ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

เห็นด้วยครับ งดงามเหลือเกิน ราวกับมีชีวิตจริงๆ

 

จ๋าจ๊ะคุณพี่ดอกไม้ฯ

โทรไปสอบถามพระมหาฯท่านมาแล้วได้ความดังนี้

1 ก่อนลงมือปั้นหรือแกะสลักพระบรมรูปให้จุดธูป 16 ดอกบอกกล่าวว่าจะปั้นหรือแกะพระบรมรูปพระองค์ท่าน โดยให้มีบายศรีสองประเภทคือ บายศรีปากชามและบายศรีเทพ ทำกลางแจ้งก็ได้หรือจะไปที่พระบรมราชานุสาวรีย์พระแม่จามเทวีทำการก็ได้ จะทำเองหรือจะส่งตัวแทนไปทำก็ได้ค่ะ ดูฤกษ์ยามดีแล้วก็ทำได้ค่ะ

2 หากระหว่างที่ปั้นหรือแกะอยู่หากมีอุปสรรคเกิดขึ้น ให้กลับมาคิดว่าเพราะอะไรอีกครั้ง แล้วทำพิธีอีกที เพราะองค์ท่านอาจจะไม่อนุญาตจึงทำให้เกิดอุปสรรคขึ้น

3 เมื่อปั้นหรือแกะพระบรมรูปเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระญานของพระองค์ท่านมาประทับที่หุ่นจำลองที่สร้างขึ้นนี้ ณ สถานที่ประดิษฐานพระบรมรูปในวันที่เชิญพระบรมรูปมาตั้ง ดูฤกษ์ดูยามดีแล้วก็เชิญพระองค์ท่านประดิษฐานได้เลยค่ะ


คำแนะนำ
1 วัตถุดิบ หิน หรือ หยก มีหลายเกรด หลายแหล่ง หลายราคา ต้องตรวจสอบดีๆ
2 ช่างฝีมือในการแกะ มีหลายแห่ง แต่ละแห่งราคาต่างกันค่อนข้างมากและฝีมือแตกต่างกัน
3 คุณพี่ดอกไม้สามารถโทรถามพระมหาฤทธิชัยด้วยตนเองได้ ขออนุญาตท่านแล้ว หรือคุยกับคุณ Florence ซิคะบังเอิญจัง คุณ Florence ก็กำลังแกะพระสิวลีจากหยกอยู่ใช่ไหมคะ คนบุญกับคนบุญมาเจอกัน บุญจะไปไหนได้ ก็ต้องอยู่กับคนบุญนั้นแล ใช่ไหมคะคุณพี่ดอกไม้ และคุณ Florence

 

คุณน้องโมเย

อันเนื่องมาจากการสื่อสารขัดข้อง คุณเจ๊ต้องรอจนกว่าจะเลยวันที่ 7 กุมภาพันธ์ มือถือทุยมูฟจึงจะกลับมาเป็นปรกติ คือทุยมูฟของคุณเจ๊มันซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ สั่งไว้ว่าถ้ายอดโทรเกินเมื่อไหร่ห้ามทำการ ยอดตัดค่าใช้จ่ายมือถือทุยมูฟของเจ๊จะเป็นวันที่ 7 กุมภาพันธ์ ดังนั้น ทุยจะมูฟเมื่อมันได้ยอดค่าใช้จ่ายเดิมแล้วเท่านั้น มันยึดถือคำสัตย์เอามากๆเลยค่ะ

 

ย้อนมาอ่านหน้านี้อีกครั้ง เกิดความคิดวูบขึ้นมาว่าเนื้อหาสาระตรงนี้สั้นเกินไป
ฉุกคิดขึ้นมาว่า

"ส่วนกรณีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับสมเด็จพระเอกาทศรถก็คงจะเช่นเดียวกันว่าเป็นเรื่องที่เห็นได้อย่างเด่นชัดทั้งในด้านของความสามัคคีและความเสียสละ ทรงร่วมกันรบแบบที่เรียกกันว่าเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตั้งแต่มีพระชนมายุยังเป็นวัยรุ่นจนถึงวารสวรรคต รวม 30 ปีเศษ"

