เรื่องเด่น หลวงตาพระมหาบัว โปรดวิญญาณพ่อนุ่น ในเมืองนรก

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย แดนโลกธาตุ, 23 มกราคม 2011.

  1. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    a.jpg










    เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์จริงของคุณนุ่นที่หลายคนอาจจะไม่เชื่อ
    แต่ลองอ่านให้จบท่านอาจได้ข้อคิด อะไรหลายอย่างจากเรื่องนี้

    เล่าที่มาของนุ่น
    บ้านของนุ่นอยู่ในกรุงเทพฯ...


    ครอบครัวนุ่นจัดได้ว่าครอบครัวนุ่นมีฐานะครอบครัวหนึ่งเลยก็ว่าได้
    แม่และน้าของนุ่นเป็นพวกชอบเข้าวัดทำบุญมาก โดยเฉพาะวัดป่าบ้านตาด
    และสวนแสงธรรม



    ตั้งแต่มีโครงการณ์ช่วยชาติ ของหลวงตาบัว
    เข้าไปช่วยงานจนแทบจะเรียกว่าเป็นกิจกรรมหลักของชีวิตทีเดียว
    ส่วน ตัวพ่อและนุ่น แทบไม่เคยเข้าวัดเลย พ่อเป็นพวกติดเหล้า



    แต่ก็รักลูกมากจึงไม่ได้ไปกินเหล้านอกบ้าน
    แต่กินในบ้านเพื่อจะได้อยู่กับลูก
    และด้วยความสุดขั้วมาเจอกันทำให้พ่อและแม่นุ่นมีปากเสียงกันเป็นประจำ



    โดยพ่อก็จะต่อว่าแม่และลามไปถึงหลวงตาบัวถึงขนาดเรียกหลวงตาบัวว่า
    อีตาบัว
    นุ่นเองนอกจากจะสนิทกับพ่อมากกว่าแม่แล้วยังเห็นว่า
    แม่เอาแต่ทำบุญไม่สนใจพ่อและนุ่นเลย จึงเข้ากับพ่อเป็นปี่เป็นขลุ่ย
    ทุกข์สุดในชีวิต



    และด้วยการใช้ชีวิตอย่างที่กินเหล้า-สูบบุหรี่จัด
    ทำให้มะเร็งคร่าชีวิตพ่อไปก่อนเวลาอันควร
    นั่นเป็นเหตุให้นุ่นเป็นทุกข์ ทุกข์ที่สุดในชีวิตของนุ่น
    แม่พยายามหาเวลามาอยู่กับนุ่นมากขึ้น แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก
    ด้วยความคิดถึงพ่อทุกวันนุ่นต้องตื่นมาใสบาตรพระหน้าบ้าน เพื่ออุทิศให้พ่อ


    จนมาวันหนึ่งแม่จึงเอ่ยปากชวน นุ่นไปทำบุญ ประทายข้าว
    ที่วัดป่าบ้านตาด กับหลวงตาบัว


    ด้วยความอคติที่พ่อพร่ำสอนนุ่น ทำให้นุ่นปฏิเสธในฉับพลัน
    แม่จึงพยายามชี้แจงเหตุผลว่า ทำกับหลวงตาบัวได้บุญมาก พ่อเขาจะได้บุญมากไปด้วย
    หลังจากมีการทุ่มเถียงอยู่นาน แม่จึงใช้ไม้เด็ดว่า
    ถ้าทำกับหลวงตาแล้ว


    ถ้าพ่อไม่ได้รับบุญครั้งนี้ก็เลิกไปแม่ก็จะเลิกไปเหมือนกัน
    นุ่นจึงไปด้วยเพราะเหมือนรับคำท้า
    พอไปในงานนุ่นก็ไปช่วยในกลุ่ม กองเรือป้าป้อม
    และด้วยความที่มาเพราะคำท้าทำให้นุ่น หงุดหงิดกับการมาครั้งนี้ตลอดงาน




