เชื้อสายครุฑหรืออดีตสัตว์ในหิมพานต์ มาแลกเปลี่ยนเรื่องป่าหิมพานต์กันคะ

เจอเด็กน้อยคนหนึ่ง ชอบไปบินเที่ยวกับเพื่อนๆ ตามป่าเขาลำเนาไพร เอาแต่เล่นสนุกไปวันๆ

*** แล้วก็ส่องเลยไปหน่อย แล้วก็เห็นคุณเป็นสััตว์ในหิมพานต์นี่ล่ะครับ ผมก็ไม่รู้ว่าตัวอะไรเหมือนกัน

 

ไม่ใช่กินรีหรอกจร้า เป็นเด็กเลยล่ะ แล้วผมก็ใช้คำผิดไปนิด ไม่ใช่บิน แต่เป็นเหาะต่างหากครับ

 

โฉบมาทักทายค่ะ ไม่รู้ว่าจำกันได้ไหมน๊า...อิอิ

 

พี่ชื่อคะรุทาใช่มั้ยครับ ^^

 

สาวน้อย yayas ก็ว่าหายไปๆ ไปสอบนี่เอง เอาใจช่วย สู้ๆ นระ

 

ยักษ์ปู่แสะย่าแสะผู้ที่เลื่อมใสในคำสอนของพระพุทธเจ้า
​

​

พูดถึงยักษ์ ก็ นี่เลยคะ หญิงทิพย์เคยไปร่วมพิธีกรรมหนึ่งที่เชียงใหม่เป็นพิธีความเชื่อที่ได้ปฎิบัติมานมนานแล้วคะ เขาเรียกพีธีนี้ว่า เลี้ยงดงผีปู่เเสะย่าเเสะ ซึ่งท่านทั้งสองเป็นยักษ์ ที่ดูแลป่าเขา ดอยคำ จังหวัดเชียงใหม่ลย วันที่หญิงทิพย์ไป ไม่ได้ตั้งใจคะ ขับรถไปมหาลัยแล้วฟังวิทยุเขาประกาศว่าวันนี้มีพิธี เลยตัดสินใจไปเพราะเพียงแต่อยากเห็น ในชีวิตนี้ไม่เคยไปดูใครเข้าทรงเลยคะ นั่นคือครั้งแรก จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่เคยไป พอไปถึงลานที่จัดพิธิ ทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมสำหรับ ควายที่ชำเเหละ อาหาร ต่างๆ เพื่อเลี้ยงยักษ์ ทั้งสองตน ขลังมากคะ อารมตอนนั้นบอกไม่ถูก ตอนที่ยักษ์ทั้งสองตนลง มองเห็นความแตกต่างจากแววตา ดุดัน มีพละกำลังมากมาย แล้วผ้าพระบถ เค้าเรียกแบบนี้รึเปล่า ที่วาดรูปพระพุทธเจ้าก็แกว่งไกว ไปมาทั้งๆที่ไม่มีลมเลยแม้แต่น้อยคะ แล้วปู่แสะก็ได้จ้ำอ้าวอย่ารวดเร็วและไหว้สาที่ผ้าที่มีรูปพระพุทธเจ้า หญิงทิพย์บอกได้คำเดียวว่า เชื่อจริงๆ เพราะตรงนั้นเราสัมผัสได้จริงๆคะถึงความศรัธาพระพุทธเจ้า เเววตาที่ดุดัน คำพูดที่เอ่ยจากวาจาด่าทอผู้ที่ ทำลายป่าไม้ เพราะเท่าที่จำได้ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทำพืชสวนโลกน่ะคะ ป่าไม้ถูกรื้อเยอะเลย ปีนั้นร่างทรงดุดันมากจริงๆ แต่ขณะที่สักการะพระพุทธเจ้า แววตาปู่แสะเปลี่ยนเป็นอีกแบบ เต็มไปด้วยความเลื่อมใส ศรัทธา น้อบน้อม นี่แหละคะ พระพุทธเจ้าทรงมีเมตตาโปรดสัตว์ให้พ้นทุกข์ จากการสร้างกรรมจริงๆ คะ