เอ! ทั้งสองพระองค์ท่านรบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา 30 กว่าปี จะไม่มีอะไรขัดแย้งหรือกระทบกระทั่งกันบ้างเลยเชียวหรือ? เป็นไปได้ไง แต่ก็เป็นไปแล้วจริงๆ
ไม่เคยปรากฎว่ามีประวัติศาสตร์หรือหลักฐานใดๆได้กล่าวถึงไว้แม้แต่น้อย เคยมีอุทาหรณ์หรือคำพังเพยกล่าวไว้ว่า เสือสองตัวอยู่ในถ้ำเดียวกันไม่ได้ แต่นี่ทั้งสองพระองค์อยู่ร่วมกันมานานถึง 30 ปีเศษ ไม่เคยมีการวัดรอยพระบาท (วัดรอยเท้า) แต่อย่างใด แล้วอย่างนี้ถ้าไม่เรียกว่ารักสามัคคีแล้ว ก็ไม่รู้จะเรียกอะไร ต้องกล่าวยกย่องสมเด็จพระเอกาทศรถ ท่านนะครับ ว่าท่านทรงมีวินัยหรือทรงเป็นสุภาพบุรุษที่ยึดระบบอาวุโส หรือทรงมี SENIORITY นะครับ

แต่กรณีที่มีปรากฏหลักฐานบางอย่างที่เกี่ยวข้องพระโอรสของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในรัชสมัยของสมเด็จพระเอกาฯ ก็ต้องถือว่าเป็นคนละกรณีดังกล่าวข้างต้น พราะครั้งนี้เป็นสิทธิของพระเอกาฯ พระองค์ย่อมทรงสิทธิที่จะปกป้องสิทธิของพระองค์ และถ้าจะมองกันให้ดีด้วยใจที่เป็นธรรมแล้ว กลับจะเห็นว่าพระองค์ยังเป็นสุภาพบุรุษ และมีพระทัยเมตตาต่อหลานที่เป็นโอรสของพระนเรศวร เสียด้วยซ้ำไปใช่ไหมครับก็แสดงว่าสมเด็จพระเอกาทศรถท่านยังมีพระทัยที่มีเยื่อใยและผูกพันอยู่กับสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ท่านพี่จงรักภักดีสามารถกล่าวได้น่าคิดมากค่ะ เพราะหากสมเด็จพระเอกาฯจะทรงกระทำให้ตกสูญไปทั้งครอบครัวก็ย่อมทำได้ เพราะ ณ เวลานั้นที่ท่านทรงสิทธิ์อยู่เต็มพระราชอำนาจ แต่ทรงปล่อยนั่นคือน้ำพระทัยสูงส่งของสุภาพบุรุษพระองค์หนึ่งของสยามประเทศ

พระองค์ท่านทรงน่านับถือค่ะ

 

เมื่อคืนวันเสาร์นั่งสมาธิได้สักพัก เกิดจิตเข้าใจขึ้นมาเองว่า

เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง หน้าวัดไชยวัฒนาราม เป็นเจดีย์คู่ สร้างอุทิศพระราชกุศลถวายสมเด็จพระราชบิดาและพระราชมารดาของสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง การสร้างเจดีย์คู่หน้าโบสถ์เป็นคติความเชื่อของคนโบราณในการสร้างวัด จะอุทิศบุญกุศลให้กับบุพการีผู้ให้กำเนิด ซึ่งน่าแปลกมากใช่ไหมคะว่า เจดีย์คู่หน้าวัดไชยวัฒนาราม เป็นเจดีย์ที่ใหญ่กว่าทุกๆเจดีย์คู่หน้าทุกวัดในประเทศไทย ขนาดของเจดีย์คู่หน้าวัดไชยวัฒนารามนี้มีขนาดเท่าๆกันหรือใกล้เคียงกันกับเจดีย์คู่หลังวัดชุมพลฯ