    พ่อมาหา

    หลังจากเสร็จงานก็กลับบ้านที่กรุงเทพฯ และคืนนั้นเองระหว่างที่นุ่นหลับอยู่
    แม่ก็เข้ามาปลุกนุ่นด้วยอาการตกใจอย่างมาก นุ่นตื่นเร็วพ่อมา
    และแม่ก็พาไปห้องแม่ซึ่งตอนนี้น้ามานอนด้วย
    เมื่อเข้าไปน้าพูดขึ้นว่า นุ่นมาหาพ่อหน่อย
    นุ่นจึงตวาดกลับไป เล่นบ้าอะไร เอาพ่อมาเล่นบ้าอะไร
    พ่อในร่างน้าก็พยายามพูดให้นุ่นเชื่อว่าเป็นพ่อจริงๆ ไม่ใช่น้า
    จน มีการนำเรื่องที่มีเฉพาะนุ่นกับพ่อที่รู้กันแค่สองคนมาถาม
    ซึ่งพ่อก็ตอบได้ นุ่นจึงลงใจวิ่งเข้าไปกอดพ่อในร่างของน้า
    หลังจากแสดงความรักและคิดถึงกันอยู่นานพ่อจึงเล่าเรื่องหลังความตายของพ่อ
    ให้ฟัง



    เรื่องหลังความตาย

    พ่อเล่าว่า
    พ่อเป็นคนที่ชอบดื่มเหล้า จึงถูกนำลงไปนรกไปกรอกน้ำทองแดง
    ระหว่างที่พ่อเข้าแถว พ่อเหลือบไปเห็นพระรูปหนึ่งเข้ามาอยู่ในบริเวณนั้น
    แล้วก็มีเสียงเรียก นายอำนวย...ออกมา
    พ่อไม่กล้าออกนอกแถว เพราะจะมีคนคอยเอาหอกแหลมแทงทะลุคนที่แตกแถว มันน่ากลัวมาก
    พอถึงคิวพ่อถูกกรอกน้ำทองแดง ก็มีแรงมหาศาลฉุดพ่อออกจากแถว พร้อมพูดว่า
    นายอำนวย...ออกมาถ้าเราสั่งแล้วไม่มีใครกล้าทำอะไรหรอก
    จำเราได้รึเปล่า
    จำไม่ได้ครับ
    เราอีตาบัวไง
    อีตาบัวที่อ๊อดชอบไปทำบุญบ่อยๆนะหรอกหรือครับ
    เอ่อนั่นแหละ
    เท่านั้นพ่อเข่าอ่อนเลย หลวงตาท่านทราบแต่ท่านไม่โกรธแต่ท่านกลับมาช่วย
    ต่อรองเจ้ากรรมนายเวร
    หลวงตาพาพ่อไปหาคนที่มีหน้าที่ดูแลบัญชีบุญบาปของมนุษย์
    แต่พ่อไม่ค่อยทำบุญบุญน้อย จึงไม่พอให้เจ้ากรรมนายเวร
    หลวงตาจึงให้เปิดบัญชีบุญของแม่ ซึ่งมีมากแต่ยังไม่พอ
    หลวงตาจึงว่า
    ให้ดูใหม่ มีบุญประทายข้าวด้วย
    เขาจึงเปิดอีกจึงพบและ หลวงตาให้เอาบุญนี้ให้เจ้ากรรมนายเวร
    ซึ่งทางโน้นก็พอใจจึงปล่อยตัวพ่ออกมาได้
    เรื่องของพ่อหลังพ้นจากนรก
    หลัง จากที่หลวงตาท่านช่วยพ่อของนุ่น
    วิญญาณเร่ร่อนของพ่อน่นจึงได้ไปอย่วัดป่าบ้านตาด
    ดังเช่นวิญญาณอีกจำนวนมหาศาลที่หลวงตาบัวช่วยให้พ้นจากนรก
    เหตุที่มาวัดป่าบ้านตาดเพราะจะได้คอยอนุโมทนากับคนที่มาทำบุญที่วัด
    รวมไปถึงมีการพัฒนาคุณภาพวิญญาณ
    ให้มีมีบุญกุศลและความดีพอที่จะยกชั้นภูมิได้
    หากวิญญาณไหนโชคดีมีญาติมาปฏิบัติธรรมก็จะเปลี่ยนภพภูมิได้เร็ว
    พ่อนุ่นยังเล่าต่ออีกว่าผ้าบังสุกุล ที่แม่กับนุ่นทำไปทอดทิ้งไว้
    พ่อได้รับแล้ว เวลาร้อนก็อาศัยกันร้อนได้ เวลาหนาวก็อาศัยห่มได้