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=ve8kc4xk9mg&feature=related"]YouTube - เลี้ยงดง[/ame]​

บทความเรื่อง ประณีเลี้ยงดงปู่แสะย่าแสะ จาก atcloud.com​

ก่อนสมัยที่พระ พุทธเจ้าจะเสด็จปรินิพพาน พระองค์ได้เสด็จ ยัง ดอยเหนือใต้ เพื่อโปรดสัตว์ และเทวดาทั้งหลาย ยักษ์สองตน ปู่แสะและย่าแสะ ได้ออกกินคน พระพุทธเจ้าทรงห้าม ยักษ์ สองตน ไว้ แต่ยักษ์สองตนผัวเมียจึงได้ต่อรองขอกินสัตว์หูยาวแทน ปีละสองตัว พระพุทธองค์จึงได้สั่งไว้ว่าให้ยักษ์ทั้งสองตน จงรักษาผู้คนในบ้านเมือง ให้อยู่เย็นเป็นสุข และ ขอให้สืบทอดรักษาพระศาสนาให้ครบห้าพันปี ยังความยินดีถึงพระอินทร์ ได้เนรมิตให้ฝนเงินฝนคำตกลงมาไหลเข้าไปยังพื้น ดอยแห่งนี้ ภายหลังมาดอยเหนือใต้จึงได้ชื่อว่า ดอยสุเทพ และดอยคำ และตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันทุกปีจึงมีพิธีการเลี้ยงผีปู่แสะย่าแสะ เพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขของชาวเมือง

บทพาหุง พร้อมคำแปล พระพทธเจ้าโปรดยักษ์

บทที่ ๒ ( ปราบยักษ์ ด้วยขันติธรรม )
พระพุทธเจ้าเสด็จไปปราบอาฬวกยักษ์
ซึ่งสำแดงฤทธิ์ ถีบยอดเขาไกรลาศ
แล้วร้องเรียกยักษ์บริวารมาล้อมวิมาน
ยิงศาสตราวุธ ๗ ประการใส่พระพุทธเจ้า
อาวุธนั้นกลับกลายเป็นดอกไม้บูชาพระพุทธองค์
อาฬวกยักษ์แพ้ฤทธิ์แล้ว
พระองค์จึงเทศนาโปรด จนยักษ์ถึงแก่พระโสดา
​

<TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="50%">

• มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
  โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
  ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
• ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิฯ

</TD><TD vAlign=top width="50%">

• อนึ่งพระจอมมุนี ได้เอาชนะยักษ์ชื่อ อาฬวกะ ผู้มีจิตหยาบกระด้าง ผู้ไม่มีความอดทน มีความพิลึกน่ากลัวกว่าพระยามาร ซึ่งได้เข้ามาต่อสู้อย่างยิ่งยวดจนตลอดคืนยันรุ่ง ด้วยวิธีทรมานอันดี คือ ขันติ ความอดทน,
• ขอชัยมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระพุทธชัยมงคลนั้นเถิดฯ

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ตัวอะไรเอ่ย มีแต่หัวไม่มีตัว ?​

เฉลย : หน้ากาล หรือ เกียรติมุข ​

เอ... ทำไมช่วงนี้ความรู้เก่าค่อยๆ พลั่งพลู ออกมา เสมอๆ
คิดออกก็ โพสลงๆ คระ​

หญิงทิพย์อยากจะแนะนำทุกท่านให้รู้จัก สัตว์ชนิดหนึ่งคะ แต่ตัวนี้ไม่ทราบว่าจะมีอยู่ในหิมพานต์หรือไม่ เพราะเจ้าตัวนี้มีแต่ หัว อ่านไม่ผิดคะ มีแต่ หัวเท่านั้น จริงๆ ตัวนี้เราจะสามารถพบเจอได้ที่ ปราสาทหิน ในเมืองไทยก็พบได้คะเช้นประสาทหินเมืองต่ำ ประสาทหินพิมาย เป็นต้น ตัวนี้จะมีลักษณะคล้ายคลึงกับหัวสิงโตและจะอ้าปากกินดอกไม้พวงอุบะ ต่างๆ ส่วนที่หญิงทิพย์ติดใจ ตัวนี้มากที่สุดเพราะคอนเซปเค้าคะ ​

