คชสีห์๙บารมี๙บารมี๙แผ่นดินหลวงปู่หมุนเสก

เหรียญหลวงปู่เหมือน วัดกำแพง ชลบุรี มาเป็นคู่ครับให้บูชา2เหรียญ2รุ่นคู่กัน

ไปครับ

ให้บูชา 450 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับถ้าบูชาเหรียญเดียว 250 บาทครับ

 

เพิ่งกลับจากต่างจังหวัดครับ กลับมาพบว่าได้รับรายการที่จัดส่งเรียบร้อยแล้วครับ
พระปิดตาที่จัดส่งมาด้วยของหลวงพ่อท่านใดครับ
ขอบคุณมากครับ

 

หลวงพ่อรวย วัดตะโก อยุธยา

เหรียญเสมาออกวัดหัวคุ้ง ยุคแรกๆของหลวงพ่อครับแต่ออกวัดหัวคุ้ง

ถ้าออกวัดท่านรุ่นแรกๆเป็นหมื่นครับ บารมีหลวงพ่อมากมายครับคนพื้นที่นับถือ

ท่านอย่างมากประสบการณ์วัตถุมงคลของท่านมีมากครับเลสข้อมือท่านแพงที่

สุดในบรรดาเกจิอาจารย์ยุคนี้ครับ

ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ(ปิดรายการ)

 

หลวงพ่อปิ๋ว วัดวิเวกวนาราม นครราชสีมา

เหรียญแปดเหลี่ยมหลวงพ่อปิ๋ว วัดวิเวกวนาราม นครราชสีมา

สภาพสวยเดิมๆคมชัดครับ

ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

 

หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร นครปฐม

<TABLE width="90%"><TBODY><TR><TD class=smalltext>ท่านนั้น ฤานาม หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร นครปฐม ซึ่งหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ยังยกย่องว่า "ท่านเต้า วัดเกาะวังไทร เขาเป็นเต้าทอง ไม่ใช่เต้าปูน"

ท่านเกิดเมื่อ ๒๐ ก.ย. ๒๔๕๑ บวชเมื่อ ๒ พ.ค. ๒๔๗๒ มรณะ วันที่ ๒๑ พ.ค. ๒๕๓๕ (วันพฤหัสบดี แรม ๕ คํา เดือน ๖) เวลา ๐๖.๐๐ น. ที่โรงพยาบาลศิริราช สิริรวมอายุได้ ๘๔ ปี ๘ เดือน ๖๒ พรรษา
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

<DD>หลวง พ่อเต้า เป็นศิษย์หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และมีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงพ่อแช่มด้วย สมัยเป็นฆราวาสอยู่รับใช้ใกล้ชิด โดยทำหน้าที่คอยบีบนวด ชงนำร้อนนำชาถวาย และเลี้ยงวัวควายอีกหนึ่งฝูงใหญ่

​

<DD>หลวงพ่อแช่มถ่ายทอดพื้นฐานความรู้เรื่องบทสวดมนต์ และคาถาอาคมให้ท่องจำ สอนอ่าน-เขียน อักษรขอม เพื่อปูทางไปสู่การเรียนคำภีร์อื่นๆ

​

<DD>ได้ บรรพชาอุปสมบทที่วัดตาก้อง โดยมี พระครูอุตรการบดี(หลวงพ่อสุข วัดห้วยจระเข้) เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และพระใบฎีกาล้ง วัดห้วยจระเข้ เป็นพระคู่สวด

อยู่ศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดวิชาอื่นๆ และเจริญสมาธิวิปัสสนากรรมฐานกับหลวงพ่อแช่ม ที่วัดตาก้อง จนชำนาญแก่กล้า
​

<DD>ศิษย์รุ่นพี่ที่เล่าเรียนด้วยกัน คือหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม และหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี

<DD>

<DD>พระสหธรรมิก ที่สนิทสนมเป็นพิเศษ ทั้งอายุพรรษาอยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน มีหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม , หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง
หลวงพ่อเต้ามรณะเป็นรูปแรก(ศพท่านไม่เน่าหลังจากเก็บไว้ ๑๐๐ วัน แล้ว) ตามมาด้วยหลวงพ่อแช่ม(ทางวัดเก็บอยู่ในโลงไม่ได้เผาเหมือนหลวงพ่อเงิน ถามคนที่วัดท่านบอกว่าศพไม่เน่าเหมือนกัน) และหลวงพ่อหลิวเป็นรูปสุดท้าย

<DD>"หลวง พ่อเต้า" เป็นพระที่มีศีลาจารวัตรน่าเคารพเลื่อมใส ท่านไม่เคยติดยึดลุ่มหลงในยศถาบรรดาศักดิ์ ไม่ยึดติดในลาภสักการะ ตลอดชีวิตของท่านมีแต่การสงเคราะห์ช่วยเหลือ ให้ความร่วมมือกับหน่วยราชการและประชาชนโดยตลอด จะมีกี่คนที่ทราบว่า หลวงพ่อขายที่ดินอันเป็นมรดกส่วนตัวของท่าน เพื่อนำเงินมาสมทบทุนสร้างอุโบสถหลังใหญ่ของวัดเกาะวังไทร

<DD>ความ ไม่ติดยึดลุ่มหลงในยศถาบรรดาศักดิ์ของหลวงพ่อ ความมักน้อยสันโดษ ยิ่งเพิ่มพูนศรัทธาแก่ผู้เคารพนับถือทวีคูณยิ่งขึ้น สังฆสาวกของพระตถาคตรูปนี้ กราบได้ ไหว้ได้ อย่างสนิทใจ <DD>*** ในเรื่องนี้แม้แต่พระเถระผู้ใหญ่ของ จ.นครปฐม เป็นต้นว่า พระศรีรัตนโมลี วัดเสถียรรัตนาราม รองเจ้าคณะ จ.นครปฐม พบเห็นหลวงพ่อเต้าที่ใด พระเดชพระคุณท่านจะกราบแทบเท้า หลวงพ่ออยู่เสมอ แสดงให้เห็นถึงความเคารพอย่างสูงสุด คนที่ไปหาท่าน นั่งที่ขั้นบันไดเสมอเหมือนกันหมด ในเรื่องเครื่องรางของขลังนั้น ถ้าอยู่ใกล้ๆมือท่านแล้ว หลวงพ่อแจกไม่อั้น ไม่สนใจเรื่องกำไรขาดทุน