    นั่งสมาธิให้พ่อด้วย

    เนื่องจากภพภูมิที่พ่ออยู่ไม่เหมือนภพภูมิมนุษย์ เป็นภพที่ยังทุกข์อยู่มาก
    หากวันไหนนุ่นนั่งสมาธิแล้วอุทิศบุญให้พ่อ พ่อก็จะรู้สึกสบาย
    นุ่นจึงรับปากพ่อว่าจะนั่งสมาธิให้ทุกวัน ซึ่งหลังจากรับปากพ่อแล้ว
    นุ่นก็จะนั่งทุกวันซึ่งเป็นเวลาเดิมทุกวัน
    แต่มีอยู่วันหนึ่งนุ่นได้ไปช่วยงานหลวงตา
    เมื่อเลยเวลานั่งสมาธินุ่นก็รู้สึกถึงอาการคันและเจ็บยิบๆเหมือนใครเอาเข็มมาจิ้ม
    พอนึกขึ้นได้ว่าเลยเวลานั่งสมาธิแล้วจึงพูดออกไปว่า เสร็จงาน
    กลับบ้านแล้วจะไปนั่งสมาธิให้พ่อเท่านั้นแหละอาการก็หายไป
    หลังจากนั้นไม่นานพ่อก็มาแฝงน้าอีก
    นุ่นจึงถามพ่อว่าเรื่องที่คันยิบๆนั่นฝีมือพ่อรึเปล่า
    ซึ่งพ่อก็รับว่าใช่

    หลวงตาเลื่อนงานประทายข้าว
    มีอยู่ปีหนึ่งหลวงตาท่านเลื่อนงานประทายข้าวให้มาเร็วขึ้น
    ราว1อาทิตย์ โดยท่านให้เหตุผลว่า อาทิตย์ที่เลื่อนไปท่านจะไปทำธุระ
    นุ่นเองก็ได้ถามกับพ่อที่แฝงมาที่ร่างของน้า ถึงสาเหตุที่แท้จริง
    พ่อจึงตอบว่า
    ที่หลวงตาเลื่อนเพราะกำหนดการ
    งานประทายข้าวเดิมตรงกับวันตัดสินของทางนรกหลวงตาจึงเลื่อนให้เร็วขึ้นเผื่อจะมีญาติของใคร
    ทำบุญให้คนที่ตกนรกหลวงตาจะได้ใช้บุญที่ญาติอุทิศไปให้ใช้ในการต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวร




    พ่อบุญพอแล้ว

    [FONT=&quot]หลัง จากที่พ่อมาแฝงร่างน้าครั้งแรก นุ่นและแม่ได้เพียร
    ทำบุญกับหลวงตา รักษาศีล นั่งสมาธิ เพื่ออุทิศบุญให้พ่อ
    ซึ่งระหว่างนั้นพ่อก็เข้ามาแฝงน้าเป็นระยะๆ
    จนกระทั่งวันหนึ่ง พ่อมาบอกนุ่นว่า
    หลวงตาบอกพ่อมีบุญพอแล้วที่จะเปลี่ยนภพภูมิไปเมืองสวรรค์ให้ไปตัดอาลัยทั้งหมดให้ได้จะพาไปภพภูมิที่ดีกว่า
    ตอนนี้พ่อเหลือห่วงคือลูกคนเดียวแต่ยังไงก็จะมาลาลูก
    นุ่นได้ยินดังนั้นก็ร้องห่มร้องไห้ แล้วพูดว่า นุ่นไม่ยอม
    นุ่นไม่ยอมให้พ่อไปไหน พ่ออยู่อย่างนี้นุ่นยังได้เจอเวลาพ่อมาแฝงน้า
    พ่อก็พูดทั้งน้ำตาว่า
    น้ำตาของลูกในโลกวิญญาณมันท่วมเป็นทะเลมหาสมุทรแล้วแล้วพ่อก็เงียบไป
    นุ่นเล่าเรื่องนี้ให้แม่และน้าฟัง ทั้งสองจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้
    นุ่น ทำใจเพื่อไม่ให้ขวางทางพ่อ ที่จะไปดี
    และพ่อก็มาอีก แต่คราวนี้นุ่น ทำใจได้แล้วและหลังจากนั้น
    พ่อก็ไม่เคยมาแฝงน้าอีกเลย
    [/FONT]