หน้ากาลเป็นสัตว์ที่กลืนกินทุกอย่างแม้กระทั่งตัวของตัวเอง จนเหลือแต่หัว
ซึ่งก็เปรียบเช่นดังกาลเวลาที่หมุนไปไม่อาจจะย้อนคืนมา
เช่นดั่งกับตัวหน้ากาลที่โง่เขลาเหลือกระไร กลืนกิน แม้กระทั่ง
ตัวของตน เมื่อจะมารู้ตัวก็เหลือแต่หัว เท่านั้น
เวลา เช่น วารี ไหลไปไม่ย้อนกลับ​

​

มาอ่านความรู้จากตัว เอ้ยย หัวนี้ดีกว่าค่ะ​

ตำนานอินเดียเล่าถึงกำเนิดของหน้ากาลนี้ว่า ครั้งหนึ่งมีพญายักษ์ชื่อชลันธรบำเพ็ญตบะแก่กล้า จนได้รับพรจากพระศิวะไม่ให้ผู้ใดต่อกรด้วยได้จึงเกิดความลำพองทำร้ายข่มเหงทั้งยักษ์ เทพ และมนุษย์

ต่อมา ยักษ์ชลันธรได้ให้พระราหูไปบอกพระศิวะให้มารบกับตน หากพระศิวะแพ้จะริบตัวนางปารพตีมเหสีเป็นของตน พระศิวะได้ฟังดังนั้นก็พิโรธเกิดมียักษ์หน้าสิงห์โตกระโดดออกจากหว่างพระขนงจะกินพระราหู พระราหูเห็นดังนั้นก็ตกใจขอให้พระศิวะช่วย พระศิวะทรงห้ามยักษ์ไม่ให้ทำร้ายพระราหู ยักษ์กล่าวว่าถ้าอย่างนั้นขอให้กินสิ่งอื่นแทนพระราหู พระศิวะตรัสให้ยักษ์นั้นกินแขนขาของตัวเอง ด้วยความหิวโหยยักษ์ได้กัดกินแขนขาของตนหมดแล้วยังไม่อิ่ม จึงกัดกินท้องและอกจนหมดสิ้นเหลือเพียงส่วนหัว พระศิวะเห็นเช่นนั้นก็เกิดความสงสาร ตรัสให้พรยักษ์นั้นให้อยู่ที่ประตูวิมานของพระองค์ตลอดไป ผู้ใดไม่เคารพจะไม่ได้รับพรจากพระองค์ หลังจากนั้นพระองค์เสด็จไปปราบยักษ์ชลันธรได้สำเร็จ

สมัยโบราณถือว่าหน้ากาลนี้เป็นสัญลักษณ์ของเวลาที่กินทุกสิ่งแม้แต่ตัวเอง รวมทั้งเป็นผู้ที่คอยดูแลฝูงปศุสัตว์เนื่องจากพระศิวะได้รับการยกย่องเป็นปศุบดี ผู้เป็นใหญ่ในฝูงสัตว์ หน้ากาลอันเปรียบเสมือนบุตรของพระองค์คงจะมีฤทธิ์ปกป้องสัตว์เลี้ยงได้ ลายหน้ากาลนี้สามารถพบเห็นได้ทั้วไปในเทวสถานของฮินดู และนิยมสร้างกันอย่างแพร่หลายในอินโดนีเซีย

...............................................................................​

ที่มาบทความ www.thailandmuseum.com

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1348199/[/MUSIC]​

 