<DD>หลวง พ่อเต้า (พระครูเกษมนวกิจ) หรือหลวงพ่อเต้า เขมโก ซึ่งมีฉายาเหมือนหลวงพ่อเกษม เขมโก และที่แปลกกว่านั้น คือ หน้าตาของท่านทั้งสองละม้ายคล้ายคลึงกันมาก
สิ่งที่ท่านไม่ชอบก็คือ การประชาสัมพันธ์ชื่อเสียงของตนเอง โดยเปรียบเทียบว่า "ไม่ใช่พลุ ไม่ต้องมาจุดให้ ดังแล้วก็เงียบหายไป" หรือไม่ก็พูดแทงใจตรงๆว่า "คนสมัยนี้หน้าคนไม่ยอมใส่ เที่ยวไปเอาหน้าม้ามาใส่แทน" และคอยพรําสอนศิษย์เสมอว่า "เรามาแต่ตัว เมื่อตายไปอะไรก็ถือติดมือไปไม่ได้ มีแต่ความดีที่เคยทำไว้ พอจะให้คนเขานึกถึงได้บ้าง"


<DD>ประสบการณ์ และอิทธิฤทธิ์ และบุญฤทธิ์ ของหลวงพ่อเต้า ตัวอย่างหนึ่ง เมื่อวันที่ ๒๑ มี.ค. ๒๕๓๕ หลวงพ่อเอาแผ่นทองคำเปลว ปิดหนาผาก กำนันประสานต์ บุญมี ส.ส. นครปฐม ก่อนหน้ามีการเลือกตั้ง ๑ วัน คือวันที่ ๒๒ มี.ค. ๒๕๓๕ แค่กดเบาๆ และบริกรรมอาคมเท่านั้นเอง แผ่นทองคำเปลวก็หายเข้าไปในหน้าผาก ของกำนันประสานต์ บุญมี หมดเกลี้ยง ไม่เหลือแม้ร่องรอย
(ปัจจุบันเท่าที่ข้าพเจ้ารู้จัก ที่สามารถลงทองได้ มีหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม นครปฐม , หลวงปู่ผล วัดเซิงหวาย เตาปูน กทม.)
<DD>ผลการเลือกตั้งในคราวนั้น กำนันประสานต์ บุญมี ชนะคู่แข่งขาดลอย ได้เป็น ส.ส. นครปฐม สมใจนึก

<DD>ปลุก เสกนํามนต์ร้องเป็นเสียงจิ้งจก มีเรื่องเล่าสืบมาว่าหลวงพ่อแช่มได้ครอบวิชา นํามนต์ร้องไห้ไว้ให้หลวงพ่อเต้า เรื่องนี้ศิษย์รุ่นเก่าๆทราบดี เพราะเคยเจอมากับตัวเอง เล่ากันว่า <DD>*** บาตรนํามนต์ของหลวงพ่อ เมื่อสงัดคนจะมีเสียงจุ๊ๆๆ เหมือนจิ้งจกทัก ดังมาจากข้างใน ผู้เป็นศิษย์ใกล้ชิดก็รีบไปดู คิดว่าจิ้งจกจะตกลงไป กินนําแล้วพลาดตกลงไป หากไม่ไปเอาขึ้นก็จะตายในบาตรนํามนต์ หลวงพ่อจะต้องทำใหม่ ปรากฏว่าไปดูใกล้ๆ ชะโงกไปดูเอาไฟฉายส่องก็ไม่เห็นจิ้งจกสักตัว แต่เสียงดังจุ๊ๆ ก็ยังคงมีอยู่แล้วก็ค่อยๆ หายไป <DD><DD>บาง บ้านตักนํามนต์ของหลวงพ่อไปใส่ขันไว้ที่บ้านก็มีเสียงจุ๊ๆ ดังมาจากภาชนะเหมือนกัน และตุ่มนํามนต์ใหญ่ที่หนาหลวงพ่อศิลาแลง(หลวงพ่อแดง พระพุทธรูปศักสิทธิ์ ประจำวัด) อันเป็นตุ่มนํามนต์กลางที่ผู้คนจะพากันไปตักกลับบ้าน <DD>หาก หลวงพ่อเต้าไม่อยู่วัด เพราะหลวงพ่อทำไว้เป็นส่วนกลาง เสียงจุ๊ๆ จะดังขึ้นเป็นระยะๆ ตลอดวันตลอดคืน ไปค้นหาดูเถอะไม่มีจิ้งจกสักตัว และเสียงไม่ได้ดังมาจากฝา หรือเพดาน แต่ดังมาจากบาตรและตุ่มนํามนต์จริงๆ

<DD>ที่ นับว่าเล่าลือกันอีกเรื่องหนึ่ง ก็คือในงานพุทธาภิเษก ในวัดใหญ่แห่งหนึ่งในนครปฐม มีพระเกจิอาจารย์ร่วมนั่งปรกกันมาก เจ้าภาพตั้งบาตรนํามนต์ไว้หน้าอาสนะ ที่พระเกจิอาจารย์จะนั่งปรกปลุกเสก และจุดเทียนนํามนต์เอาไว้ที่ปากบาตร <DD><DD>พอพิธีเริ่มไปได้ไม่นาน ฝนก็ตั้งเค้าลมกระโชกมาอย่างรุนแรง เทียนนํามนต์ในที่บาตร ของพระเกจิที่นั่งปรกถูกลมพัดดับหมด <DD>*** เหลือแต่เพียงเทียนที่ปากบาตรนํามนต์หน้าหลวงพ่อเต้า ยังไม่ดับและเปลวไฟตั้งตรงเหมือนไม่โดนลมพัดอีกด้วย

<DD>หลวง พ่อเต้านั้นท่านมีฌาณสูง และในการนั่งปรกทุกครั้ง หลวงพ่อจะกำหนดจิตนั่งปรกเป็นเวลานาน เรียกว่าไม่มีพักยกหลับตาเข้าฌาณแล้วนิ่งอยู่อย่างนั้น จนเวลาผ่านไปตามที่หลวงพ่อกำหนด ท่านก็จะออกจากฌาณเหมือนตั้งนาฬิกาปลุก ไม่ต้องไปยุ่งกับท่าน <DD>แม้พระเกจิส่วนใหญ่จะกลับกันหมดแล้ว แต่ถ้าไม่ถึงเวลาที่กำหนดไว้ในงาน หลวงพ่อก็จะนั่งอยู่อย่างนั้น จนถึงเวลาจะออกจากฌาณ

<DD>นางกวักของหลวงพ่อ นั่งโยกตัวไปมา เหมือนมีชีวิต บางท่านพบว่ากำลังลุกขึ้นเดินด้วยซ้ำ <DD>เสกเสากระทู้ปักกลางวัด คนมายิงนกยิงปลาภายในวัด ปาฏิหาริย์ปืนยิงไม่ออก