    [FONT=&quot]เรื่องราวหลังจากนั้นและบทสรุป[/FONT]

    หลังจากนั้นนานมากแล้ว นุ่นก็ยังทำใจไม่ได้ ยังแอบร้องไห้คิดถึงพ่อเป็นประจำ
    ซึ่งมีวันหนึ่ง นุ่นไปกราบหลวงตาที่สวนแสงธรรม
    นุ่นนั่งอยู่ด้านล่างกุฏิหลวงตาขณะฟังเทศน์หลวงตา
    ด้วยความทุกข์ใจที่ยังตัดอาลัยไม่ขาดนุ่นจึงก้มหน้าและร้องไห้ออกมา
    แต่เป็นการร้องแบบเงียบๆไม่ได้รบกวนใคร
    ซักพักก็มีแม่ชีคนหนึ่งเดินเข้ามาลูบหลัง แล้วพูดขึ้นว่า
    พ่อหนูให้ฉันมาบอกว่า ตอนนี้พ่ออยู่สวรรค์แล้วสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง
    นุ่น ถึงกับสะดุ้ง เพราะที่ร้องไห้เป็น การก้มหน้าแล้วน้ำตาไหล
    ซึ่งถ้าไม่มีใครมานั่งจ้องหน้าจริงๆก็จะไม่เห็น อีกทั้งเป็นเวลาค่ำแล้ว
    และต่อให้เห็นก็ไม่มีใครรู้ได้หรอกว่า นุ่นร้องไห้เรื่องอะไร
    แต่แม่ชีที่ไม่เคยเห็นหน้าคนนี้พูดตรงกับเรื่องของนุ่น
    ซึ่งมันไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญ


    หลังจากคราวนั้นนุ่นก็ทำใจได้ และตั้งใจทำบุญเหมือนเดิม เพราะนุ่นเชื่อแล้ว
    เชื่อในบุญในบาป


    เชื่อในหลวงตามหาบัว
    แล้ววันนี้ท่านเชื่อรึยัง..????



    qsquขอขอบคุณข้อมูลจาก : เมื่อหลวงตามหาบัวโปรดพ่อในนรก<!-- google_ad_section_end -->






    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">
    เมื่อหลายท่านได้อ่านแล้ว ก็ควรที่จะหาโอกาสไปร่วมบุญในงานประทายข้าวเปลือกวัดป่าบ้านตาด ให้ได้ในปีนี้เพราะท่านเข็นสังขารมานานแล้วด้วยพลังแห่งอิทธิบาท 4 ไม่รู้ท่านจะอยู่กับเราอีกนานไหม เพราะฉะนั้นเมื่อมีงานอะไรเกี่ยวกับองค์หลวงตามหาบัว ก็ควรที่จะรีบไป ยิ่งท่านอาพาธด้วยแล้วยิ่งควรจะไปใหญ่เลยเพราะมัวแต่ผัดวันประกันพรุ่งแล้วจะเสียใจ

    6612_298.jpg


    ไปแน่นอนครับ
    เพราะหลวงตา ท่านเข็นสังขารมานานแล้ว กลัวท่านจะละไป
    กลัวจะได้ร่วมงานครั้งนี้เป็นครั้งท้าย ดังนั้นเราจะรู้หราว่าท่านจะอยู่ถึงวันงาน แผ่เมตตาสามแดนโลกธาตุ เดือนพฤษภาคม และงานครบรอบ 98 ปี
    อย่ามัวรีรอเรยไปร่วมงานกันครับ
    ผมจะไปตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. เลยครับ

    ไปเจอกันครับที่วัดป่าบ้านตาด<!-- google_ad_section_end -->



    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. nantapong

    nantapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    913
    ค่าพลัง:
    +2,154
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

    วันที่ 12 กุมภาพันธ์ นี้ ถ้ามีโอกาส ผมคงได้ไปงานบุญประทายข้าวเปลือกที่วัดป่าบ้านตาด เพราะ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ ผมอาจจะได้ไปงานบุญประทายข้าวเปลือกที่ วัดป่าดานวิเวก
    (หลวงปู่ทุย) ที่ จ.หนองคาย ครับ