พระสูตร“อาฏานาฏิยะ” บทนี้มีท่านท้าวจตุโลกบาลทั้ง4 ถวายแก่พระพุทธเจ้า ซึ่งท้าวจตุโลกบาลได้หารือกันแล้วได้ส่งท่านท้าวเวสสุวรรณให้มาเป็นคนถวายแก่พระพุทธเจ้า เพื่อเป็นการคุ้มครองภิกษุทั้งหลายจากบริวารของท้าวจตุโลกบาลทั้ง4 เพราะบริวารเหล่านี้ไม่ได้เคารพในพุทธศาสนา ดังนั้นท่านเหล่านี้จึงได้มีการกลั่นแกล้งพระภิกษุทั้งหลาย

 

หลายๆคนอาจจะจำภาพนี้ได้นะคะ ให้ตายเถอะ ปลาแบบนี้ก็มีในโลก​

​

​

​

แต่บอกได้เลยนะคะ ลักษณะปลาตัวนี้ช่างใกล้เคียงกับพญานาคจริงๆคะ
ปลาตัวนี้คงอยู่น้ำลึก ไม่ค่อยมีใครเห็น ชาวบ้านไม่รู้จึงคิดว่าเป็นพญานาคนั่นเอง
แต่ก็สวยดี เนาะ​

เรามาใช้พี่กูเกิ้ลให้เป็นประโยชน์กันคระ ​

ชื่อไทย : พญานาค
ชื่อสากล : ปลาออร์ฟิช (oarfish)
ปลาออร์ฟิช เป็นปลาน้ำลึก (ที่ทหารจับได้ไม่ใช่ที่แม่น้ำโขง ได้มีการสืบสาวที่มาที่ไปมาแล้ว จากรายการเจาะใจ แต่เป็นโปสการ์ดที่ส่งจากประเทศทางยุโรป ) จริงๆแล้วมันอาศัยอยู่ในน้ำเค็มนะ เมื่ออยู่ในน้ำลึก Oxygen ต่ำ มันจะใช้ Heamocyanin ในการลำเลียง Oxygen ทำให้เลือดของมัน มีลักษณะเป็นสีเขียวฟ้า-น้ำเงิน (สีเลือดประหลาดนี่เอง ทำให้นึกว่าเป็นพญานาคจริงๆ) โดยที่เจ้า Heamocyanin ยังสามารถพบได้ในสัตว์จำพวกปูได้อีกครับ (จำได้มั๊ยว่าปูเลือดสีฟ้า)กลับมาที่ปลาออร์ฟิชกันต่อ และเมื่อมันมาอยู่ในเขตน้ำตื้น มันจะค่อยๆปรับตัวโดยการเปลี่ยนไปใช้ Heamoglobin ลำเลียงเลือดOxygen ทำให้เลือดกลายเป็นสีแดง เมื่อยู่เขตน้ำตื้นนานๆ (แปลกดีมั๊ย)และว่ากันว่าหากพบในเขตน้ำตื้น อาจเป็นลางว่าจะเกิดแผ่นดินไหว เพราะปกติอาศัยอยู่ที่น้ำลึก 100 ม.เป็นต้นไป​

[ame="http://www.youtube.com/watch?v=NRCoU2rg2mc"]YouTube - Living Oarfish 11/01/2010 リュウグウノツカイ[/ame]​

ข้อมูลจาก bestfm89.com

 

ขอบอกว่า ยาวมากคะ บทนี้ แค่ พาหุง หญิงทิพย์ก็เกือบหายใจไม่ทัน แต่อ่านที่มาดูแล้วคะ จะพยายามสวดดูคะ

ใช้สำหรับสวดป้องกันภูติผีปีศาจที่มารบกวน
นวัดที่มีการสวดภาณยักษ์มักนิยมสวดบทสวดนี้
เพื่อขับยักษ์ ภูติผีปีศาจที่ดุร้ายเป็นภัยแก่มนุษย์​

 