<DD>ประสบการณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับปาฏิหาริย์นั้น มีประจักษ์พยาน และมีหลักฐานยืนยันได้ แต่หลวงพ่อกลับบอกว่า <DD>*** "อิทธิปาฏิหาริย์ไม่ใช่วิถีทางของการดับทุกข์ ดั่งที่พระพุทธองค์ท่านสอนไว้ อิทธิปาฏิหาริญ์ไม่สามารถทำให้พ้นทุกข์ได้ ศีล สมาธิ ปัญญา เท่านั้นที่จะทำให้หลุดพ้นจากวัฏฏะสงสารได้"*** <DD><DD>ชาว นครปฐม และจังหวัดใกล้เคียง ยอมรับในเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์แห่งวัตถุมงคลหลวงพ่อเต้า *** ขนาดโดน M 16 กระหนํายิงระยะกระชั้นชิดถึง ๒ ชุด ยังคลาดแคล้วความตายมาแล้ว ตำรวจ ทหาร ในเขตจังหวัดนครปฐม เคารพศรัทธาหลวงพ่อมาก แม้กระทั่งทหารไทยที่ไปกู้ระเบิดในประเทศเขมร พลาดเหยียบกับระเบิด เสื้อผ้าขาดยับเยิน ร่างกายฟกชําดำเขียว แต่ไร้บาดแผลมีจดหมายมาเล่าให้ทราบ และขอเรียนว่า มิใช่โฆษนา

<DD>อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นประสบการณ์ขั้นอุกฤกษ์ ตื่นเต้น ประทับใจ และท้าทายมัจจุราชยิ่งนัก นั่นคือ พลตำรวจหนึ่งแห่งกองบังคับการตำรวจภูธร จังหวัดนครปฐม เอาปืนจ่อปากเพื่อนแล้วลั่นไก ด้วยคิดว่า ไม่มีกระสุนในรังเพลิง ผลคือ ปืนลั่นเปรี้ยง ลูกปืนกระทบริมฝีปากด้านบน ส่งผลให้เพื่อนตำรวจหงายหลังตึง เขม่าดินปืนเต็มปาก แต่ทว่า ไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด <DD>เจ้าตัว มาขอให้หลวงพ่อรดนํามนต์สะเดาะเคราะห์ แล้วเรื่องก็เงียบไป เพราะหลวงพ่อไม่ชอบให้เอิกเกริก อันเป็นวิสัยที่แท้จริงของท่าน ขอยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง มีผู้รู้เห็นไม่กี่คน

<DD>

<TABLE width="90%"><TBODY><TR><TD class=smalltext><DD>แต่ที่รู้เห็นเป็นจำนวนมากนับพันนับหมื่นคน ชื่นชมและทึ่งในบุญฤทธิ์แห่งอิทธิฤทธิ์ ของหลวงพ่อเต้านั่นก็คือ <DD><DD>*** "ธงแดง แรงฤทธิ์ พิชิตฝน หรือที่เรียกกันว่า ผ้ายันต์ธงแดง(ผ้ายันต์อาจารย์ ๑๐๙ ซึ่งออกในงานผูกพัทธเสมาฝังลูกนิมิต ปี ๒๕๑๙ มีทั้งสีแดงและขาว ประสบการณ์มาก นิยมแพร่หลาย) " <DD>ของ หลวงพ่อ ตั้งแต่สนามกีฬาภายในบริเวณพระราชวังสนามจันทร์ นครปฐม หรือแม้กระทั่งสนามกีฬา ไทย-ญี่ปุ่นดินแดง กทม. ล้วนประจักษ์ถึงความศักสิทธิ์กันมาแล้ว

ในเขตจังหวัดนครปฐม ถ้าจัดงานมงคล หรืออวมงคล จะเห็นธงแดงของหลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร สะบัดพริ้วเหนือเคหะสถานบริเวณที่จัดงาน และย่อมเป็นสัญญาณที่รู้กันว่า ทั้งลมและฝนจะไม่มีให้พบเห็นในบริเวณงานนั้น ​

<DD>จากปากต่อปาก และคำต่อคำ ทำให้รายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง สนใจ และนำเรื่องออกเผยแพร่ไปแล้ว<DD>ประสบการณ์ ที่เกิดขึ้นกับผมเอง ครั้งแรกผมนั่งรถทัวร์กรุงเทพ-นครศรีธรรมราช ไปเที่ยวบ้านเพื่อนในช่วงสถาบันปิด ตอนที่มีกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ในขณะที่รถวิ่งไปผมก็หลับ มารู้สึกตัวอีกทีตอนรถส่ายไปมา ทั้งซ้ายทั้งขวา เสร็จแล้วรถก็พลิกลงตรงเกาะกลางถนน ที่ จ.ชุมพร (รถตะแคงขวาจอด)

เพื่อนผมที่มาด้วยกันอีก ๓ คน คนหนึ่งที่นั่งข้างกระจกฝั่งที่รถควํา แขนข้างขวาถูกกระจกบาดเลือดไหลเต็ม อีกสองคนมีแผลถลอกฟกชําเขียวไปหลายที่ ตอนนี้ยังเป็นแผลเป็นอยู่เลย
ส่วนผมนั้นนั่งอยู่ฝั่งซ้ายของรถแต่ไม่ติดกระจก ไม่เป็นอะไรเลย
ผมแขวนเดี่ยว พระร่วงทรงเกราะ สุโขทัย และแขวนสาม มีสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง , พระผงหลวงปู่เผือก วัดสาลิโข นนทบุรี , หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร นครปฐม (รุ่นที่ระรฤก ในงานหล่อพระประทาน ๕๕ ๗๗) ซึ่งมาจากฤกษ์วันเสาร์{มีเลขเป็น ๗} ขึ้น ๕ คํา เดือน ๕ และปีนั้นวันเสาร์ ตรงกับวันที่ ๗ ปี๒๕๑๖ ซึ่งเป็นฤกษ์เสาร์ ๕ ใหญ่(เคยอ่านเจอในหนังสือ)
​

<DD>

<TABLE width="90%"><TBODY><TR><TD class=smalltext><DD>อีกเรื่องเป็นประสบการณ์ เกี่ยวกับธงแดงและขาว (ผ้ายันต์อาจารย์ ๑๐๙) <DD>เริ่ม ที่ธงแดงก่อนก็แล้วกัน ผมไปงานบวชเพื่อนที่ โคกสำโรง ลพบุรี เมื่อลงรถที่ทางแยกปากบาง พายุฝนและลมกระโชกอย่างแรง และฝนก็เริ่มตกอย่างหนัก <DD>*** ผมพกธงแดงแรงฤทธิ์พิชิตฝนติดไปด้วย จึงยกขึ้นอธิฐานขอให้ฝนอย่าไปตกที่บ้านงานเลย ซึ่งก็เป็นจริงดังนั้น ทั้งที่ตลอดทางทั้งลม ฝน พายุ แถมมีลูกเห็บตกด้วย(เป็นนําแข็งเป็นก้อนเล็กๆ ตกใส่หลังคารถระยะเวลาหนึ่ง)

ซึ่งผมเชื่อว่ามาจากบารมีหลวงพ่อเต้า และธงแดงอันแรงฤทธิ์อันนั้นครับ​

</DD></TD></TR></TBODY></TABLE>​

</DD>

ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความอย่างสูงครับ

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 ครับ(ปิดรายการ)








ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่ง EMS 50 ครับ(ปิดรายการ)






</DD>

 

หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา

เหรียญหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยารุ่น 100 ปีเกิด พิธีใหญ่สายหลวงพ่อ

ร่วมอธิฐานจิตครับ

ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง EMS50 บาทครับ





เหรียญรุ่นสู่พุทธภูมิ เสาร์ห้าหลวงพ่อปานสายหลวงพ่อปานอธิฐานจิตครับ

ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่ง EMS50 บาทครับ

 

รูปเหมือนปั๊มหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์ รุ่นนี้ออกวัดกกก้าว จันเสน

นครสวรรค์ หลวงพ่อโอด วัดจันเสนเสกครับ สวยชัดผิวเดิมๆครับรูปหล่อหลวง

พ่อพรหมก็หลายหมื่น ถึงแสนหลวงพ่อโอดก็หลักหมื่น รุ่นนี้เป็นรูปเหมือน

อาจารย์ลูกศิษย์อธิฐานจิตครับออกวัดหลวงพ่อปัญญาลูกศิษย์พ่อโอดครับ
EMS 50 บาทครับ(ปิดรายการ)

 

ขออนุโมทนาทั้งหมดทั้งมวลด้วยครับ

และขออนุญาตจอง
สมเด็จแหวกหม่านหลวงพ่อชำนาญ ด้วยครับ

 

ลูกอมหลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์

ลูกอมหลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์ ยุคปลายสภาพเดิมๆครับ

ดูที่กระดาษที่หุ้มครับกรอบหมดแล้ว เทียน ผมแกะออกมาถ่ายรูปและใส่เก็บไว้

ลูกอมสร้างตามตำหรับโบราณ หลวงพ่อท่านสร้างตามตำรับของหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล
ประกอบไปด้วย
๑) ดิน ๗ เมือง
๒) ขี้ตะไคร่ท่าเรือจ้าง ๗ ท่า
๓) ขี้ตะไคร่เสาตะลุง ๗ เสา
๔) รังนกหัวหงอก
๕) ดินอุดโพรงนกเหงือก
๖) เทียนวิปัสสนา
๗) หนังสือ นำมาเคี่ยวแล้ว ปลุกเสกเดี่ยว

ศิษย์สายหลวงพ่อโอดจะมีกันแถบทุกคนครับ มีเรื่องเล่ากกันว่าตอนท่านสร้าง

ลูกอมใหม่ๆ 3 ลูกทดลองวิชาตอนที่ท่านไปรอเรือโดยสารอยู่ที่ท่าแม่น้ำ

เรือแล่นผ่านกี่ลำๆก็ไม่ยอมจอดรับท่านเลยหยิบลูกอมที่ท่านสร้างมาลองอธิ

ฐานให้เรือเรือแล่นกลับมารับท่านถ้าไม่มาจะไม่ขอสร้างลูกอมอีกเลยปรากฎว่า

มีเรือลำหนึ่งที่แล่นผ่านไปแล้วอยู่ๆได้วกกลับมารับท่านทั้งๆที่ไม่ตั้งใจจะจอด

ท่าน้ำนั้นแต่เจ้าของเรือเล่าตอนหลังว่าอยู่ๆก็นึกถึงท่านว่าใกล้เพลแล้วกลัวเลย

เวลาฉันท์เพล..ที่ได้อ่านมานะครับผิดถูกยังไหงขออภัยครับ

หลวงพ่อโอดท่านเป็นศิษย์สายหลวงพ่อเดิม หนองโพ หลวงพ่อรุ่ง หนองศรี

นวลหลวง พ่อพรหม ช่องแค หลวงพ่อเชน วัดสิงห์

ให้บูชา 900 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ(ปิดรายการ)

 

ผ้ายันต์แดงหลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน ลพบุรี

ผ้ายันต์แดงหลวงพ่อเพี้ยน

(ปิดรายการ)

 

ลูกอมหลวงพ่อโอด วัดจันเสน นครสวรรค์#645

ขอจองครับ

 

รับทราบครับ ขอบคุณครับ

วันนี้จัดส่ง

EI 0330 7238 0 TH ปทุมธานี

ขอบคุณครับ

 

เหรียญหลวงพ่อคับ วัดหนองนกไข่ สมุทรสาคร

หลวงพ่อคับ ท่านไม่ได้เป็นศิษย์หลวงพ่อองค์ใดโดยตรง เหมือนแสวงหาทางของท่านเอง และ

ท่านมีนิมิตถึงสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชตั้งแต่เริ่มสร้างวัด โดยสมเด็จ ฯ ประสงค์จะอยู่ ณ ที่นี้

อยากให้จุดนี้เป็นที่รวมมหาราช ขอให้หลวงพ่อคับสร้าง หลวงพ่อบอกว่า (ในนิมิต) ไม่มีเงินมากขนาด

นั้น สมเด็จ ฯ บอกว่าทำไปเถอะแล้วมีมาเอง หลวงพ่อคับก็สร้างเรื่อย

ให้บูชา 150 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

 

</DD>​

ขออนุญาตจองเหรียญหลวงพ่อเต้าทั้ง 2 เหรียญครับ

 

เหรียญนั่งพาน เนื้อทองเหลือง หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง สร้าง ปี

2543 บรรจุของวิเศษ 5 สิ่งลงในเหรียญมีพระบรมศาสนาหนึ่งมีหลวงพ่อผู้เป็น

ที่พึ่งหนึ่งมียันต์ตรีนีสิงเหไล่สิ่งอัปมงคลเสนียดจัญไรหนึ่งมีหงษ์ทองคู่ เป็ฯสวัส

ดิมงคลโชคลาภอายุยืนยาวหนึ่ง และที่สำคัญมียันต์คุ้มตรองดวงชะตาหมุนเป็น

ไตรจักรถอดภาษามอญอีกหนึ่ง เหรียญนี้มีอานุภาพสุดพรรณา

ตอนปลุกเสกหลวงพ่อตั้งอาสนะ5ที่เชิญครูบาอาจารย์ทั้ง5ของหลวงพ่อลงมา

ช่วยอธิฐานจิตให้ด้วยสภาพเหรียญสวยเดิมๆมีรอยจารพร้อมกล่อง

ให้บูชา 1800 บาทครับรายการนี้แถมตะกรุดโค๊ดเสือให้อีกดอกบูชามาตอนทำบุญผ้าป่าหลายปีแล้ว

 

โอนให้แล้วครับจำนวน 950.59 บาท

 

คอลัมน์ อริยะโลกที่ 6

สุพจน์ สอนสมนึก


<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0 sizcache="0" sizset="67" jQuery1297506650562="1226"><TBODY sizcache="0" sizset="67" jQuery1297506650562="1225"><TR bgColor=#400040 sizcache="0" sizset="67" jQuery1297506650562="1224"><TD sizcache="0" sizset="67" jQuery1297506650562="1223">

