การปฏิบัติสมาธิเพื่อสุขภาพกายและจิตให้เหนือธรรมดาตามในทางพุทธศาสนา

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย visnu, 4 ตุลาคม 2010.

  1. เ่ต่าโบราณ

    เ่ต่าโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    713
    ค่าพลัง:
    +3,624
     
  2. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ขอลองขยายความซักนิดนะคะ ไม่ทราบว่าจะถูกหรือไม่ อย่างไร

    ตัวเองมักจะพิจารณาโดยเปรียบเทียบกับระบบคอมพิวเตอร์
    เพราะรู้สึกว่าเห็นภาพชัดเจนดี

    ถ้าคอมพิวเตอร์ตั้งอยู่เฉยๆ ก็ไม่เกิดงานอะไรใช่มั้ยคะ
    เราจะใช้งานคอมพิมเตอร์ได้ ก็ด้วยการป้อนคำสั่งเข้าไป
    ช่องทางการรับคำสั่ง ก็แล้วแต่ค่ะ อาจจะเป็นการพิมพ์
    ผ่านคีย์บอร์ด เม้าส์ อะไรก็ว่าไป ซึ่งเราเรียกการรับข้อมูล
    เข้านี้ว่า Input

    เราก็มีช่องทางรับข้อมูลจากภายนอกหรือ Inputเหมือนกัน
    ผ่านทาง ตา หู จมูก ลิ้น ร่างกาย และ จิตใจ

    พอ Input ลงคอมฯ คอมฯมันก็จะตอบสนองอะไรๆก็ว่าไป

    จริงๆแล้วตอนที่เรา ใส่ Input ลงคอมฯนั้น มันไม่รู้ทันทีหรอกนะคะ
    ว่าจะต้องตอบสนองกลับอย่างไร ต้องมีการโปรแกรมเอาไว้ก่อน
    หน้าที่ของพวกโปรแกรมเมอร์ล่ะค่ะ

    พูดเป็นขั้นตอนง่ายๆก็คือว่า
    Input(ภาษาคน)--->แปลงภาษาคนเป็นภาษาเครื่อง--->เช็คเงื่อนไขในฐานข้อมูล--->ตอบสนองกลับมา
    ขบวนการที่ว่า เกิดขึ้นในเสี้ยววินาที

    ตัวฐานข้อมูล จะเก็บข้อมูลทุกอย่าง ว่าถ้ารับ Input มาอย่างนี้
    จะตอบยังงัยกลับไป

    ในตัวเราก็มีฐานข้อมูลเหมือนกัน แต่ฐานข้อมูลของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
    เพราะนอกจากเราจะเก็บข้อมูลพื้นฐานตามธรรมชาติแล้ว
    มันยังมีข้อมูลที่มาจากประสบการณ์ และทัศนะคติส่วนตัว

    ช่องทางการ Input(ตา หู จมูก ลิ้น ร่างกาย และ จิตใจ)มันทำหน้าที่
    ตามธรรมชาติ เราจะไปห้ามไม่ให้มันทำหน้าที่ก็ไม่ได้ (จริงๆก็นับว่า
    เป็นบุญแล้วที่มันยังทำหน้าที่อยู่) เพียงแต่เราต้องรู้ให้ทัน ว่ามันทำ
    ตามหน้าที่

    แต่ปัญหาก็มาเกิดเอาหลังจากนั้น แค่เสี้ยววินาทีที่รับ Inputมา
    แล้วไปประมวลผล สุขเกิด ทุกข์เกิด

    ขั้นต้นๆ ก็ตอบสนองมาทาง จิตใจและอารมณ์ ถ้าแรงขึ้นมาหน่อย
    ก็ตอบสนองเป็นการกระทำ และวาจา (เกิดเป็นกรรมต่อๆไปอีก)

    เสี้ยววินาทีแห่งการแปลผลนี่กระมัง ที่เราควรพิจารณาให้ชัด
    แบบภาพสโลวโมชั่น จนเห็นต้นตอแห่งปัญหาแล้ว ก็ให้ดับ
    ที่ต้นตอเสีย