    หากใครไม่มีภารกิจอะไร ก็ไปร่วมอนุโมทนาบุญงานทำบุญประทายข้าวเปลือก ของทั้งสองวัดกันได้นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2011
  3. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    สาธุครับ คุณ nantapong อย่ามเก็บภาพงาน ลป.ทุยมาฝากน่ะ อ่อหรือว่าท่านไม่ให้ถ่ายภาพในวัด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2011
  4. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
  5. nantapong

    nantapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    913
    ค่าพลัง:
    +2,154
    ห้ามถ่ายภาพในวัดครับ เหอะๆๆ

    แต่วันงานหลวงปู่ฟักนี่สิ ห้ามยังไงก็ไม่อยู่ ถือว่าเป็นวันเปิดตัวของหลวงปู่ทุยเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2011
  6. แดนโลกธาตุ

    แดนโลกธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2006
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +23,976
    อืมใช่ ยังไงก็ยังอยากไปงานประทายข้าวเปลือกหลวงปู่ทุย ทำไงดีน๊า อยากมีสองร่างจัง เห่อะๆๆๆ
     
  7. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    *
    [​IMG]

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     
  8. ไข่เค็ม

    ไข่เค็ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +121
    ไปยังไงอะครับ ถ้านั่งรถโดยสารต้องไปลงรถ ต่อรถที่ไหน ทั้งวัดป่าบ้านตาด และวัดป่าด่านวิเวก ผมไม่เคยไปเลยครับ
     
  9. makcloud

    makcloud เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +535
    ผมก็อยากไปแต่ผมเก็บเงินไว้สำหรับทำสังฆทานตอนเดือนมีนาคม ใครไปผมก็อนุโมทนา สาธุ ด้วยครับ
     
  10. ล้างจิต

    ล้างจิต สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +24
    อนุโมทนา สาธุค่ะ

    อยากไปงาน ประทายข้าวเปลือกของหลวงตามหาบัว

    จังเลย บุญจะถึงไหมเนี่ย
     
  11. Nuk036

    Nuk036 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +99
    ผมร่วมทำบุญด้วยครับ