</TD></TR></TBODY></TABLE>
" หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน" พระสายวิปัสสนากัมมัฏฐานที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัยชื่อดังรูปหนึ่งแห่ง เมืองสกลนคร ซึ่งถือได้ว่าเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นรุ่นสุดท้าย ที่ยังดำรงอยู่ ณ วัดป่าโสตถิผล บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

อัตโนประวัติ ท่านเป็นหลานแท้ๆ ของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร แห่งวัดป่าอุดมสมพร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เมื่ออายุ 12 ปีได้เข้าพิธีบรรพชา ณ วัดแจ้ง บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่านเอง

หลวงปู่บุญหนา ท่านได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์นานถึง 12 ปี ตั้งแต่ครั้งสมัยเป็นสามเณร เช่น หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ซึ่งเป็นหลวงอาได้นำท่านมาอยู่ด้วย และโดยเฉพาะกับพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ศิษย์สายธรรมหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ในช่วงที่เป็นสามเณรอยู่กับพระอาจารย์อ่อนเคยไปกราบนมัสการหลวงปู่มั่น ณ วัดป่าบ้านหนองผือ (วัดป่าภูริทัตตถิราวาส) บ้านหนองผือ ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร เป็นประจำ โดยมีพระอาจารย์อ่อนนำพาไป
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0 sizcache="0" sizset="68" jQuery1297506650562="1236"><TBODY sizcache="0" sizset="68" jQuery1297506650562="1235"><TR bgColor=#400040 sizcache="0" sizset="68" jQuery1297506650562="1234"><TD sizcache="0" sizset="68" jQuery1297506650562="1233">

</TD></TR></TBODY></TABLE>


สาเหตุที่ได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้พระอาจารย์อ่อน ด้วยพระอาจารย์อ่อนเดินธุดงค์มาพำนักหาความสงบวิเวกอยู่ที่บริเวณป่าช้าบ้าน หนองโดก (ปัจจุบันคือวัดป่าโสตถิผล หรือวัดป่าบ้านหนองโดก) ตอนนั้นได้บรรพชาเป็นสามเณร แต่เป็นฝ่ายมหานิกาย พักอยู่วัดแจ้ง บ้านหนองโดก เป็นวัดบ้านของท่านเอง และไม่ไกลจากป่าช้าที่พระอาจารย์อ่อนไปพักอยู่นั้นมากนัก

หลวงปู่บุญหนาท่านบอกว่า ตอนที่ไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่น ณ วัดป่าบ้านหนองผือ (วัดป่าภูริทัตตถิราวาส) ครั้งแรกไปกับพระอาจารย์อ่อน พร้อมกับสามเณรอีกรูปหนึ่งและญาติโยม 4-5 คน เดินมุ่งหน้าสู่เทือกเขาภูพานที่อยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านหนองโดก

ก่อนเดินทางถึงวัดป่าบ้านหนองผือ เวลาประมาณบ่าย 3 โมง พอเข้าไปภายในบริเวณวัด รู้สึกว่าภายในวัดร่มรื่นสงบเงียบ เหมือนกับไม่มีพระเณรทำให้ตื่นตาตื่นใจเป็นครั้งแรก เห็นพระเณรกำลังทำกิจวัตรกวาดลานวัดด้วยไม้ตาด ส่วนพระอาจารย์อ่อน พร้อมคณะ เข้าไปกราบนมัสการพระอาจารย์มั่นบนกุฏิ เสร็จแล้วก็กลับที่พัก ปัดกวาดลานวัด ตักน้ำใช้น้ำฉันจากบ่อน้ำ

เสร็จจากนั้นก็เตรียมรอสรงน้ำพระอาจารย์มั่นบริเวณหน้ากุฏิ ซึ่งมีพระเตรียมน้ำสรงไว้โดยใช้น้ำร้อนผสมพอให้อุ่น เมื่อพระอาจารย์มั่นเข้ามานั่งบนตั่งแล้ว คราวนี้พระเณรทั้งหลายห้อมล้อม เพื่อเข้าไปถูหลังขัดไคลถวายอย่างเปี่ยมล้นด้วยศรัทธา

ส่วนสามเณรบุญหนา มีโอกาสเข้าไปร่วมสรงน้ำท่านพระอาจารย์มั่นในครั้งนี้ด้วย

เมื่อพระอาจารย์มั่นเห็นท่านซึ่งเป็นสามเณรมาใหม่ พระอาจารย์มั่นจึงพูดสำเนียงอีสานขึ้นว่า "เณรมาแต่ไส..." แต่สามเณรบุญหนาไม่ทันตอบ มีพระอาจารย์ทองคำตอบแทนว่า "เณรมากับครูบาอ่อน ข้าน้อย" จากนั้นท่านไม่ได้ว่าอะไรต่อไป จนเสร็จจากการสรงน้ำท่านในวันนั้น

นอกจากนี้ ท่านยังได้ปฏิบัติอุปัฏฐากรับใช้ครูบาอาจารย์อื่นๆ อีก เช่น พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม พระอาจารย์ตื้อ อจลธมฺโม พระอาจารย์ลี ธัมมธโร พระอาจารย์แหวน สุจิณโณ พระอาจารย์สิม พุทธาจาโร และพระอาจารย์จาม มหาปุญโญ เป็นต้น

หลวงปู่บุญหนาได้มาพำนักจำพรรษาอยู่ ณ วัดป่าโสตถิผล บ้านหนองโดก ต.ช้างมิ่ง อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ตราบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน นับได้ว่าท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่ควรค่าแก่การกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจอีกรูป หนึ่งที่ยังเหลืออยู่

หลวงปู่บุญหนาได้ให้สติแก่ญาติโยมผู้เดินทางมากราบนมัสการเสมอว่า ให้เป็นผู้มีสติ ระลึกรู้ในกาย สติระลึกรู้ในวาจาคำพูด สติระลึกรู้ในใจ เมื่อสติรู้ซักซ้อมอยู่ภายในกาย วาจา และใจแล้ว ทำ พูด คิด ถูกและผิด ก็ระลึกรู้อยู่ ปรับปรุงอยู่อย่างนี้เสมอ ซึ่งเป็นคำสอนของพระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ ที่ได้เล่าเรื่องของท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล เทศน์แสดงธรรมสั้นๆ ในช่วงที่เคยเดินทางไปกราบนมัสการหลวงปู่มั่นครั้งนั้นว่า "กายสุจริต วจีสุจริต มโนสุจริต กายบริสุทธิ์ วาจาบริสุทธิ์ ใจบริสุทธิ์"

หลวงปู่บุญหนาจึงเป็นเนื้อนาบุญของชาวสกลนครเป็นบุคคลที่ควรค่าแก่การยกย่องโดยแท้
ที่มา...www.khaosod.co.th ขอขอบคุณอย่างสูงครับ