    โดยระลึกไว้เสมอว่า ทุกอย่างนั้นล้วนต้องเปลี่ยนแปลง
    เราไม่สามารถบังคับให้อะไรๆเป็นอย่างใจเราได้
    ควรบังคับตัวเอง และเปลี่ยนแปลงที่ตัวเองง่ายกว่า
     
  3. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    เป็นหวัดคัดจมูกอยู่ค่ะ แต่ว่าก็พยายามนั่ง
    ตอนเช้าก่อนไปทำงานคิดว่าขอนั่งสัก5-10นาทีก็ยังดี
    เลยได้นั่ง ถึงจะแป๊บเดียวก็ขอนิ่งสุดๆ

    นั่งไปผมที่กระหม่อมก็ขยับๆแต่ไม่สน ขอนิ่ง
    พอเสร็จได้ยินเสียงข้างบ้านคุยกัน แต่มีอีกเสียงเหมือนพระท่านให้พรสั้น
    สำหรับคนใส่บาตร เราก็เอ...แถวนี้ไม่มีพระผ่านนี่นา อีกที่ก็ไกลเกือบกิโล
    อิอิ....เลยสาธุ ตอนท่านอายุวรรณโณ สุขังพลัง หูแว่วก็แว่วแบบดีอะเนาะ
     
  4. Mhor Maow

    Mhor Maow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +836
    ครับ ขอบคุณครับ

    1 คือไม่กี่วันมานี่ผมเริ่มหยิบเรื่ิอง รูป เวทนา สังขาร สัญญา วิญญาณ มาพิจารณาเพิ่มในปัจเจกเวทน์ คือพิจารณาเท่าที่ทำได้ครับ คือก็ทราบตัวเองว่าสมาธิเรายังไม่สูงพอ ที่จะพิจารณาลึกซึ้งถึงต้นตอ แต่ก็ต้องทำต่อไปตามความสามารถที่มีอยู่ครับ

    2 ในส่วนของ เวทนาที่เกิดปวดหลังนั้น มันเกิดขณะที่เรา ภาวนา ตามบท 1 หรือ บท 2 ยังไม่เสร็จครับ อันนี้มันเกิดขึ้นมาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ผมก็เลยขันติไป จับอารมณ์ตอนเปลี่ยนภาวนาเอาไว้ก่อน ให้มันจบภาวนาซะก่อน

    แต่ว่าช่วงภาวนาท้าย ๆ ดันเกิดอาการปวดขาขึ้นมาเมื่อจบภาวนา ตามสมควรแล้ว มันก็จะมีทั้ง ปวดขา และปวดหลังเพิ่มขึ้นมา ที่นี่ผมเห็นว่า อารมณ์ของเวทนา ปวดขามันมากกว่าปวดหลังชัดเจนผมก็เลย พิจารณาเวทนาเฉพาะจุดเดียว

    ที่นี่ที่ท่าน อ. บอกเพิ่มเติมนั่น เหมือนให้พิจารณาเวทนาไปทีละอย่างใช่มั้ยครับ ถ้ามีอาการปวดหลังขึ้นมา ก็ให้พิจารณาเหมือนกับที่ปวดขาก่อน ถึงอารมณ์ปวดขามันมากกว่าก็ให้พิจารณาปวดหลังให้เสร็จก่อนให้รู้ว่ามันปวด มันเป็นเวทนาทางกาย

    ที่นี่ในทางที่จะปฏิบัติมันลำบากนิดนึง จึงเกิดคำถามมาว่า

    - เมื่อเกิดอาการปวดหลังขึ้นมาแล้วในขณะที่กำลังภาวนายังไม่ครบหรือเสร็จ ให้เพิกจากภาวนา มาจับอารมณ์ปวดหลังเลย หรือไม่