​

ความเชื่อมโยงสอดคล้องของพระเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองทั้งสองคู่ คือคู่ที่หน้าโบสถ์วัดไชยวัฒนาราม กับคู่หลังโบสถ์วัดชุมพลฯ มีความหมายเชื่อมโยงกัน คู่หน้าวัดไชยวัฒนาราม บ่งบอกว่าเจดีย์คู่นี้อุทิศพระราชกุศลถวายสมเด็จพระราชบิดาและพระราชมารดา ส่วนเจดีย์คู่หลังโบสถ์วัดชุมพลฯเป็นเจดีย์เก็บอัฐิ จึงน่าจะหมายถึงเป็นเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระราชบิดาและพระอัฐิของพระราชมารดาในสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง

​

ทั้งขนาดและรูปลักษณ์สอดคล้องกันทั้งสองแห่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านสถาปัตยกรรมและความหมายที่เชื่อมโยงกัน .... โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านค่ะ

 

เคยทราบมาว่าผู้ที่เคารพบูชาในองค์สมเด็จพ่อพระนเรศเป็นเจ้าและมีวัตถุมงคลเกีย่วกับพระองค์ท่านไว้บูชามักจะแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายเสมอๆ เช่น มีนักดาบที่แสดงถวายพระองค์ท่านถูกดาบฟันแต่ก็ไม่เข้า

ตัวกระผมเองก็เคยมีประสบการณ์ทำนองนี้เช่นกันคือ ล้มหัวเกือบฟาดกับผนังห้องซ้อมระหว่างซ้อมมวยไทย แต่ก็รอดมาได้ราวปาฏิหารย์โดยไม่มีบาดแผลใดๆ ซึ่งผมเชื่อว่าเป็นเพราะพระบารมีแห่งองค์สมเด็จพ่อพระนเรศเป็นเจ้าท่าน

อยากฟังประสบการณ์แบบนี้จากท่านอื่นๆบ้างครับ

 

ขออนุโมทนา สาธุ ค่ะ ทำงานถวาย ........ขุนหอคำตองเจ..... ด้วยกันนะพี่หมอกแต่หว่า

หมายถึงมือหนึ่งมือสองด้านใดหรือท่านพี่หมอก ยิ่งใกล้ตรุษจีนอยู่ด้วย พอเห็นรูปคุณไก่เหลืองเข้าไปอีก มือมีดหล่ะหวานี่เรา 55555


จากใจแฟนผู้กองกฤช หนูไม่รู้ว่าอันไหนพี่ ช่วยส่งซิกแนลมาอีกทีหนาพี่หนา

ป.ล. ทางสายธาตุอ่อนแอในการใช้ สระเอ กับสระแอ ดังนั้นจะเขียนผิดไปบ้างโดยเฉพาะชื่อพี่หมอกแต่หว่า ก็โปรดอภัย เขาเรียกว่าสับสนอยู่อย่างไรก็ยังเป็นอยู่อย่างนั้น พอบอกให้แก้มันก็สลับไปมาอยู่นั่น ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมใช้สระเอ กับสระแอ รวมถึงออกเสียงไม่ได้ตรงสักทีเหมือนกันค่ะ

 

<CENTER>มีอะไรบ้างที่ สมเด็จพระนเรศวรทรงโปรด กับคำตอบ ที่มูลนิธินักรบไทยฯ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา

</CENTER>

ผมผ่าน และเข้าไปร่วมงานกับมูลนิธินักรับไทยฯ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมาหลายครั้ง แต่แปลกตาล่าสุดก็คือเห็นภาพของหุ่นไก่ชน เรียงราย เต็ม เทวสถาน ที่ประดิษฐ์ หุ่นพระนเรศวร พระเอกาฯ และพรพี่นาง คำถาม เกิดขึ้นทันที ว่าทำไม่ ตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา มีคนไทย ในจังหวัดต่างๆ เดินทางมา กราบไหว้ ขอพร องค์สมเด็จพระนเรศวร เป็นจำนวนมาก แถมนำหุ่นไก่ชนมาถวาย หลังจากเคยเดินทางมาขอพร หรือบนบานสานกล่าว ไว้
ที่มูลนิธิมีพื้นที่ กว่า 20 ไร่ ตั้งอยู่ริมถนนเส้นตัดจากสวนสัตว์โคราชมา อำเภอโชคชัย ทางด้านซ้ายมือ เจตนา ของ พล.อ ณพล บุญทับ รองสมุหราชองค์รักษ์ในการ จัดตั้งเป็นสถานที่ รวบรวมข้อมูลของเหล่านักรบ ผู้กล้าของประเทศไทย เก็บบันทึก และจัดแสดงให้กับประชาชนที่ผ่านไปมาได้เข้ามาสืบค้น และชื่นชมพระบารมี โดยเฉพาะ พระมหากษัตริย์ของประเทศไทย ผู้เสียสละเลือดเนื้อ กอบกู้เอกราช สร้างชาติไทยมา อีกทั้งยังเป็นจุดช่วยส่งเสริม ผลิตภัณฑ์ ของศูนย์ศิลปาชีพ ฯ
<EMBED id=flash height=355 name=flash type=application/x-shockwave-flash pluginspage=http://www.macromedia.com/go/getflashplayer width=425 src=http://video.nationchannel.com/player.swf?file=http://video.nationchannel.com/data/1/2009/02/04/khi9ch9a9d7ebab8h8gge.flv&image=http://video.nationchannel.com/thump/1/2009/02/04/khi9ch9a9d7ebab8h8gge.jpg&autostart=false&showfsbutton=false allowscriptaccess="always" quality="high" loop="false" wmode="transparent">
คลิป ขอพร สมเด็จพระนเรศวรมหาราช กับสื่อ การถวาย ไก่ ช้าง ม้า ดาบ โดย คุณกุลิสราพ์ บุญทับ เลขาฯมูลนิธินักรบไทย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา​

�����ú�ҧ��� ����稾�й����÷ç��ô �Ѻ�ӵͺ �����ŹԸԹѡú���� �.⪤��� �.����Ҫ���� �ҡ���͡ ����๪��� oknation.net

 

พี่หมอกคะ หนูเข้าใจแล้วว่าทำไมพี่ถึงจำชื่อท่านเลขาฯมูลนิธิเป็น กุศลา ธ... อื่ม เข้าใจแล้วพี่ 55555

เรื่องมหัศจรรย์เกี่ยวกับพระบรมเดชานุภาพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ต้องให้พี่หมอกแต่หว่าเล่าให้ฟังค่ะคุณไก่เหลืองฯ ท่านสัมผัสเยอะ หรือจะเป็นคุณนายเจ๊โหน่งก็ไม่เบา น้องโมเยอีกคน สัมผัสกันได้แต่ไม่ค่อยจะเล่าเพราะเขากลัวว่าจะเป็นการไม่บังควร อันนี้แล้วแต่เจ้าของเรื่องจะเล่าหรือไม่เล่านะจ๊ะ ทางสายธาตุแค่ชี้โพรงให้กระรอก กระรอกไม่เข้าโพรงก็ไม่ว่ากระไร จะไปว่ากระไรได้หล่ะเจ้าคะ

------------------------------------------------------------------------------------------
คุณนายเจ๊โหน่ง เหรียญรุ่นปราบเซียน โอ๊ะๆมิบังอาจ ขอเพียงเซียนไม่สนใจก็พอ ปลอดภัยดี ราคาประหยัด อิอิ

-------------------------------------------------------------------------------------------

สวัสดีค่ะ ไปทำภารกิจชวนป๋วยปี่แป่กอ ก่อนนะคะ

 

เห็นพระพักต์ของพระองค์แล้ว น้ำตาไหลเลยอ่ะ ช่างงดงาม เกินคำบรรยาย

 

โอ้ยยยย ไม่ต้องย้ำ เรื่องหนักเรื่องเบา มันแสลงฟามรู้สึก หุ หุ เพราะอิช้านเป็นน้องมู๋ มิช่าย "กระรอก" 5 + 5 + 5 +

 