พระผงจันทร์ลอย ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

 

หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส นั้นท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัย หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เลยทีเดียว ท่านอาจจะอายุน้อยกว่าแต่เรื่องอาคมนั้นท่านไม่เป็นรองใครเลยทีเดียว ท่านได้รับไปร่วมพิธีพุทธาภิเษก ในพิธีใหญ่ๆ พร้อมๆกับเกจิร่วมสมัยอยู่หลายครั้ง พระเครื่องของท่านนั้น เด่นทั้งด้านเมตตามหานิยม และ คงกระพันชาตรี พระครูอาคมวิสุทธิ์ (หลวงพ่อคง สุวณฺโณ) วัดวังสรรพรส ต.บ่อ อ.ขลุง จ.จันทบุรี เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดรูปหนึ่งของภาคตะวันออก ร่วมสมัยเดียวกับ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า หลวงพ่อศรีนวล วัดเกวียนหัก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ และ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค เป็นต้นครับ

วัตถุมงคลของหลวงพ่อคงแต่ละรุ่นล้วนมีประสบการณ์มากมายในทุกด้าน มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศ นับตั้งแต่สามัญชนจนถึงพระบรมวงศานุวงศ์ อาทิ พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร พลเรือเอกสงัด ชลออยู่ พล.ต.ต.ม.ร.ว.พงศ์สระ เทวกุล ฯลฯ


ประวัติหลวงพ่อคง สุวัณโณ (พระครูอาคมวิสุทธิ์)

นามเดิมของหลวงพ่อคือ คง ฑีฆายุ โยมบิดาชื่อ ส้อง โยมมารดาชื่อ โอง ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๔๔๕ ตรงกับวันเสาร์ ปีขาล ณ บ้านตาพราย ต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด อุปสมบทครั้งแรก พ.ศ.๒๔๖๖ อายุได้ ๒๑ ปี อุปสมบทครั้งที่ ๒ เมื่อวันอังคารที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๔๗๗ ขณะอายุได้ ๓๒ ปี ณ วัดชมพูราย จ.ตราด โดยมี พระอธิการผูก วัดสลัก เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "สุวณฺโณ"

ท่านได้ศึกษาธรรมะและวิชาคาถาอาคมขลัง อักขระเลขยันต์จากโยมตาชื่อ หลวงคีรีเขตุ ซึ่งเป็นผู้มีวิชาทางคงกระพันเป็นเลิศ ตลอดจนพระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงอีกหลายท่าน อาทิ หลวงพ่อเม วัดมาบไผ่ ต.มาบไพ อ.ขลุง จ.จันทบุรี (หลวงพ่อเม ท่านมีวิชาขนาดเหาะเหินเดินอากาศได้ครับ), หลวงพ่ออ่ำ วัดสะตอน้อย ต.ตกพรม อ.ขลุง จ.จันทบุรี ,หลวงพ่ออุก หลวงพ่อเจาะ วัดโป่งโรงเซ็น ต.โป่งโรงเซ็น อ.มะขาม จ.จันทบุรี ,หลวงปู่วง (ปู่ของท่าน) ,หลวงพ่อหริ่ง ,ครูเต๋า ,และครูตาสด ฯลฯ

หลวงพ่อคงได้ออกเดินธุดงค์ไปทั่วประเทศ ตลอดจนข้ามไปทางฝั่งประเทศพม่า กัมพูชา เพื่อฝึกฝนวิชาที่ท่านได้ร่ำเรียนมา โดยเฉพาะวิชา เสือสมิง ท่านมีความเชี่ยวชาญชำนาญเป็นพิเศษ ดังจะเห็นได้ว่า วัตถุมงคลของท่านแทบทุกรุ่น จะต้องมีรูปเสือสมิง ปรากฏอยู่ด้วย

หลังจากที่ได้เดินธุดงค์จนเป็นที่พอใจแล้ว ท่านได้กลับมาอยู่ที่วัดวังสรรพรส และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดวังสรรพรสตั้งแต่พ.ศ.๒๔๙๒ เป็นต้นมา

หลวงพ่อคง นับเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าท่านหนึ่งที่มักจะได้รับนิมนต์ให้ไปร่วมนั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลในพิธีพุทธาภิเษกตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศตลอดเวลา ไม่ว่าจะวัดใกล้วัดไกลแค่ไหนก็ตาม นอกจากนี้ในส่วนตัวของท่านเองก็ได้สร้างวัตถุมงคลออกมาหลายรุ่น เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของวัตถุมงคลของท่านคือ จะมีรูปเสือสมิงอยู่ด้านหลัง หรือไม่ก็เป็น รูปพระปิดตา ซึ่งเป็นฝีมือการเขียนโดยตัวท่านเอง

วัตถุมงคลของหลวงพ่อคงทุกรุ่นล้วนมีพุทธคุณเป็นเลิศในทุกๆ ด้าน เป็นที่เลื่องลือกันอย่างกว้างไกล นอกจากนี้ท่านยังมีความเชี่ยวชาญด้านรักษาโรคด้วยสมุนไพรอีกด้วย จนเป็นที่พึ่งพาอาศัยของชาวบ้านตลอดมา


การสร้างวัตถุมงคล

หลวงพ่อคง สุวัณโณ อดีตเจ้าอาวาส วัดวังสรรพรส นับว่าท่านเป็นพระเกจิคณาจารย์รูปหนึ่ง เราจะสังเกตุเห็นเด่นชัดว่างานมหาพุทธาภิเษกวัตถุมงคลทุกครั้งไม่ว่าภาคไหนก็จะมีรายชื่อของท่านติดอยู่ในทำเนียบงานนั้นด้วยท่านผู้อ่านคงจำได้เมื่อคราวปลุกเสกครั้งยิ่งใหญ่ที่ท้องสนามหลวงเมื่อปีพ.ศ. 2500 หลวงพ่อคงท่านก็มาในพิธีครั้งนั้นด้วย หลวงพ่อคงเริ่มเป็นที่รู้จักของประชาชนทั้งไกลและใกล้เมื่อสงครามโลกครั้งที่2 ท่านได้เริ่มทำธง เสื้อยันต์ ตะกรุด และปลัดแจกเรื่อยมา

นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2500 อันเป็นปีกึ่งพุทธกาล เพื่อสมนาคุณแก่ผู้ที่มีส่วนร่วมสร้างพระอุโบสถ ดังนั้นในปีนั้นท่านจึงได้จัดทำเหรียญรูปเหมือนของท่านเป็นครั้งแรก ท่านได้นำเหรียญของท่านมาเข้าพิธีที่ท้องสนามหลวงด้วย ภายหลังท่านก็นำเหรียญของท่านปลุกเสกในวาระอื่นๆด้วย เช่นงานทอดกฐิน งานทอดผ้าป่า และงานวันเกิดของหลวงพ่อ จำนวนสร้างทั้งหมด 15,000 เหรียญ ผิวเหรียญสีขาวเนื้ออัลปาก้าทั้งหมด เหรียญรุ่นนี้เคยมีอภินิหารเป็นที่เลื่องลือกันมาก