    อันนี้มันก็จะเกิดคำถามต่อไปอีกว่า เราจะพิจารณาถึงจุดไหนให้รู้ว่าพิจารณาพอ หรือว่าจับอารมณ์ให้มันรู้ว่าปวด แต่กลับไม่รู้สึกว่า ความรู้สึกนี้เป็นทุกข์ พอรู้สึกอย่างนี้แล้วก็มาภาวนาต่อให้เสร็จหรือป่าว

    - เมื่อเกิดอาการปวดหลังขึ้นมาแล้วในขณะที่กำลังภาวนายังไม่ครบหรือเสร็จ ให้ดูให้รู้ว่ามันปวด มันเวทนา อันเกิดแต่ทุกข์ สักครู่นึง แล้วกลับมาภาวนาต่อให้ครบหรือเสร็จ แล้วกลับมาทีหลัง

    **หมายเหตุ ตอนนี้ยังไม่ขอตั้งคำถามที่จะเกิดขึ้นของความเกี่ยวเนื่องของคำถามข้างบน ที่โยงมาเกี่ยวพันกับอาการปวดขา ที่มีกำลังมากกว่าเยอะ และต้องพิจารณาอีก จะรอคำตอบจากข้างบนก่อน ว่าจะสามารถคลี่คลายปัญหาคำถามพัวพันที่จะเกิดกับ เวทนา ปวดขาได้หรือไม่

    ข้อคิดเห็นของคุณ Lazaza ข้างบนผมก็เข้าใจตามนั้นครับ ผมก็พิจารณาเป็นปัจเจกเวทน์อยู่แล้ว ครับ แต่โดยขณะนี่ผมเน้นที่เวทนาครับ พิจารณาให้รู้ไปเลยว่า ไอ้ความปวด ความสุขจากอารมณ์ต่าง ๆ ทำไมจิตเราที่รับรู้ว่า อันนี่ สุข นะ อันนี่ทุกข์ นะ
    อาการปวดขาที่เกิดขึ้น ความรู้สึกแบบนี้ ทำไมเราถึงรู้สึกทุกข์นะ ทุกข์มันอยู่ตรงไหน ปวดมันอยู่ตรงไหน ความปวดมันก็มองไม่เห็น ทุกข์ก็มองไม่เห็น แล้วทำไมเราถึงรู้สึกเช่นนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มกราคม 2011
  5. n00m

    n00m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2009
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +1,279
    อ่านแล้ว นึกขึ้นได้เมื่อ งานมหกรรมพลังจิต ที่ผ่านมา
    ก็มีพี่น้องไปงานได้นั่งคุยกันที่ บูท โดยมี อ.สุวิ เป็นประธาน

    ก็มีเสียงแว่วจาก มุมชั้นของตึก ในทำนองเดียวกันกับ พี่ตัวกลม เลยครับ
    พระให้พรอยู่ไม่รู้ว่ามุมไหน พี่น้องคุยก็กันไป อย่างออกรสชาติ แต่..

    พอพระให้พรจบ ยกมือสาธุ กันหมดเลยครับ แสดงว่าฟังอยู่ได้ยินทุกคน :cool:
    ** รักษาสุขภาพด้วยครับ อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ช่วงนี้ผมก็ ป่วย
     
  6. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407

    [​IMG]
     
  7. ตัวกลมๆ

    ตัวกลมๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    722
    ค่าพลัง:
    +5,941
    เจ้าหนูนี่บอกใบ้ชัดเจนจังเยยยย ขอบคุณค่ะพี่มังกรบูรพา พลังเดินแรงเลย
    *********************
    มิน่า ไม่ค่อยจะเห็นคุณnoomมาโพส ที่แท้แอบไม่สบาย
    สภาพอากาศไม่ค่อยดี ดูแลสุขภาพ นอนให้เยอะเน้อ
    (kikky01 ก็ดูแลตัวเองด้วยจ้า )
    *******************
    ขอบคุณค่ะอาจารย์บาส ฉะนั้นที่ว่า ดู รู้่ ละวาง ต้องขอลองเสียหน่อย เดี๋ยวไม่รู้

    เสาร์นี้เห็นอาจารย์บาสจะดูดวงดูกรรม หาเิงินจัดการเรื่องบูท ใครว่าง
    หรือมีปัจจัย ก็มาช่วยกันนะคะ
     
  8. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    หากอาจารย์ตาที่สามท่านยังอยู่..........