ถวายอาลัยหลวงตาบัว


<!-- main-content-block --><IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 504px; HEIGHT: 30px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/like.php?href=http://www.thaipost.net/news/310111/33638&layout=standard&show_faces=true&width=450&action=like&colorscheme=light&height=80" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME><!--31 มกราคม 2554 - 00:00-->

• บทบรรณาธิการ

31 มกราคม 2554 - 00:00


ข่าวการละสังขารของหลวงตามหาบัว "ญาณสัมปันโน" (พระธรรมวิสุทธิมงคล) เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด อ.เมืองฯ จ.อุดรธานี เมื่อเวลา 03.53 น.ของวันอาทิตย์ที่ 30 มกราคม 2554 ไม่เพียงพุทธศาสนิกชนนักปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเท่านั้น จะรู้สึกโศกาอาดูร ด้วยโลกแห่งธรรม ได้สูญเสียพระอริยสงฆ์ผู้ทรงคุณูปการอีกครั้ง แต่คนไทยทุกคนทั้งที่นับถือศาสนาอื่นๆ ก็มีความโศกเศร้าอาลัยต่อการจากไปไม่กลับของพระผู้ซึ่งเป็นตัวอย่างของผู้เสียสละและผู้นำในการช่วยชาติบ้านเมืองให้พ้นจากวิกฤติไม่มากไม่น้อยไปกว่ากัน
หลวงตามหาบัวนับเป็นต้นแบบของพระสงฆ์ในยุคโลกาภิวัตน์ ที่เชื่อมโยงโลกกรรมฐานกับโลกภายนอก ด้วยการระดมความช่วยเหลือจากพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ออกมากู้สถานการณ์บ้านเมืองจนสามารถหลุดพ้นหายนะทางเศรษฐกิจ โดยการเปิดโครงการช่วยชาติ ซึ่งวันนั้นเป็นวันที่ 12 เมษายน 2541 และหลวงตาได้เทศน์แก่ทุกคนที่สวนแสงธรรม ว่า
"(เวลานี้) น่าจะเป็นประวัติศาสตร์ก็ได้ในเมืองไทยของเรา ที่ว่าพระเป็นผู้นำนี่ไม่เคยมีนะ เริ่มมีหลวงตาบัวคนเดียวนี้แหละออกประกาศตนทีเดียวโดยไม่มีใครชักชวน ไม่มีใครบอกเล่า ด้วยอำนาจแห่งความเมตตาชักชวนเอง ดูสภาพของเมืองไทยแล้วพี่น้องชาวไทยทั้งหลายต่างคนต่างมีความทุกข์ร้อนทุกหย่อมหญ้ากันไปโดยลำดับลำดาไม่ว่าสถานที่ใด ก็ทนใจอยู่ไม่ได้ จึงต้องออกความคิด ความเห็นในแง่ต่างๆ ที่จะนำชาติไทยของเราให้เป็นไปด้วยความแคล้วคลาด ปลอดภัย หาทางใดก็ไม่เจอ ตามความสามารถความคิดอ่านของตัวเอง หาแล้วหาเล่า หาไม่เจอ สุดท้ายก็เลยต้องเอาหลวงตาบัวเป็นตัวประกัน นำพี่น้องทั้งหลายเพื่อจะบริจาคทรัพย์ที่มีอยู่ของตนเข้าช่วยชาติของเราด้วยความบริสุทธิ์ใจนี้แหละเริ่มต้นเหตุเป็นอย่างนี้จึงได้ออกประกาศตน"
จากวันนั้นซึ่งหลวงตาได้เคลื่อนทัพแห่งธรรมออกมาบิณฑบาตรกู้ชาติ จนถึงวันที่ 9 มกราคม 2553 มีรายงานข่าวสรุปว่า ท้องพระคลังหรือธนาคารแห่งประเทศไทยได้รับทองบริจาคตามโครงการของหลวงตาสูงถึง 12,050 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่าปัจจุบัน กว่า 14,000 ล้านบาท แต่หลวงตาก็มิได้หยุดความเมตตาและเสียสละที่มีต่อประเทศชาติบ้านเมือง เพราะแม้นละสังขารแล้วก็ได้กระทำพินัยกรรมระบุว่า
"...เมื่อข้าพเจ้ามรณภาพแล้ว ให้จัดการทรัพย์สินและทำงานศพข้าพเจ้าดังนี้ บรรดาทรัพย์สินที่มีอยู่แล้วในขณะที่ข้าพเจ้ามรณภาพ และบรรดาทรัพย์สินต่างๆ ที่จะได้รับบริจาคในงานศพของข้าพเจ้าให้จัดการดังนี้ ส่วนที่เป็นทองคำให้หลอมเป็นทองคำแท่ง ส่วนที่เป็นเงินไม่ว่าจะเป็นเงินสกุลใดให้นำเข้าซอทองคำแท่ง และให้นำทองคำแท่งไปมอบให้ธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อใช้เป็นเงินทุนสำรองเงินตราของธนาคารแห่งประเทศไทย"
ความเมตตาสงเคราะห์โลกของหลวงตามหาบัว จึงสมควรที่ทุกคนในสังคมไทยพึงน้อมนบบูชายกมือขึ้นเหนือเศียรเกล้ากราบถวายอาลัย ระลึกถึงท่านทั้งในฐานะพระนักปฏิบัติ ผู้สั่งสอนให้มนุษย์ได้เกิดปัญญาและดวงตาเห็นธรรม และที่สมควรต้องจดจำและบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทย คือโครงการที่หลวงตามหาบัวเป็นผู้นำทาง ชี้แสงสว่าง โดยใช้ธรรมะเป็นสื่อให้คนไทยทุกฝ่ายลุกขึ้นมาช่วยชาติ จนสามารถหลุดพ้นหายนะ
เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การถวายอาลัยด้วยเศียรเกล้าจะส่งผลให้หลวงตามหาบัวพบกับชีวิตหลังการละสังขารอย่างที่หลวงตาเคยประกาศชัดว่า "เรามีชีวิตอยู่นี้ เราทำด้วยเมตตา สงสารต่อโลก เราจะทำความดีให้โลกทั้งหลายได้เห็นเป็นตัวอย่าง เพราะหลังจากนี้แล้ว เราตายแล้ว เราจะไม่มาเกิดในโลกนี้อีกต่อไป เป็นตลอดอนันตกาล"..สาธุ