    โอนตังค์เรียบร้อยแล้ว กับคุณณัฐวุฒิ ส่งข้อความทาง อีเมลลล์แล้ว
     
  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +70,432
  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +70,432
    “บุญประทายข้าวเปลือก ตามตำนานของอุรังคนิทานหรือตำนานพระธาตุพนม”
    ตามอุรังคนิทานหรือตำนานพระธาตุพนมกล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้า ได้เสด็จตามลำน้ำโขงมาที่หนองคันแทเสื้อน้ำ (เมืองเวียงจันทร์) พระบาทโพนฉัน ตรงข้ามอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย พระบาทเวินปลา (พระพุทธบาทท่าอุเทน) จังหวัดนครพนม ภูกำพร้า จังหวัดนครพนม พระธาตุอิงฮัง เมืองสุวรรณเขต ประเทศลาว และพระธาตุเชิงชุม จังหวัดสกลนคร เป็นต้น
    หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพาน แล้ว ในปีพ.ศ.๘ พระมหากัสสปะพร้อม พระอรหันต์๕๐๐ องค์ได้อัญเชิญพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้ามาประดิษฐานไว้ที่ภูกำพร้า และมีการสร้างสถูปหรือเจดีย์บรรจุไว้ปัจจุบันคือพระธาตุพนม จังหวัดนครพนม
    การที่ชาวอีสานได้นับถือพระพุทธศาสนามาแต่ครั้งสมัยพุทธกาลดังกล่าวแล้ว นักปราชญ์อีสาน ได้นำเอาหลักธรรมะคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาผสมผสานเข้ากับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ และการดำรงชีพ จนกระทั่งมีการพัฒนาเป็นระเบียบหรือข้อวัตรสำหรับให้บุคคลในสังคมปฏิบัติ จนกลายเป็นประเพณีและวัฒนธรรมที่สืบทอดติดต่อกันมาหลายชั่วอายุคน และเป็นการยากที่จะหาได้ ในภาคอื่นของประเทศไทย
    หลักธรรมะคำสอนของพระพุทธเจ้าที่กลายเป็นประเพณีและวัฒนธรรมของชาวอีสานดังกล่าว ได้แก่ ฮีตสิบสอง คลองสิบสี่ ฮีตสิบสอง
    ซึ่งคำว่า ฮีต หมายถึง จารีต ที่ปฏิบัติกันในหมู่ชาวอีสาน
    ซึ่งเป็นจารีตของการ ทำบุญในรอบปีตลอดเวลา ๑๒ เดือน
    โดยเริ่มตั้งแต่เดือนอ้าย คือ ธันวาคม ได้แก่
    ๑. เดือนอ้าย บุญเข้ากรรม
    ๒. เดือนยี่ บุญคูณลาน
    ๓. เดือนสาม บุญข้าวจี่
    ๔. เดือนสี่ บุญพระเวส
    ๕. เดือนห้า บุญสงกรานต์
    ๖. เดือนหก บุญบั้งไฟ
    ๗. เดือนเจ็ด บุญซำฮะ เป็นการล้างสิ่งที่เป็นเสนียดจัญไรต่างๆ
    ๘. เดือนแปด บุญเข้าพรรษา
    ๙. เดือนเก้า บุญข้าวประดับดิน เป็นการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่เปรต
    ๑๐. เดือนสิบ บุญข้าวสาก เป็นการทำบุญถวายสลากภัต
    ๑๑. เดือนสิบเอ็ด บุญออกพรรษา
    ๑๒. เดือนสิบสอง บุญกฐิน คลองสิบสี่
    บางทีเขียนหรือออกเสียงเป็น คองสิบสี่ เป็นข้อปฏิบัติคู่กับฮีตสิบสอง มาจากคำสองคำ ได้แก่ คลอง คือคำว่า ครรลอง ซึ่งหมายถึง ธรรมเนียมประเพณีหรือแนวทาง และ สิบสี่ หมายถึง ข้อวัตรหรือแนวทางปฏิบัติสิบสี่ข้อ
    ดังนั้นคลองสิบสี่จึงหมายถึง ข้อวัตรหรือแนวทางที่บุคคลทุกระดับ นับตั้งแต่พระมหากษัตริย์ผู้มีหน้าที่ปกครองบ้านเมือง พระสงฆ์และคนธรรมดาสามัญพึงปฏิบัติสิบสี่ข้อ“คลอง” ตามความหมายของพระอริยานุวัตร
    บางครั้งเรียกว่า คลอง- เจ้าคลองขุน หรือ คลองท้าวคลองเพีย แต่ละข้อมีคำว่าฮีตนำหน้าด้วย (ทำให้ เกิดความสับสนกับฮีตสิบสอง) แต่ละคลองจะมีสิบสี่ฮีต ยกเว้น ฮีตปีคลองเดือน จะมีเพียงสิบสองฮีต ซึ่งนั่นก็คือฮีตสิบสองที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น คลองประกอบ ด้วย
    ๑. ฮีตเจ้าคลองขุน