    คงปลาบปลื้มยินดี มามะ อ้ายตัวกลม

    มาให้อาจารย์เบิ่งหน้าผาก ดูสักกะติ๊ด


    เอ! พี่ว่า...แค่นี้ดีกว่าเนอะ เดี๋ยวตาบาส

    แฮ่ม แฮ่ม
     
  9. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407

    อ้าว แล้วกันน้องกลม ก็เห็นเองแล้วนี่ ว่าต้องตั้งจิตอย่างไร

    แหม! "ผมที่กระหม่อมขยับ แต่ไม่สน" ตั้งจิตดีแล้ว

    ฝึกอิทธิบาท 4 เข้าบ่อย ๆ เดี๋ยวพี่มังกรไล่ไม่ทัน ชัวร์แหง
     
  10. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ติดอดีต...เป็นธรรมเมา

    ติดอนาคต...เป็นธรรมเมา

    ดูแต่ปัจจุบัน...ได้ธรรมมา
     
  11. kikky01

    kikky01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +866
    ขอบคุณจ้า แฮะๆ เปื่อยเหมือนกันพี่ เพราะอากาศเปลี่ยนแปลง
    แหม ก็นะ เป็นผู้หญิงบอบบางก็อย่างนี้หละพี่ อิอิ

    อาการที่เกิดขึ้น แต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนมีมาก บางคนมีน้อย
    เป็นกำลังใจให้พี่ๆ น้องๆ สู้ๆ จ้า...........

    เมื่อเรามีสติมา ปัญญาก็จะเกิด พิจารณาตามไปเรื่อยๆ
    ก็จะเข้าใจว่าทำไมอาจารย์ถึงต้องสอนให้พวกเรา
    รู้จัก "ดู" รู้จัก "รู้" แล้วก็รู้จัก "วาง"

    จริงๆ อยากจะเขียนเยอะกว่านี้ แต่ เขียนแล้วก้ลบๆๆ
    555 สงสัยจะเป็นอย่างอาจารย์เคยบอกว่า ปัจจัตตัง (รู้ได้ด้วยตนเอง)
     
  12. kikky01

    kikky01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    264
    ค่าพลัง:
    +866
    เอาบทความที่อ่านจากเว็บแล้วคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์มาให้อ่านกันจ้า..

    ดั่งคำพุทธองค์ได้สอนกล่าว ว่าจะเชื่อสิ่งใดเล่าต้องมองเห็น
    รับรู้ได้ที่ความน่าจะเป็น แล้วจะเห็นความจริงในตัวมัน
    อย่าเพิ่งเชื่อคำกล่าวอ้างที่ได้รับ หากรับแล้วจงไตร่คิดนึกเหตุผล
    ว่าสิ่งนั้นมีตัวตน หรือคำคนโกหกมา
    มาลองเถิดลองปฏิบัติแล้ว จะทราบถึงเหตุผล
    จงลองทำด้วยตัวตน แล้วจะเห็นความจริงกระจ่างใจ
     
  13. เ่ต่าโบราณ

    เ่ต่าโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    713
    ค่าพลัง:
    +3,624
    ส่งการบ้านค่ะ เมื่อคืน นั่งบทที่ 2 ไม่ได้นับค่ะ

    ท่องพุทโธ ไปเรื่อยๆ แล้วเปลี่ยนเป็น
    เตโช กสินัง
    แล้วพุทโธ
    แล้ววาโย-กสินัง เริ่มหาวแล้ว...หาวอีก
    แล้วพุทโธ
    แล้วเป็นอาโป-ปฐวี ไปเฉยเลย เลยคิดว่า เอ เราไม่มีสตินะ เริ่มใหม่...เป็นอาโป-กสินัง
    แล้วพุทโธ
    แล้วปฐวี-กสินัง
    ช่วงคำภาวนา หลังๆ ตั้งแต่ อาโป...มาเริ่มสั้นลง เนื่องจากความเจ็บปวดหนักขึ้นแล้ว...ทั้งหลัง...ทั้งขา รีบให้ครบ ทั้ง 4 ธาตุ
    แล้วพุทโธ
    แผ่เมตตา และอุทิศบุญกุศล