http://www.thaipost.net/news/310111/33638

 

[FONT=TH SarabunIT๙]สวัสดีค่ะ...คุณทางสายธาตุ [/FONT][FONT=TH SarabunIT๙]><O></O>[/FONT]
[FONT=TH SarabunIT๙]ท่านเจ้าอาวาสวัดตาลเอน ท่านมีความผูกพันกับสมเด็จพระนเรศวรเป็นอย่างมาก เอาไว้ให้ [/FONT]<ST1[FONT=TH SarabunIT๙]Florence[/FONT]</ST1[FONT=TH SarabunIT๙] 125 ขออนุญาตท่านก่อนนะคะ แล้วจะเล่าให้ฟัง พอดีช่วงนี้ท่านเข้ากรรมฐาน จนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 ค่ะ (กระซิบ...เล่าเรื่องตัวเองแทนไปก่อนได้ไหม๊คะ)<O></O>[/FONT]
[FONT=TH SarabunIT๙]<O> </O>[/FONT]
[FONT=TH SarabunIT๙]เห็นคุณทางสายธาตุเอ่ยถึงพนมทวน นึกขึ้นได้ว่า เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปกราบสมเด็จฯ ท่านที่พนมทวนเป็นครั้งแรก และได้พบกับวิทยากรท่านหนึ่ง เข้ามาทักทาย[/FONT][FONT=TH SarabunIT๙] <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com<ST1Florence</ST1</st1:City> 125 ว่า เหมือนเคยรู้จักกันมาเมื่อหลายร้อยปีก่อน ตอนนั้นได้แต่ยิ้ม ๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่ก็นึกอยู่ในใจว่าคุ้นท่านเหมือนกันทั้ง ๆ ที่ไม่เคยพบกันมาก่อน <O></O>[/FONT]