วัตถุมงคลหลวงพ่อมีประสบการณ์มากมาย โดยเฉพาะด้านคงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม ค้าขายดี แคล้วคลาดปลอดภัย เป็นที่เลื่องลือไปทั่ว จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังกล่าวถึงตลอด หลวงพ่อคงมีจริยาวัตรงดงามมาก บุคคลต่างๆรวมทั้งลูกศิษย์ลูกหาจากทั่วประเทศเดินทางมากราบไหว้ท่าน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า หลวงพ่อคงใจดี มีเมตตา ช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนมาโดยตลอด ไม่ลำเอียง ใครเจ็บป่วยมาหาท่าน ท่านจะเมตตาช่วยเหลือตลอดทุกคนเสมอไป หลวงพ่อคงมีแต่ให้กับให้ ใครมาขออะไรก็ให้ทั้งนั้น แม้กระทั่งเงินและวัตถุมงคล ตลอดระยะเวลาในการอุปสมบทของท่าน ท่านได้ปฏิบัติตามกฏของสงฆ์อย่างเคร่งครัดมีการครองผ้าสวดมนต์ ทำวัตรเช้า เย็น ตลอดมามิได้ขาด จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระครูอาคมวิสุทธิ์ ซึ่งแปลว่า พระผู้ซึ่งมีอาคมขลังเป็นที่สุด

หลวงพ่อคงได้อนุญาตให้ลูกศิษย์สร้างวัตถุมงคลทั้งที่เป็นประเภท เหรียญ รูปหล่อ และพระเนื้อผง มากมายหลายสิบรุ่น ส่วนวัตถุมงคลประเภทเครื่องราง อาทิ ผ้ายันต์ ตะกรุด รวมทั้งปลัดขิก และเขี้ยวเสือต่างๆ หลวงพ่อคงได้สร้างเองก็มีหลายแบบ ล้วนแล้วต่างมีประสบการณ์มากมายและส่วนมากวัตถุมงคลของท่านจะทำการปลุกเสกเดี่ยวจนครบไตรมาส จึงจะเอามาออกแจกใครได้รับต่างก็หวงแหน


ปลายชีวิตหลวงพ่อคง

ในช่วงท้ายของชีวิตหลวงพ่อคงได้อาพาธเป็นไข้หวัดใหญ่ และปอดบวม มีโรคแทรกซ้อน เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2532 ลูกศิษย์ได้ส่งหลวงพ่อคงไปรักษาที่ รพ.ตากสิน จันทบุรี จนพอทุเลา ท่านก็ขอกลับมาที่วัดวังสรรพรส และต่อมาอีกไม่กี่วัน ท่านก็ได้จากพวกเราไปอย่างสงบ ณ วัดวังสรรพรส ในวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2532 เวลา 10.15 น.รวมสิริอายุได้ 87ปี พรรษาที่ 55 ก่อนที่จะท่านมรณะภาพ หลวงพ่อคง สุวณฺโณได้ปรารถ กับศิษยานุศิษย์ว่า ให้เก็บร่างท่านไว้ มิฉนั้นต่อไปจะไม่มีคนมาวัด


หลังจากทีท่านมรณภาพไปแล้ว เล็บมือ เล็บเท้า เส้นเกศาของท่านจะยาวออกมาตลอดครับ

ขอขอบคุณที่มาอย่างสูงครับประวัติหลวงพ่อคง สุวณฺโณ วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี - หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส

เหรียญหลวงพ่อคงวัดวังสรรพรส จันทรบุรี รุ่น 2 อัลปากล้าสภาพผ่านการบูชา

ให้บูชา 3500 บาทครับ

 

วัดตลาดใหม่เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ปรากฏหลักฐานการก่อตั้งวัดเมื่อ พ.ศ.2210 ตรงกับรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เดิมชื่อ "วัดโบสถ์บ้านกระเดื่อง" ต่อมากลายสภาพเป็นวัดร้าง ปรากฏแต่เนินอุโบสถและต้นมะขามใหญ่ 4 ต้นอยู่ 4 มุมของอุโบสถ จนถึงสมัยรัชกาลที่ 5 ได้มีชาวบ้านมาตั้งบ้านเรือน สร้างตลาดขึ้นใหม่ และร่วมกันบูรณะจึงเรียกชื่อว่า "วัดตลาดใหม่" มาจนทุกวันนี้รวมอายุวัดได้ 339 ปี

เจ้าอาวาสรูปแรกคือหลวงพ่อคุ่ย เป็นพระเถระที่มีพลังอาคมเข้มขลังในด้านการแก้และล้างอาถรรพณ์ต่างๆ มีชื่อสียงโด่งดังร่วมสมัยกับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หลวงพ่อเงิน วัดพระปรางค์เหลือง หลวงพ่อขำ วัดเขาแก้ว หลังจากท่านมรณภาพลงเมื่อปี พ.ศ.2446 หลวงพ่อซำ อินฺทวณฺโณ ศิษย์เอกของท่านก็รับตำแหน่งสืบแทน โดยหลวงพ่อคุ่ยได้ถ่ายทอดสรรพวิชาอาคมให้หลวงพ่อซำจนหมดสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการเขียนอักขระเลขยันต์ภาษาขอม และศาสตร์พระเวทมนตร์คาถา หรือสูตรตำรายาสมุนไพรแก้พิษแก้โรคภัยต่างๆ จนเป็นที่เลื่อมใสของชาววัดตลาดใหม่และชาวบ้านที่อยู่ในจังหวัดใกล้เคียง

หลวงพ่อซำ เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ส.ค.2413 ที่บ้านหลักขอน ต.ห้วยคันแหลน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เป็นบุตรของนายจีนซึง กับนางอินท์ แซ่ลี้ ต่อมาใช้นามสกุลว่า "สีสุวรรณ์" มีพี่น้อง 3คน ได้อุปสมบทเมื่ออายุราว 24 ปี โดยมีพระอธิการดี วัดฝาง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการแป้น วัดสิงห์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอาจารย์จันทร์ วัดท่าสุวรรณ เป็นอนุสาวนาจารย์ ตรงกับวันที่ 15 ก.ค.2438 โดยจำพรรษาอยู่ที่วัดตลาดใหม่ 2 พรรษา ก็เดินทางมาศึกษาบาลีอยู่ที่วัดระฆังโฆสิตาราม เรียนอยู่ได้ 1 พรรษา ก็ย้ายมาที่วัดสร้อยทอง จนถึงปี พ.ศ. 2442 ก็กลับมาจำพรรษาที่วัดตลาดใหม่ เริ่มร่ำเรียนวิชาต่างๆ ของหลวงพ่อคุ่ย จนจบสิ้น และสามารถดูแลงานแทนหลวงพ่อคุ่ยได้จวบจนหลวงพ่อคุ่ย มรณภาพลง หลวงพ่อซำจึงได้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อมา