    สังเกตุว่า ครั้งหลังๆ เวลาพุทโธ จะนึกถึงพระนอน กับ ในหลวง ไม่รู้ทำไม
     
  14. visnu

    visnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,844
    ค่าพลัง:
    +23,778
    วันหลังในขนะนั่งให้นึกถามขึ้นมาลอยๆ แล้วไม่ต้องคิดว่าเพราะอะไร แล้วก็นั่งสมาธิต่อแล้วมาดูกันว่าจะได้คำตอบไหม
     
  15. เ่ต่าโบราณ

    เ่ต่าโบราณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    713
    ค่าพลัง:
    +3,624
    ขอบคุณ อาจารย์ค่ะ

    ว่าแต่นักเรียน หายยยยไปไหนกันหมดเนี่ย.......ไม่มาส่งการบ้านกันเลย
     
  16. tantawan

    tantawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +1,756

    สงสัย...ซุ่มเงียบๆ..กันมั๊ง (ฝึกวิด-ยา-ยุด กันอยู่)
    ไว้รออ่านของพี่เต่า...คนเดียว อิอิ

    ......ถามการบ้านค่ะ
    - ระหว่างการนั่ง กับการนอน(กึ่งนั่ง-กึ่งนอน)สำหรับตัวเองแล้ว.. การนั่งอาการก้อยังคงเป็นแบบเดิมๆ ยังไม่มีอารัยใหม่ๆ...แต่ถ้าเป็นในทางกึ่งนั่ง-กึ่งนอน มันรู้สึกว่า มีการพัฒนามากกว่าท่านั่ง คือ พอจะฝึกปิด-เปิดสวิท หรือ ทดลองโน่น นี่ นั่น มันยังพอมีผลกลับมาให้ได้สัมผัสบ้าง...แต่กับการนั่ง เหมือนมันตรงกันข้าม... รออ.ชี้แนะค๊ะ
     
  17. noolegza

    noolegza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,032
    ค่าพลัง:
    +3,844


    ไม่ได้หายไปไหนคับพี่ ยังเฝ้าวนเวียนอยู่แถวๆนี้แหละ
    แต่การปฏิบัติยังไปไม่ถึงไหน และมีเวลาน้อย ทำได้แต่ก่อนนอน
    กลายเป็นว่า ไม่ได้พิจารณาดูจิต ดูอะไรเลย มาถึงก็นั่งวืดหาจุดกึ่งหลับ กึ่งตื่นเลย
    เข้ามาอ่านเจอพี่ถามเลยแว๊บไปนั่งทำการบ้านมาส่งเลยนะเนี่ย อิอิ

    จากการนั่งเมื่อสักครู่ ใช้บทที่ 3 ของพี่บาส กับจุดกึ่งหลับ ของ อาสุวิ
    ก็มานั่งแล้วให้จิตมันดิ่งนิดนึงแล้วทรงมันไว้ ก็ยังไม่ถึงกับตอนจะหลับซะทีเดียว
    ยังทรงไว้ได้ไม่นาน จากในครั้งก่อนๆ แบ่งเป็น จิต ในกาย และนอกกาย คือ
    จิตเราอยู่ในกาย และรู้สภาพรอบข้าง...มานั่งช่วงเมื่อกี้กลายเป็น จิตกับกายเป็นอันเดียวกัน และมีภายนอก ดูรู้ภายใน และภายนอก แต่ไม่ได้สนใจ
    ภายนอก คงทรงไว้แต่ภายในกาย คอยดูว่าเมือไรมันจะถึงจุดกึ่งหลับ