[FONT=TH SarabunIT๙]จนกระทั่งท่านได้บรรยายประวัติศาสตร์ของที่นั่น อยู่ ๆ ก็เกิดปิติขึ้น จนท่านต้องหยุดบรรยาย และอุทานว่า [/FONT][FONT=TH SarabunIT๙]“โอ๊ะ! คุณหนู” และท่องอะไรสักอย่างประมาณว่า “เอหิ ภูโต ...........” ตอนนั้นหูมันอื้อค่ะ ไม่ได้ยินอะไร มาได้ยินอีกทีตอนท่านถามว่า “คุณหนูใจดีแล้วหรือยัง” จากนั้นท่านก็บรรยายต่อจนจบ แล้วบอกว่า สมเด็จฯ ท่าน ให้มอบของบางอย่างให้ แต่ตอนนี้ท่านไม่ได้นำติดตัวมา คราวหน้าถ้าไปพนมทวนอีก ให้โทรศัพท์บอกท่านล่วงหน้าท่านจะเตรียมมาให้ และท่านต้องการพาไปสถานที่แห่งหนึ่งที่เกี่ยวกับพระองค์ท่านด้วย ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยรู้จัก รวมทั้ง เชิญชวนให้ไปร่วมงานที่พนมทวน ในวันที่ 26 เมษายน 2554 <ST1</ST1ด้วยค่ะ <O></O>[/FONT]
[FONT=TH SarabunIT๙]<O> </O>[/FONT]
[FONT=TH SarabunIT๙]พระสีวลี บารมี 3 พระองค์ [/FONT][FONT=TH SarabunIT๙]<O></O>[/FONT]

 

.....จึงไ้ด้ปรึกษา ท่านพี่จงรักภักดี .....

ครับ ได้โอกาสมารายงาน ได้ติดต่อประสานงานกับ คุณธนพล (คุณอู๋) เจ้าของโรงหล่อธนพล ที่มีผลงานเป็นที่รู้จักของชาวพลังจิต โดยเฉพาะกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ มีผลงานที่พอจะจำได้ สร้างพระพุทธรูปปางประทับยืนที่วัดริมทะเลสาปเชียงแสน เมื่อราว 3-4 ปีก่อน หล่อพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ประทับยืน) ที่วัดเวียงคำ (วัดเวียงกาขาว) หล่อพระบรมรูปฯประทับนั่ง ที่วัดเวียงเชียงรุ้ง ฯลฯ ปัจจุบันทราบว่ากำลังหล่อพระพุทธรูปองค์โตให้กับหลวงพ่อทวี ที่วัดแห่งหนึ่งที่เมืองแพร่ครับ (ขออภัยที่ไม่มีรายละเอียด)

สำหรับรายละเอียดของการดำเนินการสร้างพระพุทธหทัยนเรศวร คุณโมเย จะได้มาเรียนให้ทราบในโอกาสต่อไปครับ

 

[FONT=TH SarabunIT๙]ขออนุโมทนากับคุณดอกไม้เมืองบนนะคะ (พี่ น้อง ลูก หลาน ทหารพระองค์ดำ) [/FONT][FONT=TH SarabunIT๙]fficeffice" /><O></O>[/FONT]
[FONT=TH SarabunIT๙]<O> </O>[/FONT]
[FONT=TH SarabunIT๙]ขออนุโมทนากับคุณโมเย ขอให้ประสบความสำเร็จกับนิมิตเพลงพระเอกาทศรถนะคะ (รอบารมี 3 พระองค์อยู่ค่ะ) <O></O>[/FONT]
[FONT=TH SarabunIT๙]<O> </O>[/FONT]
[FONT=TH SarabunIT๙]พระสีวลี บารมี 3 พระองค์[/FONT][FONT=TH SarabunIT๙]<O></O>[/FONT]

 

สวัสดีครับคุณ Florence125 เข้ามาขอร่วมฟังด้วยครับ