ตามสะดวกเลยครับ สวดได้ก็ดีนะครับ แต่แนะนำขอให้มีจิตใจที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นนะครับ^^

 

ปกติไม่ค่อยสวดมนต์อ่ะคับ ขี้เกียจ+ลืม แต่เวลาเจออะไรหรือรู้สึกได้ว่ามีอะไรบางอย่าง จะพูดในใจเสมอว่า ท่านไม่ทำเรา เราก็ไม่ทำท่าน ถ้าท่านทำเรา เราสนองเป็นสองเท่า...เวลาโดนผีอำ บทสวดอะไรก็ไม่ได้ผล ตั้งจิตนาคาแล้วคิด... ถ้าชอบอยู่ที่นี่นัก ก็จงอย่าได้ไปผุดไปเกิด จงอยู่เสียที่นี่แหล่ะ ชั่วกัปชั่วกัลย์ ​

โล่งเลยคับ มันก็ได้ผลฉับไวทันใจจริงๆ ...อย่าด่าอย่าว่าผมล่ะ วิธีเบาๆนุ่มนวลน่ะใช้ไม่เป็นหรอกคับ อิๆ​

 

สาวน้อยคนนี้มีการบอกว่าตัวเองตายได้ตลกด้วยอ่า คริๆ good morning จร้า
คงไม่ตายแบบนั้นหรอก (คิดเองนะ) คุณ เวสสุกรรม เขาอยู่ก็ที่นั่นคงมาช่วยน้องไว้ก่อนแหละ

 

555 ถ้าตายแบบนั้นจริงคงตลกดีนะครับ ^^

ตายเพราะดีใจเกินเหตุ ^^

 

ชื่อเวสสุกรรมนี่คุ้นๆนะครับ เหมือนเคยเจอที่ไหน

 

ถ้าจำไม่ผิดเหมือนชื่อของลูกน้องท่านท้าวเวสสุวรรณนะครับ

 

เคยเกือบจมน้ำเหมือนกันตอนเรียนว่ายน้ำท่าลูกหมาตกน้ำ แต่ไม่มีใครมาช่วยเลย สงสัยเขานึกว่าเรา ว่ายท่าลูกหมาตกน้ำ อึดอัด ทรมาร เป็นที่สุด >_< แต่ตั้งสติพาตัวเองไปขอบสระจนได้คะ แล้วก็ต้องมาเรียนอีกตอนโต เพราะต้องเอาไปใช้สอบ วิชาชีพ ที่เรียนมาอ่ะคะ ตั้งสติ คิดว่าทำได้ๆๆ อย่างเดียวเลยจนตอนนี้ว่ายเป็นแล้ว แต่ก็ไม่ได้เเข็งเท่าไหร่ แต่การที่เราใจกล้านี่แหละคะทำให้เราไม่กลัว ไปทะเลก็ลงทะเลสน๊อคเกอร์ลิ่งดูประการังสบายใจเลย สวยมาก แล้วก็ลงที่สระอควาเรียมที่เชียงใหม่บ่อน้ำเค็ม เมื่อก่อนเคยเป็นสตาฟที่นั่นคะ ปลาตัวโตจิงๆ ถ้าไม่กล้าแล้วตั้งสติคงไม่มีโอกาศได้เห็นโลกใต้น้ำสวยๆคะ -*-

 

555 สงสัยผมคงจำสับสนกันไปหน่อย ^^ อนิจจังแท้หนอ เด๋วจำได้ เด๋วจำไม่ได้

สงสัยจะนิสัยเหมือนเด็กจริงนะเนี่ย ขนาดพ่อยังว่าเลย ^^

 

พอเวลามันกำลังจะจมน้ำมันถึงจะว่ายเป็นน่ะพี่หญิงทิพย์ ผมก็ว่ายได้ตอนกำลังจะจมนั่นล่ะ 555

 

ยิ่งอ่านก็ยิ่งขำดี กรรมมันส่งผลให้ตายตลกเช่นนี้เลยหรือนี่ 555++++