    นั่งๆไป..เทียบในหัวตอนกึ่งหลับนี้ คงเหมือนหมอก จิตในกายที่เป็นหมอก
    แต่ก็ยังคงจับจิตไว้อยู่ ...แต่มันก็ยังไม่ใช่อยู่ดี

    ก็แว๊บบเข้ามาในหัวว่า " ปล่อย " ..ก็เลยปล่อย ไม่จับ ทั้งใน และนอก
    ปล่อยให้มันปนกันมั่วๆไป ..รู้ข้างในบ้าง ข้างนอกบ้าง แต่ก็ไม่ได้สนใจ
    อยากเป็นยังไงก็ตามใจ ปล่อยจิตไหลไปตามกระแส แต่ยังมีสติ

    ( ตอนเขียนนี่ต้องหยุดทำอารมณ์เป็นระยะๆ ..อิอิ เทียบอารมณ์เมื่อกี้มาเขียน )
     
  18. จิดา

    จิดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    447
    ค่าพลัง:
    +1,505
    มาแอบๆดูเหมือนกันค่ะคุณเต่า ยังเหมือนเดิมเลยไม่ได้ส่งค่ะ พยายามทำต่อไป สู้สู้ ;20
    ปล สวัสดีค่ะ คุณอามังกร ตอนนี้พยายามฝึกกำหนดรู้ค่ะ ส่วนใหญ่ลืม ต้องมีสติจริงๆ ตอนที่มีสติอยู่กับตัวนั้น เหมือนเราไม่ได้คิดอะไรเลย อยู่กับตัวเอง ยากเหมือนกันแห่ะ
     
  19. black_star

    black_star เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +384
    ส่วนหนูรู้สึกยังไม่มีอะไรจะส่งอาจารย์ เลยได้แต่อ่านอย่างเดียว หุๆ
     
  20. Mhor Maow

    Mhor Maow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2010
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +836
    วันนี้ได้มีโอกาสเข้าไปในร้านหนังสือ เห็นหนังสือเล่มหนึ่งตั้งโชว์เหมือนกับหนังสือเล่มอื่น ๆ

    ที่ได้ทำไว้เป็นหนังสือแนะนำแก่ลูกค้าที่เข้ามาในร้าน ในร้านก็มีแนะนำขึ้นตั้งโชว์ ก็หลายเล่มแต่มี

    อยู่เล่มหนึ่งที่สดุดตามาแต่ไกล เพราะหนังสือเป็นเล่มขนาดเล็กถึงปานกลาง ไม่หนามาก สีฟ้า

    และแล้วก็สะดุดตากับหน้าปกหนังสือเล่มนั่นที่เป็นรูปแม่ชี รูปร่างท้วม ใส่แว่นตา ท่านนึงบน

    หน้าปกหนังสือ (นะตอนนี่ทุกท่านก็น่านึกออกว่าท่านคือใคร) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

    ของแม่ชีท่านนี่ ซึ่งเป็นที่สนใจและโด่งดังจากเมื่อหลายปีก่อนจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ที่ดึงให้

    คนรุ่นใหม่ปัจจุบันหันมาสนใจกฎแห่งกรรมมากขึ้น ออกสื่อทีวี หนังสือ วิทยุ โทรทัศน์

    เป็นที่โด่งดังอย่างมาก และกล่าวถึงกันพอสมควร ในเรื่องการมองกรรม การอ่านกรรม

    อย่างทะลุปรุโปร่ง พร้อมทั้งแนะวิธีคลายกรรมในแบบที่แปลก ๆ เฉพาะ ที่ทุกคนคาดไม่ถึง

    ว่า การแก้กรรมแบบนี้ มันมีด้วยหรอ? ไม่เคยพบเคยเห็น ผมก็เช่นกันได้มีโอกาสรับชมแม่

    ชีท่านเทศนาผ่านสื่อ ต่าง ๆ และเมื่อไม่นานมานี่ก็ได้ดูผ่านทางยูทูบ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...