    ๒. ฮีตท้าวคลองเพีย
    ๓. ฮีตไพร่คลองนาย
    ๔. ฮีตบ้านคลองเมือง
    ๕. ฮีตปู่คลองย่า
    ๖. ฮีตตาคลองยาย
    ๗. ฮีตพ่อคลองแม่
    ๘. ฮีตใภ้คลองเขย
    ๙. ฮีตป้าคลองลุง
    ๑๐. ฮีตลูกคลองหลาน
    ๑๑. ฮีตเถ้าคลองแก่
    ๑๒. ฮีตปีคลองเดือน (ฮีตสิบสอง)
    ๑๓. ฮีตไฮ่คลองนา
    ๑๔. ฮีตวัดคลองสงฆ์
    เดือนยี่ หรือ เดือน ๒ บุญคูณลาน ลาน ในที่นี้คือ ลานนวดข้าว คือ เอาข้าวที่เก็บเกี่ยวแล้วมากองให้สูงขึ้น กริยาที่ทำให้ข้าวเป็นกองสูงขึ้น เรียกว่า คูณ หลังเก็บเกี่ยวข้าวในนาแล้วก็จะอยู่ในช่วงเดือนยี่หรือเดือนสองหรือเดือนมกราคม
    ชาวนาก็จะทำบุญคูณลาน หรือเรียกว่า บุญเดือนยี่ ก็ได้ มูลเหตุที่มีการทำบุญคูณลานนั้นมีว่า ในสมัยพระกัสสปพุทธเจ้า มีชาย พี่น้องสองคนทำนาร่วมกัน พอข้าวออกรวงเป็นน้ำนม น้องชายอยากทำข้าว มธุปายาสถวายพระสงฆ์ซึ่งมีพระกัสสปพุทธเจ้าเป็นประธาน และได้ชวนพี่ชาย แต่พี่ชายไม่ทำ จึงตกลงแบ่งนากัน เมื่อน้องชายได้กรรมสิทธิ์ในที่นาแล้วก็ทำทานถึง ๓ ครั้ง คือ ตอนที่ข้าว เป็นน้ำนม ๑ ครั้ง ฟาดข้าว ๑ ครั้ง และขนข้าวขึ้นยุ้งอีก ๑ ครั้ง
    ในการถวายทาน ทุกครั้งได้ตั้งความปรารถนาเป็นพระอรหันต์ ครั้นถึงสมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โคดมก็ได้เกิดเป็นพราหมณ์ชื่อ โกญฑัญญะ ได้ออกบวชเป็นปฐมสาวก แล้วก็ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ ส่วนพี่ชายถวายข้าวเพียงครั้งเดียวคือในเวลานวดข้าว เสร็จแล้ว และได้ตั้งความปรารถนาเป็นพระอรหันต์เช่นกัน และต่อมาได้เกิด เป็นสุภัททปริพาชก ได้บวชในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโคดมเช่นกัน แต่ไม่มีโอกาสเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า คงเพียงได้กราบบังคมทูลถามข้อสงสัย ในขณะที่พระพุทธเจ้าใกล้ปรินิพพาน เมื่อได้ฟังพระดำรัสแล้วก็สำเร็จเป็น พระอนาคามีและเป็นพระอรหันตสาวกองค์สุดท้ายในสมัยพุทธกาล
    จากพุทธประวัติดังกล่าวจึงเป็นที่มาของชาวอีสานในการทำบุญคูณลานหรือบุญประทาย ข้าวเปลือก พิธีทำบุญคูณลาน ในตอนเย็นนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ตอนเช้า ถวายภัตตาหาร เทศนาฉลองสู่ขวัญลาน เลี้ยงอาหารแก่ผู้ไปร่วมพิธีพระสงฆ์ อนุโมทนา ประพรมน้ำมนต์ เอาน้ำมนต์ไปประพรมข้าว วัว ควาย เชื่อว่าเจ้าของจะอยู่เย็นเป็นสุข ฝนจะตกต้องตามฤดูกาล ข้าวกล้าจะงอกงามและ ได้ผลดีในปีต่อไป
    เมื่อเสร็จพิธีจึงขนข้าวใส่ยุ้งและเชิญขวัญข้าว คือ เชิญเจ้าแม่โพสพไปยังยุ้งข้าวการทำบุญคูณลานนี้ทำขึ้นเฉพาะนาใครนามัน แต่ถ้าทำส่วนรวมเรียกว่า บุญกุ้มข้าวใหญ่ (คำว่า กุ้มข้าวใหญ่ หมายถึง กองข้าวเปลือกขนาดใหญ่) โดย คนทั้งหมู่บ้านนำข้าวเปลือกมารวมทำบุญด้วยกัน มีการนำดอกไม้ธูปเทียนมา รวมกัน มารับศีลฟังธรรมถวายภัตตาหารพระสงฆ์ ที่ศาลาโรงธรรมหรือศาลา กลางบ้าน สำหรับชีวิตพระขององค์หลวงตานั้นเกี่ยวข้องกับบุญคูณลานมาตั้ง แต่พรรษาแรกดังที่กล่าวไว้ในบทต้นๆ ของหนังสือ






    #บุญประทายข้าวเปลือกวัดป่าบ้านตาด
    #วัดป่าบ้านตาดวัดเกสรศีลคุณ





    #บุญประทายข้าวเปลือกวัดป่าบ้านตาด
    #วัดป่าบ้านตาดวัดเกสรศีลคุณ
     
  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,190
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,103
    ค่าพลัง:
    +70,432
     

แชร์หน้านี้

Loading...