าพันธุ์ที่ฉลาดล้ำเลิศที่สุดที่ติดต่อได้ในบริเวณอาณาจักรวาลหลายหมื่นกาแลคซี่นี้ก็ต้องตอบว่า พวก Reptile จากกลุ่มดาวซีรีอุสนั่นแหละครับ ส่วน Human race หรือพวกมนุษย์ปากนิดจมูกหน่อยอย่างเราๆที่เจริญที่สุดก็เห็นจะมีแต่พวก pleadian จากกลุ่มดาวลูกไก่ หรือที่เรียกว่ากลุ่มดาว พลีอาดิส นั่นเองแต่กระนั้นก็ยังไม่ยิ่งใหญ่เท่าเผ่าพันธุ์ Reptile พวกที่วิวัฒนาการมาจากสัตว์เลื้อยคลานเลือดเย็นครับ

    เรื่อง Window of opunity นี้เป็นสิ่งที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักกันเท่าไร ยังไงคุณวินซ์ก็ลองต่อยอดค้นหาข้อมูลด้วยตัวเองได้นะครับ :cool:
     
  19. fernezzo

    fernezzo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +616
    ฟหดฟหกพดกหผดฟหกดหกผดหฟกดหฟกดหกดหกด
     
  20. LadyOfLight

    LadyOfLight เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    755
    ค่าพลัง:
    +2,472
    ขอบคุณข้อมูลดีๆจากทุกท่านค่ะ *-*

    จากข้อมูลจากคุณ Shota ... Reptilians อาจมีวิทยาการล้ำหน้ากว่า ยิ่งใหญ่ในแง่เทคโนโลยี:cool:

    แต่โดยส่วนตัวดิชั้นเอง เชื่อว่า Pleiadians มีจิตวิญญาณที่ล้ำลึกและสูงส่งกว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...