ท่านมีอายุอ่อนกว่าหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์ 10 ปี และมีอายุแก่กว่าหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน 13 ปี เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ดังของเมืองอ่างทอง ไม่เป็นสองรองใครในเรื่องเวทวิทยาคม โดยกล่าวขานกันว่าท่านเป็นสำเร็จฌานสมาบัติสูง สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้ดุจตาเห็น จนเป็นที่โจษขานกันอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ ยังมีความเมตตาปรานีสูงยิ่ง ใครจะไปจะมา ท่านก็ต้อนรับอย่างเท่าเทียมกัน แม้แต่สัตว์ต่างๆ ท่านก็ยังให้ความปรานี

มีคนชอบเข้ามายิงนกในวัด ท่านได้แสดงปาฏิหาริย์ด้วยการเขียนอักขระเลขยันต์กันปืนผาหน้าไม้ลงบนผ้า จีวรของท่าน แล้วนำไปติดต้นไม้ที่มีนกอาศัยอยู่เพื่อช่วยพวกมัน ปรากฏว่ายิงเท่าไหร่ก็ไม่ออก จนไม่มีใครกล้าถือปืนเข้ามายิ่งนกอีกเลย มีแต่มาขโมยผ้ายันต์ที่ท่านเขียนติดต้นไม้ไว้แทบจะทุกวัน ถ้าต้นไหนผ้ายันต์หายไปหลวงพ่อก็นำไปติดใหม่ ใครจะมาเอาไปก็ไม่ว่า ท่านทำอย่างนี้เรื่อยไปจนถึงฤดูกาลโยกย้ายถิ่นฐานของนกออกไปจากวัด ก็ยังมีชาวบ้านที่ไม่ได้ผ้ายันต์เข้าไปขอ ท่านก็บอกว่าทำไว้เพื่อช่วยชีวิตนก ไม่ได้ให้ไปลองยิงเล่นกันนะ พูดเสร็จท่านก็ยิ้มแล้วก็หยิบผ้ายันต์ส่งให้ ใครที่มีผ้ายันต์ของท่านที่สร้างในสมัยนั้นล้วนแล้วแต่ห่วงแหนเป็นอย่างยิ่ง มีบางคนนำไปม้วนทำเป็นตะกรุดโดยถักเชือกอย่างดี แล้วห้อยติดคอตลอดเวลา บางคนก็นำไปติดเสาร์เรือนบูชาในบ้าน ปัจจุบันหาดูยากมาก

จริงๆ แล้ววัตถุมงคลที่ท่านสร้างไว้นั้นไม่ได้มีการบันทึกไว้ว่ามีอะไรบ้าง แต่จากการบอกเล่าของคนเก่าแก่ในพื้นที่บอกว่ามี เหรียญปี 2506 ฉลองอายุ 92 ปี ส่วนวัตถุมงคลอาถรรพณ์ชิ้นเอกที่หลวงพ่อซำสร้างไว้ก็คือ "เบี้ยแก้อาถรรพณ์" โดยท่านสร้างไว้เพื่อมอบให้แก่ลูกศิษย์ที่มาลาสิกขาคนละตัว พร้อมกับผ้ายันต์หนึ่งผืน อีกส่วนหนึ่งมอบให้กับญาติโยมแถววัดตลาดใหม่และผู้ที่เดินทางมาให้ท่านรักษา โรคภัยไข้เจ็บ เพื่อช่วยคุ้มครองภัยในยามเดินทางกลับ โดยท่านเริ่มสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2480 กว่าๆ สร้างต่อมาเรื่อยๆ แต่มีจำนวนการสร้างน้อย

อิทธิคุณเบี้ยแก้อาถรรพณ์ของท่านนั้นมีพลังอิทธิฤทธิ์ พิชิตคุณไสย ขับไล่ปีศาจ กำจัดยาสั่ง ยับยั้งไข้ป่า หนุนโชคชะตาเสริมบารมี ดีทางเมตตามหาอุด นับว่าเป็นสุดยอดวัตถุมงคลของท่าน ซึ่งนับวันยิ่งหาดูยากมาก เพราะบางคนไม่รู้ดูไม่ออก ก็โมเมให้เป็นของหลวงพ่อพักตร์ วัดโบสถ์ เพื่อจะได้มีมูลค่าในการเช่าหาสูงขึ้น ซึ่งหลวงพ่อพักตร์กับหลวงพ่อซำนั้นเป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคเดียวกัน และเป็นพระสหธรรมิกที่สนิทสนมกันมาก

สำหรับการสร้างเบี้ยแก้อาถรรพณ์ท่านจะทำทุกๆ วันอาทิตย์ วันอังคารและวันเสาร์ หากใน 3 วันนี้มีวันใดที่ตรงกับวันพระ ก็จะหยุดสร้างหนึ่งวัน และการสร้างแต่ละครั้งจะสร้างจำนวนเท่ากับกำลังวัน เช่น วันอาทิตย์มีกำลัง วัน 6 สร้าง 6 ตัว วันอังคารมีกำลังวัน 8 สร้าง 8 ตัว และวันเสาร์มีกำลังวัน 10 สร้าง 10 ตัว โดยจะประกอบพิธีให้แล้วเสร็จในคราวเดียว

ลูกศิษย์ของท่านที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมและวิชาสร้างเบี้ยแก้จนมีชื่อ เสียงไม่แพ้กันก็คือ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ และหลวงพ่อทองใบ วัดอบทม สองพระเกจิอาจารย์จอมขมังเวทของเมืองอ่างทอง เจ้าของ "เบี้ยแก้" พุทธคุณสูง ที่วงการเครื่องรางของขลังเมืองไทยให้ความนิยม

วาระสุดท้ายแห่งชีวิตหลวงพ่อซำได้มรณภาพลงด้วยโรคชราเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2509 รวมอายุได้ 94 ปี 71 พรรษา ซึ่งนับว่าเป็นพระเถระที่มีอายุยืนยาวรูปหนึ่งของ จ.อ่างทอง



เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อซำ วัดตลาดใหม่ อ่างทอง ปี2506ครับสภาพเก่าเก็บ

ครับผมได้มาเดิมๆเลี่ยมเปิดหน้าหลัง ได้มาพร้อมกับเหรียญหลวงพ่อทองใบวัด

อบทมครับ

ให้บูชา 1200 บาทค่าจัดส่งEMS 50 บาทครับ

 

วันนี้จัดส่ง

EI 0277 7387 9 TH บางบัวทอง

EI 0277 7388 2 TH พรานกระต่าย

ขอบคุณครับ